เทวบุตรเทวดา-อินทร์-พรหมเทศน์ให้ฟังหมดแล้ว
วันที่ 8 มกราคม 2551 เวลา 14:00 น. ความยาว 37.46 นาที
สถานที่ : เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น

เมื่อบ่ายวันที่ ๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๑

เทวบุตรเทวดา-อินทร์-พรหมเทศน์ให้ฟังหมดแล้ว

หลวงตาเฒ่าแก่เท่าไรยิ่งงานยุ่งนะ ไม่ว่างวันหนึ่งๆ งานยุ่งที่สุดเลย แก่เท่าไรๆ งานยิ่งยุ่ง พวกวัวพวกควายแก่แล้วเขาปลดคราดปลดไถ ข้าราชการแก่แล้วปลดเกษียณ พระนี่แก่แล้วยิ่งใช้ดีไม่มีวันเกษียณเลย

          วันที่ ๒๐ มกราคมไปเทศน์ที่อำเภอเฝ้าไร่ งานอะไรก็ไม่รู้ เทศน์นี่ก็ดูว่าในประเทศไทยนี้จะไม่มีใครเทศน์มากยิ่งกว่าหลวงตานะ พระทั่วประเทศไทยที่เทศน์มากที่สุดก็คือหลวงตา มากจริงๆ ออกเทปก็มาก ออกทางวิทยุก็มาก รู้สึกว่ามากจริงๆ ประเทศไทยเรียกว่าหมด ในกรุงสยามก็กรุงเทพฯเทศน์สนามหลวงเลย สุดที่สนามหลวง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์มาครบหมดเลย เทศน์พ.ศ.เท่าไร (๒๕๔๔ ครับผม) ๒๕๔๔ เทศน์ที่สนามหลวงคนแน่นเลย เทศน์ชั่วโมง ๒๓ นาที เทศน์นาน คนมาก

เรียกว่าเทศน์กรุงสยามอันดับหนึ่งก็ที่สนามหลวง งานใหญ่ที่สุด มาครบหมดเลย ชาติก็นายกฯพร้อมคณะรัฐมนตรี ศาสนาก็พระเป็นพันๆ แน่นหมดสนามหลวง พระมหากษัตริย์ก็ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์มา เรียกว่าครบชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ใช้เวลาเทศน์ตั้งชั่วโมง ๒๓ นาที นานอยู่ ฟ้าหญิงท่านฟังเทศน์เรา ๒๐ กว่าครั้งนะฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ เวลามาเขาจัดให้ที่ประทับท่านก็ประทับ พอเราขึ้นธรรมาสน์ปั๊บนี้ท่านปั๊บมานั่ง ทุกครั้งนะมาฟังเทศน์เรา

ท่านถวายองค์เป็นลูกบุญธรรมหลายปีแล้ว ตั้งพ.ศ.เท่าไรนะ (๒๕๓๘ ครับผม) พอมาปั๊บท่านก็เก่งเหมือนกันนะถามปัญหา เริ่มแรกละพอมาปั๊บท่านก็ถามปัญหาปุ๊บเลย ทางนี้ก็ตอบปั๊บเลย ใส่กันปุ๊บเลย ตั้งแต่นั้นมาขอถวายตัวเป็นลูกศิษย์ จากนั้นมาอีกเลยขอถวายตัวเป็นลูกบุญธรรม เทศน์นี่ก็เรียกว่าหมด ครบเทศน์ เทศน์แต่พื้นๆ ทะลุสุดยอดเลย เทศน์ให้ประชาชนทุกขั้นฟัง เทศน์สอนพระละที่เทศน์สุดยอดของธรรม เทศน์สอนประชาชนเป็นแกงหม้อใหญ่ เทศน์แบบแกงหม้อใหญ่ แกงหม้อเล็กหม้อจิ๋วสอนพระ พระปฏิบัติล้วนๆ นี่เรียกว่าแกงหม้อเล็ก หม้อจิ๋วพุ่งๆๆ เลย ธรรมมีหลายขั้น

เดี๋ยวนี้ไม่ได้ละไม่เหมือนแต่ก่อน เทศน์ไปแล้วธาตุขันธ์ไม่อำนวย แต่ก่อนธาตุขันธ์ก็พร้อมทุกอย่างหมุนติ้วเลยเชียวแหละ จนเจ้าของเองก็ได้เอะใจเจ้าของนะ ตอนกำลังยังหนุ่มยังน้อยอายุ ๔๐ กว่านั่นละเทศน์ เครื่องมือพร้อมหมดเลย เวลาเทศน์เสียงสดใสทุกอย่างพร้อม เวลาเทศน์เทศน์ธรรมะคือธรรมะเป็นขั้นๆๆ เทศน์ธรรมะเริ่มแรกก็แกงหม้อใหญ่ เราจะพูดถึงเรื่องแกงหม้อใหญ่เทศน์ขนาดนี้ หม้อเล็กหม้อจิ๋วพุ่งๆ เลยแต่ก่อน เฉพาะเทศน์สอนพระนั่นละมีแกงหม้อเล็กหม้อจิ๋ว หม้อใหญ่ไม่มี ซัดใส่มรรคผลนิพพานๆ พุ่งเลย

แต่ก่อนธาตุขันธ์มันอำนวย ทุกอย่างอำนวยหมด เทศน์ธรรมะสูงเท่าไรยิ่งไหลไปเลยเชียวนะจนรัว เจ้าของก็ โอ้โห ขนาดนี้เชียวเหรอ คือเวลาว่างๆ เอา เทปเปิดให้เราฟังหน่อยน่ะ มีแต่เราเทศน์ให้คนอื่นฟัง เอา เปิดเทปให้เราฟังหน่อย เทศน์ประเภทสอนพระนะ เทศน์สอนพระนี่พุ่งๆๆ เลยตลอดพอจบแล้ว โอ้โห ขนาดนี้เชียวหรือ มันเหมือนปืนกลเลยนะ เนื้อธรรมยังไม่หมดลมหายใจหมดรีบสูบลมหายใจดังฟิ้วๆ ๆ นั่นละตอนธาตุขันธ์ดีเป็นอย่างนั้น มันพร้อม เดี๋ยวนี้ไม่ได้นะเทศน์อย่างนั้นตายเลย ไปไม่ไหวธาตุขันธ์ไม่อำนวย เทศน์ไปไม่ได้แล้ว ถึงธรรมจะมีขนาดไหนก็มีเท่านั้นละ เครื่องมือใช้ไม่ได้แล้ว เลอะไปหมดเดี๋ยวนี้ ผิดกัน

เรียกว่าสุดขีดละเราการเทศน์ เรานี้เรียกว่าสุดขีด ดูจะไม่ค่อยมีองค์ไหนเทศน์เหมือนเรานะ ไม่ใช่ยอตัว เทศน์มากที่สุดก็คือเรา เทศน์ธรรมะทุกขั้นๆ ถึงที่สุดก็คือเรา ถึงที่สุดของอรรถของธรรม ตั้งแต่ต้นพื้นๆ พุ่งเลยเชียวเวลาเทศน์ธรรมะขั้นสูง มันเร็วที่สุดนะธรรมะขั้นสูง ไม่ได้เหมือนธรรมะขั้นต่ำ ธรรมะสูงเท่าไรยิ่งพุ่งๆๆ โห จนจะสลบ แต่ธาตุขันธ์ดีแต่ก่อน ทุกวันนี้ไม่ได้ตายเลยถ้าเทศน์ นั่นละฟังซิท่านทั้งหลายฟังการปฏิบัติมรรคผลนิพพาน

ธรรมพระพุทธเจ้าท่านสอนว่าสวากขาตธรรมตรัสไว้ชอบทุกอย่างแล้ว ขอให้ดำเนินตามนั้นๆ จะรู้ตามนั้นเห็นตามนั้นจะแสดงออกได้ตามนั้นเลย ไม่มีอัดมีอั้นถ้าธรรมกับใจเป็นอันเดียวกันแล้ว ธรรมอยู่ทางหนึ่งใจอยู่ทางหนึ่งเข้ากันไม่ได้นะ ใจอยู่ในนรก ธรรมอยู่นิพพานเข้ากันไม่ได้ ธรรมกับใจเป็นอันเดียวกัน ธรรมฉันใดใจฉันนั้น ใจฉันใดธรรมฉันนั้น พุ่งเลยเชียวละ นั่นมันต่างกันนะ ถ้าธรรมกับใจเป็นอันเดียวกันแล้วนี่พุ่งเลยเชียว ถ้าธรรมอยู่ในนิพพานใจอยู่ในนรกเข้ากันไม่ได้

พอพูดอย่างนี้แล้วเราก็ระลึกถึงตอนที่มาบวชทีแรก ฟังนะท่านทั้งหลาย หลวงตาจะเล่าเรื่องเทศน์ทีแรกให้ฟัง ทุกข์ที่สุดในชีวิตของพระ ได้พรรษาเดียว บวชพรรษาแรกนี้เรียนสวดมนต์ ๗ ตำนาน ๑๒ ตำนานจบ เรียนปาฏิโมกข์จบ ได้สวดปาฏิโมกข์ในกลางพรรษา พอออกพรรษาแล้วเขาทำบุญลานข้าวเขา คนนั้นก็ทำบุญลานข้าว คนนี้ทำบุญลานข้าว คนมากต่อมากมานิมนต์พระ พระหมดวัด ไม่มีพระให้เขา ก็เราเป็นหัวหน้าได้พรรษาเดียว พรรษาเดียวละเป็นหัวหน้า

คิดคำเทศน์ไหนก็ไม่ได้คิดนี่นะ ก็เรียนเป็นแต่สวดมนต์ สวดมนต์ ๗ ตำนาน ๑๒ ตำนานจบ เรียนปาฏิโมกข์จบ สวดปาฏิโมกข์ในพรรษา พอออกพรรษาเขาก็จับไปเทศน์ซิ โอ้ ทุกข์มากจริงๆ ชีวิตของพระก็มีครั้งนั้นละ เราจำไม่ลืมนะทุกข์มากที่สุด ยังไม่ได้อะไร ก็ยังไม่ได้คิดเรื่องเทศน์ ก็คิดตั้งแต่เรื่องสวดมนต์สวดพร เรียนจบไปตามนั้นๆ พอออกพรรษาแล้วเขาจับไปเทศน์ มันไม่ได้มีอะไรจะเทศน์ละที่นี่ ทุกข์ที่สุดเลย โธ่ ฉันขนมนางเล็ดครึ่งแผ่นกลืนไม่ลง เข้าใจไหม จะเอาอะไรเทศน์ให้เขาฟัง

(กลัวเทศน์ไม่ถูกใช่ไหมครับ ได้หนึ่งพรรษา) ก็พึ่งออกพรรษาก็ไปเทศน์ได้อะไร พอบวชมาแล้วก็เรียน ๗ ตำนานจบ ๑๒ ตำนานจบ เรียนปาฏิโมกข์จบ สวดปาฏิโมกข์ในกลางพรรษา พอออกพรรษาเขาก็จับไปเทศน์ล่ะซี มันยังไม่ได้มีคาถาอะไรจะเอาอะไรไปเทศน์ นี่ละทุกข์มากที่สุด แค้น กลืนขนมนางเล็ดครึ่งแผ่นไม่ลง มันคับมันแค้นในหัวใจ นี่ละชีวิตของพระเรามีครั้งนั้นละทุกข์มากจริงๆ ก็เทศน์ให้เขาฟังได้นะ คนเรามันจะตายจริงๆ มันบืนได้นะ มันบืนไปจนได้นั่นละ พอออกมาแล้วหมู่เพื่อนมาพูด พูดแหย่หรือพูดจริงก็ไม่ทราบนะ พอออกมาแล้ว โธ่ เทศน์ดีอยู่นะ อย่ามาพูดนะกำลังโมโหเดี๋ยวฆ่าคนได้ อ้าว..ก็ดีจริงๆ นี่นะไม่น่าจะเทศน์ได้ขนาดนี้ อยากตายหรือเราก็ว่างั้น

พอไปถึงวัดเอากัณฑ์เทศน์ท่านเจ้าคุณอุบาลี เทศน์กัณฑ์ไหนดีๆ เรามาท่องกัณฑ์นั้นคล่องเหมือนปาฏิโมกข์เลย เอาละไปไหนกูไม่ตายละที่นี่ กูได้กัณฑ์เทศน์กัณฑ์นี้แล้วกูจะเทศน์แต่แบบเดียวนี่ละ งานอะไรๆ ก็ตามกูจะเอาอันนี้ขึ้นเทศน์ เราว่าอย่างนั้นนะ พอเรียนจบแล้วเลยไม่ได้เทศน์ จนกระทั่งคาถาอะไรที่กัณฑ์เทศน์จำไม่ได้เลยเดี๋ยวนี้ ท่องคล่องเหมือนปาฏิโมกข์นะ เลยไม่ได้เทศน์ ตั้งแต่นั้นมาก็เรื่อยมาจนกระทั่งป่านนี้

ทีนี้มันก็สุดยอดเทศน์สนามหลวงสุดแล้วใช่ไหม ที่ไหนก็หมดแหละเข้าถึงสนามหลวง ชาติ นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะรัฐมนตรี ศาสนา พระเป็นพันๆ เต็ม มหากษัตริย์ก็ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์เสด็จ ก็ครบแล้วชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พูดจริงๆ นะไม่มี จะขนาดไหนก็ตามเถอะ จิตมันไม่มีอะไรหวั่น มันครอบโลกธาตุแล้วจะเอาอะไรมาหวั่น คนมามากมายขนาดไหนมันไม่ได้เคยคิด เหมือนอย่างเราคิดแต่ก่อนนะ จะเอาอะไรเทศน์ให้เขาฟังๆ ไม่มีอย่างนั้นนะ

พอขึ้นไปก็กำหนดจิตปั๊บดูปั๊บๆ รอบ ควรจะเทศน์ธรรมะขั้นใดให้ท่านเหล่านี้ฟังเพื่อเป็นประโยชน์ตามกำลังของตนเท่านั้น เรื่องที่ว่าจะเทศน์ได้-ไม่ได้ไม่มีเลย มันก็พลิกกันไปอย่างนั้น เวลาเทศน์ก็เรื่อยเลย สงเคราะห์คน ไม่ได้คิดว่าจะเทศน์ได้-ไม่ได้ไม่มี  อย่างนั้นไม่มี มีแต่สงเคราะห์โลกเท่านั้น ใครมาจำนวนมากน้อยเพียงไรให้ได้ประโยชน์ทั่วถึงกันตามมากตามน้อยผู้มาฟังจะรับไปได้ แน่ะมันก็ไปอย่างนั้นเสีย มันไม่ได้ไปอย่างที่ว่าจะเทศน์ไม่ได้นะ มันพลิกไปอย่างนั้น เป็นเองในจิต

ต่อจากนั้นมาแล้วพูดไม่ได้ละ เทวบุตรเทวดาอินทร์พรหมเทศน์ให้ฟังหมดแล้ว  ทำไมเทศน์ให้มนุษย์ฟังไม่ได้ นั่นเอาละนะที่นี่ ว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเทวบุตรเทวดาอินทร์พรหมหรือ เมื่อไม่เกี่ยวนั้นก็ไม่พูดถึงเฉยๆ เหมือนไม่รู้ไม่ชี้ไม่พบไม่เห็นกันเลย ถ้ามากับมนุษย์ก็พูดเรื่องมนุษย์ ถ้าเวลาเกี่ยวกับพวกเทพนั้นมนุษย์ไม่ยุ่ง เข้าใจไหมล่ะ นี่ละมันเป็นแถวเป็นแนวมา ความรู้ความเห็นการเทศนาว่าการไปตามลำดับลำดาอย่างนี้ละ พวกเทวบุตรเทวดาเขาอยู่ใต้อำนาจของธรรม ธรรมเหนือหมด ทำไมจะเทศน์ให้เขาฟังไม่ได้ โลกุตรธรรมแปลว่าธรรมเหนือโลกแล้ว โลกอยู่ต่ำกว่าธรรม ทำไมธรรมจึงสอนโลกไม่ได้ ธรรมสอนโลกไม่ได้พระพุทธเจ้าก็ตรัสรู้ขึ้นมาสอนโลกไม่ได้ซิ พระพุทธเจ้าสอนเป็นองค์แรกแล้วสอนโลก

ท่านทั้งหลายนิมนต์เรามาหลายครั้งหลายหนให้ฟังเสียนะ มันสมชื่อสมนามไหมเขานิมนต์ไปเทศน์ทั่วประเทศไทย มันสมชื่อสมนามที่ไปเทศน์ให้เขาฟังไหมพิจารณาซิ ตั้งแต่จิตฺเต สงฺกิลิฏฺเฐ ไปเทศน์กินขนมนางเล็ดครึ่งแผ่นไม่หมด มันกลืนไม่ลง นั่นละเริ่มมาตั้งแต่นั้น จากนั้นมาก็เรื่อยๆ ปฏิบัติตัวเข้าไป ปฏิบัติทางด้านจิตใจเข้าไป กิเลสตัณหามันเหมือนขวากเหมือนหนาม เหมือนฟืนเหมือนไฟ มันล้อมรอบหัวใจ เผาหัวใจ

ทีนี้ธรรมก็เป็นตปธรรม น้ำคืออรรถคือธรรมชะล้างลงๆ เหล่านั้นสงบลงๆ ธรรมขึ้นที่นี่นะ ทีนี้ธรรมก็ขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นก็ธรรมจ้า ทีนี้เรื่องที่ว่าสกปรกโสมมอยู่ที่ไหนอยู่ในหัวใจมันออกหมด เหลือแต่ความจ้าภายในหัวใจแล้วกลัวอะไร นั่น แล้วกล้ากับอะไร กลัวกับอะไร เมื่อธรรมเหนือโลกแล้วเรียกว่าโลกุตรธรรม แปลว่าธรรมเหนือโลก แล้วจะกล้าอะไรกลัวอะไร มีแต่ความเมตตาเท่านั้น ไปที่ไหนก็มีแต่ความเมตตา ไม่มีอย่างอื่น

ที่จะว่าเทศน์ได้ ไม่ได้ไอ้โลกกิเลสตัณหาหยาบๆ ส้วมๆ ถานๆ นี้จะมาอวดธรรมได้หรือ ธรรมเหนือนั้นขนาดไหนแล้ว แล้วทำไมจะเทศน์สอนโลกไม่ได้ นั่นมันต่างกันอย่างนั้น ท่านจึงเรียกว่าโลกุตรธรรมแปลว่าธรรมเหนือโลก เหนืออย่างนั้นเอง ไปที่ไหนธรรมเหนือโลกตลอด ไม่มีธรรมว่าจะอยู่ใต้โลก ทำจิตให้เป็นธรรม ธรรมกับใจให้เป็นอันเดียวกันเป็นโลกุตรธรรม ธรรมเหนือโลกไปหมดเลย นั่นเป็นอย่างนั้นละ

(หลวงตามาเขื่อนเทศน์ได้ไพเราะเพราะพริ้ง ผมอยากให้หลวงตาเทศน์แรงๆ กิเลสจะได้หายไปบ้าง) จะให้เทศน์แบบพ่อตากับลูกเขยหรือ พ่อตาตื่นแต่เช้าไปเผาไร่ ส่วนใหญ่เผาเสร็จแล้ว ส่วนย่อยยังไม่เสร็จ ไปเก็บเผาส่วนย่อย ไปตั้งแต่เช้าจนสายกระทั่งตะวันเที่ยง เหลียวมองหาลูกสาวกับลูกเขยว่าเขาจะตามหลังมาตอนเช้ามาทำงานด้วยกัน ที่ไหนได้ฟาดจนตะวันเที่ยงจึงได้สะพายกล่องเข้า(ข้าว) ต้อนแต้นๆ ไป มันโมโหมากที่สุดเลย จะว่าอะไรก็กลัวจะเกินเหตุเกินผล พอลูกสาวกับลูกเขยมาถึงแล้วก็ว่า สูนี่ๆ จะพูดมากกว่านั้นก็ไม่ได้กำลังโมโห พอเห็นหน้าลูกเขยลูกสาวก็ว่า สูนี่ๆ ความหมายก็คือว่าทำไมมันถึงมาสายเอานักหนา กูกำลังจะตายกูหิวข้าว แต่พูดออกไปไม่ได้มันโมโหมาก ก็มีแต่สูนี่ๆ เห็นหมูหมาเป็ดไก่ก็สูนี่ เวลามันหนักเข้ามากๆ มองเห็นอะไรก็มีแต่สูนี่ๆ

เขื่อนนี่ใช้ไปทางไหนบ้าง น้ำเราใช้ไปทางไหนบ้าง (ปล่อยไปลำน้ำพองไหลไปมหาสารคาม แล้วก็ร้อยเอ็ด) เปิดจากนี้ไปทางนู้นทางนี้ได้ประโยชน์หลายทางนะ ก็ดีอยู่เหตุผลของการสร้างเขื่อน ได้ผลประโยชน์อะไรบ้างเราก็อยากทราบ (ปีนี้น้ำเต็มอ่างมาสองปีซ้อนแล้วครับตั้งแต่หลวงตามาน้ำดีมากเลย) โฮ้ พอหลวงตามาน้ำเต็มอ่างพวกนี่น่ามันยังไงกัน พวกสูนี่ พอหลวงตามาน้ำเต็มอ่าง (พอหลวงตามาฝนฟ้าดีใจเลยลงมาเต็มอ่าง) พญานาคก็จะเอามาอีก สูนี่

(พญานาคมาฟังเทศน์จึงได้น้ำดี) เขาจะมาหรือไม่มาไอ้มนุษย์เต็มแผ่นดินไม่เห็นมันมานี่นะ มีแต่พญานาคมันอาจจะไม่มาก็ได้ เพราะมนุษย์มันไม่เห็นมา เราจะเก่งอะไรกว่าเขา เขาไม่มาก็ได้ พอพูดอย่างนี้เราระลึกถึงพ่อแม่ครูจารย์มั่น ท่านอยู่บ้านสามผง ท่านเล่าให้ฟังเอง ชัดเจนมากนะ ท่านกำลังเทศน์สอนพระ พระจำนวนมาก พระที่บ้านสามผงพระตั้ง ๓๐-๔๐ ไปรุมท่านอยู่นั้น พอตกกลางคืนมาสามทุ่มท่านเทศน์ให้พระฟัง เทศน์ไปจิตมันส่งไปปั๊บออกไปนู้นเห็นพญานาคอยู่แม่น้ำสงครามนู่นนะ พาบริษัทบริวารแห่มาขึ้นอยู่ฝั่งเป็นแถว

พญานาคขึ้นเป็นแถวขึ้นมาฟังเทศน์ท่าน ท่านกำลังเทศน์สอนพระอยู่ พวกพญานาคเต็มฝั่งแม่น้ำสงคราม ท่านเล่าให้ฟังเองชัดเจนมาก นู่นเห็นไหมตั้งแต่พวกพญานาคเขาก็มาฟังเทศน์ ท่านเทศน์สอนพระ ทางนู้น.โอ๊ย.ฟังเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงามมาก พวกพญานาคฟังเทศน์หลวงปู่มั่นเรา เพราะใจท่านไม่ได้เหมือนใจเรา จ้าไปหมด มองไปไหนเห็นหมด

พอพูดอย่างนี้ก็มีวันหนึ่งท่านอาจารย์ฝั้น นี่เป็นลูกศิษย์ผู้ใหญ่ของท่านนะ ธรรมดาครูบาอาจารย์องค์ไหนมาซึ่งเป็นลูกศิษย์ผู้ใหญ่ของท่าน เราจะไม่ละสายตาเลย องค์นี้มาท่านปฏิสันถารต้อนรับทั้งภายนอกภายในอย่างไรบ้าง องค์นี้มาท่านปฏิสันถารต้อนรับอย่างไรบ้างๆ เราจะจับให้ได้ทุกองค์ทีเดียว เพราะลูกศิษย์ผู้ใหญ่ของท่านมีเยอะ อย่างท่านอาจารย์ฝั้นลงมาเป็นลำดับลำดา ท่านอาจารย์อ่อนใครต่อใครมา พอดีท่านอาจารย์ฝั้นท่านมีความรู้แปลกๆ ต่างๆ

พอท่านขึ้นไปท่านไปกราบ ทั้งพูดทั้งยิ้มนะ พอกราบลง เออ หอมอะไรแปลกๆ แต่ไม่ใช่ธูป ท่านว่าอย่างนั้นนะ พูดแล้วท่านยิ้ม เออ ใช่แล้ว ท่านตอบกันเท่านั้นนะ พูดเท่านั้นละ เราก็จับเอาไว้ ใช่แล้วมันใช่อะไร คือท่านอาจารย์ฝั้นมานี่พวกรุกขเทพทั้งหลายเต็มหมดมาอยู่แถวนั้น เวลาครูบาอาจารย์มาสนทนาธรรมเทศนาว่าการพวกรุกขเทพน่ะมากเต็มไปหมด มารอฟัง นี่ละที่ท่านอาจารย์ฝั้นท่านว่ามันหอมอะไรน้าแปลกๆ แต่ไม่ใช่ธูป ท่านว่า ทางนั้นท่านตอบรับว่า เออ ใช่แล้ว เห็นไหมท่านตอบใช่แล้ว คือใช่พวกเทพมา

พอได้โอกาสวันหลังโอกาสดีๆ เราก็ไปกราบเรียนถามท่าน ที่พ่อแม่ครูจารย์พูดกับท่านอาจารย์ฝั้น เวลาท่านอาจารย์ฝั้นขึ้นมา มากราบท่านแล้วยิ้มๆ มันหอมอะไรน้า แปลกๆ แต่ไม่ใช่ธูป ท่านว่าอย่างนั้น ไม่ใช่หอมธูป แล้วพ่อแม่ครูจารย์ตอบว่า เออ ใช่แล้ว นั่นมันหมายความว่าอย่างไร โห พวกรุกขเทพมาเต็มหมดเลยมาฟังเทศน์ ท่านฝั้นท่านพูดถึงเรื่องรุกขเทพ ท่านว่าใช่แล้ว ท่านตอบรับ เรายังตาบอดหูหนวกอยู่ จนกระทั่งป่านนี้ยังไม่ลืมนะตา มันคงจะตายไปกับตาบอดแหละ มันคงไม่ตาดีหูดี เอาเท่านั้นละ

(คุณหมอจะมากราบขอขมาหลวงตาที่ได้ล่วงเกินไปครับ) ล่วงเกินอะไร ไปทับหม้อทับไหวัดหลวงตาเหรอ ก็เห็นหม้อไหดีๆ อยู่นี่น่ะ เท่านั้นละ ให้อภัยทั่วโลกดินแดน ไม่ให้มีโทษมีกรรมสำหรับกับหลวงตาไม่ให้มีเลย ให้อภัยทั่วโลกดินแดน

ธรรมลีมาที่นี่ เศรษฐีธรรมนะนี่ องค์นี้ละองค์เศรษฐีธรรมเงียบๆ มหาเศรษฐีธรรมเงียบๆ บวชแล้วติดเราเหมือนปลิงติดขา สลัดไม่ออก ตั้งแต่บวชแล้วติดเราตลอด ไปไหนติดตลอดเลย แต่ผลของแกก็ได้เป็นมหาเศรษฐีธรรมเงียบๆ มีธรรมใครไม่รู้นะ เราเปิดให้เฉยๆ ธรรมดาเราไม่เปิด เห็นเงียบเอาเสียนักหนา มันตายแล้วหรือธรรมลีเลยปลุกขึ้นมาเฉยๆ นี่ธรรมลี เป็นเศรษฐีธรรมเงียบๆ กับเราติดจริงๆ ตั้งแต่บวชแล้วไม่เคยปล่อยเลย ไปไหนติดตามตลอดเลย จนกระทั่งทุกวันนี้ไปไหนก็ติดไปด้วย มาคราวนี้ใครไปนิมนต์ ไม่นิมนต์ก็มาเอง ถ้าเราลงมาแล้วเป็นไม่อยู่บ้าตัวนี้ ไปกรุงเทพฯก็ติดไปด้วย ไปไหนติดไปด้วย นี่ละเศรษฐีธรรม มีธรรมเงียบๆ ใครไม่รู้นะ ถ้าเราไม่เปิดให้ก็ไม่มีใครรู้เลย เราได้เปิดออกเสียบ้าง เศรษฐีธรรม ให้พรนะ

 

รับชมและรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th

สถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน  FM 103.25 MHz

และเครือข่ายทั่วประเทศ

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก