เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๕๐
แก้ไขตัวของเราให้ดีแล้วพอ
ก่อนจังหัน
นั่นเห็นไหมพัดยศหลวงตาบัว นี่ท่านอาจารย์มหาทองสุกนะท่านมาจัดทำเลยทันที ลงมาจากภูเขาวันนั้นแหละ หลังจากโลกฟ้าถล่มที่วัดดอยธรรมเจดีย์ก็ลงมาระยะเดียวกัน พอลงมาท่านพูดอะไรๆ ไปสัมผัสเรื่องพัดนี่ละ นี่เรียนมาแทบล้มแทบตายจึงได้มหา แล้วมีพัดหรือยังท่านว่างั้นนะ โอ๊ย ผมไม่สนใจกับหัวมันละไอ้พัดๆ แพ็ดๆ ก็ว่า อู๋ย ไม่ได้ นี่ๆ พัด ท่านไปเอาพัดท่านออกมานะนั่นออกมาจากห้อง มาตั้งเก้าอี้ ท่านจัดให้เองเลยนะ เรียนมหามันของเล่นเมื่อไร แทบเป็นแทบตาย พัดเขารับกันทั่วโลกเราไม่ได้มีอย่างหรือท่านว่า ท่านจัดให้ ท่านจัดให้เองนะ
ท่านอาจารย์มหาทองสุกอยู่วัดสุทธาวาส ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดสุทธาวาส ท่านเป็นคนสระบุรี บ้านหมอหรือบ้านอะไรนะ ท่านเป็นคู่พึ่งเป็นพึ่งตายคู่พึ่งทุกข์พึ่งยากกับหลวงปู่มั่นมาดั้งเดิม ได้รับความลำบากลำบนที่ไหนมีแต่ไปกับท่านติดตามในป่าในเขา ขะมุ มูเซอ ไปหมด ที่เขาว่าเสือเย็นๆ นั่นก็คือท่านอาจารย์มหาทองสุกละไปด้วย ที่ว่าเราจะไปไหนไม่ได้นะท่านมหา เขาตู่เราว่าเป็นเสือเย็น ถ้าเราไปเสียตอนจิตเขาเป็นอกุศลนี้ตายแล้วจะเป็นสัตว์เป็นเสือตกนรกทั้งหมด เราต้องอนุเคราะห์เขาก่อน ทุกข์ยากลำบากก็ทนเอา จนกว่าเขาจะกลับใจได้แล้วเราอยากไปที่ไหนค่อยไปท่านว่างั้น
อาจารย์มหาทองสุกนี้คู่ทุกข์คู่ยากของพ่อแม่ครูจารย์มั่นนะ ไปที่ไหนไปด้วยกัน ทีนี้เวลาป่วยเป็นไข้อะไรไม่รู้ พอไปท่านขู่ เป็นยังไงล่ะไข้ มาเวลาไหนแอ้ๆ อยู่เหมือนผู้หญิง ท่านว่างั้นนะ ท่านไปขู่ ท่านมียาหลายขนานท่านไปขู่ โอ๊ย นี่อ่อนแอเหมือนผู้หญิง ไปเอาเครื่องแต่งตัวของผู้หญิงมาใส่เสีย เอาผ้าเหลืองออก นี่มันเพศผู้หญิงต้องเอาเครื่องแต่งตัวของผู้หญิงมาใส่ อ่อนแอท่านว่างั้น ทางนั้นร้องไห้ ท่านอาจารย์มหาทองสุกร้องไห้เลย
นี่ท่านดุนะ พลิกใหม่ นั่นเป็นอย่างนั้น เอ้อ ยาขนานนี้ คือพูดเด็ดๆ นี้คือปลุกใจให้แข็ง แล้วกลับอ่อนแอร้องไห้ ยาขนานนี้ใช้ไม่ได้ วันหลังพลิกยาขนานหวานเหมือนอ้อยเหมือนน้ำตาล นั่นละท่านพลิก ยานี้ใช้ไม่ได้ บอกให้ไปเอาเครื่องแต่งตัวผู้หญิงมาให้สวมใส่ เอาสบงจีวรออกมันไม่สมค่าของความเป็นพระท่านว่า มันพอดีกับผู้หญิงท่านว่า เพศอ่อนแอกิริยาอ่อนแอ ทดลองดูเป็นยังไง ร้องไห้ ทีหลังกลับไปใหม่ ยาขนานนี้ใช้ไม่ได้ แน่ะเป็นอย่างนั้น นี่ละเป็นคู่ทุกข์คู่ยากกับหลวงปู่มั่นของเราอาจารย์มหาทองสุก
นี่ละที่เอาพัดมาให้เรา เอาพัดของท่านนั่นแหละมาตั้งให้เรา จัดให้เราทำที่วัดสุทธาวาส พูดอะไรไม่รู้นะไปสัมผัสท่าน นี่เรียนมาแทบล้มแทบตายเป็นมหานั่นได้พัดกับเขาไหม โอ๊ย กระผมไม่สนใจเลยว่างั้นนะ อู๋ย ไม่ได้ๆ ท่านเลยเอาพัดของท่านออกมา ไม่ใช่ของเรานะ พัดของท่าน นี่ เอา จัดแจงอะไรๆ เอาพัดมาตั้ง เอา ขึ้นนั่งให้เขาถ่ายภาพ มันถึงมี มหาเปรียญสมัยก่อนมีพัด นั่นละพัดเปรียญ ทุกวันนี้มันมากมายก่ายกองเลอะๆ เทอะๆ ดูไม่มีพัด
ปีนี้จะไปทอดกฐินวัดโพธิ เราเป็นเจ้าภาพไปทอดกฐินวัดโพธิ วันที่ ๑๘ เหรอ (วันที่ ๑๘ พฤศจิกา เจ้าค่ะ) ๑๘ พฤศจิกา คือท่านเจ้าคุณเราก็เป็นอันเดียวกันเพื่อนกันมาตั้งแต่เป็นมหาเปรียญด้วยกัน ทีนี้ท่านก็มาเป็นเจ้าคณะจังหวัดเจ้าคณะอะไรไปเรื่อย แล้วมาเป็นเจ้าคณะภาค เราพูดเป็นกันเอง หาที่ต้องติไม่ได้นะ เป็นกันเองมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว พอได้โอกาสท่านก็บอก นี่ทอดกฐินวัดโพธิให้สักหน่อยนะท่านว่า วัดโพธินี้ขาดแคลนมาก วัดป่าบ้านตาดก็ไม่ใช่วัดเศรษฐีนี่น่ะเราว่า อะไรก็เอาละ ท่านเจ้าคุณองค์นี้น่ะ
นี่จะไปทอดกฐินให้ท่าน วันที่ ๑๘ นะ เอ้อ ได้จัดอะไรๆ ส่วนปัจจัยอะไรก็สั่งแล้วส่วนรวมๆ แล้วก็แยกถวายพระๆ แล้วพวกอาหารสดอาหารแห้งอาหารกระป๋องนี้ให้เขาจัดทีหลัง.จวนวันให้เขาจัด เจ้าคุณองค์นี้ละกับเราเป็นเพื่อนกันมาแต่ไหน พรรษาแก่กว่าเรา ๒ พรรษา ก็เป็นมหาเปรียญมาด้วยกัน ท่านพูดเองไม่ได้ผิดอะไร พูดฐานเป็นญาติเป็นมิตรกัน เป็นอันเดียวเหมือนเป็นอวัยวะเดียวกันไม่ผิดที่ตรงไหน แขนซ้ายแขนขวา กระทบกระเทือนอะไรก็ไม่ผิดแขนซ้ายแขนขวา นี่ก็จะไป ดูว่าวันที่ ๑๘ ส่วนวัดเรานี้มันวันที่เท่าไหร่ วัดเราวันที่เท่าไหร่ (วันที่ ๓ พฤศจิกา เจ้าค่ะ)
จากออกพรรษาไปกี่วัน ถ้าธรรมดาก็ต้องก่อนเพื่อนในวงกรรมฐานด้วยกัน พอวัดนี้ผ่านปั๊บก็พรึบเลย ผ่านไปเรื่อยๆ( ๗ วัน เจ้าค่ะ)..ติดกันกับวันออกพรรษาไม่เอา ให้เลื่อนไปตรงนั้นเราว่า พระที่มาไม่ทันนี้ จนพระทั้งหลายฉันจะอิ่มแล้วถึงด้อมๆ มา ท่านไปจัดอะไรๆ อยู่โน้นนะ จัดเข้าครัวเข้าไปทางไหนแยกโน้นแยกนี้ จนหมู่เพื่อนฉันจะอิ่มแล้วถึงด้อมๆ มา องค์นั้นจัดนั้นองค์นี้จัดนี้เข้าไปข้างใน เราไม่ได้ทำอะไรละ แต่ครองธาตุครองขันธ์อยู่นี้ก็จะตายอยู่แล้ว เป็นแต่เพียงว่าสั่งเสียอะไร หลักใหญ่ก็คือความเป็นธรรม ความเป็นธรรมคือความเสมอภาคกันหมด ถ้าอะไรไม่เสมอภาคไม่จัดว่าเป็นธรรมกระทบกระเทือนได้ ถ้าความเป็นธรรมแล้วตายเป็นตายเป็นก็เป็นไปด้วยกันสม่ำเสมอกันหมด นั้นเป็นธรรมตายใจได้
วัดเรานี้เถ้าแก่ศรีไทยใหม่นี้ก็มาขอทอด มาขอจองไว้ตั้งแต่วันที่ ๑ มกรา แล้วก็จะทอดที่นี่ก่อนสำหรับวงกรรมฐาน อันนี้เป็นอันดับแรก พอเราผ่านปั๊บวงกรรมฐานเราก็ออกหมดเลยนะ รอแต่เราคนเดียว เราไม่ได้มาเกี่ยวข้องนะ หากมาเกี่ยวข้องกับเราเอง ถ้าเรายังไม่ผ่านทางนั้นไม่ผ่าน รออยู่วงกรรมฐาน พอเราผ่านปุ๊บอย่างนี้ทางนั้นเรื่อยๆ อย่างนั้น ไปกราบพ่อแม่ครูจารย์มั่นทุกวันที่ว่างนะ ถ้าไม่มีธุระจำเป็นจริงๆ ไปกราบที่ศาลาใหญ่ โอ๋ย ซึ้งมากนะ นั่นละเจ้าบุญเจ้าคุณเป่ากระหม่อมจอมขวัญให้เราคือพ่อแม่ครูจารย์มั่น เราถึงท่านทุกอย่างมอบหมดเลย ความเคารพเลื่อมใสความรักความเทิดทูนกับพ่อแม่ครูจารย์มั่น เพราะฉะนั้นตอนบ่ายๆ ไปกราบท่านที่ศาลาใหญ่
หาไม่ได้ละหาพระอย่างประเภทหลวงปู่มั่น เราไม่ได้ตำหนิติเตียนท่านผู้ใด แต่สำหรับหลวงปู่มั่นนี้เด่นมากทุกอย่างเลย มีแต่มหามงคลๆ กิริยาแสดงออกทุกด้านทุกทาง แม้ที่สุดความแผดความดุก็เป็นมหามงคล ฟังเสียงเหมือนฟ้าดินถล่มนะ เวลาท่านดุใครต่อใครดุพระ ส่วนมากมีแต่พระ เปรี้ยงๆๆ เหมือนฟ้าดินถล่ม แล้วก็เหมือนฝนตกห่าใหญ่เย็นไปหมด เป็นอย่างนั้นนะ เมื่อรู้เรื่องนิสัยของท่านหรือธรรมของท่านแล้ว เพราะธรรมดานี้พระเณรอยู่ที่ไหนก็ไม่ค่อยมีอะไรละ พอได้ยินเสียงเปรี้ยงป้างๆ แล้วมาหมดนะ มาหมดเลย รุมมาเลย
เพราะเสียงนี้เป็นเสียงอรรถเสียงธรรม เหมือนฝนตกบนท้องฟ้า ฟ้ากระหึ่มๆ แต่ฝนมันเย็น ฝนจะตกตอนฟ้ากระหึ่มส่วนมาก อันนี้ธรรมสำคัญๆ จะออกตอนแผดเสียงนั่นละ เปรี้ยงป้างๆ นั่นละธรรมออกตอนนั้น ไอ้เรามันเป็นนิสัยจะว่านิสัยขี้ดื้อหรืออะไรก็ไม่ทราบ แต่ไม่อยากว่านะขี้ดื้อ มันหากเป็นนิสัยซอกแซกหาเรื่องหาราวที่จะได้สารธรรมมา วันนี้ประชุม ก็รู้ว่าประชุมนี้ท่านต้องเทศน์เต็มเหนี่ยวสำหรับพระ เรายังเหมือนว่าขาดอะไรอยู่ อย่างน้อยก็น้ำปลา
พอไปแล้วเราต้องหาอุบายละ พูดเรื่องนั้นเรื่องนี้ สอดนั้นสอดนี้ คือจะหาธรรมที่จะออกจากถังใหญ่ท่าน เราพูดนั้นไปเดี๋ยวเอะอะ ไม่ใช่นะขึ้นละ เอาละนะที่นี่เปิดแล้วพุ่งๆ ถ้าธรรมดานี้ถึงนิพพานก็ตาม แต่ลักษณะว่าขาดน้ำปลาไม่สมบูรณ์ ถ้าเราพูดผิดพูดถูกแหย่นู้นแหย่นี้ไปท่านเปรี้ยงออกมา นั่นละเต็มเม็ดเต็มหน่วย น้ำปูน้ำปลารอบด้าน เป็นอย่างนั้นละพ่อแม่ครูจารย์มั่น เอาละให้พร
หลังจังหัน
จตุปัจจัยพี่น้องทั้งหลายบริจาคมานี้ออกช่วยโลกนะ ช่วยโลกทั้งหมดเลย เราไม่เอาเราแบตลอด เราไม่เอาเลย ไม่กำ ให้ทั้งนั้นๆ เลย มีเท่าไรแยกออกตามความจำเป็นที่ผู้มาขอจากเราๆ ให้ไปเรื่อยๆ (ถวายทองคำ ๒ บาทครับ) เออ ทองคำเหล่านี้เข้าคลังหลวง เราบริสุทธิ์สุดส่วนในการบำเพ็ญประโยชน์แก่พี่น้องทั้งหลายทั่วประเทศไทย อันไหนที่ควรเข้าคลังหลวง เช่น ทองคำ เข้าคลังหลวงทั้งหมด แยกไปไหนไม่ได้ ส่วนดอลลาร์กับเงินไทยนี้ออกช่วยโลกต่างๆ การก่อการสร้างทางโน้นทางนี้ มีรถยนต์พยาบาล เป็นต้นนะ ทั่วไปหมด
สำหรับเราเราไม่เอาเราบอกจริงๆ เราจะตายไปด้วยความหายห่วงทุกอย่าง เวลานี้เราห่วงพี่น้องชาวไทยเรา จึงดีดจึงดิ้นทางนู้นทางนี้เหมือนพระอนาถานะเรา แต่ดีดดิ้นมาเพื่อพี่น้องทั้งหลายไม่ใช่เพื่อเรา เรานี้พอทุกอย่างแล้วเราพูดตรงๆ เราพอทุกอย่างในหัวใจ เปิดออกหมดไม่มีอะไรเหลือ เหลือแต่ธรรมธาตุเท่านั้นอยู่ในหัวใจ ท่านทั้งหลายไม่เคยทราบทราบเสียจากการปฏิบัติธรรมอย่างเอาจริงเอาจัง ก็เห็นประจักษ์ใจอย่างนี้แหละ เราหายสงสัยเรื่องธรรมทั้งหลายเราไม่หา มีอยู่ในนี้หมดมีแต่เอาออกใช้เท่านั้น ที่จะให้หาใหม่มาเราไม่หา อยู่ในนี้ใช้ไม่หมดจนกระทั่งวันตาย เราช่วยโลกเราช่วยอย่างนั้น
เพราะฉะนั้นขอพี่น้องทั้งหลายได้เห็นใจนะ อย่าไปคิดในเรื่องอกุศลเผาหัวใจตน ว่าท่านรักคนนั้นท่านชังคนนี้ อย่างนี้เป็นความผิดของผู้คิด เรารักทั่วโลกสัตว์ทั้งหลายสม่ำเสมอ เป็นอย่างนี้ในหัวใจ เป็นเอง เรื่องความเมตตานี่ครอบโลกธาตุเพราะเจ้าของหายห่วงทุกอย่าง เต็มเปี่ยมทุกอย่างแล้ว เป็นธรรมธาตุ มีแต่การสงเคราะห์โลกที่ควรจะช่วยเหลือได้แบบใดทางใดเราก็ทำอย่างนั้นแหละ จึงดีดจึงดิ้นอยู่ตลอดเวลา เพื่อโลกนั่นแหละไม่ได้เพื่อเรา
นี่เราก็บอกแล้วเวลาเราตาย เขียนพินัยกรรมไว้แล้วนะ เวลาเราตายนี้บรรดาพี่น้องลูกศิษย์ลูกหาทั้งหลายทั่วประเทศไทย โห การตายของเรามันจะกระเทือนโลกนี่นะ จะทั่วประเทศไทย คนนั้นนำมาบริจาค คนนี้นำมาบริจาค เราเขียนพินัยกรรมไว้เรียบร้อยแล้ว เงินที่บริจาคทั้งหมดนี้ห้ามเอาไปใช้ในที่ต่างๆ แม้ที่สุดจะมาสร้างโรงนั้นปะรำนี้สำหรับเผาศพเราเราไม่ให้ทำ เงินจำนวนนี้ไม่ให้ออกไปทางโน้น ใครมีศรัทธาให้มาสร้างเอง ส่วนเงินจำนวนที่เขาจะมารวมเผาศพเรานี้ เราจะนำเงินนี้ไปซื้อทองคำเข้าสู่คลังหลวงในวาระสุดท้ายของเรา สำหรับเราเองจะเผาด้วยไฟ สมบัติเงินทองยังเป็นประโยชน์แก่ผู้มีชีวิต เราจะกระจายออกไปให้เป็นประโยชน์ เงินเหล่านี้เราก็บอกไว้ในพินัยกรรมแล้วว่า ให้นำเงินเหล่านี้ไปซื้อทองคำเข้าสู่คลังหลวงให้หมด เราไม่เอาอะไร เราจะทำประโยชน์ให้เต็มสัดเต็มส่วนของเรา เกิดมาในชาตินี้เราก็ไม่เคยคาดเคยคิดว่าจะได้ช่วยโลกถึงขนาดที่เป็นอยู่เวลานี้ เรียกว่าช่วยจริงๆ
เงินทุกบาททุกสตางค์ไม่ติดในวัด ออกหมดเลยเราไม่เอา โลกสงสารมีความจำเป็นมากน้อยเพียงไร สำหรับวัดเรากินให้ตายก็ได้ วันหนึ่งเข้ามาจังหันขนใส่รถยนต์มา ถ้ามีทางรถไฟเขาจะใส่รถไฟมา ล้นเหลือ แล้วจะอดอยากขาดแคลนที่ไหน ผู้ที่อดอยากขาดแคลนมีอยู่มากมาย จึงต้องมองเห็นหัวใจกันๆ ถ้ามองแต่หัวใจตนเป็นคนคับแคบตีบตัน มักเอารัดเอาเปรียบผู้อื่นเสมอ ถ้าคนเรามองกว้างขวางจิตใจเขาจิตใจเราเหมือนกัน เฉลี่ยถึงกันแล้วอยู่ด้วยกันได้เป็นผาสุก ถ้ามองแต่หัวใจตนนี้มักจะเหยียบย่ำทำลายคนอื่น เห็นแก่ตัว เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น คนเราถ้ามองดูแต่หัวใจตัวเป็นความกระทบกระเทือนทั่วๆ ไป ถ้ามองให้กว้างขวางออกไปนี้ก็เป็นความสม่ำเสมอเฉลี่ยเผื่อแผ่ถึงกันหมด
หัวใจเรานี้มองทั่วโลกไม่ใช่ธรรมดานะ ช่วยสงเคราะห์สงเคราะห์สงหา ได้อะไรๆ ก็เอา ดังที่ว่านี่รถยนต์อะไรเขาก็ได้มา เขาก็ฝากขอบคุณมา นั่นละมีเท่าไรออก เราไม่เก็บ เราบอกตรงๆ ว่าเราไม่เก็บ ไม่เอา สมบัติของวัดป่าบ้านตาด เงินของวัดป่าบ้านตาดเขาเขียนไว้นั้น เป็นเงินเพื่อโลก ถูกต้อง ไม่ได้เพื่อเรา เพื่อโลกทั้งนั้นแหละ ที่ช่วยนี่ช่วยเต็มเม็ดเต็มหน่วย เราตายไปแล้วไม่ต้องมาว่าจะเผาที่นั่นเผาที่นี่ โยนลงเหวเลยก็ได้ เพราะเราทอดอาลัยตายอยาก สลัดหมดแล้วเราไม่เอา ธรรมธาตุอยู่ที่ไหนอยู่ที่นั่นพอ
ส่วนใครจะเอาเราไปเผาที่ไหนๆ ไม่ต้องคิดต้องอ่านให้เสียเวล่ำเวลา หลวงตาบัวตายแล้วโยนลงเหวเลยก็ได้ ธรรมธาตุของเราเป็นของเรา อันนี้เป็นของสมมุติในโลก เขาจะไปเผาไปฝังที่ไหนก็แล้วแต่เขา ส่วนธรรมธาตุนี้เต็มอยู่ในหัวใจ ไม่บกพร่องอะไร นั่น วันหนึ่งๆ เราก็ไม่ได้อยู่ก็เพราะความเมตตา ไปที่นั่นที่นี่ตลอดเวลา ไปที่ไหนความเมตตาติดไปหมดเลย ซอกแซก เห็นเขาขายของเขาใส่รถมอเตอร์ไซค์มีถังอยู่ข้างๆ เขาไปหาขายของตามทาง เราจอดรถแล้วดูเขา เอาของเขาเสียชิ้นหนึ่ง จากนั้นก็เอาเงินก้อนให้เขาหนึ่งพันอย่างน้อย ให้เจ้าละหนึ่งพันๆ
ไปที่ไหนไปให้เราไม่ได้ไปเอา แล้วใครที่ไหนที่จะว่าเรารักคนนั้นชังคนนี้ อย่าคิดให้เสียเวลาเป็นอกุศลนะ เราเมตตาสงสารทั่วโลกดินแดนเสมอกันหมด เป็นแต่เพียงใกล้ไกลที่จะมารับการสงเคราะห์ซึ่งกันและกันก็เป็นธรรมดา แต่ห่างไกลออกไปก็ห่างไกลออกไป ส่วนเมตตานี้ครอบหมด ผู้ที่มาเกี่ยวข้องจะรับการสงเคราะห์จากเรามีแค่ไหนๆ เราก็สงเคราะห์ไปตามที่เห็นนี้แหละ ส่วนเงินที่จะติดกระเป๋าเราไม่มีไม่ให้มี บอกว่าเงินในบัญชีในนามวัดป่าบ้านตาดหรือนามของเรา เราก็บอกให้ถอนออกมา เราจำเป็นอะไรถามหาเงินว่าไม่มี เมื่อเงินมีในบัญชีว่าคำไม่มีอย่าให้มี ให้ถอนมาไว้ๆ เพราะเราต้องการจะช่วยที่ไหนๆ เราจะสั่งทันที สั่งแล้วให้มาเลย ให้เตรียมมาไว้
สมมุติว่าเงินเรามีในบัญชียังมีอยู่นะในบัญชีวัด ก็บัญชีนี้บัญชีเพื่อช่วยโลกไม่ใช่บัญชีเพื่อเรา เช่นเขาส่งเช็คส่งอะไรมาก็เข้าบัญชีๆ ส่วนเงินสดเข้าที่นี่ ส่วนเช็คส่วนอะไรที่เขาถวายมาเข้าบัญชี บัญชีแล้วก็เป็นเงินถอนจากนั้นออกมาช่วยโลกๆ อย่างนั้นละทุกวันนี้เราช่วยโลก ใจของเราพูดให้เต็มเม็ดเต็มหน่วยมันจ้าครอบโลกธาตุ นี่ละใจดวงนี้เป็นธรรมธาตุ ได้ฝึกฝนอบรมมาแทบเป็นแทบตาย น้ำตาร่วงอยู่บนภูเขาสู้กิเลสไม่ได้เราก็มาเล่าให้ฟัง เวลาฟัดกิเลสขาดสะบั้นลงไปบนหลังวัดดอยธรรมเจดีย์น้ำตาร่วง นี่น้ำตามีคุณค่าเราก็ได้มาเล่าให้พี่น้องทั้งหลายฟัง
น้ำตาเรามีร่วงอยู่สองหน หนหนึ่งสู้กิเลสไม่ได้ อยู่บนภูเขาเหมือนกัน น้ำตาร่วงถึงขนาดว่า หือ มึงเอากูขนาดนี้เชียวหรือ เป็นอยู่ในใจนะ โห มึงเอากูขนาดนี้เชียวหรือ คือสู้มันไม่ได้ ตั้งสติไม่อยู่ๆ กระแสกิเลสตีทีเดียว ไม่มีคำว่าตั้งให้อยู่ มีแต่ตั้งล้มๆ นี่น้ำตาร่วงเคียดแค้นให้กิเลสในหัวใจเรามันฟัดเรา โห มึงเอากูขนาดนี้เชียวเหรอ เอาละยังไงมึงต้องพังวันหนึ่ง ให้กูถอยกูไม่ถอยละ นี่ละเคียดแค้นให้กิเลสอยู่กับตัวเองไม่เสียหายนะ ถ้าเคียดแค้นให้บุคคลผู้ใดสัตว์ตัวใดเป็นบาปเป็นกรรม เคียดแค้นให้กิเลสซึ่งเป็นข้าศึกแก่ตัวเราเอง จะฟัดจะเหวี่ยงให้มันขาดสะบั้นลงไปจากหัวใจเป็นธรรม
ความเคียดแค้นอันนี้ฝังลึกนะ ยังไงกูต้องเอามึงให้พังวันหนึ่ง ให้กูถอยกูไม่ถอย ก็ไม่ถอยจริงๆ เอาเสียขาดสะบั้นลงหลังวัดดอยธรรมเจดีย์ นั่นก็เล่าให้ฟังแล้ว เอาแต่ความจริงมาพูด เพราะการปฏิบัติเราปฏิบัติเต็มตามความจริงของเรา เอาจริงเอาจังมาก เราไม่ตั้งใจปฏิบัติโกหกตัวเอง เมื่อธรรมปรากฏผลขึ้นมากน้อยเราจะไปโกหกคนอื่นได้ลงคอเหรอ ลงไม่ได้ โกหกไม่ได้ พูดตามความจริง ใครจะตำหนิติชมอะไรเราก็ให้ตำหนิ เราเปิดโล่ง
สังขารร่างกายกิริยาอาการต่างๆ นี้เป็นสนามแห่งโลกธรรม เขาจะต้องตำหนิติเตียนชมเชยได้เป็นธรรมดาเหมือนโลกทั่วๆ ไป เว้นแต่ทางจิตใจ อันนี้เอื้อมไม่ถึงมันพ้นโลกไปแล้ว ส่วนกิริยานี้เป็นสนามแห่งโลกธรรม เราก็เคยพูดให้พี่น้องทั้งหลายฟังแล้ว เขาพอใจเขาก็ชมเขาไม่พอใจเขาก็ติเขาก็เคียดก็แค้นเขา ชุ่มเย็นเป็นสุขตามหัวใจของเขาคิด แต่ธรรมชาติของเราไม่มีอย่างนั้น เหนือหมด ใครจะตำหนิติชมอะไรไม่มี ใจนั้นเป็นธรรมธาตุไม่อยู่ในวงโลกธรรม ๘ คือร่างกาย สมมุติว่ากิริยาแสดงออกมานี้ เอ้อ ท่านทำอย่างนั้นนะ พวกนั้นมันเป็นบ้าขยี้ขยำ เข้าใจไหม โอ๊ย ท่านทำอย่างนี้ โอ๊ย ท่านทำอย่างนี้
นี่ละกิริยาแสดงออก มันจึงอยู่ในท่ามกลาง เป็นสนามแห่งโลกธรรมตำหนิติชมได้เหมือนกันกับโลกทั่วๆ ไป แต่สำหรับใจผ่านหมดไม่มีอะไรจะตำหนิได้ แม้แต่เจ้าของเองก็หาที่ตำหนิไม่ได้ เรียกว่าพออย่าเลิศเลอ แล้วคนอื่นจะมาตำหนิได้ลงคอเหรอ ตำหนิเท่าไรก็ขาดสะบั้นไปหมด ชมเท่าไรขาดสะบั้นไปหมดเหมือนกัน เพราะสิ่งตำหนิติชมเหล่านี้ไม่ได้เหนือธรรมอันนั้น อันนั้นเหนือโลกเหนือสงสารอัศจรรย์อยู่ในนั้นแล้ว จะตำหนิติชมยังไงคุณค่าของการตำหนิติชมนี้สู้อันนั้นไม่ได้ เข้าใจไหมล่ะ นั่นละใจเป็นอย่างนั้น
วันนี้วันอาทิตย์นี่ก็จะไปตามวัดละ ไปสงเคราะห์วัดนั้นสงเคราะห์วัดนี้ไปเรื่อย ไปที่ไหนมีแต่ให้ไม่ได้ไปเอา ไปให้ๆ ของเต็มรถๆ ไปทุกวัน ทางโกดังท่านจัดเอาไว้ เอา โรงพยาบาลไหนมาเอาไป แล้วเดี๋ยวนี้น้ำมันเลยจะกลายเป็นปั๊มน้ำมันไปแล้ว รถคันไหนมาจากโรงพยาบาลต่างๆ เติมน้ำมันให้เต็มรถๆ ให้ออกอย่างนี้ทุกแห่ง ส่วนการสงเคราะห์ที่มาจากโรงพยาบาลต่างๆ มีกำหนด ตั้งแต่โคราชขึ้นไปแล้วให้พิเศษๆ ทางยโสธร ทางอุตรดิตถ์ให้เป็นพิเศษ นอกนั้นให้เสมอกันหมดในวงนี้ พวกที่ควรให้พิเศษก็เสมอกันในการให้พิเศษเหมือนกันหมด
เราช่วยขนาดนั้นนะช่วยโลก เราไม่เก็บอะไรเลย มีแต่ความเมตตา ท่านทั้งหลายจะนำไปพิจารณาก็พิจารณา ธรรมของพุทธเจ้าเป็นอย่างนั้น ทำโลกให้ชุ่มเย็น ไม่ได้ทำโลกให้เดือดร้อนนะ ไปที่ไหนชุ่มเย็นๆ พระพุทธเจ้าสาวกทั้งหลายไปที่ไหนชุ่มเย็น เทวบุตรเทวดาอินทร์พรหมอนุโมทนาสาธุการ กราบไหว้บูชาท่านตามสายทางตลอดเลย พวกเรานี้ไปที่ไหนมีแต่คนตำหนิติชม ไปที่ไหนเขาตำหนิติชม แม้ที่สุดตั้งแต่พระเป็นขนาดสมเด็จมันยังเป็นบ้ายศบ้าลาภ อยากได้อย่างนั้นอยากได้อย่างนี้จะเอาอย่างนั้นนี้ มันไม่ได้บวชมาหาธรรม มันบวชหากองมูตรกองคูถคือกิเลสตัณหาต่างหากพวกนี้
พระบางองค์เลวร้ายกว่าประชาชนมากมาย ไม่มีใครพูดได้พูดได้แต่เรา เราพูดตามสายธรรม เราไม่ได้ยกและเหยียบย่ำทำลายผู้ใดผู้หนึ่งโดยเฉพาะ เราพูดเป็นศูนย์กลาง แต่เมื่อใครทำดีทำชั่วมันก็ไปโดนตัวเอง ดีก็โดนตัวเองชั่วก็โดนตัวเองต่างหาก นี้เอาธรรมออกกลางๆ อย่างนี้ละ ถ้ามีหนักในธรรมแล้วทุกอย่างจะราบรื่นดีงาม ในวัดก็เป็นวัดโดยแท้ พระสงฆ์ก็เป็นพระสงฆ์โดยแท้
ถ้ากลับตรงกันข้ามแล้ววัดก็กลายเป็นส้วมเป็นถาน พระในวัดก็กลายเป็นมูตรเป็นคูถ แล้วมูตรคูถเต็มส้วมเต็มถานก็เรียกว่าพระที่เป็นมูตรเป็นคูถเต็มส้วมเต็มถานคือในวงวัด วัดนั้นเป็นส้วมเป็นถาน พระเลยเป็นมูตรเป็นคูถเต็มอยู่ในนั้น เพราะปฏิบัติเหลวแหลกแหวกแนวศีลธรรมไม่สนใจ วิ่งบ้าไปตามกิเลสเสียทั้งหมด เพศแต่ผ้าเหลืองแต่จิตใจมันเป็นมูตรเป็นคูถไปหมด ดีดดิ้นออกตรงไหนพอจะให้ประชาชนคนผู้มีความดีงามติดเนื้อติดตัวเขาจะได้ชมบ้าง ไปที่ไหนมีตั้งแต่เรื่องตำหนิติเตียน พระเราเวลานี้เป็นอย่างนั้น
ให้เขาได้กราบไหว้บูชาเป็นขวัญตาขวัญใจ ด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใสภายในใจบ้างซิพระเรา ไปที่ไหนมันกลายเป็นเลวกว่าโลกไปแล้ว เป็นลาภเป็นยศมันหามาเผาหัวมันเหรอ ลาภยศ อะไรจะเลิศยิ่งกว่าลาภคือพระ คำว่าพระแปลว่าผู้ประเสริฐ ออกมาจากในนามของธรรมมาเป็นพระ ธรรมประเสริฐ พระออกมานี้เรียกว่าพระแปลว่าประเสริฐ อันนี้เลยทุกอย่างแล้ว มันไปหากวาดอะไรเรื่องลาภเรื่องยศสรรเสริญเยินยอซึ่งเป็นเหมือนกองมูตรกองคูถ ใครจะเลวยิ่งกว่าพระหัวใจต่ำทรามอย่างนี้ หัวใจผู้มีธรรมแล้วดีๆ แล้วปีนขึ้นไปอยากเป็นนั้นอยากเป็นนี้ สุดท้ายก็อยากเป็นสมเด็จสังฆราช แย่งชิงกันไปกินโต๊ะกัน ทั้งๆ ที่สมเด็จสังฆราชท่านยังไม่ตาย เอา ปีนขึ้นรวมหัวกันกินโต๊ะนี่มันสลดสังเวชมากนะ
พระประเภทไหนพระยักษ์พระผีอยากเป็นใหญ่เป็นโต ใหญ่อะไรใหญ่กองมูตรกองคูถ มันไม่ได้ใหญ่เป็นกองศีลกองธรรมพอที่จะให้โลกเขาอนุโมทนาสาธุการ มันใหญ่ไปทางมูตรทางคูถ มันไม่ได้ใหญ่ไปทางศีลทางธรรม เอา ทางธรรมก็ปฏิบัติตัวให้ดี คำว่าพระเต็มสัดเต็มส่วน ศีล สมาธิ ปัญญา อยู่กับตัวเองซึ่งเป็นสมบัติอันเลิศเลอไม่มีใครสู้ได้ในโลก ขวนขวายให้ดีอันนี้นะ ใครจะติจะชมเป็นเรื่องปากเขาใจเขา เราขอให้ตำหนิติชมตัวของเราแก้ไขตัวของเราให้ดีแล้วพอ นี่ละพากันจำเอาทั้งพระทั้งฆราวาส ธรรมเป็นธรรมสอนโลกสอนกลางๆ เอาละให้พร
รับชมและรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th
และสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz
และเครือข่ายทั่วประเทศ |