หลับเป็นมงคล
วันที่ 20 มกราคม 2551 เวลา 13:00 น. ความยาว 64.1 นาที
สถานที่ : พุทธศาสนสถาน อุทยานธรรมเฉลิมพระเกียรติ ร.9
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส

ณ พุทธศาสนสถาน อุทยานธรรมเฉลิมพระเกียรติ ร.

.หนองหลวง อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย

เมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๑ (บ่าย)

หลับเป็นมงคล

พูดก่อนเทศน์

          (เจ้าภาพกราบถวายทองคำ ๑ กิโล) โอ้ หนึ่งกิโล ได้มากนะ (สาธุ) หนึ่งกิโลของเล่นเมื่อไร ทอง ๑ กิโล หลวงตาได้พาพี่น้องทั้งหลายหาทองคำเข้าคลังหลวง เวลานี้ได้ทองคำ ๑๑,๖๖๔ กิโล ได้เยอะนะ ทองคำเข้าคลังหลวง ๑๑,๖๖๔ กิโล ทองคำที่เข้าคลังหลวงแล้วนะ ดอลลาร์ไม่ได้มาก ดอลลาร์ดูเหมือน ๑๐ ล้านกว่า ๑๐,๒๐๐,๐๐๐ กว่า ทองคำ ๑๑,๖๖๔ กิโล (รวมที่ยังไม่ได้มอบด้วย) ได้เยอะอยู่ ช่วยชาติคราวนี้รู้สึกว่าได้สมบัติเข้าคลังหลวงเราเยอะ ทองคำก็หมื่นกว่ากิโลขึ้นไป แล้วดอลลาร์ก็ ๑๐ ล้านกว่า

ต่อจากนั้นก็ทางด้านศีลธรรม เราสอนประชาชนทั่วประเทศ ไปทุกภาคไปเทศน์สอนคน แต่ภาคใต้ไม่ค่อยได้ไปมากนัก ไม่ทั่วถึงภาคใต้มันไกล ลำบาก นอกนั้นไปหมด ภาคเหนือทั่วถึง ภาคกลางทั่วถึง ภาคตะวันออก ภาคอีสานทั่วถึงหมด ไปเทศน์ อันนี้เราไม่เคยค้างนะ อำเภอเฝ้าไร่ดูไม่เคยค้าง มีแต่ผ่านไปผ่านมาอยู่เรื่อยๆ แต่ยังไม่ค้าง (เพิ่งตั้งอำเภอใหม่ครับผม อ.เฝ้าไร่แต่ก่อนเป็นตำบล เป็นกิ่งอำเภอมาด้วย) เป็นอำเภอมากี่ปีแล้ว (เพิ่งยกฐานะเป็นอำเภอเมื่อ ๒๒ กันยาที่ผ่านมาครับผม เมื่อก่อนเป็นกิ่งอำเภอ) เป็นอำเภอใหญ่พอสมควรละมัง (ถือว่าเป็นอำเภอระดับกลางครับ มีประชากรประมาณ ๕๐,๐๐๐ ครับ ๗๓ หมู่บ้าน ๕ ตำบลครับ)

พี่น้องทั้งหลายไม่เคยเห็นหลวงตา ได้เห็นแล้ววันนี้นะ (สาธุ) ไม่เคยเห็นหลวงตาได้เห็นแล้ววันนี้ เป็นยังไงล่ะดูรูปร่างลักษณะเป็นยังไง (งามเจ้าค่ะ) น่ากลัวหรือน่าอะไร หือ  (คุณแม่อนงค์ ศรัทธาใหญ่ฟังซีดีของหลวงตารู้เรื่องอยู่แผ่นเดียวค่ะ นอกนั้นฟังไม่รู้เรื่อง) ไหนว่าไง (จะฟังซีดีหลวงตาทุกวันเลยค่ะ ขำตอนที่หลวงตาร้องเพลงว่าไปบวชแล้วต้องสึกวันเดียว คุณแม่หัวเราะชอบใจ) หลวงตาพูดอะไรบ้างล่ะ หลวงตาดูว่าจะกว้างขวางมากนะ ดูเหมือนออกทั่วโลกไม่เฉพาะเมืองไทยเรา ยังออกเมืองนอกเมืองนาเยอะนะ มันจะออกไปทางไหนบ้าง (มีอินเทอร์เน็ตแล้วก็ทีวีผ่านดาวเทียม แล้วก็ทีวีของไทยคม ๒ ครับผม ก็ได้ทั่วโลกครับ) เจ้าของตัวเท่าอึ่ง อยู่ในรูเท่าอึ่งนี้ แต่เสียงมันดังออกไปนู่น แล้วเขาเห็นรูปด้วยนะ

อายุก็แก่แล้ว ๙๐ แล้วนะ (อยู่ให้ถึง ๒๐๐ ปีค่ะ) อายุ ๙๐ ปีแล้ว นั่นละนานขนาดไหน บวชมานี้ได้ ๗๔ ปี เป็นฆราวาสได้ ๒๐ ปี กับ ๙ เดือน อายุ ๒๐ ปีกับ ๙ เดือนก็บวช ชีวิตของพระเลยมากกว่า ของพระมันตั้ง ๗๓-๗๔ ปีแล้วบวช

นั่นละการอบรมเห็นได้ชัดเจน การอบรมทางด้านศีลธรรม แต่ก่อนก็ไม่เคยสนใจกับบุญกับบาป อะไรๆ มีแต่จะเอาๆ มีแต่จะได้ บาปบุญไม่คำนึง ขอให้ได้เป็นพอ ยิ่งได้ช้างทั้งตัวยิ่งดี มันไม่กลัวบาปเข้าใจไหมล่ะ ได้ช้างทั้งตัวยิ่งดี ทีนี้พอมาบวชแล้วไปอ่านเรื่องความผิดถูกชั่วดีกับธรรม สะดุดใจๆ  เลยเอะใจ เอ๊ะนี่เราก็เคยทำผิดมาแล้วอย่างนั้นอย่างนี้ สะดุดใจตรงไหนก็จะแก้ตรงนั้นละ สะดุดใจเรื่อยก็แก้เรื่อยๆ แก้ทุกวันตั้งแต่บวชมา แก้บาปสร้างบุญ ตั้งแต่บวชมาแล้วก็เป็นเวลาแก้บาปตั้งแต่นั้นมา คือไม่สร้างบาป สร้างแต่บุญๆ เอาบุญนี้เป็นน้ำที่สะอาดชะล้างบาปที่สกปรกให้สะอาดไปโดยลำดับ

ตั้งแต่บวชมาก็ ๗๔ ปี นี่ละล้างบาปสร้างบุญ สร้างบุญล้างบาปๆ  ชะล้างมาเรื่อยๆ สร้างบาปตั้งแต่เกิดมา ๒๐ ปีกับ ๙ เดือน ทางฆราวาสนี่ละสร้างบาป เริ่มสร้างบาปได้ก็สร้างบาปมาตั้งแต่นั้นจนกระทั่งบวช พอบวชแล้วทีนี้สร้างบุญๆ ชะล้างบาปเรื่อยมา จนกระทั่งดูเหมือน ๗๓-๗๔ ปี มีตั้งแต่ล้างบาปเรื่อยๆ มา บาปไม่ทำ ตั้งแต่บวชมาไม่มีเจตนาที่จะทำบาป ไม่เคยมีเจตนา สัตว์ตัวหนึ่งที่จะฆ่ามันด้วยเจตนาไม่เคยมี เรื่อยมาจนกระทั่งป่านนี้

ทีนี้ใจเมื่อเราได้อบรมอยู่ทุกวันทุกเวลาในการละชั่วทำดี ละบาปบำเพ็ญบุญนี้มันก็ชินทางบำเพ็ญบุญ มีแต่ละบาปเรื่อยๆ บำเพ็ญบุญเรื่อยๆ ทีนี้ใจก็เลยมากลายเป็นบุญเป็นธรรมไปหมด เป็นบาปไม่ปรากฏ ที่จะสร้างบาปตรงไหนๆ ไม่ปรากฏ มีแต่สร้างบุญๆ จนกระทั่งใจกับธรรมเป็นอันเดียวกัน นี่เรียกว่าสร้างบาปไม่ลง สร้างไม่ลงเลยเมื่อจิตกับธรรมเป็นอันเดียวกันแล้ว การสร้างบาปนี้สร้างไม่ลงนะ ตายก็ตายทิ้งเปล่าๆ ที่จะให้ไปสร้างบาปนี้สร้างไม่ลง นี่ละการอบรม แต่ก่อนไม่ได้อบรมเอาทั้งนั้น ได้อะไรเอา ไปหาอยู่หากินอยากได้ช้างตัวใหญ่ๆ หาปูหาปลาหาเป็ดหาไก่ หาอะไรหาหมด หาแล้วนะนี่ เคยหาแล้ว เข้าใจไหมล่ะ

ไม่มีคำว่ากลัวบาป เพราะไม่รู้ว่าบาปเป็นยังไง ไม่มีใครสอน พอมาบวชนี้ท่านสอนบาปสอนบุญ มันก็รู้บาปรู้บุญทีนี้ก็ละทางชั่วไปทางดีเรื่อยๆ จนไปแต่ทางดีล้วนๆ บาปไม่ไป ไม่ไปเลย มีแต่ไปทางดี นี่ก็จะตายไปในทางดีไปเลยละ มันไปทางนี้แล้ว เรียกว่าข้างหลังมันหายห่วงกันแล้ว ไกลกันแล้ว ไปแต่ทางธรรมทางดีไปเรื่อยๆ นี่เวลาสร้างให้เต็มเม็ดเต็มหน่วยแล้วนี้ พอใจในตัวเอง ไม่มีอะไรที่จะบกพร่องในเรื่องบาปเรื่องกรรมของตัวเอง พอที่จะแก้จะไขอะไรอีกต่อไป ไม่มี มีแต่ธรรมมีแต่ความดีล้วนๆ เต็มหัวใจเรียกว่าธรรมเต็มหัวใจ นี่กลายเป็นธรรมไปหมด ใจทั้งดวงเลยเป็นธรรมไปหมดเลย นี่ละการอบรม

ตั้งแต่ก่อนไม่รู้บาปรู้บุญว่ายังไง ไปหากิน เขาไปหากบหาเขียดเอาข้องเอาอะไรนี่ เราอยากได้ช้างมาใส่ข้องสักตัวนึงมันถึงจะพอกินเข้าใจไหม แต่ก่อนหากิน มันไม่รู้จักบาป เอาช้างทั้งตัวมาใส่ข้องเลยก็ได้ความอยาก ทีนี้พอไปอบรมแล้วพลิกใหม่ พลิกๆ พลิกเตลิดเปิดเปิง พลิกจนเข้ากันไม่ได้ เรื่องบาปกับใจเข้ากันไม่ได้เลย เป็นอย่างนั้นละการอบรม เพราะฉะนั้นให้พากันอบรมทางด้านศีลธรรมนะพี่น้องทั้งหลาย ตื่นตามาเช้าให้ไหว้พระเสียก่อน ก่อนจะไปไหนมาไหน ไหว้พระระลึกพระพุทธเจ้า พุทโธ ธัมโม สังโฆ อิติปิโส สฺวากฺขาโต สุปฏิปนฺโน เสร็จแล้วค่อยไปทำงาน

เริ่มแรกตื่นนอนก็เอาบุญเสียก่อนแล้วไป เวลาจะนอนกลับมาก็มาสวดมนต์เสียก่อน ได้แค่ไหนก็เอาตามที่เราเรียนได้ สวดมนต์แล้วค่อยหลับ เวลาหลับก็ให้พุทโธติดกับใจ พุทโธก็ได้ ธัมโมก็ได้ สังโฆก็ได้ติดใจ จากนั้นก็หลับไปกับพุทโธ ตื่นนอนมาด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใส นั่นละใจ คือธรรมเป็นของเลิศเลอ ใจอยู่กลางๆ เอาอะไรไปใส่มันติดหมด สีเขียว สีดำ สีแดง ติดหมด เอาดีเอาชั่วไปใส่มันติด เพราะฉะนั้นจึงให้เอาดีเข้าไปใส่ให้จิตดี เมื่อจิตดีแล้วก็เย็น ถ้าใจดีใจมีธรรมแล้วเย็น ให้พากันจำเอานะ

หลวงตาบวชมานี้ดูเหมือนได้ ๗๔ ปีมั้ง จำได้ไหม เจ้าของจำไม่ได้นะ บวชตั้งแต่วันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๔๗๗ มาถึงป่านนี้ไม่ทราบว่าได้กี่ปี ลองนับดูซิน่ะ นั่นละบวชมานานขนาดนั้น ทีนี้ตั้งแต่บวชมาจนกระทั่งบัดนี้สร้างแต่ความดีงามตลอด บาปไม่สร้าง งดหมดเลย จนกระทั่งแก่ปานนี้ละ ทีนี้เวลาแก่นี้จะตายก็ไม่วิตกวิจารณ์นะ ไม่เคยกลัว ไม่เคยกล้ากับเรื่องความเป็นความตาย จะไปเมื่อไรพร้อมเสมอ อยู่ก็พร้อม ยังไม่ไปเหรอ เอ้อ ยังไม่ไปก็อยู่ซี อยู่ ถ้าจะไปพร้อมแล้วเหรอจะไปก็ไป ไปเลย หายห่วง ฝึกเรียบร้อยแล้วทุกอย่าง ไม่มีอะไรวิตกวิจารณ์การเป็นการตาย

ตายแล้วจะไปตกนรกหมกไหม้ที่ไหน ไม่มีในหัวใจ มีแต่ธรรมกับใจสว่างจ้าอยู่ภายใน ตายแล้วจะไปไหน ไปที่สว่างจ้าละซิ นั่นละสร้างให้พอมันก็รู้อยู่กับใจเราเองไม่ต้องไปถามใคร เวลาเราจะตายนี้เป็นยังไง ห่วงหน้าห่วงหลังไหม จะไปเกิดสูงหรือเกิดต่ำ มันแน่อยู่ในใจ แน่ในใจแล้วว่าเรื่องต่ำไม่มี สูง เอ้าเอาให้มันแน่ใจเลยว่าสูงสุดเลย เรื่องต่ำไม่มี สูงสุดเลย นี่สร้างมาเป็นเวลา ๗๔ ปี ภูมิที่จะไปนี้เต็มหัวใจแล้ว เรียกว่าสูงสุดวิมุตติหลุดพ้นไปเลย ไม่ต้องกลับมาเกิดอีก นี่ก็อยู่ด้วยลมหายใจ ตายแล้วจะไม่กลับมาเกิดอีก เป็นที่แน่ในใจที่ได้สร้างความดีมาเต็มภูมิแล้ว หายสงสัยในการเกิดการตายว่าจะไปตกนรกหมกไหม้หลุมไหน ไปสวรรค์ชั้นพรหมที่ไหนไม่ไป ผ่านหมดเลย ทะลุไปเลย รู้อยู่ที่ใจ เมื่อธาตุขันธ์มันใช้ไม่ได้หมดแล้วเหรอ ทิ้งปั๊วะ ดีด จิตพอตัวแล้ว

จิตพอตัวเป็นจิตประเภทใด กิเลสสิ้นไปหมดจากหัวใจแล้วก็เรียกว่าจิตบริสุทธิ์ จิตบริสุทธิ์นั้นแลท่านเรียกว่าจิตเป็นธรรมธาตุ จิตเป็นธรรมธาตุแล้ว นั่นละนิพพานอยู่ตรงนั้น แล้วจะไปหาที่ไหนอีก เที่ยงหรือไม่เที่ยงก็รู้อยู่ที่ธรรมธาตุ จึงว่าสมใจแล้ว ในชาตินี้เราสมใจแล้ว การทำความดีงามทั้งหลาย

การไปเทศนาว่าการสอนพี่น้องทั้งหลาย เราก็ไม่วิตกวิจารณ์ว่าภูมิธรรมเราจะต่ำ สอนโลกไม่ได้เราไม่มี มีแต่เล็งดูอุปนิสัยใจคอหรือความสามารถของผู้มาฟังธรรมนี้จะได้ประโยชน์หนักเบามากน้อยเพียงไร ก็เทศน์เป็นแกงหม้อใหญ่ให้ได้ทุกขั้นทุกภูมิ ขั้นใดภูมิใดก็ให้ได้ไปตามกำลังของตนๆ ธรรมถ้าควรที่จะสูงสุดวิมุตติพระนิพพานนี้มันจะพุ่งขึ้นทีเดียวเลย ไม่อัดไม่อั้นในการสอนโลก พูดให้ชัดเจน ท่านทั้งหลายไม่เคยได้พบได้เห็นหลวงตา วันนี้ได้เห็นด้วยและได้ฟังธรรมะอย่างถึงใจด้วย และสมชื่อสมนามที่โด่งดังทั่วประเทศไทยด้วย ว่าสมนามไหม นี่ท่านทั้งหลายได้มาพบมาเห็น

เราก็ไม่เคยที่จะมีความกระด้างกระเดื่องในใจของเรา ว่าประชาชนทั้งหลายมาเคารพนับถือ เรามีคุณธรรมพอสมควรที่จะให้เขาเคารพนับถือได้ไหม เราก็ไม่มี หมด เต็มภูมิทุกอย่าง สอนโลกก็สอนอย่างเต็มภูมิ จึงว่าไม่มีสะทกสะท้านอะไรสอนโลก สอนโลกจึงสอนด้วยความเมตตาล้วนๆ ไม่มีกระด้างกระเดื่อง สอนด้วยความเมตตาเพราะภูมิจิตภูมิธรรมเต็มเหนี่ยวเต็มที่แล้ว เหนือโลกเหนือสงสาร เหนือสมมุติทั้งหลายไปหมดแล้ว จึงไม่มีอะไรมาเป็นข้อเปรียบเทียบเป็นคู่แข่งกัน นั่นละธรรมกับใจเมื่อได้อบรมแล้วเป็นอย่างนั้น ให้พากันตั้งใจนะ

(วัดนี่แม่แบ่งที่ดินให้ก็เลยเอามาทำที่ปฏิบัติธรรม พี่น้องก็ร่วมบริจาคด้วยเลยได้ ๗๐ ไร่) พอพูดถึงเรื่อง ๗๐ ไร่นี้ก็ ที่เขาใหญ่ เขาถวายที่เราตั้ง ๗๐ ไร่ ตกลงเลยให้ท่านอุทัยไปอยู่ที่นั่นแทนเดี๋ยวนี้ กว้างพอๆ กัน ๗๐ ไร่ เพราะที่นั่นไม่มีกรรมฐาน ว่างไปหมดแถวนั้น เราก็เลยรับที่นั่นเพื่อจะให้เป็นที่กรรมฐานขึ้น แล้วเขาถากถางโล่งไปหมด นี้กำลังปลูกต้นไม้ขึ้น เราก็เคยไปเยี่ยมหลายหนแล้วนะที่เขาใหญ่ ไปเยี่ยมหลายหนแล้วที่เขาใหญ่

เราเองไม่ค่อยได้สร้างวัดที่ไหน ที่จำเป็นเขามาถวายก็คือที่เขาใหญ่นั่นละ ที่ ๗๐ ไร่ นั้นแห่งหนึ่ง แล้วก็ที่เมืองกาญจน์ที่เป็นวัดเสือ เลี้ยงเสือไว้ตั้ง ๒๐ ตัวอยู่ในวัดนั้น นั่นแห่งหนึ่ง ดูเหมือนมีสองที่เท่านั้นละมัง ส่วนที่เขาถวายที่ให้สร้างวัดละมากต่อมาก เรารับไม่ได้ ถ้ารับตรงไหนแล้วต้องเป็นตัวตั้งตัวตี รับผิดชอบเช่นวัดอาจารย์เจี๊ยะ วัดภูริทัตตฯ วัดอาจารย์เจี๊ยะนั้นเขาก็ถวายเรา เราก็นิมนต์อาจารย์เจี๊ยะมาอยู่ ท่านก็อยู่ให้จนกระทั่งท่านสิ้นไปแล้วก็มีพระมาอยู่แทน นั่นละ รับที่ไหนเราต้องรับผิดชอบ เพราะฉะนั้นจึงไม่ค่อยรับ ใครถวายที่ไหนก็ไม่ค่อยรับ

ที่ปราจีนเขาก็ถวายที่ เราก็ยังรับไม่ได้ มีพระที่ปราจีน อ.ศรีมหาโพธิ ปราจีนบุรี มาอยู่ที่วัดป่าบ้านตาด เลี้ยงมาตั้งแต่เป็นเณร เดี๋ยวนี้พรรษาดูจะได้กี่พรรษา (ประมาณ ๒๐ พรรษาครับ) นู่นละเลี้ยงมาตั้งแต่เป็นเณรนะ เณร เขาเรียกเณรป้าง ที่วัดเขาเรียกกันว่าสมบูรณ์ พอดีพวกญาติเขามาหา เขาเรียกว่าเณรป้าง เราเลยจับเอาเณรป้างเป็นชื่อตลก ตั้งแต่นั้นมาเลยเรียกท่านป้าง ชื่อสมบูรณ์เลยไม่ให้ ให้ชื่อป้างเลย นั่นละองค์หนึ่ง ถ้าหากว่าท่านพอที่จะรับที่ได้ ก็จะรับที่นั้นให้ท่านไปอยู่ที่นั่น อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีน ใช่ไหม (ครับผม) เอ้อ ปราจีน อยู่นี่ตั้ง ๒๐ พรรษา ตั้งแต่เป็นเณรนะ ก็เลี้ยงจนใหญ่อยู่นะ

ทีแรกเป็นเณรหัวเท่ากำปั้นมากับหลวงพ่อองค์หนึ่ง ทีนี้หลวงพ่อท่านไปไหน เณรนี้จะไปตาม เราดูลักษณะหลวงพ่อไม่เข้าที ไม่แน่ใจ เลยหักเณรนี้ไว้ไม่ให้ไป ไม่ให้ไปกับหลวงพ่อ ให้หลวงพ่อไปองค์เดียว ให้เณรนี้อยู่กับเราตั้งแต่หัวเท่ากำปั้นนะเณรนี้ จนกระทั่งป่านนี้อายุพรรษา บวชเป็นพระได้ ๒๐ พรรษาใช่ไหม (ครับผม) นู่นละตั้งแต่เณรจนกระทั่งบวชได้ ๒๐ พรรษาอยู่กับเรานะนี่ เราไม่ให้ไปกับหลวงพ่อให้อยู่กับเรา นั่นละชาวบ้านเขาถวายที่นั้น แล้วจะถามท่านดู ถ้าท่านพอที่จะปกครองวัดนี้ได้แล้ว เราก็จะให้ท่านไปอยู่วัดนั้น ที่เขตอ.ศรีมหาโพธิ เพราะท่านเป็นพระชาวปราจีนให้ไปอยู่ที่นั่น เดี๋ยวนี้ยังรออยู่ก่อน

เขาถวายที่แล้วนะนั่น แต่เราก็ยังไม่รับ ให้รอไว้ก่อน คอย จะถามท่านป้างดูก่อน ถ้าหากว่าท่านจะรับได้ ก็จะให้ท่านไปอยู่ที่นั่น ไปเป็นสมภารในเขตจังหวัดปราจีนนั่นเลย ที่ว่าอ.ศรีมหาโพธิ การรับเราจึงไม่ได้รับสุ่มสี่สุ่มห้านะ เขาถวายที่ถวายวัด โอ๊ย มากต่อมาก เราไม่รับ รับตรงไหนต้องจับติดๆ รับผิดชอบๆ อย่างวัดเสือนั่น ตอนท่านจันทร์ไปอยู่ท่านเลี้ยงเสือตั้ง ๒๐ กว่าตัว เสือโคร่งใหญ่นะอยู่ในวัดนั้น ดูว่า ๒๐ หรือ ๒๑ ตัว เสือโคร่งใหญ่ มันเป็นเพื่อนกับพระนะเสือเหล่านั้น ไม่มีอะไรกับพระ เลี้ยงเอาไว้ ทีนี้วัดนั้นเลยกลายเป็นวัดสัตว์เดรัจฉานไปหมด พวกสัตว์ต่างๆ มาเต็มอยู่ในวัดนั้น นู้นละมาจากภูเขา

เราก็ไม่เคยเห็นม้าป่า เวลาเราไปวัดนั้นเห็นม้ามันเพ่นพ่านๆ สัตว์ต่างๆ เพ่นพ่านๆ อยู่ในวัด เวลาถาม มีตั้งแต่ออกมาจากภูเขาทั้งนั้น ไม่ใช่สัตว์ในบ้านเอาไปปล่อยนะ มันออกมาจากภูเขามาอยู่ด้วยกัน ม้าป่า ก็ไปเห็นที่นั่น ถามว่าเป็นม้าป่า พวกกระทิง วัวแดง กวาง เก้ง หมู อุ๊ย ทุกประเภทอยู่ที่วัดท่านจันทร์เวลานี้ เต็มไปหมด วัดนั้นเลยกลายเป็นวัดสัตว์ประเภทต่างๆ เลยจะไม่เป็นวัดพระ มีแต่สัตว์ เลี้ยงสัตว์ มีเสือป่าเข้ามาในบริเวณนั้นตัวหนึ่งนะ เสือบ้านอยู่ในนั้นตั้ง ๒๐ ตัวก็อยู่ด้วยกันได้สบายๆ ทีนี้เสือป่าโดดเข้ามาในนั้น เสือป่านี่อำนาจมากอยู่นะ พอเข้าบ้านเท่านั้นม้านี่ไม่เคยเห็นกุฏิสมภารวัดนะ ม้าก็เลี้ยงไว้ โดดไปชนกุฏิพระ พระเป็นพระสมภาร โดดไปชนกุฏิสมภาร ท่านก็ปึงปังออกมา มันเสียงอะไรนี่ วิ่งไปชนกุฏิ เสือป่าเข้ามา

ฟังเสียงสัตว์ทั้งหลายร้องลั่นเลยเชียว นั่นละเสือป่าตัวเดียว เสือบ้านอยู่นั้นตั้ง ๒๐ ไม่เห็นมีอะไรเงียบๆ นะ พอเสือป่าเข้ามาตัวเดียว เสียงสัตว์ทั้งหลายอยู่ในบริเวณวัดร้องลั่นไปหมดเลย ท่านก็โดดลงมาฉายไฟพาบพีบ พระเห็นอย่างนั้นพระก็ฉายไฟออกมา ก็ไปเจอเอาเสือป่า ท่านเลยบอกมัน เอ้า ถ้าหากว่าจะอยู่กับเสือบ้านนี่ก็ประตูนี้เปิดโล่งไว้แล้วนะ ประตูโรงรับเสือเปิดโล่งไว้แล้ว ถ้าจะอยู่ก็ให้อยู่ ไม่อยู่ก็ให้ออกไป มันเลยไม่อยู่นะ ไปเที่ยวเพ่นพ่านแล้วเปิดเลย ออก ถึงสงบ นั่นละเสือป่ามาตัวเดียว เสือ พวกสัตว์ในวัดนั้นแตกฮือๆ เลย อำนาจของมันไม่ใช่เล่นนะ

นั่นละเราถึงได้รู้ว่าสัตว์เริ่มแรกจริงๆ มันเป็นสัตว์ป่ากันทั้งนั้นแหละ คนเอามาเลี้ยงไว้ เวลามันออกมามันมีแต่สัตว์ป่าออกมา ออกมา มาอยู่ในวัดท่านจันทร์ละ พวกม้าก็ม้าป่า พวกสัตว์พวกเนื้อทุกประเภทเต็ม ออกมาจากป่าๆ มาอยู่ด้วยกัน ท่านก็เลี้ยงดูด้วย มันก็คงเป็นนิสัยวาสนาอันหนึ่ง ตอนเช้าจัดอาหารเลี้ยงกัน นกยูงเป็นร้อยๆ หลายร้อย หมูป่าหลายร้อย ตอนเช้าจัดอาหารเขาหุงข้าวหม้อใหญ่ เทใส่สังกะสี เทสาด เขาลงมาเขาก็มากิน หมูนั้นเป็นร้อยๆ นะไม่ใช่ธรรมดา หลั่งไหลมากิน กินอิ่มแล้วขึ้นเขาเลย พวกนกยูงก็หลั่งไหลมากิน กินแล้วก็ไปเลยอย่างนั้นเป็นประจำทุกวันๆ  ตอนเช้าจะมากที่สุด พอกินแล้วก็ไป พอตอนบ่ายมาไม่มากนักเป็นประจำอย่างงั้นทุกวัน

พวกสัตว์ป่าอยู่ในวัดนั้นจึงนับประเภทไม่ได้นะ มันออกมาจากป่าๆ ออกมา พระท่านเลี้ยงดูมันก็เลยอยู่กับพระ เป็นอย่างนั้นนะอำนาจของความเมตตา ดูเหมือนสัตว์เสือดูว่า ๒๐ ตัว เสือโคร่งนะ ๒๐ ตัวอยู่ในนั้น เป็นห้องๆ เสือมันอยู่ในห้อง กับคนไม่เป็นไรละ มันอยู่ในห้อง คนก็เดินผ่าน ฉากไปนี้เขาก็อยู่ข้างใน คนก็เดินฉากไปนี้ เสือดาวเห็นมีตัวนึงหรือสองตัว เสือดำเสือดาว นอกนั้นมีแต่เสือโคร่งเต็มอยู่ในนั้น

วันนี้เป็นวันมหามงคลของพี่น้องชาวไทยและชาวพุทธเรา ได้มารวมกันเป็นจำนวนมาก เหตุที่จะได้มีคนมากๆ อย่างนี้ก็เพราะอำนาจแห่งอรรถแห่งธรรม เป็นเครื่องหน่วงเหนี่ยวจิตใจของพี่น้องทั้งหลายซึ่งเป็นลูกชาวพุทธอยู่แล้ว พอได้ยินเสียงอรรถเสียงธรรมก็พอใจกันมา วันนี้มีพิธีเปิดพุทธสถานอุทยานแห่งธรรมขึ้นสถานที่นี่ ให้เราทั้งหลายได้รับการอบรมทางเสียงอรรถเสียงธรรมเข้าสู่ใจ จะได้เป็นประโยชน์แก่เราเองและลูกหลานรุ่นๆ หลังๆ ไปอีกต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด เพราะเมืองไทยเราเป็นเมืองพุทธศาสนา

วันนี้คนมาจำนวนมากมายก่ายกอง หลวงตาก็อุตส่าห์ตะเกียกตะกายมาเยี่ยมพี่น้องทั้งหลาย ซึ่งสกลกายทุกสัดทุกส่วนชำรุดทรุดโทรมไปมากต่อมาก จะไปไหนมาไหนก็ล้มลุกคลุกคลานไม่สะดวก แต่หัวใจไม่มีวัยไปได้ทุกแห่งทุกหน เพราะฉะนั้นสถานที่นี่จึงมาได้เหมือนที่ทั่วๆ ไป วันนี้ท่านทั้งหลายจะได้ยินเสียงอรรถเสียงธรรมนำไปประพฤติปฏิบัติให้เข้าอกเข้าใจ การที่นำอรรถนำธรรมไปเป็นแบบเป็นฉบับเพื่อการก้าวเดินในหน้าที่การงานความประพฤติทุกสิ่งทุกอย่าง จะเป็นที่เรียบร้อยดีงามสงบร่มเย็น

งานทางพุทธศาสนานี้เป็นงานที่สะอาดมากทีเดียว งานโลกเป็นงานสกปรก งานของธรรมเป็นงานสะอาด ให้ได้นำงานของธรรมนี้ไปแทรกงานทางโลกเพื่อชะล้างสิ่งมัวหมองทั้งหลายออกจากใจบ้าง จะได้เป็นชิ้นเป็นอัน เป็นการเป็นงานเป็นผลเป็นประโยชน์แก่ผู้บำเพ็ญต่อไป งานพุทธศาสนานี้เป็นงานที่ละเอียดลออมากที่สุด พระพุทธเจ้ากว่าจะได้ตรัสรู้มาเป็นศาสดาสอนโลกก็ทรงบำเพ็ญพระองค์มาเป็นเวลานานแสนนาน ตะเกียกตะกายมาตลอดจนกระทั่งได้เป็นพระพุทธเจ้านำธรรมมาสอนโลก

เวลาตรัสรู้ธรรมแล้วก็เห็นว่าธรรมนี้เป็นธรรมชาติที่เลิศเลอ เหลือกำลังของสัตว์โลกที่จะรับธรรมนี้ไว้ได้ พระองค์ทรงท้อพระทัยไม่อยากแนะนำสั่งสอนสัตว์โลก ดังที่กล่าวตะกี้นี้ว่า พฺรหฺมา จ โลกา…นั้นก็คือท้าวมหาพรหมมาทูลอาราธนาพระพุทธเจ้าให้ทรงแสดงธรรมแก่โลก เพราะสัตว์โลกยังมีมลทินเบาบางอยู่ก็มีจำนวนไม่น้อย อย่าปล่อยปละละเลยทิ้งไปเสีย ยิ่งจะล่มจมลงไปโดยลำดับหาประมาณไม่ได้ จึงขอให้พระองค์ทรงโปรดเมตตาสัตว์โลกทั้งหลาย จึงได้กล่าวคำอาราธนาตะกี้นี้ว่า พฺรหฺมา จ โลกาธิปตี สหมฺปติ…นี่คือท้าวมหาพรหมมาอาราธนาพระพุทธเจ้าให้โปรดเมตตาสั่งสอนสัตว์ต่อไป เพราะฉะนั้นธรรมอันนี้จึงได้ปรากฏขึ้นเวลาก่อนเทศน์ว่า พฺรหฺมา จ โลกา เป็นคำอาราธนาของท้าวมหาพรหมเป็นพื้นฐานมาจนกระทั่งบัดนี้ ขอให้พี่น้องทั้งหลายได้ทราบเอาไว้ เพราะธรรมนี้เป็นธรรมที่ลึกซึ้งมากทีเดียว ยากที่คนจะประพฤติปฏิบัติได้

การปฏิบัติธรรมไม่เหมือนโลกนะ คือโลกนี้เป็นทางต่ำมันไหลลงได้ง่ายๆ ทางธรรมนี้เหมือนเราดันน้ำขึ้นที่สูงๆ ดันขึ้นยากๆ ดันขึ้นแล้วก็ไหลลงๆ แต่ทางต่ำมันไหลลงได้ง่าย ทางความชั่วสัตว์ทั้งหลายทำได้ง่าย แต่ทางความดีทำได้ยาก เพราะฉะนั้นทางความชั่วสัตว์โลกทั้งหลายจึงไม่มีประมาณที่ตกนรกหมกไหม้อยู่ในนรกอเวจี ท่านแสดงไว้พอประมาณว่านรกมีถึง ๒๕ ขุมโน่นน่ะฟังซิ บรรจุสัตว์ทั้งหลายที่มีกรรมชั่วต่างๆ กันในนรกนั้นมีถึง ๒๕ หลุม มีแต่พวกไปเสวยกองทุกข์ความทรมานตามอำนาจแห่งกรรมของตนด้วยกันทั้งนั้นแหละ

ส่วนทางดีนั้นก็มีไว้สวรรค์ พรหมโลก ตลอดนิพพาน แต่คนที่ขึ้นไปในทางสูงนี้มีน้อย ผู้ที่จะไปสวรรค์ก็มีน้อย ไปพรหมโลกมีน้อย ยิ่งไปนิพพานด้วยแล้วมีน้อยมากที่สุดเลยทีเดียว นี่ก็เพราะไปทางดีไปยาก เพราะมันทำยากในการที่จะตะเกียกตะกายไปทางความดีงาม ส่วนทางต่ำนั้นอยู่เฉยๆ มันก็ไหลลงได้เหมือนน้ำนี่แหละ ไหลลงทางต่ำไหลลงได้ง่ายนิดเดียว ส่วนไหลขึ้นทางสูงต้องได้ผลักได้ดันขึ้นไปมันถึงขึ้นได้ นี่เราทั้งหลายต้องการความดีงามแก่ตนของตน ก็ให้พยายามฝึกฝนอบรมดัดแปลงตนเองให้เป็นคนดี ให้ฝืนบ้างนั่นแหละ

เกิดมาเราเป็นมนุษย์ มนุษย์ย่อมมีศาสนาประจำตน เราอย่าเป็นมนุษย์แบบสัตว์ล้วนๆ และไม่มีหางอย่างนั้นใช้ไม่ได้นะ ต้องเป็นมนุษย์ที่มีศีลมีธรรม มีพุทธศาสนาประจำด้วยแล้วก็เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบ เพราะฉะนั้นขอให้นำธรรมนี้ไปปฏิบัติ ก่อนที่จะหลับจะนอนให้สอนลูกสอนเต้าของตนไหว้พระเสียก่อน จะได้ขนาดไหนก็ตาม  อิติปิโส สฺวากฺขาโต สุปฏิปนฺโน เสร็จแล้วก็ให้พากันนั่งภาวนาทำความสงบใจ ทำความสงบใจคืออะไร ใจมันดีดมันดิ้นตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งหลับ เวลาระงับดับเครื่องความปรุงแต่งของใจต้องระงับด้วยการหลับนอน ถ้าหากมันคิดมากๆ ก็นอนไม่หลับ

เปิดเครื่องแล้วหลับไม่ลงก็คือใจมันมีความคิดปรุงตลอดเวลา เพราะฉะนั้นจึงต้องเอาธรรมเข้าเป็นเครื่องกล่อมใจให้มีความสงบร่มเย็น ให้ไหว้พระทุกคนนะ เราได้ไม่ใช่หรือคำสอนของพระพุทธเจ้าที่จะเอาไปไหว้พระในเวลาหลับนอน ทุกครอบครัวเรือนให้พาลูกพาเต้าของเราไหว้พระ แล้วก็หลับนอนด้วยคำว่าพุทโธติดใจ เวลาจะหลับนอนให้พุทโธๆ ติดหัวใจจนกระทั่งหลับ หลับไปด้วยความสงบร่มเย็น หลับเป็นมงคลอันนี้ ไม่ใช่หลับแบบสัตว์ทั้งหลายนอนหลับ มนุษย์นอนหลับให้มีศาสนาติดตัวไปในขณะที่หลับ เช่นพุทโธ ธัมโม หรือสังโฆก็ได้ ให้พากันตั้งอกตั้งใจปฏิบัติ

บุญบาปมีมาดั้งเดิม ใครอย่าไปลบล้างว่าบาปไม่มีบุญไม่มี คนใดที่ไปลบล้างว่าบาปไม่มีบุญไม่มี คนนั้นเป็นคนที่หยาบหนามากที่สุดเลย ตายแล้วก็จมลงในนรกนั่นละที่ว่าบาปว่าบุญไม่มี นรกไม่มี จะไปจมลงที่ว่าไม่มีนั่นละ แต่เวลาจมลงไปแล้วมันสายเกินไปแก้ไม่ตก จึงให้พากันแก้เสียตั้งแต่บัดนี้โดยความเชื่อถือคำสอนของพระพุทธเจ้าที่เป็นศาสดาองค์เอก สอนไว้แล้วว่าบาปมี บุญมี นรกมี สวรรค์มี

อันใดที่พระพุทธเจ้าสอนว่าไม่ดีให้ละเช่น บาปมีอย่าพากันทำบาปหาบตั้งแต่ความชั่วช้าลามกมาเต็มหัวใจ ตายแล้วจมลงในนรกก็เป็นเรื่องของเราเองรับเคราะห์รับกรรมของตน เพราะความดื้อด้านหาญทำ ไม่เชื่อฟังคำสอนของพระพุทธเจ้า ใครเชื่อคำสอนของพระพุทธเจ้าก็ละบาปบำเพ็ญบุญบำเพ็ญกุศล ท่านห้ามไม่ให้ทำบาปก็อย่าไปทำ ท่านสั่งสอนให้ทำบุญทำกุศลก็ให้พากันทำบุญทำกุศลใส่ตน จะเป็นบุญเป็นกุศล

เพราะใจดวงนี้ไม่ตาย ไม่เคยตายนะใจดวงนี้ ถึงจะไปตกนรกหมกไหม้ตั้งกัปตั้งกัลป์ก็ตาม ทุกข์ขนาดไหนก็ยอมรับว่าทุกข์ตามอำนาจแห่งกรรมหนักเบาของตน แต่ไม่ยอมฉิบหายคือใจดวงนี้ และโลกนี้เป็นโลกอนิจจัง ไม่เปลี่ยนช้าก็เปลี่ยนเร็ว เมื่อเคลื่อนย้ายออกมาจากนรกมาเกิดเป็นมนุษย์มนานี้แล้ว ก็สร้างความดีเปลี่ยนความดีเข้าไปสู่ใจ แล้วใจก็จะเป็นใจดี ดีขึ้นไปเรื่อยๆ นี่ละไม่สูญละใจดวงนี้ เปลี่ยนจากชั่วมาเป็นความดี เปลี่ยนจากความทุกข์มาเป็นความสุขความเจริญภายในใจของเรา เวลาตายแล้วก็ไปสวรรค์ชั้นพรหมตลอดถึงนิพพานได้โดยไม่สงสัย เพราะการสร้างบุญสร้างกุศลใส่หัวใจตนเองซึ่งเป็นของไม่ตาย ให้พากันจดจำเอาไว้

โลกนี้เราเกิดมานานไม่ควรสงสัยละ จะไปสงสัยอะไร ตายแล้วสูญมันสูญที่ไหน ถ้าสูญสัตว์นั่งเต็มศาลาอยู่เวลานี้สถานที่นี่มีคนมากน้อยเพียงไร ถ้าตายแล้วสูญมันเอาอะไรมาเกิด มันก็เอาของมีอยู่นั่นแหละมาเกิด ของไม่มีเอามาเกิดไม่ได้ นี่ก็เพราะสัตว์โลกทั้งหลายตายแล้วไม่สูญ เปลี่ยนภพเปลี่ยนชาติเป็นสัตว์เป็นบุคคล เป็นเปรตเป็นผีเป็นสัตว์นรกอเวจี เป็นเทวบุตรเทวดาอินทร์พรหมเปลี่ยนไปได้ เพราะใจเป็นของไม่ตาย เพราะฉะนั้นเราจึงเปลี่ยนใจในทางที่ถูกที่ดีให้ไปสู่สุคติโลกสวรรค์จนกระทั่งถึงนิพพาน ด้วยการเปลี่ยนใจโดยการประกอบคุณงามความดีใส่ตัวของเรา อย่าอยู่เฉยๆ

เกิดขึ้นมาแล้วก็มีแต่หาอยู่หากิน เพลิดเพลินรื่นเริงไปกับกิเลสตัณหาไม่รู้วันเกิดวันตายของตัวเอง บทเวลาตายแล้วจึงไปเคาะโลงโป๊กๆ รับศีลนะพ่อ รับศีลนะแม่ รับอะไรคนตายแล้ว ตั้งแต่เวลาพ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่ เดี๋ยวจับลูกยัดใส่มือแล้วจับหลานยัดใส่มือ ให้พ่อกับแม่เป็นข้าลูกข้าหลานอยู่อย่างงั้นตลอด แล้วลูกหนีไปที่ไหนก็ไป จับพวกหลานๆ เหลนๆ ยัดใส่มือพวกตาพวกยาย แล้วเจ้าของก็ไปสบายๆ บทเวลาตายแล้วถึงเคาะโลงโป๊กๆ รับศีลนะพ่อนะ รับยังไงตั้งแต่เวลามีชีวิตอยู่เอาแต่ลูกแต่หลานไปยัดใส่มือ เวลาตายแล้วจึงเอาศีลไปยัดให้มันจะยัดได้ยังไงคนตายแล้วรับศีลไม่ได้ รับได้ตั้งแต่เวลามีชีวิตอยู่นี้นะ อย่าจับเอาตั้งแต่มือลูกมือหลานเข้ามาเต็มไม้เต็มมือเต็มหัวอก ให้เอาศีลเอาธรรมเข้ามาสู่ใจของตนบ้าง ตายแล้วจะได้ไปสู่สุคติโลกสวรรค์

ขอให้ท่านทั้งหลายได้บำเพ็ญ วันนี้ได้บำเพ็ญกองการกุศลผลประโยชน์อันยิ่งใหญ่ ได้สร้างผ้าป่ามหากุศลเพื่อชาติของตนๆ ทุกคน นี่ก็ได้พาพี่น้องทั้งหลายดำเนินเพื่อการช่วยชาติมานี้เป็นเวลานาน หนุนสมบัติเข้าสู่คลังหลวงของเราได้เป็นจำนวนไม่น้อย ตั้งแต่พาพี่น้องทั้งหลายได้บำเพ็ญกองการกุศลหนุนสมบัติเข้าสู่คลังหลวงของเรา ทองคำก็ได้ตั้ง ๑๑,๖๐๐ กว่ากิโลแล้ว ดอลลาร์ก็ได้เข้าเยอะ สิ่งอื่นๆ ก็เข้าได้เยอะ ศีลธรรมก็ได้เข้าสู่ใจของพี่น้องทั้งหลาย นับตั้งแต่วันได้ประกาศนำพี่น้องทั้งหลายออกช่วยชาติบ้านเมือง

เราได้อุตส่าห์พยายามช่วยทุกวิถีทางนั่นแหละ ที่จะเป็นไปได้ขนาดไหนสอนหมดทั่วประเทศไทย เรียกว่าสอนมากที่สุดละสอนโลกเวลานี้ ก็เพื่ออยากให้โลกเป็นคนดี มีความเป็นอยู่พูวายสงบร่มเย็น ให้ท่านทั้งหลายตั้งใจปฏิบัติ ตื่นนอนขึ้นมาให้ไหว้พระเสียก่อน ก่อนจะไปไหนมาไหน เวลาจะหลับนอนก็ขอให้ไหว้พระเสียก่อนแล้วค่อยหลับค่อยนอน หรือระลึกพุทโธๆ ติดใจจนกระทั่งหลับกับพุทโธเป็นมงคลอันสูงสุดแก่ท่านทั้งหลายที่มีธรรมในใจในขณะที่หลับไป จำให้ดี

หลวงตานี้แก่ลงทุกวัน พูดไปๆ เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า ไม่ได้เหมือนแต่ก่อนนะ พอเทศน์ไปธาตุขันธ์อ่อนลงๆ มันจะไปไม่รอดแล้วแหละ พูดไปๆ แล้วหมด ธรรมะก็หมด นี่ก็ขอให้พากันตั้งอกตั้งใจปฏิบัติความดีงามเข้าสู่ตัว วันนี้ท่านทั้งหลายได้ทอดผ้าป่าเพื่อชาติของตน ก็นับว่าเป็นการอุ้มชาติบ้านเมืองของเราขึ้นโดยวิธีอันเป็นมงคลใหญ่หลวงอันหนึ่งเหมือนกัน นี่ก็ได้ทำมาหลายปีหลายเดือนแล้ว ชาติไทยของเราก็ค่อยหนุนขึ้นเป็นลำดับลำดา เช่นทองคำก็ได้เข้าคลังหลวงเป็นหลายหมื่นกิโลแล้ว ทองคำ ดอลลาร์ ทุกสิ่งทุกอย่างที่จะคอยได้จากการช่วยชาติคราวนี้พลอยไหลเข้ามาๆ สู่ชาติไทยของเรา จะมีความแน่นหนามั่นคงมากขึ้นๆ

เราอยู่ในบ้านในเรือนก็ให้สร้างอยู่สร้างกินด้วยความรู้จักประหยัดมัธยัสถ์ อย่าฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม การอยู่การกินการใช้การสอยอย่าฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมลืมเนื้อลืมตัว ไม่ดี ให้ใช้ให้อยู่ให้กินพอประมาณกับครอบครัวของเรา อย่าให้เตลิดเปิดเปิงมันเสียเรานั่นแหละ เสียผู้เสียคน คนก็คือเรา ให้พยายามรักษาเราให้ดี มีความประหยัดมัธยัสถ์ทุกอย่าง อย่าฟุ้งเฟ้อ อะไรคว้าหมดๆ ใช้ไม่ได้นะ เป็นนิสัยไม่ดีต่อลูกต่อหลาน ยึดกันไปก็เป็นนิสัยฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม ไม่รู้จักประมาณจะเสียคน ก็คือเสียชาติไทยของเรานั่นแหละ

ให้พากันตั้งอกตั้งใจประพฤติปฏิบัติศีลธรรม วันหนึ่งๆ อย่าลืมพุทโธนะ เวลาจะหลับจะนอนให้มีพุทโธติดใจๆ ด้วยกันทุกคน วันนี้จะสอนย่อๆ สอนมากไม่ได้ เหนื่อยมากแล้ว สอนพุทโธเข้าสู่ใจ เรามานี่เราไม่มีพุทโธนะ รถคันไหนมารถนั่นเต็มคันมีตั้งแต่คน แต่ไม่มีพุทโธติดรถมาเลย ทีนี้เวลามาฟังอรรถฟังธรรมแล้วนี้ให้ได้พุทโธติดใจไป ขึ้นรถคันไหนก็พุทโธเต็มคันรถๆ กลับไปบ้านไปเรือน เวลามา มารถเปล่าๆ มีแต่คนเต็มรถ ไม่มีพุทโธ เวลาขากลับไปนี้ให้ได้พุทโธเต็มหัวใจ คนขึ้นรถคันไหน รถเต็มคน พุทโธก็เต็มรถไปอย่างนี้นะ

วันนี้บรรจุพุทโธเข้าในรถนะ ขึ้นรถคันไหนไปให้มีพุทโธติดรถๆ รถคันนั้นจะเต็มด้วยพุทโธๆ ไปด้วยกัน ไม่ว่าคันไหน นี่ละจะเจริญรุ่งเรืองพุทโธเต็มในรถ ออกจากหัวใจเราผู้เป็นลูกชาวพุทธเป็นเจ้าของของรถ แล้วขึ้นรถไปเป็นมงคลแก่พี่น้องชาวไทยทั้งหลาย ให้พากันจดจำเอา

หลวงตานี้เทศน์ไปนานๆ ก็รู้สึกลำบากลำบนไม่เหมือนแต่ก่อนแล้วแหละ เทศน์สองสามคำก็เหนื่อย นี่ก็เหนื่อยแล้ว ไม่ถึงไหนละเหนื่อย ให้พากันตั้งอกตั้งใจ อย่าละอย่าปล่อยอย่าวางนะ  การศีลการธรรมอย่าปล่อยอย่าวาง การอยู่การกินให้ได้กินด้วยให้ได้ทานด้วย ส่วนนี้ได้มาเพื่อปากเพื่อท้อง ส่วนนี้ได้มาเพื่อบุญเพื่อกุศลเป็นอาหารของใจ คือเราแบ่งไปทำทาน ได้มาแล้วอย่ากินอย่างเดียว มีแต่ท้องแต่ปากเต็ม แต่ใจไม่ได้อรรถได้ธรรม ไม่ได้บุญกุศลจากการทำบุญให้ทานของตนเลยใช้ไม่ได้

ต้องให้ได้กินให้ได้ทาน ได้มาก็แบ่งกินแล้วก็แบ่งทาน แบ่งให้ธาตุให้ขันธ์แล้วก็แบ่งให้จิตใจ เวลาตายไปแล้วธาตุขันธ์เน่าเฟะ ใครจะเผาจะฝังก็แล้วแต่มันก็เน่าของมันไปเอง ส่วนจิตใจขอให้ได้บุญได้กุศลเป็นมหามงคลอุ้มชูจิตใจ ให้ไปสู่สวรรค์พรหมโลกตลอดนิพพานด้วยอำนาจแห่งบุญ

ขอให้ท่านทั้งหลายจำเอาไว้อย่างนี้โดยถ้วนหน้ากัน ให้เอาพุทโธ ธัมโม สังโฆ ให้เอาการให้ทานรักษาศีลนี่เข้าสู่ใจ หนุนจิตใจของเราให้ไปสู่สุคติโลกสวรรค์ทั่วหน้ากัน วันนี้ก็พูดเพียงเท่านี้ละ พูดมากกว่านี้ไม่ไหว หลวงตาเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าแล้ว ท่านทั้งหลายที่มาบำเพ็ญกองการกุศลวันนี้ ก็เรียกว่ามาตักตวงเอาบุญเอากุศลเต็มหัวใจแล้วก็เต็มรถกลับไปบ้าน ขอให้เป็นความเป็นสิริมงคล มีความสุขทั่วหน้ากัน การแสดงธรรมวันนี้ก็เห็นว่าสมควรแก่ธาตุแก่ขันธ์ และอรรถและธรรมที่จะแสดงแก่ท่านทั้งหลายก็เห็นว่าสมควรแก่กาลเวลา ขอความสวัสดีจงมีแก่บรรดาพี่น้องทั้งหลายทั่วกันเทอญ

 

รับชมและรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th

สถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน  FM 103.25 MHz

และเครือข่ายทั่วประเทศ

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก