วัดสถานที่เคารพบูชา
วันที่ 9 พฤษภาคม 2550 เวลา 7:45 น. ความยาว 30.42 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๐

วัดสถานที่เคารพบูชา

ก่อนจังหัน

สำคัญตอนเย็นบ่ายสี่โมง ระหว่างบ่ายสี่โมงห้าโมง พวกฆราวาสมาจุ้นจ้านๆ ดูไม่ได้นะ พวกนี้พวกนิสัยปล่อยตัว ไปสบายๆๆ ไม่ได้คิดอ่านอะไร ผู้รักษาท่านรักษาอยู่นี้มันดูกันไม่ได้ ถ้าเราออกไปแล้วเหมาะ บางทีรถบัสใหญ่มาจอดกึ๊กไหลกันลงจะเข้ามาในวัด เราปิดประตูกึ๊ก นี่สมภารวัดบอกเลย ให้หนีอย่ามายุ่ง เอาจริงๆ นะเราไม่ได้เหมือนใคร สกปรกพวกส้วมพวกถานนี่ ไม่เอาขนาดนั้นไม่ได้มันเลว พูดให้มันชัดเจนอย่างนี้ละ ฆราวาสดีกว่าธรรมเหรอ เราไปห้ามกึ๊กไว้เลย หลวงตาบัวเป็นสมภารวัดป่าบ้านตาดเอาจริงเอาจัง เราปฏิบัติตัวเรามาก็อย่างนี้ พระพุทธเจ้าปฏิบัติพระองค์มาก็สลบไสล มาเล่นจุ้นๆ จ้านๆ อย่างนี้ไม่ได้มันขวางหูขวางตาเข้ามา

ตอนสี่โมงนั้นจะเลิกกันแล้วยังไหลเข้ามา รถบัสทั้งคันนู่นน่ะ ไปก็ยืนกึ๊กเลย ไล่เดี๋ยวนั้นเลย เอาแตกฮือๆ เราไม่ได้มีอะไร จะกลัวจะกล้าไม่มี ธรรมเหนือหมดแล้ว มีแต่พูดด้วยความสงสารเท่านั้น คือมันไม่ได้รักษาเลยรักษาตัว ปล่อยตามนิสัยจุ้นๆ จ้านๆ เข้ามาในวัดก็จุ้นๆ จ้านๆ เข้ามา จนดูไม่ได้นะ ให้ดูเอาพี่น้องชาวพุทธเราในเมืองไทย เรายกตัวอย่างขึ้นมาให้ท่านทั้งหลายได้ทราบว่า วัดนี้เป็นวัดที่ปฏิบัติรักษาศีลธรรมเต็มเม็ดเต็มหน่วย เวลาอะไรเข้ามาๆ มันก็เหมือนผ้าขาวกับของสกปรก ติดปั๊บรู้ทันทีๆ

ถ้าวันไหนเราออกมาตรงนั้นละเอาละได้การ บอกว่าได้การเลย เอาจริงละเรา ลงรถจะไหลเข้ามา ยืนกึ๊กปิดประตูเลย อย่าเข้ามา เข้ามาอะไร ดูลักษณะมีแต่พวกจุ้นจ้านๆ ลืมเนื้อลืมตัว เคยปล่อยเนื้อปล่อยตัว ไปดูวัดนั้นไปดูวัดนี้อย่างเพลิดเพลิน ผู้รักษาท่านรักษาแทบเป็นแทบตาย เอาจริงนะเรา ไม่มีอะไรเหนือธรรมในโลกนี้ พูดง่ายๆ อันนี้พูดด้วยความจ้าอยู่ตลอดเวลานี่นะ เราไม่ได้พูดดูถูกเหยียดหยามโลก พูดด้วยความสงสารต่างหาก บอกเลย บางทีพูดตลกบ้าง นี่สมภารวัดรู้ไหม พูดเฉยๆ ลึกๆ ทำท่าขู่ นี่สมภารวัดมาห้ามเองนะ ไล่แตกฮือๆ เลย รถบัสๆ ออกมา

ถ้าเราไปแล้วเหมาะละ พระเณรท่านไปท่านไม่ได้สนใจ ถ้าเป็นหลวงตาบัวไปแล้ว โอ๋ย เหมาะสมมาก ไหลลงจากรถบัสใหญ่ ไล่ขึ้น แล้วออกท่าด้วยนะ ก็พูดไม่มีอะไรกับโลกมันพูดได้สะดวกสบาย คือเราไม่มีอะไรเลยกับโลก พูดยังไงๆ ก็ไม่มีพิษมีภัย จะดุด่าว่ากล่าวอะไรธรรมท่านไม่เคยเป็นพิษต่อผู้ใด ถ้าผู้เขาฟังข้างนอกแล้วก็เอาไปขยี้ขยำ โอ๊ย หลวงตาองค์นี้ทำไมท่านดุอย่างนั้น ตัวเลวเหมือนขี้ไม่ดู เข้าใจไหม ท่านมาชำระขี้ให้มันยังไม่รู้นะ เลอะเทอะๆ เข้ามาในวัด โธ่ ได้รู้ว่าไม่มีการรักษากันเลย ปล่อยเนื้อปล่อยตัวเข้ามา ผู้รักษาท่านรักษาอยู่ท่านดูรู้มันขวางหูขวางตา เอาเสียบ้างๆ สำหรับพระในวัดนี้ท่านหูหนวกตาบอดท่านเฉยท่านไม่ว่าอะไรละ ก็มีแต่หลวงตาบัวตาฝ้าตาฟาง แต่กับสิ่งเหล่านั้นไม่ฟางนะ เอาเปรี้ยงๆ เลย ไล่ขนาบเรื่อยละ ไล่เลย

โธ่ จะหมดจริงๆ ศาสนา ถือวัดถือว่าเป็นทำเลเที่ยวเตร็ดเตร่สนุกสนานไปอย่างนั้น ไม่ได้คิดเรื่องศีลเรื่องธรรมอะไรเพราะนิสัยเคยมาอย่างนั้น เข้ามาในวัดก็มาปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้พระท่านดู พระท่านระมัดระวังรักษาศีลธรรมตลอดเวลา แล้วมาปล่อยเนื้อปล่อยตัวไม่มีสติสตังเลย โอ๋ย มันขวาง ขวางเอามาก เอาเสียบ้างๆ กับหลวงตาบัวไม่มีใครมาถือผิดถือถูกได้ละ ถือเท่าไรเราก็ไม่ถือกับใครนี่ ว่าเปรี้ยงๆ ไปแล้วหายเงียบเลย มันเลอะเทอะขนาดนั้นเดี๋ยวนี้ ศาสนาไม่มีจะไม่มีอะไรติดเนื้อติดตัวนะ เดี๋ยวไปหาเอาหางหมามาติดหางให้เป็นหมาแล้วหมาไล่กัดจะว่าไม่บอกนะ หมาในวัดนี้มันมีหางนะจะไปเอาหางมันมาใส่ก้นเจ้าของให้เป็นหมาไม่ได้นะ

มันเลอะขนาดนั้นนะเวลานี้ โอ้ อำนาจของกิเลสตัณหาไม่มองดูดีดูชั่วดูหนักดูเบาดูบาปดูบุญ กิริยามารยาทสวยงามไม่สวยงามไม่ดู มันเคยตัวมาแล้วเลอะเทอะๆ เข้ามาในวัดในวาดูไม่ได้นะ ก็มีแต่หลวงตาบัวละ ในวัดนี้ไม่มีใคร มีหลวงตาบัวองค์เดียว ถ้าเราเดินออกไปนั้น นั่นละเจอดีละ เจอดีหรือเจอชั่วก็ไม่รู้แหละ เข้าใจไหม เจอชั่วมันเลวมานั่น เจอดีคือธรรมสอนจะว่าไง เอาละเรา มันเลอะเทอะจริงๆ นี่นะ พากันรักษาเนื้อรักษาตัวบ้างซิ เข้ามาในวัดยังเอานิสัยนั้นที่มันเคยชินมาพอ ไม่รู้สึกตัวเลยเข้ามาเหยียบวัดเหยียบวา เอาเสียบ้างๆ ละเรา ให้พร

การรับศีลจะเป็นศีล ๕ ศีล ๘ อะไรก็ตาม ๑.สมาทานวิรัติ รับกับพระเอาพระเป็นพยาน ๒. เจตนาวิรัติ เรามีเจตนาวิรัติงดเว้น ๓. สมุจเฉทวิรัติ งดเว้นขาดไปเลย เช่นศีลพระอริยะพวกพระโสดา เหล่านี้เป็นศีลเหมือนกันหมด เจตนางดเว้นในตัวเองก็เท่ากับเอาพระมาเป็นพยาน เช่นพระพาว่ารับศีลนั้น คือท่านเป็นพยานต่างหากนะ ศีลแท้ๆ เกิดกับเรา ใครจะต้องการศีล ๘ อย่างนี้ หรือศีล ๕ เจตนาปั๊บเข้าไปเป็นศีลขึ้นมาทันที นี้ตามหลักธรรม ธรรมท่านให้สมบูรณ์แบบเหมือนกัน

สมาทานวิรัติก็คือ ไปสมาทานจากพระมาแล้วก็ให้ท่านมาเป็นพยาน เพราะตัวเรามันชอบโกหกตัวเอง ให้ท่านมาเป็นพยาน เจตนาวิรัติ งดเว้นในตัวเอง เหล่านี้เรียกว่าเป็นศีลสมบูรณ์ด้วยกันให้พี่น้องทั้งหลายเข้าใจเอานะ เป็นศีลสมบูรณ์ด้วยกันเลย เป็นพระโอวาทของพระพุทธเจ้าสอนไว้ สมาทานวิรัติก็เป็นศีลสมบูรณ์ เจตนาวิรัติตัวงดเว้นด้วยตัวเองก็เป็นศีลสมบูรณ์เหมือนกัน ธรรมท่านแสดงไว้อย่างนั้น สมุจเฉทวิรัติ งดเว้นอย่างเด็ดขาดเป็นศีลเหมือนกัน สมุจเฉทวิรัตินี้ส่วนมากมักจะเป็นศีลพระอริยะ เป็นศีลขึ้นมาทันทีเลย สมุจเฉทตัดขาดสะบั้นไปเลย ให้พากันเข้าใจรับศีล ไม่อย่างนั้นจะไม่ได้เรื่องได้ราว ว่าท่านไม่ได้ให้ศีล เราไม่ได้ศีลอะไร มันเข้าใจผิด นี่ละพูดให้ฟังชัดเจน

เจตนาวิรัติเป็นศีลสมบูรณ์แล้วตามหลักธรรมพระพุทธเจ้า คือไม่ต้องสมาทานกับพระ เช่นอย่างเราสมาทานจะเอาศีล ๕ หรือศีล ๘ เจตนาวิรัติปุ๊บเข้าเลย เป็นศีลขึ้นมาทันที เท่ากับรับกับพระ รับกับพระไม่ใช่พระท่านให้ศีลนะ ท่านมาเป็นองค์พยานของเราเพราะเรามันเหลาะแหละ เอาท่านเป็นพยานแล้วก็ไม่กล้าล่วงเกินศีลความหมายว่างั้น ให้พากันเข้าใจเอา เสร็จแล้วนะ ให้พรแล้วนะ ให้พรแล้วจะฉันจังหันมันหิวข้าวใครอย่ามากวนนะเวลานี้

พอว่าหิวข้าวเลยคิดถึงเฒ่าตัน คนบ้านแถวนี้แหละ นิทานสด ผู้เฒ่าชื่อตัน วันนั้นไปกับเพื่อนพวกนายพรานด้วยกัน ไปหาดักหมู หมูฝูงหมูป่า มันเป็นฝูงๆ ไปหาดักยิงหมูไล่หมูยิงหมู พอดีจนตะวันเที่ยงหมูก็ไม่ได้สักตัว หิวข้าว พอหิวข้าวก็มาฉวยเอาเห็ดโคนมันเกิดอยู่ตามดง ฉวยเอาเห็ดโคนมาก็ก่อไฟ ข้าวก็หุงพร้อมกันในเวลานั้นเพราะมันหิวข้าว ทั้งหุงข้าวทั้งเร่งไฟ ได้เห็ดโคนมาก็เผาไฟเข้าไป มันหิวมันจะตาย ทีนี้นึกว่าเห็ดโคนสุกแล้วเอาใส่ปาก คือมันหิวมาก ทั้งหุงข้าวทั้งเอาเห็ดโคนไปเผา มันหิวข้าวมาก เอามาใส่ปาก เห็ดโคนมันร้อน เอามาใส่ปากมันเผาปาก ถ้าจะคายก็เสียดาย ชื่อเฒ่าตัน พวกเพื่อนฝูงเขา ให้มันตายเสียด้วยความหิวมันเกิด เขาพูดหยอกกัน ให้มันตายเสีย ฟังเสียง ฮ่อๆๆ จะคายออกมันเสียดายเห็ด ฟังเสียง ฮ่อๆๆ เข้าใจไหมล่ะ

หลังจังหัน

         ตอนบ่ายสี่โมงครึ่งหรือห้าโมงไปแล้ว เรามักจะออกไปที่หน้าประตู เพราะเป็นเวลาที่สงบสงัด ทางตชด.เราก็บอกรถจะเข้ามาไม่ให้เข้า ให้ถามเหตุผลเสียก่อน ถ้าเหตุผลจำเป็นที่ควรจะเข้าก็ตกลงให้เข้า ถ้าสี่โมงครึ่งไปแล้วไม่ให้เข้า พอสี่โมงครึ่งแล้วปิดกึ๊กเลยประตู ไม่ได้สั่งไว้ไม่ได้เลอะหมด วัดเสียหมด เก้งก้างๆ เข้ามา ไม่มีเวล่ำเวลา พวกนี้เขาไม่มีการรักษา เป็นนิสัยเข้ามา แม้มาในวัดก็เอานิสัยเดิมมา ทีนี้มันก็ขวางวัดละซิ เลยว่าให้

         บางทีมารถบัสทั้งคันเลย ตอนค่ำๆ สี่โมงกว่าๆ รถบัสทั้งคันเต็มรถ จะเข้ามาเที่ยวในวัด พอดีเรามาเห็นกำลังหลั่งไหลลงจากรถ ถามจะไปไหน จะเข้าวัด เข้าไปอะไร ถาม ไม่ได้เหตุได้ผลไล่เดี๋ยวนั้นเลย ปิดไม่ให้เข้า บอก รถบัสทั้งคันใหญ่ๆ เราไล่ไม่ให้เข้าเลย เอามันขนาดนั้นพอดี เอ้อ พวกนี้พวกหารื่นเริงบันเทิงไม่ได้หน้าได้หลังอะไร ไม่มีสาระ เที่ยว วัดท่านรักษาเข้มงวดกวดขันอยู่ตลอดเวลา กับสิ่งที่เลวร้ายทำลายวัดวาอาวาสศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้องมันดูไม่ได้นะ ได้ดุกันบ่อยละ แต่กับเราไม่มีอะไรละ ให้เทวดาท้าวมหาพรหมมาก็มาเถอะ ว่าอย่างนั้นเลย ถ้าลงเป็นหลวงตาบัวแล้ว ท้าวมหาพรหมก็มาเถอะ ไล่เดี๋ยวนั้นเลย ไม่อย่างนั้นเลอะเทอะ ถือวัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เขาเคยเขา วัดเรารักษาเข้มงวดกวดขันตลอดมา เวลามาเห็นสิ่งทำลายอย่างนี้มันดูไม่ได้นะ ถ้าเป็นวันไหนเราออกมาเจอละพอดี ถ้าไม่เจอก็เพ่นพ่านๆ เข้ามา

         ให้พากันรักษาบ้างนะ เข้ามาในวัดสถานที่เคารพบูชา ควรจะทำความรู้สึกใจเสียใหม่ เข้าเขตวัดเป็นอย่างไรดู วัดทั่วๆ ไปก็แบบเดียวกัน ไม่ทราบจะให้รักษาอะไร แม้พระในวัดก็ไม่รักษาจะให้เขารักษาอะไร แน่ะมันก็มีข้อแม้กันอยู่ อันนี้รักษาอยู่นี่ เข้มงวดกวดขันมากทีเดียว ขนาดหย่อนยานที่สุดแล้วที่อนุโลมให้เป็นทุกวันนี้ เรียกว่าหย่อนยานที่สุด เมื่อเลยนั้นแล้วก็ขนาบกันละ แต่ก่อนใครมายุ่งได้เมื่อไรวัดนี้

         ทุกสิ่งทุกอย่างการเป็นสารประโยชน์แก่ตัวเองต้องรักษา ไม่รักษาไม่ได้ กิเลสตัวเพ่นพ่าน ตัวอยากรู้อยากเห็น อยากดูอยากชมเพลิดเพลินไป นั่นละตัวกิเลสไม่คำนึงถึงได้ถึงเสีย ผิดถูกชั่วดีประการใด ไปอย่างนั้นเรื่องของกิเลส เรื่องของธรรมท่านกลั่นกรองทุกอย่าง เรียกว่าอนุโลมที่สุดวัดนี้ จนอกจะแตกอนุโลมกับประชาชนญาติโยมที่เข้ามาเกี่ยวข้อง อนุโลมที่สุดซึ่งไม่เคยทำมา แต่ก็ได้อนุโลมอย่างนั้นแหละ นอกจากทนไม่ไหวจริงๆ ก็เอาเสียบ้าง เขาไม่เคยรักษา เขาเข้ามาเขาก็เอานิสัยที่เคยชินของเขามา นิสัยวัดกับนิสัยบ้านมันต่างกัน นิสัยธรรมกับนิสัยกิเลสต่างกัน วันนี้ไม่พูดอะไรมาก พูดทุกวันๆ เทศน์ทุกวันเหนื่อย

หลวงปู่มั่นท่านไม่ค่อยพูด เกี่ยวข้องกับประชาชนญาติโยม เพราะท่านอยู่แต่ในป่าๆ ไม่มีใครเข้าไปหา เราอยู่สนามคนซี ต้องได้พูดตลอด ตั้งแต่เช้ายันค่ำ คนเกี่ยวข้องมายั้วเยี้ยๆ ตลอดเวลา ต้องได้พูดอยู่เรื่อยๆ สำหรับพ่อแม่ครูจารย์มั่นไม่มีใครเข้าไป ถ้าว่าเทศน์ก็เทศน์สอนพระล้วนๆ ในวัดมีแต่พระ เพราะที่วัดหนองผือแต่ก่อนทางรถทางราไม่มี เดินด้วยเท้าทาง ๖๐๐ เส้น สักกี่กิโลนะ ทางตรงขึ้นบนเขาเลย ไปพรรณา ทางอ้อม ทางนี้ ๖๐๐ เส้นทางนี้ ๕๐๐ คนจึงไม่เข้าไป มีแต่พระแต่เณรสะดวกสบาย กับชาวบ้านเขาเขาไม่มาเกี่ยวข้อง

         อยู่อย่างนั้นมรรคผลนิพพานเหมือนอยู่ชั่วเอื้อมๆ เพราะหูตาคำพูดคำจาออกมามีแต่เรื่องอรรถเรื่องธรรม เรื่องมรรคผลนิพพาน ไม่ได้เป็นเรื่องส้วมเรื่องถาน เหมือนพวกเราท่านมาใช้กัน อันนี้มีแต่เรื่องส้วมเรื่องถาน ไม่ใช่เรื่องมรรคผลนิพพาน เป็นดงเสือนะหนองผือ มันมาข้างๆ วัด เสือมาหาเราข้างๆ วัดตามทางไปมาเสมอ บางทีมันเข้าในวัดก็มี เงียบๆ ดึกๆ เสือโคร่งมันเข้ามากลางวัดเลย เวลาเงียบๆ เข้าผ่านกลางวัด เห็นรอยมัน มันมากลางคืนดึกๆ โอ๋ย นี่รอยเสือ เสือโคร่งใหญ่ มันผ่านมากลางวัดเลย มาจากบ้านนาใน มาแล้วก็ตัดเข้านี้ออกไปเลย

มันทำได้ทุกอย่างละเสือ เสียงมันทำหลอกสัตว์มันทำได้ทุกอย่าง บางทีเหมือนเขาแขวนขอแขวนอะไรก๊อกล็อกๆๆ เหมือนเสียงขอวัวที่แขวนคอวัวคอควาย ก๊อกล็อกๆๆ มันมาข้างวัด รอบๆ ทางสัตว์ทางวัวทางควายไป มันมากลางคืน คุยกันอยู่ประมาณสองทุ่มไม่ดึก ไม่เลยสามทุ่ม คุยธรรมะท่านอบรมมากแล้ว.คุยกันเงียบๆ ฟังเสียงก๊อกล็อกๆๆ พระก็ว่า.อ้าว ควายมาอย่างไรมาดึกๆ อยู่นี้ตั้งสองทุ่ม เขาไม่ผูกไม่มัดมันเหรอ ปล่อยให้มันมาเพ่นพ่าน เสียงก๊อกล็อกๆ

นี่ละจอมปราชญ์กับจอมโง่มันต่างกัน นั่งอยู่ด้วยกัน เสียงก๊อกล็อกๆ พระก็จุดตะเกียง กลัวว่าควายมันจะเข้าประตูรั้ว ประตูไม่ดีกลัวมันจะเข้ามา พระเลยหิ้วตะเกียงไป ทีนี้จอมปราชญ์ขึ้นนะ พระไป แต่อย่างไรก็ไม่ทำละทางพระท่านก็รู้อยู่แล้ว ลงจากกุฏิปั๊บได้ยินเสียงก๊อกล็อกๆ มาทางเข้าวัด เสียงก๊อกล็อกๆ นี่ละเสียงเสือมันทำได้นะ จนพระหลงกลมันว่าควาย ที่ขอก๊อกล็อกๆ ละมา จะมาเข้าวัด พระจุดตะเกียงรั้วไป.มันควายอะไร ท่านว่า นั่นเห็นไหมจอมปราชญ์ ควายใหญ่นั่นละ แต่อย่างไรมันก็ไม่ทำกับพระ ท่านก็ไม่ว่าอะไร นี่ควายใหญ่มา ท่านว่างั้น พอมาพระก็จุดตะเกียงไปประตู มันก็เลาะออกนอกประตูไป

ตอนเช้ามาท่านละตาแหลมคม เพราะท่านคิดไว้แล้วกลางคืนแต่คุยกัน ท่านไปท่านก็ดู คือมันรอบๆ วัดออกประตูวัด ท่านเดินไป นี่ควายใหญ่ท่านว่า นี่ควายใหญ่เมื่อคืนนี้ เสียงขอก๊อกล็อกๆ พระเลยว่า.โหย น่ากลัว ทั้งๆ ที่จุดตะเกียงไปหามัน มาน่ากลัวทีหลัง ท่านบอกแล้วควายใหญ่นะนั่น ท่านว่าอย่างนั้น ควายใหญ่คือเสือ แต่อย่างไรมันก็ไม่ทำพระ ท่านก็ไม่ว่าอะไร พอเห็นตะเกียงพระเท่านั้นมันก็หลบไปข้างๆ รั้ววัดข้างนอก พระกลับมาก็มาเงียบๆไม่พากันพูด เพราะไม่เห็นตัวมัน เห็นอย่างไรเสือทั้งตัว มันเห็นคนก๊อกๆ มันไปแล้ว ตอนเช้าเวลาออกบิณฑบาต ทางมันนี่ควายใหญ่ท่านว่า รอยมันนี่ควายใหญ่ก๊อกล็อกๆ เมื่อคืนนี้

มันทำได้ทุกอย่าง เสียงว้อดๆ เหมือนคนก็เป็น ร้องเอิ้กๆ เหมือนคนก็เป็น มันทำได้ทุกอย่างมันถึงหลอกสัตว์ได้ วัดมีทางรอบๆ รั้วข้างนอก เสือมันผ่านไปผ่านมาเสือโคร่งใหญ่ เสือเยอะนะ บางทีก็ได้ยินเสียงมันมา มันทำตามประสามัน พระก็รู้ แต่มันไม่ทำไมคน ที่เห็นได้อย่างชัดเจนเวลาเขามาตามประสาของเขา เขาเดินมาเสียงก้าวเดินเขาเหมือนเสียงคน เดินซวบๆ ๆ มา ข้างรั้ววัดออกมาข้างนอก เขาเดินข้างนอก ทีนี้เราเดินจงกรมอยู่ข้างนอกวัดกลางคืน ท่านหล้าท่านอยู่กุฏิหลังนี้ทางข้างๆ รั้วที่เสือมา ท่านอยู่กุฏิท่านท่านฟังเสียงซวบๆ ไป ท่านก็เห็นเราไปเดินจงกรมอยู่ในป่า ทางจงกรมเป็นทางมันออกไป

ถึงรู้ได้ชัดว่าเวลาได้รู้คนแล้วไม่มีเสียงนะ เราก็ไม่กลัว เราเดินจงกรมอยู่นั้นละเสียงมันมา เสียงชัดเจน ท่านหล้าท่านก็ยืนฟังเสียงมันไปข้างๆ ท่านก็รู้ว่าท่านอาจารย์มหา อยู่ที่นั่น คอยฟังท่านเป็นอย่างไร เราก็เดินจงกรมอยู่มันมาถึงนั้นซวบๆ พอมาถึงนั้นมันเห็นเราซิ ก็เราเดินจงกรมอยู่นี้ พอเห็นเราจากนั้นเงียบเลย หายเงียบไปเลย นั่นละมันเก็บเสียงไปแล้ว พอเห็นเราหลบไปเลย เราก็อยู่ทางจงกรมนั้นแหละ เราก็ไม่กลัวมัน

มันก็รู้คนมาตั้งแต่วันเกิด จะว่าอะไร คนก็รู้มันตั้งแต่วันเกิดเหมือนกัน แล้วจะไปกลัวกันหาอะไร พอมาถึงนี้เสียงดับเงียบเลยๆ เราก็เดินจงกรมเรื่อยๆ หายเงียบเลย ไปแล้ว หลบเราไปแล้ว เก็บเสียงไม่ให้ได้ยินเสียง ตอนมาทีแรกเหมือนเสียงคนเดินมา เวลารู้แล้วเก็บเสียงเงียบเหมือนเสียงแมว ไม่ดัง เอาละทีนี้ให้พรนะ

 

รับชมและรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th

และสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน  FM 103.25 MHz

และเครือข่ายทั่วประเทศ


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก