เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๐
นักล่า
ก่อนจังหัน
วันนี้ผมจะไม่ได้อยู่นะ พระเณรมีหลักธรรมหลักวินัยมีศาสดาประจำองค์ทุกองค์ๆ นะ ธรรมก็ดี วินัยก็ดี นั่นละคือองค์ศาสดา ให้ติดแนบอยู่กับตัวเอง ไม่มีที่แจ้งที่ลับที่ใกล้ที่ไกล คือธรรมและวินัยอยู่บนหัวใจเราทุกคนๆ คำว่าที่ลับที่แจ้งเป็นเรื่องของกิเลสตัณหากลมายาหลายสันพันคม ทำความสกปรกต่อโลกก็คือกลมายาของกิเลส ถ้าธรรมแล้วไม่มีที่ลับที่แจ้ง ศาสดาองค์เอกอยู่กับธรรมวินัย
พระตั้งใจปฏิบัติให้ดี อย่ามาโกโรโกโส พระในวัดนี้เลอะๆ ไล่ออกเรื่อยนะ พอจับได้ชัดเจนแล้วไล่ออกๆ เราไม่พูดอะไรมากแหละเพราะสอนมามากต่อมากแล้ว ยังมาผิดอยู่ในสิ่งที่สอนที่พูดอยู่ทุกวันๆ ควรแล้วหรือที่จะเอาอยู่ไว้ในวัดให้มันเน่าเฟะกันทั้งวัด ไล่ออกทันทีเลย ทางด้านแม่ชีแม่ขาวก็เหมือนกันเอาแบบเดียวกัน เราเป็นผู้ปกครองคนเดียวกัน เพราะสอนมามากต่อมากแล้ว มันเลอะๆ เทอะๆ สิ่งที่ไม่น่าเป็นก็เป็น สิ่งที่ไม่น่าเห็นก็ได้เห็นเข้ามาละ
วัดนี้เราส่งเสริมที่สุดในการปฏิบัติจิตตภาวนาเป็นสำคัญ เรื่องจิตตภาวนาเราไม่เข้าไปแตะต้องเลย งานการทั้งหลายไม่ให้มี ให้มีแต่เรื่องจิตตภาวนา ดูหัวใจตัวเองด้วยสติไม่ให้โยกคลอน มันเลอะเทอะไปเพราะความลืมตัวนั่นแหละไม่ใช่เพราะอะไร ถ้าคนไม่ลืมตัว มีสติประจำตัวอยู่แล้วก็ไม่ค่อยผิดพลาดคนเรา อันนี้มันไม่มี เลอะๆ เทอะๆ เลยกลายเป็นมุทะลุไปเลยก็มี
นี่ก็ได้ไล่ออกหลายองค์แล้ววัดนี้ ไม่ว่าใครถ้าเราปกครองอยู่นี้แล้ว การแนะนำสั่งสอนก็สอนมามากต่อมากแล้ว ยังมาผิดในสิ่งที่สอนๆ อยู่แล้วนั้นจะเอาไว้ทำไม ไล่ออกๆ พวกเนื้อร้าย ทำความเสียหายแก่เนื้อดีๆ ให้เสียไปหมด อยู่นี้ก็ท่าน...ให้ดูแลพระเณรทั้งหลาย องค์ไหนไม่ดีควรแนะนำสั่งสอนอะไรก็สอนตามที่เคยสอนมาแล้ว ถ้าไม่เป็นท่าแล้วให้ไล่ออก ท่าน..ไล่ออกเลย ไม่จำเป็นต้องรอให้เราอยู่เรามา ให้ไล่ออกเลย
ข้างในก็เหมือนกัน ท่าน..ให้เป็นคนดูแลข้างในครัว ทางนี้ก็เหมือนกันให้ดูแล ไม่งั้นเลอะไปหมดนะ มันแหลมมันคมนะไอ้ตากิเลส ตาสกปรกตาส้วมตาถานมันแหลมมันคม ใจแหลมใจคม ถ้าเป็นตาอรรถตาธรรมไม่ค่อยมีนะ เซ่อๆ ซ่าๆ เลอะๆ เทอะๆ ดูไม่ได้นะ
เราไปที่ไหนมาที่ไหนได้วิตกวิจารณ์ แต่ก็จำเป็นต้องไปๆ ยิ่งเฒ่าแก่ลงทุกวันๆ ค่อยปล่อยค่อยวางไม่อยากเล่นกับอะไร ตั้งแต่สังขารร่างกายเจ้าของมันก็ไม่ไหวแล้วแหละ เดินไปก็จะล้มลุกคลุกคลาน หมู่เพื่อนยังมาทำให้หนักอกหนักใจ เหยียบหัวกันไป เหยียบหัวครูอาจารย์ไป ขี้รดหัวครูอาจารย์ไปด้วยความไม่มีหิริโอตตัปปะ ความสะดุ้งกลัวต่อบาปนี่ละมันเสียมาก
พระที่จะมาที่นี่ให้ดูแล้วดูเล่านะ ที่ผมไม่อยู่มีเข้ามา ไม่ควรรับอย่ารับ รับแล้วก็หนักหัวอกเราผู้เป็นหัวหน้านั่นแหละ ให้ภาวนา บอกแล้วให้ภาวนา วัดนี้เป็นวัดภาวนาไม่ใช่ให้ทำอย่างอื่นอย่างใด งานอื่นงานใดเราไม่สนใจยิ่งกว่างานจิตตภาวนา พระอย่าเพ่นๆ พ่านๆ เลอะๆ เทอะๆ นะพระ มักจะเป็นขโมยออกนอกวัด เวลาไหนๆ ไม่ทราบ นี่เราทราบอยู่ไล่ออกแล้วก็มี เป็นอย่างนั้นนะ มันมาหน้าด้าน มาศึกษาอบรมธรรมวินัยทำไมเป็นอย่างนั้น ไม่ดูครูดูอาจารย์ ฟังเสียงครูเสียงอาจารย์ ไปเลอะๆ เทอะๆ เข้าออกวัดไม่มีกำหนดกฎเกณฑ์
หัวหน้าวัดมีอยู่จะไปไหนมาไหนต้องบอกหัวหน้าซิ หลักธรรมวินัยก็มีอยู่อย่างนั้น ไม่ใช่แบบมุทะลุๆ นั่นเขาเรียกมหาโจร พวกอันธพาล พระอันธพาลพระมหาโจร คอยขโมยเวลาครูบาอาจารย์หรือหมู่เพื่อนเผลอ นั่นละเรียกมหาโจร เลอะไปหมดจนจะดูไม่ได้ เราก็ยิ่งเฒ่าแก่มา ทุกสิ่งทุกอย่างปล่อยเข้ามาๆ ไม่อยากเล่นกับอะไรทุกวันนี้ ดูเจ้าของก็ดู เวลานี้ไม่ดูแล้วเจ้าของ หากรู้อยู่งั้นแหละ ไม่ทราบมีธรรมมีวินัยหรือไม่มี หากมีอยู่ในนั้นแหละ แน่ะ ฟังซิน่ะ
เวลาที่ว่ามีหรือไม่มีธรรมวินัย หากมีอยู่ในนั้น เห็นหมดนี่ เซ่อๆ ซ่าๆ มาที่ไหนมองเห็นหมดๆ เลย อย่าว่าตั้งแต่พระเณรเลย ฆราวาสเข้ามาในวัดก็เหมือนกัน มาเก้อๆ กังๆ เลอะๆ เทอะๆ มาเที่ยวเตร็ดเตร่เร่ร่อน เราเขียนไว้นั่นเห็นไหมได้อ่านไหม กูจะฟ้องท่านเปา มันมาเที่ยวเพ่นพ่านในวัด คือมาเที่ยวเลอะๆ เทอะๆ ไม่ใช่มาวัดมาวาเพื่อบุญเพื่อกุศล มันมาเลอะๆ เทอะๆ แบบหมาเดือน ๙ เดือน ๑๒ เห็นไหมหมาเดือน ๙ เดือน ๑๒ มันรู้จักเจ้าของเมื่อไร เลอะๆ เทอะๆ ไม่มีขอบเขต บ้านเรือนไม่มีหมาเดือน ๙ เดือน ๑๒ อันนี้คนไม่มีขอบเขตคนเดือน ๙ เดือน ๑๒ ก็เป็นแบบเดียวกันเลอะไปหมด
ถ้าไม่มีศาสนาครอบครองแล้วคนไม่มีค่ามีราคา ยังแต่ไม่ได้ติดหางให้เหมือนหมาเท่านั้นเอง หมามันก็เดือดร้อนซิคนสมัครเป็นหมาแต่ไม่มีหาง ไปยุ่งกับหางหมา หมาจะกัด อย่ามายุ่งกับหางหมาวัดป่าบ้านตาดนะ เดี๋ยวมันไล่กัดเอาจะว่าเราไม่บอก ให้พร
หลังจังหัน
ธรรมลี ผาแดง ถวายทองคำ ๒ กิโล ๒๕ บาท เช็ค ๘๗,๙๓๐ บาท เงินสด ๔๖,๐๐๐ บาท รวมเป็น ๑๓๓,๙๓๐ บาท เก็บหอมรอมริบทองคำได้น้อยเมื่อไร เดี๋ยวนี้ตั้ง ๑๑ ตันกับ ๔๐๐ กว่ากิโลแล้ว พยายามหาเพื่อเข้าคลังหลวงซึ่งเป็นหัวใจของชาติ ถ้าไม่พาพี่น้องหาใครจะหา เมืองไทยเรามีที่ไหนได้ทองคำถึง ๑๑ ตันกับ ๔๐๐ กว่ากิโล ก็มามีตอนนำพี่น้องทั้งหลายออกช่วยกันเห็นไหมล่ะ ดอลลาร์ก็ตั้ง ๑๐ ล้านกว่าที่เข้าคลังหลวงเรียบร้อยแล้ว จากนั้นดอลลาร์กระจายออกช่วยเงินไทย เราได้เคยประกาศให้ทราบทั่วหน้ากันแล้ว คือเงินไทยไม่พอใช้ตั้งแต่เราหยุดการเทศนาว่าการช่วยชาติมาแล้ว เงินไทยร่อยหรอ แต่ผู้ที่จำเป็นไม่ร่อยหรอ จึงต้องหมุนเอาเงินดอลลาร์เข้ามาช่วยเงินไทย สำหรับทองคำร้อยทั้งร้อยเข้าตลอดๆ ไม่รั่วไหลไปไหนเลยแม้เม็ดหินเม็ดทราย เข้าเลยๆ
เราพยายามที่สุดที่จะให้ชาติไทยของเรามีความแน่นหนามั่นคง ทั้งศีลธรรม ทั้งวัตถุธรรม ศีลธรรมก็ให้มีจิตใจแน่นหนามั่นคงกับธรรม...ใจเรา ส่วนด้านนอกก็ให้มีความแน่นหนามั่นคงกับวัตถุสิ่งของที่เราอยู่กินใช้สอยให้รู้จักประมาณ อย่าเถลไถลใช้ไม่ได้ การเก็บการรักษาเก็บไว้เพื่ออะไร การใช้จ่ายใช้จ่ายเพื่ออะไรให้มีเหตุมีผลหลักเกณฑ์ อย่าสุรุ่ยสุร่ายเป็นนิสัยไม่ดี สังหารตัวเอง สมบัติเงินทองก็ไม่มี ตัวเองก็เดือดร้อน เรียกว่าสังหารตัวเอง ธรรมท่านรอบคอบสุดยอด ไม่มีใครเกินพุทธศาสนาของเรา สอนลงจุดไหนๆ เรียกว่าช่วยโลกๆ บกพร่องตรงไหนหนุนเข้าไปๆ ให้สมบูรณ์
ธาตุขันธ์ค่อยเบา เมื่อวานนี้หมอฉีดยาให้ รู้ชัดเจนว่าลดลง เมื่อเช้านี้ฉันจังหันได้เยอะ ดูมันลดลงตั้งแต่ค่ำเมื่อวานนี้เพราะฉีดยานี้ ที่มันกดมันถ่วงอะไรพูดไม่ถูกค่อยจางลงๆ แล้ววันนี้ค่อยสบาย ฉีดยาตอนบ่าย ๓ โมงเมื่อวาน หมอรุ่งเรืองมาฉีดยาให้ วันนี้รู้สึกว่าเบา ฉันจังหันก็ได้มาก ฉันได้มากกว่าธรรมดา ไข้หวัดเท่านั้นแหละ ไม่ใช่หวัดนะไข้อะไรมันกดมันถ่วงอยู่ภายในพูดไม่ถูก แต่รู้ชัดเจนภายในร่างกาย มันเหมือนมีอะไรถ่วงอยู่ในนี้ เมื่อวานนี้ฉีดยาผ่านไปแล้วบ่าย ๓ โมง หลังจากนั้นมาก็ค่อยเบาลงๆ จนกระทั่งเมื่อเช้านี้เบา ฉันจังหันก็ได้มาก
เอ้อ นี่ถ้าเทียบแบบโลกนะ เหมือนหมาพรานที่เขาเลี้ยงไว้ในบ้านเขา หาล่าสัตว์เก่ง อันนี้ก็ล่าทุกอย่างเก่ง เข้าใจไหมล่ะ ล่าทองคำได้ตั้ง ๑๑ ตันกับ ๔๐๐ กิโลกว่า นี่ก็ล่า เข้าใจไหม ดอลลาร์ก็ได้ตั้ง ๑๐ ล้าน ๒ แสนกว่า นี่ก็ล่า เลยเป็นหมาพรานล่าเก่ง นอกจากนั้นยังล่าธรรมเข้าสู่ใจประชาชนอีก เวลานี้วิทยุออกทั่วประเทศ ตั้งร้อยกว่าสถานี นี่เป็นเองนะ พอเราเทศน์จบแล้วหายเงียบๆ เราไม่สนใจกับอะไร พอเทศน์จบแล้วหาย จำไม่ได้เลยว่าเทศน์อะไร ขนาดนั้นละ เวลาจะเทศน์ก็เทศน์ปุ๊บๆๆ จบแล้วหายเลยๆ
ไม่ว่าจะพูดหนักเบามากน้อยเหมือนกันหมด เพราะเป็นธรรมล้วนๆ ด้วยกัน จะนิ่มนวลอ่อนหวานอะไรก็เป็นสำนวนของธรรม จะดุด่าว่ากล่าวเฉียบขาดขนาดไหนก็เป็นสำนวนของธรรมเพื่อทำคนให้ดีทั้งนั้น เรียกว่าเป็นหมาพรานก็ได้ หลวงตาบัวนี้จะเรียกว่าเป็นหมาพรานก็ได้ พรานทุกอย่าง พรานสมบัติเงินทองข้าวของเข้าสู่คลังหลวงของเราก็พรานทองคำได้ ๑๑ ตันกับ ๔๐๐ ดอลลาร์ก็ตั้ง ๑๐ ล้าน ๒ แสนกว่า แต่ดอลลาร์เวลานี้แปรออกมาช่วยเงินไทย ทองคำร้อยทั้งร้อยเข้าตลอดไม่ให้รั่วไหลไปไหนเลย ส่วนดอลลาร์นั้นแยกออกมาช่วยเงินไทย เพราะเงินไทยไม่พอที่จะช่วยโลก นี่เรียกว่านักล่า...หลวงตา เรื่องวัตถุ
ทีนี้พูดถึงเรื่องธรรมมันตั้งร้อยกว่าสถานีแล้วธรรมะหลวงตาบัว ล่าหากิเลสตีกิเลสออกจากหัวใจคน เรียกว่าล่าเหมือนกันนี่ก็ดี เป็นยังไงล่ะ การเทศนาว่าการนี้วิทยุที่ไหนออกมีแต่ธรรมะหลวงตาบัวๆ ครูบาอาจารย์ทั้งหลายท่านช่วยบ้างเล็กๆ น้อยๆ สุดท้ายก็เรายืนตัว ยืนตัวในสถานีนั้นๆ เปิดตลอดเลย แล้วธรรมะของเราทุกขั้นด้วย เทศน์อย่างไม่มีข้อข้องใจสงสัย ถอดออกมาจากหัวใจที่ได้ปฏิบัติมาได้รู้เห็นยังไงถอดออกจากนี้ไปเลย จึงไม่มีผิด พูดตรงๆ ว่าไม่ผิด พูดอย่างเด็ดเดี่ยวเฉียบขาดนี้เป็นพลังของธรรมนะ ไม่ใช่พลังของกิเลส เด็ดเดี่ยวเฉียบขาดดุด่าว่ากล่าวเหล่านี้มีแต่พลังของธรรมทั้งนั้น
กิเลสไม่มี จะเอาอะไรมาเป็นพิษเป็นภัยต่อโลกล่ะ เราพูดจริงๆ ไม่มีพิษมีภัยมีแต่ธรรมล้วนๆ ออกแง่ไหนก็เป็นธรรมทั้งหมด ธรรมประเภทนี้ออกจากภาคปฏิบัติ สาธุ เรียนตามตำรับตำราก็พอเป็นปากเป็นทางเพื่อเข้าสู่ภาคปฏิบัติ เข้าภาคปฏิบัติแล้วทีนี้อะไรเกิดขึ้นมาตัวเองรู้เห็นเอง เป็นสมบัติของตัวด้วยๆ ส่วนเราเรียนปริยัติเป็นความจำไม่ใช่สมบัติแท้ เป็นปากเป็นทางเพื่อจะเข้าสู่ภาคปฏิบัติ พอเข้าสู่ภาคปฏิบัติ ปฏิบัติตามปริยัติที่เรียนมาแล้วนั้นรู้เห็นอะไรเป็นของตัวๆ ตลอดไปเลย
หลังจากนี้แล้วเราก็จะไปบุรีรัมย์ ไปพักโรงสีร้อยเอ็ดก่อน สมหมายมาจองไว้แล้ว ตัวมันก็นั่งฟังอยู่ นั่งฟังวิทยุ มันจองไว้แล้ว ไปพักครึ่งทาง รับประทานข้าวกลางวันแล้วค่อยต่อไปบุรีรัมย์ นี่ละหมาพรานดูซิ หลวงตาพราน ขนสมบัติเข้าคลังหลวง พรานทุกอย่าง ขนอรรถขนธรรมเข้าสู่หัวใจคนก็เราพูดตรงๆ อย่างนี้ สมบัติเงินทองข้าวของเข้าสู่คลังหลวงก็เรา เวลานี้กำลังนำ ที่เหลืองอร่ามอยู่นี้จะเข้าคลังหลวงทั้งนั้น นี่ละธรรมนำโลกเป็นอย่างนี้ละดูเอาพี่น้องทั้งหลาย ไม่มีมัวหมองแม้แต่นิดหนึ่ง มีเท่าไรเข้าหมดๆ นี่ละธรรม
ธรรมช่วยโลกช่วยอย่างนี้ ช่วยด้วยความเมตตา จึงไม่มีส่วนอะไรๆ ที่จะหยิบแม้เม็ดหินเม็ดทราย เราไม่มีกับสิ่งเหล่านี้ ได้มาเท่าไรเข้าหมดๆ เลย ใครมาเกี่ยวข้องกับเรากับเงินกับทองแล้วต้องเป็นหัวใจเดียวกันกับเรา ถ้าจับได้ไล่เลยไม่ให้เข้าวัด ธรรมดานะ เราทำอย่างนั้นจริงๆ ธรรมต้องไว้ใจได้ ไว้ใจไม่ได้ไม่ใช่ธรรม นั่นเอาตรงนั้นละ ทองคำวันนี้ได้ ๒ กิโล ๓๓ บาท ๑ สตางค์ เราไปบุรีรัมย์นี้มันจะแห่กันไปหมดเมืองอุดรละมัง รถที่มันจะแห่ตามไปนี้จะหมดเมืองอุดรละมัง มันหากเป็นอย่างนั้น อันนี้เราพูดตามความจริง ขัดต่อนิสัยของเรามากทีเดียว เราปรกติไปคนเดียวๆ ตลอด ตั้งแต่ออกปฏิบัติไม่มีใครเกี่ยวข้องนะเราไปคนเดียว พ่อแม่ครูจารย์มั่นก็เสริมด้วย
พระลาไปเที่ยว บางทีเข้าไปสององค์ก็มีสามองค์ก็มี เวลาจะลาไปเที่ยว หือ ขึ้นเลยนะ ตั้งแต่อยู่นี่มันก็ตกนรกให้เห็นต่อหน้าต่อตาอยู่นี้ มันจะไปตกหลุมไหนเวลาออกจากนี่ไปแล้วน่ะ ใครจะกล้าไปท่านว่าอย่างนั้นแล้ว อยู่ด้วยนี้มันก็ตกนรกให้เห็นอยู่ต่อหน้าต่อตา แล้วออกจากนี่มันจะไปตกหลุมไหนล่ะ นั่นท่านว่า ฟังซิคำพูดพ่อแม่ครูจารย์แหลมคมไหม แต่เดชะสำหรับเราไม่มี พอได้โอกาส คือจะลาท่านแต่ละครั้งนี้ต้องใช้ความเคารพทุกอย่างมารยาทพร้อมเหมือนผ้าพับไว้ กราบเรียนถามถึงเรื่องการงาน เพราะในวัดนี้เราพูดตรงๆ เป็นบ๋อยกลางเรือนของพระในวัดหนองผือ ตาต้องสอดต้องส่องต้องสอดต้องแนมดูตลอดเวลา เพื่อความอยู่เป็นสุขสบายของท่าน เพราะพระเหล่านี้มาเอง ท่านไม่ได้ขันตีนิมนต์มา มาจะให้ท่านหนักใจไม่ได้
เวลาเราอยู่ที่นั่นเป็นทุกข์มากนะ เหมือนบ๋อยกลางเรือนของวัดหนองผือ ต้องสอดต้องแทรกต้องดูนั้นดูนี้ เพื่อความเรียบร้อยไม่ให้ระเกะระกะสายหูสายตาท่าน เป็นอย่างนั้นละ ตาสอดส่อง เพราะฉะนั้นพระเณรจึงกลัวเรามาก กลัวแต่ไหนแต่ไรมา กลัวรองพ่อแม่ครูจารย์มั่น สุดท้ายก็เลยมากลัวเรามากกว่าท่าน ท่านอยู่เฉยๆ ท่านไม่มีอะไร แต่เรานี้สอดนั้นแทรกนี้อยู่เรื่อย เดี๋ยวขู่นั้นเดี๋ยวขู่นี้เพื่อความเรียบร้อย ทีนี้เวลาเราจะลาไปไหน มีโอกาสเราต้องกราบเรียนถามว่าการงานในวัดนี้มีอะไรบ้างๆ ถ้ามีก็จะพาพระเณรจัดทำอะไรให้เรียบร้อย ท่านก็บอกว่าไม่มีอะไร ถ้าไม่มีอะไรก็ขอกราบลาพ่อแม่ครูจารย์ไปเที่ยวภาวนาสักชั่วระยะหนึ่ง ไม่ได้ว่าเตลิดเปิดเปิงนะ ไปสักชั่วระยะหนึ่ง
ทีนี้ท่านเก็บไว้เงียบละ เราคอยฟัง ท่านจะออกเมื่อไรท่านพิจารณาเรียบร้อยแล้วท่านก็ออกเอง กี่วันก็ตาม พอเล่าถวายท่านแล้วปล่อยเลย ถ้าท่านไม่มีเงื่อนต่ออีกก็ไปไม่ได้เลยเรา เพราะมารยาทความเคารพท่าน ถ้าวันไหนท่านเห็นโอกาสอันดีแล้ว เอ้อ ท่านก็ออกมา เอ้อ ที่ท่านมหาอยากจะไปเที่ยวนั้นก็ไปได้แหละ ท่านถาม คราวนี้จะไปทางไหนๆ แล้วจะไปกี่องค์ พอว่าไปองค์เดียวชี้นิ้วเลย เอ้อ ท่านมหาไปองค์เดียวใครอย่าไปยุ่งท่านนะ นั่น กับเราไปองค์เดียวไม่ให้ใครยุ่ง เพราะท่านเห็นความตั้งใจของเราอย่างยิ่ง ทั้งที่อยู่กับหมู่กับเพื่อนท่านก็เห็นอยู่แล้ว
เวลาลงมาจากป่าจากเขามาหาท่านหนังห่อกระดูกมา มีเนื้อมีหนังที่ไหน มีแต่หนังห่อกระดูก นี่ท่านก็รู้แล้วว่าเอาจริงเอาจังมากความหมายว่างั้น พอท่านอนุญาตแล้วก็ไป ไปก็เด็ดขาดเลย เพราะอยู่กับเพื่อนมันเด็ดไม่ได้ มันพะรุงพะรังตาสอดนั้นสอดนี้ ดูนั้นดูนี้ เพื่อความเรียบร้อยของพระเณรเองด้วย เพื่อความสะดวกสบายตาสบายใจสำหรับพ่อแม่ครูจารย์มั่นด้วย เราจึงหมุนอยู่ตลอดเวลา ทีนี้เวลาเราจะไปเที่ยวที่ไหน อาการท่านไม่อยากให้ไปนะ เวลาท่านอนุญาตแล้วเราก็ไป ไปองค์เดียวๆ เราไม่มีใครมาเกี่ยวข้อง คือมันเป็นน้ำไหลบ่า ไปสององค์ก็ไหลบ่า สามองค์ก็ไหลบ่าไม่มีกำลังมาก ถ้าไปองค์เดียวนี้พุ่งเลย
เดินจากบ้านนี้ไปบ้านนั้นมีแต่เดินจงกรมทำความเพียรตลอด อยู่ที่ไหนเป็นความเพียรตลอดเลย ไปองค์เดียว ถ้าไปสององค์สามองค์มันน้ำไหลบ่า แล้วคิดถึงองค์นั้นคิดถึงองค์นี้ รับผิดชอบกันโดยสัญชาตญาณใช่ไหมล่ะ มันหากเป็นของมัน ถ้าไปองค์เดียวเป็นกับตายป่าช้าอยู่กับเราเท่านั้นพอ ไปเลย เป็นอย่างนั้น มันพะรุงพะรังเห็นไหมเดียวนี้ จะไปไหนมันขัดกันละซิกับนิสัยอันนั้นที่ทำมา ตั้งแต่ออกปฏิบัติไม่เคยเอาใครเป็นเพื่อนๆ พ่อแม่ครูจารย์ก็ไม่เคยตำหนิ มีแต่ส่งเสริมให้ไปๆ เพราะท่านเห็นความตั้งใจของเรา อยู่กับหมู่กับเพื่อนท่านก็ดูอยู่นี่ เราเป็นผู้ควบคุมคอยดูแลหมู่เพื่อนตลอดท่านก็เบาหูเบาตาเบาใจ ทีนี้ออกไปแล้วจะเป็นคนเช่นไรก็คนๆ เก่าท่านก็รู้เอง นั่นละเรื่องราว แต่เวลานี้ไปไหนยั้วเยี้ยๆ มันขัดกันนะ เราทนเอา เอาละไปละ ให้พร
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz
|