พระในหลักธรรมชาติ
วันที่ 13 ธันวาคม 2550 เวลา 8:00 น.
สถานที่ : สวนแสงธรรม
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ สวนแสงธรรม กรุงเทพฯ

เมื่อเช้าวันที่ ๑๓ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๐

พระในหลักธรรมชาติ

 

ก่อนจังหัน

(พ่อไม่เคยนับถือพระองค์ไหนครับ) นั่นละพ่อหนาเอามากทีเดียว เดี๋ยวนี้นับถือองค์ไหนบ้างหรือเปล่าละ ถ้าไม่นับอีกหนาเข้าไปอีก ไปไปเตือนกัน ไม่นับถือมาก ลักษณะเหมือนจะหยิ่ง ก็พึ่งจะมานับถือองค์นั้นองค์นี้ เหล่านั้นไม่น่านับถืออาจจะอย่างนั้น ทางนี้ก็สวนหมัด ไปพอ คนไม่นับถือพระ

ผู้นับถือพระก็มีอย่างแบบ พระพาหิยะ พระพุทธเจ้าเสด็จไปบิณฑบาต ตามเลยเชียวตามพระพุทธเจ้า บอกว่าเวลานี้เรากำลังบิณฑบาต ได้ตามก็เอา นั่นละถึงเวลามันพอ พระพุทธเจ้าก็ทรงเล็งญาณทราบแล้ว ตามไปเลยเชียว พระพุทธเจ้าบอกว่ากำลังบิณฑบาต ก็บิณฯไป นี่จะตามก็ตามไป ว่าอย่างนั้น ตามไปเลย พอออกมาจากหมู่บ้านปั๊บธรรมะใส่เข้าปั๊บนี่ ฟาดเสียสำเร็จพระอรหันต์ พระพาหิยะ

นี่ไม่นับถือพระจะมีลักษณะว่าหยิ่งขึ้นอันหนึ่งว่าเรานี้เก่งกว่าพระไป นี่ใส่ปั๊วะเข้าไปเลย เราปฏิบัติหน้าที่ของพระมานานเท่าไร พระพุทธเจ้าเลิศขนาดไหน เราไม่ได้นับถือพระเป็นความเลิศอะไร แน่ะก็ใส่กันตรงนั้นละซี เรื่องนับถือพระไม่ว่าท่านผู้ใดละถ้าไม่น่านับถือไม่นับถือ ไม่น่าเคารพไม่เคารพ หลักการพูดอย่างนั้นเราแยกแยะให้ได้เป็นข้อคิดต่างหาก เรื่องคนนับถือไม่นับถือมองดูปั๊บมันก็รู้ จิตใจเป็นสิทธิของเจ้าของทุกคน ควรจะทุ่มเทไปทางไหนก็รู้

ผู้ที่ไม่นับถือพระก็มีเยอะ ผู้นับถือพระก็อย่างพระพาหิยะ พระพุทธเจ้าเสด็จไปก็ตามไปเรื่อย บอกว่าให้รอก่อนเรากำลังบิณฑบาต เอาบิณฑบาตให้บิณฯไปทางนี้ก็จะตาม เห็นไหมล่ะ พระพุทธเจ้าทรงเล็งญาณดูจิตไว้แล้ว พระพุทธเจ้าไม่เหมือนเรา ก็ได้ตามเสด็จเรื่อยไป บอกว่าท่านกำลังบิณฑบาต เอาบิณฑบาตบิณฯไป ทางนี้ก็จะตามไป พอออกมาเท่านั้นหันหน้ามาปั๊บนี่ใส่ธรรมะสองสามบทเท่านั้นบรรลุเลย เป็นอรหันต์เลยทันที

พอดีไปหาบริขารมาบวชยังไม่ได้ วัวแม่ลูกอ่อนขวิดตาย เกิดความสงสัยกันขึ้น ท่านตายเสียยังไม่ได้บวชนี้จะควรเรียกเป็นพระไหม นี่พระในหลักธรรมชาติ แน่ะพระพุทธเจ้ารับสั่ง การบวชอันนั้นๆ เป็นสมมุติประเพณีอันหนึ่งพอให้โลกรู้ทั่วถึงกันว่าเป็นชีวิตในนักบวชหรือไม่นักบวช อันนี้เป็นพระธรรมชาติแล้ว คือสำเร็จอรหันต์แล้วจะเป็นอะไร อะไรจะเลยนั้นไปไม่มี

อันนี้เรื่องราวก็ยืดยาวแต่เราไม่เอามามาก เอาย่นเข้ามาพูดเท่านี้ละ ถึงวาระสุดท้าย ถึงกาลเวลาที่จะได้บรรลุธรรมแล้วพระพุทธเจ้าเสด็จบิณฑบาต ตามไป บอกว่าเรากำลังรับบิณฑบาต เอาให้รับไป ความหมายเราว่าอย่างนั้น ทางนี้ก็จะตาม พอบิณฑบาตเสร็จแล้วหันพระพักตร์มาก็พูดสองสามประโยชน์บรรลุธรรมปึ๋งเลย คือมันถึงกาลแล้ว พระพุทธเจ้าทรงเล็งญาณทราบทุกระยะ

คนนับถือพระหรือไม่นับถือพระแม้แต่เราเองก็เป็นจะไปตำหนิเขาได้อย่างไร ไม่น่านับถือไม่นับถือ แม้แต่อยู่ในวัดยังขับหนีจะว่าอย่างไร นอกจากไม่นับถือแล้วยังขับออกจากวัดอีก ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เป็นเครื่องใช้ผิดถูกประการใดมันก็รู้ นี่ที่ว่าไม่ได้บวชแต่เป็นพระในหลักธรรมชาติที่พระองค์ทรงยืนยันรับรองทันที นี่คือพระธรรมชาติ เป็นพระโดยสมบูรณ์แล้ว นี่เป็นพระธรรมชาติพระพาหิยะ จะควรก่อเจดีย์อะไรเป็นที่เคารพนับถืออย่างไร สมควรอย่างไรหรือไม่เพราะยังไม่ได้บวช ความหมายว่าอย่างนั้น นี่ละพระธรรมชาติ เอาพอแล้ว ท่านว่าอย่างนั้น

พระที่ตั้งแต่บวชมาบิณฑบาตฉันไม่เคยอิ่มเลยมี พอวันนั้นได้ทราบเพราะเรื่องราวดังไปนานแล้ว พระสารีบุตร-โมคคัลลาน์มาเอง เตรียมของใส่บาตรเลย เต็มมาเลยมา มาก็ถามว่าเป็นอย่างไรได้ทราบว่าท่านฉันจังหันไม่อิ่มอาหารหมดก่อนใช่ไหม ใช่ ยอมรับ เพราะเหตุไร ไม่มีคนใส่บาตรไม่พอเหรอ หรือไม่มีคนทำบุญให้ทานเหรอ มีเหมือนทั่วๆไป แต่เวลามันจะมาฉันนี้ของในบาตรนี้หมด ยังไม่อิ่มหมด นี่ละฤทธิ์อำนาจของธรรมใครอย่าไปคาดนะ

เพราะฉะนั้นจึงว่าธรรมเหนือโลก เหนือทุกอย่าง เกินทุกสิ่งทุกอย่างที่ใครจะไปคาดไปคิดเอามาตามความเห็นของตนไม่ได้ธรรม ไม่อย่างนั้นไม่เรียกว่าโลกุตรธรรม แปลว่าธรรมเหนือโลก คือเหนือทุกอย่าง ใครจะไปวินิจฉัยใคร่ครวญอะไรนี้ไม่ได้ผลทั้งนั้น เป็นไปหลักธรรมชาติของธรรม อย่างที่ว่านี่แหละ บิณฑบาตไปที่ไหนใครก็ใส่ให้ๆ เวลาไปบิณฑบาตบางทีให้ไปข้างหน้า ดลบันดาลให้เขาไม่เห็นเสีย มาตรงกลางเหมือนกัน สุดท้ายก็ยิ่งแล้ว ตั้งแต่บวชมาฉันจังหันไม่เคยอิ่ม ใครใส่ให้เท่าไรพอจะฉันค่อยหมดไปๆ หมดไปเลยไม่อิ่ม

เรื่องก็ดังไปถึงนู่นละพระสารีบุตร-โมคคัลลาน์ เตรียมของใส่บาตรมาเลยมาดูด้วยตาตัวเอง ว่าอย่างนั้นเถอะ มาก็มาซักถามเรื่องราว เป็นอย่างไรได้ทราบว่าท่านจังหันไม่เคยอิ่มเลยวันหนึ่งๆ นี่ใช่ไหม ใช่ เพราะอะไร ไม่มีคนใส่บาตรเหรอ มี เรื่องใส่บาตรเต็มบาตรก็ตาม ฉันไปๆ ไม่ทราบว่าหายไปไหน ทีนี้ยังไม่อิ่มข้าวหมดแล้ว วันนั้นท่านก็เตรียมของใส่บาตรมาเลย ทั้งพระสารีบุตร-โมคคัลลาน์เตรียมของใส่บาตรมาเต็มเหนี่ยวเลย มาก็จัดของใส่บาตร พอจัดเสร็จแล้วเอาวันนี้ให้ท่านฉัน พระสารีบุตรจับขอบปากบาตรไว้ ถ้าปล่อยขอบปากบาตรมันจะหมดอาหาร ให้จับขอบปากบาตรไว้ เอาให้ฉันให้อิ่ม ฉันอิ่ม อิ่มวันนั้นตายวันนั้นเลย อิ่มแล้วตายเลย เอ้อมันกรรมจริงๆ นะ ไม่เคยอิ่มเลย อิ่มแล้วตายเลย

นี่ละเรื่องอำนาจของกรรมของธรรมเป็นอย่างนั้นละ ใครจะไปวินิจฉัยไม่ได้นะ

 

รับชมและรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th

และสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน  FM 103.25 MHz

และเครือข่ายทั่วประเทศ

 

 

 

 

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก