เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๕๐
การสอนนี้ไม่ผิด
(ลูกศิษย์ถวายปัจจัยเนื่องในงานประทายข้าวเปลือก) เราก็ยกขึ้นบ้างซิเร็วๆ นี้ เมื่อสองวันนี้ทางโรงพยาบาลบึงกาฬมารายงานว่า เครื่องมุงอะไรเรียบร้อยหมดแล้วทั้งสามหลัง เป็นเงิน ๓ ล้าน แล้วทางอำเภอคำม่วงก็มาตกลงกับนายช่างเรียบร้อยแล้ว เอาแปลนมาให้ดู นี่ก็ ๘ ล้านบาทของเรา เข้าใจไหม ทางโน้นเข้ามาทางนี้ออกรับกันซิ ก็เราไม่ได้เอาอะไรนี่ ของที่เราดิ้นเราดีดเหล่านี้เราไม่เอาอะไรนะ ไม่เอาเลย เราทำเพื่อโลกทั้งนั้นเราไม่เอา ที่พาพี่น้องทั้งหลายดีดอยู่นี้เพื่อส่วนรวม
(กราบถวายหนังสือ ชาติสุดท้าย จำนวน ๑ หมื่นเล่มเจ้าค่ะ เป็นหนังสือเทิดทูนพ่อแม่ครูบาอาจารย์และพระอรหันต์เจ้าค่ะ) เหล่านี้ลูกศิษย์พ่อแม่ครูจารย์มั่นนะ ท่านเล่าให้ฟังเอง ถนัดชัดเจนมาก ท่านเล่าเอง ฝ่ายมหานิกายที่เป็นลูกศิษย์ของท่านมาขอญัตติ ท่านบอกไม่ต้องญัตติ พูดอย่างเด็ดด้วยนะ ธรรมยุตก็ดี มหานิกายก็ดี ตั้งชื่อตั้งนามไว้ตามสังคมนิยมเท่านั้น ส่วนความดีงามธรรมะพระพุทธเจ้าเปิดไว้แล้วเพื่อมรรคผลนิพพาน ไม่ว่าจะธรรมยุต มหานิกาย สัตว์โลกรายใดที่มุ่งหน้าเข้ามาปฏิบัติให้ถูกทาง มรรคผลนิพพานได้ด้วยกัน จึงไม่จำเป็นต้องญัตติ เพราะฉะนั้นฝ่ายมหานิกายจึงมีจำนวนมาก ท่านไม่ให้ญัตติ ถ้าญัตติแล้วจะเป็นฝักเป็นฝ่ายขึ้นมา แล้วผลประโยชน์จะมีน้อย ไม่ต้องญัตติ สังคมยอมรับแล้ว ธรรมก็ยอมรับ ท่านว่างั้น
ตั้งแต่ไก่มันก็มีชื่อ เวลาท่านสรุป ตั้งแต่ไก่มันก็มีชื่อจะว่าอะไร ธรรมยุต มหานิกาย ทำไมจะมีชื่อไม่ได้วะ ท่านว่างั้น ท่านสั่งเอง อาจารย์มี โคราช อาจารย์กินรี อาจารย์ไหนเป็นลูกศิษย์หลวงปู่มั่นทั้งนั้น ท่านห้ามไม่ให้ญัตติ ห้ามอย่างเด็ดขาด ท่านพูดเองนะ ถ้าญัตติแล้วก็จะเป็นฝักเป็นฝ่ายไป ผลประโยชน์จะไม่ได้มาก ยิ่งทางฝ่ายมหานิกายจำนวนมากมายเสียด้วย เพราะฉะนั้นจึงให้แยกเป็นฝ่ายนั้นกระจายออกไปให้ได้ประโยชน์ทั่วถึงกัน มรรคผลนิพพานรองรับไว้หมดทั้งธรรมยุต มหานิกาย ตลอดสัตว์โลกทั่วๆ ไป
อย่าว่าแต่ธรรมยุต มหานิกาย ผู้อื่นก็มีสิทธิเหมือนกัน สังคมยอมรับแล้ว ท่านไม่ให้ญัตติ อย่างอาจารย์ชานี่อัฐิของท่านก็กลายเป็นพระธาตุ นี่ก็ลูกศิษย์หลวงปู่มั่น มาหนองผือ ได้มาพบกันที่หนองผือ อาจารย์ชา วัดหนองป่าพง ท่านมาศึกษาอบรมอยู่กับพ่อแม่ครูจารย์มั่นที่วัดหนองผือ ตอนนั้นเราอยู่ที่นั่น จากนั้นท่านก็มาเยี่ยมเราที่นี่ เราไปเยี่ยมท่านไม่พบเพราะท่านไม่อยู่ แล้วท่านก็มาหาเราอีก อาจารย์มี โคราช ก็อัฐิกลายเป็นพระธาตุเหมือนกัน มีสิทธิเหมือนกันดังท่านพูดเห็นไหมล่ะ ใครตั้งใจประพฤติปฏิบัติ ชื่อนามตั้งไว้อย่างนั้นแหละ ตั้งแต่เป็ดแต่ไก่มันก็ยังมีชื่อ ท่านว่า สังคมยอมรับแล้ว ธรรมยอมรับแล้ว เอาเถอะ ท่านว่างั้น ท่านไม่ให้ญัตตินะท่านเหล่านี้ ฝ่ายมหานิกายจึงยังมากอยู่ ท่านไม่ให้ญัตติ ประโยชน์จะคับแคบไม่กว้างขวาง เห็นไหมท่านพูดเพื่อประโยชน์ส่วนรวมทั้งนั้น
ฝ่ายมหานิกายมีแต่ลูกศิษย์หลวงปู่มั่นทั้งนั้นนะ ผู้ใหญ่ๆ คือท่านห้ามไม่ให้ญัตติ ท่านเหล่านั้นเคารพหลวงปู่มั่นอยู่แล้วก็ยอมรับๆ เพราะฉะนั้นฝ่ายมหานิกายจึงแตกกระจายออกไปอย่างว่า เป็นมรรคเป็นผลทั่วกันไปหมด นั่นท่านคิดถึงประโยชน์ส่วนรวมส่วนใหญ่
หลวงปู่มี โคราช บ้านท่านอยู่ที่อำเภอสูงเนิน เราเคยไปพักกับท่าน โอ๊ย รู้สึกท่านกระปรี้กระเปร่าดีใจนะ โอ๊ ท่านมหามาเยี่ยม ท่านดีใจ ไปพักกับท่าน ค้างคืนที่นั่น ท่านกับเราสนิทกันแต่ไหนแต่ไรมา ท่านอยู่ในเขามวกเหล็กหรืออะไร อยู่ลึกๆ เราก็ด้นดั้นเข้าไปหา โหย ทำไมมาที่นี่ได้ โอ๋ย ครูบาอาจารย์อยู่ที่ไหนมาได้หมดนั่นแหละเราว่างี้ กับเราสนิทกันมาท่านอาจารย์มี ที่อำเภอสูงเนิน ท่านอยู่โคราช นี่ก็เพชรน้ำหนึ่ง อัฐิกลายเป็นพระธาตุ
ท่านอาจารย์มั่นท่านสั่งไว้ผิดที่ตรงไหน ไม่ผิดเลย ท่านห้ามไม่ให้ญัตติท่านเหล่านี้ จึงยังเป็นฝ่ายมหานิกาย เป็นพระผู้ใหญ่ๆ สืบทอดกันมาทุกวันนี้ ก็คือพ่อแม่ครูจารย์มั่นท่านห้ามไม่ให้ญัตติ ญัตติหาอะไรท่านว่างั้น ขึ้นอยู่กับข้อวัตรปฏิบัติตามทางของศาสดา ไม่ว่าธรรมยุต มหานิกาย มีสิทธิที่จะได้รับมรรคผลนิพพาน นอกจากนั้นยังมีสิทธิเหมือนกันอีกถ้าปฏิบัติตามท่าน ท่านว่างั้นนะ ท่านไม่ให้ญัตติ ท่านเองนะพูด ท่านสั่งเด็ดขาดเลย มันตัดประโยชน์ส่วนใหญ่ออก ถ้าญัตติแล้วจะเป็นฝักเป็นฝ่ายไป ไม่ต้องญัตติ ให้กระจายออกไปทั่วโลกยิ่งดี ท่านว่า ท่านเห็นประโยชน์ส่วนรวม ประโยชน์ส่วนรวมเป็นเรื่องใหญ่โตมากพ่อแม่ครูจารย์มั่น
หลวงปู่เกิ่ง บ้านสามผง กับหลวงปู่สีลาที่บ้านวาใหญ่ เป็นอุปัชฌาย์ทั้งสององค์นะ หลวงปู่เกิ่ง ฝ่ายมหานิกายก็เป็นอุปัชฌาย์ หลวงปู่สีลาที่บ้านวาใหญ่เราก็เคยไปพักกับท่าน สนิทสนมกันมากเรากับท่าน นี่ท่านก็เสียแล้ว ท่านโละหมดเลยนะท่านเป็นอุปัชฌาย์ ท่านญัตติเป็นธรรมยุตหมดเลยทั้งสององค์ องค์นี้อัฐิของท่านกลายเป็นพระธาตุนะท่านอาจารย์เกิ่ง
ท่านอาจารย์เกิ่งไปอยู่ทางเมืองชลฯ ท่านไปสร้างวัดอยู่ที่บางพระ เมืองชล ฝ่ายกรรมฐานจึงกระจัดกระจายออกไปทางโน้น คือหลวงปู่เกิ่งไปก่อนเพื่อน วัดกรรมฐานก็มีเยอะทางเมืองชลฯนะ ก็ไปจากท่านอาจารย์เกิ่ง ท่านอาจารย์เกิ่งเป็นลูกศิษย์สำคัญของหลวงปู่มั่น เป็นอุปัชฌาย์นะนั่น ญัตติโละทั้งวัดเลยเป็นธรรมยุต กับหลวงปู่เกิ่งได้เคยคุยกันพบกัน ดูอากัปกิริยาของท่านเด็ดเดี่ยวมาก หลวงปู่เกิ่ง บ้านสามผง ท่านล่วงลับไปแล้ว ท่านมาปลงชีวิตของท่านที่สามผง เวลาบั้นแก่ท่านมานี้ อัฐิของท่านกลายเป็นพระธาตุ เด็ดเดี่ยวมาก
(กราบถวายสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชนจังหวัดสุพรรณบุรี อ.เดิมบางนางบวช กำลังส่ง 300 วัตต์ ระบบเอฟเอ็ม 90.50 ออกอากาศตั้งแต่เวลา 3.00 น.ถึง 21.00 น.ทุกวัน โดยกำหนดให้เป็นสถานีวิทยุลูกข่าย รับสัญญาณจากสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน วัดป่าบ้านตาด ร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม ได้ทดลองออกอากาศตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2550 จนถึงปัจจุบัน ขอกราบถวายแด่องค์หลวงตา ยกให้เป็นสมบัติของสงฆ์เจ้าค่ะ)
ธรรมะที่ออกนี้เราเป็นที่แน่ใจในการแสดงออกของธรรมทุกขั้นทุกภูมิ ตั้งแต่พื้นๆ ถึงมรรคผลนิพพาน ถอดออกจากหัวใจเราทั้งนั้น เราเป็นที่แน่ใจในการสอนโลก ในชาตินี้เราแน่ใจ การสอนนี้ไม่ผิด ว่างั้นเลย คือถอดออกจากหัวใจที่ถูกต้องแล้วจากการปฏิบัติดีชอบของเราเรื่อยมา เพราะฉะนั้นการเทศนาว่าการเราจึงไม่วิตกวิจารณ์ว่าจะบกพร่องที่ตรงไหน ในบรรดาธรรมที่แสดงออกเพื่อโลกให้ได้รับผลประโยชน์ทั่วๆ ไป เฉพาะอย่างยิ่งบนศาลาวัดป่าบ้านตาดที่เทศน์ยอดธรรม เราเทศน์สอนพระล้วนๆ
ตั้งแต่ก่อนประชาชนญาติโยมไม่ค่อยมีมาก พระจึงได้มีเวล่ำเวลาฟิตตัวเองทางภาคปฏิบัติโดยลำดับลำดา การเทศน์ก็ลงในแกงหม้อเล็กหม้อจิ๋วๆ ตลอดไปเลย ธรรมะประเภทนี้ที่ได้ออกอยู่ทุกวันนี้ตอนดึกๆ เทศน์จากบนศาลานี้ จากนั้นก็เป็นแกงหม้อใหญ่ไป ก็ถูกต้องตามสัดตามส่วนของธรรมขั้นนั้นๆ เราจึงแน่ใจในการสอนโลกคราวนี้ พูดให้ชัดเจนว่า เป็นครั้งที่เราทุ่มกำลังวังชาด้วยความเมตตาลงต่อโลกทุกสัดทุกส่วน เราไม่เอาอะไรบอกชัดๆ เลย ทำประโยชน์หมุนตัวเป็นกงจักรช่วยโลก แต่มาคิดดูว่าเราจะเอาอะไรบ้างไม่มี พอ เราไม่เอาอะไรทั้งนั้น ทำอะไรมาเพื่อประโยชน์ เช่นอย่างที่ว่านี่ บุญข้าวเปลือกๆ ก็ข้าวเปลือกเพื่อโลก ไม่ได้เพื่อเรา ข้าวเปลือกเพื่อโลกทุกปีมา ผลรายได้มากน้อยเพียงไรกระจายออกทำประโยชน์ให้โลกทั้งนั้น เราไม่เอา
ธรรมที่เราสอนโลกก็เป็นที่แน่ใจในธรรมทุกขั้น พูดให้ถึงเหตุถึงผลตามหัวใจที่เป็นอยู่นี้ว่า ไม่สงสัยในธรรมทุกขั้นในการแสดงออกต่อบรรดาพี่น้องทั้งหลายซึ่งมีอยู่ทั่วๆ ไป เราสอนเต็มเม็ดเต็มหน่วย ที่เด็ดขาดก็คือสอนพระนั่นแหละอยู่บนศาลา ได้ธรรมะอันนี้ไปฟังตอนดึกๆ เผ็ดร้อนๆ คือเทศน์ธรรมะกัณฑ์สอนพระข้างบน ออกจากนั้นก็เป็นแกงหม้อใหญ่ สุดท้ายก็ลงว่า สูนี่ คือมันหมดจะเทศน์มันมาเรื่อยๆ มันหมดกำลังแล้วก็มีแต่สูนี่ๆ นิทานสูนี่เข้าใจไม่ใช่เหรอ เรื่องเทศน์นี้หมดไส้หมดพุง ไม่มีอะไรเหลือ ไม่เป็นที่สงสัยไม่ว่าธรรมะขั้นใด สอนโลกเต็มเม็ดเต็มหน่วย ขอให้ท่านทั้งหลายนำไปปฏิบัติ
พุทธศาสนาคือตลาดแห่งมรรคผลนิพพาน ตลาดแห่งบุญแห่งกุศลทุกขั้นทุกภูมิ อยู่กับพุทธศาสนาหมด สอนไม่มีผิดคือพระพุทธเจ้าสอนโลก ให้อุตส่าห์พยายามบึกบึนตามคำที่ท่านสอนนะ เรื่องกิเลสที่จะฉุดลากออกนอกลู่นอกทางมีมากต่อมาก เรื่องที่จะดึงเข้าไปขับกันเข้าไปหาความดีงามมีน้อยมาก กำลังของธรรมสู้กำลังของกิเลสไม่ได้
พูดถึงเรื่องเหล่านี้เราก็พูดย้อนหลัง คือตอนทำความพากเพียรล้มลุกคลุกคลาน น้ำตาร่วงบนภูเขาเราก็ไม่ลืม เราก็มาเล่าให้พี่น้องทั้งหลายฟัง นั่นละเวลากระแสของกิเลสมันรุนแรง ตั้งสติไม่อยู่เลย ตั้งพับล้มผล็อยๆ จนกระทั่งน้ำตาร่วงบนภูเขา ออกอุทานภายในใจ โห มึงเอากูขนาดนี้เทียวหรือ เอาละยังไงมึงต้องพังวันหนึ่ง นี่ฝังลึกแล้วนะ ถ้าเป็นโกรธเป็นเคียดเป็นแค้นให้บุคคลและสัตว์ตัวใดนี้ เป็นบาปเป็นกรรมเต็มตัว คือมันเคียดแค้นอย่างเต็มหัวใจ ทีนี้เวลามาเคียดแค้นให้กิเลสตัณหาซึ่งอยู่ภายในใจของตัวเองนี้มันเป็นธรรม เคียดแค้นอันนี้เป็นธรรม
มุมานะตั้งแต่นั้นมา ฟาดกันเสียจนม้วนเสื่อ กิเลสม้วนเสื่อลงไปแล้ว ตั้งแต่นั้นสอนโลกด้วยความสะดวกสบาย ไม่สงสัยในคำสอนที่นำมาสอนโลก เพราะเจ้าของไม่สงสัยแล้ว จนถึงขั้นที่ว่าหายสงสัยทุกแง่ทุกมุม พูดให้มันชัดเจน เข้าไปนั่งอยู่ในท่ามกลางพระพุทธเจ้าและอรหันต์ทั้งหลายตั้งแต่เมื่อไร ตั้งแต่เมื่อกิเลสขาดสะบั้นลงไป นั่นละเป็นความบริสุทธิ์เสมอกันหมด ท่านบอกว่า นตฺถิ เสยฺโยว ปาปิโย บรรดาท่านผู้บริสุทธิ์แล้วไม่มีอะไรยิ่งหย่อนต่างกัน เป็นอันเดียวกันหมด ทีนี้เวลามันเป็นนี่ปั๊บมันเข้าท่ามกลางพระพุทธเจ้าและสาวกทั้งหลายทุกๆ พระองค์ในเวลานั้นทันทีเลย นั่นละธรรมของพระพุทธเจ้า ให้พากันปฏิบัติ
เวลานี้ธรรมอยู่ใต้ดิน กิเลสอยู่ข้างบนเหยียบย่ำ เสียงอรรถเสียงธรรมจะออกไม่ได้นะ มีแต่เสียงกิเลสตัณหา เสียงฟืนเสียงไฟเผาไหม้กันทั่วโลกดินแดน แล้วก็ตื่นข่าวกันว่าบ้านนั้นเจริญ เมืองนี้เจริญ เมืองไหนเมืองเจริญน่ะ ถ้าลงกิเลสได้นำหน้าแล้วเป็นเมืองฟืนเมืองไฟเผาไหม้กันให้เป็นเถ้าเป็นถ่านกันได้ทั้งนั้นไม่สงสัย ถ้าธรรมแทรกเข้าไปตรงไหน นั่นละจะพอซุกหัวนอนได้คนเรา ขอให้สั่งสมธรรมให้ดีจะมีที่พอซุกหัวนอนได้ถ้าลงมีธรรมในใจ
สิ่งเหล่านั้นไม่แน่นอน ได้มาตอนเช้าหายไปตอนเย็น ได้มาตอนนี้หายไปตอนบ่าย ความเสียใจกับความดีใจมันผสมผเสกันไป ทางด้านธรรมไม่มีอย่างนั้น มีแต่ชุ่มเย็นๆ ตลอดถึงวิมุตติหลุดพ้น จ้าเลย หายสงสัย กิเลสตัวใดที่จะมาก่อกวนไม่มีในหัวใจ จึงเรียกว่าใจสิ้นกิเลส มีแต่บรมสุขเต็มหัวใจ ยืนเดินนั่งนอนเป็นบรมสุขทั้งนั้น ท่านไม่มีเปลี่ยนมีอิริยาบถเหมือนความสุขทั้งหลายที่โลกได้รับกัน ความสุขจากจิตที่บริสุทธิ์นี้ไม่มีอิริยาบถ จ้าอยู่ตลอดเวลา ให้พากันตั้งอกตั้งใจปฏิบัตินะ วันนี้ก็พูดเท่านี้ละ
วันพรุ่งนี้จะลงไปฉันที่ศาลาใหญ่ วันนี้คนก็จะเริ่มมามากมาย อันนี้เราก็ตะเกียกตะกายให้เขาจัดเขาทำกัน เราเป็นแต่เพียงชี้แนะให้เท่านั้น นอกนั้นให้เขาทำกัน เราอะไรไม่ไหวแล้ว เหนื่อยมาก แต่ความเมตตาไม่เหนื่อย ความเมตตานี้เหลือล้นพ้นประมาณ ไปที่ไหนๆ เห็นเขาขายของอยู่ตามทาง ลงซื้อเอาของเขา ไม่อยากได้ของละ เอาหัวใจคน เข้าใจไหม เอาแล้วก็มอบเงินให้เท่านั้นๆ ร้านนี้เท่านั้นเขาขายอยู่ตามข้างทาง อย่างเมื่อวานไปก็เป็นอย่างนั้น ให้เขาจอดรถไปเอาของเขาตามทาง เอานิดเดียวแล้วก็มอบเงินให้เขาเป็นชิ้นเป็นอันเรื่อยๆ มาอย่างนั้น นี่เป็นเพราะความเมตตานะ เอาละที่นี่จะให้พร
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz |