เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๕ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๐
นี่หรือเจ้านายปกครองประเทศ
(ทำบังสุกุลครับหลวงตา นายสุรเชษฐ์ อ่อนคำ เขา) นายสุรเชษฐ์ อ่อนคำ ดูเหมือนเห็นติดป้ายไว้ที่ในบ้านใช่ไหม เห็นติดป้ายไว้นั่น (ทองคำ ๒ บาท ๙๒ สตางค์ ทองคำนี่เขาใส่อยู่ด้วยก่อนตาย เขาตายแล้วก็เลยถวายหลวงตา) เขาตาย ตายเมื่อไร (วันที่ ๒๑ สิงหาคม ครับ) ที่เห็นป้ายติดทางเข้ามาบ้านใช่ไหม (ใช่ค่ะ) ชื่อสุรเชษฐ์ อ่อนคำ ติดไว้นั่นเจ้าของตายแล้วเหรอ (ตายแล้วครับ) เอาแน่นอนได้ยังไงเรื่องความเป็นความตาย เอาแน่ไม่ได้นะ ป้ายติดไว้นั่น ป้ายไม่ตาย คนตายแล้วนี่ นอนใจไม่ได้นะ
ทองคำที่มอบเข้าคลังหลวงแล้วเป็น ๑๑,๐๓๗ กิโลครึ่ง ทองคำตั้งแต่เราเริ่มช่วยชาติมาทั้งประเทศเรา เวลานี้ทองคำได้ ๑๑,๐๓๗ กิโลครึ่ง หลังจากมอบแล้วได้ทองคำน้ำไหลซึมเพิ่มเข้าอีก ตั้งแต่วันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๐ เป็นทองคำ ๕๓๗ กิโล ๓๖ บาท ๗๒ สตางค์ ถ้ารวมทองคำทั้งหมดที่มอบแล้วและยังไม่ได้มอบเข้าด้วยกัน ก็เป็นทองคำ ๑๑,๕๗๓ กิโล ๒๖ บาท ๗๒ สตางค์
นี่ละกำลังของบรรดาพี่น้องทั้งหลาย ได้ช่วยชาติของเราดุนขึ้นแข็งแกร่งนะ มันของเล่นเหรอ ๑๑,๕๗๓ กิโลครึ่ง ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยนะ ทองคำจะเร่งเครื่องเป็นแกนของชาติไทยเรา เครื่องประดับสง่างามของชาติไทยเราคืออันนี้เอง จึงได้พาพี่น้องทั้งหลายขวนขวายหา ก็เรียกว่าสมใจเราที่เป็นประเทศน้อย ก็ได้ตั้งทองคำ ๑๑,๕๗๓ กิโล ๒๖ บาท ๗๒ สตางค์ นับว่าได้มากพอสมควร ส่วนดอลลาร์ที่เข้าคลังหลวงได้ ๑๐ ล้านสองแสน (๑๐,๒๑๔,๖๐๐ ดอลลาร์ครับ) เออ ๑๐,๒๑๔,๖๐๐ ดอลล์ได้เข้าคลังหลวง ส่วนทองคำได้ ๑๑,๕๗๓ กิโล กับ ๒๖ บาท ๗๒ สตางค์ นี่ละหลักใหญ่ที่เข้าคลังหลวง ดอลลาร์ ทองคำ
สำหรับทองคำนี้เรียกว่าร้อยทั้งร้อยตลอดไป แยกไปไหนไม่ได้เด็ดขาด เราสั่งคำเดียวเท่านั้นเป็นสองไม่ได้เลย ถ้าลงได้เด็ดขาดแล้ว เป็นไม่ได้ ใครมาทำฝ่าฝืนไปนี่คอขาดว่างั้นเถอะ เอาจริงเอาจังนะ สำหรับที่จะหนุนคลังหลวงของเรา ซึ่งเป็นลมหายใจของคนทั้งชาติอยู่ในคลังหลวงนั้น ตัดนั้นขาดลมหายใจขาดหมดเลย เพราะฉะนั้นแยกแยะไปที่ไหนจึงไม่ได้ นั่นคือลมหายใจทั้งนั้นๆ ให้เป็นชิ้นเป็นอันหนาแน่นไว้ซิ ทองคำตั้ง ๑๑,๕๗๓ กิโล ของเล่นเมื่อไร เป็นเครื่องประดับชาติไทยเรา มีความแน่นหนามั่นคงอยู่ที่นั่น ความอบอุ่นของชาติไทยเราก็อยู่ที่นี่ รวมอยู่ที่นี่หมด
มาแล้วหมอมาเหรอ นั่นละมาแล้ว ทางกรุงเทพฯก็มีหมอหนึ่ง ที่เด่นอยู่ทางพุทธศาสนา หมอสานิตย์เรานี้ทางกรุงเทพฯ นี่ก็อุดรฯ หมอรุ่งเรือง ที่เกี่ยวกับวัดกับวาติดพันเอาจริงเอาจัง พี่น้องทั้งหลายถือเป็นคติไว้นะ ที่พูดนี่พูดเพื่อเป็นคติตัวอย่าง ความรู้วิชาเรียนมาได้ทุกคน แต่จะนำไปปฏิบัติเพื่อความเสียหายมี มาเป็นคุณประโยชน์แก่ตัวเองและชาติมี นี่ละสำคัญ ที่เรียนหมอมานี้ ถ้าหมอไม่ฉลาดหมอก็กลายเป็นหมาไปเลย ถ้าฉลาดก็เป็นหมอเป็นนายแพทย์เป็นศาสตราจารย์ไปเรื่อยๆ เข้าใจไหม เอ้า ก็เราพูดให้หมอลูกศิษย์ของเราฟัง หมอกับหมามันใกล้กันเหลือเกิน
อย่างเราพูดให้หมอวิชัย อำเภอเพ็ญ มาเหยียบหัวเราไปบักห่านี่เข้าใจบ่ เราช่วยมันสักเท่าไรอำเภอเพ็ญ โธ่ หลายๆ ล้านนะ รถมันก็เอารถโปเกมาขวางหน้าเราไว้ เราไปอำเภอเพ็ญ รถโปเกที่ใช้ไม่ได้ อุบายวิธีการของมันของเล่นเหรอ พอเราออกมา เอารถโปเกที่ใช้ไม่ได้แล้วมาขวางหน้าเรา ให้เราได้เห็นว่ารถนี้ใช้ไม่ได้ มันขอรถเรา เราก็รู้ทันทีแหละ ทำไมจะไม่รู้เพียงอุบายแค่นั้น เราก็เลยให้ ในห้องผ่าตัดห้องอะไรๆ เหล่านี้ เครื่องมือแพทย์เยอะนะที่โรงพยาบาลอำเภอเพ็ญ เครื่องมือผ่าตัด ห้องผ่าตัด มันเป็นล้านๆ ไม่ใช่น้อยๆ ช่วยหลายด้านหลายทาง
ครั้นแล้วมันมาเหยียบหัวพ่อมันไป พ่อมันคือใคร คือหลวงตาบัว ใครเป็นคนมาเหยียบ หมาวิชัยเหยียบเข้าใจไหม ไม่รู้บุญรู้คุณ มันไม่เจริญไอ้นี่เราบอกตรงๆ เลย พูดตรงๆ ชี้นิ้วเลย ถ้าลงได้เหยียบหัวพระพุทธเจ้าได้ลงคอ เหยียบหัวครูบาอาจารย์ได้ลงคอ สำหรับมนุษย์ที่รู้จักบุญจักบาปอยู่แล้ว จม หาความเจริญไม่ได้ละ อย่างนั้นละลูกศิษย์กับอาจารย์สอนกัน ต้องสอนด้วยภาษาธรรม ต้องตรงแน่วๆ อ้อมแอ้มๆ นี่ไม่ได้ ไม่ใช่ภาษาธรรม หลอกลวงต้มตุ๋น
คือแต่ก่อนหมอวิชัย เป็นผู้อำนวยการอยู่โรงพยาบาลอำเภอเพ็ญ เดี๋ยวนี้มันย้ายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ มันปีนใส่เก้าอี้รัฐมนตรี เหยียบหัวหลวงตาบัวขึ้นไป มันจะปีนเก้าอี้รัฐมนตรี เดี๋ยวนี้เก้าอี้นั้นมันปีนไปไหนก็ไม่รู้ ตัวมันไปไหนก็ไม่รู้ จะมาฟ้องร้องเรา ฟังซิน่ะ ว่าหาเงินหาทองมาได้ เอาไปใช้ที่ไหนๆ บอกว่าเดือนสิงหา สิงหาผ่านมาหลายปีแล้ว จะมาตรวจเงินเรา เราบอกว่าให้มาทั้งโคตรหมาวิชัย หมาหลวงตาบัวก็มี โคตรมหาบัวก็มี โคตรหมาวิชัยก็มี เอ้าๆ มาสู้กันเราว่า พูดเล่นเฉยๆ เราไม่มีอะไรกับใคร นั่นมันก็พูดได้ลงคอ เก้าอี้ตัวเดียว เก้าอี้รัฐมนตรี อยากเป็นใหญ่เป็นโต ตอนนายทักษิณเป็นนายก
ไอ้ทักษิณนี่เราก็ยกมันขึ้น โถ แทบเป็นแทบตาย เรายกขึ้น เราก็ว่าในใจของเราเป็นธรรมแท้ๆ เอาใครมาเป็นผู้ใหญ่ๆ ก็เหมือนปล่อยหมาเข้ามาถาน ปล่อยหมาเข้าถานๆ ฟาดพุงกางแล้วออกมา บางตัวตายในถานก็จะมี นี่ละเอาผู้ใดๆ มาเป็นผู้ใหญ่ มีแต่พวกปล่อยหมาเข้าถานๆ ไม่รู้จักอิ่มจักพอ เป็นอย่างนั้นแหละ เราพยายามทุกเรื่องนะ คืออยากให้เป็นคนดี อุ้มชาติบ้านเมือง เรื่องราวเป็นอย่างนั้น เช่นนายทักษิณเราก็ช่วยเต็มกำลังความสามารถ เพราะเอาใครเข้ามาเป็นผู้ใหญ่ๆ มีแต่ปล่อยหมาเข้าถานๆ ไปกินสะแตกแล้วก็ออกไป ยกหมาตัวอื่นเข้าไปอีก ไปกินในส้วมในถาน เราสลดสังเวชนะที่เห็นทักษิณเรานี้เป็นคนมั่งมีศรีสุข เด่นในประชาชนชาวไทย เรียกว่าเป็นอันดับหนึ่งๆ เลย ผู้นี้จะไม่กินบ้านกินเมือง ผู้นี้จะช่วยชาติบ้านเมืองได้ เราคิดว่าอย่างนั้น
ที่ไหนได้หมาตัวใหญ่พุงกาง โยนเข้าไปในส้วมป่านนี้มันยังไม่ออกมาเลย มันไปตายแล้วก็ไม่รู้ บักห่านี่ บักทักษิณนั่นน่ะ ก็เราเป็นอาจารย์สอนมัน ทำไมพูดไม่ได้วะ มันผิดเราก็บอกว่าผิด ผิดไปไหนการพูดของเรา อย่างนี้แหละมันใช้ไม่ได้นะ เอาใครมาเป็นใหญ่เป็นโต เอากิเลสตัณหาเข้ามา เข้ามาท้องก็ป่องอะไรก็ป่อง
นี่ละทีแรกๆ มาทางทิศใต้วัดป่าบ้านตาดนี้ เราทราบแรกเฉยๆ ไม่เป็นความจริง ที่วัดป่าบ้านตาดมันพยายามมาตั้งเขื่อนวัดป่าบ้านตาด ๒-๓ หนแล้ว เราเป็นคนขอร้องเอาไว้ เข้าถึงกระทรวง กั้นเขื่อนนี่ไม่สมควรอย่างยิ่ง เราบอก เราพิจารณาด้วยเหตุด้วยผลหมด เวลาจะตั้งเขื่อนทีแรกก็ให้ลูกน้องเข้ามา พวกนี้อำนาจป่าๆ เถื่อนๆ พวกชลประทาน ใครชั่ว กรมชลประทานนั้น พูดให้มันชัดๆ อย่างนี้ มานี่มันเอากำลังป่าเถื่อน อำนาจป่าเถื่อนเข้ามานะ
พอดีเราก็อยู่ในวัดเวลานั้น มันยกขบวนลูกน้องเข้ามาถาง เข้ามาในกลางวัดนี่ จะมากั้นเขื่อนชลประทาน จะมาปรึกษาหารือเราซึ่งเป็นเจ้าอาวาสสักคำเดียวก็ไม่มี พระก็เต็มวัด มันก็ไม่มี ถางเข้ามาด้วยอำนาจป่าเถื่อน เราอยู่กุฏิเราได้ยินแล้วก็ลงมาถาม ว่าตัดไปนี่เขาจะกั้นเขื่อนที่นี่ ใช้อำนาจป่าเถื่อน ฟังซิ ฟังให้มันชัดนะ พวกเจ้านายป่าเถื่อนเป็นอย่างนี้แหละ ถางเข้ามาผึงผังๆ เราก็ออกมา มาทำอะไร สูงๆ พวกๆ มัน ถาม ว่าจะตัดไปนี้ เขาจะทำเป็นชลประทาน เขาเอาอำนาจป่าเถื่อนอำนาจใหญ่หลวงมาเหยียบทั้งวัดเข้ามานี่
มาเราก็ถาม ได้รับอนุญาตจากใครที่เข้ามาถากถางในวัดนี้ ใครอนุญาตถากถาง เราเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด เรายังไม่เคยเห็นทางชลประทานที่มาติดต่อขออนุญาตว่าจะทำอันนี้ เรายังไม่เคยเห็น นี่ได้อำนาจมาจากไหน อ้าปาก ใครบอกให้มา บอกว่าเจ้านาย เจ้านายคือใคร อึกอักๆ นะไม่กล้าพูด ออกเดี๋ยวนี้เราว่างั้น ไม่ออกเราจะเอาตำรวจมาจับเดี๋ยวนี้ มันเป็นยังไงเจ้าหน้าที่เป็นโจรเป็นมารเราไม่เคยเห็น ได้เห็นเสียแล้วในวัดป่าบ้านตาดนี่ ให้รีบออก ไม่รีบออกจะถูกจับเราว่างี้ แตกฮือเลย
จากนั้นหัวหน้าผู้อำนวยการเลยมาหาเรา เป็นยังไงกันซัดกันเลยกับเรา เมียร้องไห้เลยกับเรา อย่ามาเล่นนะเล่นกับเรา ไล่เบี้ยเข้าไปผิดหมด เราไม่ได้ผิดนี่ ไล่เดี๋ยวนั้นออกไป เมียร้องไห้ลงไป ร้องไห้อะไร ร้องไห้นี้น้ำตาไม่เกิดประโยชน์ น้ำตาที่เป็นโทษเป็นภัย ก่อความเดือดร้อนความเสียหายให้แก่ประเทศชาติบ้านเมือง ยังจะมาร้องไห้อยู่เหรอ แต่เราไม่พูดคำนี้ บอกว่าน้ำตานี้ไม่เกิดประโยชน์ ไล่หนีเลยทั้งผัวทั้งเมีย เขาเป็นผู้อำนวยการชลประทาน ซัดกับเราหงายไปเลย เหตุผลกลไกไม่มีอะไรที่จะมาบุกรุกๆ ถืออำนาจป่าๆ เถื่อนๆ นี่หรือเจ้านายปกครองประเทศชาติไทยเรา เอาอำนาจป่าๆ เถื่อนๆ นี้หรือมาใช้บังคับประชาชนราษฎร มันดูไม่ได้นะ
ผู้รักษาความเป็นธรรมมีอยู่นี่ ก็ซัดกันละซี ฟาดกันเข้ากระทรวง ก็เป็นอันว่าพ่ายแพ้ทางนี้ เพราะทางนี้มีเหตุผล เอานี้เข้าต้ม(ตุ๋น) เขาเอาแผนที่ไปกาง แผนที่ต้มทั้งนั้น ที่เหล่านี้ๆ มีแต่ที่ว่างเปล่าๆ สมควรที่จะสร้างเขื่อนได้แล้วเขาว่า เขาไปฟ้องนายเขา นายก็หูเบาละซิก็จะมาสร้าง เขาเอาแปลนของเขามา ประมาณอย่างนั้นประมาณอย่างนี้ มีแต่ประมาณๆ รอบหมดเลย เราก็เอาแปลนของเราออกคราวนี้ เอา นี้ไม่ประมาณไปดูเอา บอกว่านี้เป็นของจริง สำหรับที่เหล่านี้ๆ ที่เขาว่าว่างเปล่าๆ มันไม่ว่างทั้งนั้นๆ ซัดเลยนะ เอา ๆ เอานี้กางเข้าไป ถ้าหากว่าเป็นความจริงตามชลประทานแล้วเราจะเปิดให้หมดวัดนี้ เขาว่าเขาจะมาสร้างวัดเรา ไม่ต้องสร้าง เราไปหาสร้างเอง ถ้าทำไม่ถูกแล้วอย่ามาทำนะ บ้านเมืองมีขื่อมีแป อย่างนั้นซัดกับเรา ถ้าเอาเอาจริงๆ นะไม่ได้เล่น
ทีนี้เวลาเอาของเราไปกางมายืน(ยัน)กัน ถ้าอันนี้ของเราผิดแล้วเราจะหลีกเอง ให้มาทำได้ตามสบายๆ ถ้าหากว่าแปลนนั้นเป็นแปลนต้มตุ๋นหลอกลวงประชาชนทั้งหลายแล้วอย่ามาทำนะ มากกว่านั้นจะปรับโทษกัน เอ้า เอาแปลนนี้ไปแข่งกัน เขาก็มาดูจริงๆ ซิที่นี่ เราท้าเลยให้มาดู รอบๆ วัด มาก็มันจะผ่านความจริงไปได้ยังไง มาเห็นยอมหมดทั้งนั้นยอมหมด แปลนของเรามีแต่แปลนร้อยเปอร์เซ็นต์ถูกต้องล้วนๆๆ แปลนนั้นแปลนปลอม นี่มันจะมากินบ้านกินเมืองกินตับกินปอดประชาชน มันเอาเรื่องหลอกๆ ลวงๆ ไปต้มเจ้าต้มนายของมัน นายก็สั่งมาละซิ ลูกน้องแหลกไปหมด
กรมสำคัญที่สุดคือกรมชลประทานพูดให้มันชัดเจน ก่อความเดือดร้อนให้ประชาชนทั่วประเทศ เว้นแต่พระราชดำริของในหลวง ถ้าเป็นพวกนี้ตั้งขึ้นมาแล้ว ตรงไหนที่มีที่ลุ่มที่ดอนกางเลย มิหนำถางเข้ามาอย่างที่เขามาถางวัดป่าบ้านตาด ไล่ประชาชนออกหมด พวกไร่พวกนานี้ไม่มีนากินเขาจะไปกินไหน แตกบ้านแตกเมือง พวกนี้ไปกางท้องเข้าใส่นั้นแล้ว เป็นแต่อย่างนั้นนะ เราทราบตลอดมาแต่เราไม่พูดเฉยๆ วันนี้เป็นโอกาสที่เราจะต้องพูดเราพูดได้ เพราะเอาความจริงมาพูด มันไม่เกิดประโยชน์อะไร
ไปหาล่านะพวกนี้ ตรงไหนที่เป็นลุ่มๆ แล้วก็จะเอาอันนั้นละไปฟ้องไปกราบเรียนนาย เอ้อ ที่นั่นว่างๆ นายก็นายหูเบา หรือจะสะแตกไปด้วยกันเราก็ไม่ทราบนะ พอมาก็ทำชลประทาน เขื่อนกุดลิงง้อเรานี้ กุดลิงง้อลิงแง้มันเกิดประโยชน์อะไร ใครก็เห็น ไปที่ไหนๆ มีแต่เขื่อน เอะอะกินแล้วๆ โอ๊ย ทุเรศนะเขื่อนชลประทานนี้ เว้นแต่ในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นอกนั้นกินทั้งนั้นละ หาล่าซิ หาล่าที่ลุ่มที่ไหนสร้างเขื่อน เอานี้ไปร้องเรียนนาย นายก็นายหูเบา พอมาก็กั้นที่แล้วไปไล่อย่างว่านี่ละ เข้ามาในวัดนี้ก็มาถากถางวัดผ่านเข้ามานี้ มาเจอกับเราเข้าซิ จะว่าเจอเสือเจอหมีก็ไม่ทราบแหละ เอาเดี๋ยวนั้นเลย ถ้าไม่หนีจะตำรวจมาจับนะเราบอก นี่มีหลักมีเกณฑ์มีขื่อมีแปนะ วัดนี้มีเจ้าอาวาสตามกฎหมายบ้านเมือง ที่ผ่านเข้ามาถางป้างๆ นี้ได้อนุญาตจากใคร ซัดกันเลยซิ ไล่เดี๋ยวนั้นแตกฮือเลย เห็นไหมล่ะ
พอตอนบ่ายๆ ผัวกับเมีย ผู้อำนวยการชลประทานเข้ามา เอา มีอะไรว่ากัน ซัดกันเมียร้องไห้เลย นั่นเห็นไหมล่ะ อย่ามาทำป่าๆ เถื่อนๆ เป็นผู้ใหญ่ต้องดูความเป็นผู้ใหญ่เจ้าของอย่ามาเป็นอย่างนี้ เหยียบย่ำทำลายประชาชนราษฎรไม่ถูก เอาอย่างนี้นะ ไปเลย นี่เวลาเปิดเสียวันนี้เปิด นี่ละธรรมเปิด ไม่ได้กล้าได้กลัวใครละธรรม ถ้าเป็นธรรมแล้วออกพุ่งๆ ถ้าไม่เป็นธรรมหมอบ ไม่เอาไม่เข้า
เราก็เคยพูดให้พี่น้องทั้งหลายฟังแล้วเวลาเราเป็นบ้า นาฬิกาได้ ๓ โมง ๒๐ เราเขียนหนังสือหรืออะไร ตอนนั้นยังหนุ่มน้อยการทำข้อวัตรปฏิบัติใครทันเราวะ ข้อวัตรปฏิบัติคล่องแคล่วตลอดเวลา ดูนาฬิกาผิดไป โธ่ ตาย ฟาดลงไปก็ปัดกวาดลานบริเวณของเรา ออกมาธรรมดาพระเณรจะเต็มหมดบริเวณศาลา คือท่านปัดกวาดจากกุฏิท่านออกมาจากนั้น ออกมาก็มารวมกันที่ศาลา พอเราออกมาก็มาเต็มที่ศาลา เพราะเราก็ออกจากกุฏิของเรา กวาดเรียบร้อยแล้วออกมา
มาวันนั้นไม่เห็นพระสักองค์ ก็มีเณรองค์หนึ่งคอยรับเคราะห์ รับเคราะห์จากบ้า เข้าใจไหม เณร ขึ้นเลยแหละ พระวัดนี้มันตายกันหมดแล้วเหรอ ถึงเวลาแล้วทำไมไม่เห็นมาปัดกวาดกัน เป็นเพราะเหตุไร นี่ยังไม่แล้วนะกลางคืนจะประชุมอีกนะ ประชุมไล่พระหนีจากวัดเลย เพราะกฎเกณฑ์ข้อบังคับนี้ตายตัวแล้วใครเคลื่อนไม่ได้ แม้แต่เราก็ปฏิบัติตามนั้น มา นาฬิกาเท่าไรเณร นาฬิกาพึ่งได้ ๓ โมง ๒๐ นาที คือธรรมดา ๔ โมงปัดกวาด เราดูนาฬิกาผิดเราเป็นบ้ามาขู่พระ พระตายกันทั้งวัดนี่แล้วใครจะมากุสลากัน หือๆ ไล่เบี้ย
เณรมันรำคาญมันเอาไม้กวาดไปกวาด เราไม่ลืมนะ เณรก็บอกว่า นาฬิกาพึ่งได้บ่าย ๓ โมง ๒๐ นาที หือ ขึ้นเลยนะ คือ ๔ โมงปัดกวาด เราเป็นบ้าคนเดียวฟาดออกมา จะขนาบพระทั้งวัด กลางคืนจะประชุมนี้ไล่พระหนีออกจากวัด กฎเกณฑ์ข้อบังคับมีมาดั้งเดิมตั้งแต่สร้างวัด มาทำให้เคลื่อนคลาดได้ยังไง ถ้าเคลื่อนคลาดนี้แล้วเคลื่อนคลาดได้หมดทั่วประเทศเขตแดนละ ชาวพุทธของเราถ้าไม่มีกฎเกณฑ์อย่างนี้ ความหมายว่างั้น ออกมา นาฬิกาเท่าไรถาม มันพึ่งได้บ่าย ๓ โมง ๒๐ นาที หือ ขึ้นเลยนะ กำลังไฟไหม้เลย นาฬิกาพึ่งได้บ่าย ๓ โมง ๒๐ นาที
พอว่างั้นหยุดๆ ขึ้นทันทีเลยนะ ป้างๆ หยุดๆ มันจะมาเป็นบ้ากันทั้งวัด เราจะไปแก้บ้าเราคนเดียว อย่ามาปัดกวาดมันจะเป็นบ้ากันทั้งวัด เราจะไปแก้บ้าเรา ก็เดินกึ๊กๆ กลับ เณรคงอดหัวเราะไม่ได้ นั่นเห็นไหมธรรม ผิดตรงไหนต้องบอกว่าผิดซีเรา เราเข้าใจว่าถูก ขู่พระเณรป้างๆๆ พอเราผิดเราก็บอกว่าไปแก้บ้าเรา พระเณรอย่ามาปัดกวาดมันจะเป็นบ้ากันทั้งวัด แน่ะบอก ผิดถูกประการใดฟังซิ นี่ละธรรมเป็นอย่างนี้ ตรงไปตรงมาเลย ไม่มีอะไรเหนือธรรม เหนือไม่ได้สำหรับเรา เป็นไฟมา พอธรรมมาปั๊บนี่น้ำดับไฟปุ๊บเลย กำเริบขึ้นไปไม่ได้
เป็นยังไงวันนี้ท่านทั้งหลายได้ฟังไหม ที่ผู้ใหญ่ไม่เป็นธรรมก่อความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนมากมายก่ายกองเป็นอย่างนี้ ใช้อำนาจป่าเถื่อน อำนาจของกิเลสกิเลสกลืนได้ตลอด ธรรมไม่กลืน วันนี้เทศน์หนักบ้างให้ได้ฟังทั่วประเทศไทย เราถ้าลงได้ออกไม่มีกล้ากับอะไรกลัวกับอะไร ธรรมเหนือหมด เอาธรรมมาพูดผิดไปไหน
ทองคำเราฟังซิพี่น้องทั้งหลายได้ทองคำเข้าคลังหลวงแล้วเวลานี้ตั้ง ๑๑,๐๓๗ กิโลครึ่ง ถ้ารวมทั้งหมดก็เป็น ๑๑,๕๗๓ กิโล ๒๖ บาท ๗๒ สตางค์ นี่รวมแล้วที่เข้าแล้ว ที่ยังไม่ได้เข้าเวลานี้กำลังรวม รวมก็ต้องให้เป็นคนสำคัญมารับทองคำจากเรา มาสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้กับเรา เฉพาะอย่างยิ่งก็คือชายปั๋มเป็นหัวใจเดียวกัน รักษาความบริสุทธิ์เพื่อชาติบ้านเมืองของเรา คนนั้นละมารับ พอได้ทองคำพอสมควรคนนั้นมา ถ้าน้ำหนักทองคำมีมากรักษาความปลอดภัยไม่ไหว ต้องจัดรถทางนี้ส่งไป ต.ช.ด. ติดตามไปเลย จนกระทั่งถึงที่ถึงฐานเรียบร้อยแล้วจึงจะให้กลับมา นู่นละเรารักษาสมบัติของชาติเห็นไหมล่ะ เราเอาจริงเอาจังขนาดนั้น รักษาความปลอดภัยหมด
ทองคำบางทีตั้ง ๒๐ กว่ากิโล เกือบ ๓๐ กิโลก็มีจะเอาไป แล้วคนเดียวจะเอาทองคำนั้นไปมันสมควรเหรอ เราต้องจัดรถให้ จัด ต.ช.ด. ให้ เพราะป้องกันทุกสิ่งทุกอย่าง พวก ต.ช.ด. เขาก็เป็นอะไร มันมีอะไรอยู่ในมือมันล่ะ เข้าใจไหม มาซิใครอยากตายให้มา นั่น เราจัดให้เรียบร้อยหมดนะ พอไปส่งถึงที่เรียบแล้วปลอดภัยแล้วทางนั้นอนุญาตค่อยมา แน่ะสั่งทางนี้นะ ถ้าทางโน้นไม่อนุญาตมาไม่ได้พวกนี้ นั่นบังคับไว้ตลอด ทางนู้นเรียบร้อยแล้ว เอา ไปได้ที่นี่ ทางนู้นปลอดภัยเข้าธนาคาร คือธนาคารเราเช่าที่ไว้ ที่เก็บทองคำของเราทางอุดรก็มีทางกรุงเทพก็มี เอาเข้าธนาคารเรียบร้อยแล้ว ไปได้แล้วที่นี่มา นั่นเราทำขนาดนั้นนะ ละเอียดลออมาก
ทองคำของเราก็ได้ ๑๑,๕๗๓ กิโล ๓๖ บาท ๗๒ สตางค์แล้วเวลานี้ ของเล่นหรือทองคำเป็นหมื่น ๑๑,๕๗๓ กิโล นี่ละที่เราช่วยชาติเราคราวนี้ได้เป็นชิ้นเป็นอัน หนาแน่นมั่นคงขึ้นโดยลำดับ เราอุตส่าห์พยายามที่สุดแล้วสำหรับพี่น้องชาวไทยเราลูกหลานไทยเรา สำหรับเราเราตายแล้วเราไม่เอาอะไร เดี๋ยวนี้เราก็ไม่เอาอะไรเราบอกแล้วนะไม่เอา จตุปัจจัยพี่น้องทั้งหลายบริจาคนี้ออกหมด เราไม่เอา บาทหนึ่งเราก็ไม่เอาแบตลอด นั่นละถ้าว่าช่วยชาติเราช่วยอย่างนั้นนะ ว่าไม่เอาไม่เอาจริงๆ ไม่เหมือนใคร ไม่เอา ได้มาสักเท่าไรที่มานี่ออกหมด ปลูกนั้นสร้างนี้สร้างตลอดเวลา ออกจากนี้ละไป นี่ละเราช่วยชาติช่วยเต็มกำลังความสามารถของเราที่มีโอกาสอันดีงามเหมาะสม ว่าจะตายมันไม่ตาย ทำเมรุไว้ว่าจะตายไม่ตาย ได้มาช่วยชาติบ้านเมือง
นี่เราพูดถึงว่าทองคำได้ ๑ หมื่นกว่ากิโลนี้ กับดอลลาร์ได้ ๑๐ ล้านกว่านี้ เราพูดเฉพาะทองคำอันนี้ ส่วนเงินบาทกับดอลลาร์ที่แยกออกมาจากที่เราจะเข้าคลังหลวง เงินไทยมันไม่พอ เพราะเราหยุดเทศนาว่าการรายได้ก็ไม่มี แต่คนที่เข้ามาขอนี้ตลอดเวลามากขึ้นทุกวัน จึงต้องไปลากเอาดอลลาร์มาช่วยเงินไทยเพื่อช่วยโลกทั่วๆ ไป อย่างนี้ละเราช่วยจริงๆ ให้ท่านทั้งหลายได้ทราบเสียวันนี้ว่าหลวงตาบัวช่วยชาติช่วยยังไงบ้าง ไม่ว่าทางโลกทางธรรม ทางโลกถ้าขัดข้องตรงไหนก็ซัดกันนะกับเราเราไม่ได้กลัวใคร เอะอะจะมารวมบัญชีอะไร มันจะเอาส่วนใหญ่อยู่ในนั่นน่ะกินตับกินปอด มันบอกรวมๆ ไว้รวมบัญชี มันจะเอาตัวใหญ่ นั่น เรารู้ทันทีนี่ ปัดกันทันทีเลย ก็ล้มไปแล้ว
ส่วนทีหลังเขาจะเอาไปรวมหมดตับหมดปอดประชาชนเราก็ไม่ทราบด้วย เพราะเราหยุดจากการช่วยชาติเกี่ยวกับการเงิน ตอนนั้นกำลังเราขนเงินเข้าคลังหลวง แล้วมันจะมาลากเอาต่อหน้าต่อตามันก็ซัดกันละซิใช่ไหม ทีนี้เราออกมาแล้วเขาจะทำอะไรเป็นเรื่องของเขา หลักธรรมวินัยของเรามีอย่างนี้ ตอนที่เราช่วยชาติรับผิดชอบอยู่นั้น เงินทองข้าวของเรารับผิดชอบเข้าสู่นั้นใครมาแยกไปไม่ได้เราเป็นเจ้าของใช่ไหมล่ะ ก็ฟัดกันเลย เวลาเราออกมานี้เขาจะทำอะไรก็แล้วแต่เขา หลักธรรมวินัยเป็นวรรคเป็นตอนนี่นะ ไม่ใช่จะทำอย่างนั้นได้เรื่อยไป ถ้าควรทำได้ทำเลยเรา
เพราะการดำเนินมานี้เราไม่เคยเห็นตรงไหนว่า เราทำนี้ขัดข้องหรือทำลายต่อพระธรรมวินัยทำให้ชาติบ้านเมืองล่มจมหรือสลายไปเราไม่มี เราช่วยเต็มเม็ดเต็มหน่วยทุกอย่าง เพราะฉะนั้นเราถึงพูดได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย เราช่วยจริงๆ ช่วยชาติบ้านเมืองไม่ใช่ช่วยธรรมดานะ คิดดูซิว่าเงินเรามีสักบาทไหมในกำมือของเรา ไม่มีนะ ออกหมดเลยมีเท่าไร เงินอยู่ในบัญชีก็จ่ายตลอด อยู่ในบัญชีก็มีเงิน แต่บัญชีก็ตามหลังกันมากับเงินสดนี้ อะไรขาดทางไหนไปถอนออกมาๆ ช่วยไปเรื่อยๆ อย่างนี้ละ ที่จะเอาเงินในบัญชีไว้เป็นสมบัติของวัดป่าบ้านตาดไม่มีถ้าหลวงตาบัวไม่ตาย เราสั่งไว้เรียบร้อยแล้วไม่ให้มี ให้ช่วยชาติบ้านเมืองให้เต็มเม็ดเต็มหน่วยแล้วไปด้วยความผาสุกเย็นใจ
นี่เราก็บอกท่านทั้งหลายให้ทราบชัดเสีย ชาตินี้ก็เป็นชาติสุดท้ายของเรา บอกชัดๆ สนฺทิฏฺฐิโก ประกาศป้างอยู่ในนี้ตั้งแต่วันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๔๙๓ บนหลังเขาวัดดอยธรรมเจดีย์ เวลา ๕ ทุ่มเป๋ง เป็นวันที่เวทีธรรมกับเวทีกิเลสฟัดกันขาดสะบั้นลงไป ฟ้าดินถล่ม ตั้งแต่บัดนั้นมาเราไม่มีกิเลสตัวใดเข้ามาแฝงหัวใจเลย เราพูดกับพี่น้องทั้งหลาย กิริยาอาการนี้เป็นสนามแห่งโลกธรรมได้ เขาอยากตำหนิอะไรเขาก็ตำหนิ แต่ใจของเราหมด ที่จะเอาอะไรมาตำหนิไม่มีแล้ว พ้นสมมุติไปโดยประการทั้งปวงเราก็บอกว่าพ้น แต่กิริยาท่าทางนี้มันเป็นสมมุติด้วยกัน มันก็อยู่แดนหรือสนามแห่งโลกธรรม เขาจะตำหนิอะไรตำหนิมาเราไม่ว่าเราเปิดรับทั้งนั้น ทั้งดีทั้งชั่วเราไม่ว่า แต่ส่วนภายในใจของเราที่บริสุทธิ์สุดส่วนแล้วนั้นใครจะมาตำหนิอะไรก็แล้ว ไม่มีความหมายทั้งนั้นละ แต่เราเองยังหาที่ตำหนิไม่ได้วะ
นี่เราก็ช่วยๆ เต็มกำลังความสามารถ เวลาไปทำความพากเพียรในป่าในเขาใครรู้เราเมื่อไร จนจะสลบไสลๆ มากี่ครั้งกี่หน หากไม่สลบ เฉียดๆ มาตลอด เพราะเอาจริงเอาจัง การประกอบความเพียรพ่อแม่ครูจารย์ได้รั้งเอาไว้นั่นละ นิสัยอันนี้เป็นอย่างนั้นจริงๆ เวลาไหนที่ทำความเพียรหนักไปๆ ท่านก็รั้งไว้ๆ ให้อยู่ในความพอดีของจอมปราชญ์ เรามันเป็นจอมโง่ ไม่รู้จักเรื่องราวอะไร นึกว่าจะเอาก็เอาเลยๆ ท่านรั้งเอาไว้เพื่อความพอดีๆ ยอมรับท่านนะ ถ้าท่านเตือนตรงไหนหยุดทันทีๆ ไม่ฝืนไม่ดื้อ ทำมาอย่างนั้นละการประกอบความพากเพียร
ไปในป่าเขากลับออกมานี้มีแต่หนังห่อกระดูกๆ ท่านดูตลอดเวลา เราไปทำความเพียรไปคนเดียว ท่านให้ไปคนเดียวด้วยอนุโลม เพราะเห็นแล้วนิสัยอันนี้จริงจังมากทุกอย่าง อยู่กับหมู่กับเพื่อนก็เหมือนกัน พระเณรในวัดชุ่มเย็นไปหมดสงบเงียบไปหมดเราอยู่นั้น พ่อแม่ครูจารย์ท่านเป็นร่มโพธิ์ร่มไทร เราอยู่ข้างนอกนี้คอยดูแลพระเณร องค์ไหนไม่ดีไม่งามคอยแนะนำสั่งสอนดุด่าว่ากล่าว ขนาบ ถ้าสุดวิสัยแล้วขึ้นไปกราบเรียนพ่อแม่ครูจารย์ ว่าพระองค์นั้นเป็นอย่างนั้นๆ ท่านไล่หนีทันทีเลยนะ ท่านไม่ต้องไปถามนะพ่อแม่ครูจารย์ท่านเชื่อเรา
เพราะอะไรๆ เราเป็นผู้แบกหมู่เพื่อน ผิดถูกชั่วดีเราเข้าไปรับรอง พระเณรผิดท้ายวัดหัววัดเราไปรับรองรับรองมา มาไว้ให้เราเป็นส่วนผิดๆ อยู่ในนั้น ท่านก็ทำอะไรไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยใช่ไหม เพราะเราไปรับรองความผิดไว้กับพระเณรเหล่านั้น โอ๊ะ อันนี้มันก็ไปจากกระผมนี้แหละ กระผมพาพระเณรทำอย่างนั้นมันเลยผิดพลาดไปท่านเงียบ เงียบเลยๆ ทีนี้นานต่อนานมาท่านก็ขึ้น ใครพระเณรผิดท้ายวัดหัววัดก็มหา อะไรก็มหา หูหนวกตาบอดมาผิดในวัดในวานอกวัดนอกวาก็มหาๆ มหาองค์นี้มันโง่ขนาดนั้นเชียวเหรอขึ้นละซิ ท่านจับได้หมดแล้ว คือเรารับรองหมู่เพื่อน
ถ้ารายไหนที่เราสุดวิสัยแล้วเรากราบเรียนท่านท่านไล่ทันทีนะ ท่านไม่ถามละ องค์นี้ไปว่างั้นเลย ไม่ได้บอกว่าใครเป็นผู้ไปฟ้องร้องท่าน ท่านไม่ถามเลย บอกว่าองค์นี้ให้ไป ไปเลย เป็นอย่างนั้นละพ่อแม่ครูจารย์ เพราะท่านเชื่อเรา เหตุใดจึงเชื่อเรา เพราะพระเณรในวัดเราเป็นผู้อุ้ม เวลาจะเป็นจะตายมาเราไปตัดคอรองก็ปล่อยออกมาได้ๆ อยู่ตลอด มันสุดวิสัยแล้วเราเอาไม่ไหวแล้วเราก็กราบเรียนท่าน ท่านไล่ทันทีเลย ท่านเชื่อเราอย่างนั้นละพ่อแม่ครูจารย์เชื่อเรา แต่ที่รวบรวมนี้ในวัดนี้แล้วใครผิดท้ายวัดหัววัดก็อย่างท่านว่า เราไปตัดคอรองไว้นั้นเสีย โอ๊ย อันนี้มันก็เป็นไปเพราะกระผมๆ พาทำ พระท่านทำอย่างนั้นแล้วมันผิดไปพลาดไป ท่านนิ่งเลยนะ ถ้าเป็นเรื่องของเราเข้าไปนิ่งเลยๆ
ท่านก็จับเอาได้ละซิ ใครผิดท้ายวัดหัววัดก็มหา.มหาองค์นี้มันโง่ขนาดนั้นเชียวหรือขึ้นเลย บทเวลาท่านจะเอาเอาหนักนะ เราก็นิ่งพระเณรทั้งหลายก็นิ่ง เพราะรู้ว่าเราเอาพระเณร เวลาอะไรมาเราก็เข้าไปตัดคอรองๆ ทั้งนั้น นี่เรื่องพ่อแม่ครูจารย์ เรียกว่าท่านเมตตามากสำหรับเรานะ พอพูดอะไรยังไม่ลงกันจุดไหน ท่านมหาว่าไง ท่านถามมานะ พอบอกว่าท่านว่างั้นท่านนิ่งเลยนะ ไม่เคยคัดค้านเรา เป็นอย่างนั้น
บางทีมีเรื่องอะไรๆ ในวัด ขัดกันอยู่ที่ตรงไหนๆ ท่านรวบรวมข้อมูลมาแล้วมาฟัง ท่านมหาว่าไง ถาม ท่านว่าอย่างนั้นๆ นิ่งเลย เรื่องราวเลยเรียบไปเลยนะ เป็นอย่างนั้นละท่านไว้ใจ เพราะท่านเห็นเราเอาหมู่เอาเพื่อน ไม่ใช่เป็นผู้จะมาทำลายหมู่เพื่อน ประสานตลอดเวลาเรา ถ้ามันสุดวิสัยเอาไว้ไม่อยู่ก็กราบเรียนท่านท่านไล่ทันทีนะ ท่านไม่ต้องไปถามละว่าใครมาฟ้องใครมาบอกไม่มี ไล่ทันทีเลย เป็นยังไงเข้าใจหรือยังวันนี้
รับชมและรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th
และสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz
และเครือข่ายทั่วประเทศ
|