มีวาสนาไปทางเรื่องประสาน
วันที่ 20 สิงหาคม 2550 เวลา 7:50 น. ความยาว 28.2 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)   วิดีโอแบบ(Win High Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๐ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๐

มีวาสนาไปทางเรื่องประสาน

         วันนั้นเราไปชำระอธิกรณ์ ประชุมถึงสองวันลงกันไม่ได้เลย ท่านเจ้าคุณเรานี่เขียนจดหมายน้อยเท่าฝ่ามือให้เณรถือมา ตอนนั้นทางรถไม่มี มีเป็นทางล้อทางเกวียนเสีย หน้าแล้งก็มีแต่ทรายเต็ม ครั้นหน้าฝนก็มีแต่ตมแต่โคลน ตอนนั้นไม่มีรถ เณรถือหนังสือน้อยมา เพราะเป็นกันเองเรากับท่านเจ้าคุณ ตั้งแต่เป็นมหาเปรียญด้วยกันมา จนท่านเป็นเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะภาคอะไรๆ เรื่อยมา เราคงเส้นคงวาหนาแน่นเป็นหลวงตาบัวตามเดิม

ไปที่ไหนมักจะเป็นนะเรา มันจะมีนิสัยวาสนาอย่างนั้นก็ไม่ทราบ คือส่วนยุแหย่ไม่มีเลย แต่ส่วนประสานนี้มีเต็มหัวใจเต็มกิริยาอาการทุกอย่างตลอดมา คงเป็นอานิสงส์อันนี้ละมังเวลาประชุมที่วัดโพธิฟาดกันเสียสองวัน เจ้าคณะภาคเจ้าคณะไหนมาประชุมฟาดเสียสองวันลงกันไม่ได้ สุดท้ายเจ้าคุณเราทุกวันนี้ให้เขียนหนังสือน้อยเท่านี้ละให้เณรถือมา เณรเดินมานะ ไม่มีรถ รถไปไม่ได้มาไม่ได้

         ในจดหมายนั่นว่า นิมนต์ท่านอาจารย์ไปดับไฟวัดโพธิให้ด้วย เวลานี้ไฟกำลังโหมลุกวัดโพธิ เท่านั้นละจดหมายท่านมาหาเรา คือประชุมสองวันลงกันไม่ได้เลย เจ้าคณะภาคก็มาใครก็มา มันก็เหมือนว่าจะมีวาสนาไปทางเรื่องประสานนะ มักมีเสมอ เรามักจะไประงับได้ทุกงาน ไม่มีงานไหนที่เราได้เข้าแล้ว ได้ผ่านไปเฉยๆ ไม่สำเร็จไม่เคยปรากฏ เข้าในงานไหนปั๊บเรียบร้อยๆ ไป เรามักจะมีนิสัยวาสนาทางนี้ เพราะนิสัยของเราชอบประสานนะ ที่ยุแหย่ให้แตกไม่มีในเรา

อันนี้ก็เหมือนกันประชุมตั้งสองวัน เจ้าคณะภาคไหนๆ มาไม่ลงกันได้เลย ท่านก็เลยเขียนจดหมาย..ท่านเจ้าคุณ เขียนจดหมายน้อยมา นิมนต์ท่านอาจารย์ไปดับไฟวัดโพธิให้ด้วย กำลังไฟโหมไหม้วัดโพธิเท่านั้นละ เราก็ไม่สบายอยู่ด้วยนะ มีไข้เล็กน้อย เป็นไข้ แต่เราเห็นประโยชน์ส่วนใหญ่ที่ว่าประชุมตั้งสองวันไม่เสร็จ นี้อย่างไรกัน สิ่งที่ควรจะลงกันได้ทำไมไม่ลง เพราะเหตุผลกลไกอะไร นี่ละเป็นน้ำหนักอันหนึ่ง เราจึงต้องไป สะพายบาตรไปเลยคนเดียวนะ แต่ก่อนไม่มีรถ เดินถึงวัดโพธิเลย จากนี้ถึงวัดโพธิเลย

ทางวัดรู้สึกว่าพร้อมกันหมดนะ เจ้าอาวาสพูดกับพระผู้ใหญ่ๆ ในนั้น วันนี้ท่านอาจารย์มหาบัวจะมาชำระเรื่องนี้นะ เราเองไปนิมนต์ท่านมา ให้ฟังเสียงท่านนะทุกคน เท่านั้นละท่านสั่งเอาไว้ ไปก็เอาเลย ประชุมปึ๊บขึ้นมาเลย เป็นอย่างไร เหตุผลกลไกอย่างไรไล่มาๆ เรื่อยๆ เข้าไป เราเอาหลักธรรมวินัยกางตลอด ไม่ได้นอกเหนือไปจากหลักธรรมวินัย เอากัน ซักกันไปซักกันมา เอาไปเอามามีแต่เราคนเดียววันนั้น เราเป็นคนซักคนนั้น เหตุที่ไม่ลงรอยเพราะใครเป็นต้นเหตุไล่เข้าไปหาผู้นั้น ซักกันๆ ๔๕ นาที

ผู้ว่าราชการจังหวัดไปด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดไปกับฝ่ายนั้นละฝ่ายทำลาย ไม่ลง วันนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดก็มาๆ ดูว่าเป็นฝ่ายนั้น เป็นลูกศิษย์ของฝ่ายนั้น ฝ่ายไม่ลงใคร ไปก็เอาเลยละที่นี่ ทีนี้ใครก็คอยฟังเสียงเรา เพราะเรื่องอะไรมันก็ไม่เสร็จ ประชุมกัน ทีนี้ก็ฟังเสียงเรา เราก็ถามต้นเหตุเป็นอย่างไรไล่มาๆๆ เอาธรรมวินัยเข้ากางๆ ซัดกันเลย มัดกันเข้าเลย เอา พูดง่ายๆ อย่างนี้ละ ซัดกันเข้า มัดเข้าๆ สุดท้ายแพ้ พอพูดอะไร เอา..ถ้าสงฆ์เห็นด้วยตรงไหนให้ยกมือขึ้น พรึบๆๆ เอา เจ้าของว่าอย่างไร เอ้าค้านมา เจ้าของเงียบ เป็นอันว่ายอมรับโดยดุษณีภาพ นิ่งๆ เอาซักกันไปๆ

พอซักกันไปถึงจุดแล้วก็ พอเราลงจุดปึ๊บทางนี้ เอา.นี้ผิดหรือถูก ถ้าถูกให้ยกมือขึ้น พรึบๆ เลย เอากัน ๔๕ นาทีเรียบร้อย ซักกันอย่างหนักนะ นั่นละที่เจ้าคุณอุดรนิสัยท่านเรียบร้อย ท่านดุใครไม่เป็น ไอ้เรามันว่าหมาว่าแมวอยู่ในนี้หมด ทั้งกัดทั้งข่วน พอขึ้นเวทีก็ซัดกันเลย ผู้ว่าก็นั่งอยู่นั่น เราเป็นคนซัก ไปๆ มาๆ สุดท้ายลงเลย เราสรุปเลยนะ เป็น ๔๕ นาทีนะนั่นซัดกัน มีแต่เรากับเจ้าของคดีที่ไม่ลง คือขวางกันอยู่นั่น เพราะเหตุใดเอาไล่มา ซัดกันไปซัดกันมา สุดท้ายลงทั้งฝ่ายนี้ฝ่ายนั้น เอา ถ้าไม่ลงตรงไหนให้ค้านมา เราไม่พูดถึงเรื่องราวที่ไม่ลงเพราะอะไรละ เราเอาธรรมวินัยเข้ากางกับเรื่องราวนั่นใส่กันๆ เข้าไปเลย บรรดาพระสงฆ์ทั้งหลายก็ยกมือพร้อมๆ กัน ๔๕ นาทีลงเรียบร้อยเลย

ประชุมกันอยู่สองวันไม่ลง เราไป ๔๕ นาที เราคนเดียวเราพูดกับคู่กรณีกัน ว่าอย่างนั้นเถอะ กรณีที่ให้แตกกระจายๆ ไม่ให้ลงได้นะนั่น มัดกันไป ซัดกันไปซัดกันมา มัดกันเข้า สุดท้ายก็เลยลงเรียบร้อย ๔๕ นาที เราไม่ลืมนะ ทีนี้พอเสร็จแล้วเราก็นอนแผ่สองสลึง พวกนั้นก็เลิกกันไป พระก็เข้าไปนวดเส้นให้ เจ้าคุณอุดรเป็นนิสัยดุใครไม่เป็น นั่งอยู่ข้างๆ นิสัยของท่านนั่นแหละ ใครถ้าอยากเห็นฤทธิ์เห็นเดชอาจารย์ของเรา พูดขึ้นอยู่คนเดียวข้างๆ หมู่เพื่อนนี่ละ ถ้าใครอยากเห็นฤทธิ์เห็นเดชอาจารย์ของเราให้มาดูเวลาขึ้นเวที เจ้าคุณอุดรนี่ละ

ถ้ใครอยากเห็นฤทธิ์เห็นเดชอาจารย์ของเราให้มาดูเวลาขึ้นเวที พอว่าอย่างนั้นเราก็ว่า ก็เรื่องราวมันเสร็จสรรพเรียบร้อยไปแล้วมาอุ่นกินหาอะไร มันเน่าเฟะไปแล้ว ท้องเสียท้องบูดไปหมดนี่น่ะ มาอุ่นกินหาอะไร เรื่องแล้วไปแล้ว เราขู่ ดูท่านจะออกกิริยาไหน กิริยาเก่า โอ๋ มันก็น่าอุ่นน่ากิน กินทั้งวันก็กินได้สบายมีรสชาติตลอด ท่านพูดสบาย เราแหย่เราขู่ท่าน นึกว่าท่านจะมีกิริยาอะไร เหมือนเดิม ดุใครไม่เป็น เราก็อดหัวเราะไม่ได้ โอ้ นิสัยนี้ก็เป็นอย่างนี้ ดุคนไม่เป็น ไอ้เราเป็นฝ่ายดุ

นี่ละที่ว่าอยากเห็นฤทธิ์เห็นเดชอาจารย์ของเราให้ท่านมาดูเวลาขึ้นเวที คือเวลาขึ้นเอาจริงๆ นะเรา ไม่มีสูงมีต่ำ เอาธรรมกางเข้าเลย เอาธรรมกางเข้าไป ไล่เข้าหาธรรมๆ หาวินัย ที่อื่นขัดกับธรรมวินัยซัดกันตรงนั้นๆ นั่นละ ๔๕ นาทีเรียบร้อย ยอมรับกันหมดทั้งวัดเลย คู่กรณีก็ยอมรับ ผู้ว่ามาด้วยกันก็เงียบไม่มีว่าอะไรเลย คือเวลาขึ้นมันไม่มีสูงมีต่ำนะ เอาธรรมวินัยออกกางแล้วซัดไปตามนั้นเลย ทีนี้กิริยาอาการทุกอย่างมันก็ขึ้น นั่นละอย่างที่ว่าอยากเห็นฤทธิ์เห็นเดชอาจารย์ของเราให้มาดูเวลาขึ้นเวที คือเวลาขึ้นเวทีมันซัดจริงๆ เข้าใจไหมล่ะ เอาเปรี้ยงๆ เลย จึงได้เห็นเจ้าคุณอุดรนิสัยท่านดุใครไม่เป็น

ท่านว่าถ้าอยากเห็นฤทธิ์เห็นเดชอาจารย์ของเราให้มาดูเวลาขึ้นเวที ว่าอย่างนั้นนะ เราก็ซัดเลย ก็เรื่องมันเน่าเฟะไปแล้วมาอุ่นกินหาอะไร มันเน่าเฟะไปหมด มันบูดมันเสียแล้ว ท่านจะว่าอย่างไรเราทดลองดู ตามเดิม โอ๊ย อุ่นทั้งวันกินทั้งวันมันก็พอกิน เพราะมันมีรสมีชาติอยู่ ท่านก็ว่าของท่านสบาย ขบขันนะ เจ้าคุณยังอยู่นี้ละทุกวันนี้ ดุใครไม่เป็น ไอ้เราเป็นฝ่ายดุ ดุท่านนึกว่าท่านจะขึ้นแบบไหนไม่ขึ้นนะ ขึ้นแบบเดิม อุ่นกินทั้งวันมันก็น่ากินอยู่ตลอด ไม่บูดไม่เสีย ขบขันดีนะ ท่านพูดแบบสบายของท่าน

พูดเรื่องอธิกรณ์เรื่องอะไรนี้มักจะมีเสมอ มันจะเป็นนิสัยวาสนาอะไรไม่รู้นะ  เราเข้าจุดไหนก็เป็นอันว่าเรียบลงไปทุกแห่ง ไม่ใช่ครั้งนี้ มีทุกแห่งใหญ่ๆ ทางภาคกลางก็เหมือนกัน มีใหญ่ๆ ทั้งนั้น แต่ก็เดชะทุกครั้งไม่เคยพลาดนะ เรียบร้อยลงด้วยดี เป็นอย่างนั้นละ มันคงจะมีนิสัยวาสนาอันหนึ่งประสานๆ ให้เรียบร้อยเป็นที่ลงใจกัน ยอมรับกัน ก็เรียบร้อยไปด้วยดีทุกแห่งที่เราเข้าประชุมทีไร เป็นอย่างนั้นละ

วันนี้ก็ไม่มีอะไรล่ะ ๒ โมงครึ่งเทศน์วัดโพธินะ วัดโพธิเป็นวัดอุปัชฌาย์เรานะ ท่านเจ้าคุณธรรมเจดีย์ท่านเป็นอุปัชฌาย์เรา แต่ก็อุปัชฌาย์ลงสัทธิงวิหาริกนะ ลงลูกศิษย์คือเรา ท่านเป็นอุปัชฌาย์เรา แต่มักจะมาลงลูกศิษย์นะ บางทีลูกศิษย์เถียงอุปัชฌาย์ซัดอุปัชฌาย์ยอมๆ บางทีอยู่ด้วยกันดีๆ เหตุที่จะไปเอาท่านหนักๆ ก็คือสองต่อสอง วันนั้นท่านเทศน์บนธรรมาสน์ ท่านว่านิพพานเป็นอนัตตา สะดุดกึ๊กเลย เราก็นิ่ง คือพอเสร็จนี้แล้วเราไปกุฏิเราจะตามท่านไปเลย ไปตามปัญหาข้อนี้นะ

พอดีไปท่านก็มาชวน มาบอก ไปบัวไปด้วยกันไปกุฏิท่าน พอดีกับเราจะไปตั้งปัญหา พอขึ้นไปก็ใส่ปั๊วะเลย เพราะไม่มีใครนี่ ตั้งใจจะไปเอากันสองต่อสองระหว่างพ่อกับลูก ขอประทานโอกาสทุกอย่างเรียบร้อยแล้วกราบ เหตุใดพระเดชพระคุณจึงเทศน์ว่านิพพานเป็นอนัตตา เพราะบังคับไม่ได้ นิพพานไม่ใช่ผู้ต้องหา นั่นเข้าแล้วปั๊บเข้าแล้ว นิพพานเป็นอนัตตานิพพานก็เป็นไตรลักษณ์ละซิ เป็นของวิเศษวิโสอะไรเราว่า นิ่งเลยนะ เป็นอย่างนั้นละนิ่ง นิพพานมาเป็นอนัตตา นิพพานก็เป็นไตรลักษณ์ ไตรลักษณ์คือ ทุกฺขํ อนิจฺจํ อนตฺตา เป็นทางก้าวเดินเพื่อพระนิพพาน  แล้วพระนิพพานยังจะมาเป็นอนัตตา อนัตตาก็อยู่ไตรลักษณ์ นิพพานก็เป็นไตรลักษณ์ละซิมีความหมายอะไรเราว่า นิ่งเลยนะผู้เฒ่าไม่ตอบเลย เงียบ

คือธรรมดาถ้าเราใส่ทีไรนี่ท่านจะนิ่งทุกที คราวหลังถึงจะมายอมรับ ไม่เคยมาค้านนะ ยอมรับทุกครั้งๆ คราวนี้ก็นิ่งไม่ตอบเลย เอาจริงนะเรา ถ้าลงมันขัดแล้วมันไม่ถอยใครละ ธรรมเหนือนี่ เราเอาธรรมออกมา ท่านกับเราเป็นผู้น้อยต่อธรรมทั้งนั้น ต้องกราบธรรมยอบรับธรรม มาก็ยกธรรมขึ้นใส่ปั๊วะเลย ท่านนิ่งเลยนะ ว่านิพพานเป็นอนัตตา มันสะดุดกึ๊กเลยนั่น พอเราจะตามท่านไป ท่านก็ชวนเราไป ไปบัวไปด้วยกัน ไปหาท่าน ไปก็ซัดกันเลยสองต่อสองไม่มีใครทราบด้วยละ เอาหนักนะนั่นไม่ใช่เล่นนะนั่น

ท่านว่านิพพานเป็นอนัตตา เพราะเหตุไรจึงว่าเป็นอนัตตา นิพพานเป็นอนัตตาเพราะบังคับไม่ได้ นิพพานไม่ใช่ผู้ต้องหาพอที่จะถูกบังคับบัญชา นั่น ซัดกันตรงนี้เลย ท่านนิ่งนะ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา นี้เป็นทางก้าวเดินเพื่อพระนิพพาน ไตรลักษณ์เป็นทางก้าวเดินเพื่อพระนิพพาน เมื่อเป็นนิพพานแล้วนิพพานจะมาเป็นอนัตตา อนัตตาก็อยู่ในวงไตรลักษณ์ นิพพานก็เป็นไตรลักษณ์มีความวิเศษวิโสอะไรเราก็ว่างี้ละ ท่านนิ่งเลยนะ อย่างนั้นละเวลาจะเอา ปั๊วะเลย อุปัชฌาย์เราแท้ๆ นะ แต่เอาธรรมที่เหนือเราทั้งสอง ทั้งอุปัชฌาย์ทั้งเราออกแสดงซิ ท่านก็นิ่งละไม่ค้าน วันนี้ไม่มีอะไรละ ให้พร

 

รับชมและรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th

และสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน  FM 103.25 MHz

และเครือข่ายทั่วประเทศ

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก