ทำความดี-ทุกข์เพื่อสุข
วันที่ 7 สิงหาคม 2543 เวลา 8:00 น.
สถานที่ : ทำความดี-ทุกข์เพื่อสุข
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๗ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๔๓

ทำความดี-ทุกข์เพื่อสุข

(มีผู้มาฟังเทศน์เป็นนักเรียน ๑๒๐ คนและประชาชนประมาณ ๓๘๐ คน)

(ลูกศิษย์เพิ่งกลับจากอังกฤษได้ถวายปัจจัยเป็นเงินหนึ่งหมื่นบาทและทองคำ) ดีแล้วมาจากอังกฤษ ถ้าได้เงินปอนด์มาด้วยแล้วดีมาก นี่เสียเกียรติมาจากอังกฤษไม่ได้เงินปอนด์เงินแปนมา อังกฤษหลวงตาเคยไปปี ๕๑๗ เป็นกี่ปีแล้วนับดูซิ (๒๖ ปี ครับ) ๒๖ ปีแล้วไปอังกฤษ ไปพักอยู่นั้น ๒ อาทิตย์กว่าละมั้ง มีท่านปัญญาวัฑโฒ เป็นชาวอังกฤษไปด้วย แล้วท่านเชอร์รี่ ท่านเชอร์รี่เป็นชาวแคนาดา แม่มาหานะ แม่มาที่อังกฤษจนกระทั่งลูกชายกลับ แม่ค่อยกลับ พอลูกชายไปถึงนั้นแม่ก็มาถึงพอดี มาอยู่ที่อังกฤษ แม่พักอยู่ที่โรงแรมในอังกฤษ ท่านเชอร์รี่ไปเยี่ยมแม่ เราไปดูว่าเป็นยังไงโรงแรมในอังกฤษ แม่มาด้วยกัน ๒ คนอยู่จนกระทั่งลูกชายกลับ ท่านเชอร์รี่กลับแม่ก็กลับในระยะเดียวกัน เพราะตั้งหน้ามาพบกัน นาน ๆ พบกันทีนึง ๆ

ไปพักอยู่อังกฤษอดคิดไม่ได้นะ ไปทีแรกคนมาไม่ค่อยมาก ทั้งคนไทยทั้งฝรั่งพอไปถึงทีแรก ทีนี้หนาแน่นขึ้น ๆ สุดท้ายพวกเก้าอี้ไม่มีความหมายเลย ใครมาถึงนั่งที่นั่น แทรกหมดเลย เก้าอี้ไม่มีความหมาย ไม่ว่าคนฝรั่งไม่ว่าคนไทยแบบเดียวกันหมด มาที่ไหนนั่งที่นั่น หนาแน่นขึ้น ๆ แต่เราเสียดายที่เราพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ผ่านคนอื่นเป็นล่ามให้ ท่านปัญญาเป็นล่ามซิไม่ใช่เราเป็นเอง จึงไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ถ้าเป็นเราออกเองพูดเองนี้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์เลย ถึงขนาดนั้นพวกชาวอังกฤษ โถ ไม่ใช่น้อย ๆ นะหลั่งไหลมาเรื่อย ๆ คนไทยก็เพิ่ม เพราะคนไทยอยู่ในอังกฤษไม่น้อยนี่นะ พวกฝรั่งก็เพิ่ม ๆ มานั่งเหมือนผ้าพับไว้นะ

ทีนี้เวลามาหนักเข้า ๆ พวกที่มาสังเกตการณ์ก็มี เขาพูดเองว่าเขามาสังเกตการณ์ ทีนี้สุดท้ายเลยไม่ได้มาอยู่ไม่ได้ เรื่องสังเกตการณ์เลยหายไปหมด ไม่ได้มาอยู่ไม่ได้ พูดธรรมะเวลาเราเทศน์ ท่านปัญญาก็เป็นล่ามแปล เวลาเขาถามปัญหาเราตอบ ท่านปัญญาเป็นล่ามแปลให้ตลอด ๆ เราจึงอดคิดไม่ได้นะ โห นี่ถ้าหากมีครูบาอาจารย์ที่เป็นหลักเป็นเกณฑ์ทั้งภายในภายนอก ภายนอกข้อวัตรปฏิบัติ ศีลาจารวัตร ภายในคือจิตตภาวนามีหลักมีเกณฑ์นี้ พวกชาวอังกฤษนี้จะเป็นเจ้าของพุทธศาสนาแน่นอน ลงใจขนาดนั้น หนาแน่นขึ้น ๆ แต่นี้มันไม่ได้เรื่องอย่างนั้นซี พระเราก็โกโรโกโส จะให้เขายึดหลักยึดเกณฑ์ได้ยังไง มันไม่ลงใจ การปฏิบัติก็ไม่ลงใจเหมือนกัน ถ้าลงใจแล้วก็ถึงไหนถึงกันเลย

ดังที่เราพูดให้เป็นคติแก่พี่น้องตามเรื่องของเรานี้ ยังมีแง่สงสัยมรรคผลนิพพาน นั่นเห็นไหม ทั้ง ๆ ที่มุ่งต่อมรรคผลนิพพานอยู่อย่างเต็มใจ ก็ยังมีแง่สงสัยมรรคผลนิพพาน ทั้ง ๆ ที่เรียนมาแล้วเห็นไหม ความจำเป็นประโยชน์อะไร มันยังเป็นการกีดขวางอีกด้วย..ความจำ ความสงสัยแทรกมากับความจำ ๆ บาป บุญ นรก สวรรค์ นิพพาน เรียนไปอย่างนั้นสงสัยไปตามกันหมดเลย นี่ละที่ความมุ่งมั่นกับมรรคผลนิพพานมีแต่ยังสงสัย แน่ะ ว่ามรรคผลนิพพานจะมีจริง ๆ ตามความมุ่งมั่นหรือไม่นา ถ้าหากว่ามีท่านผู้ใดที่มาชี้แจงให้เราเป็นที่ลงใจแล้ว เราจะมอบกายถวายตัวต่อท่านผู้นั้น เราจะเอาตายเข้าว่าเลย นี่หมายถึงความลงใจนะ

พอไปถึงหลวงปู่มั่น โอ๋ย จี้เลยทันที เหมือนเรดาร์ท่านจับไว้หมดเลย ขึ้นเปรี้ยง ๆ หือ ท่านมาหาอะไร ท่านมาหามรรคผลนิพพานเหรอ ขึ้นเลยนะ ดินฟ้าอากาศไม่ใช่มรรคผลนิพพาน ท้องฟ้ามหาสมุทรทั่วแดนโลกธาตุไม่ใช่มรรคผลนิพพาน ไม่ใช่กิเลส คือไม่ใช่ทั้งมรรคผลนิพพาน ไม่ใช่ทั้งกิเลส กิเลสจริง ๆ มรรคผลนิพพานจริง ๆ อยู่ที่หัวใจ เวลานี้ถูกปิดบังไว้ด้วยกิเลส กิเลสปิดบังทำให้สงสัยมรรคผลนิพพาน ประหนึ่งว่ามรรคผลนิพพานไม่มี ไล่เข้ามา ๆ อะไร ๆ ก็ไม่ใช่กิเลสไม่ใช่มรรคผลนิพพาน จุดที่อยู่ของกิเลสที่อยู่ของมรรคผลนิพพานอยู่ที่ใจ ๆ ลงนั้น เอ้า เปิดใจออกด้วยจิตตภาวนาภาคปฏิบัติ นั่นบอกแล้วนะ

เหมือนกับว่าน้ำมีอยู่ในบึงเต็มบึง เป็นแต่เพียงว่าจอกแหนมันปกคลุมไว้ไม่ให้มองเห็นน้ำ เรียกว่าท้องฟ้ามหาสมุทรไม่ใช่ผู้ปิดบังน้ำว่างั้นเถอะ จอกต่างหากอยู่นั้น เอ้า เปิดออก ๆ โอ๊ เราไม่ลืมนะ แล้วเป็นวันแรกเสียด้วยนะไปหาท่าน ความสงสัยมรรคผลนิพพานมีอยู่อย่างนั้นจะทำยังไง จิตของเรามุ่งต่อมรรคผลนิพพาน อยากได้มรรคผลนิพพาน แต่ก็มีสิ่งที่มากีดขวางคือความสงสัยเอง ความอยากได้ความต้องการมรรคผลนิพพาน ความอยากไปนิพพาน กับนิพพานนี้ มีจริง ๆ ไหมนา นั่นน่ะ ครั้นเวลาเราปฏิบัติทุ่มกำลังวังชาลงไปแล้ว ผลที่ตอบแทนไม่มีนี้ทำไง เพราะฉะนั้นจึงต้องหาครูอาจารย์

พอไปถึงหลวงปู่มั่นท่านเอาเรดาร์จับเลยทันที ไล่เข้ามา ๆ อันนั้นไม่ใช่กิเลส ไม่ใช่มรรคผลนิพพาน อันนั้น ๆ ทั่วท้องฟ้ามหาสมุทรสุดสมมุติ ไม่ใช่กิเลสไม่ใช่มรรคผลนิพพาน มรรคผลนิพพานจริง ๆ กิเลสจริง ๆ อยู่ที่หัวใจ ๆ ไล่เข้าไปตรงนี้ สรุปความลงว่าจนเป็นที่ลงใจสุดยอดแล้ว ที่นี่เมื่อลงใจแล้วเป็นยังไง พอออกมา เอาละที่นี่ ลงใจแล้วไม่มีที่สงสัยแล้ว ทีนี้เราจะจริงไหมถามเจ้าของ ต้องจริง ไม่จริงตายเท่านั้น ฟังซิน่ะ นี่ละความลงใจเป็นอย่างนี้นะ ถ้าได้ลงใจแล้วก็อย่างที่ว่านี่ ตายเท่านั้น เมื่อลงใจว่ามรรคผลนิพพานมี เราต้องการมรรคผลนิพพานอยู่แล้ว แต่ยังสงสัยมรรคผลนิพพานมีหรือไม่ พอว่ามีเท่านั้นพุ่งเลย

ประชาชนทั้งหลายก็เหมือนกัน ถ้าไม่เป็นที่ลงใจแล้วการประกอบความดีงามทั้งหลายก็ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย อย่างไปอังกฤษคราวนี้อดคิดไม่ได้นะ เพราะหนาแน่นขึ้นทุกวัน ๆ เวลาตอนจะมาจนฝรั่งร้องไห้ ฟังซิน่ะ เวลาจะลามานี้ก้มหน้าตาปั๊บน้ำตาพัง ๆ เวลาจะลาจะจากกัน เห็นไหมล่ะ นี่ละธรรม มีใกล้มีไกล มีชาติชั้นวรรณะที่ไหน ธรรมคือธรรม เป็นเครื่องประสานได้หมดเลย คือธรรม เห็นชัด ๆ ด้วยตาของเรานะ โถ ก้มหน้านี่น้ำตาพัง ๆ นี้ยังไม่แล้วอีกนะ ไปส่งถึงประตูออก ประตูสนามบินเป็นพัก ๆ พอประตูสุดท้ายนั้น เอาอีกแล้วตรงนั้นน่ะพวกฝรั่ง มันของเล่นเมื่อไร นี่คือความลงใจ

จึงอดคิดไม่ได้นะ โอ๊ นี่ถ้าหากว่ามีผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบพร้อมทั้งภายนอกคือความประพฤติ ศีลสังวร เป็นต้น ความประพฤติตามหลักของพระภายนอก ภายในคือจิตตภาวนามีหลักมีเกณฑ์แล้วนี้ ชาวอังกฤษนี้จะเป็นเจ้าของพุทธศาสนาแน่นอน ขนาดนั้นนะ เพราะท่านเหล่านี้เป็นผู้มีกฎมีระเบียบเรียบร้อยอยู่แล้ว เขาจึงเรียกว่าเมืองผู้ดี ดีก็คือมีกฎมีระเบียบ มีขนบประเพณี มีขอบมีเขตมีฝั่งมีฝา ทำให้คนดีได้ คนไม่มีขอบมีเขต ไม่มีฝั่งมีฝาเลอะเทอะ นั่น นี่เมืองนี้เขาเป็นเมืองที่มีขอบเขตมีฝั่งฝาดีอยู่แล้ว พอได้ธรรมเข้าเป็นเครื่องประดับเท่านั้นก็ดีดขึ้นเลยยิ่งเด่น นั่น มันอดคิดไม่ได้นะ สงสารพวกชาวอังกฤษ

เวลาขากลับมาเขาหมดหวังแล้ว เขาก็ขอเอาท่านปัญญาที่ไปกับเรานี้ไว้พอได้รับความอบอุ่น นั่นฟังซิเขาพูดน่ะ พอมีความอบอุ่นภายในจิตใจ เมื่อครูบาอาจารย์จากไปแล้วได้ท่านปัญญาอยู่ ก็พอเป็นความอบอุ่นภายในจิตใจมากขึ้น ยิ่งกว่าจะไม่มีเลย เขาว่างั้น แม้จะจากไปแล้วความอบอุ่นก็ยังมี พอดีท่านปัญญาก็ไม่ได้อยู่เสีย นี่สรุปเอาเลยนะ ตั้งแต่นั้นมาท่านปัญญาก็ไม่ได้กลับไปอีกนะ ท่านมา ๒๖-๒๗ ปีแล้วนะ

นี่เราพูดถึงเรื่องธรรม เป็นอย่างนั้นละ ธรรมเป็นเครื่องประสาน ไปที่ไหนไม่มีคำว่าชาติชั้นวรรณะ ความดูถูกเหยียดหยามกันนี้เป็นเรื่องของกิเลสทั้งนั้น เรื่องของธรรมไม่มี สพฺเพ สตฺตา อันว่าสัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันหมดทั้งสิ้น ครอบโลกธาตุเลย เข้ากันได้สนิท เมื่อธรรมเข้าไปตรงไหนเข้าได้สนิท ไม่ต้องถามหาที่หาฐานบ้านเรือนหาโคตรหาแซ่หาชั้นวรรณะที่ไหน ธรรมเป็นเครื่องประดับ สพฺเพ สตฺตา ครอบไปหมดเลย สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันหมดทั้งสิ้น อย่ามีภัยมีเวรต่อกัน ให้มีความเห็นอกเห็นใจกัน นี่ธรรมเป็นอย่างนั้น เกิดมาด้วยอำนาจแห่งกรรมดีกรรมชั่วเหมือนกัน

คำว่ากรรมดีกรรมชั่วมีอยู่กับทุกสัตว์ เกิดมาด้วยอำนาจแห่งกรรม ไม่ได้เกิดมาด้วยชาติด้วยชั้นด้วยวรรณะ ด้วยฐานะสูงต่ำยศถาบรรดาศักดิ์อะไร เกิดมาด้วยกรรม ให้ถือกรรมเป็นหลักเกณฑ์ คนเราเมื่อถือกรรมเป็นหลักเกณฑ์แล้วไม่มีคำว่าดูถูกเหยียดหยามกัน เห็นกันรักกันสนิทกันตายใจกันทันที นี่ละธรรมไปที่ไหนตายใจกันเลยนะ ถ้ากิเลสไปที่ไหนแม้ผัวกับเมียก็แตกกัน กิเลสไปที่ไหน ผัวก็ไปหาสาว เมียก็จะไปหาไอ้หนุ่มละซี นั่นละมันแตกกันเข้าใจไหม นี่ละกิเลสไปที่ไหน กลับมามีฟืนมีไฟมาเผากันทันที ๆ เลย ธรรมไปที่ไหน เราเป็นเรา เขาเป็นเขา เท่านั้นพอ เราเป็นเรา เขาเป็นเขา ฝั่งฝามีอยู่ เขตแดนมีอยู่แล้วยุ่งอะไร เพียงเท่านั้น ไม่ต้องพูดแหละว่ายุ่งอะไร เพียงว่าเราเป็นเรา เขาเป็นเขาเท่านั้นพอ ไปไหนเป็นตัวของตัวตลอดไปเลย เป็นธรรมของตัวเอง ธรรมสมบัติ

ธรรมสมบัติไปที่ไหนปลอดภัย ไม่เดือดร้อนวุ่นวายนะ คนไม่มีธรรมนั่นซีมันเดือดร้อน ถ้ามีธรรมทั้งหญิงทั้งชายครอบครัวเหย้าเรือนมีความสงบเย็นใจ เราอย่าเอาเงินเอาทองข้าวของยศถาบรรดาศักดิ์มาเป็นเครื่องโอ้เครื่องอวดกันนะ อวดความสุขอย่าเอามาอวด อวดความสุขที่เกิดจากธรรม ธรรมมีในใจที่ไหนทุกข์จนข้นแค้นก็มีความสุขอยู่ภายใน ข้างนอกมีความบกพร่องขาดแคลนเป็นธรรมดาในโลกอนิจจัง แต่ภายในมีธรรมเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงแล้วชุ่มเย็น ทุกข์ก็ทุกข์ด้วยกัน เป็นก็เป็นด้วยกัน ตายก็ตายด้วยกัน ซื่อสัตย์สุจริตต่อกัน มีความจงรักภักดีต่อกัน ฝากเป็นฝากตายต่อกัน ไปไหนเป็นอวัยวะเดียวกัน นี่ความสุขอยู่ที่นี่นะ เราอย่าเข้าใจว่าความสุขอยู่ที่อื่น

ใครจะเลิศเลอยิ่งกว่าพระพุทธเจ้า ทุกสิ่งทุกอย่างทรงรู้ทรงเห็นหมดแล้วทั้งดีทั้งชั่ว คัดเลือกทุกอย่างที่จะนำมาสั่งสอนสัตว์ให้เป็นประโยชน์แก่สัตว์ อันใดเป็นภัยคัดออก ๆ สอนให้คัดออก ๆ อันใดเป็นคุณนำเข้ามา ดังที่กล่าวนี้ผัวเมียสองคนเท่านั้นละเป็นสุข จะทุกข์จะจน จะมั่งจะมี ด้วยความมีธรรมเป็นสุขด้วยกัน เศรษฐีก็เป็นสุข มียศถาบรรดาศักดิ์สูงเท่าไรมีธรรมเคลือบ ๆ แฝงอยู่ในนั้นเป็นสุข ๆ เจ้าของก็เป็นสุข ผู้น้อยก็เป็นสุข เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร เป็นผู้ชักจูงไปด้วยความราบรื่นดีงามทุกอย่าง

ถ้ากิเลสไปที่ไหนมันโอ่อ่านะ ไปที่ไหนโอ่อ่าฟู่ฟ่า นั่นละเห็นไหมกิเลส กิเลสมักพองตัวนะ ธรรมท่านไม่พอง ท่านพอดีตลอด มีมากมีน้อยพอดี ๆ ดังที่พูดผัวเดียวพอดี นั่นธรรม เมียเดียวพอดี นั่นธรรมเป็นอย่างนั้นนะ ถ้ากิเลสละ โอ๋ย ไม่พอ ตานี่พอออกจากแม่อีหนูไปมันอยากได้สัก ๑๐ ตา มองหาสาวล่ะซี ไอ้เมียพอออกจากผัวไปแล้วมันอยากได้สัก ๒๐ ตา มองหาไอ้หนุ่มล่ะซี นี่ละพวกหิวโหย พวกจะเอาฟืนเอาไฟมาเผาตัวเอง แล้วก็เผาบ้านเผาเรือนเผาลูกเผาหลานแตกกระจัดกระจายไปหมด เอาไฟอันนี้มาเผา

พ่อแม่ทะเลาะกันลูกมันฟังได้ที่ไหน ฟังซิน่ะ โอ๋ย หน้าเหี่ยวไปเลยนะพ่อแม่ทะเลาะกัน ยิ่งทะเลาะด้วยเรื่องนี้ด้วยแล้ว โอ๋ย เป็นไฟแสบร้อนมากที่สุดเลยไฟอันนี้ แต่พ่อแม่ทะเลาะกันอย่างอื่นลูกก็ยังไม่สบายนะ ยิ่งมาทะเลาะกันแบบกินไม่พอกินไม่อิ่ม ดีดดิ้นนี่พิลึก นี่เห็นไหม กาเมสุ มิจฉาจาร สอนลงไปปั๊บมีขอบมีเขต อย่ายุ่งกับอะไร เท่านี้พอแล้วความสุข สำหรับฆราวาสเพียงเท่านี้พอแล้ว อย่าหามาเพิ่มเติมถ้าไม่อยากเอาไฟเผาตัวและเผาครอบครัวเหย้าเรือน นั่นเห็นไหม ถูกขนาดไหนพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ตรัสรู้โดยชอบ ๆ ชอบธรรมมาเรียบร้อยแล้ว สมฺมาสมฺพุทฺโธ ตรัสรู้เองโดยชอบ ๆ นั่น

นี่เราพูดถึงเรื่องธรรมมีในผู้ใดก็ตาม คนเราเข้ากันได้สนิท ไม่จำเป็นจะต้องถามหาชาติชั้นวรรณะชื่อเสียงกิตติศัพท์กิตติคุณโคตรแซ่ที่ไหน บ้านใดเมืองใดภาคใดไม่ต้องถาม อยู่ที่ความดีของบุคคลแต่ละคน เข้าถึงกันทันที ถ้าความชั่วแม้แต่ผัวเมียยังแตกกัน เข้าใจไหมล่ะ อยู่กันสนิทเท่าไรแตกกันได้นะ ถ้าลงกิเลสเข้าไปตรงไหนเป็นภัยเข้าไปตรงนั้น นอกจากนั้นลูกเต้าหลานเหลนแตก โคตรแซ่นั้นโคตรแซ่เกเรแตก ไม่มีใครมองดูละ เขาดูถูกเหยียดหยามกันทั้งบ้าน นั่นเห็นไหมกิเลสเข้าไปตรงไหนเอาไฟไปพร้อม ๆ ให้พากันระมัดระวังนะ

ทุกวันนี้ยิ่งมีแต่เสริมกันเรื่องราคะตัณหา โอ๋ย สลดสังเวชนะ ธรรมหูหนวกตาบอดไป เพราะธรรมไม่เหมือนอะไร มีเหมือนไม่มี รู้เหมือนไม่รู้ เห็นเหมือนไม่เห็น ไม่เป็นอารมณ์มาฝังใจตัวเองเพราะความชั่วของเขา เขาทำชั่วเราเดือดร้อนกับเขา เสียใจเคียดแค้นให้เขา หรือว่าดูถูกเหยียดหยามเขา ก็เป็นไฟเผาตัว ๆ ธรรมไม่มี เห็นดีเป็นดี ชั่วเป็นชั่ว รู้ตามเป็นจริง ๆ ไม่ข้องไม่แวะไม่หิวไม่โหย ธรรมเป็นอย่างนั้นนะ ก็สนุกดูล่ะซิสภาพความจริงทั้งหลาย นี่ละพระพุทธเจ้าดูความจริงท่านดูอย่างนั้น มาสอนพวกเราให้รู้เรื่องรู้ราว

ให้พากันใกล้ชิดติดพันกับศาสนานะ ศาสนาพุทธเลิศเลอแล้ว ไม่มีในสามแดนโลกธาตุนี้บอกตรง ๆ เลย จะให้เลิศเลอเหมือนพุทธศาสนาเราไม่มี เพราะศาสนาพุทธเราเป็นศาสนาของผู้สิ้นกิเลส ของผู้เลิศเลอสุดยอดแล้วมาเป็นศาสดาสอนโลก ศาสนาเหล่านั้นผู้เป็นเจ้าของศาสนาเป็นคลังกิเลส คลังกิเลสก็เหมือนเรา ๆ ท่าน ๆ สอนผิด ๆ ถูก ๆ สอนเอาตามความชอบใจของตัวเองไม่ได้สอนตามธรรม พระพุทธเจ้าสอนตามธรรม พิจารณาธรรม เล็งดูโดยธรรม ธรรมไปตรงนี้พุ่ง ๆ เลย ไม่เอาใครมาเป็นที่ปรึกษาหารือเป็นสักขีพยานละ ธรรมพระพุทธเจ้าตรงแน่วไปเลย ถ้าเป็นเรื่องของกิเลสไม่นะ เจ้าของก็ไม่เชื่อใจในตัวเอง แล้วก็ถามโน้นถามนี้ เจ้าของศาสนาที่มีกิเลสเต็มหัวใจก็แบบเรา ๆ ท่าน ๆ นี่แหละ ผู้สิ้นกิเลสท่านไม่ออกใครเข้าใคร เข้ากับธรรมอย่างเดียว ผู้มีกิเลสเข้าตัวเองเสมอ เพราะฉะนั้นถึงว่าศาสนาพุทธเรานี้เลิศเลอสุดยอดแล้ว

พูดถึงเรื่องศาสนา ศาสนาพระพุทธเจ้าไม่ว่าพระพุทธเจ้าพระองค์ใด แบบเดียวกันหมด คือไม่มีผิดมีเพี้ยนต่างกันเลยแม้นิดหน่อย การสอนโลกสอนแบบเดียวกันหมด เพราะรู้เห็นอย่างเดียวกันนำมาสอนจะผิดกันที่ตรงไหน ไม่ว่าบาปว่าบุญ นรก สวรรค์ พรหมโลก นิพพาน เปรตผีประเภทต่าง ๆ ทรงกระจ่างแจ้งไปหมด นำมาสอนก็เอาสิ่งที่รู้ที่เห็นมาสอนจะผิดไปไหน นี่ละผู้สอนด้วยความรู้แจ้ง โลกวิทู รู้แจ้งโลก โลกนอกโลกในเห็นหมดตลอดทั่วถึง อาโลโก อุทปาทิ หมายถึงว่าสว่างจ้าอยู่ตลอดเวลาไม่มีวันมีคืนในพระทัย

ให้พากันฝืนนะทุกคน ไม่ว่าผู้ใหญ่ไม่ว่าเด็กนะถ้าเราอยากเป็นคนดี สิ่งที่เราฝืนนั้นคือกิเลสความชั่วนั้นแหละ มันอยากให้ทำในสิ่งไม่ดีทั้งหลาย เราฝืนไม่ทำ อยากไปไม่ไป ถ้าไปเป็นทางความชั่วแล้วไม่ไป อยากทำไม่ทำ อยากดูไม่ดู จึงเรียกว่าข้อบังคับตัวเอง ทีนี้เวลาบังคับไปนานเข้า ๆ มันก็เป็นนิสัย พอว่าไม่ควรปั๊บมันหยุดทันที ๆ ไม่ฝืนนะ อยู่กับเจ้าของเป็นผู้รักษาเอง เราอยากเป็นคนดีต้องรักษาตัว อย่าเตร็ดเตร่เร่ร่อน อย่าโกโรโกโสไปตามความอยากความทะเยอทะยานซึ่งไม่มีสิ้นสุด วิ่งตามมันเท่าไรยิ่งเตลิดเปิดเปิงหาหลักหาเกณฑ์ไม่ได้ คนนั้นเลยเสียคนทั้งคน เพราะวิ่งตามความชั่ว

เราหักห้ามมันไม่ให้ทำ สิ่งใดไม่ดีอย่าทำ หักห้ามเข้าไป ๆ ความดีก็เด่นขึ้น ความชั่วจางไป ๆ ต่อไปคนนั้นเป็นคนดีตลอดเลย อันใดไม่ควรไม่ทำ นั่นไม่ได้ฝืนยากนะเมื่อเราฝืนตั้งแต่ต้น เห็นว่ากิเลสมันสู้เราไม่ได้แล้วเราก็สะดวกสบาย ไปไหนมาไหนอะไรควรไม่ควรรู้ทันที ๆ ไม่ทำ ๆ ถ้าเราปล่อยตามความอยากความทะเยอทะยานนี้ก่อไฟเผาตัวตลอดนะ วันนี้ก็ปล่อย วันหน้าก็ปล่อย วันไหนก็ปล่อย ปล่อยเพื่อความเสียคน ๆ เสียหมดทั้งตัวเลย เสียวันนั้นวันนี้ เสียเล็กเสียน้อย เสียไปเสียมา เสียหมดทั้งตัวดีที่ไหนคนเรา ถ้าอยากเป็นคนดีต้องฝึกฝนอบรม ต้องฝืนตัวเอง ต้องดัดแปลง ทุกข์ยากลำบากเพื่อการทำความดี เอ้า ทุกข์ ทุกข์ยากเพราะการทำความชั่วมันยิ่งทุกข์เพื่อทุกข์นะ ทุกข์ยากเพื่อการทำความดีทุกข์เพื่อสุข ทำลงไปมันต่างกันนะ

ทีนี้จะอ่านให้ฟัง วัดป่าภูสังโฆ ทองคำได้ ๗ บาท ของเล่นเมื่อไร ๗ บาท วัดป่าบ้านตาดมากี่วันมันได้สัก ๕ สตางค์ไหมนี่ สู้วัดภูสังโฆไม่ได้ วัดป่าหลวงตาบัวนี้เป็นอาจารย์ของท่านวันชัยนะ ที่สู้ท่านวันชัยไม่ได้ก็ต้องยอมซิใช่ไหม จึงเรียกว่าเป็นธรรม นี่สู้ท่านวันชัยไม่ได้ ท่านวันชัยได้มา ๗ บาท หลวงตาบัวพร้อมกับลูกศิษย์ลูกหาเต็มศาลาได้สัก ๕๐ สตางค์ไหมเอามาอวด เอามาแข่งภูสังโฆซิถ้าว่าลูกศิษย์หลวงตาบัวเก่ง พร้อมทั้งหลวงตาบัวเก่งด้วยแล้วเอามาแข่ง นี่ยังไม่ได้เห็นสักสตางค์เลย นี้มาแล้ว ๗ บาทเห็นไหม ต้องยอมรับกันซิ นี่เรียกว่าธรรมเข้าใจไหม ดอลลาร์ยิ่งมากนะนี่ ดอลลาร์ได้ ๑๑,๖๕๐ ดอลฯ ตั้งแต่หลวงตาบัวกลับมาจากกรุงเทพฯ นี้ได้พอ ๕๐ ดอลฯ ไหม เอ้าถ้าว่าได้ ๕๐ ดอลฯ เอามาแข่งอันนี้อีก นี่ก็สู้ไม่ได้อีก แน่ะเห็นไหม เงินไทยได้ ๒ หมื่นบาท เออ นี่พอสู้กัน อันนี้พอสู้ก็บอกว่าพอสู้ อันไหนสู้ไม่ได้ก็ต้องยอม

ท่านวันชัยนี่เป็นกำลังสำคัญองค์หนึ่ง ขวนขวายทั้งภายนอกภายใน ช่วยทุกด้านทุกทาง เป็นพระที่ควรแก่การเคารพบูชา เคารพนับถือได้ เป็นที่ตายใจได้ ก็ออกไปจากหลวงตาบัว หลวงตาบัวไม่ดีได้ลูกศิษย์ดีเราก็ชมเข้าใจไหม ถ้ายิ่งเราก็ดีลูกศิษย์ก็ดีแล้วไปใหญ่เลย ดีไม่ดีกำแพงวัดนี้เปิดไม่ทันฟาดหัวแตกไปเลย ดีพาไป ดีบ้าเข้าใจไหม ดีแบบนั้น นี่ละได้เรื่อย ๆ อย่างนี้ ท่านวันชัยละช่วยทุกด้านทุกทาง เป็นพระที่ตายใจได้เลย นี่ละหาธรรมเห็นธรรมอย่างนั้นละเข้าใจไหม ธรรมมีอยู่กิเลสมีอยู่ หาทางไหนได้ทางนั้น หากิเลสวันยังค่ำได้กิเลสวันยังค่ำ หาธรรมวันยังค่ำได้ธรรมวันยังค่ำ หาทางไหนมาก ทางดีมากเพิ่มขึ้น ๆ ทางชั่วค่อยจางไป ๆ สิ้นสุด เหลือแต่ความดีล้วน ๆ ไปทางไหนเลิศเลอ ๆ ตลอดเวลานะ นี่ละความดีให้พากันหานะ ทุกคนให้หาความดี

ฝึกหัดดัดแปลงตนเอง พวกเด็กกำลังหนุ่มกำลังสาวนี้มันคึกมันคะนองบ้านะพวกนี้นะ ให้พาระมัดระวัง ผู้หญิงสาว ๆ เห็นไอ้หนุ่มมันเป็นบ้านะ เทวดาสู้ไม่ได้นะถ้ามันเห็นไอ้หนุ่มแล้ว ไอ้หนุ่มเห็นอีสาวก็เหมือนกัน เทวบุตรเทวดาสู้ไม่ได้ มันวิ่งตามเขา เป็นบ้าด้วยกัน เสียคนหมด ใช้ไม่ได้นะ ไม่ถึงกาลเวลากักกันมันไว้ มันจะตายให้มันตายดูซิน่ะ ครอบครัวเหย้าเรือนของแต่ละคน ๆ ที่เป็นประเพณีของ…เฉพาะอย่างยิ่งของชาติไทยเรามีขอบมีเขต ถึงเวลาซื้อ-ซื้อ เวลาขาย-ขาย อย่าสุกก่อนห่าม อย่าขายก่อนซื้อ ใช้ไม่ได้นะเสียคน นี่อันนี้ที่เสียมากคือ ความสุกก่อนห่าม ขายก่อนซื้อ เลว ใช้ไม่ได้ อย่าพากันปฏิบัติ อย่าสนิทสนมกันในสิ่งนี้ที่จะพาให้เสียหาย ให้สนิทกันอย่างอื่น ให้ระมัดระวังอันนี้ให้ดีนะ วันนี้พูดอย่างนี้ สอนลูกสอนหลานสอนทุกคนนั่นแหละ

สรุปทองคำวันที่ ๖ สิงหา เข้าท่าอยู่นะ เมื่อวานนี้ทองคำได้ ๗ บาท ๗๓ สตางค์ ดอลลาร์ ๑๕๙ ดอลฯ เมื่อวานนี้นะวัดป่าบ้านตาดพอสู้ภูสังโฆได้ ภูสังโฆได้ทองคำ ๗ บาท ทางนี้ก็ฟาดเสีย ๗ บาทเหมือนกัน พอสู้กันตรงนี้ แต่ระวังหมัดหลังของภูสังโฆนะ หมัดหน้านี้พอสู้กันได้ ภูสังโฆได้ ๗ บาท วัดป่าหลวงตาบัวเป็นอาจารย์ของภูสังโฆก็ได้ ๗ บาท พอฟัดพอเหวี่ยงกัน พอหมัดที่สองคือดอลลาร์ วัดป่าบ้านตาดหลวงตาบัวได้ ๑๕๙ ดอลฯ ดอลลาร์ทางภูสังโฆได้ ๑๑,๖๕๐ ดอลฯ หลวงตาหงายเลย แสดงว่าหงายแบบไม่เป็นท่า เงินสองหมื่น อันนี้พอฟัดพอเหวี่ยงกันไป อันไหนพอฟัดพอเหวี่ยงก็บอก อันไหนแพ้บอกแพ้ อันไหนชนะบอกชนะ

ทีนี้จะอ่านอันนี้ให้ฟัง ทองคำที่จะมอบเข้าคลังหลวงในการช่วยชาติคราวนี้ ไม่ควรจะให้ต่ำกว่า ๔,๐๐๐ กิโล สำหรับพี่น้องทั่วประเทศไทยเรา รวมเป็นเนื้อเป็นหนังซึ่งกันและกัน เข้ามารวมแล้วเป็น ๔,๐๐๐ กิโล นี่เป็นเลือดเนื้อของพี่น้องทั้งหลายทั่วประเทศไทยรวมกันมาเป็น ๔,๐๐๐ กิโลในการช่วยชาติคราวนี้ แล้วก็ส่วนที่เราพูดไว้แล้วนั้นอย่ามายุ่งไม่ได้นะ ที่เราว่าอย่างน้อย ๘๐๐ ล้านนะ นี่เราพูดอย่างน้อย ๘๐๐ ล้านนี้เราจะซื้อทองคำเข้าสู่คลังหลวง เพราะเราเป็นห่วงคลังหลวงมากกว่าทุกอย่าง ทองคำจำนวนที่จะซื้อมาจากเงิน ๘๐๐ ล้านนี้จะเอาขึ้นต่อยอดต่างหากนะ ไม่ได้เอามาเป็นเนื้อเป็นหนัง อย่าไปแย่งเอามาเป็นเนื้อเป็นหนัง แย่งไม่ได้นะ อันนั้นสำหรับต่อยอดต่างหาก ๔,๐๐๐ กิโลเป็นเนื้อหนังของพี่น้องชาวไทยทั้งหลายเองรวมกัน ส่วนต่อยอดนี้เอาจาก ๘๐๐ ล้านนี้ขึ้นต่อยอด

ถ้าหากว่าได้ตามนี้ก็ไม่ต่ำกว่า ๖ ตัน หรือ ๖,๐๐๐ กิโล ไม่ควรจะให้ต่ำกว่านี้นะ เงินสดที่จะซื้อทองคำเข้าสู่คลังหลวง อย่างน้อยกำหนดไว้แล้วว่า ๘๐๐ ล้านนี้เคลื่อนไม่ได้เลย เราตายก็ต้องเดินตามนี้ ส่วนแยกออกไปนั้น ๕๐ กว่าล้านมันก็จะได้ของมันไปเรื่อย ๆ อันนี้ไม่จำเป็นจริง ๆ เราไม่แยก เราคิดไว้ในใจ มีแต่จะดึงเข้าไปหาทองคำเหล่านี้ ดึงเข้าไปหาจำนวน ๘๐๐ ล้านตลอดไป ให้กรุณาทราบเอาไว้ ทีนี้ที่มอบเข้าคลังหลวงแล้วครั้งแรกเป็น ๑,๐๓๗ กิโลครึ่ง ฝากครั้งที่สองนี้ ๑,๐๒๕ กิโล เป็นสองครั้ง รวมแล้วเป็น ๒,๐๖๒ กิโลครึ่ง ที่เราทั้งมอบทั้งฝากทั้งจริงทั้งปลอมว่างั้นเถอะน่ะ เป็น ๒,๐๖๒ กิโลครึ่งเวลานี้นะ ทองคำหลังจากที่ได้ฝากและมอบไว้แล้วนั้น ได้มาทีหลังอีก ๒๑ กิโล ๔๗ บาท ๗๓ สตางค์ อันนี้ยังไม่ได้หลอม คือทองคำต่างประเภทเอามารวมแล้วเป็นน้ำหนัก ๒๑ กิโล ๔๗ บาท ๗๓ สตางค์นี่นะ อันนี้ยังไม่ได้หลอม และรวมทองคำทั้งที่หลอมแล้วและยังไม่หลอมได้ ๒,๐๘๔ กิโล ให้พี่น้องทั้งหลายทราบเอาไว้

ส่วนดอลลาร์ที่เราเอาไปมอบคราวที่แล้วนี้ว่า ๑ ล้านดอลฯ นั้นเวลานี้ยังมอบไม่ได้ เหตุผลยังไม่ลงน่ะซี ดอลลาร์เหล่านี้เราเก็บไว้ที่ธนาคารเสียก่อน เรากะเอาไว้ว่า ๑ ล้าน แต่เวลานี้เราชักจะแน่ใจว่าคงจะพอ ๑ ล้านแล้วนะ แต่นี้อ่านแต่บัญชีเก่าน่ะซิ ได้แล้ว ๙๒๖,๕๔๙ ดอลฯ ยังขาดอยู่อีก ๗๓,๔๕๑ ดอลฯ ขาดอยู่ทุกวัน อันนี้ขาดทุกวัน ได้มานี้ก็เป็นหมื่นแล้วนะ นี่ก็ยังขาดเท่าเดิม วันนี้ตั้งหมื่นกว่าแล้วนี่ วันนี้ได้ดอลลาร์มาจากภูสังโฆ ๑๑,๖๕๐ ดอลฯ อันนี้มันก็ขาดของมันอยู่อย่างนี้ บัญชีมันมีอยู่ทั้งทางกรุงเทพฯ ทั้งทางนี้นะ เพราะฉะนั้นจึงไม่ค่อยได้อ่านบัญชี บัญชีกับเราไม่มีปัญหาอะไร ทางกรุงเทพฯ ก็มี ครั้นเวลาจะรวมตัวจริง ๆ แล้ว ก็ต้องรวมทั้งทางกรุงเทพฯ ทางอุดรฯ เข้ากันแล้วบอกจำนวนเท่านั้น นาน ๆ อ่านทีนึง ถึงอย่างไรก็ตามมันเข้าบัญชีทั้งหมดแหละเหล่านี้นะ ให้พี่น้องทั้งหลายทราบเอาไว้

นี่เราได้พยายามเต็มกำลังความสามารถ พี่น้องทั้งหลายอย่าอ่อนข้อไม่ได้นะ ให้ฟังเสียงธรรม เราพิจารณาเราบอกตรง ๆ เราจะไม่หาใครมาเป็นเครื่องปรึกษาหารือ เราจะพิจารณาโดยธรรมของเรา ธรรมพระพุทธเจ้าธรรมแน่นอน พิจารณาตรงแน่วตรงไหนออกตรงนั้นพุ่ง ๆ พุ่งไปเลย ให้ฟังเสียงธรรมก็แล้วกัน ไม่อยากให้บ้านเมืองล่มจมให้ฟังเสียงธรรม ธรรมไม่เคยทำใครให้ล่มจม ธรรมบอกตามความสัตย์ความจริง นี้สอนทุกอย่างแล้ว เบิกทางให้หมด ทางแคล้วคลาดปลอดภัยเป็นยังไง ธรรมจะบ่งจะบอกเพื่อความแคล้วคลาดปลอดภัย ความสวัสดีและแน่นหนามั่นคงแห่งชาติไทยของเรา ด้วยธรรมเป็นผู้คุ้มครองรักษา ให้ฟังเสียงธรรมอย่าฟังเสียงกิเลส มีแต่ที่จะกินจะกลืนรีดไถ กลืนคนทั้งชาตินี้โดยถ่ายเดียวเท่านั้น นี้คือเรื่องของกิเลส เรื่องของธรรมพยุงสัตว์ทั้งหลายให้มีความร่มเย็นเป็นสุขแน่นหนามั่นคงทั่วหน้ากัน นี้คือเสียงธรรม ให้พากันฟังเสียงอรรถเสียงธรรมนะ

เราก็ได้พยายามเต็มเหนี่ยว การแนะนำสั่งสอนเพื่ออรรถเพื่อธรรมเพื่อความสงบร่มเย็น เป็นหน้าที่ของธรรม เป็นหน้าที่ของเรา เราสอนเต็มเม็ดเต็มหน่วย ส่วนผู้จะยึดไปปฏิบัติตามธรรม เป็นหน้าที่ของพี่น้องชาวพุทธบริษัททั่วประเทศไทยจะทำหน้าที่ของตัวเอง ให้เป็นเนื้อเป็นหนังต่อตัวเองและส่วนรวม ตลอดชาติไทยของเราให้มีความแน่นหนามั่นคง ให้ตั้งหน้าตั้งตาทำด้วยกันทุกคนเต็มเม็ดเต็มหน่วย อย่าอ่อนข้อย่อหย่อนนะ อย่าไปสนิทติดจมกับข้าศึกศัตรูใด อุบายใดของข้าศึกศัตรูที่จะมาในแง่ต่าง ๆ มี ให้ระมัดระวัง มันจะมาเกลี้ยกล่อมแบบไหน ๆ อย่าฟัง เกลี้ยกล่อมแบบโจรแบบมารแบบมหาภัยต่อชาติไทยของเราอย่าฟัง ให้ฟังเสียงธรรม

ธรรมนี้ตายใจได้เลย เสียงโจรเสียงมารเสียงกระซิบกระซาบยุแหย่ก่อกวนประเภทต่าง ๆ มันจะมาทุกซอกทุกแง่ทุกมุม อย่าฟังเสียงมันนะ เสียงอันนี้เสียงอันตรายต่อชาติของเราอย่าฟัง ปัดออกทันที ๆ ให้ฟังแต่เสียงธรรม เปิดทางเดินเพื่อธรรม ๆ เท่านั้น บ้านเมืองเราจะมีความเจริญรุ่งเรืองแน่นหนามั่นคง เป็นปึกแผ่นแน่นหนาจากหัวใจชาวไทยของเรา ซึ่งต่างคนต่างมีหัวใจปึกแผ่นแน่นหนามั่นคงต่อความกลมกลืนสามัคคีกัน อันนี้เป็นสำคัญมากนะ ความกลมกลืนสามัคคีเป็นปึกแผ่นแน่นหนาแห่งน้ำใจของเราแต่ละคนแล้ว ชาติไทยของเราจะแน่นหนามั่นคงไปตาม ๆ กัน พากันจำข้อนี้เอาไว้นะ

เวลานี้ภัยกำลังรอบด้านชาติไทยของเรา ให้ต่างคนต่างตั้งเนื้อตั้งตัว อย่าสนิทติดจมกับอุบายใดที่เป็นเรื่องที่จะเป็นฟืนเป็นไฟมาเผาคนทั้งชาติเราไม่สมควร ให้ฟังเสียงธรรม เราเป็นลูกชาวพุทธฟังเสียงพุทธ ฟังเสียงธรรม ฟังเสียงพระสงฆ์ท่านประกาศก้องมานานเท่าไร ให้เอานี้ยึด เอ้า ถ้าจะจมให้จมด้วยอำนาจแห่งธรรม ไม่เคยมีมาแต่กัปไหนกัลป์ใด ไม่เคยมี ชาติไทยปฏิบัติตามพุทธแล้วจะจมก็ให้เห็นซิ ส่วนมากมีแต่จมด้วยอำนาจของกิเลส บ้านเมืองเราจะจมเวลานี้ก็เพราะอำนาจของกิเลสนั่นเอง เราจะฟื้นฟูขึ้นด้วยธรรม มันจะจมไปที่ไหนว่ะ

หลวงตาระยะนี้ก็ดี ฉันจังหันก็พอได้บ้าง ในอาทิตย์กว่า ๆ มานี้ ดูเหมือนจะ ๒ อาทิตย์แล้วมั้งฉันจังหันรู้สึกว่าดีขึ้นบ้างเล็กน้อย ๆ ธาตุขันธ์ก็ค่อยดีขึ้น

ทูลกระหม่อมจะเสด็จนั้นเราก็ได้ประกาศให้ทราบแล้วว่าวันที่ ๙ เข้าใจว่าวันที่ ๘ ตอนค่ำท่านจะเสด็จถึงอุดรฯ แล้วประทับค้างแรมที่เจริญศรี แล้วตอนเช้าวันที่ ๙ ท่านจะเสด็จเข้ามาที่นี่ ตอนเช้าวันที่ ๙ มาตอน ๗-๘ โมงนี้แหละ หลังจากนั้นแล้วตอนบ่าย ๒ โมงของวันที่ ๙ ท่านจะเสด็จไปในงานทุ่งศรีเมืองเราที่จังหวัดอุดรธานี จึงขอให้พี่น้องทั้งหลายไปชมพระบารมีท่านด้วยการสักการะบูชาโดยทางทองคำ ดอลลาร์ เงินสด ได้หนาแน่นเท่าไรยิ่งดี ให้พากันบูชาพระคุณท่านที่ท่านเสด็จมาในงาน นาน ๆ มาที แต่เมืองอุดรฯ เรารู้สึกจะได้เปรียบเมืองทั้งหลายอยู่บ้างนะ ท่านเสด็จมาบ่อย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้า ท่านก็เสด็จ แม้จะผ่านไปสกลฯ ก็ผ่านอุดรฯ นี่ เราก็มีส่วนได้ ๆ ตลอด ท่านก็เสด็จมาเรื่อย ๆ

สำหรับฟ้าหญิงนี้ท่านเสด็จมาบ่อย รู้สึกเป็นวาสนาบารมีของพี่น้องชาวจังหวัดอุดรฯ เรา ท่านเสด็จมาคราวนี้ขอให้ตั้งหน้าตั้งตา เตรียมเครื่องสักการะบูชาไว้เทิดทูนพระเกียรติท่าน แล้วจะเป็นเกียรติยศชื่อเสียงโด่งดังของประเทศไทยเรา เป็นอันดับสอง นี่ให้พากันตั้งอกตั้งใจ

คราวนี้เป็นคราวที่หลวงตาออกสนามเอง ขึ้นธรรมาสน์เอง เป็นผู้นำพี่น้องชาวอุดรฯ เรา เพราะอุดรฯ นี้เป็นเมืองของหลวงตา ซึ่งเป็นผู้นำพี่น้องชาวไทยเราทั่วประเทศ บัดนี้ย้อนเข้ามานี้ จะมาเป็นผู้นำของพี่น้องชาวอุดรฯ เรา เวลาเป็นผู้นำของพี่น้องทั้งประเทศไม่ได้ขายหน้านะ ทองคำได้ตั้ง ๒,๐๘๔ กิโล ถ้าพูดถึงเรื่องตันก็ได้ ๒ ตัน ๘๔ กิโล ดอลลาร์รวมแล้วไม่ต่ำกว่า ๕ ล้าน เงินสดก็บอกที่ยังมีอยู่ในธนาคารเวลานี้ ๘๕๐ กว่าล้าน นี่เป็นผลงานของพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศ เป็นสง่าราศีดีงามชุ่มเย็นมาตลอด

ทีนี้ย่นเข้ามาหาเมืองอุดรฯ นี้ เป็นเมืองหลวงตาบัวซึ่งเป็นผู้นำของพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศแล้วจะได้ทองกี่สลึง เอาไปพิจารณากันนะ ดอลลาร์ ๑ เซ็นต์หรือ ๒ เซ็นต์ เงินบาทได้ ๔ บาทหรือ ๕ บาท อย่าให้ได้ยินนะ คอขาดให้หลวงตาขาดไปอย่างสบายหายห่วง อย่าขาดด้วยความบกพร่องว่าพี่น้องชาวอุดรฯ เราขายหน้าหลวงตาบัว ให้หลวงตาบัวคอขาดด้วยพี่น้องชาวอุดรฯ แล้วจมไปเลยเทียว คอขาดให้ขาดไปด้วยว่าความยินดีเทิดทูนชาติไทยของเรา ด้วยความพร้อมเพรียงสามัคคีของพี่น้องชาวอุดรฯทั้งหลายเรา รวมแล้วจุดนี้เป็นจุดที่เมืองอุดรฯ ซึ่งเป็นเมืองเกิดของหลวงตาบัวด้วย เป็นผู้นำพี่น้องทั้งหลาย อย่าขายหน้าในจุดนี้เป็นอันขาด ให้พากันฟังทุกคน

หลวงตาถอดออกมาจากหัวใจจริง ๆ เพื่อจะเทิดเมืองอุดรฯ เราขึ้นนี้อันหนึ่ง อย่าให้น้อยหน้าต่อบรรดาพี่น้องต่างจังหวัดทั้งหลาย ให้สม่ำเสมอกันไป ถ้าให้เหมาะสมก็คือว่าเมืองอุดรฯ ได้มากกว่าเขา เพราะเป็นเมืองผู้นำ ต่ำกว่านั้นเราไม่อยากฟังนะ ถ้าว่ามากกว่าเขาแล้ว เอ้อ เหมาะสม มิหนำซ้ำฟ้าหญิงท่านก็เสด็จอีกด้วย เราขายท่านไม่ได้นะ อย่าขายท่านนะ เข้าใจไหม เอ้า เทิดทูนท่าน ฟาดให้มันหนาแน่นเต็มทุ่งศรีเมืองนั่นละ ต้นผ้าป่า ต้นทองคำ ต้นดอลลาร์ หลวงตาบัวเข้าตรงนี้ไม่ได้ หลวงตาบัวจะไปเข้าด้านหลังขึ้นธรรมาสน์เลย ประกาศก้องกิตติคุณของพี่น้องชาวอุดรฯ เราให้ได้ทราบทั่วถึงกัน เอาละไม่จนตรอก ขึ้นเวทีจนได้ คือเข้าข้างหน้าไม่ได้ก็เข้าข้างหลัง เข้าข้างหน้ามีแต่ต้นผ้าป่าเต็มหมด ไปเข้าด้านหลังขึ้นเวทีเลย เอาละทีนี้ให้พร

เปิดดูข้อมูล วันต่อวัน ทันต่อเหตุการณ์ หลวงตาเทศน์ถึงเรื่องอะไร ทาง internet

www.luangta.com


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก