พระสารีบุตรเป็นพระกตัญญู
วันที่ 14 มิถุนายน 2550 เวลา 7:40 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)   วิดีโอแบบ(Win High Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๐

พระสารีบุตรเป็นพระกตัญญู

ก่อนจังหัน

พระเท่าไร (๓๐ พอดีครับผม) ๓๐ เราไม่ได้ไปภูวัวนานแล้ว ไม่เข้าร่วมปีแล้วเหรอ คือธรรมดาเราจะไปวัดนั้นไปวัดนี้ไปเรื่อย ไปดูสภาพของวัด ดูความเป็นอยู่ของพระ ทุกสิ่งทุกอย่างของพระ ดูหมด ภูวัวนี่ไม่ได้ไปนานแล้ว แต่สำหรับอาหารนี้ส่งเป็นประจำทุกเดือนๆ มาได้ ๒๐ กว่าปีนี้แล้ว เรียกว่าวัดภูวัวนี้วัดป่าบ้านตาดเลี้ยงทั้งหมดเลย ใครจะมาไม่มาก็แล้วแต่เขา เราไปสอบถามดู คือแถวนั้นมันจะมีเป็นก๊กๆ ถ้าธรรมดาของคนที่จะมองดูข้างนอกข้างในมองไกลมองใกล้แล้วก็จะคิด พูดง่ายๆ ว่าอย่างนั้น ถ้าไม่มองอะไรเลยก็แสดงว่าไม่คิด กินเร็วยิ่งกว่าสัตว์ ได้กินเต็มพุงแล้วก็เอา ข้างหน้าข้างหลังไม่สนใจเลย ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วไม่เป็นท่าแหละ

นี่เราก็ไปสืบถามดู มันเป็นจุด จุดอำเภอนั่นละสำคัญ อำเภอนั้นๆ แล้วตำบลๆ เราถามว่า ที่เป็นจุดๆ อย่างนี้มีกี่อำเภอแถวนี้ แล้วเขาเคยคิดรวมหัวกันได้สิ่งของไทยทานมารวมกัน จะมากจะน้อยก็ตาม แต่เป็นความพร้อมเพรียงสามัคคีที่เขาร่วมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ยกมาถวายพระในวัดนี้เห็นไหมมีไหม ถาม ไม่มี นั่นเห็นแล้วนะใจดำมาก ไม่มี บอก โห ธรรมไปตรงไหนๆ ส่วนทางดีมักจะว่าไม่ดีๆ เราสลดสังเวชนะ มันเหมือนหนอนมนุษย์เรานี่

พระพุทธเจ้าเป็นศาสดาองค์เอกมาสอน ลากหนอนขึ้นจากส้วมจากถาน มันไม่ยอมขึ้น ดูซิ มันอดสลดสังเวชไม่ได้ จากนั้นเราก็สรุป พระท่านก็ปฏิบัติอย่างนั้นอยู่แล้วใครจะมาไม่มาก็ตาม ของในเดือนหนึ่งๆ นี้เราจัดส่งให้เพียงพอแล้ว นอกจากนั้นยังแบ่งไปสถานที่นั่นที่นี่ จะว่าวัดก็ไม่ใช่ คือพระท่านมาอยู่เป็นหย่อมแห่งละสององค์บ้าง สามองค์บ้างแถวภูวัว ท่านต้องการให้ท่านมาเอา เอาตาปะขาว เอาเณร ญาติโยมมา ให้ท่านไป ถ้าบกพร่องผมจะมาส่งตลอดไปเลย เราสั่งไว้เป็นประจำ ท่านก็ทำอย่างนั้นเรื่อยมา

สำหรับวัดภูวัวนี้เราบอกขาดตัวเลย ใครจะมาไม่มาก็ตามให้ตั้งหน้าตั้งตาภาวนา เรื่องการอยู่การกินไม่สำคัญยิ่งกว่าความมุ่งมั่นต่อมรรคผลนิพพาน อันนี้สำคัญมาก ให้เน้นหนักจุดนั้น อันนี้วันหนึ่งๆ กินไปนิดหนึ่งพอๆ อย่าไปคิดเป็นอารมณ์กับมันในสิ่งเหล่านี้ให้มากยิ่งกว่ามรรคผลนิพพานเพื่อความพ้นทุกข์ เอาตรงนี้ จึงไม่ให้ไปเป็นกังวล เราก็จัดให้เพียงพอ เราเป็นคนจัดเอง ไม่ใช่คุยว่างั้นเถอะน่ะ คือความรอบคอบขอบชิดทุกอย่างเราจะคิดหมดเลยก่อนจะส่งของไปๆ เดี๋ยวนี้ก็เป็นประจำ พอวันที่ ๒๖-๒๗ แล้วไป ๒๖-๒๗ แต่ละเดือนๆ แล้วไป ให้พอไม่ให้บกพร่องเลย

อาหารที่เป็นพื้นที่ควรจะให้พอก็คือข้าวสาร น้ำตาล เครื่องกระป๋อง อาหารสั้นอาหารยาวให้เป็นพื้นตลอดเลย ให้ท่านได้บำเพ็ญภาวนาด้วยความสะดวก ที่จัดให้นี้คือเราผ่านมาก่อนหมดแล้ว รู้แง่หนักเบาของการปฏิบัติสำหรับพระกรรมฐานอย่างเรียบร้อยแล้ว การจัดของเราที่นำไปถวายพระจึงไม่ผิด บอกงั้นเลย เพราะเราผ่านมาแล้วทั้งนั้น ใครมีความหนักแน่นในธรรมแล้ว ผู้นั้นจะพ้นจากทุกข์ได้รวดเร็ว ถ้าหนักแน่นในอาหารการกินอย่างนี้ใช้ไม่ได้นะ เลอะเทอะ เดี๋ยวก็เป็นหมูขึ้นเขียง ขึ้นเขียงแล้วไม่ลง ถ้าหอมกระเทียมยังหั่นไม่เสร็จ หมูยังไม่ลงเขียง

นี่พูดถึงเรื่องภูวัว ไม่ได้ไปนานแล้วเรา ท่านอุทัยท่านก็ไปอยู่ประจำที่เขาใหญ่นั่นแล้ว มีพระที่เคยอยู่รองท่าน พระองค์นี้ก็ดี ชื่อเสถียรหรืออะไร ให้องค์นี้อยู่ ไปเราก็ถามท่านอุทัยด้วย เป็นยังไงท่านเสถียรไว้ใจได้ไหม ได้ ว่างั้น ก็ท่านองค์นั้นแหละอยู่แทนภูวัว ท่านอุทัยก็ไปอยู่ทางโน้น ที่เขาใหญ่ ปากช่อง แถวนั้น พระกรรมฐานที่ตั้งใจปฏิบัติเอาจริงเอาจังดูไม่ค่อยมีนะ เพราะฉะนั้นเราเมื่อเขามาถวายที่แล้วจึงเรียกท่านอุทัยมาปรึกษาหารือท่านก็พอใจ ก็เลยให้ท่านรับภาระ สถานที่ท่านอยู่เวลานี้เขาถวายเรา ดูเหมือน ๗๐ ไร่นะ

ก่อนที่จะรับที่เขาที่ถวายแต่ละแห่งๆ ไม่ใช่รับสุ่มสี่สุ่มห้านะ รับต้องรับผิดชอบทุกอย่างด้วย ทีนี้หาตัวตั้งตัวตีก็พอดีได้ท่านอุทัย ท่านก็พอใจรับให้ นั่นละเราถึงได้ตั้งขึ้นมา เนื้อที่ ๗๐ ไร่ กว้างพอประมาณ ที่นั่นห่างหน่อยสำหรับเป็นภาคปฏิบัติ พระปฏิบัติจริงๆ มีน้อยมากแถวนั้น เลยให้ท่านอุทัยไปอยู่ที่นั่น เพราะเราผ่านไปผ่านมา เราไปเราก็ไปแวะดูสภาพ อะไรบกพร่องยังไงๆ ก็เตือนก็บอกไป

เราไม่ค่อยได้รับง่ายๆ นะเขามาถวายที่ ต้องพิจารณาเรียบร้อย เช่นอย่างวัดปทุมธานี หลวงปู่เจี๊ยะ เรานิมนต์อาจารย์เจี๊ยะมานะ อาจารย์เจี๊ยะรับให้แล้วเราถึงรับที่ที่เขาถวาย นั่นละอาจารย์เจี๊ยะจึงอยู่ วัดเสือก็เหมือนกัน ที่เรารับตรงไหนก็ต้องรับเป็นเครื่องประกันตายใจในวัดนั้นได้ก่อนเราถึงจะรับ ทางโน้นก็มีเท่านั้นละ ส่วนปราจีนยังไม่รับ อำเภอศรีมหาโพธิ วัดท่านป้าง อำเภอของท่านป้าง เขาถวายที่เรา ให้เราพิจารณาเสียก่อนนะ ที่วัดป่าบ้านตาดมีพระองค์หนึ่งชื่อท่านป้าง อยู่อำเภอศรีมหาโพธิ ให้ไปพิจารณากับท่านเสียก่อน ตกลงกันแล้วจะบอกทีหลังเราว่า เดี๋ยวนี้ยังไม่ได้บอกเลย อยู่ในเขตอำเภอศรีมหาโพธิ รู้สึกว่าจะอยู่ใกล้กับบ้านเกิดของท่านป้าง รักษาได้ง่ายเราว่างั้น ให้พร

หลังจังหัน

เมื่อวานไปจนกระทั่งถึงชัยภูมิ เลยชัยภูมิไปอำเภอต่างๆ อีก พวกน้ำท่าพอๆ กัน โห น่าสงสาร ตกกล้าก็ถูไถกันไป เอาอาหารไปส่งโรงพยาบาล ไกลอยู่นะ จากตัวจังหวัดพุ่งไปทางตะวันตกตั้ง ๓๐ กว่ากิโล เราไปโรงพยาบาลเมื่อวานชื่อหนองบัวระเหว เขตชัยภูมิ ดูเหมือนจะทุกอำเภอละมังโรงพยาบาลก็มาเอาที่นี่ เอาจากนี้ไป เมื่อสองวันนี้ก็ทางบ้านเขว้า อยู่ใกล้ๆ กันกับหนองบัวระเหวเขามาเอาไป เราเลยเตลิดจาก บ้านเขว้า ไปหนองบัวระเหว ไม่งั้นตั้งใจว่าจะไปบ้านเขว้าเมื่อวาน พอดีพระบอกว่าเมื่อสองวันนี้เขามาเอาไปแล้ว เลยเตลิดไปหนองบัวระเหว บ้านเขว้าเลยผ่าน

บางทีโรงพยาบาลต่างๆ ก็มาเอา ก่อนจะไปเราต้องอ่านดูบัญชี โรงไหนไปวันที่เท่าไรๆ เราจดไว้หมดนะ คือไม่ให้กระชั้นชิดจนเกินไป ไปแต่ละโรงๆ นี้พอประมาณ กำหนดเดือนหนึ่งโรงหนึ่ง เดือนหนึ่งเข้าโรงหนึ่ง คือไปโรงพยาบาลไหนมาแล้วเราต้องจดไว้ๆ ทีนี้จะไปโรงพยาบาลไหนเราก็ดูแคตตาล็อก ถ้าลงวันไหนห่างก็ไปๆ คำว่าห่างก็นับตั้งแต่เดือนหนึ่งไป ห่าง คือจะอยู่ในเขตหนึ่งเดือน เราไปส่งโรงนั้นโรงนี้ โรงนี้ประมาณหนึ่งเดือนไปๆ ถ้าย่นกว่านั้นไม่ค่อยไป ถือเอาเดือนหนึ่งเป็นที่ตั้ง หรือเดือนกว่าบ้างเล็กน้อย

น้ำท่าพอๆ กัน เรามันเที่ยวไกลมักจะเห็นได้กว้างขวาง แถบชัยภูมินี้ก็เลยเขตตัวจังหวัดไปเป็นอำเภอต่างๆ ก็ยังไม่มีน้ำ ถือต้นกล้าก็ถูไถไปอย่างนั้นมาจนกระทั่งมัญจา ขอนแก่น อุดร พอๆ กัน ไปทางตะวันออก สกลนคร นครพนมมาบ้านแพง พอๆ กัน ปีนี้รู้สึกว่าความแห้งแล้งกว้างขวางมาก ก็มีปีนี้ละเด่นมากเรื่องความแห้งแล้ง กว้างขวางมากเสียด้วย

นี้เราก็ยังจะจัดอะไรไปทางนู้น ขาดแคลนมากทางภาคเหนือ อาหาร เราจะเรียกเณรมาถามดูตรงไหนบกพร่องมากน้อยเพียงไร เราก็จะจัดใส่รถสิบล้อๆ ไปเลย ขนไปจากทางอุดร รถสิบล้อๆ ไปวางลงเป็นจุดๆ หัวหน้าเขาจะปฏิบัติเอง เพราะเขาทราบเรื่องราวนี้ได้ดี เขาเป็นหัวหน้าเป็นผู้จัด ตกไปทางไหนๆ เขาจะจัดการเฉลี่ยถึงกันหมดบรรดาพวกยากจน เราถึงใจเราอย่างนี้ คืออะไรได้มากได้น้อยขอให้เสมอ ไม่กระเทือนใจ ถ้านั่นได้มากนี่ก็มากมากด้วยความโลภ ผู้ที่ได้น้อยๆ นี้กระเทือนใจตลอดนะเรา มีมากมีน้อยขอให้เสมอ เสมอนี้สำคัญมากไม่ลำเอียง ไม่เอียงหน้าเอียงหลัง ทุกข์ไปด้วยกัน มีไปด้วยกัน เป็นด้วยกันตายด้วยกัน พอใจเรา

นี่เราจะเรียกเณรมาถามเสียก่อนรายละเอียดไปทางเหนือ คือทางจังหวัดเชียงใหม่ เป็นจังหวัดใดบ้างแถวนั้น ทางนี้จะติดต่อถามไปทางหัวหน้าเขา ควรจะหนักไปทางไหน ทราบเรียบร้อยแล้วเราจัดเราสั่งเอง ทางแม่ฮ่องสอนก็ไปหนหนึ่งมาแล้ว นั้นให้มากพอสมควร ทางเชียงใหม่ยังไม่ได้มาก จึงไม่สนิทใจ ข้องๆ อยู่ในใจ จะให้ไปถามทางเชียงใหม่เสียก่อน พอทราบแล้วก็บรรทุกใส่รถทางอุดรไปเลย

วันนี้ก็จะไม่อยู่ ไปสงเคราะห์โรงพยาบาลส่วนมาก ไปสงเคราะห์โรงพยาบาล เสาร์อาทิตย์มักจะไปตามวัด ไปให้ทั้งนั้นแหละ ไปถวายพระวัดนั้นวัดนี้ จันทร์ถึงศุกร์ไปตามโรงพยาบาล ของที่เอาไปโรงพยาบาลให้เสมอ ฟังซิ ไม่ให้เอนให้เอียง ให้เสมอ ถ้าสมมุติว่าให้เพิ่มก็ให้เพิ่มเสมอ คือเรามีสองจุด จุดธรรมดาให้ทั่วๆ ไปก็ให้เสมอกันหมด จุดให้เพิ่มก็เพิ่มให้เสมอกันหมด จุดที่ควรเพิ่มให้ก็เช่นอุบล ยโสธร โคราช อุตรดิตถ์ เขตนี้ออกไปๆ ให้พิเศษ จากนี้เข้ามาๆ ก็ให้ธรรมดา ทั้งสองนี้ให้เสมอกันหมด คือพวกที่เพิ่มก็ให้เพิ่มเสมอกัน พวกที่ให้ธรรมดาก็ให้เสมอกัน เราให้มาเป็นประจำ

พอพูดถึงเรื่องให้อาหาร จิตมันแว็บไป คือมันมาแว็บอยู่เรื่อยจะเป็นอะไรก็ไม่ทราบ พึ่งออกจากหนองผือนาใน คือย้อนกลับมาจำพรรษาให้เขาได้รับความอบอุ่น หลังจากพ่อแม่ครูจารย์มั่นเรามรณภาพไปแล้ว จะว่าวัดร้างก็ไม่น่าจะผิด มีหลวงตาแก่ ๒-๓ องค์อยู่นั่น ทั้งๆ ที่วัดหนองผือนี้เป็นตลาดพระเหลืองอร่ามตลอดมาก็ใช่ เมื่อมรณภาพไปแล้วกลายเป็นวัดร้างไปหนองผือ เราก็ลงจากวัดดอยธรรมเจดีย์มาพักอยู่วัดสุทธาวาสสองคืน เพราะจวนเข้าพรรษาแล้ว ตัดสินใจว่าจะไปจำพรรษาที่อำเภอวาริชภูมิ เขาเรียกถ้ำอะไรนะ เราเคยไปอยู่แล้วถ้ำนี้ คราวนี้จะไปจำพรรษาเลย

พอเราไปถึงนั้น โยมเขาอยู่ย่านกลางหนองผือนาใน นี่วาริชภูมิ แกอยู่ย่านกลาง บ้านแกชื่อบ้านหนองกุง แกไปวัดนู้นเสมอทางหนองผือ แกขึ้นไปเล่าให้ฟังธรรมดา เราไม่พูดอะไรสักคำเลยนะกระเทือนหนัก ก็เราเตรียมเรียบร้อยแล้ว ออกจากวัดดอยธรรมเจดีย์ลงสุทธาวาสพักได้สองคืนก็บึ่งถึงวาริชภูมิ พอไปได้สองคืนเท่านั้นละมั้ง โยมคนนี้แกก็ไปจากบ้านของแกซึ่งไปดูหนองผือแล้วค่อยมา แล้วได้ทราบข่าวว่าเรามาพักอยู่ถ้ำที่ว่านี่ แกก็ตามไปเยี่ยม แกก็ไปเล่าสภาพบ้านหนองผือให้ฟัง พอมาเล่าให้ฟังนี้เราไม่พูดสักคำเดียวเลยนะ มันสะเทือนอย่างหนัก ไม่ได้พูดตอบรับแกสักคำหนึ่ง แกก็เล่าไปตามประสาของแก แกไม่ได้นึกว่าจะกระเทือนจิตใจเราถึงกับต้องย้อนกลับไปจำพรรษาหนองผือนะ

เพราะปลงใจแล้วจะมาจำพรรษาที่ถ้ำ เขาเรียกอะไร เราเคยไปพักอยู่ธรรมดาไปพัก แต่ยังไม่เคยไปจำพรรษา ปีนั้นกะว่าจะไปจำพรรษาที่นั่น พอดีแกเอาเรื่องวัดหนองผือไปเล่าให้ฟัง สลดใจอย่างหนักทีเดียว เพราะบ้านหนองหนองผือเรานี้แหมมีคุณมากทีเดียวไม่ใช่ธรรมดา บ้านหนองผือ-นาใน สองบ้านนี้พากันแบกกันหามพระตั้งเท่าไรไม่ใช่น้อยนะ ท่านเหล่านี้เลี้ยงได้หมดเลย ไม่มีตลาดลาดเลบ้านหนองผือ มี ๗๐ หลังคาเรือน พระนี้มีจำนวนเท่าไหนเลี้ยงได้หมดเลย นี้ก็ถึงใจเรา พี่น้องทางบ้านหนองผือนาในถึงใจตลอดมานะ

ทีนี้พอโยมคนนี้ไปเล่าให้ฟังว่าเหมือนวัดร้าง ไม่มีพระเลย มีพระแก่ๆ อยู่สององค์ว่างั้น ก็เป็นพระที่บ้านนั้นละบวช แล้วอยู่ที่นั่น สะเทือนใจอย่างหนัก ไม่พูดสักคำเลยนะ แกมาเล่าให้ฟังเราก็ฟังธรรมดาเฉย แกก็ไม่รู้ว่าเราคิดยังไงนะ แกมาเล่าแล้วแกก็กลับไป ไม่บอกให้แกทราบเลยนะ เราฟังแล้วเราก็นิ่งเลย พอตื่นเช้ามาก็ ไปเพ็งเตรียมของ เตรียมของไปไหน ท่านเพ็งนิสัยพูดอย่างนั้น ไปหนองผือไปจำพรรษาหนองผือ เอ้า เป็นยังไงถึงจำพรรษาหนองผือ ก็เมื่อวานนี้โยมคนนี้แกมาเล่าให้ฟัง ท่านก็นั่งอยู่นี่ท่านไม่ได้ฟังเหรอ ผมฟังตลอด ได้ฟังเหมือนกัน นั่นแหละ เตรียมของเลย เดินทางนะไม่มีรถแหละ เดินบุกป่ามา มาก็เข้าหนองผือ

มันมีสะพานข้ามทุ่งมานี้ ก็มีโยมผู้หญิงโยมแก่คนหนึ่งแกก็เป็นคนวัดคนวาประจำ แกทำอะไรอยู่ข้างๆ เราก็ไปกับท่านเพ็งสององค์ เดินไปสะพาน พอมองเห็น ก็เห็นกันอยู่ทุกวันนี่ นี่กลับมาอีกแล้วนะ จะมาให้เลี้ยงนะเราว่า เราพูดหยอก จะกลับมาให้เลี้ยงนะ เอ้อ ขึ้นเลยแกก็ดี แกพูดด้วยความดีใจ ผู้ตายก็ตายไปผู้ยังอยู่ก็ยังมาอยู่นะ ผู้ตายก็คือพ่อแม่ครูจารย์มั่นตายไป ผู้ยังมีชีวิตอยู่ก็ยังมาอยู่นะแกว่า แกพุ่งเข้าอีก.ติดเข้าอีก เราเลยไม่ลืมคำพูดของแก นั่นละไปจำพรรษาหนองผือปีนั้น เห็นคุณนะพี่น้องทางหนองผือเรา แหมมีคุณมากนะ เป็นก็เป็นตายก็ตายไม่คิดถึงเรื่องอดเรื่องอยากเรื่องอะไรละ ไม่มีตลาด หากคุ้ยเขี่ยขุดค้นมาเลี้ยงพระได้หมด ๗๐ หลังคาเรือน พระมันน้อยเมื่อไร นี่เราก็ไม่ลืม นี่ละเป็นเหตุให้เราย้อนกลับไปจำพรรษาหนองผืออีก เราไม่ลืมนะ

เรื่องกตัญญูนี้รู้สึกว่าจะเด่นในจิตใจ เราไม่ได้คุยนะ หากเป็นอยู่ในจิต ผู้ใดที่มีคุณต่อเรามากน้อยนี้มันจะเก็บไว้ลึกๆ ถึงเวลาแสดงออกก็แสดง ไม่แสดงออกก็ระลึกถึงอยู่ตลอดเวลา เป็นอย่างนั้น กตัญญู อันนี้ก็คือพระสารีบุตรเป็นตัวอย่างในครั้งพุทธกาล พระสารีบุตรเป็นพระกตัญญู มีพราหมณ์คนหนึ่งแกอยากจะมาบวช พระพุทธเจ้าก็รับสั่งหา รับสั่งหาคนดีนั้นแหละ ใครจะไปทราบเรื่องราวยิ่งกว่าศาสดาองค์เอก มาก็แกไม่รู้จักกับใครเลยแกมาที่นั่น แกอยากมาบวช พอแกมาแล้ว แกก็มาเล่าเรื่องความมุ่งหมายอยากจะบวช พระพุทธเจ้าก็เลยรับสั่ง ไหนเป็นยังไง

การรับสั่งไม่ใช่ท่านไม่ทราบนะ ท่านทราบท่านหาคนดี ว่าไง ท่านทำท่านะ ใครรู้จักกับโยมคนนี้ไหม เขาอยากจะบวช ใครจะพอดูแลเครื่องบริขารใช้สอยให้เขาได้บวชบ้างไหม พระสารีบุตรเสนอมาทันที บอกว่าข้าพระองค์จะรับทั้งหมดว่างั้น คือโยมคนนี้เวลาไปบิณฑบาตผ่านบ้านแกวันเดียวนั่นละ แกเอาข้าวมาใส่บาตรให้ข้าพระองค์ ไม่ลืมนะ ว่างั้น นี่จะแสดงตอบแทนคุณแก จะรับแกเป็นเจ้าภาพบวชให้ นี่ละพระพุทธเจ้าหาคนดี พระสารีบุตรเสนอเข้ามาเลย เป็นคนกตัญญู ตกลงก็เอาโยมคนนี้บวชจนได้เพราะพระสารีบุตรนั่นละ นั่นละกตัญญูเป็นอย่างนั้น ให้พร

ที่เรากล่าวมานี้เรายกบ้านหนองผือขึ้นมา พี่น้องทั้งหลายอย่าเข้าใจผิดไปนะว่าบ้านเหล่านั้นไม่มีบุญมีคุณต่อเรา มีด้วยกันทั้งนั้น แต่ที่เด่นกว่าเพื่อนจริงๆ ก็คือบ้านหนองผือ พระมีจำนวนเท่าไร ก็หลวงปู่มั่นทั้งองค์อยู่ที่นั่น พระทีละ ๔๐-๕๐ ไม่ขาดเลย ท่านเหล่านี้เลี้ยงมาตลอด นี่ละมันเด่น จึงยกอันนี้ขึ้น ท่านเหล่านั้นก็มีบุญมีคุณ แต่ไม่จนตรอกเหมือนหนองผือ เพราะฉะนั้นเราจึงยกหนองผือขึ้น

 

รับชมและรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th

และสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน  FM 103.25 MHz

และเครือข่ายทั่วประเทศ


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก