เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๕๑
กำลังธรรมกับจิตหมุนกัน
ทองคำที่ได้เข้าสู่คลังหลวง ๑๑,๖๗๗ กิโลกรัม ทองคำที่บรรดาพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศได้ช่วยกันนำทองเข้าสู่คลังหลวงได้ ๑๑,๖๗๗ กิโล ไม่น้อยนะทองคำตั้งหมื่นกว่ากิโล ๑๑,๖๗๗ กิโล
(โยมอินโดนีเซียกราบเรียนเรื่องภาวนามาว่า จิตหมุนเป็นอัตโนมัติ อยากอยู่คนเดียว แต่มีคนไม่เข้าใจว่าหนูเป็นบ้าแล้ว) เขาว่าเราเป็นบ้า เราไม่เป็น เขาเป็นบ้ากันทั้งหมด ใครว่าเขาก็เป็นบ้าของเขา อย่าไปสนใจกับคนใด เข้าใจไม่เข้าใจให้เจ้าของเข้าใจเจ้าของนั่นละดี นักภาวนาต้องเป็นอย่างนั้น เวลาธรรมทำงานก็ต้องทำอย่างนั้นซิ ธรรมทำงานแก้กิเลสก็แก้อัตโนมัติ เหมือนกิเลสผูกหัวใจสัตว์โลกเขาผูกโดยอัตโนมัติของเขานะ กิเลสผูกหัวใจสัตว์โลก ตาหูจมูกลิ้นกายสัมผัสสัมพันธ์กับอะไรเกิดกิเลสโดยลำดับลำดา นี่เวลากิเลสมันทำงานของมัน
ทีนี้เวลาธรรมทำงานก็แบบเดียวกัน อะไรสัมผัสสัมพันธ์เป็นธรรมแก้กิเลสทั้งนั้นๆ เข้าใจหรือเปล่าล่ะ เวลาธรรมทำงานแก้กิเลสอะไรมันก็เป็นธรรมไปหมด แก้กิเลสไปหมด เวลากิเลสผูกมัดสัตว์โลกมันก็ผูกมัดอย่างเดียวกัน สัมผัสสัมพันธ์กับอะไรเป็นกิเลสไปหมด แต่เวลามันแก้กิเลสแล้วหมุนไปทางไหนเป็นธรรมแก้กิเลสไปหมด มันหมุนกลับเข้าใจหรือเปล่าล่ะ หมุนกลับแก้กิเลส อยู่ที่ไหนก็เป็นอย่างนั้น เวลามันแก้ของมันแล้วมันตามแก้ย้อนหลังตามแก้ไปเรื่อยๆ เวลามันผูกมันก็ผูกของมันไปอย่างนั้น ถึงเวลาธรรมะแก้กิเลสแล้วแก้ไปตลอดเลย เวลาไปแก้กิเลสมันแก้ไปตลอด
(อยากให้คนที่ว่าเขาได้ยินว่าหนูไม่ได้เป็นบ้า) ใครเขาว่าเป็นบ้าก็ช่างเขาซิ เราอย่าเป็นบ้าก็แล้วกัน หรืออยากเป็นบ้ากับเขาหรือ ว่าอะไรช่างเขาซิ พอพูดอย่างนี้เราก็ระลึกถึงตอนเราจะเผาศพพ่อแม่ครูจารย์มั่น นั่นก็แบบเดียวกัน อยู่กับใครไม่ได้ ไปอยู่ภูเขานู้นทางไปกาฬสินธุ์ เวลาไปเยี่ยมท่าน ฉันเสร็จแล้วก็ออก หมุนตลอดตามทางไป มันไม่ได้สนใจกับอะไรละ มันหมุนของมันตลอด ทีนี้พอไปเยี่ยมศพท่านกลับมาทีนี้มันก็หมุนของมันไปตลอดตามทาง ไม่สนใจกับอะไร สองผัวเมียขี่จักรยานมาเขานึกว่าเราเป็นบ้า เราเดินมา ฟังเสียงจักรยานซั่วซ่าๆ ข้างหน้านี่ เขาจะโดนเรา เขาเบรกจักรยานเขา เราก็เงยหน้าขึ้น โอ๊ว ไม่ได้ดูอะไรละ เราก็ว่าอย่างนั้น เขาคงจะว่าเราเป็นบ้า
นั่นกำลังธรรมกับจิตหมุนกันเข้าใจไหมล่ะ เขาไม่รู้เรื่อง จนรถเขาจะชนเรา เราไปกลางทางไปจากวัดสุทธาวาส ขึ้นไปเขานู่นละทางไปกาฬสินธุ์ เราไปอยู่คนเดียวเรา มากราบศพท่านแล้วก็ไป ฟังเสียงจักรยานเขาเหยียบเบรกห้ามล้อ สองผัวเมียจะตกรถแล้วจะมาโดนเรา เราไปมันไม่ได้ดูอะไรมันหมุนของมันอยู่อย่างนั้น หมุนตลอด เป็นอย่างนั้นละเวลาธรรมหมุน เขาก็จะว่าเราเป็นบ้า โอ๊ว ไม่ได้ดูอะไร เราก็ว่าอย่างนั้น เขาก็หลีกเรา เราก็ไปของเรา นี่ละจิตเวลามันหมุนหมุนอย่างนั้นละ ไปที่ไหนหมุนตลอดเลย เวลากิเลสหมุนก็แบบเซ่อๆ ซ่าๆ ไป แต่เวลาธรรมหมุนไม่เซ่อซ่านะหมุนติ้วๆ ตลอด เป็นอย่างนั้น
มันเป็นในหัวใจของใครมันก็รู้เอง ที่เขาพูดอย่างนี้เราเป็นมาหมดแล้วนะ ที่เขาพูดตะกี้นี้เราเป็นมาหมดแล้ว จักรยานเขาสองผัวเมียเขาเหยียบเบรก เราไม่ได้ดูเขา ตามันฝ้ามันฟาง จิตมันหมุนอยู่ภายใน ฟังเสียงซั่วซ่าเขาเบรกจักรยานเขา เขาจะชนเรา เอ้อ ไม่ได้ดู เราก็ว่าอย่างนั้น เราก็พูดแต่ว่า เอ้อ ไม่ได้ดู เขาก็หลีกเราไป เราก็ไปของเรา ก็หมุนไปอย่างนั้น นั่นละมันเป็นคนละแบบ เขาดูเราเขาก็จะดูว่าบ้า เราดูเขาจะว่าอะไรเราไม่ว่าละ เพราะอย่างนี้มันเป็นทั่วโลก รู้หมดเลย
รับชมและรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th
และสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz
และเครือข่ายทั่วประเทศ
|