มีแต่ความรู้เป็นอย่างนี้
วันที่ 4 กันยายน 2550 เวลา 8:00 น. ความยาว 21 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๕๐

มีแต่ความรู้เป็นอย่างนี้

         หมอที่เด่นๆ อยู่เกี่ยวกับเรื่องวัดวาศาสนา อรรถธรรมต่างๆ หมอสานิตย์นี้รู้สึกว่าเด่น ทางอุดรนี้ก็หมอรุ่งเรือง ที่โรงพยาบาลอุดรเด่นอยู่ นี่ละภาษาธรรมท่านทั้งหลายฟังเอา ภาษาธรรมพูดอย่างตรงไปตรงมา ไม่ให้ขัดต่อความเป็นจริงคือความถูกต้องอยู่แล้ว นี้เรียกว่าภาษาธรรม ถ้าภาษากิเลสมันปลิ้นปล้อนหลอกลวง เชื่อมันไม่ได้กิเลส แต่เรื่องธรรมแล้วเชื่อได้ ถ้ากิเลสเชื่อไม่ได้ละ

มันไปเที่ยวมันไม่ได้มองดูหน้าเมียมันนะ มันไปเที่ยวโน้นนี้มา ครั้นมาแล้วเมียถาม ไปไหนมา เพราะเห็นผิดสังเกต ก็เมียดูอยู่ตลอด ใครจะไปจับผัวเก่งยิ่งกว่าเมียวะ นี่ไปไหนมา ทางนั้นยาแก้ก็เก่ง ไปฟังเทศน์มา เห็นไหมมันแก้ตัว นี่ละกิเลส ไปฟังเทศน์วัดไหนว่าไปฟังเทศน์ แหม พระท่านเทศน์ดีมาก เทศน์วัดไหนไม่บอกเดี๋ยวเราจะเป็นกบเฝ้าบ้านว่างั้น กลัวเมียจะไปวัด ความจริงมันหาทางออก เป็นอย่างนั้นนะ กิเลสพลิกแพลงเปลี่ยนแปลงร้อยสันพันคม ไม่เหมือนธรรม ธรรมนี้ตรงไปตรงมา จึงเรียกว่าภาษาธรรม

อย่างที่เราพูดอยู่ทุกวันนี้กิเลสไม่ชอบ เพราะกิเลสกับธรรมเป็นข้าศึกกัน การพูดด้วยความเป็นธรรมเป็นข้าศึกต่อกิเลส คือความสกปรกโสมมในหัวใจของสัตว์โลก ไม่ชอบฟัง หัวใจพระพุทธเจ้า หัวใจพระอรหันต์ท่านเป็นหัวใจธรรมทั้งแท่งๆ แสดงออกมาก็เป็นข้าศึกกับกิเลสตัวส้วมตัวถาน กิเลสคือพวกส้วมพวกถาน ขี้โลภ ขี้โกรธ ขี้หลง นั่นเรียกว่าส้วม มันอยู่ในถาน ถานไหน อยู่ที่จิตนั่น พวกนี้ไม่ชอบ

ภาษาธรรมท่านพูดอย่างตรงไปตรงมา เฉพาะอย่างยิ่งอย่างที่เราพูดอยู่ทุกวันนี้ เราไม่ได้สนใจกับใครว่าจะตำหนิติเตียนชมเชยอะไร เราไม่ตำหนิ แต่เราเพ่งถึงความถูกต้องดีงามที่เรียกว่าธรรมต่างหาก นำมาสอนโลก พระพุทธเจ้าท่านสอนโลกท่านก็นำธรรมมาสอนโลก เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว การสอนโลกก็ต้องสอนด้วยความเป็นธรรม ผิดบอกว่าผิด ถูกบอกว่าถูก

เจ้าของเองก็ต้องเป็นอย่างนั้น ต้องปฏิบัติตัวเอง ดูตัวเอง อย่าไปดูแต่คนอื่น ส่วนมากมักจะมีแต่เรื่องผลลบๆ ดูคนอื่น ดูก็เพียงเพื่อเพ่งโทษเพ่งกรณ์เขา ดูเพื่อเอาเป็นคติตัวอย่างมาสอนตนเองไม่ค่อยมี เพราะฉะนั้นจึงสอนให้ดูตัวเอง ดูคนอื่นคนใดไม่สำเร็จประโยชน์ ให้ดูตัวเองเพราะความบกพร่องอยู่ที่ใจ มันจะเคลื่อนไหวออกจากใจ สติมีจับปั๊บรู้ทันทีๆ เลยละ

มันยิ่งสกปรกเลอะเทอะเข้าทุกวันๆ เข้ามาในวัดนี้มันหน้าด้านพอแล้ว ส่วนมากผู้หญิงละ ภาษาภาคอีสานเขาเรียกหีเคียว ผู้หญิงหีเคียว มาเพ่นพ่านๆ พอดีไปเจอกับเราเข้าซี แต่งตัวล่อนจ้อน ปิดไว้แต่หีมันเท่านั้นละ มันเข้ามานี้ พอดีไปเจอกับตัวสำคัญเข้าไป มาอะไรนี่ ดูแต่งตัวเหมือนสัตว์ ว่างั้นละ ไปออก ไล่เดี๋ยวนั้น ประตูวัดนั่น อย่างนั้นให้มาเจอกับเราแหละพอดี ตัวเก่งๆ ไม่ได้ไว้หน้าใครนะ ธรรมเหนือโลก กิเลสมันเหนือที่ไหนเหนือธรรม ธรรมเหนือโลก กิเลสไม่ได้เหนือธรรมนี่นะ อย่างนั้นละคือมันหน้าด้านพอ ไม่รู้สึกตัวเลย ว่าไปสถานที่เช่นไร เขาไปเช่นไร

ตอน ๔ โมง ๕ โมงยังเพ่นพ่านๆ เข้ามา เราก็มักจะออกมาเวลานั้น เวลาเงียบๆ ออกมาดูเหตุการณ์ต่างๆ แล้วก็ออกไปประตูดูนั้นดูนี้ พอเห็นท่าไม่ได้เรื่องก็ดุเอาละ คนอื่นดุไม่ได้ สำหรับเราดุนี้ดุได้ตลอด เพราะดุด้วยความเป็นธรรม ไม่ได้เป็นความเสียหายแก่ผู้ฟัง นอกจากไปตีความหมายให้เป็นความผิดขึ้นมาก็เป็นโทษแก่ตัวเอง แทนที่จะเป็นคติเครื่องเตือนใจ กลับเป็นโทษแก่ตัวเอง หาว่าท่านว่าอย่างนั้นอย่างนี้ไปเสีย กิเลสมันเข้าตัวเสมอ

ไม่มีอะไรที่จะชอบยกยอยิ่งกว่ากิเลส กิเลสนี้ตัวชอบยกชอบยอ อยู่กับกิเลสทั้งหมด ธรรมท่านไม่มี สรรเสริญนินทา โลกธรรม ๘ ขาดสะบั้นไปหมด ไม่มีอะไรเหนือธรรม ธรรมเหนือหมดทุกอย่าง คำสรรเสริญ สรรเสริญดีขนาดไหนดีเหมือนธรรมไหม ถ้าไม่ดีเหมือนธรรมมันก็ตกออก เพราะฉะนั้นโลกธรรม ๘ จึงไม่เข้าติดในธรรมได้ ใจผู้มีธรรมไม่หลง ไม่ลืมโลกธรรม ๘ ความสรรเสริญนินทา

มีอยู่เสมอในวัดนี้ก็ดี เพราะพวกจุ้นจ้านมันมากต่อมาก ตอนเย็นเมื่อวานนี้เขกเอาเลย ใส่กางเกงล่อนจ้อนมานี่ ปิดไว้แต่หีเท่านั้น เมื่อวานเข้ามานี้ พอดีไปเจอเอากับตัวสำคัญเข้าไปซิ มาอะไรนี่ มองนั้นมองนี้เร่อร่าๆ แสดงว่าไม่มีหลัก มาเที่ยวเตร็ดเตร่ ไปออกไป ดูแต่งตัวเหมือนสัตว์ ว่างั้นเลย ไล่ออกเดี๋ยวนั้นเลย แต่งตัวเหมือนสัตว์ไม่ได้เหมือนมนุษย์นะ ว่าอย่างนี้แหละเรา ไล่ออกเดี๋ยวนั้นเลย โฮ้ มันดูไม่ได้นะ มันหยาบโลนเข้าทุกวันๆ กิเลสหน้าด้านขึ้นทุกวันๆ แม้ที่สุดเข้ามาในวัดก็มาอวดวัด มาอวดอย่างหลวงตามาซิน่ะ ว่างั้นเลย เขกเมื่อวานนี้ ไล่เลย แต่งตัวเหมือนสัตว์ ว่างั้นเลย มาทำไมนี่ ไป อยู่ประตูวัด เก้งก้างๆ กำลังจะหลั่งไหลเข้ามานี้ พวกหน้าด้าน มาก็มาเจอกับพระหน้าด้านเข้าไปก็พอดีกันเลย ไล่ขนาบเมื่อวานนี้ โฮ้ มันเลอะเทอะขนาดนั้นนะ

เดี๋ยวนี้ยิ่งได้ดู ให้เห็นธรรมในใจเต็มเปี่ยมด้วยแล้วยิ่งดูได้ชัดเจน ผิดถูกชั่วดีธรรมจะรู้ก่อนเห็นก่อนหมด ไปนี่เหมือนขอนซุงแต่จิตมันไม่เหมือนขอนซุงละซิ อะไรจะคล่องแคล่วว่องไวเฉลียวฉลาดแหลมคมยิ่งกว่าธรรม ธรรมอยู่ในใจแล้วใจดวงนั้นแหลมคม มองดูแพล็บๆ รู้ทันทีๆ นอกจากพูดหรือไม่พูดเท่านั้นเอง ไอ้ผู้ที่หน้าด้านเข้ามา มันด้านนักก็ใส่เสียบ้าง เปรี้ยงๆ เอาเลย ถ้ามันพอรู้จักบาปจักบุญอยู่บ้างก็พูดธรรมดา เตือนธรรมดา ถ้ารู้สึกมันหน้าด้านมากก็ใส่เปรี้ยงๆ นั่นเห็นไหมหมามันห้ามไม่ให้คนเข้าไปกุฏิหลวงตา หมามันเงือดเงื้อนี้ไว้ เราต้องเอาหมามาช่วย เงือดเงื้อใส่เลย คนสู้ไม่ได้ต้องเอาหมาช่วย เราเลี้ยงหมาไว้มากๆ ใครเก่งให้เข้ามา จะยุไอ้นั่นใส่ให้มันหลงทิศไปเลย มันหน้าด้านพวกนี้น่ะ

ยิ่งนับวันหน้าด้านขึ้นทุกวันนะ เสริมกันด้วย เรื่องของกิเลสมีแต่เสริมกันๆ ที่จะระงับดับมันลงไปให้พอดีได้เย็นตาเย็นใจ มองเห็นกันน่าดูน่าชม น่ายินดี น่าเคารพเลื่อมใสไม่มี พอเห็นกันให้ดีดให้ดิ้นเหมือนหมาตัวผู้ตัวเมีย เห็นกันเอาหีเอาควยมาอวดกัน มาอวดอะไรแม้แต่หมามันก็มี มาอวดหาอะไรอวดไม่เข้าท่าเข้าทาง กิเลสมันหน้าด้านอย่างนี้ละ มีแต่ธรรมเท่านั้นปราบกิเลสได้นอกนั้นไม่มี อะไรจะเอามาปราบกิเลสไม่มี มีแต่ธรรมอย่างเดียว

พระพุทธเจ้าตรัสรู้ขึ้นมา นั่นละธรรมปราบกิเลส สาวกอรหัตอรหันต์เป็น สรณํ คจฺฉามิ ของพวกเรา มีแต่พวกธรรมปราบกิเลสให้เรียบราบหมดแล้ว ท่านเป็นสรณะของท่านเต็มองค์ พระพุทธเจ้า พระสาวกทั้งหลายเป็นสรณะของท่านเต็มองค์สอนโลก แล้วโลกก็ถือเป็น สรณํ คจฺฉามิ มาตลอดทุกวันนี้ นั่นละท่านผู้ปราบกิเลสได้เป็นอย่างนั้น

เดี๋ยวนี้เลอะเทอะๆ เข้าไปทุกวันๆ โอ๊ย ดูไม่ได้นะ พากันระมัดระวังบ้างซิ อย่าปล่อยตามกิเลส เผลอไม่ได้นะกิเลสมันเอาตับไปกินหมดแหละ เผลอเมื่อไรต้องเป็นหมดตับหมดปอด กิเลสเอาไปกินหมด เจ้าของยังเหม่อมองยังเย่อหยิ่งไปอีก กิเลสเอาตับไปกินแล้วเจ้าของยังเย่อหยิ่งผยองพองตน ดูไม่ได้นะ พระทั้งหลายท่านดูท่านไม่ว่าอะไร พระวัดนี้ก็เหมือนพระหูหนวกตาบอด เห็นไม่เห็นท่านก็ไม่ว่าอะไร เฉย แต่เราเอาแท้ๆ เอาจริงจังด้วย ขนาบต่อหน้าเลย

อย่างเย็นเมื่อวานนี้ ใส่กางเกงล่อนจ้อนมานี่ผู้หญิงน่ะ กำลังตัวคึกตัวคะนองตัวเก่งๆ ตัวหมาเดือน ๙ นั่นแหละมา มาอะไรนี่ ประตูวัดเราออกไปประมาณ ๕ โมงเย็นละมั้ง ล่อนจ้อนล่อนแจ้นจะเข้ามาวัดนะนั่น พอดี ตชด.ห้ามเอาไว้ไม่ให้เข้า เพราะเลยเวลาแล้วด้วย เราให้ตชด.รักษาอยู่ข้างนอก พอดีเราก็ออกไปเจอ เจอก็ขนาบเดี๋ยวนั้น ไล่เตลิดเปิดเปิงเลย ป่านนี้มันตกแม่น้ำโขงไปไหนก็ไม่รู้แหละ เอาจริงๆ นะเราไม่ได้เหมือนใคร มันหน้าด้านขนาดนั้นนะ

ให้พากันดูใจ มีสติดูแล้วไม่ค่อยเผลอง่ายๆ แหละ ผิดถูกชั่วดีจะรู้ขึ้นที่จิตที่มีสติอยู่ ถ้าไม่มีสติแล้วมันก็เหมือนคนบ้านั่นละ เห็นไหมอยู่ไฟเขียวไฟแดงคนบ้า มันจัดมันทำอะไรอยู่ไฟเขียวไฟแดง ดูรถวิ่งขวักไขว่ ทั้งรถจะชนกัน ทั้งรถก็หลีกรถทั้งหลีกคนบ้าอยู่ที่สี่แยกธรรมขันธ์ เราไปเห็นต่อตา จึงได้เอามาพิจารณา โอ๊ นี่มีตั้งแต่จิตมีตั้งแต่ความรู้ ไม่มีเจ้าของคือสติปัญญาเป็นเครื่องรักษาก็เป็นอย่างนี้เอง นั่นเราดูดูอย่างนั้นนะ เขาทำของเขาสบายตามประสาบ้าเขานั่นแหละ แต่พวกรถเข้ามานี้หลบกันหลีกกัน ทั้งรถก็จะชนกัน มันอยู่สี่แยกเลย ทั้งรถก็หลีกรถ ทั้งหลีกคนบ้า คนบ้าเขาก็เฉย จัดอะไรทำอะไรของมันอยู่อย่างนั้น นี่ละมีแต่ความรู้ ไม่มีสติไม่มีปัญญาเป็นเจ้าของรักษาเป็นอย่างนั้น นั่นพิจารณา

เพราะฉะนั้นจึงส่งเสริมสติปัญญารักษาตัวให้ดี ใครมีสติดีปัญญาดีจะไม่ค่อยผิดพลาด ไม่ว่ากิจนอกการในอะไรเรียบร้อยไป ถ้าขาดสติขาดปัญญาแล้วก็เป็นบ้า อย่างที่อยู่สี่แยกธรรมขันธ์นั่น อยู่สบายๆ ดูรถมันจะชนกัน มันหลบมันหลีกกัน หลีกบ้านั่นน่ะ มันอยู่ที่สี่แยกเสียด้วย รถก็มาทั้งสี่แยกเสียด้วยมาทุกแห่ง ทั้งรถก็หลีกรถ ทั้งหลีกคนบ้า เลยเป็นบ้ากันไปด้วยกัน เราไปดูเราก็ไปเป็นบ้ากับเขาตอนนั้น ไปดูนั่นละ โห นี่มันมีแต่ความรู้เป็นอย่างนี้เอง คือไม่มีสติปัญญา จึงไม่ทราบว่าผิดหรือถูกชั่วดีประการใด ก็ทำอยู่ตามประสีประสาของคนมีแต่ความรู้ ไม่มีสติไม่มีปัญญาเครื่องรักษา มันก็เป็นของมันอย่างนี้ๆ เอามาพิจารณาดู

ความรู้มันรู้ เช่นไส้เดือน บุ้งกือ มันรู้เหมือนกัน แต่สติปัญญาเครื่องรักษาตัวเองนี้ไม่มี มีมากมีน้อย เช่นอย่างสัตว์เขาก็มีตามสภาพของเขา สัตว์บางประเภทมีแต่ความรู้เฉยๆ เช่น ไส้เดือน บุ้งกือ ไปอย่างนั้นไม่รู้จักผิดจักถูกอะไร แต่สัตว์อื่นๆ เขาก็รู้ รู้กลัวรู้กล้า

เมื่อวานไปเกษตรสมบูรณ์ เอาของไปส่งให้โรงพยาบาลเกษตรสมบูรณ์ ไกล ฟากภูเขียวไปอีก เลยไป ๒๒ กิโล เอาของไปเทให้แล้วก็กลับมา อย่างนั้นละ ไปโรงนั้นไปโรงนี้ด้วยความสงสาร ไม่ใช่อะไรนะ บึกบึนไป ไปแต่ละโรงๆ ก็มอบเงินให้โรงละสองหมื่นๆ สิ่งของที่เอาไปก็เต็มรถ เทให้เลยๆ ทุกโรงอย่างนั้น เว้นวันเสาร์วันอาทิตย์ ใน ๕ วัน จันทร์ อังคาร พุธ พฤหัส ศุกร์ นี้ไปโรงพยาบาลทั้งนั้นแหละ ไปด้วยความเมตตาสงสาร ความทุกข์ความจน บางทีมีผ้ามีอะไรก็เอาไปแจกโรงนั้นโรงนี้ พวกผ้าขาวถ้ามี ทางโรงพยาบาลนี่เป็นพื้นละ อย่างน้อยโรงละหนึ่งไม้ๆ ไปทุกโรงเอาไปแจก ไม่มีอะไรละ ทีนี้จะให้พร

 

รับชมและรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th

และสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน  FM 103.25 MHz

และเครือข่ายทั่วประเทศ

 

 

archive4/Audio/y50w/sep/m4-09-2550.mp3


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก