ไม่เอาจริงเอาจังไม่เห็นฤทธิ์เดชของธรรมของกิเลส
วันที่ 18 มกราคม 2551 เวลา 8:15 น. ความยาว 19.1 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๑

ไม่เอาจริงเอาจังไม่เห็นฤทธิ์เดชของธรรมของกิเลส

ก่อนจังหัน

         พระให้ตั้งใจภาวนากันนะ เราไม่ค่อยได้เกี่ยวข้องกับพระนักนะ เพราะยุ่งมากต่อมากวันหนึ่งๆ ไม่ไหวกำลังของเราคนเดียว พระก็ไม่ค่อยได้อบรมเวลานี้น่ะ ตั้งหน้าตั้งตาภาวนา สติเป็นสำคัญนะ การภาวนาอยู่ที่สติ ขาดสติเมื่อไรขาดความเพียรละ

หลังจังหัน

มาจากโพธารามใช่ไหม (ค่ะ) จำไม่ได้ เดี๋ยวนี้ความจำเสื่อมหมด ไปอยู่ที่ไหนๆ จำไม่ได้ ความจำเสื่อมเป็นลำดับลำดา ความจำภายนอก มันไปมีอยู่ภายใน เวลาพูดอะไรๆ ออกตามนี้ๆ จะเป็นเกี่ยวกับเรื่องความจำไม่ได้แหละ ท่านสงบไปอยู่ที่อะไร ย้ายที่เก่าไปอยู่ที่สร้างใหม่มัง เราเคยไปหนหนึ่งแล้ว ท่านสงบท่านหยีน่ะ ท่านสงบจะเป็นหลักคนหนึ่งทางโน้น ท่านเคยอยู่ที่นี่ ออกจากนี้แล้วก็ไปอยู่ที่โพธาราม จากนั้นย้ายไปอยู่ที่ใหม่ ที่ใหม่เราก็ไป ก็ดีอยู่ นี่ก็จะปลูกต้นไม้ขึ้น ยังไม่มีร่ม ส่วนที่เก่านั้นก็ดีหากแคบ คับแคบเกินไป ท่านหยีองค์หนึ่งจะได้เป็นประโยชน์ทางด้านโน้น ไปจากวัดนี้ก็ไปอยู่ที่นั่นเลย อยู่ที่โพธาราม

ทางภาคใต้ไม่ค่อยมี ลูกศิษย์มีเต็มไปหมดเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยงอกเงยมันเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ ทางภาคใต้ก็ไม่น้อยนะลูกศิษย์ของวัดป่าบ้านตาด แต่ไม่ค่อยได้ยินความงอกเงยของการอบรมศึกษาจากครูบาอาจารย์ไปนะ ส่วนมากพระออกจากวัดป่าบ้านตาดนี้ไปมีทุกภาค แยกออกไปทุกภาค ทางภาคใต้ ภาคกลาง ทางเหนือ มีทุกภาคนั่นละ แต่ก็มารวมอยู่ที่ภาคตะวันออก-ภาคอีสานนี้แหละ ทางนู้นก็ประปรายไม่ค่อยได้เรื่องได้ราวอะไรนัก

การภาวนาเป็นของเล่นเมื่อไรเรื่องการภาวนา เพราะฉะนั้นจึงไม่ค่อยมีบรรดาพระกรรมฐานที่ออกจากครูบาอาจารย์ไปไม่ค่อยจะมีชื่อเสียงโด่งดัง จากการอบรมครูบาอาจารย์ไปจริงๆ มีน้อยมาก ไปทางนี้ก็มีท่านสงบละดี ท่านสงบดี ออกจากวัดนี้ไป แล้วก็ทางไหนบ้าง มันไม่ค่อยมีนะ ภาคจิตใจจริงๆ ถอดจากหัวใจที่ครูบาอาจารย์แนะนำสั่งสอนไปปฏิบัติเป็นผลของตัวขึ้นมานี้มีน้อยมากทีเดียว

ทางโพธารามก็อาศัยท่านสงบละดีท่านสงบ จะเป็นหลักเกณฑ์ทางนู้นได้ ไม่สงสัย เราอยากได้ลูกศิษย์ลูกหาถอดออกจากหัวใจของครูบาอาจารย์ไปเป็นหัวใจของตัวเอง แล้วปฏิบัติเป็นเนื้อเป็นหนังขึ้นมาสั่งสอนคน คือธรรมะที่ออกจากใจล้วนๆ เป็นธรรมล้วนๆ นี้ต่างกันมากกับที่เราจดจำมา การจดจำมาเทศนาว่าการนี้เจ้าของก็ลอยๆ ไม่แน่นหนามั่นคง เพราะเป็นความจำ ถ้าเป็นความจริงถอดออกปั๊บนี่มีฤทธิ์มีเดช เป็นอย่างนั้นละ มันต่างกัน

ธรรมะที่ออกจากหัวใจออกไปนี้กับธรรมะที่จดจำมา โอ๊ย ผิดกันมากนะ การเทศน์ไม่มีรสมีชาติ ถ้าใจไม่มีรสมีชาติอยู่แล้ว เราก็หวังจะอาศัยท่านสิงห์ทองก็เสียเสีย ท่านสิงห์ทองสำคัญอยู่ ก็ได้บอกว่ามอบศพ นี่เวลาผมตายให้ท่านเผาศพผมนะ เวลาท่านตายผมจะเผาศพท่าน สุดท้ายท่านมาตายก่อนเรา นี่คือไว้วางใจแล้วนั่น มอบศพให้ละ ตายเสียก่อน เราเลยเผาศพให้ท่านสิงห์ทอง คือแน่ใจแล้วถึงแย็บออกไป เวลาท่านตายผมจะเผาศพท่าน เวลาผมตายท่านมาเผาศพผมนะ ว่าอย่างนั้น คือไว้วางใจแล้วนั่น

พอดีท่านก็ตายเสีย ไม่อย่างนั้นท่านสิงห์ทองจะเป็นประโยชน์องค์หนึ่งไม่ใช่น้อยนะ ความพากเพียรเก่งมากท่านสิงห์ทอง เดินจงกรมนี่เป็นเหวไปเลย ความเพียรเก่งท่านสิงห์ทอง นิสัยเข้ากันได้กับเราไม่ชอบการก่อการสร้าง ครูบาอาจารย์ท่านไม่พาก่อพาสร้างทางด้านวัตถุภายนอก นั้นเป็นเปลือกเป็นกระพี้ มันศาสนวัตถุ ไม่ใช่ศาสนธรรมที่ออกจากการปฏิบัติได้เป็นสมบัติของตัวจริงๆ ออกไปนี้ต่างกันมากนะ ศาสนวัตถุนี้ก็ได้ไปอย่างนั้นแหละ เลื่อนๆ ลอยๆ ไม่เป็นหลักเป็นเกณฑ์

อย่างท่านวันนี้ก็เคยอยู่กับพ่อแม่ครูจารย์มานานเท่าไร ครั้นออกไปก็ไปสร้างบ้านสร้างเมืองขึ้นที่นั่น เวลาตายแล้วเราผ่านไปที่นั่น โอ๋ย เหมือนสร้างบ้านสร้างเมืองขึ้น ไม่ทราบว่าสร้างหาอะไร มันไม่ได้เป็นไปตามครูบาอาจารย์ นี้เราก็เคยพูดเวลาอยู่กับหลวงปู่มั่น  เวลานี้มันซ่อนเล็บนะ เวลาออกไปนี้มันจะกางเล็บเต็มเพลงของมัน นิสัยเคยชอบอย่างไรมันก็จะเดินตามนิสัยเจ้าของ มันจะไม่เอานิสัยของครูบาอาจารย์ไปใช้ มันก็จริงๆ

อย่างวัดท่านวันนี้เหมือนสร้างเมืองแห่งหนึ่ง อย่างนั้นแหละ มันไม่ได้ดูนะ ทิฐิมานะมันฝังอยู่ภายใน คือกิเลสตัณหานั้นละมันอยู่ภายใน เราก็หวังอาศัยท่านสิงห์ทองก็ตายเสีย ผู้ที่จะเอาจริงเอาจังทางภาคปฏิบัติจริงๆ หายากนะ สมบัติเป็นของตัวจริงๆ จากการปฏิบัติ นั่นละเป็นสมบัติของตัวแท้ รู้เห็นขึ้นมาอะไรเป็นของตัวๆ เรานั่งภาวนามันเอาจริงเอาจังนะนี่ ไม่ได้ทำเล่นๆ ทำอะไร ไม่เหลาะแหละ ทางด้านภาวนาก็เหมือนกัน ฟาดนั่งภาวนาหามรุ่งหามค่ำ นั่งตลอดรุ่งๆ ฟาดเสียจนก้นแตก อย่างนั้นแหละ

จนพ่อแม่ครูจารย์ท่านรั้งเอาไว้ ม้าตัวไหนมันคึกคะนองมาก ท่านว่าอย่างนั้นนะ เพราะท่านเห็นเรานั่งตลอดรุ่งๆ มาหลายๆ คืนติดๆ กันมาตั้ง ๙ คืน ๑๐ คืน แต่เว้นคืนสองคืนแล้วนั่งตลอดรุ่ง เว้นสองคืนสามคืนนั่งตลอดรุ่ง นี่ท่านก็ได้รั้งเอาไว้ ถ้ามันจะเลยเถิดท่านก็รั้งเอาไว้ คือเหตุที่ท่านจะทราบว่าเรานั่งตลอดรุ่ง วันไหนนั่งตลอดรุ่งนั้นได้ธรรมอัศจรรย์ทุกคืนไม่มีพลาด ฟัดกันเวลานั้นน่ะเวลาจนตรอกจนมุม ใครอย่าเข้าใจว่าจะโง่ตลอดไป ไม่โง่นะจิต เวลามันจะเป็นจะตายจริงๆ มันหาทางออกจนได้ด้วยปัญญา พ้นไปได้ ออกไปได้

นี่ลงได้นั่งตลอดรุ่งคืนไหนได้อัศจรรย์ทุกคืนๆ ไม่เคยพลาด คือมันเอากันเวลาจนตรอกจนมุม สติปัญญามันจะหมุนตอนนั้นละ อยู่เฉยๆ ไม่เกิดละปัญญา เวลาจนตรอกจนมุมเราไม่ใช่ว่าจะโง่ทุกคนนะ มันหาทางออกจนได้นั่นแหละ นี่ได้ทำมาแล้ว ฟาดเสียนั่งภาวนาจนก้นแตก ของเล่นเมื่อไร นั่งตลอดรุ่งๆ ถ้าลงได้นั่งเอาอย่างนั้นละ มันจะเป็นอย่างไรมัดเข้าเลยๆ ไม่ให้มันกระดิกตัวออกนอกลู่นอกทางไปได้ ถ้าลงว่าได้ปักตรงไหนแล้วให้ขาดสะบั้นไปเลยเชียว เป็นอย่างนั้นละที่ว่าก้นแตก ไม่ยอมให้ลุก นั่งตั้งแต่ยังไม่มืด บางวันซัดตลอดรุ่งเลย ไม่กระดิกพลิกแพลงไปไหน นั่งท่าขัดสมาธิละ นั่งตลอด

ลองดูซิใครจะมีความอดทนแค่ไหน ถ้าใจไม่หนักแน่นจริงๆ ล้ม นั่งตลอดรุ่งไม่ใช่ของเล่น ไม่เอาจริงเอาจังล้ม ล้มละลาย นี่พูดจริงๆ ไม่เคยล้ม ถ้าลงว่าเอานะเท่านั้นพอ ใส่ปึ๋งเลยเทียว ขาดสะบั้นไปเลย แต่มันดีอันหนึ่งที่จิตใจมันเด็ด มันเด็ดขาดจริงๆ ว่าอะไรเป็นอันนั้น ไม่เหลาะแหละ ว่าเอานะวันนี้เท่านั้นละพอ ซัดกันเลย เว้นข้อเดียว ครูบาอาจารย์หรือพระเณรเกิดเหตุภายในวัดเราจะลุกไปช่วยเท่านั้น เฉพาะเจ้าของนี้เอาเอาเลย เป็นอะไรเป็นเลย ไม่มีข้อยกเว้น ปวดหนักปวดเบา..เอา..ออก ว่าอย่างนั้นเลย มันก็ไม่เคย

ที่จะปวดเยี่ยวๆ นี้ไม่มีละ ก็เหงื่อมันไหลออกผ้าจีวรเปียกหมดเลย คือมันเปียกมันไม่ใช่เหงื่อมันยางตาย นั่งตลอดรุ่ง จีวรนี้เปียกเหมือนเราซักนะ ตื่นเช้าขึ้นมานี้ต้องไปซักวันนั้น วันไหนนั่งตลอดรุ่ง คือจีวรมันเปียกหมดเลย มันไม่ใช่เหงื่อ มันอะไรก็ไม่ทราบ คือความสัตย์ความจริงบีบบังคับมัน ไม่ให้มันดีดมันดิ้นไปไหนเลย จีวรนี้เปียกๆ ไม่มีธรรมดานะ เราเลยซัก มันจะตายของมันจริงๆ แต่ความสัตย์ความจริงน่ะซีเหนือกว่าบีบไว้ เอาอย่างนั้นละ ถึงขนาดนั้นจึงได้มาพูดให้หมู่เพื่อนฟัง กิเลสมันเก่งขนาดนั้นน่ะ ฟังเอาซิ ไม่เอาจริงเอาจังไม่เห็นฤทธิ์เดชของธรรมกับฤทธิ์เดชของกิเลสฟัดกัน ถ้าเอาจริงเอาจังแล้วมันสู้ธรรมไม่ได้แหละ กิเลสพังเลยๆ ถ้าไม่จริงจังล้มเหลวๆ ต้องจริง

นี่ฟ้าหญิงก็จะเสด็จมาตอนบ่ายโมงครึ่งแหละ เราจะรอรับเสด็จท่าน วันนี้ไม่ไปไหน ท่านเสด็จมาแล้วเสด็จกลับ วันนี้เราก็คงไม่ไปไหน ถ้าไปก็ไปใกล้ๆ นิดเดียว พอกลับมาให้ทันเวลาท่าน ท่านภาวนาเอาดีอยู่นะฟ้าหญิง ภาวนาดีอยู่ ก็อยู่ทางปทุมฯ สถานที่ภาวนาดีอยู่ เราไปดูแล้วสถานที่ภาวนาเหมาะสม

มันเหนื่อยลงทุกวันนะเรา เหนื่อย ไปไหนมาไหนเดินกลับมาเหนื่อยแล้ว กำลังมันลดลงๆ อ่อนลงทุกวัน เดินเพียงแค่ในบริเวณวัดก็เหนื่อย ทุกวันนี้เหนื่อย เรามันนิสัยเป็นคนแข็งแรง คึกคักขึงขังตึงตังมาตลอดนิสัย มาถึงระยะนี้แล้วเป็นอีกคนใหม่ อ่อน อ่อนเปียกไปหมดเลย ทีนี้ให้พรนะ

 

รับชมและรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th

และสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน  FM 103.25 MHz

และเครือข่ายทั่วประเทศ

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก