ยาเทวดาสู้ไม่ได้
วันที่ 29 มีนาคม 2550 เวลา 8:10 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)   วิดีโอแบบ(Win High Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๙ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๐

ยาเทวดาสู้ไม่ได้

ก่อนจังหัน

เป็นหวัดคราวนี้ใหญ่อยู่นะ เป็นไข้แต่ไม่มีน้ำมูก หวัดอะไรไม่รู้ หวัดสมัยใหม่หรือไงไม่มีน้ำมูก หากเป็นหวัด ไข้ด้วย เมื่อวานก็ทั้งวัน..ไข้ วันนี้ก็มีอยู่หากรู้สึกว่าลดลงบ้าง แล้วใครไปเอาหมอมาจากโรงพยาบาลมาฉีดยาเมื่อวานนี้ พระมันดื้อ ดีที่เราให้ฉีดเมื่อวานนี้เราไม่ได้ไล่กลับหมดเลย ไม่ได้นะกับเรา ไม่มีอะไรใหญ่ยิ่งกว่าธรรม เราจะดูธรรมตลอดเลย อะไรเอนเอียงๆ นั่นละมันเข้ามาตีธรรมๆ เป็นเล็กๆ น้อยๆ ก็จะตายๆ ธรรมเลยไม่มี ถูกกิเลสลากไปๆ นี่ไม่เอานะ ความเข้มแข็งในตัวไม่มีจะรักษาศาสนาไปได้ยังไง ความเข้มแข็งต้องมีในใจ ร่างกายจะอ่อนเปียกขนาดไหนก็ตามแต่ใจนี้ตรงแน่ว นั่นละผู้ปฏิบัติธรรม ต้องแข็งอยู่ที่ใจ

พอพูดอย่างนี้เราก็ระลึกถึงพ่อแม่ครูจารย์มั่น แต่ก่อนไม่ค่อยมียาแหละ เราเป็นไข้ ตื่นเช้าขึ้นมาฝนตก มีลมใบไม้ตกเกลื่อน ตามธรรมดาจะได้ยินเสียงปัดกวาดแต่เช้าๆ ก็ไม้กวาดคนนี้แหละ วันนั้นคงเงียบๆ ท่า ท่านด้อมลงมากลางวัด พระไปไหนหมดๆ ท่านลงมากลางวัด ท่านไม่ได้ยินเสียงไม้กวาด ตามธรรมดาเรามีแต่ออกก่อนไม่ใช่คุยนะ ทุกอย่างจะต้องออกก่อนตลอดเวลา พระไปไหนหมดๆ เรานอนไข้อยู่ที่ร้านเล็กๆ ข้างไม่ได้ยิน สักประเดี๋ยวท่านก็ขึ้น ท่านมหาไปไหน ท่านเป็นไข้ หือ ท่านมหาเป็นไข้คนเดียววัดร้างเชียวหรือ ใส่เปรี้ยงๆ

จากนั้นท่านก็ให้พระเอายามาให้ฉัน เราก็ไม่ฉัน ให้พระเอากลับคืนไป ท่านให้พระเอายามาเสียก่อนมาให้ฉัน เราไม่ฉัน เวลามันเป็นไข้มันไปหาไข้มาจากไหนมันก็อยู่ในตัว ยามันจะไปเอามาจากไหน มันก็อยู่ในตัวของมัน ไม่เอา พอพระเอากลับไปไม่นานท่านก็มาเอง คราวนี้มาเอง ไหนท่านมหาป่วยยังไงถึงไม่ฟังหยูกฟังยาอะไรเลย นี่ยา ท่านเอามาเม็ดหนึ่ง ยานี้ยาเทวดาสู้ไม่ได้ เอ้า ฉันเดี๋ยวนี้หายเดี๋ยวนี้ จะทำยังไงก็ท่านเอามาเอง เราก็เลยฉัน ฉันแล้วท่านก็ไม่เคยถามถึงยา เราก็ไม่เคยพูดถึงยา อย่างนั้นละอุบายท่าน ท่านเด็ดจริงๆ ท่านเป็นอย่างนั้น เห็นไหมล่ะ

ท่านให้พระเอายามาให้เราฉัน เราไม่ฉัน ท่านเลยเอามาเอง ขึ้น ยาเทวดาสู้ไม่ได้เลย ตกลงเราก็ฉัน พอฉันแล้วทั้งเราทั้งท่านไม่ถามถึงเลยเรื่องยา หายเงียบไปเลย เอาที่ใจไม่ใช่อะไรนะ ถ้าอ่อนแอแล้วก็เอาละ ให้ปลดออกสบง จีวรเหล่านี้ ไปเอาซิ่นเอาผ้าผู้หญิงมานุ่งมาห่มแทน มันอ่อนแอเกินไปไม่สมควรกับพระ พระองค์นั้นร้องไห้ ท่านมหา พูดตรงๆ ท่านก็เสียไปแล้ว ท่านมหาทองสุก เป็นขนาดมหา คนอาจคิดว่าเป็นเรา เป็นขนาดมหาอ้อแอ้ๆ เหมือนเด็ก ท่านว่า ร้องไห้ ทีนี้ท่านเลยพลิกใหม่ มาไม้ใหม่อีก เอ้ายานี้ดีนะอย่างนั้นอย่างนี้ ดีเรื่อยๆ มีแต่ของดี อันนั้นไม่ใช้แล้ว พลิกใหม่ ยาขนานนี้ไม่ได้ผล เอายาใหม่มาให้ ยานี้ดีนะ ทางนั้นก็ฉัน เป็นอย่างนั้นละพ่อแม่ครูจารย์ พลิกปั๊บๆ ถ้าอ่อนแอแล้วก็เอาละ ถ้าแข็งเสียจริงๆ ก็อย่างว่าแหละ

จอมปราชญ์สมัยปัจจุบันยกนิ้วให้เลยเรา เราเคยผ่านครูอาจารย์มาหลายรายแล้วไม่ได้ประมาท มีองค์เดียวๆ ยอดจอมปราชญ์สมัยปัจจุบัน มองอะไรพับๆๆ เลยเชียวพ่อแม่ครูจารย์มั่น เราจึงลงสุดขีดเลยไม่มีเหลือเลยกับพ่อแม่ครูจารย์มั่น ลงทุกอย่าง ภายนอกภายใน ลงรอบหมดเลย เอาละให้พร

หลังจังหัน

         วิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน รวบรวมปัจจัยจากแรงศรัทธาของประชาชนทั่วทุกสารทิศ ขอน้อมถวายปัจจัยนี้แด่องค์หลวงตา เป็นจำนวนเงิน ๘๑๓,๗๘๐ บาท แล้วทองคำ ๑๐ บาท ดอลลาร์ ๑๓๐ พอใจๆ แล้วเป็นยังไงวิทยุเราออกสะดวกดีอยู่เหรอ วิทยุออกสะดวกดีเหรอ (ชัดเจนดีค่ะ) ชัดเจนเหรอ เวลานี้วิทยุนี้ออกทั่วประเทศละ ดูว่าร้อยกว่าแห่งนะ ก็เป็นเรื่องของประชาชนศรัทธาเขาทำของเขาเอง เราเทศน์แล้วหายเงียบๆ เราไม่เคยสนใจ เทศน์เรื่อยแล้วเขาก็นำไปออกทางวิทยุ เวลานี้ตั้งร้อยกว่าแห่ง เยอะอยู่ ก็สมเจตนารมณ์ที่เราคิดไว้

ตอนที่ออกช่วยชาติทีแรกคนทั้งหลายเขาก็จะว่า ออกช่วยชาติก็ต้องหมายถึงด้านวัตถุเงินทองข้าวของอะไรๆ แต่เราไม่ได้ไปนั้นนะ คราวนี้เป็นคราวที่ธรรมะจะออกสู่หัวใจโลก แน่ะเราไปอย่างนั้นผิดไหมล่ะ นี่โลกเขาไม่คิดนะ พอเราประกาศว่าเราจะช่วยชาติบ้านเมือง เพราะตอนนั้นกำลังจะล่มจมกันทางด้านวัตถุ ตลอดจิตใจห่อเหี่ยวไปหมดทั่วประเทศไทย เราก็เหี่ยวห่อเหมือนกันเราก็ดี จึงได้ออกปากพูดเลยเราอยู่ท่ามกลางแห่งชาติไทย แล้วจมก็จะจมไปด้วยกันทำไง เอ้า จะช่วย นั่นละเราจึงได้ออกช่วยตั้งแต่บัดนั้นมา

แต่ประชาชนทั้งหลายเขาจะคิดแต่เรื่องวัตถุที่จะฟื้นฟูชาติไทยของเรา แต่เราไม่ได้คิดเรื่องวัตถุ คราวนี้เป็นคราวที่ธรรมะจะกระจายออกสู่หัวใจประชาชน แล้วก็ออกเรื่อยๆ ทีนี้ช่วยชาติบ้านเมืองก็ช่วยวัตถุก็ค่อยเป็นไปร่อยหรอลงๆ แต่ธรรมะนี้บานปลายนะเวลานี้ ตั้งร้อยกว่าสถานี ออกจากที่เราเทศน์ช่วยชาติทั้งนั้นละ ตั้งร้อยกว่าสถานีเวลานี้นะ เอ้อ พอใจ กองเงินเท่าภูเขานี่จะไม่พอใจยังไง เป็นหลวงตาผีบ้ามาจากไหนจะไม่พอใจกองเงินเท่าภูเขานี่วะ เข้าใจ เอาละ

หวัดคราวนี้หนักอยู่นะ เป็นไข้ไปด้วยเลย เมื่อวานนี้พระหรือไงไปบอกให้หมอมาฉีดยาให้ตอนเย็นเมื่อวาน ทั้งฉีดยาทั้งให้น้ำอะไร ไม่ใช่น้ำเกลือนะ เราบอกไม่ให้มาก พอ เราเอาครึ่งเดียว หยุดพอ น้ำนี้พอแล้วเดี๋ยวนี้ เป็นอย่างนั้นละเรา ไม่อยากยุ่งกับอะไร พูดตรงๆ จิตโลกกับจิตนี้ต่างกันคนละโลกนู่นน่ะ พูดชัดๆ อะไรมาไม่ใช่จะเป็นบ้าไปกับทุกอย่าง อันนี้พอประมาณรู้แน่วอยู่อย่างนี้ อะไรผ่านเข้ามาๆ มันรู้ทันทีๆ เลย อะไรพอดีอะไรจะเลยเถิดรู้ทันที เอาธรรมเป็นประมาณ ไม่ได้เอาสิ่งทั้งหลายที่โลกเป็นบ้ากันเป็นประมาณนะ เอาธรรมเป็นประมาณ

ธาตุขันธ์เหล่านี้จะใหญ่โตยิ่งกว่าใจไปจากไหนว่ะ ใจครอบหัวมันอยู่นั่น ความรู้จักประมาณขนาดไหนใจรู้เองจะปฏิบัติต่อมัน เพราะปฏิบัติต่อกันมาตั้งแต่วันเกิดแล้วนี่ทำไมจะเป็นบ้ากับมัน เพียงเจ็บไข้ได้ป่วยเล็กน้อยจะเป็นบ้าไปหมด ไม่เป็นนี้พูดจริงๆ ไม่เป็น อะไรเป็นอะไรก็บอกว่าเป็นๆ แต่หัวใจไม่เป็น ไม่หวั่นไม่ไหวพูดให้มันชัด นี่ละการปฏิบัติธรรมท่านทั้งหลายให้นำไปเป็นคตินะ การพูดนี้ไม่ได้พูดโอ้อวด เอาความจริงออกมาพูด ไม่หวั่น ทุกอย่างในสามโลกธาตุนี้ไม่มีอะไรหวั่นกับอะไรเลย ตรงแน่วอยู่อย่างนั้น

ขอให้หัวใจมีหลักมีเกณฑ์ อย่างน้อยให้มีหลักมีเกณฑ์ การกินอยู่ปูวายการใช้การสอยอย่าฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมเกินเนื้อเกินตัว เมืองไทยเรานี้เป็นเมืองฟุ้งเฟ้อ อะไรมาคว้ามับๆ ลิงร้อยตัวสู้ไม่ได้ แตกฮือ ลิงสู้ไม่ได้ คนมันเลวกว่าลิง อะไรคว้ามาปั๊บๆๆ เลย ฟุ้งเฟ้อมากทีเดียว การเป็นอยู่ปูวายไม่มีหลักมีเกณฑ์เลื่อนลอยๆ การกู้การยืมกู้ยืมไปเรื่อยดะไปเรื่อยๆ นี่ละมันเลื่อนลอย ออกจากหัวใจเลื่อนลอย มองดูพับรู้ทันทีเลยเชียว สลดสังเวชนะบางแห่งที่ได้ทราบเข้ามาปั๊บๆ นี่มันสลดสังเวช แต่ไม่พูด เพราะโลกเป็นอย่างนั้น กิเลสแล้วแต่มันจะขยำแบบไหนว่างั้นเถอะ ที่ให้ไปทางดีไม่มีกิเลส มีแต่ขยำลงๆ

ธรรมคอยดูอยู่นี้มันรู้นี่ อันไหนจะพาให้ล่มจมมากน้อยมันรู้ทันทีๆ เลย เพราะฉะนั้นจึงสอนให้พี่น้องทั้งหลายรู้จักประมาณ ความเป็นอยู่ปูวายทั้งหลายอย่าฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมเกินเนื้อเกินตัว ถ้าขัดธรรมแล้วก็ขัดเจ้าของทำลายเจ้าของนั้นละ ถ้าราบรื่นไปตามธรรมแล้วก็ราบรื่นเจ้าของ ให้จำเอานะ ไม่มีอะไรเกินธรรมความพอดี นี่ก็ ๘ โมง ๒๐ นาทีแล้ว เราก็ไปธุระของเราประจำทุกวันๆ เอาของไปส่งโรงพยาบาลแต่ละโรงๆ แล้วให้โรงละสองหมื่นๆ ทุกโรงไป ทางนี้ก็เปิดไว้ โกดังเต็มเลย โรงไหนมาได้ทุกโรง มีอยู่สองประเภท ประเภทพิเศษมี ประเภทธรรมดามี

ประเภทพิเศษก็ตั้งแต่อุบล อุตรดิตถ์ โคราช ประเภทนี้มาให้พิเศษ พิเศษก็เสมอกันหมด ที่ให้ธรรมดาก็เสมอกันหมด จัดไว้เรียบร้อยในนั้นไม่ให้ขาดให้แคลน ใครมาทางไหนได้ทั้งนั้นๆ เพราะวัดนี้เป็นวัดเสียสละ เราแบตลอดกับโลกสงสารเราไม่เอาอะไรแม้ชิ้นเดียวเราไม่มีจิตใจเรา จึงว่าทำประโยชน์ให้โลกละซิ ช่วยโลกช่วยอย่างนั้น ช่วยจริงๆ วัดนี้ จะมีความตระหนี่ถี่เหนียวในวัดนี้ไม่มีสำหรับเรา ของอยู่ในวัดในวานี้มันพอเป็นพอไปพออยู่พอกินเอาไปกินบอกงั้นเลย เราปลูกสร้างขึ้นมาเพื่อกินเพื่อปากเพื่อท้องนั่นละ เอาไปกินปากมีทุกคนว่าไปเลย ที่จะให้หึงให้หวงบอกว่าไม่มี ความเมตตามันครอบหมดแล้วเข้าใจไหม ความหึงความหวงมันจะมีอำนาจมาจากไหน อำนาจของความเมตตาที่จะเสียสละนี้มันเต็มหัวใจแล้ว

บอกว่าเอาไปกิน อะไรๆ สุกที่ไหน ผลหมากรากไม้นี้เอาไปเราไม่หึงไม่หวง ต้นไหน ขนุนขนินอะไรก็ตาม ผลหมากรากไม้ปลูกไว้สำหรับปากท้องของประชาชนทุกคนเราที่มีความจำเป็นเสมอหน้ากัน ใครอาศัยอะไรๆ เอาไปเลย เราไม่เอาอะไร เห็นไหมบิณฑบาตมากินจะตายก็ตาย ล้นปากๆ ทุกวันๆ ผู้อดอดอยาก ผู้ขาดแคลนจะตายไปก็มีเยอะ มองให้ทั่วถึงซิ เอาเท่านั้นละ จะให้พร

 

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก