เทศน์อบรมฆราวาส
ณ ศาลาสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ
เมื่อเช้าวันที่ ๑๖ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๐
จิตนี้ต้องไปหาที่อยู่
พระพุทธเจ้าท่านมีพุทธกิจห้าประจำพระองค์ พุทธกิจห้าคืองานของพระพุทธเจ้าโดยเฉพาะห้าประการ สายเณฺห ธมฺมเทสนํ พอตอนบ่ายสามโมงสี่โมงประทานโอวาทแก่ประชาชนทั้งหลายนับแต่พระมหากษัตริย์ลงมาเป็นลำดับ
ปโทเส ภิกฺขุโอวาทํ พอมืดเข้ามาก็ประทานพระโอวาทแก่พระสงฆ์ ผู้ปฏิบัติเพื่อมรรคผลนิพพานจริงๆ นั้นแหละ สองวาระ ตอนค่ำมาประทานโอวาทแก่พระสงฆ์ผู้ตั้งใจปฏิบัติเพื่อมรรคผลนิพพานจริงๆ
อฑฺฒรตฺเต เทวปญฺหากํ พอเที่ยงคืนแล้วเทศนาว่าการและแก้ปัญหาพวกทวยเทพทั้งหลาย ตั้งแต่รุกขเทพขึ้นไปถึงท้าวมหาพรหมลงมาประทานพระโอวาทแก่บรรดาพวกเทพทั้งหลาย นี่เป็นวาระที่สามเที่ยงคืน ทรงแสดงธรรมแก่พวกทวยเทพ เทวบุตรเทวดา อินทร์ พรหมทั้งหลายมาฟังเทศน์พระพุทธเจ้าตอนนั้น
ภพฺพาภพฺเพ วิโลกนํ พอปัจฉิมยามแล้วเล็งญาณดูสัตวโลก สัตวโลกแต่ละคนๆ มีใจเป็นหลักใหญ่ ใจใครมีอุปนิสัยกับศีลกับธรรมพอที่จะฉุดจะลากไปได้ พระองค์ก็เล็งดูหมด ใจใดที่หมอบให้กิเลสเหยียบหัวๆ ก็มองดู เพราะสัตวโลกมีความหนาแน่นต่างกัน เวลาเล็งญาณดูแล้วอันไหนที่สุดวิสัยก็ผ่านไปๆ อันไหนที่อยู่ในวิสัยที่จะทรงโปรดได้ก็โปรดไปๆ ภพฺพาภพฺเพ วิโลกนํ คือเล็งญาณดูสัตวโลก พระญาณหยั่งทราบตามหัวใจของสัตว์โลก ใครมีอุปนิสัยปัจจัยแล้วจะบรรลุมรรคผลนิพพานอย่างรวดเร็ว แต่ก็จะเสียชีวิตอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน ออกจากนั้นแล้วก็เสด็จไปโปรดคนนั้นก่อน พวกที่จะรู้ธรรม มีอุปนิสัยปัจจัยจะรู้ธรรม หลุดพ้นจากทุกข์ แต่มีอุปสรรคในชีวิตจะตายในเร็ววัน พระองค์ก็เสด็จไปโปรดคนนั้นก่อน นั่นละที่ว่าภพฺพาภพฺเพ วิโลกนํ
ตอนเช้าก็ปุพฺพเณฺห ปิณฺฑปาตญฺจ เสด็จออกบิณฑบาตโปรดสัตว์จริงๆ นะ เทวบุตรเทวดา อินทร์ พรหม ห้อมล้อมทั้งข้างบนข้างล่าง พระองค์เสด็จไปโปรดสัตว์ สัตว์หมดเลย ไม่ใช่โปรดแต่มนุษย์มนา เวลาบิณฑบาตเขาได้เห็นได้ยินได้ฟังพระโอวาทหรือพระวาจาคำหนึ่งออกมานี้เป็นมหามงคลแก่สัตว์โลกทั้งหลาย นี่ละที่ว่าปุพฺพเณฺห ปิณฺฑปาตญฺจ ไม่ใช่ไปบิณฑบาตเฉยๆ เอามากิน กินแล้วนอน กอนแล้วนินเฉยๆ บิณฑบาตก็โปรดสัตว์โลกไปในเวลานั้น
นี่ละพุทธกิจห้าของพระพุทธเจ้าไม่ทรงลดละ ตั้งแต่บ่ายสามโมงทรงเทศนาว่าการโปรดประชาชนทั้งหลายนับแต่พระมหากษัตริย์ลงมา พอตอนค่ำ ปโทเส ภิกฺขุโอวาทํ พอตกตอนค่ำมาก็ประทานพระโอวาทแก่บรรดาพระสงฆ์ผู้ตั้งใจประพฤติปฏิบัติเพื่อมรรคผลนิพพานจริงๆ อฑฺฒรตฺเต เทวปญฺหากํ พอเที่ยงคืนก็เทศนาว่าการโปรดพวกทวยเทพทั้งหลาย นับแต่ท้าวมหาพรหมลงมา นี่ละพระโอวาทของพระพุทธเจ้าเป็นอย่างนั้น จากนั้นก็ภพฺพาภพฺเพ วิโลกนํ เล็งญาณดูสัตวโลก ใครมีอุปนิสัยปัจจัยมากน้อยเพียงไร พระองค์ควรจะทรงไปโปรดในเวลารวดเร็วพระองค์ก็รีบเสด็จไปโปรด เพราะผู้นี้มีอุปนิสัยปัจจัยสามารถจะถึงมรรคผลนิพพาน แต่จะตายเสียอย่างรวดเร็วก็เสด็จไปโปรดคนนั้นก่อน
จากนั้นก็ค่อยวางปล่อยไปเป็นลำดับลำดาตามอุปนิสัยของสัตว์ ผู้ที่เป็นซุงทั้งท่อนไปเลยไม่มีประโยชน์ ตั้งแต่วันเกิดมาสร้างแต่ความชั่วช้าลามกจนกระทั่งวันตาย ก็แบกหามแต่ฟืนแต่ไฟไปเผาไหม้อยู่ในเมืองผี อยู่ในเมืองคนก็เผาไหม้ตัวเอง ไปเมืองผี ก็ไปเผาไหม้จนไปเป็นผี บาปกรรมทั้งหลายก็ไปเผาไหม้เมืองผีนู่น นี่ละสัตว์โลกทั้งหลายต่างกันนะ ออกจากนี้แล้วบางคนก็จะลง บางคนก็จะขึ้น ส่วนมากมักจะลง ลงทางต่ำๆ ลงทางต่ำก็คือลงทางทุกข์มากน้อยที่สร้างบาปกรรมใส่ตัวเอง
ไปทางดีก็สร้างความดีงามสูงขึ้นๆ เป็นลำดับลำดา เพราะจิตนี้เป็นนักท่องเที่ยวไม่เคยตาย ออกจากภพนี้ไปภพนั้น ออกจากภพนั้นไปภพนี้ ร่างกายแตก จิตใจออก เหมือนบ้านเรือนเราพังไปสร้างหลังใหม่ขึ้นมา หลังใหม่นั้นมีเงินมีทองข้าวของจะสร้างหลังใหญ่ก็ได้ สดสวยงดงามมีค่ามีราคาก็ได้ ถ้าไม่มีเงินอยู่กระต๊อบก็ได้ หรืออยู่ใต้พุ่มไม้ก็ได้ตามแต่กรรมของตัวเองจะนิยมให้อยู่ในสถานที่เช่นใด นั่น
เรื่องจิตนี้ต้องไปหาที่อยู่ หาที่อยู่จนกระทั่งสวรรค์วิมานเทวโลก สุดท้ายก็ถึงนิพพานจิตดวงนี้ละ พอถึงนิพพานแล้วหมดปัญหาโดยประการทั้งปวง เวลาสัมภเวสีหาภพหาชาติเป็นสำคัญ เราจะไปภพชาติใดให้ดูตัวเอง ถ้าจิตใจของเราต่ำทรามแล้วก็เรียกว่าภพชาติต่ำเป็นของเรา ถ้าจิตใจของเราสูงด้วยอรรถด้วยธรรมแล้วภพชาติอันดีงามก็จะเป็นสมบัติของเราให้ได้เสวยต่อไป พากันจำเอานะธรรมอันนี้สำคัญมากทีเดียว
คือจิตใจไม่อยู่ พอออกจากร่างนี้ปั๊บเข้าร่างนั้น ออกจากร่างนั้นเข้าร่างนั้น เรียกว่าจิตนี้เป็นนักท่องเที่ยว ไปไม่หยุดไม่ถอยตามบุญตามกรรมของตนเอง จนมีวาสนาบารมีเพียงพอแล้วก็ดีดผึงพ้นเลยๆ ถ้าไม่พ้นก็ต้องวกเวียนไปมาสูงต่ำอยู่อย่างนี้ ให้พากันสร้างความดี อย่าประมาทนะ จอมปราชญ์ทั้งหลายสร้างแต่ความดีงาม สอนคนให้ปฏิบัติแต่ความดีงาม แต่จิตใจอันธพาลมันดึงลงๆ มันไม่อยากให้สร้างความดีงาม ให้สร้างแต่ความชั่วช้าลามก ตายแล้วก็จมเลยๆ พากันจำเอานะ พูดเท่านั้นละวันนี้
พอเข้าใจกันไม่ใช่เหรอบรรดาพี่น้องทั้งหลายมา จิตใจนั้นสำคัญ พามาวัดนี้ก็ใจพามา ใจพาไปโรงสุรายาเมายาบ้าอะไรมันก็ไปของมัน ขอแต่ใจสมัครใจที่จะไปทางไหน พอใจไปทางไหนทางดีทางชั่วไม่ว่า ความพอใจเป็นสำคัญ พอใจแล้วมันไปได้ ทำได้ ทีนี้สิ่งที่พอใจหรือไม่พอใจก็เป็นกรรมของตนเอง มันก็มาเผาตัวเองถ้าเป็นกรรมชั่ว ถ้าเป็นกรรมดีก็มาส่งเสริมตนเองให้ไปในทางที่ดี จึงพากันอบรมจิตใจด้วยดี
อย่าฝืน อย่าคึก อย่าคะนอง เกินเหตุเกินผล กิเลสจะไม่พาใครให้สงบร่มเย็นนะ พาคึกพาคะนอง ไม่ว่าเศรษฐีกุฎุมพีลงมาจนคนทุกข์ไร้เข็ญใจ เรื่องความคึกความคะนองของใจมันจะเต็มอยู่ในหัวใจดีดดิ้น เศรษฐีก็ดีดดิ้นไปนั่นละ สมมุติกันว่ามีเงินมีทองข้าวของมากน้อยเพียงนั้นๆ แต่จิตใจมันหิวโหย ความอยากทะเยอทะยาน น้ำล้นฝั่งก็คือกิเลสตัณหา มหาสมุทรยังมีฝั่งนะ ฝั่งมหาสมุทร แต่นตฺถิ ตณฺหาสมา นทีนี้เป็นน้ำล้นฝั่ง อำนาจของกิเลสตัณหานี้ล้นฝั่ง ไม่มีฝั่งถ้าเราไม่หักห้ามด้วยธรรม เอาธรรมไปเป็นทำนบกั้นเอาไว้มันก็พออยู่ ก็มีฝั่งมีฝาปฏิบัติตัวเป็นคนดีต่อไป
ถ้าไม่มีฝั่งมีฝาแล้วเตลิดเปิดเปิงนะจิตใจ เพราะกิเลสที่ไสออกไปเพื่อความเลยเถิดๆ มีอยู่ประจำทุกคน ถ้ามีธรรมเป็นเครื่องหักห้ามแล้วมันก็มีฝั่งมีฝาระงับดับความคิด ความคึกความคะนองของตนได้ ให้พากันจำเอา ถ้าปล่อยให้เป็นไปตามกิเลสตัณหาล้วนๆ ไม่มีใครดีในโลก จมทั้งนั้นละ แต่สวรรค์นิพพานมีละซิ นรกอเวจีมี มีไปทางดีไปทั้งทางชั่ว มีทั้งพวกที่ฝึกฝนตนเองเพื่อไปในทางดีมันก็ไปทางดี พวกปล่อยตัวๆ มันก็ลงทางชั่ว
เพราะฉะนั้นทางดีทางชั่วเป็นทางของคนดีคนชั่วจะก้าวเดินด้วยกัน ไม่มีเวลาว่างสายทางนี้ คนชั่วไปสายทางชั่ว อยู่ที่ชั่ว คนดีไปสายทางที่ดี ไปอยู่สถานที่ดี ให้เราอบรมเบิกทางของเราให้เป็นทางดี ทางศีลทางธรรม ทางพุทโธ ธัมโม สังโฆ ให้มีอยู่ในใจ นี้เป็นทางที่ถูกที่ดีพาเราไปในทางที่ดี ทางชั่วความรื่นเริงบันเทิง ความหิวโหยไม่พอนี้พาให้จมนะ พากันจำเอา เอาเท่านั้นละวันนี้ ต่อไปนี้จะให้พร
รับชมและรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th
และสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz
และเครือข่ายทั่วประเทศ
|