เอามาเป็นคติบ้าง
วันที่ 21 มีนาคม 2550 เวลา 8:15 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)   วิดีโอแบบ(Win High Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๐

เอามาเป็นคติบ้าง

         เมื่อวานไปนาสีดา พระก็เยอะ คนก็เยอะ ดูว่าฟ้าชายเสด็จตอน ๕ โมงเย็น เราพอเสร็จดูว่าบ่ายโมงออกมา พอเสร็จแล้วออกเลย นี้จะเป็นทางชาวบ้านหรือทูลฟ้าชายเสด็จ จะเป็นทางชาวบ้านหรือเป็นทางวัด (ทางวัดเขาขอพระราชทานเพลิงไปครับ) ที่ถามเพราะกรรมฐานเราไม่อยากให้ไปยุ่งทางบ้านทางเมืองท่านลำบากหมด กรรมฐานยุ่งอะไร ขอพระราชทานเพลิงศพอะไรๆ ทูลเชิญเสด็จบ้างอะไรบ้าง กรรมฐานเรา พูดตรงๆ อย่างนี้ละ บ้ายศบ้ายอพวกนี้น่ะ กรรมฐานบ้ายศ กรรมฐานบ้ายอ ยกยอในหัวใจขึ้นสง่างาม ไปที่ไหนงามหมดนะ พระพุทธเจ้าเสด็จไปพระองค์เดียวก็งาม สาวกทั้งหลายไปในป่าในเขาที่ไหนงาม เอามาเป็นคติบ้างซิ

         นี่เป็นบ้าตั้งแต่ลมปากภายนอก ได้ชื่อได้เสียงได้แต่ลมปากก็เอา ธรรมแห้งผาก ภายในหัวใจ ใช้ไม่ได้นะ ให้ธรรมสง่างามในหัวใจไปไหนสง่าหมด เราพูดอย่างนี้ก็ไม่มีใครพูด ไม่มีใครกล้าพูดแต่มันกล้าทำ มันไม่กล้าพูด กล้าทำทุกแห่งทุกหน เป็นบ้ากันไปหมด ไม่มีใครกล้าพูด หลวงตานี้กล้า ถ้าว่ากล้าก็เลยกล้า เพราะรวมลงแล้วไม่มีกล้าไม่มีกลัว ไปตามธรรมเลย พูดอย่างตรงไปตรงมา

         กรรมฐานอย่าตื่นเต้น พระพุทธเจ้าท่านไม่พาให้ตื่นเต้น กรรมฐานเป็นเจดีย์ของโลก ให้เขาได้ถือเป็นคติตัวอย่าง อย่าเอนอย่าเอียง ให้ตรงไปตรงมาตามอรรถตามธรรม ที่ไหนสงบสบายตามอรรถตามธรรมให้อยู่ให้ไปที่นั่น อย่าเสือกนู้นเสือกนี้ ใช้ไม่ได้กรรมฐานเรา ไม่มีอะไรที่จะเลิศเลอยิ่งกว่าธรรมกับใจเป็นอันเดียวกัน เลิศอยู่ที่นั่น เลิศเลออยู่ที่นั่น อัศจรรย์อยู่ที่นั่น ไปที่ไหนสง่าไปหมดเลย มนุษย์ไม่เห็น เทวบุตรเทวดากราบไหว้บูชา รุกขเทวดา อากาสเทวดา พวกนี้เขาตาแหลมคมเขาเห็น

         จิตใจของท่านผู้ปฏิบัติธรรม มีธรรมในใจและธรรมกับใจเป็นอันเดียวกันไปไหนสง่างามไปหมดนั่นแหละ นั่นละธรรมพระพุทธเจ้า ให้ดูภายในอย่างนั้น อย่าดูแต่เรื่องนอกๆ กรรมฐานเรานี่ให้เป็นหลักธรรมชาติ ถ้าจะเป็นขึ้นเอง เช่นอย่างพระราชทานเพลิงก็ให้เป็นเอง อย่าไปขอ คนหิวคนโหย คนกิเลสตัณหามาก หิวมาก ขอมาก กวนมาก นั่น ธรรมแล้วท่านไม่กวน ให้สง่าอยู่ภายใน พอ อยู่ที่ไหนพอ ไปที่ไหนพอ ธรรมเป็นอย่างนั้นละ ไม่บกพร่อง ถ้าลงธรรมมีในใจแล้วอะไรจะบกพร่อง ธรรมไม่บกพร่องเสียอย่างเดียว พอ

         จะเป็นโลกไปแล้วนะกรรมฐานเรา นี่ปฏิบัติมาตลอดจนทุกวันนี้ พูดตรงๆ นี้ไม่ตื่น ถึงจะอย่างไรก็ไม่ตื่น พูดตรงๆ นะ เข้าสถานที่อะไรจะสูงต่ำขนาดไหนไม่มีเอนมีเอียง เป็นอยู่ในหัวใจ เสมออยู่ตรงนั้นตลอด นั่นละธรรมกับใจเป็นอันเดียวกันเสมอ กิริยาท่าทางที่จะเป็นไปกับโลกสมมุติก็เป็น ทำไมไม่เป็น อย่างเห็นที่หน้าวัดกูจะฟ้องท่านเปา มันมาเที่ยวเพ่นพ่าน นั่นมันก็มีเห็นไหมล่ะ เมื่อเช้านี้มาเห็นพวกโยมยั้วเยี้ยๆ เห็นเรามันมารุมใส่เรา อย่ามารุมใส่นี่ รุมใส่นั้น อ่านนั้น เราก็ว่าให้ไปอ่าน อ่านออกไหมนั่นน่ะ ถ้าอ่านไม่ออกเราจะอ่านให้ฟัง กูจะฟ้องท่านเปามันมาเที่ยวเพ่นพ่าน พออ่านให้เขาฟังแล้วก็เข้ามา เป็นอย่างนั้น

ถ้าจะเป็นกิริยาอะไรก็เป็น เป็นเท่านั้นแล้วเลย ไม่มีอารมณ์ ใครจะไปขยี้ขยำทำไมท่านว่าอย่างนั้น เป็นบ้าไปๆ เราไม่เป็นบ้า พูดแล้วแล้วเลย หายเงียบๆ ตลอดนะ  ไม่มีอารมณ์ ว่าพูดดุพูดด่า พูดนิ่มนวลอ่อนหวาน เป็นธรรมล้วนๆ ออก พูดแล้วหมดๆๆ ไปเลย

เมื่อวานไปนาสีดาคนมาก พระก็มาก คนก็มาก เราไปธรรมดาไม่ได้มีอะไรแหละ ก็ถูกเทศน์จนได้ละเมื่อวานนี้ เราไปในฐานกันเอง ท่านจันทร์โสมนี้ท่านเป็นรุ่นน้องอยู่วัดหนองผือด้วยกัน ท่านเป็นรุ่นน้องเรา แล้วก็เป็นกันเองมานาน คุ้นกันมานานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลางานศพท่านเขาก็มานิมนต์ นิมนต์ไม่นิมนต์ก็ไม่จำเป็นอะไร เมื่อเราทราบแล้วเราจะไปเอง เราก็ไปเมื่อวาน ไม่ได้ไปธุระอะไร ตั้งใจไปในงานเป็นกันเอง เขาก็จับเทศน์จนได้เมื่อวาน อย่างนั้นละไปไหน พอเทศน์จบแล้วก็มาเลย ไม่อยู่

วันนี้ดูว่าว่างวันนี้ ว่างสำหรับธรรมดาๆ แต่งานเราไม่ว่าง เราจะไปของเราทุกวัน สงเคราะห์โลก ไม่ใช่อะไรละความเมตตาครอบโลกธาตุในหัวใจ เพราะฉะนั้นจึงไม่อยู่ มีแต่อำนาจความเมตตา จตุปัจจัยไทยทานมีเท่าไรหมดๆ อำนาจความเมตตากวาดออกๆๆ มันอยู่ในใจนี่ มันเป็นอย่างนั้น คำว่าพอก็เรียกว่าพอ ความเมตตาล้นพ้น ไปที่ไหนเป็นอย่างนั้น วันนี้ก็ไม่ทราบจะไปไหน ส่วนมากมักจะไปตามโรงพยาบาล เพราะโรงพยาบาลอดอยากขาดแคลน แต่มักจะเข้าไปที่อดอยากขาดแคลนมากๆ เช่นอย่างทางชัยภูมิ ทางอำเภอภูเขียว ทางเกษตรสมบูรณ์ เข้าไปลึกๆ นะ ที่อยู่ตามถนนหนทางอยู่ใกล้ตลาดเราก็ไม่ค่อยไป ไปที่ลึกๆ สงสาร ไปแล้วก็มอบให้โรงพยาบาลโรงละสองหมื่นๆๆ ให้ทุกโรง

ต้นเหตุที่จะได้เอาเงินให้เขานี่หมอละพูดเอง ว่า เอ้อได้ของหลวงตามา หลวงตาเอามาสงเคราะห์นี้รายจ่ายก็จะลดลงมาก ตามธรรมดาโรงพยาบาลนี้จ่ายเดือนละหมื่น เป็นโรงพยาบาลเล็กอยู่ในป่า หลวงปู่เอามานี้จะได้เข้าไปถึงสี่พันนะ จะจ่ายเพียงหกพัน  มันก็สะดุดใจเรากึ๊ก ตั้งแต่นั้นมาก็ให้โรงละสองหมื่นๆ เขาไม่ได้เจตนาจะขอเรา เขาพูดถึงเรื่องว่าการจับจ่ายในโรงพยาบาลของเขามีจำกัดจำเขี่ยมาก อดอยากขาดแคลนมาก เราไปนี้เพิ่มเข้าไปตั้งสี่พัน เขาว่าอย่างนั้นในเดือนหนึ่ง เพราะของเต็มรถ ค่าใช้จ่ายประมาณหกพัน ในนี้ปรกติจ่ายเดือนละหมื่น เขาว่าอย่างนั้น ตั้งแต่นั้นมาเราก็ให้โรงละสองหมื่นๆ ไปหมดทุกโรง สงสารจะว่าอย่างไร

เราไปให้โรงละสองหมื่นๆ จันทร์ อังคาร พุธ พฤหัส ศุกร์  ๕ วันนี้ไป ๕ โรง ถ้าไม่มีงานอย่างอื่นแทรกก็ไป ๕ โรง เรียกว่าอาทิตยละหนึ่งแสน การจ่ายเงินวัดนี้เปิดโล่งไปหมดนะ เหมือนตะกร้าตักน้ำ พอยกขึ้นซ่าหมด อันนี้ก็เหมือนกันมาทางนี้ซ่าทีเดียวหมดเลย ไม่มีเหลือ ออกเพื่อประโยชน์แก่โลก เราเองไม่เคยสนใจนะ ไม่สนใจ เพราะเราบอกเราพอแล้วไปสนใจกับอะไร ไม่เอา อะไรมาก็ออกเพื่อโลกๆ ทั้งนั้น เราเป็นที่สบายใจ ไปเพื่อโลกๆ

ไฟเขียวไฟแดงพวกขายดอกม้งดอกไม้อะไรอย่างนี้ ไปก็จอดรถให้เขา ไฟเขียวไฟแดงให้คนละสามร้อยๆ มี่กี่คนให้คนละสามร้อยๆ แม้เราจะมีรถนำผ่านบึ่งๆเลยก็ตามเราสั่งรถนำไว้แล้วข้างหน้า ไปถึงไฟเขียวไฟแดงให้หยุด ไปถึงนั้นเขาก็หยุดกึ๊กเรียกพวกดอกไม้มา มีกี่คนเรียกมาหมด ให้คนละสามร้อยๆ แล้วไป มันหากเป็นอยู่ในจิต แต่ก่อนมันหากเป็นธรรมดาเราๆ ท่านๆ ทั่วๆ ไป แต่เวลามาปฏิบัติธรรม ปฏิบัติจนถึงขั้นเต็มภูมิในหัวใจแล้วทีนี้มีตั้งแต่ความเมตตาออก กระจายออกหมดเลย เอาละทีนี้ให้พร

 

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก