ธรรมไปที่ไหนหลักความเป็นจริงจะไปตามกัน
วันที่ 29 มกราคม 2551 เวลา 8:30 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(Real)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๑

ธรรมไปที่ไหนหลักความเป็นจริงจะไปตามกัน

ก่อนจังหัน

การภาวนาเราไม่ค่อยได้สอนพระนะ การภาวนาไม่ค่อยได้สอนพระ การภาวนาถือสติเป็นสำคัญ หลักภาวนาขั้นใดก็ตามสติเป็นสำคัญมาก เป็นพื้นฐานถึงที่สุดวิมุตติ พ้นจากสติไปไม่ได้ สติเป็นสำคัญมากทีเดียว จำให้ดีข้อนี้ ใครตั้งสติเก่งคนนั้นความเพียรจะก้าวหน้า ถ้าสติขาดวรรคขาดตอนแล้วก็เจริญแล้วเสื่อมๆ แล้วไม่ได้หน้าได้หลัง ถ้าลงสติดีแล้วตั้งพื้นฐานได้เลยแน่นอนไม่เป็นอื่น สติเป็นสำคัญมาก ให้พร

หลังจังหัน

         มาจากวัดไหน (กำแพงเพชรครับ) อยู่อำเภออะไร (อำเภอเมืองครับผม) ที่กำแพงเพชรก็ดูว่าท่านนพดลไปอยู่ที่เขาดอยลับงา เคยได้พบกันหรือเปล่า (ไม่เคยครับผม) โห ใกล้นิดเดียวไม่เคย (พึ่งไปอยู่กำแพงเพชรครับ แต่ก่อนอยู่พิจิตร) อยู่ที่นั่นที่นี่ ที่ถามดูว่าที่ไหนเหมาะสมไม่เหมาะสมสำหรับพระภาวนา ที่ท่านนพดลอยู่ดีเหมาะสมแล้ว ท่านไม่สร้างอะไรเลย เรียกว่าใครไปสถานที่ของท่านที่ท่านนพดลอยู่ในจังหวัดกำแพงเพชรนั้นจะไปปลงธรรมสังเวชละ ไอ้พวกส้วมพวกถาน อะไรก็สดสวยงดงามแต่หัวใจเป็นส้วมเป็นถาน อันนั้นอยู่ซอมซ่อ ว่าอย่างนั้นเลย ไม่มีใครปรารถนาแต่ใจสง่างามด้วยภาวนา มันผิดกันตรงนั้นละ เราได้ไปดูแล้ว ท่านนพดลก็เป็นพระวัดนี้ ออกจากนี้ก็ไปอยู่กำแพงเพชร แล้วไปอยู่สถานที่เช่นเดียวกันกับวัดป่าบ้านตาด ไม่ก่อไม่สร้างอะไรเลย คือสร้างใจนี่สำคัญ เราไปดูแล้วเหมาะสม เราว่าอย่างนั้น เรียกว่าเขาดอยลับงา เราเคยไปแล้ว

         ไปที่ไหนแล้วก่อสร้างหรูๆ หราๆ ฟู่ๆ ฟ่าๆ มันเป็นเรื่องของกิเลส เป็นเรื่องของส้วมของถาน ไม่ใช่เรื่องของอรรถของธรรม พระพุทธเจ้าไปอยู่สถานที่ใดไม่เห็นมีสิ่งที่ว่าหรูหราฟู่ฟ่าแบบกิเลสนิยมกัน มีแต่ไปอยู่ที่ไหนก็ รุกฺขมูลเสนาสนํ บรรพชาอุปสมบทแล้วให้ท่านทั้งหลายไปอยู่ตามรุกขมูลร่มไม้ ฟังซิน่ะ ในป่าในเขาตามถ้ำเงื้อมผา ป่าช้าป่ารกชัฏ อันเป็นสถานที่เหมาะสมกับการประกอบความเพียร ใครๆ อะไรไม่รบกวน ให้ท่านทั้งหลายอยู่และบำเพ็ญในสถานที่เช่นนั้นตลอดชีวิตเถิด นี่อนุศาสน์สอน พอบวชเสร็จสอนอนุศาสน์นี้เป็นอันดับหนึ่ง เรียกว่าธรรมะเด็ดก็คือข้อนี้ละ ท่านไล่เข้าป่าๆ

         พอเข้าไปป่าแล้ว..สมัยปัจจุบันนี้เขาเรียกมหาวิทยาลัยบ้าน มหาวิทยาลัยป่าก็ต้องมี ทีนี้เข้าในป่าแล้วสำเร็จออกมา องค์นี้สำเร็จพระโสดา องค์นี้สำเร็จพระสกิทาคา องค์นี้สำเร็จพระอนาคา องค์นี้สำเร็จพระอรหันต์ ออกมาจากป่าจากเขาที่เป็นมหาวิทยาลัยป่า ดังพระพุทธเจ้าทรงชมเชยส่งเสริมและให้พระไปอยู่รุกฺขมูลเสนาสนํ ท่านส่งเสริมและให้พระไปอยู่ แล้วให้อุตส่าห์อยู่และบำเพ็ญในสถานที่เช่นนั้นตลอดชีวิตเถิด นู่นน่ะฟังซิ ไม่ใช่ธรรมดา

ใครจะเก่งยิ่งกว่าศาสดา เอา เก่งมาซิน่ะ ในโลกอันนี้ใครจะเก่งยิ่งกว่าศาสดา พระพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมขึ้นมานี้ใครตรัสรู้ได้เหมือนพระพุทธเจ้า มีพระองค์เดียวเท่านั้นตรัสรู้ธรรม แล้วนำธรรมประเภทนี้มาสอนโลก ใครสอนได้ ก็มีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้นสอนโลก เราอย่าเย่อหยิ่งจองหองนะพวกกิเลสตัณหาตาบอด พวกอึ่งอ่างมาแข่งวัวนะ ไม่เป็นท่าๆ อะไร ใครอยู่ที่ไหนก็ว่าเก่งๆ ความเลวนั้นละมันออกมาอวดกันอยู่ทุกวันนี้ ถ้าความดีจะอวดกันหาอะไร ใครมองใครดูก็รู้ว่าใครดี มันก็สงบเย็นไปเลย

ไอ้นี้มันขัดมันแย้งกันอยู่ด้วยทิฐิมานะ ไม่ลงรอยกัน ไปที่ไหนเบ่งเป็นบ้าไปเลย ตัวเท่าอึ่งอ่างนี่พองตัวขึ้นเท่าวัว แล้ววัวกับอึ่งอ่างมันต่างกันไหม ไอ้ตัวเล็กๆ นี่ละมันพองตัวขึ้นแข่งธรรม ธรรมเหมือนวัว อึ่งอ่างเหมือนกิเลส เหมือนพวกเรานี่ ไม่ได้เรื่องได้ราวอะไร เลยน่าสลดสังเวชนะ อยู่ไปนานเท่าไรๆ ยิ่งได้พินิจพิจารณาถึงเรื่องโลกเรื่องสงสาร สรุปความลงแล้วว่ากิเลสนับวันหนาแน่นขึ้นทุกวันๆ ในหัวใจสัตว์ จากนั้นก็แสดงออกกระจายออกทางกิริยามารยาท ความประพฤติ หน้าที่การงานล้มเหลวไปหมด สกปรกโสโครก เป็นอย่างนั้นถ้ากิเลสพาดำเนิน

ถ้าธรรมพาดำเนินจะเรียบไปเลย หน้าที่การงานอะไรจะเรียบๆ เป็นชิ้นเป็นอัน เป็นเนื้อเป็นหนัง ถ้ากิเลสออกไม่เป็นท่าละ ถ้าออกก็ยกตัวขึ้นทันทีเลย พอโผล่ออกมาจากกุฏิหลังเท่ากำปั้น โผล่ตัวออกมานี้พอง เห็นไหมนี่พอง ใหญ่กว่าโลก ใหญ่กว่าวัด ใหญ่กว่าเพื่อน ไปที่ไหนทะเลาะไปเรื่อย พอจะชมเชยสรรเสริญตามหลักความจริงไม่มี มีแต่ความติฉินนินทาเหยียบย่ำทำลายหัวเขาไป กิเลสไปที่ไหนเหยียบไปที่นั่นนะ ถ้าธรรมไปที่ไหนหลักความเป็นจริงจะไปตามกันเลย ดีชั่วมันมีอยู่ในโลกนะ เราเองก็มีดีมีชั่ว แน่ะ เทียบเคียง แล้วใครจะพยายามดัดแปลงแก้ไขอย่างไรตามอรรถตามธรรมก็ดัดแปลงแก้ไขตัวเอง ไม่ไปหาแต่ตำหนิติเตียนคนอื่น โดยเจ้าของไม่แก้เจ้าของ ทั้งๆ ที่ความสกปรกเต็มหัวใจเต็มความประพฤติ ใช้ไม่ได้นะ ให้พากันพิจารณา

ศาสนาก็เลิศเลอแล้วนะ พุทธศาสนาเป็นศาสนาของท่านผู้สิ้นกิเลส ศาสดาเอกของโลกเป็นครูสอนเทวบุตรเทวดา อินทร์ พรหม หมด ไม่มีใครเกินศาสดาองค์เอกของเรา ที่เราเป็นลูกชาวพุทธก็เพราะคำสอนศาสดาองค์เอกพ่อของเรา ให้นำมาปฏิบัตินะ อย่าหาโอ่อ่าฟู่ฟ่า หาเงินหาทองหาเป็นบ้ากันทั้งบ้านทั้งเมือง หาเงินหาทองข้าวของหามาเพื่อติดหนี้ติดสิน กินไม่อิ่ม กินไม่พอ พะรุงพะรัง หาเท่าไรยิ่งติดหนี้ติดสินเข้าไปเรื่อยๆ แทนที่หามาจะได้เป็นกอบเป็นกำนำออกไปทำประโยชน์ มันไม่ออก เพราะกิเลสเอาไปกินหมด เข้าใจไหมล่ะ

นี่เราก็หาอรรถหาธรรมมันได้อะไรบ้างหรือเปล่า กลับไปเมืองเพชรบุรีมันจะได้แต่ท้องเปล่าๆ ไปเหรอ (ได้บุญไปเจ้าค่ะ) เออ เอาละยอมรับ หาบุญหากุศล หาอะไรได้อย่างนั้น ดีมีชั่วมี บุญมีบาปมี หาอะไรเจอ พระพุทธเจ้าที่สอนสอนสิ่งที่มีที่เป็นทั้งดีและชั่ว สอนให้ละให้บำเพ็ญ ละชั่วมันมีอยู่แล้วชั่วในตัวของเราละออกไป บำเพ็ญความดี ส่งเสริมความดีเข้าไป อย่างนั้นถึงถูกต้อง พูดชัดๆ อย่างนี้ละเรา อายุก็ ๙๔ ปีนี้แล้ว จะอยู่ไปสักกี่วัน เสียงนี้แผดออกไปเรื่อยๆ เพราะตาหูจมูกลิ้นกาย เฉพาะอย่างยิ่งจิตมันไม่ได้นอนนะ ไม่มีวัย ไปที่ไหนมันอยู่อย่างนี้ๆ พูดให้มันชัดเจนเสีย มันกำลังจะตาย ตัวเองไปง่วมง่ามต้วมเตี้ยม ล้มลุกคลุกคลานไปตามวัดตามวา ตามสถานที่ต่างๆ แต่ใจมันไม่ได้เป็น ใจไม่มีวัย พูดให้มันชัดเจน มันจ้าตลอด ว่าอย่างไร พากันจำเอานะ

ธรรมไม่มีวัย โลกกราบธรรมนั่นแหละ ธรรมไม่มีวัย โลกมันมีวัย สมัยนั้นเจริญ สมัยนี้เสื่อม ธรรมเป็นฐีติ เรียกว่าฐีติธรรม เป็นธรรมชาติที่ตั้งอยู่เป็นของตัวเองตลอด ให้กราบ ใครอยากกราบกราบ ใครอยากปฏิบัตินำออกไปปฏิบัติ นั่น

 

รับชมและรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th

และสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน  FM 103.25 MHz

และเครือข่ายทั่วประเทศ

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก