ชีวิตเลื่อนลอย
วันที่ 18 มีนาคม 2550 เวลา 8:20 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๑๘ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๐

ชีวิตเลื่อนลอย

         ....เราจำไม่ได้นะ ทุกวันนี้จำไม่ได้ ความจำมันไม่ออก เดี๋ยวนี้มันหดเข้ามาๆ ความรู้รู้ รู้ตลอด ความรู้อันนี้ไม่มีวัย ท่านว่านิพพานเที่ยง ทำใจดวงนี้ให้เป็นอย่างนั้นซิ เที่ยงตลอด แต่เรื่องอาการทั้งหลายมันก็พลิกแพลงเปลี่ยนแปลงของมัน เกี่ยวกับเรื่องสมมุติอันนั้น ที่ไม่ใช่สมมุติมันเป็นสภาพอันหนึ่งของมัน อันนั้นพูดไม่ได้ แต่หายสงสัยทุกอย่าง ทั่วแดนโลกธาตุถ้าลงได้รู้อันนี้แล้วหายหมดเลย ส่วนอย่างอื่นเราจำได้เท่าไรก็ตามมันหลงลืมอยู่เรื่อยๆ อันนี้ไม่มี

เราก็สอนโลกมาเต็มกำลังความสามารถ เราไม่เคยคิดเลยว่าเราจะได้ช่วยโลกเต็มกำลังขนาดนี้ ตั้งแต่เริ่มออกปากพูดขึ้นมาเลย เพราะเห็นเมืองไทยเราจะจมปี ๒๕๔๐ นั่นละกำลังจะจม หัวจ่อลงทะเลแห่งความจมกัน ไม่ว่าสัตว์ไม่ว่าบุคคล หมูหมาเป็ดไก่ หัวจ่อลงที่ความล่มจม เราอยู่ในท่ามกลางจะทำยังไง จึงได้บอกว่า เอ้า จะช่วย ตั้งแต่นั้นมาก็ออกเลยเทียว ผลแห่งการออกก็ได้ผลมาเป็นที่พอใจตลอดมาจนกระทั่งทุกวันนี้ คือธรรมะออก ทางด้านวัตถุก็ช่วยชาติบ้านเมืองได้พอสมควร ทองคำเราก็ได้ ๑๑ ตันกับ ๔๐๐ กว่ากิโล ที่ช่วยชาติคราวนี้ทองคำเราได้ถึง ๑๑ ตันกับ ๔๓๓ กิโล ส่วนดอลลาร์ได้ ๑๐,๒๑๔,๖๐๐ ดอลลาร์ นี่เข้าแล้ว ส่วนทองคำจะเข้าตลอดไม่มีไปไหนเลย สำหรับดอลลาร์นั้นไม่แน่ เราบอกว่าไม่แน่ก็ไม่แน่ตลอดมา

คือเราคิดไว้เรียบร้อยแล้ว เวลาเราหยุดการเทศนาว่าการ จตุปัจจัยไทยทานก็ร่อยหรอลงๆ แต่ความจำเป็นของคนไม่ได้ร่อยหรอ หนาแน่นเข้ามาๆ เราจึงได้หมุนเอาเงินดอลลาร์เข้ามาช่วยเงินไทยเพื่อช่วยโลกต่อไป เงินดอลลาร์มีเท่าไรก็มาช่วยเงินไทยออกช่วยโลกเราอยู่อย่างนั้นตลอด เรานี้แบไม่เอาอะไรเลย พูดให้มันชัดเจน ช่วยโลกนี่หมุนตัวเป็นเกลียวตลอดเวลา แต่ไม่เคยเอาอะไร เปิดโล่งอย่างนี้แหละ ท่านทั้งหลายจะไปหาที่ไหน หาการช่วยโลกด้วยความพอในหัวใจแล้ว พอจริงๆ ไม่เอาเลย หัวใจพอตลอดนั่นละพอ พอนี้พออย่างเลิศเลอเสียด้วย พอในหัวใจ จ้าอยู่ตลอดเวลา ยืนเดินนั่งนอนจ้าตลอดอยู่ในหัวใจนี้แหละ อาศัยธาตุขันธ์อยู่เวลานี้ก็อยู่ในนั้นแหละ พอธาตุขันธ์พังนี้ก็จ้าซ่านไปหมดเลย เป็นมหาวิมุตติมหานิพพานไปเลย เรียกว่าธรรมธาตุ

การปฏิบัติธรรมเราก็ได้ปฏิบัติมา ได้เล่าให้พี่น้องทั้งหลายฟังแทบเป็นแทบตายนะกว่าจะได้ธรรมมาสอนโลก ใครไปเห็นเราเมื่อไรอยู่ในป่าในเขา หายใจแขม่วๆ ไปนั่ง ว่าจะไปบิณฑบาตบ้านเขากะว่าจะพอถึง คืออดข้าวไปหลายวัน กะว่าวันพรุ่งนี้จะพอถึง ถ้านานไปกว่านั้นจะไปไม่ได้ พอวันพรุ่งนี้ไป ไปถึงกลางทางไปไม่ถึงเสียแล้ว หยุด นั่งเจ่าอยู่นั้น แต่จิตมันไม่ได้เจ่านะ มันสง่า นั่นละอำนาจของจิตที่ได้ฝึกฝนทรมานด้วยวิธีการต่างๆ เช่นการอดอาหารนี้ดี สำหรับสติดีมาก อดไปนานเท่าไรสติยิ่งดี การอดอาหารเพิ่มสติขึ้นโดยลำดับลำดา ตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งหลับไม่เผลอเลย นี่ละการอดอาหารจึงต้องทนเอา จนกระทั่งท้องเสียดังที่เล่าให้ฟัง เพราะเห็นผลของมัน

พออดอาหารเข้าไปความเพียรดีทุกด้านๆ ธาตุขันธ์นี้อ่อนลงๆ แต่จิตนี้ดีดขึ้นๆ มันดึงกันอยู่ ทีนี้หาจิตหาธรรมนี้หายาก หาความสุขบรรเทาทุกข์จากธาตุขันธ์ครู่เดียว ไปบิณฑบาตหมู่บ้านเขาไปไม่ถึง ต้องพักกลางทาง พอบิณฑบาตออกมามาถึงหินดานที่ใดที่หนึ่งก็ฉันเสียเท่านั้น ข้าวได้มาเท่าไรฉันเสร็จแล้ว ข้าวเศษเหลือก็ไปไว้ที่กระจ้อนกระแต เจ้าของล้างบาตรเสร็จแล้วก็สะพายบาตรขึ้นเขาเหมือนม้าแข่ง นั่นเห็นไหมล่ะ ตอนมานี้จะมาไม่ไหว แต่เวลาฉันเสร็จแล้วกลับไปนี้เป็นม้าแข่งไปเลย กำลังมาอย่างรวดเร็ว แต่กำลังจิตนี้ไม่ได้นะ จึงต้องได้พยุงทางด้านจิตใจมาก

เราจึงได้เตือนเพื่อนฝูง เพราะเราทำมันผาดโผนทุกอย่าง จึงได้เตือนเพื่อนฝูงเรื่องการอดอาหาร อดอาหารนั้นดีๆ แต่อดไปๆ แล้วมันเสียท้องนะเราบอก ท้องเสีย เราก็จะตายปี ๒๕๔๐ ที่จะช่วยโลกแหละ มันจะตายจะไม่ชนพรรษา หมอเขาบอกว่าเป็นมะเร็งลำไส้ เขาบอกไปไม่รอด ก็เดชะดวงชะตาของบ้านเมืองเรายังมาพยุงกันอยู่ได้ เลยได้ยาหมอเติ้งมาฉัน เขาบอกว่ายาขนานใดรักษาก็ไม่หายโรคประเภทนี้ เขามาเล่าให้ฟัง ตั้งฮั่วไถ่ เล่าเราไม่ลืมนะ เขาบอกเขารับประทานยานี้แล้ว เดี๋ยวนี้หายเลย ขอนิมนต์หลวงพ่อฉันเถอะจะหายอย่างเดียวกัน เอ้า ถ้างั้นก็ลองดูเป็นครั้งสุดท้ายของยา ถ้าไม่หายนี้เราปล่อยเลยเราว่างั้น พอฉันดีดผึงเลยจริงๆ นั่นละจึงได้ช่วยชาติมา

เรื่องถ่ายไม่ต้องตกใจเขาว่างั้น การถ่ายด้วยโรคนี้ถ่ายเท่าไรยิ่งอ่อนยิ่งเพลีย การถ่ายด้วยยานี้ถ่ายเท่าไรก็ไม่อ่อนเพลีย ไม่ต้องตกใจ ทีแรกมันจะถ่ายมากเพราะโรคมากเขาว่างั้น ก็ถ่ายจริงๆ แต่ไม่เพลีย จากนั้นก็ดีดผึงเลยจนกระทั่งทุกวันนี้ ดวงชะตาของชาติบ้านเมืองมันเกี่ยวโยงกัน ก็เลยพยุงตัวไปได้จนกระทั่งบัดนี้ ได้ช่วยชาติบ้านเมืองมาก็เห็นมรรคเห็นผล ส่วนสมบัติเงินทองข้าวของที่ได้เข้าสู่คลังหลวงมากน้อยเพียงไรนั้น ก็ทราบทั่วหน้ากันแล้วดังที่กล่าวนี้ ทองคำก็ได้ถึง ๑๑ ตัน ๔๐๐ กว่ากิโล ดอลลาร์ก็ได้ ๑๐ ล้านกว่า จากนั้นดอลลาร์ก็หมุนออกช่วยเงินไทย ส่วนทองคำนั้นร้อยทั้งร้อยเข้าตลอดเลยเรื่อยมาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้

เราพยายามที่สุด เรานี้ไม่เอาอะไร แบตลอด ไม่มีที่เราจะเอานั้นเอานี้กับบรรดาที่พี่น้องทั้งหลายบริจาคมา เรียกว่าเด็ดขาดเลย นิสัยเราเป็นอย่างนี้และเป็นธรรมเสียด้วย ธรรมว่ายังไงเป็นอย่างนั้น จะพลิกแพลงเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ไม่เรียกว่าธรรม ตรงเป๋งเลย เอาอย่างนั้นแหละ เราไม่เคยแตะที่บริจาคมามากน้อย สำหรับพี่น้องทั้งหลายบริจาคมานั้น ออกหมดเลยออกช่วยชาติบ้านเมืองหมดเลยจนกระทั่งทุกวันนี้ ออกตลอด เราไม่เอาอะไร เพราะเราพอ พอในหัวใจพอทุกอย่าง พอปล่อยวางหมดด้วยนะไม่ใช่ธรรมดา นี่ละผลแห่งการปฏิบัติธรรมให้ท่านทั้งหลายทราบเสีย เวลาพอในหัวใจแล้วพอหมดจริงๆ ไม่เอาอะไรทั้งนั้น มีแต่พอ แล้วก็พอด้วยความเลิศเลอเสียด้วยไม่ใช่พอธรรมดา นี่ละการปฏิบัติธรรม

ขอให้พากันตั้งใจประพฤติปฏิบัติ มาภาวนาก็อย่ามาดูแต่หมอนแต่เสื่อ เสื่อนี้ขาดแล้วไปเย็บใหม่ๆ หมอนนี้ขาดไปเย็บใหม่อยู่เรื่อย ดูแต่หมอนแต่เสื่อตลอด ไม่ดูหัวใจเจ้าของที่มันขาดอยู่ตลอดเวลา ให้ดูหัวใจบ้างนะด้วยสติภาวนา นักภาวนาใครมีสติดีคนนั้นจะตั้งตัวได้ ถ้าสติไม่ดีไม่เป็นท่า ความเพียรทั้งหมดขึ้นอยู่กับสติ ถ้าสติบังคับหรือควบคุมดีแล้วกิเลสจะไม่เกิด มันจะมีหนาแน่นขนาดไหนเกิดไม่ได้ สติครอบไว้ๆ ต่อไปก็ตั้งฐานแห่งความสงบขึ้นมาๆ จิตใจก็สว่างกระจ่างแจ้งขึ้นมาได้ด้วยอำนาจของสติ

กิเลสทุกประเภทยอมสติทั้งนั้น ไม่มีตัวไหนจะเล็ดลอดออกมาต่อสู้สติให้ล้มเหลวไปได้ นอกจากเราไม่ตั้งใจเท่านั้นเป็นไปได้นะ ถ้าทำด้วยความตั้งใจสติดีเท่าไรกิเลสจะหนาขนาดไหนขึ้นไม่ได้ เราทำมาแล้วนะไม่ใช่ธรรมดา ตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งหลับไม่ยอมให้เผลอเลย ขณะเดียวก็ไม่ให้มี นี่ละการควบคุมด้วยสติ กิเลสทั้งหลายขึ้นไม่ได้ๆ ต่อไปความสงบก็ขึ้นแทนๆ สงบนี้ก้าวเดินได้เลย นั่น นี่ละการตั้งสติด้วยความพากเพียร อย่าเห็นว่าสติไม่สำคัญนะ สติสำคัญมาก แม้ที่สุดหน้าที่การงานอะไรถ้ามีสติอยู่ไม่ค่อยผิดพลาดนะ ถ้าเผลอสติเมื่อไรผิดได้ เขียนหนังสือก็ผิดอย่าว่าอย่างอื่นเลย เขียนๆ ลบๆ อยู่นั้น ถ้าสติดีแล้วไม่ผิดพลาด พากันตั้งใจนะ

ธรรมพระพุทธเจ้าเลิศเลอสุดยอดแล้ว เวลานี้กำลังถูกเหยียบย่ำทำลายจากกิเลส กิเลสมันเหยียบย่ำทำลายธรรม ธรรมอยู่ใต้ฝ่าเท้าของกิเลส กิเลสนี้มันเก่งฝ่าเท้ามันเที่ยวเหยียบแหลกไปหมดธรรมไม่มีละ เอา ฟื้นขึ้นมาซิ จิตใจถ้าลงได้สว่างจ้าแล้วกิเลสตัวใดขาดสะบั้นไปหมด ไม่มีอะไรที่เข้ามาต่อกรได้เลยกับธรรมที่พอตัวแล้ว ขอให้พอตัว ธรรมลงได้พอตัวในหัวใจเต็มที่แล้วกิเลสไม่มีเลยที่จะเข้ามาแฝง พูดให้มันชัดเจน นี่ก็ได้พูดมาแล้ว ได้ ๕๖-๕๗ ปีแล้ว ไม่เคยมีกิเลสตัวใดมาแฝงใจเลย

นั่นละเราจึงได้ชี้นิ้วเลยว่า มีกิเลสเท่านั้นเป็นตัวข้าศึก เป็นตัวแสบที่สุดในวัฏวนวัฏสงสารอันนี้ กิเลสขาดแล้วไม่มีอะไรพาวน นั่น วันหนึ่งคืนหนึ่งไม่มีอะไรไม่มีเรื่อง ธรรมแท้ๆ ท่านไม่มีเรื่อง มีแต่ความอัศจรรย์อยู่เต็มหัวใจ นี่ละการฝึกฝึกให้มันได้อย่างนี้ซิ ธรรมพระพุทธเจ้าสอนเพื่ออย่างนี้แท้ๆ สวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม ตรัสไว้ชอบแล้ว ชอบเพื่อความพ้นทุกข์ พ้นความกังวลทั้งหลายคือกิเลสเหล่านี้ไม่ให้มีในใจ ลองปฏิบัติตามท่านซิ พระพุทธเจ้าสอนโลกโกหกมีเหรอ มีแต่เราโกหกเรานะ ฟังธรรมท่านแล้วไปโกหกตัวเอง ไม่ได้ฟังธรรมตามพระพุทธเจ้านะ ให้พากันตั้งใจปฏิบัติ

เวลานี้การสอนพระสอนเณรเราก็เบาไปห่างไป เราไม่ค่อยมีเวลานะวันหนึ่งๆ แต่ก่อนสอนพระนี้สอนจริงๆ จังๆ ตั้งแต่สมัยคนไม่มาเกี่ยวข้องมาก สอนพระอยู่บนศาลาเต็มเม็ดเต็มหน่วย เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้วธรรมะประเภทนั้น มีแต่แกงหม้อใหญ่ สะเปะสะปะๆ ดังที่ฟังอยู่เวลานี้ ไม่ได้เรื่อง ธรรมะประเภทที่เลิศเลอสุดยอดนำออกมากระจายบนศาลานี้ตั้งแต่ก่อน เดี๋ยวนี้ไม่มีไม่ได้ออก มีอยู่ก็มีอยู่ภายในใจไม่ได้ออกมาแสดงให้เป็นคติเครื่องเตือนใจแก่ผู้มาศึกษาทั้งหลายเหมือนแต่ก่อนเลย แต่ก่อนเอาจริงเอาจัง สอนนี้เด็ดขาด ออกมาทุกแง่ทุกมุม

เพราะฉะนั้นการประชุมพระแต่ละครั้งๆ ท่านจะเอาอย่างเด็ดอย่างขาดใครมายุ่งไม่ได้ ประชาชนญาติโยมไม่ว่าหญิงว่าชายไม่ให้เข้ามายุ่ง สอนเต็มเหนี่ยวเลย นั่นละสอนรื้อถอนกิเลสออก รากแก้วรากฝอยอยู่ในนั้นจะถอนมันด้วยวิธีการที่เด็ดขาดของธรรม การเด็ดขาดของธรรมต้องผู้ฟังเพื่อความเด็ดขาดฆ่ากิเลส เพื่อมรรคผลนิพพานเท่านั้น เพราะฉะนั้นใครมาฟังด้วยไม่ได้ มันถึงเต็มเม็ดเต็มหน่วย นั่นละผู้ฟังก็ถึงใจ ผู้เทศน์ก็เทศน์อย่างถึงใจ ผู้ฟังฟังอย่างถึงใจกิเลสขาดสะบั้นไปในขณะฟัง

มันต่างกันนะการเทศน์ เทศน์เฉพาะผู้ต้องการมรรคผลนิพพานจริงๆ เต็มหัวใจ ผู้เทศน์ก็พุ่งๆ เลย ออกได้ง่ายที่สุดกับผู้ที่ตั้งใจฟัง ถ้าผู้ที่ เอ่อๆ อ่าๆ ไม่ได้เรื่องได้ราว เทศน์ก็เหนื่อยไม่อยากเทศน์เสียเวลาเปล่าๆ กับผู้ที่ฟังไม่ตั้งใจ ผู้เทศน์ด้วยความตั้งใจเต็มเหนี่ยวแล้ว โถ ธรรมะไม่ต้องบอกละออกไหลเรื่อยๆ ออกเลยเทียว กับภาชนะที่ตั้งไว้เรียบร้อยแล้วเข้าหมดๆๆ ธรรมะพระพุทธเจ้าเป็นของเลิศเลอมาดั้งเดิมทำไมจึงมาอับเฉา จนกระทั่งไม่ปรากฏธรรมในแดนพุทธศาสนาของเมืองไทยเราเลยมันเป็นยังไง

เมืองไทยเราเป็นเมืองพุทธแท้ๆ มันกลายเป็นเมืองเปรตเมืองผีเมืองยักษ์เมืองมารเมืองมูตรเมืองคูถไปหมดแล้วเวลานี้ ให้กิเลสเหยียบเอาๆ เมืองไหนจะยิ่งกว่าเมืองไทยเราเวลานี้เมืองสกปรก ความฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมลืมเนื้อลืมตัว การจับการจ่ายไม่มีใครเกินเมืองไทย อะไรมาคว้ามับๆ เมืองไทยนี้เป็นเมืองฟุ้งเฟ้อมากจริงๆ ไม่สมกับเมืองพุทธศาสนาซึ่ง อปฺปิจฉตา มีความมักน้อยสันโดษ ใช้ตามเกิดตามมีไม่ดีดไม่ดิ้นจนเกินไปมันสร้างกองทุกข์ให้ นั่น ท่านระงับด้วยธรรมบทนี้ แต่เรานี้ส่งเสริมสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาด้วยกิเลสมันก็ดีดก็ดิ้น มีเท่าไรก็ไม่พอ ได้เท่าไรไม่พอ

ชีวิตจิตใจวันหนึ่งไม่มีหลักเกณฑ์อยู่นะ อยู่ด้วยการไขว่คว้านั้นไขว่คว้านี้ หาไปกินไปวันหนึ่งคืนหนึ่งๆ ไม่มีหลักมีเกณฑ์เป็นเครื่องประกันตัวตายนะ อย่าว่าไม่บอก ธรรมจับเข้าปุ๊บเห็นหมด นอกจากไม่พูดเท่านั้น กิริยาอาการความเคลื่อนไหวของการทำมาหาเลี้ยงชีพของมนุษย์เราเป็นยังไง มันสุกเอาเผากินๆ เป็นอย่างนั้นนะเดี๋ยวนี้ มันไม่มีหลักมีเกณฑ์เป็นเครื่องประกันตัว แล้วจะหาความเป็นหลักเป็นเกณฑ์มาได้ยังไง ไม่ได้ จำให้ดี ธรรมพระพุทธเจ้ามีหลักมีเกณฑ์ การประพฤติปฏิบัติตัวได้ไปเท่าไรเสียไปเท่าไรเก็บไว้เท่าไรเพื่อเหตุผลกลไกอะไรให้มีซิ

นี่อะไรๆ ได้มาละๆๆ ยืมไปกู้ไปๆ ยืมไปดะไปเลย หาที่จะใช้คืนเขาไม่มี กู้ไปเรื่อยยืมไปเรื่อย เลื่อนลอยมากนะ เมืองไทยเราเป็นยังไง มีแต่ชีวิตจิตใจที่เลื่อนลอยนะเวลานี้ กินไปวันหนึ่งๆ กู้ไปยืมไปๆ กินไปๆ หาที่จะคืนให้เขาไม่มี นี่ชีวิตเลื่อนลอย ตายไปก็เผาตัวเอง ดีไม่ดีก่อกรรมก่อเวรกับเจ้าหนี้อีกด้วยมันน่าดูไหม เอาไปฟังให้ดีนะมีในเมืองไทยเรา นี่มันอ่านหมดแล้วนะ นอกจากไม่พูดเฉยๆ วันที่พอพูดบ้างมากน้อยก็พูดเสียบ้างให้รู้เรื่องรู้ราว นี้ไม่ใช่ธรรมนะ เป็นเรื่องของกิเลสไม่พอ เอาเจ้าของให้จม กิเลสต้องพาเจ้าของให้จม อรรถธรรมมีแต่ฟื้นทั้งนั้น พอผิดตรงไหนแก้ๆ เหมือนเขาแก้หมัดกันนักมวยเขา ผิดตรงนั้นแก้ๆ ให้ได้ชัยชนะ นี่เราสู้กิเลสไม่ได้ตรงไหนบกพร่องตรงไหนแก้ตัวเองๆ ซิ วันหนึ่งบวกลบคูณหารอยู่กับตัวเอง มันได้มันเสียอะไรบ้างวันหนึ่งๆ คิดบ้างซิ พากันจำเอา เอาละพอ

 

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก