เมื่อสมบัติมีแล้วก็แจกจ่ายได้
วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา 8:30 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
  วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)   วิดีโอแบบ(Win High Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๕๐

เมื่อสมบัติมีแล้วก็แจกจ่ายได้

         (คณะแพทย์มหาวิทยาลัยนเรศวรกราบเรียนว่า ทางมหาวิทยาลัยได้รับความเมตตาอนุเคราะห์เครื่องมือตาเป็นจำนวน ๕ ชิ้น มูลค่าประมาณ ๙ ล้าน ๕ หมื่นบาท ได้ผ่าตัดคนไข้ไปเกือบ ๕๐๐ คนแล้ว) เครื่องมือตาที่ได้ช่วยทั้งหมดมัน ๑๒๔,๙๕๐,๐๐๐ บาท ทางเวียงจันทน์เฉพาะตาให้ ๓๐ ล้าน เพราะมันจำเป็นจริงๆ ถามดูแล้วอะไรไม่มีๆ อ้าว อยู่ยังไงกัน ก็อยู่อย่างนี้แล้ว เหมือนสัตว์ว่างั้นเถอะ เราให้เลยทีแรก ๑๔ ล้าน..ตา ยังขาดอะไรให้ลงบัญชีไว้เรามาเที่ยวหลังก็เอากันละ เที่ยวแรกได้ ๑๔ ล้านตา ไปเที่ยวหลัง ๑๖ ล้าน เป็น ๓๐ ล้าน เฉพาะตาเวียงจันทน์

คนตาบอดอยู่ได้เหรอ อยู่ที่ไหนอยู่ไม่ได้ ถ้าตาดียังพอเป็นไป หูหนวกค่อยยังชั่วหน่อย แต่ตานี่ไม่ได้ พอตื่นขึ้นมาปั๊บต้องได้เห็นแล้วตา ไปเที่ยวโน้นเที่ยวนี้ คนง่อยเปลี้ยเสียแข้งเสียขาไปได้สบายขอให้ตาดี ถ้าตาเสียเสียอย่างเดียวไม่เป็นท่า นั่งอยู่บนกองเงินกองทองก็ไม่เกิดประโยชน์ คือมันไม่มีความหมายมันมองไม่เห็น ถ้าตาดีแล้วก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง

เราช่วยเต็มกำลังความสามารถของเรา เราได้พูดให้พี่น้องทั้งหลายฟัง ในเพศของนักบวชของเราเราก็ไม่เคยคาดเคยคิดว่าเราจะได้ช่วยโลกขนาดนี้ เวลาฟัดกับกิเลสอยู่ในป่าจะเป็นจะตายไม่มีใครรู้ เราก็ได้พูดให้ฟัง จนเขาตีเกราะประชุมลูกบ้านให้ไปดูเราว่าเราไม่ตายแล้วเหรอ คือไม่ฉันจังหัน เราทำอย่างนั้นตลอดไปที่ไหน ฝึกทรมาน เมื่อไม่ฉันจังหันภาวนาดีๆ พอฉันจังหันมากเข้าๆ ธรรมะลดลงๆ อาหารการกินนี้ทับๆ ทีนี้พอลดอาหารลงการภาวนาดี นี่ละพาให้อดอยาก

จนกระทั่งเขาตีเกราะประชุม ไปที่ไหนก็ทำอย่างนั้น ที่ไหนเขาไม่ตีเกราะเราก็บอกไม่ตี ที่นั่นเขาตีเกราะประชุมลูกบ้าน ไปดูซิพระองค์นี้ ตั้งแต่มาอยู่นี้หลายเดือนแล้ว นานๆ โผล่มาบิณฑบาตเสียหนหนึ่งแล้วหายเงียบๆ ท่านไม่ตายแล้วเหรอ ถ้าท่านไม่ตายท่านไม่โมโหโทโสเหรอ ให้ไปดูนะ แล้วให้ระวังหน่อย เขาเตือนกัน พระองค์นี้ไม่ใช่พระธรรมดา เป็นมหานะ เดี๋ยวท่านจะเขกเอา ไม่ใช่อดแบบงูๆ ปลาๆ นะท่านมีหลักมีเกณฑ์ของท่านเป็นถึงขั้นมหาแล้ว ไปไม่ระวังไม่ได้นะ

หลั่งไหลไปกันจริงๆ ไปก็อย่างว่าแหละ เขาถาม ท่านไม่ตายแล้วหรือ ถ้าไม่ตายท่านไม่โมโหโทโสอยู่หรือ สองข้อ เวลาเข้ามาหาเขาก็เล่าให้ฟัง แล้วเป็นยังไงตายแล้วยัง ก็ไม่เห็นท่านตายนี่ เขาว่า แล้วโมโหโทโสอยู่ไหม ไม่เห็นท่านโมโหโทโส เห็นแต่ยิ้มแย้มแจ่มใส มีเท่านั้นหรือ มีเท่านั้น งั้นไปได้ แตกฮือเลย ไล่ ไม่ถึง ๑๐ นาที อย่างนี้ก็ทำ เราช่วยตัวเราเองช่วยอย่างนั้น

แต่ช่วยโลกมันเป็นแกงหม้อใหญ่ไม่ค่อยรุนแรง เป็นจุดๆ สำหรับช่วยเราเองนี้รุนแรงมาก ดังที่ว่าเขาตีเกราะประชุมไปดูเราว่าตายแล้วยัง เอาขนาดนั้นละ คือจะเอาให้กิเลสขาดสะบั้นลงจากใจ ขอให้เป็นพระอรหันต์ในชาตินี้ พอได้ฟังธรรมจากหลวงปู่มั่นแล้วนี้แหม กำลังใจมาจากไหนไม่รู้ จึงว่าเราเคารพสุดยอด ครูบาอาจารย์สมัยปัจจุบันท่านเหล่านั้นเราก็ไม่ได้ประมาทท่าน แต่ที่เราใกล้ชิดสนิทสนมได้อรรถได้ธรรม ถึงขนาดพลีชีพเพื่ออรรถเพื่อธรรมนี้คือหลวงปู่มั่น

พอไป เหมือนท่านเอาเรดาร์จับไว้เลย เพราะเรามุ่งมั่นต่อมรรคผลนิพพานอย่างเต็มที่ แต่มีข้อแม้อยู่ข้อหนึ่งว่า มรรคผลนิพพานจะมีหรือไม่มีนา ถ้าหากว่ามรรคผลนิพพานไม่มี เราทุ่มกำลังไปก็เสียประโยชน์เปล่าๆ เสียผลเสียกำลังวังชาเปล่าๆ ขอให้ท่านผู้ใดได้บอกเราอย่างชัดเจนให้เป็นที่แน่ใจว่า มรรคผลนิพพานมีอยู่เท่านั้น เราจะกราบผู้นั้นแล้วทีนี้เอาตายเข้าว่าเลย

พอออกจากกรุงเทพมาจำพรรษาโคราชแล้วก็ขึ้นมาหาท่านเลย โห ท่านเอาเรดาร์จับเอาเลย แม่นยำมาก พอเข้าไปนี้ ท่านมาหาอะไร ขึ้นเลยนะขึงขังตึงตัง นั่นท่านปลุกใจ ให้เป็นที่แน่ใจ ถ้าโลกทั้งหลายดูก็จะว่าท่านดุ นั่นละพลังใจ พลังแห่งความเมตตา ท่านแสดงธรรมะให้เป็นกำลังใจของเรา ให้เป็นที่แน่ใจ ความสงสัยที่แบกมาๆ นั้นให้มันขาดสะบั้นลงในธรรมเทศนาของท่านวันนี้ พูดง่ายๆ ว่างั้น พอไปท่านก็ใส่เปรี้ยงๆ เลย หือ ท่านมาหาอะไร ขึ้นเลย ท่านมาหามรรคผลนิพพานเหรอ

ต้นไม้ภูเขาไม่ใช่มรรคผลนิพพาน ไม่ใช่กิเลส ไล่ไปหมดเลย ไล่อันไหนก็ไม่ใช่มรรคผลนิพพาน ไม่ใช่กิเลส มรรคผลนิพพานแท้ กิเลสแท้ อยู่ที่ใจ นั่นท่านไล่เข้าในนี้ เอา เปิดออกจากนี้ด้วยจิตตภาวนา พระพุทธเจ้าตรัสรู้ด้วยจิตตภาวนา สาวกทั้งหลายที่เป็นสรณะของพวกเราได้กราบไหว้บูชาทุกวันนี้ด้วยจิตตภาวนา เอาลงจุดนี้จะเจอทั้งกิเลสจะเจอทั้งธรรม ท่านว่างั้น

โอ๋ย ใจนี้มันพองขึ้นเลย ก็เราหิวกระหายเรื่องมรรคผลนิพพาน ถ้ามีผู้มาบอกว่ามรรคผลนิพพานมีอยู่อย่างร้อยเปอร์เซ็นต์นี้เราจะทุ่มเลย กราบครูบาอาจารย์องค์นั้นแล้วทุ่มเลย นี่ก็กราบพ่อแม่ครูจารย์อย่างสุดหัวใจ ทีนี้ก็ทุ่มกันเลย ตั้งแต่บัดนั้นละความเพียรของเราไม่เคยอ่อนแอ ท่านทั้งหลายดูกิริยาก็รู้ เฒ่าแก่ขนาดนี้เป็นยังไง กิริยาอ่อนแอท้อแท้อืดอาดเนือยนายไหม ไม่อืดเรา นิสัยเราไม่มีคำว่าอืดอาดเนือยนาย ว่าอะไรถ้าลงถึงใจขาดสะบั้นๆ นี่พอถึงใจแล้วเรื่องมรรคผลนิพพานนี้ก็ฟาดกันเลยกับกิเลส ซัดทีนี้ขาดสะบั้นจริงๆ  นั่นเห็นไหมล่ะ

จนได้บอกหมู่เพื่อนว่าเรามาโกหกเหรอ ธรรมพระพุทธเจ้ามาสอนโลกนี้เป็นธรรมโกหกเหรอ สาวกทั้งหลายที่มาสอนโลกเหล่านี้เป็นธรรมโกหกเหรอ เรานำธรรมมาจากพระพุทธเจ้าพระสาวกทั้งหลายมาปฏิบัติจนเห็นผลประจักษ์ใจของเรา ได้แสดงให้พี่น้องทั้งหลายเวลานี้โกหกเหรอ เราอยากถามว่างั้นนะ ซัดกันนี้ก็เอา เพราะเอาจริงเอาจังนี่ จิตมันหิวกระหายต่อมรรคผลนิพพาน ยังไงถ้าหากว่ามรรคผลนิพพานมี มีผู้มาบอกว่ามรรคผลนิพพานมีสมบูรณ์แบบแล้วเราจะให้ได้มรรคผลนิพพาน ให้ได้เป็นพระอรหันต์ในชาตินี้ จะให้ได้มรรคผลนิพพาน เอาตายเข้าว่าเลย พอไปฟังหลวงปู่มั่นท่านก็ซัดที่นี่ก็ โห ขาดสะบั้นลงไป กิเลสยังมีเต็มหัวใจก็จริง แต่เรื่องสงสัยมรรคผลนิพพานนี้ไม่มีเลยขาดสะบั้น นี่ละมันพุ่งใหญ่เลย ถึงได้ไปปฏิบัติ

นี่ละธรรมที่เรามาสอนโลกทุกวันนี้ เราทำเล่นๆ เหรอ จะเป็นจะตายอยู่ในป่าในเขาใครไปรู้เรา จนเขาตีเกราะประชุมไปดูเรา กี่วันจึงมาฉันจังหัน ไปที่อื่นเราก็ทำ แต่เมื่อเขาไม่ตีเกราะเราก็บอกไม่ตี ในหมู่บ้านนั้นเขาตีเกราะประชุม ทั้งๆ ที่เราก็ทำอยู่เหมือนกันนั่นแหละ เพราะฆ่ากิเลสมันอ่อนข้อได้เหรอ เอาเสียจนกระทั่งกิเลสหงาย พูดให้มันซัดเสียเราจวนจะตายแล้ว ตั้งแต่วันออกปฏิบัติจริงๆ พรรษา ๗ สอบมหาได้พรรษา ๗ เพราะเราตั้งสัจจะอธิษฐานไว้แล้วได้เปรียญ ๓ ประโยคเท่านั้น พอเป็นปากเป็นทางจะไม่จนตรอกจนมุมในแถวแนวของอรรถของธรรมที่จะเป็นทางเดิน เพียง ๓ ประโยคเท่านี้พอ แต่เวลาสอบมันก็ได้ทั้งเปรียญ ๓ ประโยค นักธรรมตรี โท เอก ก็ได้ไปพร้อมกัน ทางนี้ก็ออกเลย

พรรษา ๗ ไปจำพรรษาที่จักราช ออกนั้นมาหาพ่อแม่ครูจารย์  นี้ละที่ฟัดใหญ่นะ เอาตายเข้าว่าเลยเทียว เพราะนิสัยนี้มันผาดโผนโจนทะยานมากอยู่ ถ้าเป็นเรื่องโลกเขาเรียกว่าผาดโผนโจนทะยาน หรือมหาโจรก็ได้ ถ้าเอาละคอขาดเลยเทียว ถ้าเป็นมหาโจรนี้เอาจริงๆ เรา ใครมาผ่านไม่ได้นะคอขาดเลย แต่นี้ธรรมมันเป็นเรื่องเด็ดเดี่ยวเฉียบขาดเพื่อชำระความชั่วช้าลามกทั้งหลาย จนกระทั่งได้เป็นที่พอใจ ความที่ว่าเราไม่เคยคิดเคยคาดว่าจะได้ช่วยโลกช่วยสงสารก็เพราะอำนาจแห่งธรรม เมื่อสมบัติมีแล้วมันก็แจกจ่ายได้คนเรา นี่ธรรมสมบัติเมื่อมีในใจแล้วก็แจกจ่ายไปจนกระทั่งทุกวันนี้

ไปที่ไหนมีแต่เรื่องช่วยชาติบ้านเมือง ไปที่ไหนๆ ช่วยๆ ตลอด อย่างที่พูดตะกี้นี้ก็เหมือนกัน ที่บึงกาฬ นั่นก็เกือบ ๓ ล้าน ตึกสามหลังชำรุดหมด เขาขอ เอาของไปส่งเขา เขาขอกันที่นั่นเลย เขาเล่าให้ฟังเรียบร้อยแล้ว เอ้อ เอาตกลงให้ ตรงไหนไม่ดี โครงสร้างโครงอะไรที่จะมุงมันไม่ดีตรงไหนพังออกให้หมด สร้างใหม่ทำใหม่ให้หมด เสร็จแล้วเขามาบอกเมื่อวานนี้ จ่ายงวดสุดท้าย เป็นเงินขาด ๓ ล้านอยู่ไม่กี่บาท อย่างนั้นแล้วช่วยโลก เราได้ช่วย ไม่เคยคิดเคยอ่านว่าจะได้ช่วยโลก ช่วยขนาดนี้ละ

จตุปัจจัยไทยทานที่ได้มาทั้งหลายเหล่านี้ เราแบอย่างนี้นะท่านทั้งหลายให้ดูจริงหรือไม่จริง ไม่กำไม่เอา ได้เท่าไรออกหมด ช่วยโลกหมดเลย เราไม่เอาเราบอกเราพอแล้วในหัวใจ อะไรที่จะให้เอาอันนี้ว่าอันนี้ไม่พอเอามาแข่ง แข่งหัวใจที่เลิศเลอ พอแล้วด้วยความเลิศเลอเต็มอยู่ในหัวใจนี้ อะไรที่จะเอามาเพิ่มเติมอีกมันเลิศเลอไหม ถ้าไม่เลิศเลอไม่เอา นั่นอย่างนั้นซิ จึงว่าเราไม่เอา เราช่วยโลกเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่ไม่เอาอะไรทั้งนั้น ไปด้วยความเสียสละๆ นี่ละธรรมเป็นอย่างนั้น ได้มามากน้อยเพียงไรเป็นความสุขแก่ผู้เกี่ยวข้องและส่วนรวมไปหมด ถ้าเป็นกิเลสกว้านเอาหมดกินไปหมดไม่มีตับมีปอด ธรรมไม่เป็นอย่างนั้น มีมากกระจายออกไปให้เป็นความสุขความเจริญ นี่ละธรรมกับโลกต่างกัน โลกก็คือโลกกิเลสตัณหา ตัณหาคือความหิวความกระหาย ไม่มีคำว่าอิ่มพอ เหมือนไฟได้เชื้อ ไสเข้าไปเท่าไรไฟเผาแหลกๆ เป็นอย่างนั้นนะ

เราไม่เคยคาดคิดว่าจะช่วยโลก ช่วยถึงขนาดที่ว่าไม่มีอะไรเหลือในตัวของเรา ได้มาเท่าไรออกหมดๆๆ ตั้งแต่เริ่มช่วยโลกมานี้ เริ่มตั้งแต่ทองคำนะ ทองคำเท่าที่ทราบมาแล้ว ได้ ๑๑ ตันกับ ๔๐๐ กิโลกว่า นี่ละพาพี่น้องทั้งหลายกว้านสมบัติที่กระจายอยู่ทั่วๆ ไปให้เข้าสู่คลังหลวงเป็นหัวใจของชาติเรา เป็นเครื่องหมายแห่งการช่วยชาติ ได้ทองคำ ๑๑ ตันกับ ๔๑๘ กิโล นี่ได้สมบูรณ์แล้ว เพราะบริสุทธิ์สุดส่วน เนื่องจากเราช่วยด้วยความเมตตา เราไม่ได้ช่วยด้วยความหิวโหยพอที่จะหยิบนั้นหยิบนี้ หาเศษหาเดนมาเราไม่มี บริสุทธิ์สุดส่วนทุกอย่าง ที่เราช่วยตายใจได้เลย

นี่ละธรรมช่วยโลกเป็นอย่างนั้น โลกช่วยโลกกินโลก ธรรมช่วยโลกช่วยจริงๆ อย่างที่เราช่วยนี้ พูดได้อย่างอาจหาญชาญชัยด้วยความบริสุทธิ์ใจ เราไม่มีมัวหมองเกี่ยวข้องกับการช่วยชาตินะ ออกหมดมีเท่าไรออกหมดๆ เลย ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเราในการเงินการทองต้องเป็นหัวใจเดียวกันกับเรา เป็นแบบเดียวกัน ซื่อสัตย์สุจริต ถึงเขาจะไม่มีเมตตาเขาก็ต้องปฏิบัติตามเรา ผู้มีเมตตาพาดำเนิน นั่นละเป็นอย่างนั้น

 

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก