เทศน์อบรมฆราวาส ณ สวนแสงธรรม กรุงเทพฯ
เมื่อเช้าวันที่ ๖ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๐
สำคัญอำนาจจิตท่านอาจารย์ฝั้น
เราถนัดใจที่เราทำประโยชน์ให้โลก เราไม่เอาอะไรเลย เราไม่เอาเลย ทำประโยชน์ให้โลกทั้งหมดเลย นับแต่ทองคำลงมาตลอด อย่างจตุปัจจัยออกหมดเลย เราไม่เก็บไม่เอา แบตลอด กวาดออกๆ ด้วยความเมตตา เราไม่เอาอะไร เราพอ พอในหัวใจดวงเดียวนี้หมด ปล่อยหมดโดยสิ้นเชิง ไม่เอาอะไรเลย ทั้งตัวนี้ดีดดิ้นเหมือนคนจะตายนะดีดดิ้น สุดท้ายก็ดีดดิ้นเพื่อโลก ไม่ใช่เพื่อเรา มีเท่าไรๆ เหล่านี้ออกหมดเลยละ ออกเพื่อโลก เราไม่เอา ไม่เคยมีคิดเลยว่าจะเอาอะไรในโลกทั้งสาม ไม่คิด แต่ทำอยู่อย่างนี้ตลอดเวลา
เฉพาะตานี้ตั้งเท่าไร ๑๖๐ ล้าน สำหรับโรงพยาบาลศูนย์อุดรนี่พอหมดเลยตา เราให้ครบ นอกนั้นก็ขาดๆ เขินๆ เฉลี่ยทั่วไปหมด แต่สำหรับอุดรอยู่ใกล้เดี๋ยวเข้ามาขอ เดี๋ยวเข้ามาขอ ทางนี้ก็ให้ๆ อุดรเลยมากกว่าเพื่อน ดูจะครบตา..อุดร สุดท้ายนี่ ๕ ล้านเงียบไปเลย พอให้ ๕ ล้านแล้วเงียบ เปิดเลย อุดรเปิด เปิดให้หมดเลย สุดท้ายมาขออีก ๕ ล้านให้เลย..ตา ศูนย์ดวงตาอุดรครบ ไปโรงพยาบาลศูนย์อุดรไปทีไรแน่นๆ ดูว่าตาที่มากกว่าเพื่อน คือคนไข้มาเป็นจุดๆๆ เข้ามา จุดดวงตานี้แน่นตลอด แล้วก็ให้มากที่สุด สำหรับตานี่อุดรเราก็บอกว่าให้ครบ ค่อนข้างจะครบ เพราะเราเปิดแล้วให้หมด เลยเงียบ ครั้งสุดท้ายมาขอไป ๕ ล้านเงียบไป
เราพอใจที่ได้ช่วยโลกเต็มกำลังของเรา ในชาติแห่งความเป็นพระนี้เรียกว่าช่วยเต็มเหนี่ยวเลย ทุกอย่างขนเข้านะไม่ใช่ขนออก ขนเข้าทางคลังหลวงก็เข้า ทางประชาชนทั่วประเทศไปหมดเลย ไม่ว่าอะไร โรงพยาบาลรู้สึกจะเป็นอันดับหนึ่งนะ โรงพยาบาลนี้มากทั่วประเทศ คือทุกภาคโรงพยาบาลนะ ช่วยโลกรู้สึกจะเป็นโรงพยาบาลละมากกว่าเพื่อน โรงพยาบาลมันพิสดารมาก มันเครื่องมือแพทย์บ้าง พวกตึกพวกอะไร พวกรถพวกรา ไปที่ไหนบริจาคโดย บริจาคโดย โดยอาจารย์มหาบัว รถผ่านไปผ่านมาที่ไหนเห็นหมด คนนั้นไปขออะไรๆ ก็เรามีแต่ออกทั้งนั้นละจนไม่มีจะให้ มีเท่าไรออกหมดเลย
บางทีไปก็อย่างที่ผ่านมาโนนสะอาด โรงพยาบาลเล็กๆ เท่ากำปั้นบทเวลาตึกเท่าภูเขา เขียนหลวงตามหาบัว ดูโรงพยาบาลเท่ากำปั้นบทตึกในโรงพยาบาลเท่าภูเขา เขียนหลวงตา มหาบัว แน่ะ มันออกหมดจริงๆ ไม่เหลือสำหรับเรา พี่น้องทั้งหลายทราบเถอะ ไม่เอาอะไรเลย มีแต่ช่วยตลอดเวลาช่วยโลกตลอดเวลา เราไม่มีอะไรจะเอา ถ้าว่าหาก็ดูซินี่ ตอนเช้าเห็นไหมอาหารหลั่งไหล กินให้ตายตายไม่ได้กลับอุดร หมดวัด พระมากี่องค์นี่ พี่น้องที่มาเลี้ยงนี่พระนี้ตายหมดไม่ได้กลับอุดรละ มันท้องป่อง จากป่องมันก็แตก ก็อย่างนั้น ไม่ขาดไม่เขิน ผู้อดอยากขาดเขินจะเป็นจะตายมี นั่นอย่างนั้นเราคิดทั่วไปหมดนะ เราไม่ได้คิดเฉพาะๆ คิดทั่วไปหมด คำว่าจิตนี่เสมอภาคเลย หนักคนนั้นเบาคนนี้ก็ไม่เห็นมี มันเสมอหมดด้วยความเมตตาครอบหมดเลย
สำหรับวัดป่าบ้านตาดแล้วไม่มีเก็บ มีเท่าไรออกหมดเลย ไม่ว่าจตุปัจจัยไทยทานต่างๆ เรียกว่าของที่เกิดขึ้นมาในวัดป่าบ้านตาดไหลเข้าแล้วก็ไหลออกเรื่อย เราไม่เก็บ คิดถึงผู้ที่ลำบากลำบนที่เข้ามาติดต่อขอจากความจำเป็นนี้มีมากต่อมากให้หมดเลย ทางฝ่ายฆราวาสพวกไทยทานทางฝ่ายฆราวาสแจก ทางฝ่ายพระวัดไหนบกพร่องแจกๆๆ หมดเลย ได้ช่วยเต็มกำลัง ชาตินี้เรียกว่าไม่บกพร่องการเสียสละ มีเท่าไรหมดจะเอาอะไรมาบกพร่องในการเสียสละ มีเท่าไรออกหมดๆ มันบกพร่องตรงไหนการเสียสละด้วยน้ำใจของเรา ไม่บกพร่อง จตุปัจจัยไทยทานมีมากน้อยกระจายออกๆ
วัดป่าบ้านตาดพูดได้เลยเต็มปากว่าไม่มีอะไรที่จะเก็บสั่งสม ไม่มี มีแต่ออกตลอดรอบด้านเลยนะ ออกรอบด้าน เงินที่ให้กับโรงพยาบาลเกี่ยวกับตาทั้งหมด ๑๘ โรงพยาบาล รวมเป็นเงินทั้งหมด ๑๖๐ ล้าน ๕ แสนบาท เงินวัดป่าบ้านตาดถ้าจะเก็บเราไม่อยากว่าพันล้านนะ เงินวัดป่าบ้านตาด ถ้าว่าหมื่นๆ ล้านขึ้นไปเห็นด้วย เพราะออกหมด ที่เขาถวายมาสักเท่าไรๆ ออกหมดตามที่ว่า ไม่หยุด ออก จากพันล้านเรายังไม่อยากพูดนะเงินที่เข้ามาหาเรานี่นะ ถ้าว่าหมื่นๆ ล้านขึ้นไปเห็นด้วย เพราะจ่ายตลอด คือมาเท่าไรออกหมดเลย ไม่ได้มีเก็บ วัดป่าบ้านตาดไม่มีเก็บ
ยังเหลืออยู่ธนาคารที่เป็นเช็คนั่นละ ที่มันเป็นเงินสดในธนาคารไม่มี แต่เรื่องเป็นเช็คน่ะมี เขาถวายเช็คเอาเช็คเข้าธนาคารๆ เวลาจำเป็นก็ถอนออกมา ถอนออกไปหมดเลย นี่ที่เข้าธนาคารเข้าเฉพาะเช็ค เงินสดไม่เคยมีเข้าแม้บาทหนึ่งไม่มี จ่ายในวัดมันก็ไม่พอเงินสด เขาถวายเช็คมาก็เอาเช็คเข้าธนาคารๆ เสร็จแล้วก็ไปถอนออกมาช่วยไปหมด เวลาเราตายนี้เงินในธนาคาร เราก็ไม่กำหนดกับมันเงิน นี่ละอย่างเช็คนี่เขาเอามาก็เข้าธนาคารๆ เวลาเราจะตาย มันจะมีอยู่ แต่มีเพื่อให้ ไม่ใช่มีเพื่อเก็บนะ ก็จ่ายมาเรื่อยๆ เราตายมันยังมีเหลืออยู่ก็มีเหลือ แต่เหลือเพื่อให้
ไม่ได้เป็นดังที่ลานโพธิ์ลานผีโจมตีท่าน เรากระเทือนใจมากนะ ท่านอาจารย์ฝั้นมีเงินอยู่หนึ่งล้านห้าแสนบาท เขาโจมตีอยู่โรงโพธิ์โรงผีนี่ละ เราไม่ได้ลืมนะ จนสมเด็จพระมุนีวงศ์ วัดนรนารถนี่ท่านไม่มีที่ไหนที่จะต้องปรึกษาความคิดเห็น แต่เราเท่านั้นจะรู้เรื่องเหล่านี้ ขึ้นรถบึ่งไปเลย พอดีตอนบ่ายเรากำลังจะออกไป รถบึ่งเข้ามาเห็นเปิดไฟพาบเลย รถคันนี้จะมีอะไร เอาหลีกทางนี้ เราจอดทางนี้ รถคันนั้นจะจอดทางนั้น เห็นรถของเรารู้แล้วว่ารถของเราออก ท่านเปิดไฟพาบ จะไปไหน ไปไหนก็ไปแล้วไม่ใช่คนตาย สมเด็จกับเราทั้งเคารพทั้งสนิทกันนะ สมเด็จมหามุนีวงศ์ วัดนรนารถ ทั้งเคารพทั้งสนิทกัน ไปไหนก็ไปไม่ใช่คนตาย ตอบอย่างนั้น
ท่านก็ว่านี่เขากำลังโจมตีท่านอาจารย์ฟั่นของเราว่ามีเงินอยู่ล้านห้าแสนบาท เขากำลังโจมตีอยู่ลานโพธิ์ลานผี เออทีนี้เข้าใจกัน เราก็ชี้แจงทันทีเพราะเราเรารู้หมด เงินล้านห้าแสนนี้มอบตรงนั้น แต่ก่อนเราจำได้นะที่นะ ห้าแสนนี้มอบตรงนั้น ห้าแสนนี้มอบตรงนี้ หมด แล้วเอาอะไรมาโจมตีอีก มันก็มีเท่านี้บอกชัดๆ เช่นโรงพยาบาล วัดไหนห้าแสน อีกวัดหนึ่งห้าแสน โรงพยาบาล ล้านห้าแสนหมด นี่ละไป ไปชี้แจงลานโพธิ์ลานผีนะ มันเอาโคตรไหนมาโจมตีพระนี่น่ะ เราก็ว่าอย่างนั้น
เอาพูดจริงๆ นี่ไม่เหมือนใคร ไม่เคยสะทกสะท้านกับสิ่งใดในสามแดนโลกธาตุ เราไม่เคยมี กล้าก็ไม่มี กลัวก็ไม่มี ธรรมเหนือโลก พูดออกมาได้อย่างจริงจัง อย่างที่ไปโจมตี มันโจมตีหาสมบัติอะไร ไม่ได้เหตุได้ผลไปโจมตีเอาเลย นี้แจงความจริงออกมาเลยเงียบเลย มันตายหมดโคตรมันแล้วก็ไม่รู้ ไอ้พวกไปฟ้องท่านอาจารย์ฝั้น อย่างนั้น ท่านเก็บอะไรท่านอาจารย์ฝั้น จะหาพระที่ไหนน่าเคารพบูชาเหมือนท่านอาจารย์ฝั้นเรานะ เรากราบบูชาท่าน ท่านกับเรานี้ท่านเมตตาเรามากนะ แต่เรามักจะเป็นฝ่ายโจมตีท่าน ท่านไม่ได้มีอะไรกับเรา มีแต่เหอๆ ไอ้เราโจมตีเรื่อย แต่ท่านก็รักนะรักเรา
เอออันนี้แปลกอยู่นะ อำนาจใจท่าน คือตอนเช้านี้เราจะออกเดินทางมาจากวัดดงสีชมพู จะมาบ้านตาด วันหลังเราจะไปทอดผ้าป่าถวายจักรด้วย ให้วัดหนองกอง พอดีกลางคืนฝนตก ตกพิลึกนะ เดือนอ้ายเดือนยี่ไม่เคยเห็นฝน น้ำท่วมหมดเลย ท้องนาขาวเปี๊ยะเทียว รถมามันไปไม่ได้ที่จะไปรับเรา ท่านตายตอนค่ำ ฝนตกกลางคืน ตกเหมือนเดือนเก้าเดือนสิบ เหมือนหน้าฝน น้ำท่วมทุ่งหมดเลย ไปไม่ได้ ให้เอารถมา ท่านทุยละเป็นตัวการ เราเชื่อท่านทุยทำอะไรจริงจังมากนะ ตอนเช้าท่านก็บึ่งไปเลย เพราะได้รับคำสั่งจากเรา ท่านก็บึ่งไปรออยู่บ้านนาขาม
ไปให้สั่งว่ารถคันที่จะมารับเรานี้นะ..เพราะตอนก่อนนั้นฝนไม่ตก เอารถเก๋งมา รถจะมารับเรานี้จะเป็นรถเก๋งนะ นี่น้ำนี้มาไม่ได้แล้วรถเก๋ง ให้ท่านไปติดต่อรถที่บ้านนาขาม เอารถสองแถวหรือหกล้อก็ได้แล้วบุกน้ำได้ รถเก๋งมาไม่ได้ ท่านทุยท่านก็ไป ไปสั่งนะ นี่อำนาจจิตของท่านอาจารย์ฝั้นไม่ใช่เล่นๆ นะ พอไปสั่งกลับตาลปัตรเลยนะ พอไปสั่งท่านทุยเองเราเชื่อ ท่านทุยจริงจังมากนะไม่ใช่ธรรมดา ถ้ายิ่งกับเราด้วยแล้วยิ่งเคารพมากจริงจังมาก
พอไปปั๊บท่านก็สั่ง สั่งโยมอุปัฏฐากท่าน บ้านโยมอุปัฏฐากท่านมีรถสองคัน ไปท่านก็สั่ง รถเก๋งที่จะมารับท่านอาจารย์อยู่วัดดงสีชมพู จะไปรถอื่นใดไปไม่ได้ รถเก๋งที่จะมารับท่านไปไม่ได้เลย น้ำท่วมหมด ให้เอารถของเรา รถในบ้านของเรานี้รถสองแถวหรือรถหกล้อ เขามีรถสองแถวรถหกล้อ ให้ไปรับท่านอาจารย์มาขึ้นรถ รถเราไปรับท่านอาจารย์มาขึ้นรถที่บ้านเรานี่ รถเก๋งมาจะมารออยู่ที่นี่ ท่านสั่งเสียเรียบร้อยแล้ว ท่านก็มา บอกชัดเจนว่าให้เอารถที่บ้านเราไปรับท่านอาจารย์มาแล้วค่อยมาขึ้นรถเก๋งกลับวัด
พอไปถึงวัดกลับตาลปัตร พอรถเก๋งมาถึงรถเก๋งให้รออยู่ที่นี่นะท่านอาจารย์จะเดินทางมาเอง ฟังซิมันฟังได้ไหม ให้มาสั่งๆ ให้รถเก๋งรออยู่นี้ ก็รถมันไปไม่ได้แล้วสั่งไม่สั่งเป็นอะไรไปใช่ไหม บอกว่ารถเก๋งมาให้รออยู่นี้แล้วท่านอาจารย์จะเดินทางมาเอง มาก็พอดีรถเก๋งมาไม่ได้จริงๆ รถสองคันนี้ก็ไม่ไป ฟังซิน่ะ ให้เอารถในบ้านของเราสองคันคันใดก็ได้แล้วไปรับท่านอาจารย์มาขึ้นรถเก๋งกลับวัด ครั้นมาแล้วท่านอาจารย์จะเดินทางไปไหนไม่จำเป็นต้องไป รถเก๋งให้จอดที่นี่ ฟังซิน่ะ
คนขับรถเก๋งเขาก็เดินสะเปะสะปะดูว่ารถมันจะไปไม่ได้เหรอ เขาสังเกตดู ใช่ไปไม่ได้แล้ว พอเข้าไปถึงแล้วมาอะไรล่ะ มันเป็นภาษานี้ด้วยนะ มันมาอะไรมารับคนทั้งขี้มันจะไปได้เหรอ รถมีทำไมไม่มา ทางฆราวาสเขาบอกไม่ให้มา รถเก๋งมาแล้วจะรอนู่นหรือว่าท่านอาจารย์จะเดินทางมาเอง เหอ ขึ้นเลย ท่านทุยนะ ขึ้นเหอ ตายกูตาย ไม่ได้สั่งว่าอย่างนั้น ท่านก็บอกชัดเจนนะบอกอย่างที่ว่า ให้เอารถที่บ้านเขามารับเราไปขึ้นรถเก๋งที่บ้านเขานั่นแหละ มันไม่ได้เป็นอย่างนั้น ท่านอาจารย์เดินทางมาเอง ทางนี้ก็เหอขึ้นเลย กูตายทำไมเป็นอย่างนี้ จีวรปลิวเลยท่านทุย ไม่ใช่เดินธรรมดาเหมือนอย่างวิ่งแข่ง
ไปถึงรถนั่นละทีนี้บันดาล ท่านอาจารย์ฝั้นตาย มันบันดาลอย่างนี้ละ ไม่ใช่เขาแกล้งเป็นนะ มันหากเป็นในจิตนั่นแหละ ให้สำคัญผิดไป ท่านทุยก็จีวรปลิวไปเลยเชียว พอไปถึงบ้านรถในบ้านนั้นมีรถ ๗ คัน รถเจ้าของบ้านมี ๒ คัน ไม่มีรถสักคันเลยนะ เงียบ จนบ่ายสองโมง ท่านไปแต่เช้าแล้วไปสั่งรถแล้วกลับมาวัด ทีนี้รถเก๋งเขามาจะมารับเรา เดินสะเปะสะปะเข้าไป ไปถาม บอกว่าท่านจะเดินทางมาเอง นั่นละมันพลิกตาลปัตร ก็ไป รถไม่มีสักคันจนกระทั่งบ่ายสองโมงจึงมีรถสองแถวเป๊ะป๊ะๆ เข้าไปคันหนึ่ง ก็ลากเอารถสองแถวนี้ไปหาเรา รถก็รถธรรมดารถดีๆ
พอไปถึงนั้นแล้วติดเครื่องรถไม่ติด ทำไมมันเป็นอย่างนี้ รถมันทำไมมันมาได้ แล้วเวลามันจะออกมันทำไมมันออกไม่ได้ เป็นเพราะเหตุไร ก็รถคันเก่า มันดีหรือมันเสียหายตรงไหน ไม่มีเสียหาย ปรกติ นี่ทำไมเป็นอย่างนี้ คือท่านเอียนไปจากกรุงเทพฯ ไปฉันจังหันที่บ้านตังล้ง อุดร ไปได้ทราบข่าวจากสกลนครมาอุดรว่าท่านอาจารย์ฝั้นเสียแล้วเมื่อคืนนี้ ท่านเอียนเดินทางจากนี้ไปวัดดงสีชมพู ทางนั้นก็รอจ้ออยู่มาเมื่อไร พอท่านเอียนลงรถวิ่งเข้ามาหาเรา รถเราเครื่องมันไม่ติดที่จะมาอุดร ไม่ได้ว่าจะไปวัดอุดมสมพร พอท่านเอียนลงจากรถวิ่งเข้ามาหาเรา บอกว่าท่านอาจารย์ฝั้นเสียแล้วเมื่อคืนนี้เวลา ๖ โมง ๕๐ นาที
อ๋อเรื่องมันเป็นอย่างนี้มันถึงเป็น เพราะเราออกปากพูดเสียก่อนรถเครื่องมันไม่ติดๆ นี่จะเกิดเรื่องอะไรแล้วคอยฟังนะวันนี้ มีเรื่องแน่ๆ ก็พอดีเรื่องท่านอาจารย์ฝั้นมา พอท่านเอียนลงรถมาหาเราบอกปั๊บคำเดียว เออเอาล่ะทีนี้เครื่องมันไม่ติดเหยียบคันเร่งเลย เราก็ว่าอย่างนี้เลย มันไม่ติดเพราะอันนี้เอง เอา..เอาเหยียบคันเร่งเลย ไม่ต้องติดเครื่อง พอติดเครื่องปึ๊บไปเลย ไปก็ออก ไปวัดอุดมสมพร ทางนู้นก็รอเราอยู่แล้ว แน่ะก็อย่างนั้นละก็รอเรา ทำอะไรๆก็ยังทำไม่ลง คอยฟังท่านมหาบัวมาเสียก่อน ท่านสั่งเสียอะไรแล้วค่อยจัดนะ เราไปเราก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็สั่งนั้นสั่งนี้เสร็จแล้วเราถึงกลับจากพรรณนาไปอุดร ตื่นเช้ามาก็ไปบ้านหนองกอง
นี่ละเรื่องราวท่านอาจารย์ฝั้นมาบันดาลไม่ให้รถติด ติดปึบๆๆ ดับพุบๆๆ จนกระเทือนใจถึง ๓ ครั้ง เราบอกนี่มันจะเกิดเหตุแน่นอนนะ คอยฟังเหตุการณ์จะมาวันนี้ เราว่าอย่างนั้น พูดชัดๆ ละออกป้างๆ เลย ก็พอดีท่านเอียนไปก็เอาเหตุการณ์ไปบอก ทีนี้ก็บอกว่าไม่ต้องติดเครื่อง เหยียบคันเร่งเลย มีเรื่องดีนี่แหละ ท่านอาจารย์ฝั้น เพราะท่านเมตตามากนะกับเราท่านอาจารย์ฝั้น นั่นละเรื่องราวเราก็บึ่งไปวัดอุดมสมพร ไปสั่งเสียอะไรเสร็จเรียบร้อย ทางนู้นก็รอเราอยู่แล้วอีกแหละ ไปสั่งเสียอะไรเรียบร้อยก็กลับอุดร นี่เรื่องราวท่านอาจารย์ฝั้น
สุดท้ายเจดีย์เห็นไหมเจดีย์ท่าน ท่านเราก็ปัดตั้งแต่ต้นเลย เอาใครจะเป็นประธานสร้างเจดีย์ท่านอาจารย์ฝั้นก็ให้เป็นเสีย เราได้เป็นประธานสร้างพิพิธภัณฑ์พ่อแม่ครูอาจารย์มั่นแล้ว เราไม่เป็นล่ะ ลำบากเหนื่อยมากแล้ว ประชุมกันเท่าไร ๓ ปี เอาคนไหนเป็นประธานโจมตีกันแหลก เอาองค์นี้เป็นประธานเอาใครเป็นประธานโจมตีกันแหลกได้ ๓ ปี ปีที่ ๓ มีคณะกรรมการมาประชุม ๕ คนหมดหวัง เอาล่ะนะทีนี้ เพราะเราปัดแล้วเราไม่เอา ปีที่ ๓ มีคณะกรรมการมาประชุมที่จะสร้างเจดีย์ ๕ คนหมดหวัง
ยกขบวนเลยเชียว หมดหวัง เราจะไปไหนเอาว่าดูซิน่ะ ถ้าไม่ไปหาอาจารย์มหาบัวจะไปไหน แน่ะเอาละนะ ท่านสุวัจน์เป็นหัวหน้า ก็มีเท่านั้นละที่เจดีย์ท่านอาจารย์มั่นจะขึ้น มีผู้เดียว นอกนั้นไม่มี ๓ ปีแล้วไม่ได้เรื่อง ก็ยกทัพเอาผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้กำกับการตำรวจจังหวัดสกลนคร พร้อมทั้งประชาชนญาติโยมผู้มีเกียรติทั้งหลายยกขบวนไปเลย มีท่านสุวัจน์เป็นหัวหน้าไป ก็ไปเล่าความสุดๆสิ้นๆให้เราฟัง ทีนี้เราก็เคารพท่านอาจารย์ฝั้นอยู่แล้วจะทำอย่างไร ทีแรกเราบอกเราไม่รับเป็นประธาน เมื่อไปพูดเรื่องสุดๆสิ้นๆให้ฟังจำเป็น เราก็รับเพราะความเคารพท่าน เอารับก็ว่าอย่างนั้นละ จะทำอย่างไร พอว่าเท่านั้นออกมากระเทือนหมด พึบขึ้นเลย ก็อย่างนั้นแหละท่านอาจารย์ฝั้นกับเราเกี่ยวกันมากอยู่นะ ท่านเมตตามาก
พูดถึงเรื่องกำลังจิตนี่ท่านอาจารย์ฝั้นนะ กำลังจิตสำคัญ ท่านพ่อลีองค์หนึ่งที่พลังจิตแรง แล้วท่านอาจารย์ฝั้นองค์หนึ่ง ท่านอาจารย์ฝั้นท่านพูดเองนะ เขานิมนต์ท่านขึ้นเครื่องบิน คือเขามารับจ้าง ๒ นาทีต่อ ๔๒ บาท เขาให้คนมาขึ้นเครื่องบินอยู่ที่สกลนครปีมาเผาศพพ่อแม่ครูอาจารย์มั่น เขาเอาเครื่องบินมารรับจ้างให้คนขึ้น ๒ นาทีต่อเงิน ๔๒ บาท คนนั้นขึ้นคนนี้ขึ้น ใครก็ขึ้น เขานิมนต์ท่านอาจารย์ฝั้นไปขึ้น นี่เหตุก็ได้ทราบชัดต่อปากต่อคำกัน ท่านว่าเขานิมนต์ขึ้นเลยละ ไม่ต้องจ้างต้องอะไร ขึ้นฟาดนู่นร้อยเอ็ด อุบล ไม่ใช่ธรรมดานะ ขึ้นเที่ยวเฉยๆ ขึ้นแห่งละ ๒ นาที ๒ นาที แต่ท่านอาจารย์ฝั้นร่วมชั่วโมง ออกจากสนามบินนี้ก็ไปหมด ร้อยเอ็ด สารคาม อุบล มาหมดเลย
ทีนี้ท่านมาเล่าให้ฟังเรื่องเครื่องบินนะ เราได้ระวังจิตเรา ท่านว่า คือเราจะดูผ่านๆ ธรรมดาๆ ถ้าจ่อไม่ได้ เครื่องบินจะตกตายทั้งเขาทั้งเรา กำลังจิตของท่านแรงท่านเล่าให้ฟัง เวลาขึ้นเครื่องบินไปนี้ท่านจะส่งจิตนี้ท่านจะส่งผ่านธรรมดา ท่านว่า คืออย่างดูทางนั้นทางนี้ทั่วไปหมด ทีนี้ถ้าผ่านเข้ามาเครื่องบินนี้ไม่จ่อ ท่านว่าอย่างนั้นนะ ต้องผ่านธรรมดาไป ถ้าจ่อแล้วพัง ตายทั้งเขาทั้งเรา นี่ท่านพูดเองนะ พลังจิตของท่านแรงมากนะ รถวิ่งไปนี้ให้หยุดกึ๊กๆ เลย นั่นพลังจิตของท่าน เพราะฉะนั้นเวลาจ่อเข้าไปเครื่องมันจะพาพังลงสนามบิน ท่านจึงต้องผ่านธรรมดา ไม่เช่นนั้นจะพังทั้งเขาทั้งเรา ท่านพูดเอง นี่ละพลังจิตของท่าน
เรายกตัวอย่างอีกทีนะ ตอนจะเผาศพพ่อแม่ครูอาจารย์มั่น พวกญาติโยมก็มีเยอะ พระเณรก็มาช่วยกันสานขัดแตะจะทำแผงกั้นห้องๆ ให้คนเข้ามาในงาน พอดีท่านก็เป็นหัวหน้า ก็พอดีมีผู้หญิงกำลังคึกคะนอง ขี่จักรยานสะเปะสะปะมานี่ละ ไม่ดูหน้าดูหลังคึกคะนอง มาใกล้ๆ พระนี่ ท่านก็ชะเง้อขึ้น เอามาอย่างไรเด็กเหล่านี้น่ะมันไม่รู้จักบาปจักบุญหรือนี่น่ะ พอว่าไปแล้วคอยดูนะจะเอาเด็กสองคนนี้ล้มให้ดู ให้มันขายหน้าสักหน่อยมันเก่งนัก ว่าบาปมีหรือไม่มีท่านว่า
พอว่าพระเณรที่สานอะไรอยู่วางหมดจ้อคอยดู มันไปสะเปะสะปะ..โครมคราม ลงต่อหน้าคนมากๆ ละ ต่อหน้าพระเณร ต่อหน้าประชาชน โครมคราม รถทั้งสองคันเลยลงพร้อมกันเลย นั่นเห็นไหมท่านว่า พวกพระเณรหัวเลาะลั่น มันก็ต้องอายซิใช่ไหม ก็ท่านบอกเอง นี่จะเอาให้มันล้มให้ดูท่านว่าอย่างนั้นนะ พอว่าอย่างนั้นทางนี้ก็ปล่อยหมด กำลังจักสานอะไรๆ ปล่อย คอยจ่อดู พอไปแล้วก็โครมครามล้มต่อหน้าพระ ผู้หญิงสองคนมันเผ่นข้ามหนองหาน ป่านนี้มันตกทวีปไหนก็ไม่รู้นะจนป่านนี้ พระเณรหัวเราะมันละซีมันอาย เข้าใจไหมล่ะ เพราะทางนี้จ้ออยู่ ท่านบอกว่าจะเอาให้มันล้มให้ดูนะ
เห็นไหมกำลังจิตของท่าน ท่านอาจารย์ฝั้นนะนี่ ท่านพูดเองนะ แล้วใครไปเห็นใครจะปฏิเสธได้อย่างไร ท่านบอกว่าจะเอาให้มันล้มให้ดูนะ มันเก่งนักเด็กสองคนนี้ พอโครมไป นั่นน่ะ ท่านว่าอย่างนี้นะ เห็นไหมบาปมีบุญมีท่านว่า พวกนั้นมันวิ่งป่านนี้มันลงทวีปไหนผู้หญิงสองคน มีไหมผู้หญิงอยู่ในนี้น่ะ ผู้หญิงตัวสำคัญๆอยู่ในนี้มีไหม บาปมีบุญมีมีไหม นี่ท่านอาจารย์ฝั้นกำลังจิตท่านแรงมาก คิดดูถ้าเครื่องบินผ่านต้องผ่านธรรมดาๆ ถ้าจ่อไม่ได้พังเลย ท่านว่า นี่สำคัญอำนาจจิตท่านอาจารย์ฝั้น พลังจิตแรง คืออันนี้เป็นตามนิสัยวาสนา ความบริสุทธิ์เสมอกัน แต่นิสัยวาสนาที่จะนำไปใช้จากความบริสุทธิ์นี้ต่างกัน
อย่างที่ท่านอาจารย์ฝั้นหรือท่านพ่อลี ท่านพ่อลีแรงกำลังจิต สององค์นี้ที่เด่นในบรรดาลูกศิษย์ครูบาอาจารย์ทั้งหลายที่อย่างออกหน้าออกตาคือท่านอาจารย์ลีหนึ่ง และท่านอาจารย์ฝั้นหนึ่ง สององค์เก่งมากพลังจิต เอาล่ะจบ
รับชมและรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th
และสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz
และเครือข่ายทั่วประเทศ
|