เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๐
จะมีพระหนุ่มรู้ธรรมตามเรา
วันเสาร์วันอาทิตย์เราไม่ได้ไปโรงพยาบาล ส่วนมากมักจะไปตามวัด ไปวัดก็คือไปให้ ไปวัดนั้นวัดนี้เอาของไปเต็มรถ เทลงๆ ถ้าวันธรรมดาก็ไปโรงพยาบาล จันทร์ อังคาร พุธ พฤหัส ศุกร์ ไปทุกวันๆ ไปโรงพยาบาลนั้นโรงพยาบาลนี้ ไปแล้วก็ให้ปัจจัยประจำโรงพยาบาลละสองหมื่นๆ
วันที่ ๒๔ นี่ก็จะไปอำเภอมัญจา หลวงพ่อผาง นี่องค์หนึ่งที่เป็นเพชรน้ำหนึ่ง อย่างที่พูดเมื่อวานนี้ ธรรมะพ่อแม่ครูจารย์ลงในจังหวะเหมาะสม บุคคลที่เหมาะสมในเวลานั้น อยู่บ้านนามน เราก็อยู่กับท่านก่อนแล้ว พอดีหลวงพ่อผางไป คือหลวงพ่อผางอ่อนพรรษากว่าเรา ท่านมีครอบครัวเหย้าเรือนก่อนแล้ว ท่านออกจากครอบครัวเหย้าเรือนแล้วไปบวช พรรษาจึงอ่อนกว่าเรา พอขึ้นไปบ้านนามนท่านใส่เปรี้ยงๆ เลย เสียงทั้งแผดทั้งเด็ดทุกอย่าง มีแต่ยอดธรรมล้วนๆ เลย ใส่เปรี้ยงๆ ท่านว่าๆ อย่างนั้นแหละ
ท่านพูดถึงเรื่องท่านอยู่ฆราวาสเหย้าเรือนอะไรๆ บทเวลาท่านจะเอานะ ได้อะไรวิเศษมาอวดผมหน่อยน่ะ ท่านมีครอบครัวเหย้าเรือนมากี่ปี ท่านมีอะไรจากครอบครัวเหย้าเรือนที่ดิบดีวิเศษเอามาอวดผมหน่อยน่ะ นั่นเห็นไหมบทเวลาท่านจะเอา ออกจากนั้นท่านก็ออกธรรมะ เปรี้ยงๆ เลย ทางนี้ก็ฟังนั่งเหมือนหัวตอเลย ฟัง โฮ้ คราวนี้ท่านเอาเด็ดนะ นั่นละมันเป็นสื่อกัน จิตดวงนั้นกับธรรมในจิตดวงนี้ที่รับกันมันประสานกัน พอเจอกันปั๊บเท่านี้มันเข้าหากันละ เป็นอรรถเป็นธรรมเข้าหากัน จะเป็นเรื่องโลกมันก็เป็น หมายถึงผู้มีธรรมในใจรู้ภายในใจ มองเห็นปั๊บมันวิ่งถึงกันแล้ว ทีนี้ธรรมด้วยกันนี้มันดึงกันแล้ว อย่างท่านเทศน์หลวงผาง ใส่เปรี้ยงๆๆ
ท่านได้ธรรมะอันนั้นแหละ มาก็เอาใหญ่เลยท่านว่างั้น ตั้งแต่เราเกิดมาเราก็ไม่เคยฟังธรรมะประเภทนี้ ท่านขึ้นอย่างนี้เลย เกิดมาพึ่งได้ฟังคราวนี้เอง ท่านก็ดูเหมือนว่าจะไม่สอนใครแบบเราอย่างนี้ท่านว่า ไปก็เอาใหญ่เลย นั่น ผ่านได้นะ พ่อแม่ครูจารย์ท่านใส่เปรี้ยงๆๆ คือมันดูดกัน พูดไม่ถูก กระแสของจิตสำหรับผู้มีธรรมแล้วมันวิ่งถึงกันประสานกัน ผู้ไม่มีธรรมมันก็ดูดกัน อย่างนี้นี่เราจะแย็บ คือพูดแบบแย็บเท่านั้นเอง เรื่องที่มันเป็นในใจไม่มีใครทราบด้วย พอมองเห็นปั๊บมันจะวิ่งถึงกันแล้ว แล้วไม่สงสัยด้วยนะ ไม่ต้องหาสักขีพยานมาจากไหน พอปั๊บจับปุ๊บรู้ทันทีๆ เลย
เป็นแต่เพียงว่าธรรมไม่เหมือนโลก ไม่ตื่นเต้นไม่ผาดโผนโจนทะยาน ไม่แสดงกิริยาอาการอะไรออกมาตามที่รู้ที่เห็นที่เป็นที่มันดึงดูดกันเข้าใจไหมล่ะ รู้เฉยๆ จับไว้ๆ อย่างนั้นละ จึงเรียกว่าธรรม คือไม่ตื่นเต้น มีเหมือนไม่มีรู้เหมือนไม่รู้มันเข้าถึงนั้นแล้ว ผู้นั้นไม่รู้เรื่องก็ตามทางนี้รู้แล้ว มันวิ่งถึงกันอย่างนั้น อย่างท่านว่าท่านอาจารย์เทสก์ หลวงปู่มั่นท่านก็ไม่เคยพูด บทเวลาท่านจะเอา คือท่านอาจารย์เทสก์นี่มักเถียงท่านเสมอ พูดอะไรๆ มักเถียงท่าน แต่เหตุผลไม่ได้หนักแน่นเหมือนท่านซิ หลายครั้งหลายหน ท่านเทสก์นี่มันเคยดื้อมาแต่ไหน ตั้งแต่ก่อนมันเป็นหลานท่าน ท่านว่างั้น มันดื้อนะไอ้นี่ บทเวลาท่านจะเอา มันเคยดื้อ นิสัยสันดานมันติดมานี่น่ะท่านว่า ทางนั้นหมอบ
เห็นไหมเวลาท่านจะเอา คือท่านรู้ไว้แล้ว พอญาณทางนั้นออกมารับกันท่านก็ใส่เปรี้ยงเลย มันเคยดื้อนี่น่ะ เป็นอย่างนั้นนะ แต่ก่อนมันเคยเป็นหลานเรา มันเคยดื้อ นี่มันก็มาดื้อ นิสัยสันดานมันยังติดตัวมาท่านว่า ทางนั้นก็หมอบ ท่านเอาเปรี้ยง อย่างนั้นละบทเวลาท่านจะเอา ท่านรู้สักเท่าไรท่านก็เฉยเหมือนไม่รู้ รอยของจิตมันเป็นตามวิถี เวลารู้นี่รู้ถอยหลัง รู้อะไรนี้มันไปได้หมด เรื่องจิตนี้ไม่ขัดข้อง ไปได้หมดเลย มีแต่กิเลสเท่านั้นละปิดไว้ไม่ให้รู้ให้เห็น เหยียบไปๆ พอไปแล้วก็หายไป มันกลบรอยๆ หมด ทีนี้พอธรรมไปเปิดรอยออกมันก็เห็นหมดละซิ
ท่านว่า ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ระลึกชาติย้อนหลังได้อะไรอย่างนี้ อนาคตังสญาณ รู้หยั่งทราบทางอนาคตด้วย พอพูดเรื่องนี้เราก็ระลึกถึงพ่อแม่ครูจารย์มั่น อันนี้ท่านออกปากพูดเลย คงจะพูดไว้เป็นที่ระลึกท่า พอท่านจวนตัวเข้าไป ท่านพูดเองเลยนะ เวลาผมจะตายนี้ ไม่ก่อนไม่หลังกันนัก เวลาผมจะตาย ไม่ก่อนไม่หลังกันนัก จะมีพระหนุ่มรู้ธรรมตามผมอยู่สององค์ท่านว่างั้น เราก็เลยไม่ลืม จะมีพระหนุ่มรู้ธรรมตามเราอยู่สององค์ คือท่านได้นิมิตแล้วนั่น ท่านรู้เรียบร้อยหมดแล้ว
บทเวลาท่านมาไขเงื่อนออกมาว่า ท่านเป็นช้างใหญ่หัวหน้า ช้างสองเชือกเป็นช้างหนุ่มเดินตามหลัง พอไปถึงหน้าถ้ำ หัวช้างท่านก็ไปถึงหน้าถ้ำแล้วหันหน้ากลับออกมา ช้างหนุ่มสองตัวนี้ก็อยู่เคียงข้างแล้วหันหน้าเข้าไป คือท่านได้นิมิต ท่านให้โอวาท ไปพากันกลับเสีย เร่งเอาให้ได้นะ ท่านบอกช้างสองตัว เวลาท่านออกมาทางนิมิตท่านบอกว่า ในระยะผมตายนี้จะมีพระหนุ่มรู้ธรรมตามผมอยู่สององค์ ท่านจะชี้แจงเรื่องนิมิต แต่ว่าองค์ไหนเราก็ไม่ทราบ เราจำได้เท่านั้น จะมีพระหนุ่มรู้ธรรมตามเราอยู่สององค์
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz |