ไม่ได้อยู่ตามอัธยาศัย
วันที่ 7 มิถุนายน 2550 เวลา 7:35 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)   วิดีโอแบบ(Win High Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๗ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๐

ไม่ได้อยู่ตามอัธยาศัย

         (คุณแม่บังอร ชลบุรี ส่งต้นไม้มาถวายครับ) แม่บังอร แม่พระพฤกษ์ส่งต้นไม้มานี้หลายคันรถแล้วหลายหน นี่ส่งต้นไม้มาอีก ใครอยากจะเอาไปปลูกที่ไหนเราให้เลยนะไม่สงวน ใครจะเอาไปปลูกตามไร่ตามนาตามที่ไหนปลูกได้ ของเรามีพอประมาณปลูกไว้ทั่วไป ปลูกไว้สำหรับลูกหลานนั่นแหละ นี่เขาเอามาอีก ใครจะเอาไปปลูกที่ไหนก็ให้ไปปลูกได้เราไม่หึงไม่หวง ให้เป็นประโยชน์ทั่วๆ ไป นี่เขาเอาไปปลูกตามริมคลองเราก็ไปดู ต้นตายก็มี ขึ้นก็มี ที่เอามาจากชลบุรี ของใกล้หรือชลบุรี จากกรุงเทพไปตัวตลาดเมืองชลบุรี ๙๒ กิโล ทางเดิมนะ

แต่ก่อนเราไปไหนมันจำนะ สังเกต จากกรุงเทพไปเมืองชลปั๊บเข้าถึงเป็นกิโลที่ ๙๒ ถึงตัวเมืองชล เวลานี้ทางมันตัดไปทางบางนามันก็ย่นเข้า แต่ก่อนไปทางปากน้ำ ทางเก่าไปถึงเมืองชล ๙๒ กิโล เดี๋ยวนี้จะย่นเข้าเยอะเพราะทางตัดใหม่ แต่ก่อนไปที่ไหนทั้งชอบเป็นนักสังเกตด้วย ความจำยังดีด้วย ไปไหนจำได้ๆ เช่นอย่างเมืองชล จากกรุงเทพไปเมืองชล ๙๒ กิโลก็จำได้แต่ก่อน ที่ยังไม่ลืมก็ติดอยู่ ระยองดูเหมือน ๒๒๒ หรือ ๑๒๒ ลืมแล้ว ไปสัตหีบ ๑๗๕ กิโลหรือไง แต่ก่อนมันทางแคบๆ เวลานี้ทางตัดใหม่จึงเอาแน่ไม่ได้ ส่วนมากมักจะย่นเข้ามาๆ

ท่านพฤกษ์นี่ก็ถูกเขาโจมตีเรื่อยเพื่อจะให้เสียชื่อเสียงความดิบความดีไป เราไม่ทำความดีแต่ไปหาตัดรอนความดีคนอื่น ซึ่งไม่ทราบเลยว่านั้นคือการสังหารตนเอง ท่านพฤกษ์เรานี้ เราอ่านทราบเรียบร้อยแล้วเราก็ตอบจม.ไปว่า อย่าไปตื่นเต้นกับปากอมขี้ ปากนี้ปากสกปรก ปากอมขี้ หูเราอมธรรมให้ฟังเป็นธรรม หาว่าให้คนที่เขาทำดี ตัวทำความดีไม่ได้ก็ไปสร้างความชั่ว

ท่านพฤกษ์ท่านจะมีอะไร สกุลของท่านเป็นสกุลที่มั่งคั่งสมบูรณ์ แม่บังอรเป็นสกุลที่มั่งคั่งสกุลหนึ่งในเมืองชล จะเรียกว่าเบอร์หนึ่งก็ไม่ผิด ในตลาดตึกใหญ่โตรโหฐาน มีกิจการค้ามากมาย ลูกก็ดูมีสองคนเท่านั้นมั้ง คนหนึ่งเป็นดอกเตอร์ คนหนึ่งก็พระพฤกษ์นี่แหละ สมบัติเงินทองเต็มไปหมด ท่านก็พูดเอง สมบัติเงินทองมีใช้ประโยชน์อย่างอื่นก็ไม่มีคุณค่าเท่ากับสร้างบุญสร้างกุศล แน่ะท่านก็พูดถูกต้อง เลยแยกทางโน้นแยกทางนี้สร้างกุศล เป็นสกุลที่มั่งคงในเมืองชลเรียกว่าอันดับหนึ่ง

ถูกเขาโจมตีว่า ท่านเอาเงินที่เขาเขียวไปทำรีสอร์ทที่ข้างล่าง วัดเขาเขียวเราก็ไปดูแล้ว มีแต่ป่า ต้นไม้ ถ้าเราพูดถึงเรื่องอะไรเขามักจะไปโจมตีตรงนั้น แปลกอยู่ ปากเรานี้เป็นปากยังไงก็ไม่รู้ ถ้าไปชมตรงไหนแล้วเขามักจะไปตีที่เราชม อย่างเขาเขียวเราขึ้นไปแล้ว ขึ้นไปถึงสำนักท่านพฤกษ์อยู่เลยแหละ โห น่าดูมาก บนเขาจริงๆ กุฏิมีไม่กี่หลัง พวกสัตว์พวกเนื้อเต็ม บริเวณนั้น พวกสัตว์พวกเนื้ออยู่กับพระนะ เป็นเพื่อนกันกับพระ พวกหมี พวกเสือ พวกหมู โอ๊ย หลายชนิด พวกเนื้ออยู่รอบๆ ตามกุฏิมันไปได้หมดนั่นแหละ เพราะพระกับพวกนี้อยู่ด้วยกันได้

นี่เราขึ้นไปดูแล้ว โอ๊ย ดีมาก เราก็ไปชมตรงนั้นละ ตรงนั้นก็ถูกโจมตี ปากเราเป็นอย่างไร พูดถึงตรงไหนก็ถูกโจมตี ท่านพฤกษ์ท่านมีความมักน้อย ท่านไม่สนใจกับเงินทองข้าวของ คิดดูซิเขาไปทอดกฐินที่วัดเขาเขียว ท่านยกเงินทั้งหมดจากกฐินวัดเขาเขียวมาให้วัดป่าบ้านตาด เราลืมเมื่อไร เงิน ท่านยกมาจากวัดเขาเขียวมาทุ่มให้วัดป่าบ้านตาดทั้งหมด ท่านสั่งสมอะไร ก็ยังถูกโจมตี ว่ามาทำรีสอร์ทรีแสดอะไร เอาเงินของสงฆ์วัดเขาเขียว มันจะมีเงินอะไรวัดเขาเขียว ก็มีแต่กุฏิมีแต่ป่าสามสี่หลังอยู่นั้น แล้วจะมีรายได้รายรวยที่ไหนพอจะเอาเงินนั้นมาทำรีสอร์ทรีแสด ถูกต้มถูกตุ๋นถูกทุกแบบละ นี่ปากสกปรก

ให้ระวังให้ดีนะปากสำคัญมาก ดังที่ว่าเหล่านี้ก็ออกจากปาก ปากอมขี้ ปากสกปรก พ่นใส่หูนั้นหูนี้ล้างทั้งวันก็ไม่สะอาดละ คือปากอมขี้ไปพ่นใส่หูคนที่หูสะอาด ล้างทั้งวันก็ไม่สะอาด พวกปากอมขี้มันสกปรกมาก เหล่านี้เราไปดูทั้งนั้น มันแปลกถ้าเราไปดูตรงไหนไปชมตรงไหนละเกิดเรื่อง เขาก็หวังจะทำลาย ถ้าเราไปชมตรงไหนจุดนั้นจะเด่น จุดนั้นจะมีชุมนุมชนเข้ามาเกี่ยวข้อง หรือทำบุญให้ทานก็ไปทำลายๆ เช่นอย่างท่านใช่ สุชีโว วัดเขาฉลากก็ถูกโจมตีเหมือนกัน เราก็ไปเกี่ยวข้อง แน่ะเป็นอย่างนั้นนะ พวกเปรตเราว่าอย่างนั้น หาเก็บตก พวกเปรตมันหาเก็บตก

เรามันเข้าทุกแห่ง ที่ไหนเป็นสถานที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเราเข้าหมด อย่างท่านใช่ทางเมืองชลกับเราก็เป็นอันเดียวกันกับวัดป่าบ้านตาด วัดเขาเขียววัดเหล่านี้เป็นอันเดียวกับวัดเรา เราไปหมด เขาฉลากนี้เราก็ไปไม่รู้กี่ครั้ง ตั้งแต่สมัยท่านอาจารย์ใช่อยู่นั้นท่านนิมนต์ไปพักเป็นประจำ ที่เขาฉลากเราก็เคยไปพัก เป็นสถานที่สงบสงัด อาจารย์ใช่ท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ คุ้นกันมาตั้งแต่ท่านอายุพรรษายังน้อยๆ นู่น

หนังสือเราที่ไปพิมพ์แต่ก่อนพิมพ์โรงพิมพ์ชวนพิมพ์ ท่านจะมาจองไว้ก่อนเลย ถ้าพิมพ์หนังสือของเราเล่มใดแล้วให้ท่านรับเป็นเล่มแรกเลย เขาพิมพ์จากโรงพิมพ์ต้องจองไว้ให้ๆ ท่านใช่ ท่านมาขอไว้อย่างนั้น ท่านเป็นผู้ปฏิบัติดีอาจารย์ใช่ นี่ก็ลูกศิษย์ท่านอาจารย์มั่นนะ มาจากนู้นละอาจารย์กินนรี อาจารย์มี สูงเนิน อาจารย์กินนรีอาจารย์อะไรนี้มีแต่ลูกศิษย์หลวงปู่มั่นทั้งนั้นละ ท่านไม่ให้ญัตติ ท่านคิดเห็นการณ์ไกล ท่านเหล่านี้อยากญัตติ ท่านไม่ให้ญัตติ ถ้าญัตติแล้วโลกสมมุติมันมีฝักมีฝ่ายขึ้นมาแหละ ท่านว่า ไม่ต้อง คณะของท่านมีจำนวนมากถ้ามาเป็นฝ่ายนี้แล้ว ก็เลยเหมือนกับว่ากั้นเขตกั้นแดนกัน ไม่ต้อง ท่านไม่ให้ญัตติ ให้กระจายกันไปหมดเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ท่านว่า

เพราะฉะนั้นท่านเหล่านี้จึงไม่ได้ญัตติ ไม่อย่างนั้นท่านญัตติไปนานแล้ว หลวงปู่มั่นเองท่านพูดให้ฟัง ท่านหวังประโยชน์ส่วนใหญ่ เป็นลูกศิษย์ของท่านทั้งนั้นแหละ อาจารย์มีนี้อัฐิของท่านก็กลายเป็นพระธาตุแล้ว นั่นเห็นไหมล่ะ อาจารย์มี สูงเนิน นี่ก็เป็นฝ่ายมหานิกาย ท่านไม่ให้ญัตติ ไอ้ชื่อเสียงตั้งแต่ไก่ตั้งแต่หมูมันก็มีชื่อ ท่านว่า มันไม่ได้สำเร็จประโยชน์อยู่กับชื่อกับนาม สำเร็จอยู่ที่การประพฤติปฏิบัติ การปฏิบัตินี้สังคมก็ยอมรับ พุทธศาสนาก็ยอมรับด้วยกันแล้วว่าเป็นสมณะ ไม่ห้ามสัคคาวรณ์ มัคคาวรณ์ ไม่ห้ามมรรคผลนิพพาน เอา ปฏิบัติ ท่านสอนอย่างนั้น มันขึ้นอยู่กับข้อปฏิบัติ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับชื่อกับเสียงอะไรแหละ ท่านว่า เพราะฉะนั้นท่านจึงไม่ให้ญัตติ ท่านเหล่านี้จึงไม่ได้ญัตตินะ ฟังเสียงท่านอาจารย์มั่นนั่นแหละ

ท่านทำประโยชน์ให้บรรดาลูกศิษย์ลูกหาฝ่ายกรรมฐาน สำหรับพระเรานี้มาก มายหลวงปู่มั่นเรา ท่านอาจารย์มีก็ล่วงไปแล้ว องค์ไหนพระผู้ใหญ่ๆ ฝ่ายมหานิกายที่เป็นลูกศิษย์หลวงปู่มั่นก็รู้สึกว่าล่วงไปๆ จนจะหมดแล้วเวลานี้ ลูกศิษย์ผู้ใหญ่ของท่านอาจารย์มั่น ท่านอาจารย์มีก็ล่วงไปแล้วอัฐิกลายเป็นพระธาตุ ที่มวกเหล็กหรืออะไร เราเข้าไปหาท่าน ท่านอยู่มวกเหล็กลึกๆ เราไปทางนั้นได้ทราบข่าวแล้วก็บุกเข้าไปหาท่านเลย ท่านรู้สึกว่าเมตตามากกับเรา เมตตามากจริงๆ เป็นกรณีพิเศษ

โห ท่านมหามาได้อย่างไร อยู่ลึกอยู่เขาขนาดนี้มาได้อย่างไร ครูบาอาจารย์อยู่ที่ไหนผมเข้าได้หมดแหละ ท่านดีใจไปหาท่าน ท่านอยู่ในถ้ำลึกๆ เข้าไปหาท่าน เพราะคุ้นกันมาตั้งแต่เราเรียนหนังสือท่านก็มาพักอยู่วัดสุทธจินดา ท่านอยู่สูงเนิน แต่ท่านไม่พักวัดอื่นๆ ท่านไปพักวัดสุทธจินดา แล้วไปพักที่กุฏิเรา กุฏิเรามันกุฏิใหญ่ ท่านไปพักกับนั้นทุกปีๆ พอออกปฏิบัติ ท่านก็ทราบว่าเราออกปฏิบัติ ไปสายไหน ไปสายพ่อแม่ครูจารย์มั่นท่านทราบมาตลอด ทีนี้พอออกปฏิบัติแล้วกลับมาทีหลังนี้ท่านยิ่งสนิทมากกับเรานะ นี่อาจารย์มี เราก็ไปเทศน์ที่สูงเนินในการช่วยชาติ เรายังไม่ลืมเทศน์ที่สูงเนินนานกว่าเพื่อน ชั่วโมงกับ ๒๙ นาที เทศน์ที่สนามหลวงชั่วโมง ๒๓ นาที จำได้นะ แต่เทศน์ที่สูงเนินชั่วโมง ๒๙ นาที เทศน์นาน ตอนช่วยชาติอยู่นั้น

สายพ่อแม่ครูจารย์มั่นเวลานี้ก็มีอยู่ทุกภาค ว่าท่านอาจารย์มั่นลงหมดเลย เพราะเป็นธรรมที่เลิศเลอ ท่านครองไว้เรียบร้อยแล้ว มีทุกภาคนะกรรมฐานสายหลวงปู่มั่นเรา ไม่ว่าเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออก ภาคกลางมีหมด เราในระยะนี้ไม่สบายนะ เป็นอะไรไม่รู้ มันหากเป็นอยู่ลึกๆ พูดไม่ถูก แต่ไม่สงสัย เป็นอยู่ลึกๆ มันอ่อนอยู่ภายใน เราอยู่เงียบๆ สบาย คือกลางคืนเงียบๆ อยู่คนเดียวเงียบๆ นั่นละสบายสุดขีด อยู่กับใครต่อใครนี้เราอยู่ด้วยการบังคับนะ เราพูดจริงๆ เช่นอย่างแนะนำสั่งสอนหรือเกี่ยวข้องกันนี้ เราก็อยู่ด้วยการบังคับ เราไม่ได้อยู่ตามอัธยาศัยของเรา ถ้าเป็นอัธยาศัยแล้วทั้งวันทั้งคืนเราอยู่องค์เดียวเท่านั้นพอ

นั่งอยู่ที่ไหนโล่งหมดว่างหมดโลกธาตุนี้ พูดให้มันชัดเจนจากผลแห่งการปฏิบัติของเรา อยู่ที่ไหนมันว่างหมดเลย โลกธาตุนี่ว่างหมด คือใจนี้ไม่มีอะไรมาเกี่ยวข้อง ชื่อว่าสมมุติผ่านหมดเหยียบไปหมดแหลกหมด เหลือแต่ธรรมชาติที่ไม่ใช่สมมุติ ทีนี้อยู่ที่ไหนมันก็ว่างหมด ที่ท่านสอนว่า สุญฺญโต โลกํ อเวกฺขสฺสุ ดูก่อนโมฆราช เธอจงมีสติทุกเมื่อ พิจารณาโลกให้เป็นของสูญเปล่า ถอนอัตตานุทิฏฐิซึ่งเป็นเหมือนก้างขวางคอออกเสีย จะพึงหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวง พญามัจจุราชจะตามไม่ทันผู้พิจารณาโลกเป็นของว่างเปล่า ทีนี้เมื่อจิตว่างเปล่ามันก็เป็นด้วยกันหมด อยู่ที่ไหนว่างหมด

ก็มีจิตดวงเดียวเท่านั้นไปสอดไปแทรกนั้นๆ กีดขวางตัวเอง จิตเป็นก้างขวางคอตัวเอง ไปหมายนั้นไปหมายนี้ หมายนั้นหมายนี้ พอจิตหยุดกึ๊กเท่านั้นหายหมด โลกไม่มี นี่มันอยู่กับกิริยาของจิตอย่างเดียว พอจิตหยุดกิริยาแสดงออกเท่านั้นกึ๊กนี้ โลกนี้ว่างเปล่าไปหมดเลย เพราะฉะนั้นจิตผู้ที่ท่านว่างจากสมมุติโดยประการทั้งปวงแล้วอยู่ที่ไหนจึงสบาย ยืน เดิน นั่ง นอน อยู่ด้วยความว่างเปล่าตลอด อยู่ก็ว่างไปก็ว่าง เป็นก็ว่างตายก็ว่าง ว่างอยู่ตลอดไม่มีอิริยาบถคือจิตของท่านผู้สิ้นกิเลสโดยชอบแล้ว นั่นเป็นอย่างนั้นนะ

ธรรมเหล่านี้พูดถึงเรื่องมรรคเรื่องผลใครเชื่อเมื่อไรชาวพุทธเรา มันหนาขนาดไหนชาวพุทธเรา พูดเรื่องมรรคเรื่องผลเรื่องนิพพานมันไม่ได้เชื่อนะ ถ้าพูดเรื่องส้วมเรื่องถานเรื่องยุ่งเหยิงวุ่นวาย เรื่องฆ่าฟันรันแทงเอาไฟเผากันนี้มันชอบมาก เพราะพวกนี้พวกสกปรก จิตใจสกปรกชอบทำแต่สิ่งที่สกปรกรกรุงรัง เอาฟืนเอาไฟเผากัน ถ้าสิ่งที่จะให้เป็นความสงบร่มเย็นแก่ตนเองและส่วนรวมมันไม่อยากสนใจ ทีนี้ธรรมเข้าในจุดนี้ซิ จุดความสงบร่มเย็น แต่กิเลสมันไม่อยากเข้า มันถึงร้อนตลอด โลกอยู่ที่ไหนร้อนที่นั่น

มนุษย์นี่ละตัวสำคัญมาก ยกตนขึ้นมาเป็นสัตว์ที่ใหญ่โตกว่าเขา ใหญ่โตด้วยความเป็นฟืนเป็นไฟ เป็นภัยต่อสัตว์ทั้งหลายคือมนุษย์เรา จะเป็นใครที่ไหนไป ที่ไหนมนุษย์มันเอามากินทั้งนั้นละ กินไม่ได้เอามาใช้ มนุษย์นี้ตัวสำคัญ ยกตนข่มสัตว์ทั้งหลายคือมนุษย์นี่ละ อำนาจบ้าๆ ป่าๆ เถื่อนๆ คืออำนาจมนุษย์เรา ข้างในเรานี้ก็ได้เข้มงวดกวดขันตอนเย็น พอสี่โมงครึ่งแล้วเราจะออกมา มาคอยดูประตูวัด ให้ทาง ต.ช.ด. เขาปิด ตั้งแต่สี่โมงเริ่มปิดประตู ห้ามไม่ให้คนเข้ามาจุ้นจ้าน จากนั้นเราก็ออกมาดู เพื่อรักษาความสงบสงัดเรียบร้อย ให้พระได้ภาวนากัน

วัดนี้ทางนี้ใครเข้าไม่ได้ เฉพาะบริเวณศาลา จากนี้ห้ามไม่ให้เข้า ห้ามเด็ดขาดด้วย ให้พระท่านได้ภาวนา จากนี้เข้าไปสุดวัด เป็นที่ภาวนาของพระทั้งนั้น คนมาก็มาแค่นี้ออก มาแค่นี้แล้วออก ไม่ให้เลยเข้าไป เพราะนั้นเป็นทำเลภาวนาของท่าน เรากีดกันเอาไว้ให้หมด ให้ความสะดวกสำหรับพระภาวนา หน้าที่การงานอะไรเราก็ไม่รบกวน ให้ท่านได้ภาวนาเต็มเม็ดเต็มหน่วย ครูบาอาจารย์ทั้งหลายท่านดำเนินมาก็เป็นอย่างนั้น

สำหรับหลวงปู่มั่นไม่ให้มีงานอะไรเลย มีแต่งานภาวนาอย่างเดียวเท่านั้น เรานี้เอางานโลกงานสงสารงานส้วมงานถานเข้ามายุ่งกวน สร้างวัดที่ไหนเอาละงานขึ้นที่นั่น งานภาวนาไม่มี มีแต่งานสั่งสมกิเลส ความกังวลวุ่นวาย แล้วกิเลสจะหลุดลอยไปที่ไหน มันมีแต่การสั่งสมกิเลส ถ้าเป็นงานชำระกิเลสต้องมีสติมีปัญญาติดแนบอยู่กับใจ มันคิดเรื่องอะไรๆ จิตนั่นละจะเป็นตัวคิดออกมาผลิตกิเลสออกมาเผาเจ้าของ ถ้าสติจับอยู่นั้นแล้วมันจะไม่ออก นี่กำชับกำชาเรื่องภาวนา ภายในวัดนี้เราไม่ให้จืดจางแต่ไหนแต่ไรมานะ การภาวนาของพระไม่เคยให้ลดหย่อน แล้วเราไม่ไปแตะนะ งานของพระภาวนาเราไม่ไปยุ่ง งานของเราเป็นเรื่องของเราไป สำหรับงานของพระเราไม่ให้เข้าไปยุ่งงานภาวนา ทำอย่างนั้น

เพราะการชำระกิเลสมันชำระยากมากนะ ชำระได้แล้วหากเลิศเลอ ไม่มีอะไรเลิศเลอยิ่งกว่าผู้ชำระกิเลสให้สิ้นไปจากหัวใจแล้ว นั้นไม่บอกว่าเลิศก็เลิศ ไม่บอกว่าเลอก็เลอ ถ้ากิเลสยังมีอยู่ในใจแล้วไม่เลิศ ตั้งชื่อตั้งนามขึ้นฟากจรวดดาวเทียมมันก็ไม่เลิศไม่เลอ ถ้ากิเลสขาดสะบั้นไปจากหัวใจอยู่ใต้ดินก็เลิศเลอ จำเอานะ เอาละให้พร

 

รับชมและรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th

และสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน  FM 103.25 MHz

และเครือข่ายทั่วประเทศ


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก