สับยำกิเลส
วันที่ 17 กรกฎาคม. 2544
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(Real)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)   วิดีโอแบบ(Real)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๑๗ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๔

สับยำกิเลส

ทองคำเมื่อวานนี้ไม่ได้สักสตางค์เลย ดอลลาร์ได้ ๒๖ ดอลล์ คงทองคำพักเครื่องให้หายเหนื่อยหน่อย กระต่าย ๓ ตัว ๔ ตัวไม่ทราบเป็นยังไง มาอยู่กุฏิเราเลยเดี๋ยวนี้ กลางคืนก็มา กลางวันก็มา เมื่อเช้าเดินจงกรมออกมากำลังจะมานี้ มันก็มาอยู่ใต้ถุน ไล่ไม่ยอมไปนะ โยนอะไรใส่ไล่มัน ๆ นึกว่าโยนขนมให้มัน ๆ วิ่งใส่เลย คงพวกนั้นให้ขนมมันกิน ทีนี้มันมานี้ก็นึกว่าจะได้ขนม ความจริงก้อนกรวดไล่มัน มันนึกว่าขนม มาปุ๊บปั๊บ ๆ มันยังไงกันนี่ เลยไล่ไม่รู้เรื่องไม่สนใจนะ เฉย เราก็เลยหนี ไล่ไม่ไป ไม่รู้จักไล่มีแต่ว่าขนมทั้งนั้น ก้อนกรวดก้อนอะไรโยนใส่มันนึกว่าขนมตามวิ่งไป พวกนั้นปรนปรือมันพวกอยู่ข้างใน

๓ ตัว บางทีก็ ๔ ตัว ๒ ตัวขาว ๆ ไล่ไม่รู้จริง ๆ ไม่สนใจเลย นึกว่าเป็นขนมทั้งนั้น ปาอะไรใส่นึกว่าเป็นขนม วิ่งตามไปเลย อ้าว เอาใหญ่แล้ว มันมาอยู่นั้นทั้งวันทั้งคืนกุฏิเรา จากนี้ก็ไปอยู่ทางจงกรม พอหายจากนี้นึกว่ามันไปไหนแล้ว คือออกจากนี้มันจะเข้าครัว ออกจากครัวก็มาที่นี่ สองสามตัวอยู่เป็นประจำ ทีนี้เลยจองกุฏิเราเลยทำไง ที่ว่านี้ไม่ได้หมายยังไงนะ เรากลัวหมานี้มันเข้าไป ถ้าหมาเข้าไปเป็นอันตราย แถว ๆ นี้หมามักเข้าไปเสมอ เลยไม่อยากให้สัตว์เข้ามาเกี่ยวข้องกับกุฏิเรา นาน ๆ มันเข้าไปที

สำคัญไอ้หมี ตัวอื่นไม่ค่อยเห็น แต่ไอ้หมีมักเจอเสมอ เข้าไปทางจงกรมเราตัดออกครัวไปโน้นเลย บางทีก็มาจากโน้นมาครัวตัดทางจงกรมเราออกไป มันมาได้ทุกแห่งทุกแบบทุกฉบับไอ้หมีน่ะ แล้วไม่กลัวเราด้วย เดินผ่านทางจงกรมเหมือนว่ามันจะหยอกเล่น ท่าใหญ่ของมันละ เราเดินจงกรมมันมาจากในครัว มาข้างสระนะตัดมานี้ มากึ๊ก ๆ มึงไปไหนมาไอ้หมี เดินผ่านมาตบหลังมัน ๆ เฉย ไปเลยไม่สนใจ เหมือนเราไม่ได้ตบหลังมันนะ โอ๊ย มึงท่าใหญ่นักไอ้หมี เดินกึ๊ก ๆ เราเดินจงกรมมันเดินฉากมา ตบหลังมันปั๊วะ ไปเลยเฉย ตัวนี้มักไปเสมอ เราได้ระวังกระต่าย อย่างอื่นไม่ค่อยระวังยาก กระต่ายระวังยากกว่าเพื่อน สำคัญที่ไอ้หมีตัวสำคัญ นอกนั้นก็ไม่ค่อยอะไร แต่กระต่ายเราแน่ใจว่าเอาแน่ ไปเจอแล้วกัดเลย จึงได้ระวัง

เวลานี้กระต่ายเยอะนะ จึงรู้ได้ชัดเลยว่าแมวในหมู่บ้านยกทัพกันมา ยกขบวนกันมากินสัตว์เราในวัดแล้วกลางคืนก็กลับไปนอนบ้าน คือกินอิ่มแล้วก็ไป กลางคืนไปนอนในบ้าน กลางวันเฉยเหมือนไม่มีเรื่อง แล้วกลางคืนด้อมออกมาเข้ามาในนั้น กินจนหมด กระต่ายนี้ครอกหนึ่ง ๆ ตั้งหลายตัว แล้วหมด เอ๊ มันไปไหน ต้นเหตุที่เราจะได้ทำอันนี้(สังกะสีกันแมว)ขึ้นมาก็เราเดินไปหาดูสัตว์ ไปเห็นกระต่ายหนังบาง ๆ ติดกับขนอยู่กับพื้น เราเลยจับขึ้นมาดู โฮ้ นี่ลูกกระต่าย แมวกินเมื่อคืนนี้แหละ เห็นแต่หนังบาง ๆ ติดกับขนมัน ชัดเจนแล้ว แต่ก่อนเราก็ค่อนข้างแน่ใจอยู่แล้ว แต่ไม่เห็นประจักษ์อย่างที่ไปดูวันนั้น นั่นละจากนั้นมาก็เอาใหญ่เลย สั่งให้ทำสังกะสีกั้นต้นเสา ๆ รอบหมดเลย ทีนี้พวกกระต่ายกำลังหนาแน่นขึ้น ไปที่ไหนมีเยอะนะ ขึ้นรวดเร็วด้วย ตัวเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่ตามที่ต่าง ๆ เพราะแมวไม่เข้ามาได้ มันแพร่หลายอย่างรวดเร็ว กระจ้อนกระแตก็มีอยู่ทั่วไป

เวลานี้กลางคืนบางคืนก็เห็นตัวหนึ่ง ถามพวก ตชด. เขานอนอยู่ข้างนอกพวกนี้ กลางคืนระยะนี้บางคืนก็เห็นตัวหนึ่ง บางคืนก็ไม่เห็น แต่ก่อนมันมาสามตัวสี่ตัว มันยกขบวนออกมาเลย มาโดดเข้านี่กินสัตว์ อิ่มแล้วหนีไปนอนอยู่บ้านกลางคืน กลางวันอยู่บ้านสบาย กลางคืนด้อมออกมา ทีแรกจริง ๆ มันอยู่ในวัด กินแล้วมันไม่กลับบ้าน ทีนี้พระไล่ล่ะซี พอพระไล่แล้วกลางวันก็เลยไปนอนอยู่ในบ้าน กลางคืนมากิน เพราะฉะนั้นตอนที่มันนอนอยู่นี้กลางวัน กระแตจึงฉิบหายไปมาก กระแตเที่ยวกลางวัน พวกนี้กัดทั้งนั้นไม่ขึ้นอยู่กับคำว่าหิวไม่หิวนะ พอเจอนี้ด้อมใส่เลย พวกกระจ้อน กระแต พวกหนู แมวนี้ไม่เลือกเวลาหรือสถานที่ หิวไม่หิวกัดเลย มันไม่กัดแต่ไก่ เพราะไก่อยู่ในบ้านเขาก็มี เขาไม่สนใจกับไก่

เราจึงเป็นกังวลกับสัตว์ล่ะซี ยั้วเยี้ย ๆ เมื่อวานซืนหรือวันไหนเราเข้าไปในครัว โหย ครอกหนึ่งเอาใส่ตะกร้าใหญ่มานี้ ๘ ตัว ลูกกระต่าย แม่เดียว ๘ ตัวฟังซิ เราก็บอกอยู่ทางนั้นอีก ๖ ตัวหรือ ๑๐ ตัวช่างหัวมันเถอะ เราดูเท่านี้เราเลยหนี ๘ ตัวกับ ๖ ตัวเป็น ๑๔ แล้วเห็นไหม มันรวดเร็วนะ เราจึงต้องได้สงวนรักษา สงสาร คิดดูอย่างกุฏิเราเดี๋ยวนี้มันมาจองแล้วนะ เรายิ่งระวังกลัวหมาเข้าไปไม่ใช่อะไร ถ้าไม่มีหมามันจะขึ้นนอนบนหลังคากุฏิเรา เราก็ไม่สนใจ อันนี้กลัวหมาเข้าไปกัดตายละซี จึงได้พูดอยู่เสมอ

ไล่มันไม่ยอมหนี มันไม่รู้จักไล่เสียด้วยนะ สองตัวสามตัวเป็นประจำ นี่ละสัตว์ เย็นที่ไหนมันก็อยู่ที่นั้นละดูเอา ก็คิดดูซิอย่างวัดหลวงตาบัว เมืองกาญจน์ หมูป่าร้อยเปอร์เซ็นต์ฟังซิน่ะ จนท่านจันทร์จะตาย รับเคราะห์เลี้ยงดูเขา เราก็สงสารเพราะเราก็เป็นผู้เกี่ยวข้องกับสัตว์อยู่แล้ว ทีนี้ไปเห็นนั้นก็เข้ากันได้ทันที เลยเป็นความกังวล จึงต้องได้ มีข้าวก็เอาข้าวไปให้เลย วันนั้นได้ ๒,๐๔๐ ถุง ก่อนที่เราจะมา เพื่อหมูป่าตั้ง ๓๐๐ ตัว หมูป่าร้อยเปอร์เซ็นต์นะฟังซิ ทีแรกก็มีตัวหนึ่งสองตัวมากิน กินแล้วมันก็ไปบอกกัน บอกกันก็มาเรื่อย ๆ ทีนี้เราไม่ได้ให้ท่านจันทร์ไปเที่ยวดู ที่หอระฆังมีไหมแถวนั้นบนเขา เขาได้เคาะระฆังนัดเพื่อนเขามากินข้าวกับพระ นัดหมู ให้หัวหน้าใหญ่เขาเคาะระฆังขึ้นมากินอาหารกับพระ ทำไมถึงได้ว่าอย่างนั้น ก็ไม่มีระฆังมันก็ยังหลั่งไหลมา คิดดูตั้ง ๒๐๐-๓๐๐ ตัวฟังซิ มันบอกกันมาเรื่อยนะ

แล้วมาเขาไม่ได้คิดว่าพระมีให้กินไม่มีให้กิน เขามารออยู่เต็ม ฟังซิหมูป่าร้อยเปอร์เซ็นต์ทำไมมันเป็น นี่ความตายใจ ธรรมอยู่ที่ไหน ความเมตตา ความสงสาร ธรรมแทรกเข้าหัวใจสัตว์เข้ากันได้สนิท ดูภายนอกไม่เห็นดูภายในหัวใจนั่นซิ นี่ละพระพุทธเจ้าดูโลกท่านดูอย่างนั้นมาสอนพวกเรา พวกเราหลับหูหลับตาไม่ยอมเชื่อ หัวชนฝาไปเลย นี่มันจมทั้งนั้นนะ ลงไม่เชื่อศาสดาแล้วตายทั้งนั้นจมทั้งนั้น จำกันให้ดีนะ นี้เราจวนจะตายค่อยเปิดออก ๆ เปิดจ้าอยู่นี้แล้วจะให้ว่ายังไง หรือจะให้พูดอะไรอีก มันขนาดนั้นนะ ยิ่งแก่ลงเท่าไร ทุกสิ่งทุกอย่างกิริยายิ่งเข้มข้น ด้วยอำนาจความเมตตาสงสารมันจะไปกองอยู่ในนั้น มันจ้าอยู่งั้นจะให้ว่ายังไง หลั่งไหลกันไม่ทราบยั้วเยี้ย ๆ เป็นกัปเป็นกัลป์มานั่น

อย่างที่เราเคยพูดแล้วเหมือนคนติดคุกติดตะราง พวกสิ้นโทษก็ออกมา พวกโทษใหม่ก็เข้าไป ๆ อยู่อย่างนั้นตลอด อันนี้เรือนจำมันไม่ได้มากอย่างนั้น ในนรกมันน้อยเมื่อไร มนุษย์เราเต็มโลกนี้ไม่ได้พอกับนรกแต่ละหลุมนะ น้อยนิดเดียวเท่าหยิบมือเท่านั้นถ้าเทียบกับสัตว์นรก ฟังให้ดีพระพุทธเจ้าสอนโลกสอนยังไง เปิดเผยอย่างขนาดนั้นน่ะ เวลานี้กิเลสเปิดเผย เหยียบย่ำทำลายความจริงทั้งหมด มันเหยียบลง มันลากสัตว์ไปลงนรก ๆ มันเหยียบธรรมที่เป็นของจริงรื้อขนสัตว์ออกจากทุกข์ มันเหยียบธรรมเอาไว้ มันขนความทุกข์ใส่สัตว์ ลากสัตว์ลงนรก หลอกลวงประเภทต่าง ๆ มีแต่เรื่องของกิเลสทั้งนั้น อู๊ย ทุเรศนะ

แต่เรื่องธรรมไม่ได้เหมือนโลก ถ้าหากว่าเป็นโลกแล้ว โอ๊ย จะสลบไสลไปเห็นมาแล้วนะ นี้ไม่ใช่ว่าไปเห็นมาแล้วไม่เห็นมาแล้ว มันจ้าอยู่นี้จะให้ว่าไง ตลอดเวลานี่ แต่ธรรมท่านเป็นธรรม ท่านไม่เอนไม่เอียง เห็นก็รู้ว่าเห็น อะไร ๆ ก็รู้ทุกสิ่งทุกอย่างรู้ ท่านไม่มีอะไรมากดถ่วงจิตใจท่าน จึงเรียกว่าธรรมเหนือทุกอย่าง อารมณ์ที่จะขุ่นมัวจิตใจให้เกิดความโศกเศร้าเหงาหงอยท่านไม่มี แต่เห็นก็ยอมรับว่าเห็น แล้วมีความเมตตาครอบ นี่พระพุทธเจ้านำมาสอนโลก สอนเล่น ๆ เหรอสอนพวกเรา ทำไมจึงหลับหูหลับตากัน ให้ระวังให้ดีนะ เวลามีลมหายใจอยู่ให้ระวัง ระวังได้นะเวลานี้ หลบหลีกปลีกตัวได้ ถ้าลมหายใจขาดแล้วยังไงก็ผึงเลย ใครจะแก้ปฏิเสธขนาดไหนก็แก้มาเถอะ สามแดนโลกธาตุมีแต่พวกสำคัญตนว่าเก่งกว่านรก บทเวลาไปจมลงนรกไม่เห็นเก่ง ถ้าเก่งกว่าศาสดา ศาสดาสอนแล้วเป็นยังไงจริงไหม นั่นไม่เห็นเก่งกว่าศาสดา สอนไว้ยังไงเป็นอย่างนั้น

เราจึงได้สอนโลกเต็มเม็ดเต็มหน่วย ใครจะว่าอะไรก็ตามเราไม่มีอะไรกับโลกเราบอกตรง ๆ เรื่องของโลก เราไม่คิดว่าคนนั้นเป็นเวรเป็นกรรมต่อเรามาคิดอาฆาตมาดร้ายอะไรต่อเรา เราไม่มีเราบอกตรง ๆ มีแต่ความเมตตาล้วน ๆ ครอบโลกธาตุอยู่ตลอดในหัวใจอันนี้ ใจมันมีขอบเขตเมื่อไรใจน่ะ ให้เปิดกิเลสออกซิ เวลานี้กิเลสปิดไว้มันก็เหมือนแก้วครอบตะเกียงดำ ๆ ปิดไว้ แสงตะเกียงมันจะจ้าขนาดไหนมันก็อยู่ในแก้วครอบดำ ๆ มันก็ไม่เห็นล่ะซิ ไอ้ความรู้รู้ทุกคน แต่สิ่งที่ครอบเอาไว้มันไม่เห็น พระพุทธเจ้าเปิดออกหมดแล้วก็เห็นหมดล่ะซี ก็ความรู้มันเต็มตัวอยู่แล้วทำไมจะไม่เห็น สิ่งที่จะให้รู้ให้สัมผัสมันเห็นอยู่มีอยู่นั้นจะหลีกกันไปได้ยังไง จะไม่รู้ได้ยังไง สิ่งใดที่ควรจะรู้จะเห็นมันจะเห็นทันทีรู้ทันที ไม่ต้องไปถามใคร ไม่ถามหาใครมาเป็นพยานนะเรื่องความจริง นี่ละเรื่องศาสดาเอกสอนโลกสอนอย่างนี้มา พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์สอนแบบเดียวกัน

เป็นศาสนาคู่โลกคู่สงสารคู่บ้านคู่เมือง คือพุทธศาสนาทุกพระองค์ นอกนั้นเราไม่ปฏิเสธ เป็นศาสนาคลังกิเลส ลูบ ๆ คลำ ๆ ไป อะไรที่ชอบใจก็ว่าอันนั้นถูกอันนี้ถูกไป อันไหนไม่ชอบใจก็ปัด ธรรมพระพุทธเจ้าไม่เอนไม่เอียง ดีบอกว่าดี ชั่วบอกว่าชั่ว เสมอไปเลย นั่น แล้วก็ไม่มีอารมณ์กับสัตวโลก ที่จะมากดถ่วงจิตใจให้ได้รับความเดือดร้อน เพราะความเจอความทุกข์ความเดือดร้อนของสัตว์ จะมาสร้างอารมณ์ขึ้นในใจพระพุทธเจ้าไม่มี เพราะอันนั้นเป็นเรื่องของสมมุติ นรกทุกหลุมเป็นสมมุติทั้งนั้น มีอยู่ในแดนสมมุติ วัฏจักรสามโลกธาตุนี้เป็นแดนสมมุติทั้งหมด ผู้ที่ทรงความบริสุทธิ์เต็มที่แล้วเหนือหมด ถึงได้สนุกดูล่ะซี

ท่านไม่ได้ดูแบบหลับหูหลับตาเหมือนเรา ยังว่าสอนเล่น ๆ อยู่เหรอ เห็นไหมล่ะเขาเข้าออกเรือนจำ เท่านั้นละก็เป็นพยานได้แล้ว ถึงไม่มากก็อยู่อย่างนั้น หลั่งไหลเข้าหลั่งไหลออก ผู้สิ้นโทษออกไป โทษหนักโทษเบาถึงเวลาแล้วออก พวกเข้าเข้าเรื่อย ประสับประสานไม่มีขาด เรือนจำร้างไม่มีคนชั่วไม่มี คนชั่วมันมีอยู่เหมือนกับคนดีสับปน คนชั่วสัตว์ชั่ว อันนี้แดนนรก ไม่ว่าแต่คนตกนรกนะ สัตว์ก็ไปตก กรรมมีขนาดไหนมันจะไปตามร่องรอยของกรรมลากลง ๆ เป็นธรรมชาตินะ ดึงลงเอง ๆ ไม่มีใครไปลากแหละ กรรมเจ้าของนั่นแหละลากเจ้าของ ลากขึ้นก็เหมือนกัน กรรมดีเจ้าของลากขึ้นเอง พยุงขึ้นเลย

ไม่ต้องไปถามใครละเรื่องสวรรค์นิพพานมีกี่ชั้น ขอให้สร้างความดีให้ดีก็แล้วกัน นี่ละทางเดินเพื่อสวรรค์นิพพาน พระพุทธเจ้าบอกไว้แล้ว การทำทาน การรักษาศีล การเจริญเมตตาภาวนารักษาตัวให้เป็นคนดี มีศีลธรรมประจำตัว นี้ละทางเบิกเพื่อไปสวรรค์นิพพาน ไม่ต้องไปถามใคร กรรมที่เราสร้างไว้นี้จะบุกเบิกถึงเลย ทางนรกก็เหมือนกัน ไม่ต้องสร้างว่าทางนรกเป็นยังไง ๆ เราสร้างด้วยความชั่วของเรามันบอกแล้ว ๆ ไม่ต้องไปถามใคร ผึงเลยทันทีดีกับชั่ว จึงไม่มีกรุยหมายป้ายทางว่าไปนี่ระยะนั้น ทางนั้นปลีกนั้นแวะนี้อย่าไป หลงทางไม่มี ผึงเลย ๆ แหละ

จิตใจเป็นของเล่นเมื่อไร เดี๋ยวนี้ถูกกิเลสปิด อยู่ในส้วมในถานมูตรคูถทับเอา ๆ ไม่เห็นวี่แววของจิตใจที่เลิศเลอนั้น นั่นละถูกสิ่งลามกจกเปรตนั้นปิดบังเอาไว้ คนจึงสร้างตั้งแต่ความชั่ว ความดีนี้ไม่ค่อยอยากทำ ถ้าเรื่องความชั่วออกหน้าออกตาทุกแห่งหนตำบล ทุกโลก โลกสงสารนี่ การทำความชั่วไม่ขยะแขยง ออกหน้าออกตา ตลาดตเลไม่มี ออกได้หมดไม่มีตลาดจำกัด ว่านั้นไปจ่ายตลาดที่นั่นที่นี่ ตลาดความชั่วของสัตวโลกนี้มีอยู่ทั่วไปหมด ออกได้ทั้งนั้น ๆ แต่ความดีนี้ไม่ค่อยออกได้

เราเห็นตัวอย่างไม่ใช่เหรอ จะไปวัดไปวา ต่อไปจะต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ เวลานี้ก็มีแล้วนะ หลบ ๆ ซ่อน ๆ ออกอย่างเปิดอย่างเผยไม่ได้ กิเลสมันเหยียบเอา ๆ ดูถูกเหยียดหยามเยาะเย้ยต่าง ๆ ซี นี่ ๆ เขาจะไปสวรรค์นิพพานนะ ให้เขาไปเขาจะไม่ได้มาแย่งปลาเรากิน ปลาหนองนั้นมีเยอะนะ ถ้าพวกนี้มันไม่ไปสวรรค์นิพพานมันจะมาแย่งปลาเรา เราจะไม่ได้หากินสะดวก ให้เขาไป ๆ พวกเราจะได้สนุกหาปลากินไม่มีใครมาแย่ง นั่นเห็นไหมมันเยาะเย้ยกัน นี่ละกิเลสมันออกตลาดเห็นไหม เวลานี้ออกเต็มบ้านเต็มเมือง

พูดแล้วเราสลดสังเวชนะ ดูคนเดียวเหมือนบ้าดู โลกมันเป็นยังไงดูมันเห็นจริง ๆ นี่ ไปถามใครมาเป็นสักขีพยาน มันจ้าอยู่นั้นจะให้ถามใคร นี่ ๆ ดูเอาซิ(กระโถน) จ้าอยู่นี้ เห็นไหมนี่ จะถามใครมองมาก็เห็นอยู่นี่ ใครปฏิเสธได้ไหมว่าสิ่งนี้ไม่มี เอ้า ถ้าไม่ใช่คนตาบอดดูมานี้เห็นหมด นี่ละความรู้ของพระพุทธเจ้าของพระอรหันต์ท่านที่แจ้งขาวดาวกระจ่างกับสิ่งที่มีอยู่ทั้งหลาย เป็นยังไงเห็นอย่างนั้น ไม่ต้องไปถาม นั่นละท่านเอามาสอนโลก ท่านสอนเล่น ๆ เมื่อไร พวกเรายังจะมาโกหกตัวเองแล้วก็ไปเหยียบย่ำพระพุทธเจ้า ว่าบาปบุญนรกสวรรค์ไม่มีแล้วจม จมตลอดเวลา สร้างแต่ความจมให้เจ้าของมันมีอย่างเหรอมนุษย์เรา

เกิดมานี้กี่ปีกี่เดือนแล้ว เป็นยังไงมีความดีเท่าไรบ้าง ที่จะฟัดจะเหวี่ยงแย่งตัวออกให้หลุดพ้นจากทุกข์ด้วยอำนาจแห่งความดี มีมากมีน้อยเท่าไรให้ดูเจ้าของนะ อย่าไปดูต้นไม้ภูเขา เขาไม่ไปนรกสวรรค์นะพวกนี้น่ะ ตัวจะไปนรกสวรรค์คือตัวของเรา เอาร่างกายนี้เป็นเครื่องมือ ตัวใจจะไปนรกไปสวรรค์ นั่นละผู้บงการอยู่ในหัวใจ คิดดีคิดชั่วจะออกจากหัวใจ นี่ละตัวจะไปตัวนี้ ตัวเหล่านี้ไม่ไป ร่างกายสังขารไม่ไป เหมือนกับโลกทั่ว ๆ ไป ตายแล้วเขาจะทิ้งไม่ทิ้ง อะไรอยู่ที่ไหนก็เกลื่อนอยู่อย่างนั้นดังที่เราเห็น แต่ใจมันไม่มีป่าช้ามันไม่เคยตาย

ใจไม่เคยตาย ทุกข์ยอมรับว่าทุกข์ อย่างตกนรกทุกข์แสนสาหัสก็ยอมรับว่าทุกข์แสนสาหัส หากไม่ยอมฉิบหาย พ้นจากนั้นมาแล้วเบามาแล้วก็ออกมาอีก ออกมากิเลสก็ปิดไว้อีกเหมือนไม่เคยตกนรกเลย มาสร้างแต่ความชั่ว เพราะกิเลสอยากให้สร้างแต่ความชั่ว เมื่อมันอยากมันหิวอะไรมันก็กินซิคนเรา อยากข้าวหิวข้าวก็กินข้าว อยากอะไรหิวอะไรกินอันนั้น ๆ นี่มันหิวอยากทำอันนี้คือความชั่วนั่น มันก็ทำลงไปแล้วเอาอีกอยู่อย่างนั้น หูย พูดแล้วเราสลดสังเวชนะจะว่าไง มันขนาดนั้นนะโลกอันนี้ นี้ก็พยายามสั่งสอน

วัตถุไทยทานที่บิณฑบาตจากพี่น้องทั้งหลายเข้าสู่คลังหลวง นี้เป็นอันดับสองนะ เราพูดจริง ๆ อันดับแรกเราฟื้นจิตใจของคน ซึ่งเวลานี้กำลังจมมากจากกิเลสเหยียบย่ำทำลาย ไม่เห็นบาปเห็นบุญเลย เห็นแต่ความทะเยอทะยานซึ่งเป็นเรื่องทางที่จะสร้างบาป มันเห็นอย่างนั้น นอกนั้นไม่ค่อยเห็น จึงรื้อฟื้นขึ้นมา ไปที่ไหนก็เทศนาว่าการ ใจ ๆ สำคัญ คือใจไม่เคยตาย ตัวนี้ละจะสมบุกสมบันรับเคราะห์รับกรรม เพราะฉะนั้นจึงต้องบำรุงจิตใจให้ดี ถ้าตัวนี้ไม่ดีอะไรจะดีขนาดไหนก็ไม่มีความหมาย อย่าเข้าใจว่าตึกรามบ้านช่องถนนหนทาง สมบัติศฤงคารบริวารท่านทั้งหลาย ว่าเป็นของดิบของดี มีฤทธาศักดานุภาพนะ ไม่มี พอลมหายใจขาดปั๊บขาดสะบั้นลงไปเลย

เพราะเราเป็นผู้ไปเกี่ยวโยงเขานี่ ไปถือเขาว่าอันนั้นเป็นของเรา ๆ พอทางนี้ขาดสะบั้นลงไป อันนั้นเขาเป็นของเขาอยู่แล้วจะให้เขาเป็นของใคร ใครจะมาสืบต่อก็สืบต่อ ไม่สืบต่อเขาก็เป็นของเขาอยู่งั้น ตัวใจนั่นซี เวลามีชีวิตอยู่คว้าตั้งแต่น้ำเหลว ๆ อันนั้นก็ดี อันนี้ก็ดี หัวใจมันเลวขนาดไหนมันไม่ดู มันเอาอันนั้นมาเป็นที่พึ่ง ที่พึ่งก็คือฟืนคือไฟ ตายแล้วไม่มีที่พึ่งแหละ ขาดสะบั้น ความดีไม่มี เพราะฉะนั้นความดีทุกอย่างให้สร้าง

ธาตุขันธ์มีอยู่ยอมรับด้วยกันทุกคน โลกอันนี้เป็นโลกสร้างอยู่สร้างกิน ต้องมีที่อยู่ที่หลับที่นอนที่ไปที่มา ที่ขับที่ถ่ายเป็นธรรมดา โลกอันนี้มี ก็ต้องสร้างไว้เพื่อโลกอันนี้ แล้วโลกอันนี้ภายในใจมีอีก นั่น ใจมีอะไรเป็นที่พึ่งที่อาศัย ภายนอกอย่างที่ว่านี้ เกี่ยวกับเรื่องร่างกายก็อาศัยสิ่งเหล่านี้ แล้วภายในมีอะไรเป็นที่อาศัย นั่นมันต้องย้อนเข้า ๆ ภายในไม่งั้นจะไม่ได้ที่พึ่ง ตายทิ้งเปล่า ๆ นะ นี้พูดอย่าง ถ้าหากแบบโลกพูด แบบโลก ๆ เขาเคยพูดสนุกสนานก็ว่าสนุกพูด ว่างั้นเลย คือมันไม่มีสะทกสะท้าน ไม่มีหวั่นมีไหวในสิ่งที่รู้ที่เห็นว่าจะผิดไป ว่างั้นเลยนะ ถึงขนาดนั้นพี่น้องทั้งหลายฟังเอาซิ ดูซิกิริยาท่าทางเป็นยังไงเวลานี้พูดกับพี่น้องทั้งหลาย หรือว่ามาโกรธมาแค้นจะมาสับมายำพี่น้องทั้งหลายอย่างนั้นเหรอ สับยำกิเลสต่างหาก มันเหยียบย่ำทำลายโลกเหลือประมาณ ทนไม่ได้ก็ออกเสียบ้างซิจะว่าไง

โห ของเล่นเมื่อไร มีแต่งูเห่า มีแต่พวกจงอาง สามเหลี่ยม ทั้งนั้นรอบตัว รัดคอเราอยู่ตลอดเวลา เรายังเพลินว่าเป็นสายสร้อยสังวาลย์ ไอ้เห่าไอ้จงอางมันพันคอเรานี่ ว่าได้สายสร้อยสังวาลย์มาประดับประดาตกแต่งดูซิน่ะ สายสร้อยกับจงอางมันต่างกันยังไงมันไม่รู้ คนที่เขาดูเขารู้ สายสร้อยเขาก็รู้ จงอางเขาก็รู้ แล้วเป็นยังไงดูได้ไหม พวกเราพันกับจงอาง สามเหลี่ยม อยู่อย่างเพลินตัวไม่รู้นะ ความโลภมันก็กล่อม มันไม่ให้เห็นว่าเป็นจงอาง ความโกรธมันก็กล่อม มันไม่ให้เห็นว่าเป็นสามเหลี่ยม ราคะตัณหามันยิ่งมัดเข้าไป ๆ จนจะอาเจียนออกมา เห็นผู้หญิงผู้ชายยังเป็นบ้าอีกนู่นน่ะเห็นไหม มันเป็นขนาดนั้นนะเวลานี้

มันมัดคอยังไม่รู้ว่านี้คืองูเห่า ไม่รู้ ทีนี้ตาเรากับตาที่ว่านั้นต่างกันยังไง ดูแล้วมันก็รู้ อันไหนเป็น เห่า จงอาง สามเหลี่ยม(ทำทาน) มันก็รู้ ทีนี้ธรรมจ้าเข้าไปมันเห็นหมดจะว่าไง แล้วยังจะมาพันคออยู่เหรอ ให้คลี่คลายออกบ้าง เวลามันขี้เกียจขี้คร้านมาก ๆ นั่นละมันกำลังมัดคอเรา ขี้เกียจมากเท่าไรหมอนยิ่งสนิทกันเข้าเรื่อยนะ เสื่ออยู่ที่ไหนก็กลิ้งเข้ามา ไม่กลิ้งเข้ามามือคว้า ถ้าเสื่อไม่กลิ้งเข้ามา ทำไมมันเซ่อซ่านักเสื่อนี่ไม่ทันใจกู มือคว้าเอามา นี่ละมันกล่อมเข้าใจไหม มันมีแต่สิ่งเหล่านี้นะกล่อม ไล่เข้าทางจงกรมแฉลบออกโน้น ไล่เข้าทางนี้แฉลบออกทางโน้น มันไม่ยอมเข้าทางจงกรม ปิดประตูเสื่อหมอนเอาใส่ในลังไว้ กุญแจล็อก มันก็ฟาดกุญแจแตก ลากเอาหมอนออกมาเสื่อออกมา เห็นไหมกิเลสมันเก่งไหม

นี่ละมันเพ่นพ่าน อยู่ในหัวใจเราทุกคน ให้ดูหัวใจเจ้าของซิ เราอย่าไปตำหนิคนหนึ่งคนใดไม่ถูกนะ นี้สอนเพื่อให้เข้าหัวใจทุกคน ๆ สิ่งเหล่านี้มีอยู่กับหัวใจทุกคน เปิดเข้าไป เอา มึงขี้เกียจหรือ มึงเอามรรคผลนิพพานมาให้กูที่ไหนขี้เกียจนี่ ขี้เกียจทำความดี กูจะสร้างความดี ฟาดกูมึงก็ไม่เป็นไรใช่ไหม ความเด็ดเดี่ยวใส่กัน กูมึงไม่ได้เป็นความหยาบนะ ความเด็ดเดี่ยวฟัดกัน โลกกิเลสตัวสกปรกมันไม่ให้ไปแตะมันนะ พูดอะไร ๆ ว่าสกปรกโสมม ดุด่าอย่างนั้นอย่างนี้ ตัวกิเลสมันตัวสกปรกมากจริง ๆ ไม่ให้ไปแตะมัน

เมื่อความจริงคือน้ำชะล้างเข้าไปคือธรรม มันหาว่าน้ำนี้สกปรกสู้ส้วมไม่ได้เข้าใจไหมล่ะ อย่างนั้นนะ พวกเรานี้พวกสู้ส้วมไม่ได้ เอา ใครเก่งสร้างลงไปว่าอย่างนี้เลย ลงศาสนาพระพุทธเจ้ายังมีครองโลกมาอยู่เป็นประจำนี้ ก็คือเรื่องอันนี้มีเป็นประจำ ศาสดาจึงมาสอนเป็นประจำ ถ้าสิ่งเหล่านี้ไม่มีพระพุทธเจ้าไม่จำเป็นมาสอนโลก สอนหาอะไร สอนก็เพื่อรื้อขนสัตวโลกออกจากกองทุกข์ทั้งนั้น ถ้าต่างคนต่างมีความสุขสมบูรณ์พูนผลแล้ว พระพุทธเจ้าไม่จำเป็นจะต้องมาสอนโลก

เพราะการสร้างบารมีเพื่อความเป็นพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ ๆ มันเท่าไร กี่กัปกี่กัลป์กว่าจะได้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าขึ้นมา เมื่อเห็นสัตว์ทั้งหลายมีความพึงพอใจอยู่สะดวกสบายแล้ว พระพุทธเจ้าตัดทันทีไม่จำเป็นต้องสร้างให้ลำบาก นี่สร้างมาก็เพื่อรื้อขนสัตว์นั่นเอง เราเห็นใจพระพุทธเจ้าบ้างซิ เป็นยังไง สอนอะไรผิดที่ไหน ไม่เคยผิดนะ

เราสอนโลกนี้สอนทางด้านจิตใจเป็นที่หนึ่งนะ ด้านวัตถุที่จะช่วยชาติบ้านเมืองทางส่วนร่างกายที่อยู่เป็นกลุ่มเป็นก้อนก็เป็นอีกอันหนึ่ง เป็นความจำเป็นด้านหนึ่ง ทางด้านจิตใจที่จะรื้อฟื้นหรือยกยอสิ่งเหล่านี้ขึ้นเป็นของสำคัญมาก ถ้าด้านจิตใจไม่มีอรรถมีธรรมไม่มีเหตุมีผลแล้ว สิ่งเหล่านี้บรรลัยไปได้ เจ้าของก็บรรลัย จึงต้องหนุนทางด้านจิตใจให้รู้ศีลรู้ธรรม ก็คือรู้เหตุรู้ผลรู้จักหลบหลีกปลีกตัวในสิ่งชั่วช้าลามก รู้จักบำเพ็ญในสิ่งที่ดี นั่นเรียกว่าธรรม ท่านสอนอย่างนั้นนี่นะ

จึงสอนธรรมเข้าไป ไปเทศน์ที่ไหนก็ไม่พ้น สุดท้ายก็ไม่มีที่ยึด เพราะมันว้าเหว่จริง ๆ ไปที่ไหนไขว่คว้าเป็นบ้ากัน หลักเกณฑ์ที่จะยึดมันไม่ยอมสนใจ จึงเอาพุทโธเข้า เอา ๆ ยึดพุทโธ นี้เป็นปฐมฤกษ์ ขอให้ยึดนี้ก่อน พอได้พุทโธเข้าไป พุทโธหนาแน่นเข้าไป ใจจะมีที่พักที่อยู่ที่อาศัย สงบร่มเย็นเข้าไปก็เริ่มเห็นผล เห็นผลแล้วก็เริ่มเกิดความสนใจ แล้วจิตก็ยิ่งสว่างขึ้น ๆ ยิ่งเพิ่มกำลังเข้าไป เลยกลายเป็นอจลศรัทธา ไม่มีความหวั่นไหวต่อบาปต่อกรรมทั้งหลายแล้ว ยอมรับว่าบาปบุญมีขึ้นทันทีในหัวใจ เป็นอย่างนั้นนะ จึงต้องพยายามสอน ไปที่ไหนก็สอนอย่างนี้เพราะมันไขว่คว้ามาก

เราอย่าไปดูนะว่ายศถาบรรดาศักดิ์สูง เขาเป็นคนสูง เขาเป็นคนมั่งมีศรีสุข เป็นมหาเศรษฐีกุฎุมพี นั้นเขามีความสุข อย่าหาเรื่องพูดนะ กิเลสหลอกคนให้ลืมตัวต่างหาก มีมากเท่าไร ๆ ถ้าไม่มีธรรมแทรกในใจตัวนี้ละตัวสร้างทิฐิมานะโอ้อวดเขา เย่อหยิ่งจองหองคือตัวนี้เอง ตัวว่าตัวมั่งมีศรีสุข ตัวมียศถาบรรดาศักดิ์ อำนาจวาสนากว้างขวาง มันกว้างขวางแต่กิเลสนั่นซิ ความดีที่จะแทรกเข้าในหัวใจพอให้ได้รับความสุขบ้างไม่มีเลย นี่เราดูคนเราดูผิดหวังมานานแล้วไม่ใช่เหรอ เอาดู ดูคนดูให้ดี ตั้งแต่ผู้ใหญ่ลงมาถึงผู้น้อย ดูให้ดี

เราอย่าเข้าใจว่าตาสีตาสามีความทุกข์ยิ่งกว่าคนมั่งมีศรีสุข คนมั่งมีศรีสุขนั่นหามกองทุกข์ใหญ่มากยิ่งกว่าตาสีตาสาอยู่ตามท้องนา พวกนี้เขาไม่ได้มีความทุกข์มากอะไรนะ การหาอยู่หากินหาเช้ากินเย็นธรรมดาเขาก็อยู่สบาย ไม่ได้สร้างอารมณ์ฟืนไฟเผาเจ้าของมากยิ่งกว่าพวกนี้ พวกนี้กองอารมณ์ใหญ่ คลังอารมณ์ใหญ่ที่สุด เราไม่ได้ประมาทเอาธรรมจับเข้าไปมันเป็นอย่างนี้ แล้วสุดท้ายก็ไม่มีอะไร ตื่นลม ๆ แล้ง ๆ ตื่นลมเจ้าของ ความสำคัญเจ้าของว่ามีนั้นว่ามีนี้ ก็เอาออกเย่อหยิ่งจองหองพองตัวละซิ แล้วก็เป็นการทำลายตัวอยู่ในนั้นอีก ดูถูกเหยียดหยามเขาก็เท่ากับทำลายตัวเอง มันรู้ตัวไม่ได้

นี่กิเลสมันซ้อน ๆ อย่างนี้นะ ดูไปมันสลับซับซ้อนมาก ธรรมจ้าเข้าไปมันเห็นหมดจะว่าไง พระพุทธเจ้ามาสอนโลกไม่จ้าจริง ๆ ไม่มาสอนโลก โลกวิทู หมายความว่ายังไง อาโลโก อุทปาทิ สว่างทั้งกลางวันกลางคืน โลกวิทู รู้แจ้งหมดทั้งโลกนอกโลกในตลอดทั่วถึงใครเกินศาสดาวะ พวกเรามืดบอดไม่มีใครเกินพวกเรา ฟังซิ มันไปแข่งกันด้วยความมืดบอดไม่มีใครเกินพวกเรา ๆ ท่าน ๆ

ดีไม่ดีไปนี้เราจะได้ระวังแผงจราจรที่ปิดอยู่ทางเข้าไปครัวนั่นน่ะ ไปนี้มันจะหลับตาไปนะพวกในครัว ไปชนแผงนั้น เราจะได้บอกตำรวจจราจรไว้ เอาไม้คอยตีหน้าผากมันให้หน่อย แผงนี้เขากั้นไว้ให้คนตาดีดู นี้มันตาบอดมาจากไหนมาชนแผงเรา เขาจับเข้าคุกอีกพวกนี้น่ะ เราขี้เกียจไปลากมันออกมาจากคุกเข้าใจไหม พูดแล้วมันโมโห มันหลับตาไป หลับตาอะไร หลับตาใจเข้าใจไหมความหมายนี้ ใจมันมืดมันบอดมันไม่ได้สนใจคิดแง่นั้นแง่นี้ ถ้าใจมีอรรถมีธรรมแล้วจะแพรวพราว ๆ ไปไหนมันจะรอบตัว ๆ เป็นอย่างนั้นนะใจ ใจคนเราธรรมดากับใจผู้มีธรรมต่างกัน และใจผู้บริสุทธิ์อีกอย่าเอาไปเทียบนะ ไม่มีอะไรเทียบได้เลย นั่นละใจของท่านผู้บริสุทธิ์พระพุทธเจ้าพระอรหันต์ท่านเป็นอย่างนั้นนะ

แต่ท่านไม่หนักไม่หน่วง มีเหมือนไม่มี ฟังแต่ว่าธรรม ธรรมคือความพอดีตลอด อันใดที่ควรจะออกไปเป็นประโยชน์แก่โลกหนักเบามากน้อย จะค่อยไหลออกเอง ๆ อันไหนที่ควรจะออกมากก็ออกมาก อันไหนที่ควรจะทุ่มผึงเลยทันที ถ้าไม่ควรแล้วดึงก็ไม่ออก นั่นธรรมเป็นอย่างนั้นนะ ไม่ได้เหมือนโลก โลกไม่มีความพอดี อะไรไม่มีความพอดีก็อยู่กับโลกนั่นละ เราพยายามเต็มกำลังความสามารถแล้ว ๓ ปีกว่าแล้วนะสอนโลก เหมือนว่าเรานี้เป็นคนทุกข์คนจนล้นโลกล้นสงสารไปแล้วไม่มีใครเกินเรา ที่สอนโลกเวลานี้

ไปที่ไหนก็ตักเตือนเพื่อให้รู้เนื้อรู้ตัว เกี่ยวกับความอยู่เป็นกลุ่มเป็นก้อนเป็นเขาเป็นเรา ครอบครัวเขาครอบครัวเรา บ้านเขาบ้านเราเป็นขั้น ๆ เป็นอำเภอนั้นอำเภอนี้แยกออกไปทั่วประเทศไทย เข้าในอวัยวะอันเดียวกันหมด อย่างที่สอนสมบัติเงินทองที่เป็นหัวใจของชาติคือคลังหลวงเห็นไหม นั่นละจุดใหญ่ของชาติไทยเราทั้งชาติ เราจึงขอบิณฑบาตที่นั่นที่นี่ เราไม่ได้บิณฑบาตมาเอาเรานะ เราพอทุกอย่างแล้ว สิ่งเหล่านี้เราไปยุ่งกับมันอะไรประสาแร่ธาตุ พูดให้มันเต็มยันเข้าไปอย่างนี้ อะไรจะเลิศยิ่งกว่าธรรม อันนี้พวกเราก็พวกธาตุจะว่าไง มันสมควรกับสิ่งเหล่านี้ก็ต้องหาสิ่งเหล่านี้มาปรนปรือบำรุงรักษากัน ให้พากันเข้าใจอย่างนี้นะ เอารักษาสิ่งเหล่านี้ รักษาใจก็ให้รักษานั่น

เราจึงต้องสอนทางด้านจิตใจให้มาก ให้รู้เนื้อรู้ตัวทุกคน ภายนอกให้มีหลักมีเกณฑ์ ภายในให้มีหลักมีเกณฑ์ ภายนอกการประพฤติเนื้อประพฤติตัวให้มีหลักมีเกณฑ์ ตลอดถึงการรักษาชาติบ้านเมือง ให้ต่างคนต่างเป็นเนื้อเป็นหนัง เป็นสิทธิอันเด็ดขาดเต็มตัว ๆ ด้วยกันทุกคนในการที่จะรักษาชาติของตนเอง ให้พร้อมเพรียงกัน มีความรักชาติเป็นพื้นฐาน ความสละเพื่อรักชาติของตนเป็นอันดับต่อมาด้วยความสามัคคี อันนี้ก็สอน สอนให้รู้เนื้อรู้ตัวอย่าลืมเนื้อลืมตัว อย่าฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมเกินเหตุเกินผล จะเป็นบ้าไม่เลิกนะ การอยู่การกินท้องเราท้องเขามันเท่ากัน ไม่มีใครกินเลยท้องอิ่มไปแล้วจนท้องแตกนอกจากชูชกคนเดียว กินอิ่มมันก็รู้ ก็เพียงเท่านี้ เอามหาเศรษฐีมากินก็อิ่มท้องเท่ากัน คนทุคตะเข็ญใจมากินอิ่มท้องแล้วก็พอเหมือนกัน ให้รู้จักความพอดี ความพอดีของธาตุของขันธ์มีเพียงเท่านี้

ทีนี้ความพอดีของธรรมมีแล้วยัง เอาซิ วันนี้อยู่ผาสุกเย็นใจ ระลึกถึงอันไหนก็มีแต่คุณงามความดีที่เราสร้างไว้ ๆ เป็นอาหารหล่อเลี้ยงจิตใจ นี้เป็นความพอดี ๆ ให้มี อันนี้ก็ให้มี อย่าปล่อยเนื้อปล่อยตัวปล่อยใจเป็นของสำคัญมากนะ เสียมากทีเดียว นี่ที่เราสอนพี่น้องทั้งหลาย ไปที่ไหนไม่พ้นที่จะสอนพุทโธ เพื่อให้ที่ยึดที่เกาะ มันไขว่คว้าจริง ๆ ทั่วแดนเมืองไทย เราไม่ต้องเอาเมืองนอกเมืองนามาพูด เมืองไทยเรานี้ไปสถานที่ไหนมีแต่ถือพุทธ ๆ ถือผีมันก็ไม่ว่านะ หัวใจมันเป็นผี พุทธมีที่ไหน เพราะฉะนั้นจึงเอาพุทธแทรกเข้าไปบ้าง นี่ไม่ใช่ผีนี่พุทธ เราประกาศตนว่าถือพุทธ ๆ มีแต่ผีโลภผีโกรธผีโกรธผีหลง ผีลืมเนื้อลืมตัว ผีไม่มีป่าช้า เต็มบ้านเต็มเมือง เต็มหัวใจเขาหัวใจเรา ดูบ้างซิ นั่นสอนอย่างนี้ต่างหากนี่นะ

ให้มีหลักมีเกณฑ์ทั้งภายนอกภายใน ให้มีขื่อมีแป อะไรก็ให้มีกฎมีเกณฑ์บ้าง เลอะ ๆ เทอะ ๆ ไปหมดนะเมืองไทยเรา เอาธรรมจับเข้า โหย มันจะดูไม่ได้ การอยู่การกินการใช้การสอยเลอะ ๆ เทอะ ๆ ไปหมด เมืองไหนจะเก่งยิ่งกว่าเมืองไทยที่เลอะ ๆ เทอะ ๆ ไม่มีประมาณ คือทำตามชอบใจตามใจชอบ ตลอดถึงเครื่องนุ่งห่มต่าง ๆ นุ่งผ้านุ่งซิ่นนุ่งกางกอกกางเกงเหมือนจิ๊กโก๋จิ๊กเก๋ เข้ามาในวัดเราจะได้ตัดไม้เรียวหรือเอาค้อนนี้มัดใส่ปากไอ้หมีมัน ให้มันทั้งกัดทั้งไล่ตีมันพวกนี้ การนุ่งห่มตามันบอดหรือมันไม่ดูเหรอ นุ่งห่มแบบจิ๊กโก๋จะเห็นหีอยู่นั่น จะเห็นหำมันก็ไม่ดู มันเรียนวิชาเลยหมาไปแล้วมันไม่รู้จักขนบประเพณีของมนุษย์เขาใช้กันยังไงบ้าง มันถึงเอาประเพณีเรื่องของสัตว์มาใช้ ตลอดเข้าวัดเข้าวาเหยียบหัวพระหัวเณรไป เพราะกิเลสมันจุ้นจ้านมาก มันหน้าด้านมากไม่รู้จักอาย มันก็เป็นไปอย่างนี้

ให้ระวังนะเข้ามาในนี้ เราจะได้เตรียมไว้ตัดไม้ไว้กองไว้นี้ ผู้ใดเข้ามานุ่งล่อนจ้อนแล่นแจ้นเข้ามาเราจะเอาไม้ตีมันเลย แล้วก็ยุไอ้หมีด้วย เอาตะไกรยัดใส่ปากไอ้หมีด้วย มึงไปดูนะไอ้หมี คนใดมันแต่งตัววับ ๆ แวม ๆ หรู ๆ ฟู่ ๆ ฟ่า ๆ ให้มึงจับเลิกออกไป ตัวนี้ยังไม่ได้หนีบ ตัวนี้ยังไม่ได้ผ่า มึงฟาดเข้าไปแล้วหนีบขาเขาด้วย เอาอย่างนั้นนะเราจะบอกไอ้หมีด้วย บอกไอ้หมีเสียก่อน ไอ้หมีมันใจกล้า ตัวเหล่านั้นมันจะกลัว มันเห็นแต่งวับ ๆ แวม ๆ มามันจะวิ่งเข้าป่าหมด ไอ้หมีคงยังไม่วิ่ง มันคงจะต่อสู้สุดเหวี่ยงเสียก่อนไอ้หมี เพราะฉะนั้นเราถึงมอบหน้าที่ให้ไอ้หมี

มันไม่มีกฎไม่มีระเบียบอะไรเลย นี่เหลวไหลโลเลนะ ไม่มีกฎไม่มีระเบียบ ประเพณีของเขาไปที่ใดเมืองไหนเขานุ่งห่มกันยังไง ๆ นั่นละแบบนั้นขนบประเพณีของเขา เขาใช้เป็นแบบเป็นฉบับมีขอบมีเขต ประเพณีของเมืองไทยเรามีอะไร มีทั้งหมูทั้งหมาทั้งเป็ดทั้งไก่ การอยู่การกินการใช้การสอยการนุ่งการห่มแบบนั้นทั้งนั้น ไม่มีกฎมีเกณฑ์เลย ฟังให้ดีคำนี้นะ เอาละพอ เป็นยังไงล่ะฟังเทศน์ (วันนี้เด็ดเลยเจ้าค่ะ) มันต้องเด็ดบ้างซิมันโมโหมานาน

วันนี้ก็เทศน์เร่งอยู่นะรู้สึกเหนื่อย ทั้งฉันจังหันแล้วใหม่ ๆ มันยังรู้สึก ถ้ายิ่งตอนบ่ายแล้ว โหย ขนาดนี้ขึ้นแล้วนะ ที่เราเทศน์อย่างนี้ คือเวลาฉันจังหันแล้วมันมีกำลังอะไรหนุนมัน โรคอันนี้ไม่ค่อยกระเทือนง่าย ถ้าเป็นบ่ายหรือบ่าย ๆ ลงไปแล้ว โหยได้ระวัง ลมมันเข้า เราเร่งเท่าไรลมมันยิ่งแรงกระแทกเข้าไปนั้น โรคอันนี้ก็ตื่นนอนขึ้นมาโรคหัวใจ ยิบ ๆ ขึ้นมาแล้วเหยียบเบรกทันที ไม่เหยียบไม่ได้ นี่อ่านให้ฟังเป็นประจำวัน เมื่อวานนี้ทองคำไม่ได้ก็บอกว่าไม่ได้ เป็นธรรมดาพักเครื่อง ดอลลาร์ได้ ๒๖ ดอลลาร์

หมาเรา ๆ ก็รักมัน เราก็รักหมาด้วย รักแมวด้วย มันเห่าเรื่อย เขาไม่ได้หิวนะเขาออกมา เสียงเห่าลั่นคือเขาเห่าด้วยสนุก เขาไม่ได้หิวนะ หมาวัดดูนี้ไม่ค่อยหิว เขารู้จักเวล่ำเวลาเหมือนกันหมาเรานี้ เราเคยทดลอง เช่น ตอนเช้าเราให้อาหาร แล้วตอนบ่ายเราให้อีก เฉยนะ ไม่สนใจ เขาจะกินตอนเช้าตอนเย็น กลางวันตอนบ่ายเวลานี้เอาไปให้เฉยเหมือนไม่ใช่อาหาร เขาดูเฉยไม่สนใจ ยังดีเขาให้อภัยเรา ขึ้นเบื้องต้นเขาก็จะบอกว่าอย่ายุ่งพวกเลอะเทอะ เขาจะว่าอย่างนั้น ข้ามีเวลาอยู่ เขาจะว่าใช่ไหม เขาจะขู่เราว่าอย่ายุ่งพวกเลอะเทอะข้ามีเวลาอยู่ พวกเธอแจ็บ ๆ ทั้งวันเขาจะว่าอย่างนั้นเข้าใจไหม นี่เขาไม่ว่าอะไรเขาให้อภัยเรา

ทองคำที่ต้องการมอบเข้าคลังหลวงนั้น ๔ พันกิโลดังที่เรียนให้ทราบแล้วนะ มอบเข้าคลังหลวงแล้ว ๒,๕๐๐ กิโลยังขาดอยู่อีก ๑,๕๐๐ กิโลจะครบจำนวน ๔ พันกิโล อันดับต่อไปทองคำต่อยอดจากเงิน ๘๐๖ ล้านบาทซื้อทองคำแล้ว ๒๐๐ ล้านบาทได้ทองคำ ๕๐๐ กิโลเท่ากับ ๔๐ แท่ง ๆ หนึ่งน้ำหนัก ๑๒ กิโลครึ่ง มอบเข้าคลังหลวงแล้ว ๒๕๐ กิโลเท่ากับ ๒๐ แท่ง รวมทองที่มอบเข้าคลังหลวงแล้วได้ ๒,๗๕๐ กิโล ทองคำหลังจากมอบเข้าคลังหลวงแล้วได้ ๑๔ กิโล ๒๓ บาท ๑๙ สตางค์นี้ยังไม่ได้หลอม รวมทองคำทั้งหมดได้ ๓,๐๑๔ กิโลเท่ากับน้ำหนัก ๓ ตันกับ ๑๔ กิโล เวลานี้ทองคำที่เราได้แล้วทั้งหมดกรุณาทราบตามนี้

เราจะพยายามตามนี้ ๆ เอา พี่น้องทั้งหลายพาเดินตามกัน ๔ พันกิโลต้องอยู่ในเงื้อมมือของพี่น้องชาวไทยเราทั้งชาติ นี่เราเคยประกาศแล้วว่า ๔ พันกิโลนี้จะขาดไปสตางค์หนึ่งไม่ได้ ให้เป็นอวัยวะของพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศ รวมกันเข้าแล้วเป็น ๔ พันกิโลกรุณาทราบตามนี้ จากนั้น ๘๐๖ ล้านนี้จะเสริมข้างบนต่อยอด ได้มาก็ต่อยอด จะไม่เข้ามาในจำนวน ๔ พัน ต่อยอดจะไม่เข้ามายุ่งกันเลย จะต่อไปเรื่อย ๆ ๔ พันกิโลนี้ต้องเอาตามอวัยวะของพี่น้องชาวไทยเราทั่วหน้ากันให้ครบจำนวน ๔ พันกิโล เงินสดอย่างน้อย ๘๐๖ ล้านอีกต่อยอดตลอดไป อันนี้ก็จะได้เหมือนกัน คือที่เราได้เคยเรียนพี่น้องทั้งหลายทราบตลอดมานี้ ในประกาศข้างหลังศาลาเห็นไหม กี่ธนาคาร

นั่นละเงินสดที่มานี้เราจะแยกเป็นสองตลอด คือสมควรที่จะแยกมาซื้อทองคำเราก็จะแยกออกมา อันไหนที่ควรที่จะออกไปช่วยพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศ เกี่ยวกับการก่อสร้างอะไรต่าง ๆ ดังที่เคยเรียนให้ทราบแล้วนั้นเราก็แยกออกไป เราจะเป็นผู้พิจารณาเอง อันไหนที่ควรในทางด้านไหน เงินจำนวนนี้ควรจะแยกไปทางประชาชนขนาดไหน แยกเข้าสู่คลังหลวง เราจะพิจารณาตลอด เพราะฉะนั้นกรุณาทราบตามกันว่า ธนาคารที่เรารับโอนเงินจากพี่น้องทั้งหลายนี้จะเข้าในจุดนี้ และเราจะเป็นผู้แบ่งเอง เข้าทางด้านทองคำและออกไปทางประชาชน ให้กรุณาทราบตามนี้นะ จะปฏิบัติอย่างนี้เรื่อย ๆ ไป

เรานี้มุ่งมั่นที่สุดก็คือว่าทองคำ อันนี้พอถูพอไถเราจึงไม่ค่อยเป็นอารมณ์มากนักยิ่งกว่าทองคำ เพราะฉะนั้นจึงหักเข้ามาเรื่อย ๆ เพราะทองคำเป็นหัวใจของชาติเป็นเครื่องยืนยันชาติไทยของเรา ว่าสมบูรณ์แบบหรือขาดบาทขาดตาเต็งที่ตรงไหน ก็มาสมบูรณ์และขาดที่ทองคำนี้ จึงต้องเน้นหนักในจุดนี้ให้มาก นี่ละที่ว่าเงินที่ได้มามากน้อยเราจะพิจารณาเต็มกำลังของเรา เอาละเท่านี้พอ วันนี้ก็เทศน์เผ็ดร้อนเหมือนกันนะเหนื่อยเทศน์แล้วมาเหนื่อย พวกนั้นนั่งหลับตาฟังสบาย ทั้งหลับครอก ๆ แครก ๆ ไม่เหนื่อย แต่เราผู้เทศน์เกือบตาย

เมื่อวานนี้เอาของไปส่งวัดดงศรีชมภู ไปส่งแล้วกลับมาเลย พอไปแล้วก็เข้าตีตลาดปากคาด พอดีได้รถทางศรีชมภูเขาออกมาตลาด ก็เลยให้เขาช่วยตีตลาดปากคาดช่วยหน่อย ซื้อของขนใส่รถเขา ช่วยเข้าใจไหม บอกว่าตีตลาดปากคาดช่วยหน่อย เราว่า เราซื้อของให้เอารถเขาขนช่วย เรามีคันเดียวไม่ได้มาก พอดีรถวัดศรีชมภูมาเลยบอกให้เขาตีตลาดปากคาดช่วยหน่อย ซื้อของใส่รถเขาเข้าใจไหม แบ่งเบาของเราไปทางนี้แบ่งเขาไปทางนั้นช่วยกัน เพราะฉะนั้นจึงได้มากหน่อยเมื่อวาน พอส่งแล้วกลับมาเลย

เห็นรถพยาบาลคันหนึ่งมาจากโรงพยาบาลไหน นั่นกากบาท ใครรู้ไหมโรงพยาบาลไหนจอดอยู่นั้นนะ(มาจากวาริชภูมิเจ้าค่ะหลวงตา) อ๋อ วาริชภูมิมาก็เอาของให้เขา อย่างเมื่อวานนี้บ้านแท่นเขามารับรถ เราโทรให้เขามารับรถ รถสั่ง ๒ คันแต่พึ่งตกมาคันเดียวเลยให้บ้านแท่นก่อนแล้วเอาของใส่เต็มไปเลย ต่อไปอีกไม่กี่วันทางภูเรือก็จะมา ภูเรือนี้เราให้เองเขาไม่ได้ขอ คือเหตุผลที่ควรให้เองก็ให้ เหตุผลที่เกี่ยวกับเรื่องการขอ สมควรให้เราก็ให้ ถ้าเหตุผลไม่มีขอก็ไม่ให้ แน่ะอย่างนั้นนะ เป็นขั้น ๆ ไป

วาริชภูมินี้ช่วยมากนะ ซื้อที่ให้ครึ่งโรงพยาบาลเลย วาริชภูมิที่ไม่ค่อยกว้าง ที่มันเป็นแหลมเข้ามา เราว่าจะเอาให้หมดเลย พอดีเจ้าของเขาไม่ขายจึงหมดปัญญา ทางนี้เขาขายพุ่งทางนี้เอาหมดเลย ตกลงได้ครึ่งเลย โรงพยาบาลแต่ก่อนเท่านี้ เราซื้อเพิ่มอีกเท่านี้ครึ่งเลย แต่เสียมันมาแป้วตรงเป็นแหลมเข้ามา ขอซื้อเขาเขาไม่ขายเราก็หมดปัญญา ตรงลงก็ไม่ได้ ช่วยเยอะนะ ส่วนเครื่องมือแพทย์อะไร ๆ ไม่ต้องนับ แต่ที่วาริชภูมินี้ให้มากกับอำเภอฝางขอนแก่น อันนั้นให้ทั้งหมดเลย ซื้อยกขบวนให้เลย อันนี้มันแค่ ๙ ไร่โรงพยาบาล เลยซื้อที่ให้ใหม่หมดดูเหมือน ๒๓-๒๕ ไร่ พอดีที่มันก็หมดเท่านั้น เกาะนั้นเอาหมดเลย เราได้ซื้อให้บ่อย ๆ หลายโรงพยาบาลที่ซื้อให้อย่างนี้ ไปที่ไหนเห็นแต่รอยมือของเรา ๆ ผ่านไปตรงไหนเห็นแต่รอยมือของเราช่วยไปหมด นี่ละช่วยโลกช่วยทุกอย่างเต็มกำลัง

นี่ศาลาเขาก็จะเร่งให้ทัน ศาลาหลังนี้เขากำลังเทพื้นแล้วต่อไฟทำไฟ คงไม่นานเพราะเราไปขู่เขาเรื่อย มันจะทันไหมล่ะ โอ๊ย ทันเขาว่าอย่างนั้น เขาก็เข้มแข็งอยู่ มันจะทันไหมล่ะนี่ โอ๊ย ทัน คือวันที่ ๑๒ สิงหาจะมีงาน แต่งานใหญ่เขาว่าให้ทันกฐิน แต่นี้เราก็ย่นขอพิเศษมาวันที่ ๑๒ ก็เป็นวันงานสำคัญวันหนึ่งนะ จะทันไหม โอ๊ย ทันเขาว่าอย่างนั้น จึงไปพบหัวหน้าเขาก่อน เมื่อวานซืนนี้ก็เจอหัวหน้าเขาว่าทัน วันที่ ๑๒ ก็เป็นวันเล็กน้อยเมื่อไร ไอ้หมีเข้าไปข้างในอย่าไปคุ้นกับมันนะ ได้ยินไหมล่ะเห็นไอ้หมีเข้าไปข้างในให้ทำท่าขู่นะ ต่อไปมันก็จะรู้เรื่องมันจะไม่ไปบ่อย ๆ นัก คือกลัวมันจะกัดกระต่าย ไอ้หมีไม่รอนะเราดูก็รู้ เจอกระต่ายนี้กัดทันทีเลยมองดูก็รู้ เพราะฉะนั้นจึงไม่ยอมให้มันเข้าไป ทางนู้นให้ขู่ด้วย ต่อไปเขาจะไม่ค่อยเข้าไปเห็นเราขู่เขา

เปิดดูข้อมูล วันต่อวัน ทันต่อเหตุการณ์ หลวงตาเทศน์ถึงเรื่องอะไร

www.luangta.com


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก