เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๕๐
วัดนี้เป็นวัดของทุกคน
ก่อนจังหัน
สำหรับวัดป่าบ้านตาดเราสงวนพระมากนะ สงวนเพื่อความพากเพียร เดินจงกรม นั่งสมาธิภาวนา ตั้งสติติดกับหัวใจตลอดเวลา นี่คืองานของพระ เราไม่เข้าไปแตะเลย เราสงวนขนาดนั้น งานของเรามีอะไรเราทำภายนอกไม่เข้าไปรบกวนพระ ให้ทำหน้าที่ของตัวเองตามทางของศาสดา ทางของศาสดามีแต่ชำระจิตใจ มีสติมีปัญญาติดแนบๆ ไม่ค่อยเผลอ คนมีสติมีปัญญาไม่ค่อยพลั้งเผลอ เสียท่าง่ายๆ ไอ้พวกเซ่อๆ ซ่าๆ อ้าปากไม่งับพวกนี้ ถ้างับก็งับเอามูตรเอาคูถในส้วมในถานเข้าไปด้วยเลยพวกนี้
พากันตั้งใจนะพระปฏิบัติ เอาให้จริงให้จัง ผมไม่เข้าไปแตะนะ ผมรักผมสงวนมากสำหรับความเพียรพระ อย่างอื่นอย่างใดผมทำของผมเอง สำหรับพระให้ทำหน้าที่ภาวนาโดยเฉพาะ อย่ายุ่งกับอะไร โลกนี้ไม่มีอะไรวิเศษวิโส ยุ่งก็ยุ่งกับส้วมกับถานดังที่เห็นกันแหละ กับอรรถกับธรรมที่จะเป็นของดิบของดีมันไม่ค่อยสนใจ ดีไม่ดีเห็นธรรมเป็นของเศษของเดนไป เห็นเศษเห็นเดนคือส้วมถานนั้นเป็นของดิบของดีไปแล้วเวลานี้ กิเลสมันต่ำเท่าไรมันยิ่งสูง เหยียบเข้าไปเหยียบอรรถเหยียบธรรมไม่มีเหลือ โธ่ น่าทุเรศจริงๆ ให้พากันตั้งใจปฏิบัติ
การงานอะไรในวัดในวานี้ได้ชมพระฝรั่ง การทำกิจการข้อวัตรปฏิบัติปัดกวาดเช็ดถูนี้เรียบ พระฝรั่งยกให้เลย นอกนั้นก็ดี แต่พระฝรั่งนี้เด่นมากเราก็ต้องยกให้ว่าเด่น มีจอมแหลมปี๊ดท่านทำงาน นี่ตัวนี้ตัวสำคัญตัวผ้าตาบๆ ปะๆ ชุนๆ นี่ละเก่ง ทำข้อวัตรปฏิบัติตามกุฏิต่างๆ ซอกแซกเหล่านั้น ท่านองค์นี้ซอกแซกมาก ทำจริงทำจัง องค์เหล่านั้นก็ดีเหมือนกัน แต่องค์นี้รู้สึกจะซอกแซกซิกแซ็กดีมาก
ข้อวัตรปฏิบัติเป็นหน้าที่ของพระ อย่าให้ได้พูดได้บอกได้สอน สอนมาเต็มเม็ดเต็มหน่วยแล้ว หูมีตามีให้ดูให้พินิจพิจารณาให้ฟัง อย่าอยู่เร่ๆ ร่อนๆ ใช้ไม่ได้นะ ตั้งใจประพฤติปฏิบัติจริงๆ จังๆ ผมสอนหมู่สอนเพื่อนนี้ สอนแบบทุ่มลงเต็มสติกำลังของตัวเองเรื่อยมา แต่เวลานี้แก่แล้วไม่ค่อยเอาไหน แต่ตาหูเอาตลอด ตานี้สอดส่อง หูฟังตลอด เอามาคิดพินิจพิจารณา ส่วนความเคลื่อนไหวของการที่จะชี้นั้นแนะนี้อย่างนี้ไม่ค่อยมีแหละเดี๋ยวนี้ ให้พากันตั้งอกตั้งใจปฏิบัติ
ศาสนาเท่านั้นที่เลิศเลอ ทำคนให้เป็นคนได้ มีคุณค่ามีราคาเพราะคนมีศาสนธรรมคำสอนพระพุทธเจ้าไปประดับตัว คนนั้นมีราค่ำราคา ไม่ว่าหญิงว่าชาย ไม่ว่าพระว่าเณร นักบวชและฆราวาส มีค่าด้วยกันทั้งนั้น ถ้าไม่มีธรรมแล้วแต่งตัวเป็นเทวดามาก็ช่างเถอะ ไม่เห็นเกิดประโยชน์อะไร แต่งมาอวดกันโก้ๆ เก๋ๆ บางทีเข้ามาในวัดนี้มันนุ่งกางเกงล่อนจ้อนๆ มา เราจะเอาค้อนไล่ปาเอานะ บางทีเราชี้หน้าเลย ถ้าออกไปไปเจอเอาเฉพาะๆ ชี้หน้าจริงๆ ไล่หนีเดี๋ยวนั้นเลย แต่งตัวนุ่งล่อนจ้อนๆ มีแต่กางเกงๆ ไม่ดูเหรอว่าท่านปฏิบัติยังไงกัน มันถึงได้มาเพ่นๆ พ่านๆ เลอะๆ เทอะๆ มาเราชี้หน้าแล้วไล่เดี๋ยวนั้นเลย
นุ่งกางเกงมาล่อนจ้อนๆ จะเห็นหีมันอยู่นั่นน่ะ มันอายไหม มันหน้าด้านเดี๋ยวนี้กิเลส ธรรมเลยอิดหนาระอาใจ พอดีถ้าไปเจออย่างเราก็ยังมีเมตตาบ้างแหละ เมตตานะที่ดุนั่น ถ้าปล่อยไปเลยมันก็จะจมไปเรื่อยๆ ที่เตือนก็เพื่อให้ผู้นั้นได้สติสตัง หรือผู้นั้นไม่ได้ คนอื่นก็จะได้บ้าง เพราะวัดวาอาวาสเป็นสถานที่อบรมคนให้เป็นคนดิบคนดีมีค่ามีราคา แต่เรามาเลอะๆ เทอะๆ ในสถานที่เช่นนั้นไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้นถึงได้ว่าเอาบ้าง บางทีไล่ต่อหน้าเลย นุ่งกางเกงจิ๊กโก๋จิ๊กเก๋เข้ามา มันไม่ดูอะไรเลยมันหยาบมากชาวพุทธเรา
จะเห็นได้เวลาเข้ามาวัดป่าบ้านตาด วัดอื่นท่านจะว่าหรือไม่ว่าก็ตาม แต่วัดนี้เอาจริง เพราะท่านปฏิบัติจริงๆ การประพฤติปฏิบัติ เอ้า ตำหนิมาบอกนี้ได้เลย เรื่องศีลเรื่องธรรมของท่านที่ปฏิบัติมา ตำหนิตรงไหนท่านบกพร่องตรงไหน ท่านข้ามเกินหลักธรรมหลักวินัยข้อไหน เราดูแลตลอดเวลาดูพระดูเณรของเรา แล้วท่านก็ปฏิบัติอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยจากการศึกษามาแล้วด้วยกัน จึงไม่มีที่ต้องติท่าน เป็นการเก็บรักษาสมบัติอันมีคุณค่าอยู่ตลอดเวลาต่างองค์ต่างรักษา ทีนี้เห็นพวกเปรตพวกผีพวกยักษ์พวกมารเพ่นๆ พ่านๆ เข้ามามันดูไม่ได้นะ
คนหนึ่งรักษาปฏิบัติแทบเป็นแทบตาย คนหนึ่งมาเพ่นๆ พ่านๆ ไม่มีราค่ำราคานะ ตัวเองหยิ่งนะนั่น ว่าโก้ว่าเก๋เข้ามาในวัด จนจะดูไม่ได้นะ มันเลอะเทอะไหม ท่านทั้งหลายเห็นว่าวัดนี้เป็นวัดควายเหรอ ท่านทั้งหลายเป็นเจ้าของควายมาตรวจดูเหรอ มาตัดคะแนนมาให้คะแนน มันเน่าเฟะหมดแล้วนะ ก้าวเข้ามาในวัดมองดูเห็นแล้วนี่ พระท่านดูตลอดเวลา สติปัญญาติดแนบอยู่กับท่านพินิจพิจารณาตลอด ใครเข้ามาดีชั่วเห็นหมดรู้หมดคิดหมด นี้มาเพ่นๆ พ่านๆ มันดูไม่ได้นะ ถ้าใครๆ เข้ามาอย่างนี้อย่าเข้ามาในวัดนี้
เราไม่เห็นอะไรเลิศยิ่งกว่าธรรม อย่าเอายศถาบรรดาศักดิ์สมบัติเงินทองข้าวของมาอวดดิบอวดดีกับธรรมของพระพุทธเจ้านะ ไม่มีอะไรเลิศยิ่งกว่าธรรม จำให้ดีนะ อย่าเอามาอวดสิ่งเหล่านี้ ถ้าจะเอานี้เข้ามาอวดแล้วอย่าเข้ามา เราไม่ต้องการ ไม่มีใครเลิศเลอไปตามสิ่งเหล่านี้ที่ส่งเสริมให้ดี นอกจากธรรมเท่านั้น พากันจำให้ดี เอาละให้พร
วัดนี้ก็เป็นของทุกคนๆ ใครเดินไปตามวัดตามวาเห็นไม่ดีที่ตรงไหนก็ให้พิจารณาแก้ไขดัดแปลงส่งเสริม วัดนี้เป็นวัดของทุกคน เราตายแล้วก็มอบให้กับบ้านนี้แหละ ลูกหลานจะได้อาศัยสิ่งเหล่านี้ ที่เราแนะเราบอก เราคิดเพื่อลูกเพื่อหลาน เราไม่ได้คิดเพื่อเรา
หลังจังหัน
ภาคอีสานมันเป็นนิสัยคนชอบเล่นนะ ทางอีสานเป็นนิสัยเด็ก เห็นกันนี้พูดเล่นกันเหมือนเด็ก เป็นนิสัยอย่างนั้น พอเจอกันถ้าไม่ทักเขาถือว่าจองหอง ถือว่าเป็นทิฐิมานะ พอเจอเข้าไปนี้ต้องทักต้องถาม เป็นนิสัยอย่างนั้น มันผิดกัน(กับภาคอื่น) เหมือนเด็ก ถ้าเป็นหนุ่มสาวเขาไปบ้านนั้นบ้านนี้มา ทีนี้คนหนุ่มไปพอไปเจอกันกลางทาง ไม่เคยเห็นหน้ากันก็ตามมันหากเป็นอย่างนั้น ไปไหนน้อง พี่ไปด้วยได้ไหม อย่างนั้นนะ เออ มาซีๆ บางรายเขาเอาหาบฟาดใส่คอ ให้หาบไปให้เขาเป็นทางไกลๆ นู่น ถูกเขาดัดเอา นั่นละเขาหยอกเล่นกัน มีเท่านั้นนะไม่มีอะไรมากกว่านั้น ไปไหนน้องให้พี่ไปด้วยนะ มาๆ อ้ายๆ มา เอาหาบโยนใส่บ่าให้หาบไปให้ ดีอันหนึ่งทางภาคอีสานเป็นเหมือนเมืองเด็ก คือเห็นกันชอบเล่น ไม่ถือสีถือสา กัน อันนี้เราชมอยู่อันหนึ่ง ไม่ถือสีถือสา ไม่ถือเนื้อถือตัวกันเลย เล่นตลอด ไม่ว่าคนเฒ่าคนแก่ เป็นอย่างนั้นนิสัยเขา
วันนี้ก็จะไปไกลอยู่ไปโรงพยาบาล วันจันทร์ อังคาร พุธ พฤหัส ศุกร์ ไปโรงพยาบาลวันละโรงๆ ไปให้อย่างนั้นทุกวัน อยู่ในโกดังเขาก็มารับได้เลย คือเราจัดไว้เรียบร้อย มาจากโรงไหนมารับได้ พระที่รักษาครัวรับผิดชอบทั้งโกดังด้วย พระที่รักษาครัวเป็นวาระละ ๗ วัน พระนี้ที่จะรับผิดชอบในบริเวณนี้ ไม่ว่าแขกคนมาจากที่ไหนๆ พระที่รับวาระของศาลานี้จะต้องเป็นผู้ต้อนรับและรับผิดชอบทุกอย่าง
อย่างโกดังนี้เหมือนกัน ทางไหนมาพระก็จัดให้ๆ ไม่น้อยนะของในโกดัง จัดไว้เต็มเลย บกบางไม่ได้ โรงพยาบาลต่างๆ เป็นอันดับหนึ่ง โรงพยาบาลไหนๆ เข้ามา มาเอาของ ทีนี้พระท่านจะถามมาจากอำเภอจังหวัดใด ถ้าจังหวัดธรรมดา ใกล้ธรรมดาท่านก็จัดให้เป็นภาคธรรมดาแล้วเสมอกันหมด ถ้าหากว่ามาจากจังหวัดไหนที่ไกล เช่นอย่างอุบลบ้าง นครราชสีมาบ้าง อุตรดิตถ์บ้าง แสดงว่าไกลออกไปแล้วนี้ท่านจะจัดให้พิเศษ อย่างนี้ทุกจังหวัด ถ้าจังหวัดไหนไกลออกไปเช่นอย่างโคราชไปนู้น อุบลย้อนหลัง อุตรดิตถ์ย้อนไปนู้นให้พิเศษทั้งนั้น
ชัยภูมิมีพิเศษสองโรง ภักดีชุมพลหนึ่ง แล้วเทพสถิตหนึ่ง อันนี้ให้เป็นพิเศษ เพราะเราไปเอง เราเอาของไปส่งที่โรงพยาบาลสองโรงนี้เอง จึงเห็นได้ชัดเจนเกี่ยวกับดูเข็มไมล์ โถ ไกลนะ เข็มไมล์จากวัดนี้ไปถึงโรงพยาบาลเทพสถิตและภักดีชุมพลเขตจังหวัดชัยภูมิ ทางนี้ ๓๓๔ กิโลถึงนู้นสูงเนิน ผ่านโคราชไปจนกระทั่งถึงสูงเนินสีคิ้ว นั่นละที่โรงพยาบาลสองโรงนี้อยู่ขนาดนั้นละ เพราะฉะนั้นเราจึงให้พิเศษๆ ภักดีชุมพล เทพสถิต เขตจังหวัดชัยภูมิ สองโรงนี้ให้พิเศษ
ส่วนน้ำมันไม่ว่าจะใกล้จะไกลทุกโรงเราเติมน้ำมันให้ทุกคันรถเลย ไม่ว่าใกล้ว่าไกล ออกมาก็เติมน้ำมัน ปั๊บน้ำมันเรามี เราให้ความสะดวกทุกอย่าง เราพยายามที่สุดแล้วกับโลก เราทำนี้เราทำด้วยความเมตตา ไม่ได้ทำด้วยความแบบว่าชุ่ยๆ อย่างนี้ไม่มีสำหรับเรา จริงจังทุกอย่างเลย ว่าอะไรเป็นอย่างนั้นๆ เช่นอย่างเราช่วยโลกเราก็ช่วยเต็มกำลังความสามารถของเรา มีเท่าไรก็ทุ่มลงๆ จนกระทั่งไม่มีแล้วก็อยู่ เอาขนาดนั้นละ เราช่วยจริงๆ
ไปตามทางเหมือนกัน ไฟเขียวไฟแดงเขามาขายดอกไม้ ให้รายละสามร้อยๆ ดอกไม้พวงหนึ่งนี้ ๑๐ บาทเขาขายกัน เวลาเราไปเราให้คนละสามร้อยๆ เลย ดอกไม้ไม่เอา ยื่นเงินให้แล้วผ่านๆ ด้วยความเมตตาไม่ใช่อะไร เมตตามีมากเท่าไรโลกยิ่งร่มเย็น อาศัยพึ่งเป็นพึ่งตายกันได้เพราะความเมตตา ความเมตตานี่เป็นพื้นฐานของธรรม พระพุทธเจ้าพอตรัสรู้แล้วเพราะความเมตตาสั่งสอนสัตว์โลก ทีแรกเห็นว่าธรรมนี้เลิศเลอสุดที่ใครๆ จะอาจเอื้อมถึงได้แล้วจึงท้อพระทัย ทำความขวนขวายน้อย จะไม่สั่งสอนใคร เพราะจะไม่มีใครรู้ได้เลย แต่ก็เพราะอำนาจความเมตตา เมตตาครอบไว้
เพราะธรรมนี้เป็นอย่างนั้นจริงๆ ธรรมของพระพุทธเจ้า เป็นเข้ากับผู้ใดก็เป็นธรรมของคนนั้นๆ แต่เรารวมแล้วคือว่าผู้ที่จะรื้อฟื้นธรรมอัศจรรย์นี้ออกมาสอนโลกพอได้ลืมหูลืมตาบ้างก็คือพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ๆ นอกนั้นไม่มี ไม่มีใครสามารถ เพราะฉะนั้นที่จะปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าจึงเป็นของลำบากมาก ที่จะคุ้ยเขี่ยขุดค้นเอาธรรมนี้มาสอนโลก เมื่อเต็มภูมิของศาสดาได้เป็นพระพุทธเจ้าแล้วก็นำธรรมนี้ออกสอนโลก
ธรรมนี้เลิศเลอ ถึงขนาดที่ทรงปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า จนสำเร็จโดยสมบูรณ์แล้ว ยังท้อพระทัยเวลาตรัสรู้ใหม่ๆ พอตรัสรู้ผางขึ้นมานี้ มองดูสภาพที่เป็นอยู่ในพระทัยกับมองดูโลกดูสงสารประหนึ่งว่าคนละโลก เข้ากันไม่ได้เลย ฟังซิน่ะ ทรงปรารถนามาอย่างพระพุทธเจ้าของเรา ๔ อสงไขยแสนมหากัป คือพระพุทธเจ้ามี ๓ ประเภท ประเภทเยี่ยม ๑๖ อสงไขย อสงไขยแปลว่านับไม่ได้ถึง ๑๖ ครั้ง แล้วเพิ่มเข้าไปอีกแสนมหากัป ๘ อสงไขยนับไม่ได้ถึง ๘ ครั้ง ไม่ทราบว่าถึงไหนแหละ นับไม่ได้แล้ว อสงไขยๆ เหมือนว่าหนึ่งล้านสองล้านสามล้าน เอาล้านเป็นที่ยุติ พอถึงล้านแล้วก็หนึ่งล้านสองล้านไป อันนี้อสงไขยก็คงเป็นอย่างเดียวกัน
พอตรัสรู้ขึ้นเป็นพระพุทธเจ้านี่ก็คิดด้นเดาธรรมดาเรา เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าแล้วจะสอนโลกด้วยความสะดวกสบายตามภูมิของศาสดา ว่าอย่างนั้น แต่เวลาตรัสรู้ขึ้นมาแล้วธรรมชาตินี้กับโลกประหนึ่งว่ามันเข้ากันไม่ได้นู่นน่ะ ต่างกันขนาดไหน จนท้อพระทัยที่จะสั่งสอนสัตว์โลก ท่านยกมาเป็นบุคคลาธิษฐาน ก็ท้าวมหาพรหมลงมาอาราธนาที่ว่า พฺรหฺมา จ โลกาธิปตี สหมฺปติ ท้าวมหาพรหมลงมาอาราธนาให้ทรงโปรดสัตว์โลก ผู้มีมลทินอันเบาบางยังมีอยู่ ไม่ใช่หนาแน่นไปเสียหมด พระองค์ทรงทราบไว้แล้วแหละ แต่นี่เป็นบุคคลาธิษฐาน ยกบุคคลขึ้นมาก็เอาท้าวมหาพรหมเข้ามา ส่วนพระทัยพระองค์ที่เต็มด้วยเมตตานี้ใครจะเกินศาสดา ทรงรอบไปหมด แต่ที่มันหนักพระองค์ก็บอกว่าหนักเหมือนว่าท้อพระทัย ว่าอย่างนั้นเถอะ แต่อยู่ในวิสัยของพระพุทธเจ้าจะสอนได้
นั่นละธรรมประเภทนี้ละ ลงถึงประเภทนี้แล้วหาที่ต้องติไม่ได้เลย หมด จะชมว่าอย่างไรก็เป็นส่วนเกิน จะตำหนิอย่างไรก็เป็นส่วนเกิน ไม่ใช่ธรรมชาติที่พอดิบพอดีด้วยความเลิศเลออันนั้น อันนั้นพอดิบพอดีเลิศเลอ ธรรมของท่านที่บริสุทธิ์สุดส่วนแล้วเป็นอย่างนั้น ท่านเรียกว่าธรรมธาตุ จะเพิ่มขึ้นไปกว่านั้นก็ไม่ได้เลิศเลอเหมือนสิ่งนั้นมันก็เข้ากันไม่ได้ จะต่ำกว่านั้นเข้าไป เช่นนินทาสรรเสริญ ทั้งสองอย่างนี้ไม่ได้เลิศเลอยิ่งกว่าธรรมชาตินั้น เข้าไปก็ไม่ติดๆ ตกออกๆ หมด
ท่านจึงว่ากิเลสเข้าไปติดในจิตของพระอรหันต์ ย่อมกลิ้งตกไปทันทีทันใด เหมือนน้ำตกลงบนใบบัวกลิ้งตกไปทันทีเลย คำว่ากิเลสก็หมายถึงสังขารที่ปรุงออกมาเป็นสมมุติทั้งนั้นละ จะให้กิเลสของท่านมีจริงๆ ท่านไม่มี ท่านยกออกมาเป็นสมมุติข้อเทียบเคียงเฉยๆ ว่า กิเลสปงฺโก อันว่าเปือกตมคือกิเลส ติฏฺฐติ ย่อมตั้งอยู่ จิตฺเต ในจิตพระอรหันต์ น จิร ติฏฺฐติ ย่อมกลิ้งตกไปไม่ตั้งอยู่ได้นาน ตกปั๊บกลิ้งเลย ตกไปเหมือนน้ำตกลงบนใบบัว ต่างอันต่างไม่ซึมกัน
นี่ละธรรมพระพุทธเจ้าสอนถึงขนาดขั้นเลิศเลอ ไม่มีทางที่จะตำหนิได้เลย จิตดวงนั้นหาที่ตำหนิไม่ได้ จะชมอะไรก็เลยไปเสียทุกอย่าง จะตำหนิก็ดีจะชมก็ดีไม่ใช่ความพอดีเหมือนธรรมชาตินั้น อันนั้นจึงพอดี ท่านเรียกว่าธรรมธาตุที่อยู่ในจิตของพระอรหันต์ นั่นละนิพพานเที่ยงคือธรรมธาตุที่ครองขันธ์ พอขันธ์แตกกระจายนี้ก็ดีดผึงออกเป็นธรรมธาตุไปเลย เวลามีชีวิตอยู่ก็ครองขันธ์รับผิดชอบทำประโยชน์ให้โลกได้ตามกำลังวาสนาบารมีของท่านแต่ละองค์ๆ เมื่อหมดสภาพแล้วก็ดีดผึงไปเลย ความเป็นความตายของพระอรหันต์มีน้ำหนักเท่ากัน ไม่มีอะไรเป็นข้อกังวลยุ่งเหยิงวุ่นวายเหมือนโลก ท่านเป็นอย่างนั้น ท่านพอดีตลอด
ให้พากันปฏิบัติ วาสนาบารมีของเราเกิดขึ้นจากการสร้างอยู่ทุกวันทุกเวลา สร้างทุกวันก็ค่อยเพิ่มขึ้นๆ หนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ ก็ถึงที่สุดได้ ธรรมะนี้ธรรมะสอนให้ถึงที่สุดแห่งทุกข์ พระพุทธเจ้าทุกพระองค์สอนถึงที่สุดแห่งทุกข์ ถ้าดำเนินตามนี้แล้วถึง ไม่สงสัย ไม่มีพระพุทธเจ้าองค์ใดโกหกโลก ไม่มีเลย เอาละพอละที่นี่ จะให้พร
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz |