เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๖ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๐
พระองค์สำคัญ
ก่อนจังหัน
เรื่องผู้คนที่เข้ามาอยู่ในบริเวณวัดนี่ ศาลาใหญ่ทุกแห่งทุกหนนอนเกลื่อนกลาดอยู่ตามนั้น ไม่ทราบมาจากไหน หรือไปฉกไปลักไปขโมยเขามาหลบซ่อนอยู่ในวัดนี้ก็ได้ ให้ ตชด.เราไปเที่ยวตรวจตราดู ให้ไล่ออกอย่าเอาไว้ วัดนี้ไม่ใช่วัดสำเพ็ง เป็นที่หลบซ่อนพวกโจรพวกมารก็ได้ เพราะมันมากต่อมาก เราไปตอนเช้าๆ ไปดู นอนอยู่ทุกแห่งทุกหน ไม่กำหนดกฎเกณฑ์ว่ามาจากที่ไหนๆ บ้าง ศาลาใหญ่ก็มี นอกศาลาใหญ่ไปก็มี ให้ ตชด.เราไปเที่ยวตรวจดูแล้วควรออกให้ออก ให้มีกำหนดกฎเกณฑ์ชาวบ้านชาววัด นี่เป็นวัดไม่ใช่เป็นบ้าน ชาวบ้านที่จะมาอยู่ในวัดก็ต้องมีข้อตกลงด้วยเหตุผลกลไกที่สมควรจะฟังกันได้ถึงรับได้นะ อันนี้เต็มไปหมด เราไปดูแล้ว เอ้อ วัดนี้เลอะเทอะแล้วนะ ไปที่ไหนเลอะเทอะ อยู่ที่ศาลาก็ไม่ขาด
โยมคนหนึ่งอยู่ศาลานี่ ผู้ชายคนนั้นเห็นอยู่นี้นานแล้วให้ไปนะ ไม่ให้อยู่ ได้ทราบว่ามีเมียมาอยู่ในครัวด้วย ให้เอาไปทั้งเมียด้วยอย่าให้มาหนักใจเรา นี่เป็นลูกเต้าหลานเหลนของพี่น้องทั้งหลาย เราไม่มีลูกมีเมีย แต่แบกลูกของเขาจะตายแล้วนะ แล้วใครรับผิดชอบ ในวัดนี้ก็เราเป็นคนรับผิดชอบ หนักอึ้งเทียว มันเลอะเทอะไปหมดแล้วเวลานี้ วัดนี้กำลังเริ่มเลอะเทอะ นอนอยู่ทุกแห่งทุกหน ให้ไปตรวจตราดู สมควรจะให้ออกให้ออก วัดมีขอบเขต บ้านมีขอบเขตนี่นะ มาลามปามกันได้ยังไง ดูแล้วมันดูไม่ได้
วัดนี้จะกลายเป็นตลาดสำเพ็งหรือตลาดหลบซ่อนของโจรได้ ไปหาฉกหาลักเขามาแล้วมาหลบซ่อนอยู่ตามนี้ก็ได้ แน่ะมันมากต่อมาก ให้ดูนะ พวกนอนอยู่ศาลาให้เข้าไปบ้าน ใครอยู่บ้านใดเมืองใดให้กลับไป นี่เป็นวัดสถานที่อยู่ของพระ มันเลอะเทอะไปหมดแล้วเวลานี้ ไปที่ไหนดูไม่ได้ ได้ยินไหมพวกที่นอนอยู่ศาลาข้างนอกนั่นน่ะ รอบๆ ศาลานั้นให้ออก ไม่ให้เข้าไม่ให้อยู่ ควรจะอยู่มากน้อยต้องมีเหตุผลตกลงกันถึงถูก อันนี้สุ่มสี่สุ่มห้ามานอนเกลื่อนอยู่ ไปหาฉกหาลักเขามาแล้วมาหลบซ่อนอยู่ในวัดนี้ก็ได้ เราไม่ได้แน่ใจละ
มันกำลังเลอะเทอะนะวัดป่าบ้านตาดเวลานี้ ไม่ทราบว่าจะมองดูใครต่อใคร มองไม่ทัน ทาง ตชด.ก็จะตายเหมือนกันตรวจตราพาทีคนนั้นคนนี้ ทั้งรถทั้งรา ทั้งผู้คนสัญจรไปมาไม่มีกำหนดกฎเกณฑ์ ลำบากเหมือนกัน พากันจำเอาไว้ อยู่ที่ศาลามานอนเกลื่อนกล่นไม่ได้นะ ไม่มีขอบมีเขตเลยเวลานี้ แล้วพวกนี้เป็นพวกที่ไม่เคยมีขอบมีเขต แล้วเข้ามาในวัดซึ่งเป็นสถานที่มีขอบมีเขต เลยเข้ากันไม่ได้ ขวางมากทีเดียว พากันจำเอาไว้นะ ใครที่นอนอยู่ตามศาลงศาลาเหล่านั้นให้ออกให้หมด อย่ามาอยู่ที่นี่ นี่เป็นวัด บ้านของใครให้ไปอยู่ ให้พร
วัดนี้พิลึกมากคืออาหาร ถ้าไม่พิจารณาด้วยดีแล้วธรรมแห้งผาก พุงเต็มธรรมแห้ง เราผ่านมาหมดแล้ว วัดนี้เป็นวัดเหลือเฟือทางอาหาร แต่ธรรมเราไม่รับรอง มันจะเป็นยังไงธรรมในหัวใจกับอาหารในท้อง อาหารในท้องเต็ม ธรรมในหัวใจเป็นยังไง ต้องคิดสิ่งเหล่านี้ผู้ปฏิบัติธรรม เรื่องอาหารนี่สำคัญ มีอำนาจมาก พวกลิ้นพวกปากมีอำนาจมากบีบธรรมๆ อันนั้นก็ดีอันนี้ก็ดี ใส่เข้าไปๆ ธรรมแตกกระจาย เวลาจะภาวนามีแต่ความง่วงเหงาหาวนอน ความขี้เกียจขี้คร้าน ไม่เป็นท่านะ ฟังให้ดีพระเราผู้ปฏิบัติ
ที่สอนเหล่านี้ทำมาหมดแล้ว อาหารการกินต้องได้สังเกตพินิจพิจารณาเสียก่อน ไม่เห็นแก่ลิ้นแก่ปากอย่างเดียว เพราะเรามาปฏิบัติธรรมต้องเห็นแก่ธรรมเป็นอันดับหนึ่งขึ้นไว้เลย อะไรจะเป็นข้าศึกต่อธรรมยังไงบ้าง บางอย่างสำหรับธาตุขันธ์แล้วดีแต่เป็นภัยต่อธรรมการภาวนา อย่างนั้นก็ต้องได้ระวัง ต้องได้ลดหรืองด ถ้าเห็นแก่ลิ้นแก่ปาก...ตาย ภาวนาให้ได้ทรงมรรคทรงผลซิ นี่มันจะทรงตั้งแต่ฟักแฟงแตงโมแหละ มรรคผลไม่มี
เริ่มแล้วนะ ต่อไปนี้พูดถึงเรื่องมรรคผลนิพพานหัวเราะกันนะ ชาวพุทธชาวพระเรานี่ พูดถึงเรื่องมรรคผลนิพพานตามทางศาสดาสอนไว้แล้ว มันจะหัวเราะเยาะกันไปหมดแล้วนะ ถ้าพูดเรื่องส้วมเรื่องถาน ความโลภโลเลกิเลสตัณหานี้มันกระหยิ่มกันตลอดเวลา มันกำลังเป็นบ้ามนุษย์เราเวลานี้ บ้าราคะตัณหา ตัวสำคัญมากทีเดียว มันเต็มบ้านเต็มเมือง ได้มาเท่าไรไม่พอๆ กิเลสตัณหาไม่มีคำว่าพอ ถ้าธรรมแล้วเต็ม เหมือนน้ำเต็มแก้ว เอาน้ำมหาสมุทรมาเทก็ล้นไปหมด ธรรมเป็นอย่างนั้นพอถึงเต็มแล้วหยุดๆ กิเลสไม่มี เหมือนตะกร้าตักน้ำเทลงไปไหลออกหมดเลย กิเลสไม่มีคำว่าพอ ถ้าธรรมแล้วพอเป็นระยะๆ
ถ้าใครหมุนไปทางกิเลสตายทิ้งเปล่าๆ เป็นเศรษฐีก็ตายด้วยกองทุกข์กองเท่าภูเขากองทุกข์น่ะ กองเท่ากองเงินกองทองแหละกองทุกข์ผู้ไม่มีธรรม ถ้ามีธรรมมีหรือไม่มีอะไรพิจารณาโดยธรรมๆ ผ่านได้ๆ สะดวก ทางใจก็สบาย ทางร่างกายก็พอเป็นอยู่ โลกนี้ก็เย็น โลกหน้าก็เย็น เราก็สอนไปอย่างนั้นแหละใครจะฟังก็ไม่ทราบนะ พอมานั่งปั๊บแล้วแก้วนั้นมาแก้วนี้มา แก้วนั้นดีแก้วนี้ดี พอฉันไปแล้วขี้แตกป้าดไปนู่น ยังไม่ได้ฉันจังหันเลยขี้แตก ก็แก้วนั้นไล่แก้วนี้ไล่ ว่าแต่ผู้อื่นไม่ว่าเจ้าของบ้างได้เหรอ ธรรมะสอนทุกคน เจ้าของพอนั่งปั๊บเอาแก้วนั้นมาแก้วนี้มา ครั้นฉันไปฉันมาท้องเดียวกันไปผสมผเสกันแล้วก็ทะเลาะกัน ไล่เราเข้าส้วม เป็นอย่างนั้นนะ
หมู่เพื่อนบิณฑบาตอยู่ในบ้าน เรากินเสียอิ่มแล้ว เอารัดเอาเปรียบ ก็แล้วแต่ใครจะพิจารณา พอนั่งปั๊บแก้วนั้นมาแก้วนี้มา หมู่เพื่อนยังบิณฑบาตอยู่ในหมู่บ้าน ทางนี้ฟัดก่อนแล้วๆ ขี้แตกแล้ว กินไม่หยุดไม่ถอยก็ขี้แตกซีมันไม่มีทางออก มีทางออกแต่ก้นอย่างเดียว ขี้แตก
หลังจังหัน
ฉันตามสบายพระ ฉันตามสบาย เราหัวหน้ามันเอาแน่ไม่ได้ เอะอะฟัดก่อนแล้ว หมู่เพื่อนยังบิณฑบาตอยู่ในหมู่บ้านทางนี้ฟัดก่อนแล้วๆ หมู่เพื่อนกลับมายังไม่อิ่ม สุดท้ายเวลาฉันก็ฉันก่อนเพื่อนตลอด แล้วอิ่มทีหลังหมู่เพื่อน เราเอาแน่ไม่ได้นะ มีผิดปรกตินิดหน่อยวันนี้ ธาตุไม่รับอาหาร วันนี้ไม่รับ ฝืนจัด มันเป็นของมัน เวลาฉันจังหันเห็นองค์นั้นอิ่มองค์นี้อิ่ม นี่หมายถึงกรรมฐานนะ องค์นั้นอิ่มองค์นี้อิ่ม องค์นั้นหยุดองค์นี้ออกไป หดเข้ามาๆ ยังอีกสามสี่องค์จะถึงเรา จะทำยังไง ไม่อิ่มก็ออก อายๆๆ ไม่ใช่อะไรนะ ไม่อิ่มก็ออก ออกไปมันก็ไม่อิ่ม ไม่อิ่มก็ช่างหัวมัน พระเหล่านั้นท่านทำไมหยุดได้ๆ ท่านอิ่มหรือไม่อิ่มก็ไม่รู้ เห็นท่านออกไปอายพระอายเพื่อนฝูง ดี คนเราให้มีอายแหละดี
เรามันหลายพักเกี่ยวกับปฏิบัติกรรมฐาน อยู่โคราชทั้งเรียนหนังสือทั้งออกปฏิบัติ พอว่างจากเรียนก็เข้าไปอยู่ในป่า จนกระทั่งหยุดเรียนแล้วที่นี่ออกเลย พอได้เปรียญ ๓ ประโยคเพราะตั้งสัจจะอธิษฐานไว้เท่านั้น ไม่ให้เลย ลงได้ถึงมหา ๓ ประโยคแล้วเป็นช่องเป็นทางเป็นแบบแปลนแผนผังในการปฏิบัติได้เป็นอย่างดี ออก ว่างั้นเลย พอถึงนั้นปั๊บออกเลย
ท่านอาจารย์คำดี วัดถ้ำผาปู่ ท่านจำได้อย่างฝังใจท่านว่างั้น เราเรียนหนังสืออยู่โคราช ท่านอยู่วัดสาลวัน ท่านเข้าๆ ออกๆ ไปเที่ยวทางอำเภอปักธงชัย สะแกราช เที่ยวในป่าในเขา ท่านอยู่วัดสาลวัน วัดศรัทธารวมบ้าง เราอยู่วัดสุทธจินดา กำลังเรียนหนังสือ เวลาเราว่างจากเรียน ท่านมีประชุมเทศน์วัดสาลวัน เราไปไม่ให้ขาด แล้วก็สนิทสนมกับท่านอาจารย์คำดี เราก็บอกว่า เรียนนี้พอจบจากการเรียนตามคำอธิษฐานเรียบร้อยแล้วเท่านั้นจะออกปฏิบัติ ท่านกลับมาเจอกับเรานี้ พอหยุดเรียนแล้วก็เข้าป่าหาพ่อแม่ครูจารย์มั่นจนกระทั่งไม่ทราบว่ากี่ปี ถึงมาพบท่านอีก
ท่านพูดรู้สึกมีความตื่นเต้นมาก โห ท่านมหา ผมไม่ลืมนะคำพูดท่านมหา ท่านไปเรียนหนังสืออยู่โคราช ท่านมหาบอกว่าจะออกปฏิบัติ เมื่อเรียนจบตามความมุ่งหมายแล้วจะออกปฏิบัติ ก็ออกจริงๆ ท่านพูดด้วยความตื่นเต้น มาพบกัน แต่ตอนที่จะมาพูดด้วยความตื่นเต้น เราไปอยู่กับพ่อแม่ครูจารย์นานแล้วแหละ จากนั้นมาก็เกี่ยวข้องกันตลอดกับท่านอาจารย์คำดี
เราพูดเสียเองเรายังไม่ลืม มีผู้ใหญ่ไปส่งท่าน ท่านไปผ่าต่อมลูกหมาก เขาใส่เครื่องบินมาลงทางจังหวัดเลย จากนั้นเขาก็มาหาเราพวกลูกศิษย์ลูกหา ว่าท่านสั่งเสียดิบดีท่านไม่ไว้อะไรทั้งนั้น พอเขามากราบเรา เขามาจากจังหวัดเลยมากราบ ว่าท่านอาจารย์คำดีฝากคำมาถึงท่านอาจารย์ว่า ขอความฝากความคิดถึงบุญถึงคุณไปหาท่านมหาบัวด้วยนะ ท่านมหาบัวเป็นอาจารย์ของอาตมา เราร้องโก้กเลย โอ๊ย เราเคารพท่านสุดหัวใจ ทำไมมาพูดอย่างนี้ ก็ท่านสั่งมาอย่างนั้น เอาละสั่งมาก็สั่ง แต่ความเคารพของเราสูงตลอดในครูบาอาจารย์ หมายถึงท่านอาจารย์คำดี
เราออกปฏิบัติแล้วท่านมาพบเรา โอ๊ย ทำไมพูดมีความสัตย์ความจริง พูดอย่างตื่นเต้นนะ ผมไม่ลืมที่ท่านมหาพูดอยู่โคราชว่า หยุดจากการเรียนแล้วจะออกปฏิบัติ แล้วก็ออกจริงๆ เราก็อยู่กับพ่อแม่ครูจารย์มั่นนานแล้วแหละ จนกระทั่งถึงได้มาพบกัน จากนั้นก็เกี่ยวข้องกันตลอดมา สุดท้ายก็เลยเป็นอย่างว่า ท่านบอกว่าท่านมหาบัวเป็นอาจารย์ของอาตมา เป็นจริงๆ นะ ท่านพูดอย่างเปิดเผย เมื่อท่านพูดเปิดเผยมาก่อนแล้วเราก็เลยพูดตามหลังท่าน ก็เป็นความจริง เห็นได้อย่างชัดเจนก็คือ ไม่รู้เป็นยังไงใจมันถึงกันแปลกอยู่ ถ้ำผาปู่เราก็ยังไม่เคยไปเลย
ตอนเช้าวันนั้นท่านอาจารย์คำดีท่านพิจารณา เดินจงกรม เกิดปัญหาขวางหัวใจ เหมือนแหลมเหมือนหลาวทิ่มแทงหัวใจ แก้ยังไงไม่ตกๆ มองเห็นแต่ท่านมหาองค์เดียว องค์อื่นไม่มองเห็นเลยมองเห็นแต่ท่านมหาองค์เดียว ปุ๊บปั๊บขึ้นมาจากที่เดินจงกรมขึ้นไปจุดธูป ท่านพูดอย่างนั้นจะให้ว่าไง จุดธูปจุดเทียบเสร็จเรียบร้อยกราบพระแล้ว ขออาราธนาท่านมหาบัวมาโปรดโดยด่วน โดยด่วนด้วย ไอ้เราก็เป็นจังหวะอะไรก็ไม่ทราบ วันนั้นเราขึ้นรถจรวดก็ถูกเพราะรีบ เข้าใจไหม เราก็ไปวันนั้นไปถึงท่าน โอ๊ย มาเร็วอยู่นะ เร็วอะไร เออ มันจะได้พูดกัน คือท่านไปจุดธูปแล้วไม่ได้บอกว่านิมนต์ละ ท่านบอกว่าอาราธนาท่านมหาบัวมาโปรดโดยด่วน แล้วเราก็ไปตอนเที่ยงวันนั้นไปถึงท่าน อู๊ย มาเร็วอยู่นะ
วัดถ้ำผาปู่เราก็ไม่เคยไป นั้นเป็นครั้งแรกสำหรับเรา โห มาเร็วอยู่นะ บทเวลาท่านเล่าท่านจุดธูปจุดอะไร ขอนิมนต์ท่านมหามาโปรดโดยด่วน เมื่อเช้านี้เอง แล้ววันนี้ก็มาแล้ว กระผมมาสะเปะสะปะตามประสาบ้าของผมแหละ บ้าไม่บ้าก็ช่างเถอะได้พบทั้งหนังทั้งเขาแล้วพอ ได้สักขีพยานแล้วพอ ที่ท่านว่าท่านมหาบัวเป็นอาจารย์ของอาตมาก็เข้ากันได้ คือท่านพูดอย่างเปิดเผย ท่านพูดไม่มีอาวุโสภันเต ท่านพูดโดยความเป็นธรรมล้วนๆ ท่านได้คติอะไรจากเราท่านก็ยกขึ้นพูด
ท่านอาจารย์คำดีที่ท่านฝากความคิดถึงมาถึงเรา พวกลูกศิษย์ลูกหาผู้ใหญ่เขาไปส่งท่านที่จังหวัดเลย ท่านไปผ่าต่อมลูกหมาก ขึ้นเครื่องบินมา เขาไปส่งท่านแล้ว เวลากลับมาเขากราบท่านแล้วท่านก็สั่งคำมา ให้มาขอบบุญขอบคุณเรา สุดท้ายก็ว่า ท่านมหาบัวเป็นอาจารย์ของอาตมา เราสะดุ้งเลยเราเคารพท่านนี่นา ส่วนธรรมก็ยกไว้เสีย เราเคารพไม่อยากให้ท่านพูดอย่างนั้น โลกสมมุติเขาถือกัน ส่วนธรรมนั้นเป็นธรรมล้วนๆ ไม่มีสูงมีต่ำ ความถูกต้องดีงามเป็นหลักเกณฑ์ของธรรม แน่ะก็เป็นอย่างนั้น
ที่สนิทกันมากก็คือท่านอาจารย์คำดี สนิทสนมกันมากจริงๆ อย่างที่ท่านว่า ขออาราธนาท่านมหาบัวมาโปรดโดยด่วน ไอ้เราก็โผเผไปถึงท่านในค่ำวันนั้น แน่ะก็แปลกอยู่ ตอนเช้าท่านนิมนต์ ทั้งๆ ที่วัดถ้ำผาปู่เราไม่เคยไปก็ไปวันนั้นก็แปลกอยู่ มันดลบันดาลอะไร พอ ๕ โมงก็สั่งรถไปด่วนเลย เอารถทางอุดรร้านเชาวลิต เราเคยใช้รถบ้านนี้ ให้เขามาเดี๋ยวนี้ พอเที่ยงออกเลย ท่านนิมนต์ตอนเช้ามืด พอดีตอน ๕ โมงเราออกจากนี้ ค่ำก็ไปถึงนู้น โอ้ มาเร็วอยู่นะ เราก็ไม่รู้เรื่องรู้ราวมาเร็วมาช้า บทเวลาท่านเล่าให้ฟังถึงรู้เรื่อง
ท่านอาจารย์คำดีเรานี้ท่านฝึกหัดนิสัยได้ ดังที่พระพุทธเจ้าท่านทรงแสดงไว้ว่า บรรดาสาวกทั้งหลายนี้ละนิสัยวาสนาไม่ขาด ขาดแต่พระพุทธเจ้าพระองค์เดียว แต่ท่านอาจารย์คำดีนี้คงจะยกให้เป็นกรณีพิเศษ บรรดาสาวกทั้งหลายละนิสัยวาสนาไม่ขาด ใครมีนิสัยดั้งเดิมเป็นยังไงก็ปฏิบัติตามนิสัยเดิมของตน คือนิสัยเคยไปเคยมา เคยพูดเร็วพูดช้า กิริยาเป็นอาการยังไง นั่นเรียกว่านิสัย ท่านอาจารย์คำดีท่านตัดขาดเลย ที่ท่านไปฉีกผ้าต่อหน้าเณร เณรไปนั่งร้องไห้อยู่ต้นเสา เลยเอาเณรเป็นอาจารย์ใหญ่ ตั้งแต่นี้ต่อไปการดุด่าว่ากล่าวโผงผางโปงปางนี้ไม่เห็นเกิดประโยชน์อะไร ถ้าพูดถึงเสีย ถ้าปล่อยไปยังจะมีมากกว่านี้
เณรนี้เป็นเหตุ เณรไปนั่งพิงต้นเสา คือเย็บผ้าให้ท่าน เย็บผิด ท่านมาดูท่านฉีกต่อหน้าเณร เณรไปแอบนั่งร้องไห้ นั่นละท่านถือเป็นเหตุ เพียงจีวรผืนเดียวนี้ก็ทำให้เณรเสียใจจนร้องห่มร้องไห้ ต่อไปนี้ถ้าเราไม่ละนิสัยมันจะลุกลามไปกว่านี้นะ เอานับแต่นี้ต่อไปเราจะใช้นิสัยนี้ไม่ได้เลย ตัดขาดเลย ท่านตัดขาดจริง ท่านไม่ดุนะ จนกระทั่งวันมรณภาพ นี่ละท่านเด็ด ตัดขาดได้จริงๆ ท่านไม่เคยดุใครเลย อย่างที่ท่านจะพูดบ้าง ทั้งพระในวัดของท่าน ทั้งท่านเองท่านก็พูด ไม่ขึ้นต้นก็เอาตอนปลายเกี่ยวกับเรื่องเรา พระเหล่านี้ถ้าไปอยู่กับท่านมหาบัว ไม่ถึงสามวันละถูกไล่หนีจากวัดเลย บางทีก็ตอนท้ายเทศน์ บางทีก่อนจะเทศน์ คือท่านไม่ดุ มาหาเราเราดุละซิ
นี้ก็มาเป็นพยานอีก เราโผเผหนีจากหมู่เพื่อน รำคาญ ออกจากห้วยทรายหนีมา บอกว่าจะไปเยี่ยมโยมแม่ ใครก็จะรุมตาม ไปได้ยังไงก็ไปเยี่ยมโยมแม่หาความสงัดได้ที่ไหน นั่นละทางออก มาเยี่ยมโยมแม่ได้สองคืน ตีตั๋วปั๊บขึ้นรถไฟไปขอนแก่น นั่นละเรื่องราวเป็นอย่างนั้น ออกไปปฏิบัติจึงไปพบอาจารย์คำดีที่นั่น ท่านแปลกอยู่นะ ความรู้ของท่านแปลกทุกครั้งไม่ผิดพลาดนะท่านอาจารย์คำดี อย่างที่ว่าคราวนี้ ท่านถึงกับให้พระมารักษาศาลา ศาลาโรงฉันนั้นแหละ เราไปองค์เดียวนี่ ก็เราหนีจากหมู่เพื่อน จากนั้นเปิดลงจันท์ ไปจันทบุรี ไปคนเดียวไม่ให้ใครทราบ มันไม่สงบสงัดมันไม่สะดวกสบาย ก็เคยอยู่คนเดียวๆ มาแล้ว พอพ่อแม่ครูจารย์มรณภาพรุมเลย มันจะตายละซิเรา
ท่านบอก พอตื่นเช้ามา เออ เมื่อคืนได้นิมิตแล้ว จะมีพระองค์สำคัญมาหาเราเร็วๆ นี้ ให้ไปเฝ้าศาลาไว้ตั้งแต่เช้าวันนี้ ท่านพูดอย่างนี้ สั่งเลยเทียว ให้พระไปเฝ้าศาลาไม่ให้ขาด ให้ประจำอยู่ที่ศาลาเลย จะมีพระองค์สำคัญท่านก็ว่าของท่านเอง จะได้พบกับพระองค์สำคัญเร็วๆ นี้ พระองค์นั้นมาเฝ้าศาลาได้สองคืน พอเราไปก็เล่าเรื่องให้ฟัง ว่ามาอยู่ที่นี่ก็มาเฝ้าศาลา พระองค์นั้นก็ไม่รู้กับเรานะ เพราะเราก็ไปองค์เดียวนี่ ท่านบอกว่าท่านจะพบพระองค์สำคัญในเร็วๆ นี้ ให้พระไปเฝ้าศาลา ผมนี้เป็นองค์แรก มาเฝ้าได้กี่คืนแล้วล่ะ สองคืนนี้แหละท่านว่า ท่านบอกว่าจะพบกับพระองค์สำคัญในเร็วๆ นี้ ได้สองคืนเราก็ไป เวลาไปท่านก็เล่าให้ฟังจริงๆ ตรงกันก็เข้ากันได้
ความรู้ของท่านแปลกๆ บางทีเราอยู่ที่นี่ ท่านจะบอกทางโน้นเลยทางถ้ำผาปู่ วันนี้ท่านมหาจะมาหาเรา ปรากฏแล้ว พระเณรอย่าไปที่ไหนนะ ให้อยู่ตามแถวๆ นี้ ท่านมาส่วนมากจะตอนเที่ยงหรือจวนเที่ยงถึง พอฉันเสร็จแล้วเราก็ไป เราไปเห็นพระเพ่นพ่านๆ อยู่ตามบริเวณกุฏินั้น เอ๊ะ ทำไมพระผิดปรกติ ยั้วเยี้ยๆ อยู่ข้างๆ กุฏิท่านนั่นละ เวลาไป โอ้ มาแล้ว เอ้า มาแล้วยังไง ที่ไหนได้ท่านสั่งให้พระมารอ ท่านมหาจะมาวันนี้ นั่นเห็นไหมล่ะ ส่วนมากท่านจะมาถึงนี้ราวๆ เที่ยง เพราะฉันจังหันแล้วท่านมา ไปพระเต็มอยู่บริเวณ กุฏิท่านมีกำแพงรอบ ผิดปรกติพระ ไปถึงได้ทราบเรื่อง ท่านปรากฏในนิมิตแล้วว่าเราจะไป ก็ไม่เห็นผิด
ที่วัดศรีฐานก็เหมือนกัน ให้พระมาเฝ้าศาลาก็ถูก แน่ะ อันนั้นว่าจะได้พบพระองค์สำคัญ แต่ที่ถ้ำผาปู่ไม่ได้บอกพระองค์สำคัญ เพราะท่านรู้แล้วว่า วันนี้ท่านมหาจะมา สำคัญไม่สำคัญท่านก็รู้แล้ว ไปจริงๆ เรา ท่านแม่นยำมาก นี้พูดถึงท่านอาจารย์คำดี ท่านเด็ดเดี่ยว ท่านไม่ลืมตัว เป็นพระผู้ใหญ่ขนาดนั้นความเพียรจะอ่อน ท่านไม่อ่อนนะ มันจะเป็นเพราะอะไรเคยเกี่ยวพันกับเราตลอดมาทางด้านจิตใจ อาจจะเป็นอันนี้เป็นเครื่องพยุงใจท่านให้มีกำลังใจไม่ให้ลืมตัว เป็นพระผู้ใหญ่ท่านไม่ได้ปล่อยความเพียร ความเพียรท่านเด็ดตลอด พอดีพบกันเรื่อยกับเรา ธรรมะก็พยุงกันเรื่อย นั่นละพอถึงที่นั่นแล้วก็วาระสุดท้ายแล้วก็สิ้น กิเลสหมด
สุดท้ายตอนที่ท่านร้องโก้กเลยท่านติดปัญหา ที่ว่าขออาราธนาท่านมหาบัวมาโปรดโดยด่วนนั่นละ ตอนเช้ามืดท่านเดินจงกรม แล้ววันนั้นเราก็โผเผไปพอดีมันอะไรก็ไม่รู้ ไอ้เราก็เหมือนบ้าตัวหนึ่งเหมือนกัน โฮ้ มาเร็วนี่นะ เร็วไง มันจะได้พูดกันท่านว่า ท่านมาเล่าให้ฟังถึงรู้ ท่านไม่ได้ว่านิมนต์ ท่านว่าขออาราธนาท่านมหาบัวมาโปรดโดยด่วน คือท่านติดปัญหานี้ พอไปหาท่านแล้วก็พูดกันละ ปิดประตูไม่ให้ใครทราบนะ อยู่สององค์ ท่านก็ยกปัญหาของท่านขึ้นภายในจิตภาคปฏิบัติ ไม่ได้มีในตำรานะภาคปฏิบัติ ขึ้นจากจิตล้วนๆ ที่ติดปัญหาภายในจิต
พอท่านเล่าให้ฟัง เราก็ถวายให้ท่านฟัง ท่านร้องโก้กเลย เอ้อ อย่างนี้ซิ ขึ้นเลย สองต่อสองนะ เสียงลั่นเลย มันต้องอย่างนี้ เปิดแล้ว ทีนี้ประตูเปิดแล้ว ยังตั้งแต่เข้าเท่านั้นละ เปิดแล้วๆ ท่านว่า ท่านถึงใจท่าน พอตอบถวายปัญหาท่านเข้าไป แก้ปัญหาท่านที่ติด ท่านร้องโก้กเลย จากนั้นมาก็ผ่านได้นะ บอกว่าเปิดประตูแล้วยังไม่เข้าเท่านั้นทีนี้ เปิดแล้วๆ ท่านว่างั้น ยังไม่เข้า ไม่นานก็เข้า ท่านก็ผ่านได้แล้ว อัฐิของท่านกลายเป็นพระธาตุเรียบร้อยแล้ว
ที่ใครเอาท่านไปรักษาที่โรงพยาบาลนายแพทย์ปัญญา แถวคลองตัน เราได้ไปดู ท่านสีทนก็อยู่ที่นั่น พอดีเราไปกรุงเทพตอนนั้น ได้ทราบว่าท่านมารักษาอยู่ที่นี่เราก็ไป เพราะเราไปด้วยความเคารพ เราเป็นห่วงเป็นใย ครูบาอาจารย์ขนาดนี้จะไปให้เขาถลุงอะไรบ้างนะเราว่างั้น เพราะพระประเภทนี้ไม่ใช่พระที่จะมาถูกถลุงด้วยเข็มนั้นเข็มนี้อย่างนี้ ถูกบังคับบัญชาจากหมอ เมื่อมอบให้เขาแล้วเขาต้องทำตามหน้าที่ของเขาใช่ไหม เราก็เป็นตุ๊กตาคนหนึ่งเขาจะทำอะไรก็ได้ เราเป็นห่วง เราก็ไป ไปก็จริงๆ พอไปเห็นกำลังเขาฉีดยาท่าน ขาของท่านกระตุก ปึ๊งๆ เลย
พอฉีดยาเสร็จขึ้นเลย ท่านสีทน เอาท่านสีทนมาใกล้ๆ ท่านไม่ใช่ครูบาอาจารย์ประเภทนี้นะ เอาท่านมารักษาทำไม อันนี้รักษาเพียงธาตุเพียงขันธ์ เห็นไหมที่เขาฉีดยาผ่านไปตะกี้นี้ ให้รีบเอาท่านกลับบอกเลยนะ อย่าเอาท่านไว้ ท่านไม่ใช่พระประเภทนี้ แล้วก็อยู่ได้ดูเหมือนสามวันกลับเลย มาไม่นานท่านก็ตาย ไม่งั้นก็จะทรมานกันอยู่นั้น เพราะเรื่องหยูกเรื่องยามันอยู่กับธาตุกับขันธ์ ไปกวนใจท่านละซิ นี้พูดจริงๆ ไม่ได้เหมือนใคร เราไม่ได้ประมาทหมอ ไม่ได้ประมาทโรงพยาบาล เราพูดด้วยความถนัดใจของเรา ถ้าสมมุติว่าจะเอาเราไปเข้าโรงพยาบาลใดก็ตาม ถ้าเราไม่ลงใจให้ไปอย่าเอาไปเป็นอันขาดบอกงั้นเลย ถ้าลงใจแล้วเอาไปไหนก็ไปเถอะ แน่ะ ถ้ายังไม่ลงใจอย่าฝืนนะ คือธรรมะนี้เป็นธรรมะเด็ดขาดในหัวใจ ถนัดในหัวใจอย่างไรแล้วออกมา จะไม่มีผิดเลย ความหมายว่างั้น
(นิมนต์เทศน์รับผ้าป่าช่วยโลก องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร ถนนกำแพงเพชร กรุงเทพมหานคร ในวันพุธ ที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๐ เวลา ๑๔.๐๐ น.) เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยจะรับอะไรละ เหนื่อยมาก การเทศนาว่าการก็เหนื่อย พูดอย่างนี้ออกหูนะไม่เหมือนแต่ก่อน พูดนี้ออกหูแล้ว เวลาไปเทศน์ยิ่งออกหูแล้วไปไม่ได้นะ มันดังวู่ๆ มันไม่ได้ออกปากนะ ก็อายุ ๙๔ ปีนี้แล้ว เทศน์ไม่หยุดปากก็คือเราในประเทศไทย มีองค์ไหนที่เทศน์มากๆ เหมือนเรา นี้อายุ ๙๔ จะเต็มวันที่ ๑๒ สิงหานี่ เทศน์ไม่หยุดตั้งแต่พ่อแม่ครูจารย์มั่นมรณภาพ พอพ่อแม่ครูจารย์มั่นมรณภาพ พระเณรเกาะพรึบ สำหรับประชาชนยัง ตอนนั้นอยู่ในป่าในเขา มีแต่พระแต่เณรเกาะพรึบๆ เรื่อยมา พอมาเอาโยมแม่บวช ทีนี้เกาะหมดเลย นี่ละตอนที่เกาะหมดเลยก็คือมาเอาโยมแม่บวช
แต่ก่อนอยู่ในป่าในเขาสะดวกสบาย เทศน์มานานเท่าไร เหนื่อยมากนะ แต่เทศน์ในป่าในเขากับพระมีแต่ธรรมะเผ็ดๆ ร้อนๆ แกงหม้อเล็กหม้อจิ๋วๆ ตลอดเลย พอออกมานี้ก็เป็นแกงหม้อใหญ่ไป นานๆ จะมีทีหนึ่ง เดี๋ยวนี้หมดกำลังแล้ว ไปไม่ไหว
รับชมและรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th
และสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz
และเครือข่ายทั่วประเทศ |