จิตวิญญาณมันเป็นได้ทุกอย่าง
วันที่ 8 มกราคม 2551 เวลา 8:15 น. ความยาว 19.35 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๑

จิตวิญญาณมันเป็นได้ทุกอย่าง

          ปัจจุบันนี้พระกรรมฐานท่านไปเที่ยว ปัจจุบันนี้นะ ท่านก็ไม่รู้อะไร คือท่านไม่สนใจกับอะไร ท่านไปหาภาวนาอย่างเดียว ไปอยู่สองแห่ง พระสององค์ไปด้วยกันไปภาวนา กำหนดไปเท่านั้นคืนเท่านี้คืน จะมาพบกันที่จุดนั้น มีที่พักอยู่จุดกลาง แล้วก็ออกไปภาวนา ไปหาเสาะภาวนา ท่านไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ก็ท่านไปภาวนาธรรมดาท่านจะไปสนใจอะไร ไปภาวนาทนได้สามคืนโดดมา องค์นี้มาก็เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง เปรตอยู่ที่ถ้ำนั่น ท่านไม่รู้แหละเรื่องราวต้นสายปลายเหตุ รู้แต่เหตุการณ์ที่มากระทบท่านอย่างรุนแรงถึงสามคืน ท่านทนได้สามคืน ทนไม่ไหวโดดไปหาเพื่อน เพื่อนไปอีกไปทดลองได้คืนเดียวเปิด นั่นเห็นไหม มันเหมือนกันจะปฏิเสธกันได้อย่างไร ภายในมันก็เหมือนกัน เมื่อไปเจออย่างเดียวกันแล้วมันปฏิเสธไม่ได้

          อย่างที่ว่าพระอัญญตรภิกขุท่านไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ตอนนั้นธรรมะของท่านขั้นสูงจวนจะหลุดพ้นแล้ว พอดีไปถึงใต้ถุนพระคันธกุฎีฝนกระหน่ำลง ขึ้นเฝ้าพระพุทธเจ้าไม่ได้ ท่านก็พิจารณาหยดน้ำที่ตกลงมาจากบนหลังคา ตกมาตั้งเป็นต่อมเป็นฟองขึ้นมาแล้วดับไปๆ ฝนกระทบกันกับข้างล่าง ข้างบน-ข้างล่างน้ำกระทบกัน ท่านก็ดู พิจารณาดูฝนตก ก่อนจะขึ้นไปเฝ้าพระพุทธเจ้าทูลถามปัญหาอะไร ท่านพิจารณาน้ำตั้งขึ้นเป็นตุ่มเป็นฟองแล้วดับไปๆ เลยบรรลุธรรมในเวลานั้น พอบรรลุธรรมแล้วกลับเลย นั่นเห็นไหม จะไปทูลถามพระพุทธเจ้าก็ถามเพื่อกิเลสตัวนี้ ตัวมันขวางทาง พอมันเปิดทางโล่งก็เหมือนกัน ท่านเลยกลับไป ไม่ไปทูลถาม คือของอันเดียวกันเมื่อรู้เห็นอย่างเดียวกันแล้วไปถามกันหาอะไร แน่ะ ก็อย่างนั้นแหละ

          อย่างที่ว่านี่ก็เหมือนกัน พระสององค์ท่านไปภาวนาทนได้สามคืนท่านก็กลับมา มาเล่าเหตุการณ์สู่กันฟัง ท่านไม่รู้เหตุผลต้นปลายอะไร ท่านก็ไปภาวนาธรรมดา แต่มันมีเรื่องของมันอยู่นั้น มันเป็นอีเปรต ไปภาวนาทนได้สามคืนโดดมาแล้วมาเล่าให้เพื่อนฝูงฟัง ให้ไปทดลองดูอีก องค์นี้ทนได้คืนเดียวเปิดเลย เปรตมันมาทำทุกอย่างให้เห็นชัดๆ นี่ละจิตวิญญาณมันเป็นได้ทุกอย่างนั่นละ ให้พากันพิจารณาให้ดี

จิตดวงนี้ไม่เคยสูญ ไม่มีคำว่าสูญ ทุกข์แสนสาหัสก็ยอมรับว่าทุกข์แต่ไม่ยอมสูญ ไม่ยอมสูญยอมสิ้นคือจิตดวงนี้ ถึงที่สุดแล้วก็เป็นธรรมธาตุไปเลย ตั้งแต่ต้นก็หมุนนู้นหมุนนี้เกิดนั้นตายนี้อยู่งั้น พอถึงที่สุดแล้วพับนี้ก็เป็นธรรมธาตุไปเลย ไม่มีสูญ นั่นเป็นอย่างนั้นจิตดวงนี้ สุดท้ายจิตที่บริสุทธิ์นั้นละเป็นธรรมธาตุไปเลย เวลามันมืดมันก็มืด เวลามันสว่างก็สว่าง สว่างถึงขึ้นสุดยอดแล้วก็เป็นธรรมธาตุไปเลย จิตท่านผู้สิ้นกิเลสแล้วเป็นธรรมธาตุไปเลย เป็นตั้งแต่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านก็รู้อยู่ ท่านสิ้นไปแล้วธรรมธาตุนี้ไม่เคลื่อนไหวไปไหน ไม่มี คำว่านิพพานเที่ยงคืออันนี้แหละ คือธรรมธาตุอันนี้ เรียกว่านิพพานเที่ยง นี่จิตไม่สูญเป็นอย่างนั้นละ จนกระทั่งถึงนิพพานแล้วก็เที่ยงเลยไม่สูญ

พูดถึงเรื่องพระท่านนั่งภาวนาแล้วเปรตมากวนท่าน ทนได้สามคืนเปิดมา องค์นี้ไปอีกได้คืนเดียวเปิดมา เหมือนกัน เปรตตัวนี้สาเหตุมันก็มีอยู่ ท่านถามเลียบๆ เคียงๆ ชาวบ้านเขา สถานที่นี่มีอะไรต่ออะไรก็ทราบเหตุ ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังมีท้องอยู่แล้วเห็นผลไม้ไปปีนขึ้น ทั้งๆ ที่มีท้องอยู่นั่นตกลงมาตายไปเป็นเปรต นั่นละเปรตตัวนี้ละที่กวนพระ  ท่านสืบถามไปมาแล้วรู้ว่ามีมาอย่างนั้น ท่านประสบเหตุการณ์แล้วหาอุบายถามญาติโยมเลียบๆ เคียงๆ ถามไปท่านก็เลยจับได้ เป็นเปรต

นี่ละจิตดวงนี้เป็นอย่างนั้นละฟังเอา เป็นเปรตเป็นผี เป็นยักษ์เป็นมาร เป็นสัตว์นรกอเวจี เป็นได้หมดจิตดวงนี้ อำนาจของกรรมดีกรรมชั่วพาให้เป็น ถ้ากรรมดีกรรมชั่วหมดจากใจแล้วเป็นใจที่บริสุทธิ์ ปุญญปาปปหินบุคคล เป็นผู้สิ้นบุญและบาป ละหมดแล้ว บุญไม่มีบาปไม่มีในใจ เป็นธรรมธาตุล้วนๆ นั่นละเรียกว่าจิตบริสุทธิ์ เกิดจากการซักฟอก การภาวนาสำคัญมากชำระจิตใจจนผ่องใส ถึงขั้นอัศจรรย์ตัวเองมีนะจิต เราเป็นเองจะให้ว่าอย่างไร อัศจรรย์จิตตัวเอง

บนเขาวัดดอยธรรมเจดีย์  ตอนเช้ามืดตี ๕ ลงไปเดินจงกรม ทางเดินจงกรมเป็นทางดียาว จิตมันสว่างไสวเอาเสีย แหม อัศจรรย์ ว่างไปหมดโลกอันนี้ มีแต่ความสว่างไสวจ้าอยู่ภายในจิต จิตดวงนั้นละจิตที่ดวงมันสว่างไสวจ้ามันทำให้อัศจรรย์ ก็ไปยืนรำพึงอัศจรรย์ตัวเอง โห จิตเราทำไมอัศจรรย์เอานักหนา ทั้งว่าง จิตดวงนั้นมันจ้าของมันทั้งๆ ที่ยังไม่สิ้นกิเลสนะ แสดงความอัศจรรย์ อัศจรรย์ตัวเองว่าจิตเราทำไมถึงอัศจรรย์เอานักหนา

สักเดี๋ยวพระธรรมก็แสดงขึ้น พออันนี้สงบลง พระธรรมพูดขึ้นเป็นคำๆ นะ พูดขึ้นเหมือนเราพูดสู่กันฟัง พูดอยู่ในจิต ถ้ามีจุดมีต่อมอยู่ที่ไหนนั้นแลคือตัวภพ คือตัวใสๆ ตัวผ่องใสที่ตัวอัศจรรย์นั่นละคือตัวภพ ถ้ามีจุดมีต่อมแห่งผู้รู้อยู่ที่ไหนนั้นแลคือตัวภพ ถ้าหากว่าไปเล่าให้พ่อแม่ครูจารย์ฟังนี่ตอนท่านมีชีวิตอยู่ แต่นี่ท่านล่วงไปแล้ว ถ้าหากว่าเล่าให้ท่านฟังนี้มันจะบรรลุในเดี๋ยวนั้นเลยละ พอว่า “ก็นั่นแล้วตัวนั้น” ท่านจี้เข้าตรงนั้นปั๊บมันเห็นโทษปั๊บสลัดปั๊วะเดียวไปเลย นั่นเรียกว่าบรรลุธรรม

มันติดปัญหาที่วัดดอยธรรมเจดีย์ ไปก็ไปเที่ยวทางนู้นทางไหนลืมแล้ว กลับมาอีกกลับมาที่เก่า มาปลงกันที่นั่นละ จุดต่อมอันนั้นปลงกันขาดสะบั้นไปเลย นี่ละจุดต่อมผู้รู้นั้นละคือตัวภพตัวนี้ตัวพาให้ไปเกิด พออันนี้ขาดสะบั้นลงไปแล้วจะเอาอะไรไปเกิดมันก็รู้อยู่ นั่น เท่านั้นละวันนี้ให้พร

 

รับชมและรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th

และสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน  FM 103.25 MHz

จากเครือข่ายทั่วประเทศ

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก