เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๐
จึงเรียกว่าไม่เอาอะไร
การช่วยโลกนี้จริงๆ นะเรา ไม่ได้กล้าไม่ได้กลัวพูด พูดอย่างเป็นธรรม ที่บริจาคแก่ชาติของเรานี้เรียกว่าสุดกำลังเรา คือเราไม่เอาอะไรเลยฟังซิ เราปล่อยหมดทุกอย่าง บรรดาจตุปัจจัยไทยทานที่มามากมาน้อยนี้ออกๆ ออกตลอดไปหมดเลยไม่มีอะไรเหลือติดวัดเรา เราไม่เอา ช่วยทั้งนั้นแหละ เราช่วยจริงๆ จึงว่าช่วย ธรรมมีความพอ กิเลสไม่มีความพอ ได้เท่าไรไม่พอๆ เหมือนไสเชื้อไฟเข้าสู่ไฟ ไหม้หมดไม่มีเหลือ อันนี้ไสสิ่งต่างๆ เข้าไปสู่ความโลภมันกลืนหมดเหมือนไฟ แต่ธรรมไม่เป็นอย่างนั้น มีพอมีขอบมีเขต พอเป็นวรรคเป็นตอนเรื่อยไปจนกระทั่งพอสุดท้าย พอสุดยอด ทีนี้เอาอะไรมาเพิ่มก็ตกออกหมด เรียกว่าพอ พอโดยสมบูรณ์
นี่เราก็พูดตรงๆ เราก็พอแบบสมบูรณ์ เราไม่มีอะไรที่จะมาข้องในใจว่าเรายังขาดอะไรๆ บ้างในสามแดนโลกธาตุนี้ เราไม่ปรากฏในหัวใจเรา เรียกว่าพอ ปล่อย สลัดหมดโดยประการทั้งปวง โลกธรรม ๘ ขาดสะบั้นไปหมด โลกธรรม ๘ ใครก็ทราบใช่ไหมล่ะ เป็นเครื่องหมายของสมมุติ โลกธรรม ๘ มีลาภเสื่อมลาภ มียศเสื่อมยศ นินทา สรรเสริญ สุข ทุกข์ หมดภายในใจไม่มีเหลือเลย ก็มีเหลือแต่ธาตุแต่ขันธ์ที่หมุนไปเพื่อโลกเท่านั้น ที่หมุนทุกวันนี้หมุนเพื่อโลกนะ ใจเราไม่หมุน พอทุกอย่าง
อย่างวันนี้ก็จะไปอำเภอมัญจาฯ จะกลับในวันนี้ ก็สงเคราะห์โลกนั่นแหละ ไปไกลอยู่ เกือบ ๓ ชั่วโมงละมั้งกว่าจะถึงมัญจา ไปก็ไม่ได้ค้าง เทศน์จบแล้วเราก็กลับ อย่างนั้นละ และอีกที่ไหน ไม่มีเวลาว่างนะเรา เราทำเพื่อโลกไม่ได้ทำเพื่อเรา ฟังดูซิว่าเราเขียนพินัยกรรมไว้เรียบร้อยแล้ว เวลาเราตายนี้มีท่านผู้มาบริจาค บรรดาลูกศิษย์ลูกหา จะกว้างขวางอยู่ไม่น้อยนะที่เข้ามาบริจาคในงานศพเรา เวลาเราตายเขาจะมาเผาศพเรา แล้วสมบัติเงินทองที่เขามาบริจาคทั้งหมด ให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นเก็บรักษาไว้ทั้งหมด แล้วให้เอาเงินจำนวนนี้ไปซื้อทองคำเข้าสู่คลังหลวงเป็นวาระสุดท้าย เราเองจะเผาด้วยไฟ เท่านั้น เขียนไว้แล้วนะนี่ จึงเรียกว่าไม่เอาอะไร ถึงขนาดนั้นเป็นวาระสุดท้าย
ร่างกายเผาลงไปแล้ว ให้เอาสมบัติเงินทองที่บริจาคมาเพื่อเผาศพนี้ซื้อทองคำเข้าสู่คลังหลวง เราก็เผาด้วยไฟไปเลย จึงเรียกว่าพอ เข้าใจไหมนั่น จะเอาอะไรอีกก็หมดแล้วนี่ มันพอขนาดนั้นละ ไม่เอาอะไร (นิมนต์หลวงตาให้อยู่นานๆ ครับ) เราไม่ได้ถามผู้พิพากษาใหญ่ ลมหายใจเป็นผู้พิพากษาใหญ่ จากนี้ก็จะเตรียมตัวไปมัญจา หลวงพ่อผาง ไกลอยู่นะร่วม ๓ ชั่วโมง ไปแล้วก็กลับวันนี้ด้วย มีเทศนาว่าการ ไปที่ไหนเรื่องเทศน์นี่ยกให้เลย พอโผล่หน้าเข้าไป ธรรมาสน์มาพร้อมแล้ว ไปที่ไหนเหมือนกัน เราไปในงานธรรมดาๆ ช่วยเป็นกันเองๆ เราไม่ได้ไปในงานเทศน์ พอไปปั๊บเขาเอาธรรมาสน์มาขวางหน้าแล้ว ต้องได้เทศน์ อย่างนั้นละ
อย่างไปวัดนาสีดาเหมือนกัน นั่นก็ได้เทศน์จนได้ เราบอกเรามาเป็นกันเอง ท่านจันทร์โสมเป็นรุ่นน้อง อยู่หนองผือมาด้วยกัน สนิทสนมกันมากแต่ไหนแต่ไรมาตั้งแต่นั้น ท่านกับเราเคารพนับถือกันมากอยู่ ทีนี้พอทราบว่าท่านเสียแล้วเอาศพท่านมาวัดนาสีดา เราก็ไปเยี่ยมศพท่านครั้งแรก ครั้งสุดท้ายเผาศพนี้เราบอกว่า นิมนต์ไม่นิมนต์ไม่จำเป็น เราจะไปเองเราว่างั้น แต่เขาก็มานิมนต์จนได้ เขานิมนต์ไปงานศพเฉยๆ เขาไม่ได้ว่ามีงานนั้นงานนี้ แต่ไปแล้วเขาเอาธรรมาสน์ขึ้นมายัดใส่ก้นเราให้ขึ้นเทศน์จนได้ อย่างนั้นละไปไหนมีเทศน์ตลอด จากนี้ก็จะไปมัญจา ให้พร
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz |