| เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๐
สอนพวกเทพ
มาจากกรุงเทพเมื่อวานมาถึงนี้เพลียเป็นกำลัง ไม่อยากลุกอยากเดิน อากาศกรุงเทพดีกว่าทางนี้เยอะ อากาศทางโน้นเบาทางนี้หนัก อยู่กรุงเทพรู้สึกว่าเบาเนื้อเบากายกว่าทางนี้ ทางนี้หนัก อากาศรู้สึกจะหยาบกว่ากันอยู่มากเหมือนกัน ไปกรุงเทพกลับมาเมื่อวานนี้ทองคำได้ ๔๐ กิโล ๓๖ บาท ๘๑ สตางค์ นับว่าได้มากอยู่ เราไปกรุงเทพดูเหมือน ๒๑ วัน ไปวันที่ ๖ วันที่ ๒๗ เมื่อวานกลับมาได้ทองคำตั้ง ๔๐ กิโลกว่า นี่พูดถึงทองคำ ดอลลาร์ไม่พูดถึงเลย ได้เท่าไรก็เข้ามาบวกกับเงินไทยออกช่วยชาติช่วยโลก ไม่ได้เข้าคลังหลวง ดอลลาร์ไม่เข้า ก็ตามที่เราประกาศไว้แล้ว
ก่อนประกาศเราคิดแล้ว จากนี้ไปดอลลาร์จะไม่เข้าคลังหลวง เงินไทยร่อยหรอลงไปทุกวันๆ แต่คนที่มาขอพึ่งอาศัยมากขึ้นทุกวัน จึงต้องเอาดอลลาร์มารวมกับเงินไทยแม้เช่นนั้นก็ไม่เพียงพอกัน ดอลลาร์กับเงินไทยไปด้วยกันช่วยคนทั้งชาตินั่นแหละ ส่วนทองคำเข้าร้อยทั้งร้อยตลอดตั้งแต่เริ่มต้น ไม่ยอมให้ไปไหนเลย เข้าหมดทองคำ เดี๋ยวนี้ได้ทั้งหมด ๑๑ ตัน ๔๗๙ กิโล ๔๓ บาท ๗๘ สตางค์
ต้นวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน รวบรวมปัจจัยจากแรงศรัทธาของประชาชนทั่วทุกสารทิศ ขอน้อมถวายปัจจัยนี้แด่องค์หลวงตาเป็นจำนวนเงิน ๗๓๓,๐๐๐ บาท ทองคำหนัก ๔ บาท ดอลลาร์ ๒๑ ดอลล์ สาธุ พอใจๆ
วันนี้รู้สึกเหนื่อยมากไม่ทราบเป็นอะไรตั้งแต่มาจากกรุงเทพ เหนื่อยมากตลอดตั้งแต่เช้ามา อากาศทางนี้หนักกว่าทางโน้น อากาศทางอีสานหนัก หยาบกว่าทางภาคกลาง เราดูร่างกายของเราก็รู้ ทางภาคกลางรู้สึกค่อยเบาทุกอย่าง ดินฟ้าอากาศเบากว่ากัน ทางนี้อากาศหนัก หยาบ อย่างมาถึงเมื่อวาน วันนี้ไม่อยากลุกไปไหนเลยเหมือนว่าจมอยู่อย่างนั้น
(ลูกศิษย์นำหนังสือประวัติหลวงปู่มั่นมาถวายจำนวน ๒๐๐ เล่ม) ประวัติหลวงปู่มั่นกับปฏิปทาพระธุดงคกรรมฐานสายท่านอาจารย์มั่น เราเรียนพิมพ์ดีดโดยลำพังตัวเองได้ ๔๐ คำต่อนาที ทีนี้เริ่มพิมพ์ พอพิมพ์สองเล่มนี้เสร็จ พิมพ์ดีดฟาดเข้าป่าเลยหายเงียบ เดี๋ยวนี้จำไม่ได้เลยพิมพ์ดีด ทั้งๆ ที่พิมพ์มาแล้วนะ หายเงียบเลย บอกทางโรงพิมพ์ไม่ต้องตรวจปรู๊ฟ เราตรวจเสร็จมาเรียบร้อยแล้วทุกกิทุกกี เราทำด้วยความเทิดทูนสุดหัวใจเรา เพราะฉะนั้นจึงไม่ให้ตรวจปรู๊ฟ ให้พิมพ์ได้เลย
ประวัติหลวงปู่มั่นเป็นของเล่นเมื่อไร ในสมัยปัจจุบันไม่มี บอกตรงๆ เลย ไม่มีใครจะสมบุกสมบันลำบากลำบนมากยิ่งกว่าหลวงปู่มั่นเรา หลวงปู่เสาร์ก็ยกไว้ แต่นี้หนักกว่า หลวงปู่มั่นเราหนักมากทีเดียว เข้าอยู่ในป่าในเขา ที่ไหนลำบากมากเท่าไรท่านไปอยู่ที่นั่นละ อยู่ตลอด แต่ท่านดูไม่เคยมีพวกสัตว์พวกเนื้อพวกเสืออะไรมาหานะ ท่านเล่าธรรมดาไม่เห็นมีอะไรตื่นเต้น ทั้งๆ ที่ท่านสมบุกสมบันเข้าแต่ที่คับขันมาก แต่ก็ธรรมดาไม่มีอะไร ท่านลำบากมากที่สุดพ่อแม่ครูจารย์มั่นเรา นี่ละที่ได้มาเป็นแบบฉบับอยู่ทุกวันนี้ เราจึงได้เขียนประวัติท่าน เราเขียนเองเลยเทียว ก่อนจะเขียนก็เรียนพิมพ์ดีดเสียก่อน เรียนพิมพ์ดีดได้ ๔๐ คำต่อนาที เอาเลย พอจบแล้วทิ้งพิมพ์ดีดเลย เท่านั้นละได้สองเล่ม ปฏิปทากับประวัติหลวงปู่มั่น เราตั้งใจทำจริงๆ ทำด้วยความเทิดทูนท่านสุดหัวใจเรา ได้สองเล่มเท่านั้นพอ จากนั้นไม่แต่งอีก สำหรับประวัติเราเองไม่ยุ่ง
ประวัติพ่อแม่ครูจารย์มั่นสำคัญมาก เวลาท่านดำเนินธรรมเข้าสู่จิตส่วนละเอียดๆ นี้เราตามหมดเลยนะ ประวัติท่านเราตามตลอดเลย เพราะระยะนั้นความรู้ของท่านที่ผ่านไปแล้วกับความรู้ของเรามันก็ตามกันไปเหมือนกัน เพราะฉะนั้นมันจึงพอเห็นร่องรอยบ้าง ตอนนั้นปี ๒๕๑๔ แต่งประวัติท่าน เขียนประวัติท่าน จึงไม่ค่อยเรี่ยราดสาดกระจายไปไหนนัก เพราะความรู้ตอนนั้นก็เป็นความรู้ของเราอย่างเต็มภูมิของเราแล้ว เวลาเขียนมันก็ตามกันได้เลย มีองค์เดียวในประเทศไทยเรา พระที่ลำบากลำบนมากที่สุดไม่มีใครเกินหลวงปู่มั่น ลำบากที่สุดเลยเชียว ถ้าพูดถึงกับพวกทวยเทพทั้งหลายก็ยกให้เป็นเบอร์หนึ่งในสมัยปัจจุบัน พวกเทพตั้งแต่ท้าวมหาพรหมลงมาเกี่ยวกับท่านทั้งนั้น
ส่วนสอนประชาชนท่านไม่ค่อยได้สอน ก็มากระจายเอาทีหลังนี้ ตอนที่เราออกประวัติของท่านกระจายออก ส่วนท่านจริงๆ แล้วท่านเกี่ยวกับพวกเทพมาก วันหนึ่งคืนหนึ่งไม่ค่อยได้ว่าง สอนพวกเทพตั้งแต่ท้าวมหาพรหมลงมา ท่านเล่าให้ฟัง พอ ๔ ทุ่มมาแล้วว่าท่านว่า ที่ท่านบอกในหนังสือพุทธกิจ ๕ พระพุทธเจ้าในวาระที่สาม อฑฺฒรตฺเต เทวปญฺหากํ คือตอนเที่ยงคืนท่านแก้ปัญหาเทวดา เทศนาว่าการสอนพวกทวยเทพทั้งหลาย ท่านบอกว่าเวลาไปอยู่ในเขาลึกๆ นั้นเพียง ๔ ทุ่มมาแล้ว ที่ท่านพูดท่านพูดกลางๆ เอาไว้ว่า ๖ ทุ่ม แต่เวลาไปอยู่ในที่สงัดจริงๆ นั้นเพียง ๔ ทุ่มมาแล้ว เต็มหมดเลยพวกทวยเทพทั้งหลายมาหาท่าน วันนี้ก็ไม่พูดอะไรมากนักละ เหนื่อย เราเหนื่อยมาก
รับชมและรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th
และสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz
และเครือข่ายทั่วประเทศ |
