จิตท่านมุ่งต่อเราด้วยความเมตตา
วันที่ 3 ธันวาคม 2550 เวลา 8:00 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)   วิดีโอแบบ(Win High Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๓ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๐

จิตท่านมุ่งต่อเราด้วยความเมตตา

 

          วันนี้วันที่ ๓ ที่ ๔ อยู่แต่วันพรุ่งนี้ วันที่ ๕ ก็ออกเดินทาง แล้ววันที่ ๖ ไปเทศน์ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อันใหญ่ก็คือสนามหลวง เทศน์ที่สนามหลวงตอนช่วยชาติ เทศน์สนามหลวงคนมากนะ ครบ มาครบ ชาติก็นายกฯ คณะรัฐมนตรี ศาสนาก็พระที่มาฟังเทศน์ โอ๋ย ไม่ทราบว่ากี่พันนะ มาฟังเทศน์เป็นพันๆ พระมหากษัตริย์ก็สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ฯ ไปเทศน์ที่ไหนเวลาไปนี้เขาจัดที่ประทับให้ท่านประทับนั่ง ท่านก็ไปประทับให้ แต่พอเราขึ้นธรรมาสน์ปั๊บ ปั๊บมานี้เลยมาข้างธรรมาสน์ ท่านฟังเทศน์เรา โอ๋ย มาก ตั้งสิบกว่ากัณฑ์นะ เทศน์ที่ไหนๆ อันนี้ไม่นับละ ไปเทศน์ในงานต่างๆ เราจำไม่ได้นะ ที่เราไปเทศน์ในงานซึ่งท่านเสด็จไปมีที่ไหนๆ บ้าง

          วันนี้จะไปโรงพยาบาล วันนี้เป็นวันจันทร์วันที่ ๓ วันจันทร์ วันราชการไปโรงพยาบาล จันทร์ อังคาร พุธ พฤหัส ศุกร์ ใน ๕ วันนี้ไปโรงพยาบาล ๕ โรง โรงไหนก็มอบปัจจัยให้โรงละสองหมื่น สองหมื่น อย่างนี้ทุกโรง ส่วนผ้าขาวติดไปโรงละไม้ๆ เป็นประจำผ้าขาว นอกจากแยกไปทางพระ พระก็เห็นว่าพอสมควรก็แยกไปตามโรงพยาบาลต่างๆ

          เราใช้ผ้าสามผืนเป็นธุดงค์ข้อหนึ่งในธุดงค์ ๑๓ ข้อ ท่านใช้ผ้าสามผืนนี่เป็นธุดงค์ข้อหนึ่ง เราใช้นั้นมาประจำนะ ใช้ผ้าสามผืนตั้งแต่ออกปฏิบัติ สี่ก็คือผ้าอาบน้ำ สบง จีวร สังฆา แล้วก็ผ้าอาบน้ำเท่านั้นละ อันนี้เป็นธุดงค์ข้อหนึ่ง ท่านพ่อแม่ครูอาจารย์ท่านไม่ได้พูดถึงเรื่องผ้าสามผืนของเรา เวลาเขาเอาผ้ามาบังสุกุลท่านมากๆ ท่านมอบให้เราเป็นคนจัด จัดให้พระให้เณร องค์ไหนบกพร่องขาดเขิน อันใดสิ่งใดบรรดาของที่เขามาถวายเราก็แยกๆ แจกให้ทั่วถึงหมด เฉพาะอย่างยิ่งคือผ้าเย็บเป็นจีวร สบง สังฆาฏิก็ได้ องค์ไหนขัดข้องเราเป็นคนจัดๆ ให้เรียบร้อย

          แต่สำหรับเราไม่เอาเลย ไม่เอาเลย ท่านอาจจะไม่ทราบว่าเรามีผ้าเพียงสามผืนเท่านั้น สบง จีวร สังฆาฏิ นี่เป็นธุงดค์อันหนึ่งของเรา ผืนที่สี่ก็ผ้าอาบน้ำ ท่านถามเรื่อยเรื่องแจกของ พอแจกเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราไม่อยู่ ท่านจะถามตอนเราไม่อยู่ พอแจกจัดอะไรให้หมู่เพื่อนแล้วเราก็ออกเที่ยว ท่านจะถามพระ ท่านมหาแจกสิ่งของให้พระทั้งวัดท่านเอาอะไรบ้างละ บอกว่าท่านไม่เอาอะไร ท่านก็เงียบไป มาเรื่อยๆ แจกเรื่อยๆ ท่านก็ถามเรื่อยท่านมหาเอาอะไรบ้าง ท่านไม่เอา

เรื่อย นานหลายหนต่อหลายหนจนกลายเป็นนานไป ท่านดุ แผดใหญ่เลย ท่านมหาก็คน พวกท่านทั้งหลายนั้นก็คนท่านคิดอย่างไรท่านจึงทำอย่างนั้น คิดอย่างไรบ้างควรจะตอบรับกันไม่มีเลยปัญญา นั่นเอาแล้วนะ ปัญญาไม่มี เอาไปหมกไว้ที่ไหน เอาตั้งแต่ความโง่มาจ่ายตลาด นั่นเห็นไหมบทเวลาท่านจะเอา พอเรามานี้ขนของเข้าในนั้นหมด เข้าในห้องท่าน ซึ่งปรกติท่านไม่เคยมีของเหล่านี้นะ นี่ท่านก็ทำเพื่อจะทดสอบทดลองเราก็ได้ด้วยความเมตตา ความเมตตาเป็นพื้นแล้วก็ทดลองอีกด้วย

อะไรๆ มีแต่ไม่เอาๆ แจกของหมู่เพื่อนหมดแล้วก็ถามไม่เอาๆ มันเป็นอย่างไร คราวนี้ทดสอบและ ผ้าเขามาบังสุกุลนี้ขนเข้ากุฏิหมด แน่นห้องจนหาที่นอนไม่มี บทเวลาท่านจะทำเป็นอย่างนั้นนะ รอให้ท่านมหามาก่อน พอมาก็ขึ้นกุฏิแล้ว เอา ทีนี้จะเอาผืนไหนจีวรเอากี่ผืนเอา เอาเท่าไรเอาเลย ขนออกมากองพะเนินเทินทึก โอ้ย กระผมไม่เอา ก็เราไม่เอา เราถือผ้าสามผืนแต่เราไม่บอกนะ เป็นธุดงค์ข้อหนึ่ง บอก..ท่านไม่เอาโกยลงหมดเลย ออกแจกวัดไหนต่อวัดไหน พระเณรในวัดนี้ยังไม่แล้วออกวัดต่างๆ ไปล่ะทีนี้

ท่านแหลมคมมากนะ จอมปราชญ์ในสมัยปัจจุบันก็คือพ่อแม่ครูอาจารย์มั่น เราไปอยู่กับท่าน ๘ ปี ตั้งแต่ไปอยู่ทีแรกจนกระทั่งท่านมรณภาพจากไป ไปเที่ยวทางนั้นทางนี้เป็นกาลเป็นเวลาไปบ้าง ส่วนรากฐานอันใหญ่โตก็อยู่กับท่าน ไปไหนก็มานั้น ไปไหนก็มา มันหาที่ต้องติไม่ได้นะ ไม่มี อยู่ที่ไหนทั้งอัศจรรย์ทั้งเก็บหอมรอมริบหมด เรื่องหลักธรรมหลักวินัยไม่ให้เรี่ยราดไปไหนได้เลย ท่านขนาดนั้นละ นั่นละมหาเศรษฐีธรรม ท่านก็ทำอย่างนั้น ปฏิบัติสมศักดิ์ศรีเอาจริงๆ ว่าเป็นมหาเศรษฐี การปฏิบัติดำเนินต่อพระเจ้าพระสงฆ์เสมอหมดเลยเชียว แล้วซอกแซกด้วย ดูพระดูเณรดูจริงๆ ท่านเป็นอย่างนั้น

เรานี่ไปแบบหนึ่ง พอได้อะไรมาโยนให้พระหมดเลย เราไม่สนใจ เอาแบบนั้น ไปคนละแบบ ได้อะไรมาโยนให้พระ เอาใครต้องการอะไรเอา พระก็ทราบแล้วอย่างนิสัยพ่อแม่ครูอาจารย์มั่นท่านไม่ทราบ นิสัยเราท่านทราบ..พระ ได้อะไรมาโละหมด เราไปเห็นพ่อแม่ครูอาจารย์มั่นนี้แบบโละหมดตลอด ไม่เอาอะไรละ แต่เวลาเราจะไปเที่ยวที่ไหนดูอาการของท่านรู้สึกจะไม่อยากให้ไปไหนนะ ดูอาการก็รู้ แต่ท่านก็เห็นประโยชน์ส่วนใหญ่ของเราคือด้านจิตตภาวนา ท่านก็ให้ไป

กราบเรียนท่านจะไปพูดตรงๆ ไม่ได้นะ ต้องกราบเรียนถามถึงกิจการภายในวัดก่อน มีอะไรควรจะจัดจะทำเราจะเป็นผู้ทำทั้งนั้นมาตลอด เสร็จแล้วเราก็ถามท่าน มีธุระอะไรบ้างในวัดในวา เราก็ถาม ถ้าไม่มีอะไรอยากจะกราบลาพ่อแม่ครูอาจารย์ไปประกอบความเพียรสักระยะหนึ่ง บอกว่าระยะนะ ไม่ได้บอกว่าไปเตลิดเปิดเปิง ไปสักระยะหนึ่ง เพราะจิตท่านมุ่งต่อเราด้วยความเมตตา อาศัยทุกอย่างจากเรา

พอเราไปอยู่ที่ไหนเป็นอย่างนั้นละ เรื่องเกี่ยวกับพระกับเณรหนักมากนะเรา คืออยู่เฉยๆ เราอยู่ไม่ได้นะ มันหากสอดหากส่องอยู่อย่างนั้นละกับพระกับเณร เพื่อท่านอยู่สงบร่มเย็น เพราะเราไปเอง ไม่มีใครขันตีนิมนต์ไปไปอยู่ในวัด ไม่ให้ท่านหนักใจ เราจึงต้องคอยดูแลพระเณรให้เรียบหมดเลยพระเณร เราดู ท่านจะเห็นอาการอย่างนี้ละเวลาเราไม่อยู่พระเณรเป็นอย่างไรบ้าง เวลาเรามาอยู่เป็นอย่างไรบ้าง เวลาเราลาท่านไปเที่ยวดูอาการของท่านไม่อยากให้ไป แต่ท่านเห็นประโยชน์ส่วนใหญ่ของเราท่านก็ให้ไปล่ะไปภาวนา

ถ้าอยู่ภายในวัดเรียกว่าเป็นภาระของเราแทนท่านเลย กับพระกับเณรตาสอดส่องทุกอย่างกับพระกับเณร องค์ไหนมีลักษณะอย่างไรเอามาเตือนมาสอน ถ้าลงเราว่าไม่ว่าองค์ไหนเป็นอย่างไรเรียกว่ามันสอนไม่ได้แล้ว มันเลยทุกอย่างไปแล้ว พอเข้ากราบเรียนท่านไล่หนีเลยนะ ไม่ถามเลย เพราะอย่างนั้นเราจึงต้องระวังเกี่ยวกับหมู่กับเพื่อน เอาไว้เสมอหมู่เพื่อน จะเป็นจะตายอะไรก็เราตัดคอรองไว้หมดเลย จนกระทั่งท่านพูดออกมา ใครผิดท้ายวัดหัววัดตาบอดหูหนวกผิดก็มหา หูหนวกตาบอดเป็นเบี้ยเป็นใบ้อะไรเสียแข้งเสียขามานี้ก็มหาผิด เราจับเหล่านั้นไว้ เราเป็นคนรับผิดๆ นั่นแหละ หลายครั้งหลายหนท่านก็รู้ละซิ อะไรๆก็มีแต่มหาผิดๆ มหานี่มันโง่ขนาดนั้นเชียวเหรอ นั่นเอาแล้วนะ บทเวลาท่านจะเอา ท่านเป็นอย่างนั้นละ

คือเราตัดคอรองหมู่เพื่อน พอบิดบิดเอาเลยนะ ของง่ายเมื่อไร พอออกมาจี้เอาหลงทิศกับพระกับเณร พระเณรก็กลัวเราซิ ถ้าเวลาเข้าหาท่านไม่มีอะไรเรียบร้อยหมด เราตัดคอรองหมดเลยนะ ถ้าออกมาจับบิดองค์ไหนไม่ดีๆ ขนาบเอาเลยนะเรา เพราะฉะนั้นพระเณรจึงกลัวเรามาก ถ้าผิดแล้วเรารับผิดหมดเลย อะไรๆเรายอมแทรกเข้าไปจนได้นั่นแหละ จนกระทั่งท่านจับได้ ใครผิดท้ายวัดหัววัดหูหนวกตาบอดผิดท้ายวัดหัววัดใบ้บ้าเสียแข้งเสียขามาก็มหาผิดๆ มหาองค์นี้มันโง่ขนาดนั้นเชียวเหรอ เอาแล้วนะนั่น

คือเราตัดคอรองหมู่เพื่อน ครั้นออกมาแล้วจับพระเณรบิดเอาหลงทิศไป ถ้าเข้าไปข้างในละเรียบหมดล่ะ เราตัดคอรองไว้หมด ถ้าออกมาองค์ไหนไม่ดีแล้วใส่เปรี้ยงๆ เพราะฉะนั้นพระเณรถึงกลัวมากกลัวเรา กลัวเราด้วยความเคารพนะ ไม่ใช่กลัวด้วยความเกลียดชัง เพราะเราทำทุกอย่างไม่ผิด ถ้าไปอยู่ที่ไหนเราล่ะรับภาระ เฉพาะกับพ่อแม่ครูอาจารย์เหมือนว่าเรารับภาระทั้งวัดเลยนะ ดูแลพระเณรให้เรียบร้อยทุกอย่าง

พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านพิสดารมากนะเรื่องความรู้ภายในกระจายออก พวกเปรตพวกผี พวกสัตว์นรก เทวบุตรเทวดา อินทร์ พรหม รู้หมดเลย ท่านกระจ่างมาก แต่ก่อนท่านปรารถนาเป็นพุทธภูมิ เพราะฉะนั้นนิสัยพุทธภูมิจึงติดมา ความรู้ท่านกระจ่างมากนะ แต่ก่อนท่านปรารถนาเป็นพุทธภูมิ เป็นพระพุทธเจ้า ท่านพิจารณาไปความอยากพ้นทุกข์ก็อยากเต็มที่ๆ พอจะเข้าด้ายเข้าเข็มทีไรแล้วสายโพธิญาณผ่านเข้ามาแล้วถอยเสียๆ ความอยากพ้นทุกข์อยากเป็นกำลัง สุดท้ายก็พระพุทธเจ้าท่านเป็นศาสดาเอกสอนโลก ความบริสุทธิ์ก็บริสุทธิ์แล้ว ตั้งแต่พระพุทธเจ้าลงมาถึงสาวกองค์สุดท้ายก็มีความสุขเสมอกัน เราเอาแค่ความบริสุทธิ์ความสุขเท่านี้ก็พอแล้ว ปล่อย ความปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าปล่อย ก็มาเป็นสาวกบารมีญาณ เพราะฉะนั้นความรู้ท่านจึงมีลวดลายของศาสดาติดอยู่ ความรู้แปลกๆ ซอกๆ แซกๆ รู้หมดพ่อแม่ครูอาจารย์มั่น

 

รับชมและรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th

และสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน  FM 103.25 MHz

และเครือข่ายทั่วประเทศ

 

 

 

 

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก