ห้ามเข้า
วันที่ 31 สิงหาคม 2550 เวลา 8:00 น. ความยาว 37 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)   วิดีโอแบบ(Win High Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๓๑ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๐

ห้ามเข้า

เดี๋ยวนี้วิทยุเราออกทั่วประเทศนะ เราพูดที่นี่ละ แต่ก่อนไม่เคยมี เดี๋ยวนี้มีแล้ว พูดที่นี่มันออกทั่วประเทศไม่ใช่เหรอ ออกทั่วประเทศเลย เดี๋ยวนี้ทางพระต่างๆ มาออกวิทยุ เลยเป็นวิทยุวัดป่าบ้านตาดออกทั่วโลกเลย สถานีใหญ่ก็อยู่ที่นี่ใช่ไหม (ครับ) ต้นสถานีใหญ่อยู่ที่โรงเรียนบ้านตาด เป็นสถานีใหญ่ขึ้นมาแล้วส่งทั่วประเทศไทย ต้นตอที่ออกก็คือเราเองเป็นคนออก เทศนาว่าการต่างๆ ออก สุดท้ายออกทั่วประเทศเลย

ธรรมะที่เด็ดๆ เผ็ดๆ ร้อนๆ ที่พวกประชาชนในสมัยปัจจุบันนี้จะไม่เคยได้ยินเลยเทศน์ที่บนศาลานี้ แต่ก่อนมีแต่พระล้วนๆ พระปฏิบัติ เทศน์ก็เทศน์ธรรมะสอนพระล้วนๆ จึงมีแต่เด็ดๆ เผ็ดๆ ร้อนๆ อยู่ข้างบน แต่ก็ได้อัดเทป อัดเทปกระจาย ทุกวันนี้ก็ได้ยินธรรมะที่เราเทศน์ประเภทนี้ ทุกวันนี้กระจายออกไปทั่วประเทศไทยเรา ที่เทศน์สอนพระ อยู่บนศาลาหลังนี้ คือเราเทศน์ตั้งแต่ธรรมะมรรคผลนิพพานจริงๆ เทศน์อย่างเต็มเหนี่ยว ผู้ฟังก็ฟังมุ่งต่ออรรถต่อธรรมอย่างเต็มที่มันก็เข้ากันได้ผึงๆ เลย เทศน์บนศาลา ครั้นต่อมาก็กระจายออกไป ก็เลยกลายเป็นแกงหม้อใหญ่ไป

เดี๋ยวนี้ไปเทศน์ทั่วประเทศไทย มักจะมีแต่แกงหม้อใหญ่ ไม่ได้แกงหม้อเด็ดเผ็ดร้อน หม้อเล็กหม้อจิ๋วไม่ค่อยมี จะมีบ้างก็คือทางจันท์ ที่เราไปเทศน์ทางจันท์ก็มีวงกรรมฐานอยู่ที่นั่น กรรมฐานก็ลูกศิษย์วัดป่าบ้านตาดนี่ละ เช่นท่านฟักเป็นต้น แถวนั้นลูกศิษย์เยอะพระกรรมฐาน เทศน์ทางนู้น เดี๋ยวนี้ก็อยู่นี้น้อยเมื่อไรจันท์น่ะ จังหวัดจันทบุรีพระไม่เคยขาดวัดป่าบ้านตาดนะ ติดต่อสืบเนื่องมาจนกระทั่งเดี๋ยวนี้ สมมุติว่าคัดเลือกมาฆ่า พระองค์ไหนใครที่มาจากจันท์ วันนี้จะได้ฆ่าหลายศพอยู่นะ ก็มันไม่เคยขาดวัด พระจันท์จะได้ฆ่าหลายรายอยู่

พระก็มีฆราวาสก็มี ฆราวาสก็อยู่ข้างใน พระก็อยู่นี้เป็นประจำตั้งแต่สร้างวัด ที่จันท์ไม่เคยขาดวัดนี้ แต่ก่อนอุบลฯ อุบลฯนี่มาแยกยโสธร อุบลฯกับจันท์คู่เคียงกันมา ต่อไปนี้ก็มีแต่จันท์ พระจันท์นี้ไม่เคยขาดวัดนะ ไม่เคยขาดวัดพระจันทบุรี

เริ่มแรกจริงๆ ก็คือท่านพ่อลีไปจันทบุรี ท่านพ่อลีเป็นลูกศิษย์ที่โปรดที่สุดของหลวงปู่มั่นเรา ท่านพูดถึงท่านพ่อลีนี้ โห รู้สึกท่านพูดคึกคักนะ เพราะท่านพ่อลีเป็นนิสัยเด็ดเดี่ยวเฉียบขาด ปฏิบัติเคร่งครัดตามหลักธรรมหลักวินัย พูดนี้เหมือนขวานผ่าซาก คือออกมาจากใจที่เด็ด เข้าใจไหมล่ะ กิริยาที่แสดงออกมาจึงเด็ด คือภายในใจมันเด็ดอยู่ภายใน เวลาเทศนาว่าการนี้ผึงผังๆ ท่านพ่อลี ท่านไปอยู่จันท์ นั่นละเหตุเบื้องต้นที่ชาวจันท์กับวัดป่าบ้านตาดจะได้มาเกี่ยวโยงกัน ตั้งแต่โน้นมาละ ตั้งแต่ท่านพ่อลีไปอยู่ที่นั่น เราก็ไปที่จันท์ ไปวัดป่าคลองกุ้งนั่นแหละ เราไปเริ่มแรกจริงๆ ไม่ได้มีใครรู้จักเรา เพราะเราตั้งใจไปหาความสงัด หลีกหนีจากหมู่เพื่อนหาอุบายวิธี เพราะทางนู้นพระรุมทางสกลนคร จึงบอกว่าจะไปเยี่ยมโยมแม่ก่อนว่าอย่างนั้นนะ

เราคิดหาอุบายออก ไปเยี่ยมโยมแม่ ใครก็จะไปด้วย ไปยังไง ไปเยี่ยมโยมแม่ ไปหาความสงัดที่ไหน แก้ลงตรงนั้นแล้วก็มาได้ปั๊บ มาพักอยู่โยมแม่ ๒ วัน เปิดลงจันท์เลยนะ ลงไปทางจันท์ ไปหาพักผ่อนอารมณ์ เพราะพระเณรรุมตลอด ตั้งแต่พ่อแม่ครูจารย์ล่วงไปแล้วปั๊บ เกาะปุ๊บเลยนะเกาะเรา แต่ก่อนเราไม่ทราบว่าพระเณรจะเกี่ยวข้องกับเรายังไงบ้าง เราไม่เคยสนใจ อยู่ในวงหมู่เพื่อนด้วยกันหนองผือ เราก็เป็นหัวหน้าหมู่เพื่อนอยู่นั้น พ่อแม่ครูจารย์เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร เราก็ไม่ทราบว่าพระเณรจะเกี่ยวจะเกาะเรายังไงๆ บ้าง เราไม่สนใจ มีแต่คอยสอดส่องดูแลความเรียบร้อย ตามหลักธรรมหลักวินัยกฎระเบียบของวัดป่าเท่านั้นละ

ทีนี้พอพ่อแม่ครูจารย์มั่นมรณภาพนี้เกาะพรึบเลย นั่นแหละที่เราหนักหนักอย่างนั้นนะ อยู่ในป่าก็ไปเต็มอยู่ในป่า เลยหาอุบายหลบหลีก จากนั้นมาก็ไปเยี่ยมโยมแม่ ออกทางนี้มาเยี่ยมโยมแม่ มาเยี่ยมสองวัน ตอนนั้นโยมแม่ยังไม่ได้บวช มาเยี่ยมโยมแม่เพียงสองวัน พอไม่ให้เสียความสัตย์ความจริง ออกจากนั้นก็เผ่นปั๊บเลย ให้น้องชายไปบุ๊กตั๋วเงียบๆ คือจะไม่ให้ใครทราบเลย จะไปภาวนาคนเดียวเรา ไปตีตั๋วสถานีคำกลิ้ง ตั๋วรถไฟ แต่ก่อนทางรถยนต์ไม่ค่อยมี มีแต่รถไฟ ไปนี้ก็เข้าขอนแก่น เข้าห้วยทราย บ้านห้วยทรายอยู่ที่อำเภอภูเวียงลึกๆ ไปพักอยู่คนเดียวภาวนาสบายอยู่นั้นละ

ตอนที่ขึ้นรถไปนี้ไปเจอเอาแม่ทิพย์ละซี ไปเจอแล้วแว้ดว้าดขึ้นมา เราไม่เห็นแกแกเห็นเรานี่ ขึ้นมานี้ ท่านอาจารย์ เดี๋ยวตีปากเอานะ เราขโมยมามันเป็นยังไงอย่างงี้ ขโมยอันนี้เขาจับได้แล้วนี่ เอาละนะที่นี่มันจะลั่นละ พอแม่ทิพย์ทราบก็ไปกราบเรียนท่านเจ้าคุณอุปัชฌาย์ สักเดี๋ยวท่านก็เรียกเรากลับมา แน่ะกลัวเราจะหนีจากเขตนี้ หาอุบายวิธีการจะพามหาบัวไปตรวจโรคอย่างนั้นอย่างนี้ มาหาอุบายพูดอย่างนั้นแหละ เรารู้อุบายของท่านเจ้าคุณ เพราะท่านเกาะเราตลอด ท่านเมตตาเรามากอยู่ ไม่ว่าเทศนาว่าการที่ไหนต้องเอาเราออกเทศน์ ที่วัดโพธิสมภรณ์

แต่ก่อนวัดโพธิสมภรณ์กับกรรมฐานนี้เป็นอันเดียวกัน เข้าออกตลอดเวลาตั้งแต่ท่านเจ้าคุณอุปัชฌาย์เรายังมีชีวิตอยู่ เพราะท่านเกี่ยวโยงกับวงกรรมฐานมีพ่อแม่ครูจารย์มั่นเป็นต้น พระกรรมฐานจึงเต็มอยู่ในวัดโพธิเรื่อย เดี๋ยวองค์นั้นออกมาองค์นี้เข้ามา ท่านนิมนต์ให้มาเรื่อย ครูบาอาจารย์ทั้งหลายใหญ่ๆ มานั้นละ นั่นละเราที่เกี่ยวกับผู้กับคนก็เปิดลงไปจันท์ พอไปถึงกรุงเทพแล้วท่านเจ้าคุณว่าจะพาไปตรวจโรค ก็ไปกับท่านพอเป็นพิธีไม่ให้เสียความเคารพ ไปกับท่านเราก็ไปตรวจพอเป็นพิธี ไม่ได้ตรวจ ไปๆ ตรวจโรคท่านว่างั้น

ท่านไม่ได้ไปด้วยนี่ ไปตรวจโรคโรงพยาบาลสงฆ์ ไปเราก็ไปพอเป็นพิธีเฉยๆ ไปก็เดินโน้นเดินนี้ไปดูนั้นดูนี้กลับมาปั๊บแล้วก็เปิดลงจันท์เลย พอดีท่านกลับเราก็ออก เราไม่กลับเราว่างั้น ไปจันท์นี่เรื่องราวมัน ก็มีอาจารย์เฟื่องที่เป็นเพื่อนกันกับอาจารย์เจี๊ยะที่อยู่กับหลวงปู่มั่นด้วยกัน ท่านก็อนุเคราะห์เรานะ เราไปก็ไปเจออาจารย์เฟื่อง เราบอกท่านเลยว่า ผมมาที่นี่ให้ท่านถือเสียว่าผมนี้เป็นอาคันตุกะ เป็นพระที่จรมา อย่าถือว่าผมเป็นใหญ่เป็นโต เพราะเราแก่พรรษากว่าท่านเดี๋ยวท่านจะมอบภาระให้เรารับอีก ก็เราเบื่อพอแล้วนี่

หน้าที่การงานในวัดนี้ให้เป็นหน้าที่ของท่านทั้งหมดบอกเลย ผมมาเพียงอาศัยท่านเท่านั้นแหละ ท่านอย่าไปพูดกระโตกกระตากที่ไหนนะ ผมจะมาภาวนาของผมสะดวกสบาย พอไปอยู่นั้นได้ประมาณสักอาทิตย์กว่า ก็พอดีอาจารย์เจี๊ยะไปจากเขาแก้วนี้ ไปนั้นแล้วก็เข้าไปวัดคลองกุ้ง พอไปเห็นเราทีนี้ก็เวิ้กว้ากขึ้นเลยทีเดียว มันอะไรอีกจะเกิดเรื่องละนะที่นี่ พอมาก็ไปประกาศโฆษณาที่ตลาดจันท์ เขารู้ก็แตกกันมา เราอยู่นั้นอีกสองคืนเปิดหนีเลย อยู่ไม่ได้กลับมา มาก็ไปทางไหนไม่รู้ ไปทางห้วยทรายไปนู้นมั้ง หลบหมู่หลบเพื่อน

อาจารย์เฟื่อง อาจารย์เจี๊ยะอยู่ทางโน้น คุ้นกันมาตั้งแต่อยู่สกลนครด้วยกัน ท่านอาจารย์เจี๊ยะไปเจอเราเข้าละซิ ไปโฆษณาในตลาดจันท์ โฆษณาเรื่องพระน่ะ พระอย่างนั้นพระอย่างนี้มาแล้ว เวลานี้มาพักอยู่นั้น มันก็แตกมาหมดจันท์ซิ พวกนี้พวกนักธรรมะนี่นะ ลูกศิษย์ท่านพ่อลีหลั่งไหลมา เราอยู่ได้สองคืนเปิดเลย โอ้ มันอยู่ไม่ได้ เขาไปฟังเทศน์ทุกคืนน่ะ โห ไม่ไหว เลยหนีกลับเข้ามากรุงเทพ ที่นี่เลยไม่ทราบว่าไปไหนต่อ เกี่ยวกับเรื่องหมู่เพื่อนเป็นอย่างนั้นละ

เราไปอยู่นานพอสมควรก็คือห้วยทราย ที่แม่ชีแก้วอยู่ ๔ ปี จากนั้นมาแล้ว ดูเหมือนลงไปจันท์หรือไปไหน กลับมาก็มาสร้างวัดนี้เราลืมๆ ไปเสีย จนกระทั่งป่านนี้ได้ ๕๑-๕๒ ปีแล้วมังวัดนี้ จนกระทั่งป่านนี้แหละดูซิ ศาลาแต่ก่อนชั้นเดียว ยกขึ้นเป็นสองชั้น อยู่ข้างบนก็ได้ข้างล่างก็ได้ แต่ก่อนศาลาชั้นเดียว ยกอันนี้ขึ้นอีกให้เป็นสองชั้น ได้มาอยู่กว้างขวาง ข้างบนเลยไม่มีใครอยู่

มาก็มีแต่พระล้วนๆ มาอยู่นี่ เพราะฉะนั้นการเทศน์จึงเด็ดเดี่ยวเฉียบขาดอยู่บนศาลาหลังนี้ข้างบน ไม่มีใครมาเกี่ยวข้อง มีแต่พระทั้งนั้นมาเต็มอยู่ในวัด พระกรรมฐาน เราก็ไม่รับมากเสียด้วย เรากำหนดตายตัวไว้เลยไม่ให้เลย ๑๘ องค์ เพราะแต่ก่อนมีครูบาอาจารย์อยู่หลายท่านหลายองค์ แล้วบรรดาพระเจ้าพระสงฆ์ก็ไปอยู่กับครูบาอาจารย์องค์นั้นๆ ก็แบ่งเบากันไป ทีนี้ครูบาอาจารย์องค์นั้นล่วงไปองค์นี้ล่วงไป ไหลเข้ามาซิ ทุกวันนี้เป็นทะเลพระไปหมดเลย ทะเลอะไรก็ไม่รู้ เลยทะเลพระเป็นทะเลอะไรก็ไม่รู้แหละ เต็มไปหมดวัดป่าบ้านตาดเรา แต่ก่อนเทศน์สอนพระเทศน์ข้างบน เทศน์ธรรมะเด็ดๆ ทั้งนั้น พอหลังจากนั้นมาเกี่ยวกับประชาชนก็เลยกลายเป็นเทศน์แกงหม้อใหญ่ หม้อใหญ่มันไม่ค่อยมีรสชาติที่สำคัญๆ ฟังแต่แกงหม้อใหญ่เถอะ เรื่อยมาจนกระทั่งทุกวันนี้

แกงหม้อเล็กไม่ค่อยได้เทศน์เสียแล้วละทุกวันนี้ มีแต่เทศน์แกงหม้อใหญ่ทั้งนั้น ไปที่ไหนเทศน์สอนประชาชน สุดท้ายทั่วประเทศไทยเทศน์แกงหม้อใหญ่ทั้งนั้น เทศน์สอนช่วยชาติบ้านเมือง การเทศน์นี้ก็รู้สึกในเมืองไทยนี้จะไม่มีใครสู้หลวงตาบัวได้แหละ จริงๆ นะ ทั่วประเทศไทยหลวงตาบัวเทศน์หมดเลย ยิ่งเทศน์ช่วยชาติด้วยแล้วไปซอกแซกซิกแซ็กทุกจังหวัดๆ ไปเทศน์เรื่อยมา ก็พึ่งมางดการเทศน์ช่วยชาติมาระยะนี้ มันก็เทศน์ช่วยคนทั่วประเทศอีกแหละ วันไหนไม่มีเวลา พอสว่างนี้ไหลเข้ามาแล้ว ไหลเข้ามา จนค่ำเราต้องไปไล่ มันไม่ยอมออกพวกนี้ ตอนเย็นๆ พอ ๕ โมงแล้วเราจะออกจากกุฏิด้อมไป ไปดูยังตกค้างอยู่ที่ไหนไล่ออกๆ เลย ไม่งั้นมันไม่ไป ยั้วเยี้ยๆ อยู่อย่างนั้น

พระในวัดเรานี้เดี๋ยวนี้มีอยู่เท่าไร ดู ๕๐ กว่านะ (พระ ๕๗ ครับผม) พระ ๕๗ ๕๘ เณร วัดนี้มีพระน้อยเมื่อไร ๕๗ องค์ เณร ๑ เป็น ๕๘ แต่ท่านมาฉันไม่มากนักละ ฉันเพียงเล็กน้อย นี่บังคับเอาไว้นะ ๕๗-๕๘ นี่ ถ้าปล่อยตามเรื่องแล้วเต็มไปหมดวัดนี้ เราบังคับเรากำหนดตายตัวจริงๆ เพียง ๕๐ มันยังปาขึ้นไปถึง ๕๘ ฟังซิน่ะปีนี้ กำหนดให้ ๕๐ เป็นอย่างมากให้อยู่แค่นั้น นี่ฟาดเข้าไปเสีย ๕๘

         ท่านอยู่ท่านภาวนาจริงๆ วัดนี้เราเข้มงวดกวดขันตลอดมา ถึงจะมีคนเข้ามาเกี่ยวข้องก็ให้มาแค่ศาลาแล้วออกๆ ทำเลของพระที่ภาวนาอยู่ในป่า ไม่ให้เข้าไปเลย เรายังเขียนติดป้ายไว้ ห้ามเข้า เขียนติดป้ายไว้ ห้ามเข้าๆ แล้วมีหมารักษาการณ์แทน เงือดขวานเงือดอะไรไว้ ห้ามไม่ให้คนเข้าไปกุฏิเรา เขียนไว้ห้ามเข้า หมาก็มีทุกแห่งรักษาการณ์แทน เต็มไปหมดแหละหมา ข้างในไม่ให้ใครเข้า ให้มาแค่ศาลาแล้วออก ทำเลข้างในให้เป็นที่ภาวนาของพระ

การประพฤติปฏิบัติทางด้านศีลด้านธรรมด้านภาวนาเราไม่เคยลดละ เสมอตลอดเวลา ใครมาก็ให้มาแค่นี้ให้ออกๆ ไม่ให้เข้าไป ห้าม เป็นทำเลภาวนาของพระ การภาวนาเราเข้มงวดกวดขันมากตลอดมา ไม่เคยลดหย่อนผ่อนผันเรื่องการภาวนาสำหรับวัดป่าบ้านตาดแต่ไหนแต่ไรมา จนปัจจุบันนี้ก็เป็นอย่างนั้น ไม่ให้มีการมีงานอะไร ให้มีแต่งานภาวนา ในวัดนี้ถึงจะมีพระมากก็ตาม ก็เป็นพระประเภทภาวนาทั้งนั้น พระที่มาจุ้นๆ จ้านๆ มาถึงแค่หน้าวัดก็ได้ออกเหมือนกับประชาชนเขานั่นแหละ ไม่ให้ทะลึ่งเข้าไป ไอ้พระที่มาเก้งๆ ก้างๆ ห้ามไม่ให้เข้าเหมือนกัน ประชาชนมาก็เรียกว่าไล่แล้ว พระมาเก้งๆ ก้างๆ ก็แบบเดียวกัน ถูกไล่เหมือนกันหมดไม่ให้เข้าไป เป็นอย่างนั้นตลอดมา เพราะเราตั้งใจประพฤติปฏิบัติ

เรื่องทั้งหลายโลกธาตุนี้พูดจริงๆ เราไม่ได้คุ้นกับอะไรเลย ฟังซิท่านทั้งหลายอยากฟัง จิตนี้เมื่อเวลาเข้าถึงตัวเต็มที่หมดสมมุติโดยประการทั้งปวงแล้ว สมมุติทั้งหลายจะเข้าไปถึงไม่ได้เลย กิริยาอาการที่ปฏิบัติต่อสมมุติก็จะเลือกปฏิบัติเท่าที่สมควรว่าไม่กระทบกระเทือนกับธรรม ถ้าอะไรเข้าไปกระทบกระเทือนธรรมปัดทันทีๆ เลย เราปฏิบัติมาอย่างนั้นในวัดนี้

เรื่องมรรคผลนิพพานมีอยู่กับทุกคนผู้ตั้งใจปฏิบัติ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับกาลสถานที่เวล่ำเวลา ท่านบอกว่า อกาลิโก ทำบาปเป็นบาป ทำบุญเป็นบุญตลอดไปเลย วัดนี้จึงต้องรักสงวนมากทีเดียว ให้พระได้ภาวนาสบายๆ ผู้มาภาวนาก็เอาให้ดี ส่วนมากเราลำบากกับพวกข้างในมากกว่าข้างนอกนะ ข้างนอกไม่มีอะไรพระเรา พูดกันฟังง่ายพระเราไม่มีอะไรกัน มีเท่าไรๆ ไม่เคยได้ฟังเรื่องราว มีพระองค์นั้นองค์นี้ทะเลาะเบาะแว้งกันตรงไหน ไม่เคยมีตั้งแต่สร้างวัดมา แต่ในครัวนี้เป็นประจำ ถ้าไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งกันแล้วในครัวนี้ ต้องไปโกยเอายาทันใจมาเทไว้นั่นเลย แก้ปวดหัวมัน

มันไม่ได้ทะเลาะกันมันปวดหัว ต้องไปโกยเอายาใส่ตู้รถไฟไปเทไว้นั้นเลย นี่แก้ปวดหัว เป็นอย่างนั้นนิสัย เราไม่ได้ตำหนิติเตียนทั่วๆ ไป ส่วนมากผู้หญิงมักใจดิ้นรนกวัดแกว่งไม่ค่อยสม่ำเสมอไม่ค่อยตรงไปตรงมา ไม่ค่อยมีหลักมีเกณฑ์เหมือนผู้ชาย เราไม่ได้ตำหนิใคร ผู้หญิงที่ดีก็มี แต่ส่วนมากมักเป็นอย่างที่ว่านี้ เพราะเราคละเคล้ากันหมด กับพระกับเณรกับประชาชนอะไรนี้ การปกครองพระนี้ง่ายมาก สำหรับประชาชนฝ่ายผู้หญิงนี้ลำบาก เดี๋ยวเรื่องนั้นเดี๋ยวเรื่องนี้ คือมันไม่ลงกัน ใครก็มีแต่เก่งๆ อวดกัน อวดไปอวดมาจะเป็นยังไง มันก็เรียนวิชาหมาละ ครั้นอวดไปอวดมาก็แว้ๆ แล้วกัดกัน

วิชาพวกที่เรียนอยู่ในครัวมีแต่วิชาหมา มันแว้ๆ แล้วก็กัดกัน วิชาหมาเต็มอยู่นี้ใครอยากศึกษาวิชาที่สูงสุดแล้วให้เข้ามาในครัววัดป่าบ้านตาด วิชานี้สูงสุด เรื่องสูงสุดคือเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกัดกันนี้สูงสุดอยู่ในวัดป่าบ้านตาด ให้เข้ามาศึกษาที่นี่ นี่มหาวิทยาลัยสูงสุดอยู่ตรงนั้น เอะอะเอาแล้วๆ ถ้าดูหัวใจเจ้าของมันจะไม่เป็น ดูตรงนั้นเท่านั้นรู้ พอมันแย็บออกมานี้มันจะแสดงก่อนแล้ว ได้เห็นได้ยินอะไรปั๊บอันนี้มันจะแย็บออก ปรุงเรื่องนั้นเรื่องนี้ คนนั้นไม่ดีคนนี้ไม่ดี จิตมันก็ส่ายออกไปหาข้างนอก มันไม่ได้ดูตัวเองที่มันดีดมันดิ้น ถ้าจิตของผู้ดูตัวเองมันดีดมันดิ้น พอมันแย็บมันรู้ตีปั๊บๆ เขาก็ตีเราก็ตีมันก็ไม่มีเรื่อง

อันนี้ต่างคนต่างปล่อยๆ หมาให้กัดกัน เขาก็หมาเราหมา สุดท้ายหมาทั้งวัดกัดกันระบาดออกมาหาพระ พระตีขนาบหลงทิศไป กูไม่ใช่หมานี่น่ะ พวกสูเป็นหมาก็ไปละซิ ไล่กลับไปทางครัว เข้าใจไหมล่ะ โฮ้ มันโรงเลี้ยงหมา ไม่ทราบว่าโรงเลี้ยงพระเลี้ยงคน มันพิลึกจริงๆ เอาละเท่านั้นละพอ ให้พร

 

รับชมและรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

Hwww.luangta.comH หรือ Hwww.luangta.or.thH

และสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน  FM 103.25 MHz

และเครือข่ายทั่วประเทศ

 

 

archive4/Audio/y50w/aug/m31-08-2550.mp3


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก