เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๕๐
อะไรจะสว่างไสวยิ่งกว่าจิตใจ
เราเคยเตือนหรือติอยู่เสมอ ตามหลักศาสนธรรมของพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นด้านนามธรรมสอนจิตใจคนมากกว่าอื่น นี่มันเป็นศาสนวัตถุ มีตั้งแต่เรื่องวัตถุเกี่ยวกับเรื่องศาสนา เอะอะศาสนากวนบ้านกวนเมือง เดี๋ยวสร้างนั้นสร้างนี้มีแต่เรื่องวัตถุ คือศาสนาแต่ก่อนไม่มีนะ เดี๋ยวนี้มันลุกลามเข้ามาอย่างนี้ละ สร้างนั้นสร้างนี้มีแต่วัตถุ สร้างจิตใจเจ้าของให้เป็นคนดีไม่อยากสนใจสร้างกัน พระพุทธเจ้าพระสาวกอรหัตอรหันต์นี้เป็นพุทฺธํ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ ของพวกเรา ท่านสร้างที่จิตใจ ท่านไม่ได้ไปสร้างที่วัตถุ สนใจกับทางด้านวัตถุ แต่นี้กิเลสมันค่อยตีค่อยแทรกเข้ามา เลยถือเอาเรื่องวัตถุเป็นของสำคัญยิ่งกว่าศาสนธรรม เดี๋ยวนี้เลยกลายเป็นศาสนวัตถุไปหมดแล้ว
มีเราเท่านั้นพูดได้ นอกนั้นไม่มีใครกล้าพูด เราพูดตามหลักธรรม ศาสดาองค์เอกเป็นครูสอนโลกมานาน คนที่เป็นคนดิบคนดีเพราะธรรมของพระพุทธเจ้ามีมากต่อมาก เราก็นำธรรมอันเดียวกันมาพูดให้พี่น้องทั้งหลายฟัง จะไม่พอเป็นประโยชน์ได้บ้างเหรอที่พูดเดี๋ยวนี้ เรื่องวัตถุ เอะอะเอาวัตถุขึ้นก่อน จะปฏิบัติตัวให้เป็นคนดีไม่สนใจ เพราะทางวัตถุมันทำง่ายๆ ทางจิตใจจะฝึกฝนอบรมตนให้เป็นคนดีนี้ ถือว่ายากไปด้วยกันหมด พระพุทธเจ้าสลบถึง ๓ หน ยากหรือไม่ยาก การฝึกพระองค์เป็นของลำบากมากขนาดไหนพิจารณาซิ
มีตั้งแต่เรื่องสุกเอาเผากินๆ หาเหตุหาผลไม่ได้ ศาสนาของพระพุทธเจ้าเป็นศาสนาที่เต็มไปด้วยเหตุผล รวมแล้วเรียกว่าหลักธรรม ไม่ได้สุ่มสี่สุ่มห้าแบบสุกเอาเผากินนะ ทำอะไรให้คิดอ่านไตร่ตรองบ้าง เราเห็นเรื่องนั้นละเป็นเรื่องใหญ่โตกว่าเรื่องวัตถุ เรื่องปฏิบัติตัวให้เป็นคนดี วัดนี้ถ้าจะสร้างโบสถ์หลังหนึ่งนี้ราคาเท่าไร มีแล้วท่านผู้เสนอมาสร้างเป็นคนที่สูงสุดในเมืองไทยเรา เราเห็นธรรมสูงกว่าคนอีก เราจึงเล็งดูธรรม เพราะฉะนั้นโบสถ์หลังนี้จึงยังขึ้นไม่ได้ มันขัดต่อธรรม
เรื่องของธรรมใหญ่โตยิ่งกว่าเรื่องอะไร สร้างโบสถ์หลังหนึ่งขึ้นมานี้เปิดทางตั้งแต่ทางหน้าวัดเข้าถึงสถานที่สร้างโบสถ์ เป็นโรงงานทั้งหมด ทั้งหญิงทั้งชายเข้าทั้งคืนทั้งวัน หลั่งไหล ประตูวัดต้องเปิดตลอดเวลา วัดนี้แหลกหมดเลย ได้โบสถ์ขึ้นมาหลังหนึ่ง แต่พระตายหมด ใช้ได้ไหมล่ะ พระพุทธเจ้าเลิศด้วยธรรมนะ สาวกทั้งหลายที่เราได้ถือว่า สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ ท่านเลิศด้วยธรรม ท่านไม่ได้เลิศด้วยวัตถุ ก่อนั้นสร้างนี้ ยุ่งนั้นยุ่งนี้ หาเกาในที่ไม่คันอย่างนั้นใช้ไม่ได้นะ ควรพิจารณาบ้าง การพูดนี้เรานำธรรมมาพูด เราไม่ได้พูดสุ่มสี่สุ่มห้า อวดอำนาจบาตรหลวงป่าๆ เถื่อนๆ อย่างนั้นเราไม่มี เราพูดตามหลักธรรมเท่านั้นละ
โบสถ์หลังหนึ่งลองดูซิ อย่างวัดป่าบ้านตาดสร้างโบสถ์หลังหนึ่งนี่ พระเณรตายฉิบหายหมดจากศีลจากธรรม จากจิตตภาวนา เปิดประตูวัดไว้ตั้งแต่บัดนั้นเข้าถึงที่ทำงานทั้งวันทั้งคืนอย่างน้อยปีหนึ่ง โบสถ์ที่จะสำเร็จ แล้วคนที่มาสร้างโบสถ์ เป็นคนประเภทใดบ้าง รู้จักศีลจักธรรมอะไรบ้างหรือเปล่า มีทั้งหญิงทั้งชายมาแตกลูกแตกแม่กันอยู่นี่ เต็มอยู่นี่น่ะ แล้ววัดนี้หมดเลย เราจึงไม่ให้สร้าง เราเห็นเรื่องใหญ่โต เรื่องธรรมเป็นเรื่องจำเป็นมากยิ่งกว่าเรื่องอะไรทั้งนั้น ต้องเล็งดูเสียก่อนซิทำอะไร
โบสถ์นี้แต่ก่อนก็ไม่เห็นมีในครั้งพุทธกาล มากำเริบเสิบสานขึ้นเฉยๆ นี่ สร้างอะไรขึ้นมา วัตถุขึ้นก่อนหน้าแล้ว วัตถุขึ้นก่อนแล้วๆ ธรรมไม่ได้ออกนะ มีแต่วัตถุ เป็นศาสนวัตถุไปหมดแล้วแหละ เรื่องธรรมไม่ได้ออก ถ้าธรรมออกมีแต่การประพฤติปฏิบัติตัวให้เป็นคนดี อะไรจะดีจะชั่วขึ้นอยู่กับคนเรา ถ้าคนเราดีแล้วอะไรก็ดีไปหมดนั่นแหละ ถ้าคนเราไม่ดีจะสร้างเป็นหอปราสาทแข่งแดนสวรรค์ขึ้นมา ก็ไม่เป็นประโยชน์อะไร อิฐปูนหินทรายเท่านั้นแหละ ไม่เกิดประโยชน์ ทำอะไรมีแต่อยากทำเฉยๆ นะ
การสร้างทางด้านวัตถุหรือทำอย่างนั้นมันทำง่าย แต่ที่จะอบรมตนเองให้เป็นคนดีทางด้านจิตใจนี้ มันถือว่าเป็นทำยากด้วยกันเสียหมด ไม่สนใจ แม้แต่พระเราก็ไม่สนใจที่จะฝึกฝนอบรมจิตใจให้เป็นจิตที่ดีงามสง่าผ่าเผย เมื่ออบรมให้เต็มที่แล้ว อะไรจะสว่างไสวยิ่งกว่าจิตใจ สว่างจ้าครอบโลกธาตุ จิตใจที่ฝึกดีแล้วเป็นอย่างงั้น แต่วัตถุเหล่านั้นมันสว่างที่ไหน ไม่เห็นมีอะไรสว่างไสว มีแต่วัตถุเต็มบ้านเต็มเมือง เขาก็มีเราก็มี อยู่ที่ไหนก็มีแต่วัตถุ ใครวิเศษวิโสอะไรบ้าง เอามาอวดกันบ้างซิ ผู้ที่มีจิตใจวิเศษไม่ต้องอวดท่านก็วิเศษอยู่แล้ว จำเป็นอะไรจะต้องไปอวด
มีเหตุมีผลบ้างซิทำอะไร เลอะเทอะไปหมดเลย นี่เราก็พยายามกีดกันเอาไว้ตลอดทางวัตถุไม่ให้เข้ามายุ่ง แต่การประพฤติปฏิบัติจิตตภาวนาชำระกิเลสตัวเป็นภัยมหาภัยนี้เร่งตลอด ไม่ให้มีอ่อนข้อนะอันนี้ ใครมาอยู่มากน้อยเพียงไร การประพฤติปฏิบัติทางด้านจิตตภาวนาให้เสมอภาคกันไปหมด เพราะฉะนั้นทำเลจากนี้เข้าไปข้างใน จึงไม่ให้ใครเข้า เพราะเป็นทำเลภาวนาของพระ ใครมาก็ให้มาแค่ศาลานี้แล้วให้ออกไปๆ ไม่ให้เข้าไปข้างใน ข้างในเป็นทำเลภาวนาของท่าน ข้างนอกใครจะมาก็ให้มาแค่ศาลาแล้วก็ให้ออกไป เราเป็นคนกำกับเอง ไม่งั้นมันจะเลอะเทอะไปหมด
หากมีความจำเป็นที่อยากจะดูวัด และเป็นบุคคลที่สำคัญที่ควรจะให้ไปดู ก็ให้พระนำไปเลย เข้าไปเที่ยวดูให้หมด จะดูที่ตรงไหน เอาดูให้หมด บอกชัดเจน เอาดู วัดนี้มีข้อต้องติตรงไหน เอาติมา บอกเลยเรา จะชมหรือไม่ชมแล้วแต่ใคร แต่จะติ เอา ให้ติมา ทางนี้พร้อมที่จะแก้ไขดัดแปลงตามความจริง ถ้าเป็นธรรมนะ ถ้าติไม่เป็นธรรมไม่เล่นด้วย แน่ะก็อย่างนั้นซิ ทำอะไรให้มีเหตุมีผล ไม่มีเหตุมีผลใช้ไม่ได้ แก้กิเลสยิ่งมีเหตุมีผลหนักมากทีเดียว เหตุผลไม่มีอะไรเหนือธรรมที่จะนำมาฟัดกับกิเลส ธรรมต้องเหนือกิเลสเสมอ นั่นละเหตุผลอยู่กับธรรมที่จะแก้กิเลสได้ นี่ทำเอาเลยๆ มันไม่ได้เรื่องได้ราวอะไร
ประเทศไทยเรานี้เป็นเมืองพุทธ ถือพุทธศาสนาอย่างน้อย ๘๐% ก็ไม่เห็นได้หน้าได้หลังอะไร โกโรโกโส เขาเหมือนเราเราเหมือนเขา จะตำหนิใคร มองดูเราก็แบบนี้ มองดูเขาก็แบบนั้น คนทั้งประเทศที่ว่าถือเป็นเมืองพุทธก็แบบเดียวกันหมดเลอะเทอะไปตามๆ กันหมดมันก็ใช้ไม่ได้ซิ ปฏิบัติศาสนาต้องปฏิบัติตัวให้เป็นคนดีซิ ศาสนาเขียนไว้ในคัมภีร์อ่านเท่าไรก็อ่านได้ แบกจนหลังหักก็ได้คัมภีร์ แต่ที่จะมาแบกอรรถแบกธรรมทุ่มกับกิเลสมันยกไม่ขึ้นน่ะซิ มันจึงหาคนดีได้ยากนะ แต่คนชั่วทั้งเขาทั้งเราเต็มไปหมดอยู่ในนี้
มีใครเอาของดีมาอวดบ้างไม่เห็นมี มีแต่ความชั่ว ความขี้เกียจขี้คร้าน ความท้อแท้อ่อนแอ ความฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม ความสุกเอาเผากินเต็มอยู่ในชาติไทยของเรา เต็มอยู่ในนี้หมดนั่นแหละ ไม่มีเหตุมีผล ถ้ามีเหตุมีผล การอยู่การกินการใช้การสอยทุกอย่างต้องมีประมาณ ไม่ฟุ้งเฟ้อจนเกินเนื้อเกินตัว นี้อะไรเข้ามาคว้ามับๆ คือเมืองไทยของเราเป็นเมืองลิง เหมือนลิงนั่นละ อะไรเข้ามา เอาธรรมจับ เราก็เกิดในมืองไทยนี่ละ นี่เราเอาธรรมมาสอน
ทางวัดก็เหมือนกัน วัดก็ไม่มีศาสนา วัดก็เลยเป็นส้วมเป็นถานไปเลย พระเณรก็เป็นมูตรเป็นคูถเต็มอยู่ในวัด วัดเป็นส้วมเป็นถาน พระเณรเป็นมูตรเป็นคูถ เลยเต็มไปตั้งแต่มูตรแต่คูถ ในวัดในวาเป็นส้วมเป็นถานไปหมด ทำให้เป็นอะไรมันก็เป็นได้ไม่เลยมนุษย์แหละ มนุษย์เป็นผู้ทำเอง จะทำตัวให้ดีเด่นเลิศเลอเหมือนพระพุทธเจ้าก็ได้ทำไมจะไม่ได้ถ้าทำ แต่มันไม่ทำละซิมันถึงเลอะเทอะไปหมด ให้ตั้งใจปฏิบัติ คนหนึ่งปฏิบัติคนหนึ่งรักษาอยู่ คนหนึ่งเข้ามาเพ่นพ่านๆ หน้าวัดนั่น ไม่มีใครพูดได้ มีแต่เราคนเดียวพูด เทวดาก็ให้มาบอกตรงๆ เลย ไม่มีอะไรเหนือธรรม เราเอาธรรมออกพูด เทวดาตนไหนจะเหนือธรรมมาค้านธรรม เอา ค้านมา นั่น ไม่มีใครค้าน เราไล่แตกฮือๆ
พอ ๔ โมงกว่าๆ ไปหา ๕ โมงแล้วเรามักจะด้อมๆ ออกมา ถ้ายังมาเห็นเพ่นพ่านๆ นี้มาอะไรถามแล้วนะ ถามเหตุถามผล มาไม่มีเรื่องมีราวมาเที่ยวเพ่นพ่าน ไปออกเดี๋ยวนี้ สถานที่นี่เป็นสถานที่รักษาศีลรักษาธรรมอย่ามาเพ่นพ่าน เราเป็นคนไล่เองเลยเชียว ไม่งั้นเลอะเทอะไปหมด รถบัส ๓ คัน ๔ คันเต็มอยู่ ๔ โมง ๕ โมงยังไหลเข้ามาจะมาเที่ยวเตร็ดเตร่เร่ร่อนในวัด ซึ่งท่านรักษาศีลธรรมด้วยดีอยู่ตลอดมา แล้วมันก็เลอะเทอะซิ ถ้าเราไปเจอเข้าไม่เป็นไรละ คนอื่นเจอไม่ได้ เขาก็เกรงใจเขาเกรงใจเรา ถ้าติดเราเสียอย่างเดียวติดเขาด้วย ถ้าไม่ติดอะไรทั้งนั้นแล้วหมอบกราบธรรมพระพุทธเจ้าไม่ติดอะไร พูดออกมาจะมีตั้งแต่อรรถแต่ธรรมออกมาทั้งนั้น เราไม่เกรงใจใครด้วย เพราะเกรงธรรมอยู่แล้ว
ธรรมเป็นของสูงสุดแล้ว เกรงธรรมนำธรรมออกมาพูดจะผิดไปที่ไหน นี่เอาแต่กิเลสออกมา เกรงใจเขาเกรงใจเรา มีแต่กิเลสเกรงกันมันสร้างความเลอะเทอะให้หมด จะว่าให้ใครก็เกรงใจคนนั้นเกรงใจคนนี้ ก็เลยมีแต่ความเลอะเทอะเต็มบ้านเต็มเมืองเห็นไหมล่ะ เอา ถ้าว่าเราอวดอุตริหรือว่าหาเรื่องใส่คนก็เอาไปฟังดูซิน่ะ เอาธรรมเข้ากางปั๊บทางนี้ก็ฟาดใส่ธรรมตามธรรมเลย มันก็ถูกต้องละซิ
โถ มันเลอะเทอะจริงๆ เห็นไหมติดป้ายไว้หน้าวัดนั่น กูจะฟ้องท่านเปา เขาเขียนไว้โน่น เราไปทางอำเภอภูเขียว เอาอาหารไปส่งโรงพยาบาลต่างๆ เห็นเขาติดท้ายรถไว้ เขาเขียนว่า กูจะฟ้องท่านเปา เราไปอ่านดูแล้ว โอ อันนี้เข้าท่า แต่ยังไม่สมบูรณ์แบบ เขาเขียนนี้เข้าท่าดี กูจะฟ้องท่านเปา ติดอยู่ท้ายรถเขา เราอ่านแล้ว เรากลับมาวัดนี้เราก็มาเพิ่มเข้าอีกให้สมบูรณ์แบบ ทางภูเขียวเขาว่า กูจะฟ้องท่านเปา ทางวัดป่าบ้านตาดต่อท้ายเข้าไปว่า มันมาเที่ยวเพ่นพ่าน เราเขียนไว้นั่นน่ะ
กูจะฟ้องท่านเปา อยู่ทางภูเขียว มันมาเที่ยวเพ่นพ่าน อยู่วัดป่าบ้านตาด เรามาต่อท้าย ไปอ่านดูนั่น กูจะฟ้องท่านเปา เรามาติดท้ายนี้ให้สมบูรณ์ก็คือว่า มันมาเที่ยวเพ่นพ่าน อย่างนั้นละ แล้วเอาหมาไปห้ามด้วย หมามันไล่กัดคนได้ด้วย เห็นไหมหมาห้ามไว้นั่นน่ะ ขบขัน ตามประตูเข้าวัดเข้ากุฏิเราก็มีหมาห้ามไว้เป็นแถวเลย นี่ละที่มหาสมบัติ บุญเรือง พูด มันก็เข้ากันได้กับวัดป่าบ้านตาด มหาสมบัติ บุญเรือง วัดนรนาถ เขาออกทางทีวี แล้วก็พูดถึงเรื่องเรา พูดถึงเรื่องอาจารย์มหาบัว การเทศนาว่าการนี้ยกให้ พร้อมทั้งข้อเปรียบเทียบหาที่ค้านไม่ได้เลย ท่านสรุปว่า แต่ท่านมีนิสัยตลก เข้าใจไหมล่ะ
ก็เราตลกตั้งแต่มหาสมบัติ บุญเรืองยังไม่เกิด ตลกไหมอันนี้ก็ดี มันก็ตลกอยู่นั้นจะว่าไง ก็คนตลกอยู่ที่ไหนมันก็ตลกได้นี่วะ เขาว่าการเทศนาว่าการนี้ยกให้ ท่านอาจารย์มหาบัวหาที่ค้านไม่ได้ พร้อมทั้งข้อเปรียบเทียบ ได้กันเปรี๊ยะเลย แต่ท่านมีนิสัยตลกเขาเขียนไว้ ทางนี้เราก็ตลกแทรกเข้าไปอีกว่า ก็เราตลกตั้งแต่มหาสมบัติ บุญเรืองยังไม่เกิด แน่ะเข้าใจไหม ข้อตลกมันก็มีอยู่อย่างนั้น มันเกิดมาเองยากอะไร พูดเรื่องอะไรไม่รู้ หมาเราละห้ามไปตามนั้น เขารู้เรานิสัยรักหมา เล่นกับหมา ไปที่ไหนถ้าห้ามก็เอาหมามาห้ามไปเลย ห้ามก็ประตูเข้าไปกุฏิหลวงตาบัวเสียด้วยนะหมามาห้าม ที่อื่นเขาไม่ทำ วัดก็วัดหลวงตาบัว เอาหมาห้ามไว้นั้น ที่อื่นเขาไม่ทำ เราก็รู้หมดเรื่องเหล่านี้ ก็เราก็เป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว เขาว่ามันก็ไม่ผิด เข้าใจไหมล่ะ ก็ถูกต้อง นอกจากจะย้ำเข้าไปอย่างที่ว่าละ ท่านมีนิสัยตลก ก็เราตลกตั้งแต่ยังไม่เกิดนู่น นั่นไปอีก
วันเสาร์ วันอาทิตย์หรือวันพระวันโกนก็ควรจะรู้จักศีลธรรมบ้างนะ หน้าที่การงานขวนขวายเพื่อปากเพื่อท้องก็ให้ขวนขวายเต็มกำลัง เพราะนี้เป็นความจำเป็นอันหนึ่ง อาหารภายในจิตใจได้แก่อรรถแก่ธรรมก็ให้มีความจำเป็น ถึงกาลเวลาที่จะสร้างความดีงาม เช่น วันพระ วันศีล วันเสาร์ อาทิตย์ก็ให้บำเพ็ญการกุศล เราเข้าวัดก็ได้ถ้ามีโอกาส ไม่เข้าเราทำอยู่ในบ้านของเราก็ทำได้ อย่าให้เสียเวล่ำเวลา ถ้าศีลธรรมห่างเหินจากใจแล้วคนจะเลอะเทอะ ไม่ว่าคนไม่ว่าพระเลอะเทอะไปหมด ถ้าลงศีลธรรมห่างเหินจากใจ ถ้าศีลธรรมติดแนบอยู่กับใจก็สติธรรม นั่นเห็นไหม สติติดกับตัว ปัญญาธรรม ปัญญาติดอยู่กับตัวไม่ค่อยเผลอคนเรา ถ้าสองอย่างนี้ขาดไปแล้วเผลอไปหมด มากกว่านั้นเขาก็เรียกคนบ้า
เห็นไหมมันไปจัดอะไรต่ออะไรอยู่ทางสี่แยก เราไปเห็นอยู่สี่แยกธรรมขันธ์ รถเราก็ไปรถเขาก็มา คนๆ หนึ่งมันเป็นบ้า มันมาจัดของอยู่สี่แยกเลย จัดอันนี้ออกจัดอันนี้เข้า ขนอันนั้นออกขนอันนี้เข้า เฉย ไม่สนใจกับใครนะ คือบ้าว่างั้นเถอะ อันนี้ขนนี้เข้ามาแล้ว ขนนี้ออกขนนั้นเข้า ทางรถนั่นวิ่งสวนกันไปสวนกันมา รถก็จะชนกัน แล้วก็จะชนคนนั้นอีก เราก็ได้ไปเห็นด้วยตาของเรา โอ้ คนเรามีแต่ความรู้เฉยๆ ไม่มีเจ้าของเป็นอย่างนี้เอง นี่ถ้ามีแต่ความรู้เป็นอย่างนั้นละ ไม่มีเจ้าของคือสติปัญญาเป็นเจ้าของ ถ้ามีสติปัญญาก็รู้ความผิดถูกชั่วดี จะไปทำอะไรอย่างนั้น นั่น คนทั้งโลกเขาไม่ทำกัน นี่ทำไมเขาถึงทำ เพราะคนขาดบาทขาดตาเต็งเป็นคนบ้าไปแล้ว จิตไม่มีผู้รับผิดชอบมันก็เป็นอย่างนั้นละ ไม่รู้จักผิดถูกชั่วดี ถ้ามีสติมีปัญญาเป็นเจ้าของรับผิดชอบอยู่แล้วจะไม่ทำอย่างนั้นได้ แน่ะ นี่ละสติเป็นของสำคัญ
วันพระ วันเสาร์ วันอาทิตย์ ควรที่จะสนใจในอรรถในธรรมบ้างนะ มันจืดมันชืดไปหมดแล้วเวลานี้ สิ่งที่เข้มข้นเข้ามาก็มีแต่เรื่องกิเลสตัณหาเอาให้ตาฝ้าตาฟางไปได้ทั้งวันทั้งคืน พระอาทิตย์สิบดวงก็ตามไม่ได้สว่างไสวอะไร เพราะมันตาบอดใจบอด มันก็เลยมืดดำไปหมด ไม่รู้จักผิดจักถูกทำได้ทั้งนั้น ทั้งที่แจ้งที่ลับทำได้หมด คนหูหนวกตาบอดทางใจเป็นอย่างนั้น ให้พากันจดจำเอา
วันนี้เป็นวันมหามงคลแก่พี่น้องชาวไทยเรา นี่ทูลกระหม่อมฟ้าหญิงจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี อะไรจำไม่ค่อยได้ ก็ชื่อกษัตริย์มันไม่ค่อยได้พูดง่ายๆ มันก็ติดละซิ ถ้าดุ ชื่อด่า ว่านั้นว่านี้คล่องตัว เข้าใจไหม อันนี้มันไม่ได้ว่ามันก็ลืม นี่ท่านก็เสด็จมา เห็นไหมท่านเป็นศีลเป็นธรรม มาก็ชุ่มเย็นไปหมดนั่นละ ให้ถือท่านเป็นคติตัวอย่าง ตามเสด็จท่านด้วยการประพฤติปฏิบัติตัวให้เป็นคนดี แล้วเราจะดี ดีในโลกนี้แล้วโลกไหนก็ดีหมด ถ้าชั่วในโลกนี้แล้วไปที่ไหนมีแต่ชั่ว ไปนรกอเวจีก็คนชั่วไป ไปติดคุกติดตะรางก็คนชั่วไปติด คนดีเขาไม่ติดละ ถ้าเป็นคนดีแล้วอยู่ที่ไหนก็ดีหมด ไม่ใช่คนขี้คุกจะไม่ดีได้ไง นั่นเอาตรงนั้นละ วันนี้พูดเพียงเท่านี้ละ ให้ทุกท่านฟังแล้วเอาไปพินิจพิจารณา แล้วประพฤติปฏิบัติตัวให้เป็นคนดี จากนี้แล้วก็จะให้พร
รับชมและรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th
และสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz
และเครือข่ายทั่วประเทศ |