ไม่ได้ตั้งใจจะมาเป็นเจ้าอาวาสของสัตว์
วันที่ 7 ตุลาคม 2550 เวลา 8:00 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)   วิดีโอแบบ(Win High Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๐

ไม่ได้ตั้งใจจะมาเป็นเจ้าอาวาสของสัตว์

ลาดยางให้แล้วนะจากถนนใหญ่ไปหาวัดเสือ ลาดยางแล้วเหรอ (ลาดยางเรียบร้อยแล้วครับ) เออ ต้องอย่างนั้นซิจึงสมว่าเรามีลูกศิษย์อยู่ที่เมืองกาญจน์ ก็ต้องมีเครื่องหมายที่ว่าลาดยางแล้วนั่น มีลูกศิษย์เป็นผู้ว่าอยู่ที่เมืองกาญจน์ ทางเข้าไปวัดเสือยังไม่ได้ลาดยางให้ ก็ได้แล้ว เลยกลายเป็นวัดเสือไปแล้ว

         มีแต่เสือเต็มวัด ๑๙ ตัวหรือ ๒๐ ตัว เสืออยู่ในวัด จากนั้นก็มีสัตว์ต่างๆ  พวกวัวพวกควายนับไม่ได้ แต่ที่แน่นอนก็คือตอนเช้าตอนนี้ละ พวกหมูไหลออกมาจากภูเขาลงมากินอาหาร พระท่านจัดให้จริงๆ นะข้าว จนอิ่ม หมูเป็นร้อยๆ ตัวไม่ใช่เล่นๆ ลงมาจากภูเขา ทางนี้ก็จัดเลี้ยง พอกินอิ่มแล้วก็ขึ้นเขาเลย หมูป่าเป็นร้อยๆ นกยูงก็เป็นร้อยๆ เหมือนกัน  มันเป็นเองนะ เราไปเห็นม้า ม้าลงมาจากป่า ม้าป่ามาอยู่กับคน อย่างนั้นนะ เออ แปลกอยู่

ท่านจันทร์ที่เป็นเจ้าอาวาสวัดเสือ เป็นพระวัดนี้ พื้นเพอยู่ที่คลองด่าน สมุทรปราการ ออกจากวัดนี้ก็ไปอยู่ทางโน้นทางเมืองกาญจน์ พอเขาถวายที่เสร็จเรียบร้อยแล้วเราก็รับ เพราะย่านนั้นไม่มีพระวงกรรมฐานเลย เราก็เลยนิมนต์ท่านจันทร์ให้มาอยู่ที่นี่ เพราะท่านจันทร์เป็นพระวัดนี้ ไปอยู่ที่เมืองกาญจน์ ถามที่เมืองกาญจน์ที่ท่านไปพักอยู่นั้นมีพระอยู่ไหม มี ถ้าหากว่าแยกท่านไปอยู่ที่อื่นได้ไหม ได้ ว่างั้น จึงให้ท่านมาอยู่ที่นี่ เลยมาเป็นเจ้าอาวาสสัตว์เจ้าอาวาสเสือไป ไม่ใช่เป็นเจ้าอาวาสพระนะ เป็นเจ้าอาวาสพวกสัตว์พวกเสือเต็มไปหมด แปลกอยู่

ตอนเช้าตอนนี้ละไหลลงมาพวกหมูป่า เขาไม่คุ้นกับใครละ ไหลลงมาพวกหมูป่า เขาไม่คุ้นกับใครละ ไหลลงมากินเสร็จเรียบร้อยแล้วอิ่มไปเลยขึ้นเลย พวกนกยูงก็เป็นร้อยๆ  หมูป่าหลายร้อยตัว หล่งไหลมาพอกินอิ่มแล้วขึ้นๆ นกยูง หมูป่า ขึ้นหมด ยังเหลือแต่สัตว์ที่เลี้ยงอยู่เป็นประจำในวัด ก็เป็นไปตามนิสัยเหมือนกันนะ หากเป็นตามนิสัยวาสนา ท่านก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะมาเป็นเจ้าอาวาสของสัตว์เหล่านี้นะ มาปฏิบัติธรรมเราก็มอบให้อย่างนั้น แต่ครั้นแล้วพวกสัตว์ก็มาเต็มอยู่ในวัด ท่านก็เลยเป็นเจ้าอาวาสสัตว์ไป เสือตั้ง ๑๙ ตัวอยู่ในนั้น

เสืออยู่ในวัดน้นตั้ง ๑๘-๑๙ ตัวก็อยู่ด้วยกันเป็นผาสุก คือเสือก็ขังเอาไว้ตามคอกของเขา นอกจากอยากจะเล่นกับเขา เอาออกมาเล่นก็ได้ ทีนี้มีเสือตัวหนึ่งเป็นเสือป่าโดดเข้ามาในนั้น มันคงจะได้กลิ่นหมู่เพื่อน พอโดดเข้ามานี้วัดฟังเสียงลั่นไปหมด เสียงสัตว์อะไรร้องลั่นไปหมดเลย เสือป่ามาตัวเดียว สัตว์บ้านที่เลี้ยงไว้ร้องลั่น แล้วม้าโดดไปชนกุฏิเจ้าอาวาส แต่ก่อนไม่เคยไปสนใจว่ากุฏิไม่กุฏิม้านะ ม้าโดดไปชนกุฏิท่านจันทร์นั่นแหละ โครมเข้าไป มันอะไร ออกมาเห็นม้ามันวิ่งรอบๆ กุฏิ ท่านก็ฉายไฟดู เดี๋ยวก็เห็นพระฉายไฟอีก

เป็นเสือตัวหนึ่งมาที่นั่น ม้าวิ่งมาบอกเจ้าของ ท่านก็เลยประกาศว่า เอ้า เสือป่าถ้าจะมาเป็นเสือบ้านก็ประตูกรงเปิดแล้ว เข้ากรงเลย ถ้าจะเป็นเสือป่าให้ออกไปเดี๋ยวนี้ เปิดออกไปเดี๋ยวนั้นเลย เสือป่ามาตัวเดียวเสียงสัตว์ในวัดลั่นหมดเลย อำนาจของสัตว์ป่าของเล่นเหรอ เสือป่าตัวเดียว เสือบ้านมีตั้ง ๑๘-๑๙ ตัวสงบ แต่เสือป่ามาตัวเดียวเสียงลั่นไปหมด ม้ามันโดดไปชนกุฏิพระจนท่านได้ออกมา พอออกมาก็ประกาศว่า อยากจะเป็นเสือบ้านก็ให้เข้ากรงเสีย ถ้าอยากเป็นเสือป่าให้ออกไป ก็ออกไปเลยหายเงียบ มันได้กลิ่นหมู่พวกกัน

ท่านจันทร์ท่านอยู่สมุทรปราการ มาบวชอยู่นี้ โอ๊ย ตั้งหลายปีนะ พอออกจากนี้แล้วท่านก็ไปเมืองกาญจน์ เราเลยให้ไปเป็นเจ้าอาวาส เลยกลายเป็นเจ้าอาวาสเสือไป เจ้าอาวาสสัตว์ สัตว์เต็มในวัด พระมีห้าหกองค์ นอกนั้นมีแต่สัตว์เต็มวัด ท่านก็ดูแลดีนะ มันเป็นตามนิสัย ม้าป่าเราก็ไม่เคยเห็น เห็นมันเที่ยวอยู่เพ่นพ่านๆ ถามดูม้านี้มายังไง ว่ามาจากป่า ป่านี้ๆ ออกมา พวกหมูไม่ต้องว่าละ แปลกๆ ก็คือม้านี่มาได้ยังไง ท่านก็เลี้ยงดูอย่างจริงจัง มีฝรั่งช่วยอาหารด้วยนะ เราไปจึงไม่เป็นกังวลกับอาหาร แต่ก่อนไปนี้บรรทุกอาหารเต็มคันรถๆ ไป คราวต่อไปนี้ไม่เอาไปละ ไปธรรมดา ถ้าเอาไปก็เอาไปธรรมดา เพราะท่านมีพวกฝรั่งเขาให้ทุนหรือให้อะไรไม่รู้เลี้ยงดูสัตว์เหล่านั้น เอ้อ ก็ดีนะ

ผ้าเหลืองนี่คงมีมาตั้งกัปตั้งกัลป์ พุทธศาสนามีถ่ายทอดกันมาเรื่อยๆ สัตว์เหล่านี้มันคงเคยบวชเป็นพระก็มี เคยเห็นผ้าเหลืองมันจึงลงมา เช่นอย่างเราอยู่ในป่าเหมือนกัน พวกเนื้อพวกสัตว์เข้ามาเองอยู่ตามวัด บริเวณเราอยู่นะ มาเอง ไปอยู่นานเท่าไรยิ่งมา ไหลเข้ามาๆ พวกเก้งพวกหมู สัตว์ต่างๆ มาเต็มไปหมดบริเวณ ผ้าเหลืองสัตว์มันตายใจ ดีไม่ดีสัตว์เหล่านั้นอาจจะเคยบวชเป็นพระก็ได้ พอเห็นผ้าเหลืองแล้วสนิทใจเลย

(ชาวต่างชาติมาวัดเสือวันละสามถึงสี่ร้อยคนเป็นอย่างต่ำเจ้าค่ะ) ดีละเขาช่วยอาหาร พวกฝรั่งเขาได้อาหารมาช่วยวัดเสือ ไม่งั้นเราก็ภาระหนักเหมือนกันให้อาหารเสือ ทีนี้พอพวกฝรั่งมาช่วยแล้วก็เบาไป พอพูดนี้ก็คิดถึงเรื่องเสือกับหมา เราไปวันนั้นเล่นกับลูกเสือเรียบร้อยแล้วเราก็มานั่ง มันก็มานอนอยู่ข้างๆ ลูกเสือตัวใหญ่อยู่นะ หมาเราตัวหนึ่งชื่อไอ้เหาะมันไปด้วย มันมามันก็มาเที่ยวเพ่นพ่านๆ  พอมาเจอเสือนอน เสือเขาก็นอนตามธรรมดาเขา นอนอยู่ข้างๆ เรา ไอ้เหาะมันมาเจอเสือเข้า มันโดดตกจากพักนี้ลงพักนั้น พอตกลงพักนั้นแล้วขี้แตก โอ๋ย ขี้ราดหมด

ใครไปบอกมัน มันก็พึ่งมาเห็นตั้งแต่เกิดมานะ ก็มาเจอเสือเท่านั้นละ โดดลงไปขี้ทะลักเลย ไม่มีใครบอกรู้เองนะ ไอ้เหาะ ไม่เป็นท่า เป็นหมาหลวงตาบัวเสียด้วย หลวงตาบัวกับเสือเล่นกันอยู่ ไอ้เหาะมาเจอนี้โดดเลย ขี้ทะลักเลย กลัวเสือ แปลกอยู่นะ ไม่มีใครบอกมันรู้เอง

ลูกศิษย์ อ่านบทความให้หลวงตาฟังดังนี้

ร่างพ...เงินตราที่จะเข้าสู่สภาในวันพุธนี้ กระทบกระเทือนต่อคลังหลวงอย่างไร

คลังหลวงเป็นสินทรัพย์ที่มีมาแต่ครั้งรัชกาลที่ ทรงพระราชทานไว้เป็นทุนสำรองเงินตรา สำหรับรักษาราคาแลกเปลี่ยนระหว่างเงินตราสยามกับเงินตราต่างประเทศไว้ให้ยืนที่มั่นคง เพื่อหนุนหลังธนบัตร และค้ำประกันบ้านเมือง สินทรัพย์ในคลังหลวงนี้มีการสะสมมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ ก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง .. ๒๔๗๕ และก่อนที่จะมีการจัดองค์กรของรัฐใหม่ รวมทั้งก่อนการจัดตั้ง"ธนาคารแห่งประเทศไทย" อีกด้วย

สินทรัพย์ในคลังหลวงนี้ถูกแยกไว้ต่างหากมิให้ปะปนกับเงินแผ่นดินประเภทอื่น จึงมิได้เป็นของธนาคารแห่งประเทศ หรือเป็นของรัฐบาลหนึ่งรัฐบาลใด หากเป็นทรัพย์สินส่วนรวมของชาติ ของประชาชนทั้งประเทศ เป็นกรรมสิทธิ์ร่วมของประชาชนชาวไทยที่อยู่เหนือนโยบายเฉพาะหน้าของรัฐบาล เพราะการมีอยู่ของคลังหลวงนี้ ตั้งอยู่บนหลักการสำคัญตามเจตนารมณ์ของบรรพบุรุษ หลักการนี้ ได้มีการสืบทอดมาอย่างต่อเนื่องและเคร่งครัด ก่อนที่จะมีรัฐธรรมนูญลายลักษณ์อักษร จึงถือได้ว่า เป็นหลักธรรมนูญทางเศรษฐกิจของชาติ

ทั้งนี้ในเวลาต่อมา ก็ได้มีการยอมรับในความสูงสุดของหลักการนี้ โดยมีพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย .. ๒๔๘๕ และพระราชบัญญัติเงินตรา .. ๒๕๐๑ กำหนดให้แยกสินทรัพย์ของคลังหลวงไว้ต่างหากจากสินทรัพย์ของธนาคารแห่งประเทศไทยที่อยู่ในฝ่ายการธนาคาร

สินทรัพย์ของคลังหลวงในปัจจุบันมีชื่อเรียกว่า "ฝ่ายออกบัตร" ประกอบด้วยบัญชีสำคัญ บัญชี คือ

. บัญชีทุนสำรองเงินตรา    . บัญชีผลประโยชน์ประจำปี          . บัญชีสำรองพิเศษ

ต่อมาในปลายปี ๒๕๔๐ ประเทศชาติประสบวิกฤตเศรษฐกิจ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน และประชาชนชาวไทยจึงได้ร่วมกันบริจาคดอลลาร์และทองคำจำนวนมากเข้าสู่คลังหลวงหรือฝ่ายออกบัตร โดยมีเจตนารมณ์เพื่อเพิ่มพูนสินทรัพย์ในคลังหลวงทั้ง บัญชี ให้แน่นหนามั่นคงเป็นหลักประกันของชาติสืบไป

ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ก็คือ คณะรัฐบาลนำโดยพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี มีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๕๐ เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติเงินตราฉบับใหม่ และจะเข้าสู่สภานิติบัญญัติแห่งชาติในวันที่ ๑๐ ตุลาคม นี้ เนื้อหาในร่างกฎหมายมีหลายจุดที่เข้ามาแตะต้องคลังหลวงทั้ง บัญชี โดยสรุปคือ

. กฎหมายเดิมกำหนดให้ธนาคารแห่งประเทศไทยมีสถานะเป็นเพียง "ผู้ดูแล" สินทรัพย์ในฝ่ายออกบัตรเท่านั้น มิใช่กรรมสิทธิ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย แต่เนื้อหาในร่างกฎหมายใหม่เปิดทางให้ธนาคารแห่งประเทศไทยกลายเป็น "ผู้มีสิทธิ์เข้ามาบริหารจัดการ" คลังหลวงได้อย่างเต็มไม้เต็มมือ อันเป็นการทำลายหลักการและเจตนารมณ์เดิมของบรรพบุรุษ และทำลายเจตนารมณ์ของหลวงตาและประชาชนชาวไทยผู้บริจาคที่ต้องการพิทักษ์ปกป้องคลังหลวง มิให้ผู้ใดเข้ามาจัดการหรือแตะต้องไปในทางอื่นๆ ที่จะเกิดความเสี่ยงได้

. การบริหารจัดการของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ผ่านมาล้มเหลวมาโดยตลอด จนเกือบนำชาติสู่ความหายนะ หากยอมเปิดทางให้เข้ามาบริหารจัดการคลังหลวงได้ สินทรัพย์ค้ำชาติก้อนสุดท้ายอาจพังพินาศไม่มีวันย้อนคืนมาได้อีก

. เนื้อหาในร่างกฎหมายใหม่ เป็นการเปลี่ยนจุดมุ่งหมายของคลังหลวง จากที่เป็นทุนสำรองเงินตราของชาติ กลายเป็นการนำสินทรัพย์คลังหลวงไปเก็งกำไรในตลาดการเงินต่างๆ ที่หวังผลมากก็ย่อมมีความเสี่ยงมาก เปลี่ยนจาก "กองทุนเพื่อค้ำชาติ" กลายเป็น "กองทุนเพื่อเก็งกำไร" สิ่งนี้บ่งบอกถึงความละโมบโลภมากของรัฐบาล ไม่เป็นไปเพื่อความพอเพียงตามหลักธรรมในพระพุทธศาสนา ไม่เป็นไปตามพระราชดำริของพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงเตือนเสมอให้ใช้เศรษฐกิจพอเพียง ไม่เป็นไปตามหลักธรรมนูญทางเศรษฐกิจของชาติ อีกทั้งไม่เป็นไปตามหลักการและเจตนารมณ์เดิมของบรรพบุรุษที่ท่านได้พาดำเนินไว้ด้วยความถูกต้องดีงาม

การที่รัฐบาลชุดปัจจุบัน ถือโอกาสอ้างความจำเป็นในการแก้ไขร่างกฎหมายดังกล่าว คิดสั้น พยายามใช้วิธีการอ้างเสียงข้างมากในสภา และอาศัยกระบวนการนิติบัญญัติทำลายหลักการ และเจตนารมณ์ของบรรพชน โดยมิได้คำนึงถึงทางเลือกอื่น แต่อาศัยอำนาจหน้าที่พยายามเสนอมาตรการทางกฎหมายแปรเปลี่ยนสินทรัพย์ที่มีการสะสมไว้ อันเป็นทรัพย์สินส่วนรวมของชาติ โดยธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นเพียงผู้ดูแลรักษา ไปเป็นสินทรัพย์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นฝ่ายที่มีกรรมสิทธิ์ สามารถเข้ามาดำเนินการบริหารจัดการจำหน่ายจ่ายโอนได้อย่างเต็มที่

ความคิด และความพยายามดังกล่าว เป็นการล้มล้างหลักการอันเป็นปราการด่านสุดท้ายของการรักษาชาติ รักษาแผ่นดิน หลักธรรมนูญทางเศรษฐกิจแห่งชาติ หลักการที่ได้มีการวางรากฐานไว้ตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์นั้น เป็นหลักการที่บรรพชนวางและรักษาไว้เพื่อรักษาแผ่นดิน เป็นหลักการที่อยู่เหนือกาลเวลา และอยู่เหนือนโยบายของรัฐบาลใดๆ เป็นหลักการที่รัฐบาลทุกรัฐบาลพึงรักษาไว้ยิ่งชีวิต มิใช่เพื่อทำลาย หรือเปลี่ยนแปลงเพียงเพื่อแก้ไขปัญหาการบริหารงานที่ผิดพลาดของธนาคารแห่งประเทศไทย

ที่ถูกต้องแล้ว การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล จักต้องยึดมั่นในหลักการของการรักษามรดกอันดีงามของชาติ โดยที่หลักการการเก็บรักษา และสะสมสินทรัพย์ในบัญชีต่างๆ เพื่อสำรองไว้ใช้ในยามคับขัน ถึงขั้นจะสูญเสียเอกราชและอธิปไตย เป็นหลักการที่ได้รับการยึดมั่นมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน การแสดงเจตจำนงและพยายามแก้ไขร่างกฎหมายดังกล่าวของรัฐบาลเพื่อสละละทิ้งหลักการนี้ จึงถือได้ว่าเป็นจุดพลิกผันสำคัญในการที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ ทั้งในทางเศรษฐกิจ การเมือง สังคม ศาสนาและวัฒนธรรม โดยเฉพาะทางด้านจิตสำนึกของการสืบทอดมรดก ในการดำรงชีพ ดำรงชาติ

จากเหตุผลดังกล่าวแล้วข้างต้น ประชาชนชาวไทยจึงขอแสดงเจตนาคัดค้านร่างกฎหมายพระราชบัญญัติเงินตราฉบับใหม่ที่กำลังจะเข้าสู่สภา ขอให้ยกเลิกเนื้อหาในร่างอันเป็นการเปิดทางให้ธนาคารแห่งประเทศไทย เข้ามาบริหารจัดการสินทรัพย์ในคลังหลวงทั้ง บัญชี ทั้งนี้เพื่อมิให้บุคคลใด คณะบุคคลใด หรือองค์กรใด เข้ามาแตะต้องสินทรัพย์ในคลังหลวง โดยขอให้คงไว้ตามกฎหมายเดิม ไม่ต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติมประการใด เพื่อเป็นการเก็บรักษาสินทรัพย์ในคลังหลวงไว้ให้มั่นคงปลอดภัยสืบไป

 

                                     คณะศิษยานุศิษย์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

                                                 ตุลาคม ๒๕๕๐

การคัดค้านเนื้อหาในร่างกฎหมายที่กระทบกระเทือนต่อคลังหลวงดังกล่าวข้างต้น สอดคล้องกับพระธรรมเทศนาของหลวงตาที่เน้นย้ำอยู่เสมอว่า

        “คลังหลวงเป็นหัวใจของชาติ เราต้องช่วยกันปกป้องรักษา”

        “คลังหลวงเป็นสมบัติเดิมที่บรรพบุรุษเก็บรักษาไว้ เราต้องช่วยกันเพิ่มพูนให้ยิ่งๆ ขึ้นไป อย่าเข้ามาทำลาย”

        “หัวใจของชาติตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ ชาติไทยอยู่ได้เพราะคลังหลวงนี้ ฉะนั้น อย่าแตะ”

หลวงตา นี่เป็นคำเสนอของทางวัด คือเราเป็นหัวหน้าเข้าไป ไม่งั้นมันจะฉิบหายหมด โห เราก็ไม่เคยคิดบวชมาจะได้ออกมาเกี่ยวกับชาติบ้านเมือง ก็ได้ออกมาอย่างนี้แหละ เพราะมันสกปรก นี่เอาน้ำมาชะล้าง บางคนพวกปากอมขี้เขาก็ว่าพระมาเล่นการบ้านการเมือง การบ้านการเมืองอะไรมันการส้วมการถานต่างหาก เอาน้ำมาชะล้างการส้วมการถานให้มันสะอาดพอดูได้เราที่มาช่วยอยู่เวลานี้ ไม่งั้นจมไปหมดนะอะไรก็ดี จึงมักมีชื่อทางวัดอยู่ เฉพาะอย่างยิ่งหลวงตาบัวเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่เสมอ ก็เกี่ยวข้องเพื่อความปลอดภัยแห่งสมบัติของชาติเรานั่นเอง ไม่ได้มาเกี่ยวข้องเพื่อความเสียหายแต่ประการใด มันน่าจะคิดนะ

ผู้ใหญ่ในวงราชการต่างๆ ที่เกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ควรจะคิดให้มากนะ อย่าเห็นแต่เราเป็นผู้ใหญ่ ใหญ่ป่าๆ เถื่อนๆ ไม่มีใครเคารพนับถือ ใหญ่ป่าๆ เถื่อนๆ นี้ทำชาติให้ล่มจมได้ ถ้าใหญ่เป็นศีลเป็นธรรมเชิดด้วยกันทั้งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เราจึงต้องได้เข้าไปเกี่ยวข้องอยู่เสมอ เราก็ไม่เคยคิดว่าเราจะได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับชาติบ้านเมือง แต่ก็เป็นอย่างนี้แหละ เมืองไทยเราจะจมมันก็ทนไม่ได้ต้องมาช่วยอุ้ม ครั้นอุ้มขึ้นมาแล้วจะปัดมือให้แตกกระจัดกระจายไปนี้เราก็ไม่ยอมใช่ไหมล่ะ เข้าใจตามนี้นะ

(พล.ต.อ.ประชา กราบเรียนเพิ่มเติมครับ การที่หลวงตาได้มีหนังสือไป ท่านนายกก็ได้รับทราบ และได้ส่งเรื่องไปที่ท่านรมว.กระทรวงการคลังแล้ว ผมได้ประสานงานกับรมช.กระทรวงการคลัง และได้ประสานงานกับผู้ว่าแบงก์ชาติก็ได้ความว่า จะแก้ไขพรบ.ฉบับนี้อยู่ แต่วันที่ ๑๐ นี้จะนำเข้าเพื่อขออนุมัติหลักการต่อสนช. ขอแก้ไขในหลักการในชั้นกรรมาธิการวิสามัญ คือหมายความว่าในวันที่ ๑๐ นี้ร่างกม.นี้อาจจะผ่านไปก่อนเพื่อนำไปแก้ไข แล้วนำเข้าสู่สภาอีกในวาระที่สองและวาระที่สามครับผม ก็จะมีการแก้ไขอยู่โดยสรุป)

หลวงตา ให้พากันไปดูแลทรัพย์สินของเรา บอกลูกศิษย์ลูกหาทั้งหลาย ไม่งั้นมันจะฉิบหายไปหมด ก็มีเท่านั้นละ

 

รับชมและรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th

และสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน  FM 103.25 MHz

และเครือข่ายทั่วประเทศ


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก