ศาสนาเด่นอยู่ที่ผู้ปฏิบัติ
วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา 8:30 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
  วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)   วิดีโอแบบ(Win High Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๕๐

ศาสนาเด่นอยู่ที่ผู้ปฏิบัติ

ก่อนจังหัน

พระวัดป่าบ้านตาดอาหารมันท่วมปากจะตายแล้ว ให้ทราบว่าธรรมเจริญที่ขาดแคลนนะ ที่ไหนสมบูรณ์ธรรมแห้งผาก แต่พระเหล่านี้ท่านก็ปฏิบัติอย่างนั้นอยู่แล้ว ได้ซ้ำเข้าอีก ตีหัวตะปูย้ำเข้าอีก ท่านไม่ใช่เป็นบ้าอาหารพระเหล่านี้ แต่ที่บอกนี้ก็คือว่า ถ้าอาหารมากธรรมะจะด้อยลงๆ อาหารน้อยธรรมะเจริญ น้อยเท่าไรยิ่งเจริญ...ธรรมะ ฝึกเสียก่อนก็รู้เอง การฝึกฆ่ากิเลสนี้ต้องหาอุบายวิธีการต่างๆ ซึ่งไม่ค่อยมีในตำรา ท่านไม่ได้เขียนเอาไว้ ทั้งๆ ที่ท่านเหล่านั้นก็ปฏิบัติมาอยู่แล้ว เขียนจะเหลือเฟือเกินไปท่านก็เลยไม่เขียน ให้เป็นอุบายวิธีการของผู้จะปฏิบัติชำระกิเลส ต้องมีอุบายวิธีการต่างๆ แง่นั้นมุมนี้ ไม่เช่นนั้นไม่ทัน

กิเลสรวดเร็วมากทีเดียว ในเวลาที่กิเลสรวดเร็ว รวดเร็วมากมองไม่ทัน ประหนึ่งว่าจะไม่มียาแก้กิเลส คือมองไม่ทัน แต่เวลาเราปฏิบัติเข้าไปๆ ธรรมแก่กล้าสามารถแล้วทีนี้กิเลสหมอบๆ ธรรมตีแหลกๆ ต่อจากนั้นไปกิเลสขาดสะบั้น ธรรมดีดผึง นั่นละการฝึกหัด ไม่ได้ฝึกหัดไม่ได้นะ เห็นแก่อยู่แก่กินแก่หลับแก่นอน พวกตายกองกันพวกนี้ ผู้ที่จะหลุดพ้นจากทุกข์โดยลำดับๆ ต้องฝึกทรมาน เรื่องร่างกายกำลังวังชาต้องการเมื่อไรได้ทั้งนั้น แต่กำลังทางด้านจิตใจทางด้านธรรมะเข้าสู่จิตใจนี้ลำบากมาก แต่กำลังทางร่างกายนี้ดีดผึงเลยไม่ได้ยากอะไรแหละ กำลังทางจิตใจนี้ยากมาก ต้องได้พยุงๆ ตลอดเวลา

เราพูดไม่ใช่คุย เอาความจริงมาพูด ท้องเสียตั้งแต่พรรษา ๑๐ ออกปฏิบัติพรรษา ๗ ฟัดกันแล้วนั่น ถึงพรรษา ๑๐ ท้องเริ่มเสีย เสียก็ไม่สนใจ ซัดกันเรื่อย เพราะอดอาหารๆ เท่าไรการภาวนายิ่งดีๆ เดี๋ยวก็ท้องเสีย ถ่ายๆ จนพรรษา ๑๖ ลงเวทีละนั่น พรรษา ๑๖ พ.ศ.๒๔๙๓ ลงเวที ท้องเลยเสียไปเรื่อยๆ เลยกลายเป็นเรื้อรังอยู่ภายใน ตอนนั้นไม่ได้สนใจกับปากกับท้องอะไร สนใจแต่กับธรรม พอถึงพรรษา ๑๖ แล้วก็ฉันธรรมดา ตั้งแต่นั้นมาฉันธรรมดาเลย ทีนี้ท้องก็เสียไปเรื่อยๆ จนจะออกช่วยชาติ มันจะไปจริงๆ

ก็พอดีได้ยาหมอเติ้งมาฉัน หมอเขาตรวจเขาบอกเป็นมะเร็งลำไส้ เขาไม่กล้าบอก เขาอาจจะกลัวว่าเราจะเสียจงเสียใจ เรามันไม่ได้เสีย เรียนจบแล้วเรื่องเกิดเรื่องตาย ไม่ตื่นไม่เต้นไม่กล้าไม่กลัว เรียนจบแล้ว แต่เขาก็กลัวอย่างนั้นละนิสัยของโลก ถ้าเป็นโรคลึกลับเขาไม่ค่อยบอกแหละ เช่นโรคมะเร็งอย่างนี้ เขาไม่ค่อยบอกกัน สำหรับเราให้ยกโคตรมันมาเลย ถ้ามันมีทั้งโคตรมาอยู่ในท้องเราให้บอกมันมาเลย เราไม่กล้าเราไม่กลัว กล้าก็ไม่มี กลัวก็ไม่มี เรียนจบแล้ว นี่ละเรียนธรรมะท่านทั้งหลายให้ทราบ ธรรมะจะเด่นในผู้ปฏิบัติ ศาสนาเด่นอยู่ที่ผู้ปฏิบัติ อยู่ในคัมภีร์ใบลานเรียนมาสักกี่ประโยคๆ ก็ไม่ได้เรื่องได้ราวอะไร มีตั้งแต่ความจดความจำ ความจดจำไม่ใช่เป็นสมบัติ การปฏิบัติจากความจดความจำมานั้น เรานำมาปฏิบัติ ได้รู้มากน้อยเพียงไร นั่นละที่เป็นสมบัติของตนๆ ประจักษ์ภายในใจ สนฺทิฏฺฐิโกๆ ไปเรื่อยๆ

ท่านจึงบอกว่า ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ ปริยัติก็คือศึกษาเล่าเรียน ได้แบบแปลนแผนผังแล้วนำมาปฏิบัติ เหมือนเขาปลูกบ้านสร้างเรือนจะตามแปลนนั้นแหละ จากนั้นก็ปฏิเวธ ผลของงานก็ปรากฏขึ้นเรื่อยๆ จนรู้แจ้งแทงทะลุ ปฏิเวธคือความรู้แจ้งแทงทะลุ ค่อยรู้ไปเรื่อยเป็นปฏิเวธขั้นนี้ๆ ไป นั่นละการปฏิบัติ ไม่ใช่จะอยู่เฉยๆ บวชเป็นพระก็อยู่โก้เก๋เฉยๆ เดี๋ยวนี้มันมีแต่พระขุนนางนะ อยู่ในวัดมันหันหน้าออกนอกวัด ประชาชนญาติโยมเขาหันหน้าเข้าวัด พระที่อยู่ในวัดหันหน้าออกนอกวัดนะเดี๋ยวนี้ เป็นอย่างนั้นนะมันตรงกันข้าม

เป็นยังไงพวกพระเราตื่นหรือยัง ไม่มีใครพูดอย่างนี้ เราเอาธรรมมาพูด ไม่สะทกสะท้านกับสิ่งใด หลักธรรมเป็นอย่างนี้ พูดอย่างนี้เพื่อแก้ไขสิ่งที่บกพร่องตรงไหนให้สมบูรณ์พูนผลขึ้นมา ให้พากันตั้งใจปฏิบัติ ทุกสิ่งทุกอย่างเฉพาะอย่างยิ่งใครที่อยู่ในครัว ผู้รักษาครัวดูเหมือนวาระละเจ็ดวันๆ ให้ดูรอบคอบขอบชิด คนเข้าคนออก ให้สังเกตทุกสิ่งทุกอย่าง มีทุกแบบนะที่เข้ามาในวัดนี่ พวกเปรตพวกผีพวกยักษ์พวกมาร พวกขโมยพวกโจร มีอยู่ในวัดนี้ เราได้ขับออกเรื่อยๆ อยู่ไปไม่ได้ ทำลายๆ

เข้ามาทีแรกก็ลูกคน เข้ามาเพื่อฝึกฝนอบรม ครั้นต่อไปกลายเป็นหน้าด้านไปแล้ว เป็นลูกเปรตลูกผีไปแล้ว มักจะเป็นอย่างนั้นถ้ากิเลสเข้าตรงไหน มันชินชาหน้าด้านเร็วที่สุดนะกิเลส ธรรมนี้ออกไม่ได้ ให้พากันตั้งใจปฏิบัติทางพระทางฆราวาส มาวัดมาวาให้ดูฆราวาสก็ดี อย่าเห็นแก่ได้แก่กินแก่เอา เดี๋ยวกลายเป็นการขโมยไปอีก มี เห็นแล้ว สอบจนได้เรื่องได้ราวไม่ใช่จะมาพูดเฉยๆ สอบได้ต้นได้ตอได้ของกลางและพยานมาพร้อม ควรหนีให้หนี ควรออกให้ออก เรียกว่าจับได้หมดแล้ว มาค้านไม่ได้แล้ว ประมวลมาหมดแล้ว

มันยังไงเข้ามาวัดมาวา มีแต่เห็นแก่ปากแก่ท้อง กินไม่อิ่มกินไม่พอ ได้แบบนั้นได้แบบนี้ เอาแบบนั้นเอาแบบนี้ เหมือนยักษ์เหมือนผีมาจากไหนก็ไม่รู้ วัดนี้ก็เป็นวัดที่เปิดโล่งตลอดเวลา ไม่มีอะไรเสียดายในวัดนี้ เปิดโล่งหมด ดูซิโกดังขนออกสักเท่าไร มาจากทางไหน อันดับแรกก็คือโรงพยาบาล นอกจากนั้นทั่วไปหมด วัดนี้ไม่ใช่วัดตระหนี่ถี่เหนียว วัดเปิดเผย วัดเมตตา เราให้ทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะฉะนั้นอยากได้อะไรให้มาขอมาบอก อย่าทำแบบโจรแบบมาร ถ้าเป็นอย่างนั้นกระเทือนใจมาก

ทั้งๆ ที่เราเป็นนักเสียสละ แต่มาฉกมาลักมาขโมย จับพิรุธได้นี้กระเทือนใจมาก ให้ก็ให้อยู่แล้ว การทำอย่างนั้นเป็นความเสียหายมากมาย การให้กันยกกันให้ทั้งถังก็ได้ ยกให้หมดก็ได้ ด้วยความพอใจทั้งผู้ให้ผู้รับ อันการฉกการลัก ลักๆ ลอบๆ เสียมากนะอย่าพากันทำ ให้กันเท่าไรพอใจ แต่แบบฉกๆ ลักๆ ลี้ๆ ลอบๆ ไม่ได้นะ เสีย วัดนี้เปิดตลอดเวลา ไม่มีอะไรเสียดายสำหรับวัดนี้ มีเท่าไรออก ถึงไหนถึงกันหมด คำว่าเสียดายไม่มีวัดนี้ บอกตรงๆ เราเป็นหัวหน้าวัด คำว่าเสียดายไม่มี มีแต่เมตตา เพราะฉะนั้นใครมาวัดมาวาให้งามหูงามตา พูดก็ดี มองดูกิริยาอาการก็ดีให้งามตาหน่อย เอาละให้พร

หลังจังหัน

บรรดาพี่น้องชาวพุทธเราควรจะหันหน้าเข้าวัดเข้าวานะ เราเห็นไหมโลกกว้างขนาดไหน มันมีความสงบงบเงียบที่ไหน มีแต่ศึกสงครามฆ่าฟันรันแทงเป็นเถ้าเป็นถ่านไปหมด นี่ละกิเลสออกใช้ โลกทั้งโลกไม่มีธรรมออกใช้เลย มีแต่กิเลสออกหน้าออกตา ไปที่ไหนมีแต่ความเดือดร้อนฆ่าฟันรันแทงรบราฆ่าฟันไม่มีประมาณ นี่คือเรื่องของกิเลส จะเป็นความพินาศฉิบหายไปตลอด ถ้ามีธรรมแทรกเข้าจะมีความสงบ พูดกันรู้เรื่องๆ มีเหตุมีผล เช่นผู้ใหญ่ประเทศใหญ่นั่นเป็นเหมือนพ่อแม่ของประเทศเล็กประเทศน้อย เขาได้อาศัยมีความสงบร่มเย็นไปตามประเทศใหญ่ นี่มีธรรมเป็นอย่างนั้น

อันนี้ใหญ่เท่าไรยิ่งกินยิ่งกลืน กินไม่หยุดไม่ถอย ประเทศใหญ่ๆ เป็นยักษ์ใหญ่ๆ คือไม่มีธรรม มีแต่กิเลสกินไม่พอ กินเท่าไรก็ไม่พอ ได้เท่าไรไม่พอ ตายก็ยังอยากอยู่ตลอดเวลา ถ้าธรรมเข้าไปตรงไหนจะมีเบรกห้ามล้อ มีความรู้จักประมาณ มองดูใจเขาใจเรา แม้แต่จัดอาหารมันก็เป็นในจิต มองดูปั๊บๆ ที่ไหนเสมอไม่เสมอ เพราะฉะนั้นเราจึงดูอยู่ตลอดเวลาจัดอาหาร เราจะต้องดูตลอด คือความสม่ำเสมอเป็นหลักใหญ่เป็นหลักธรรม ส่วนจะมากจะน้อยก็สุดวิสัยเมื่อมีความสม่ำเสมอกันแล้วโดยธรรม เป็นอย่างนั้นนะ

เรื่องธรรมไปที่ไหนราบรื่นไปเลย ถ้ากิเลสไปไหนไม่พอ ได้เท่าไรไม่พอๆ  ถ้าธรรมแล้วพอ อย่างที่เราพูดนี่แหละ เราพูดชัดๆ ถอดออกมาจากหัวใจเรา ปฏิบัติมาแทบล้มแทบตาย เรียกว่าเดนตายมา ก็ได้ธรรมมาสมมักสมหมายเต็มทุกอย่างในหัวใจ ไม่มีอะไรบกพร่องที่จะมาตำหนิตนในเรื่องอะไรๆ ไม่มี มันเลยไปหมดแล้ว ความผิดความถูกเลยไปหมด รู้ชัดๆ อยู่ในหัวใจ อยู่ที่ไหนเย็นตลอดเวลา ไม่มีความทุกข์ทางใจตั้งแต่กิเลสขาดสะบั้นลงไป ไม่มีเลย ส่วนเรื่องธาตุเรื่องขันธ์เป็นธรรมดา เพราะอันนี้เป็นสมมุติ เจ็บท้องปวดศีรษะก็เหมือนเราๆ ท่านๆ ไม่ได้ผิดกันอันนี้ เป็นแต่เพียงว่าไม่กระเทือนเข้าถึงใจเท่านั้นเอง ผิดกันเท่านั้น ใจนี้ไม่มีทุกข์

นี่ละฝึกให้พอ...ใจ เวลาฝึกให้พอแล้วเป็นอย่างนั้น ไม่มีอดีตอนาคต ตลอดถึงปัจจุบันก็เป็นสมมุติเสีย อันนั้นเลยไปแล้ว อยู่ยังไงกินยังไงไปยังไงไม่ได้วิตกวิจารณ์ ความเป็นอยู่ความตายไปมีน้ำหนักเท่ากัน แต่ที่ให้ความเป็นอยู่มีน้ำหนักมากกว่าคือเราแยกออกด้วยการสงเคราะห์โลก ช่วยโลกช่วยสงสาร เรามีชีวิตอยู่เท่าไรก็ยังอยู่ทุกวันนี้เห็นไหม วันหนึ่งๆ อยู่เมื่อไร วันนี้ไปที่นั่น วันนั้นไปที่นั่น มีแต่ไปทำประโยชน์ให้ทานทั้งนั้นๆ เมื่อวานนี้ก็สองด่านนู้น เต็มรถๆ เอาข้าวสารไปให้ จากนั้นก็ให้ครัวเรือนละหนึ่งพันๆ ให้อย่างนั้นให้ไม่หยุดไม่ถอย จิตใจมันเปิดอยู่อย่างนี้ตลอด กำไม่มีพูดให้ชัดๆ เลย ความตระหนี่ถี่เหนียวไม่มี มีแต่ความเมตตาครอบไปหมด กระจาย มีเท่าไรออกหมดๆ เราเป็นอย่างนั้น

เพราะฉะนั้นเราจึงได้เตือน ใครมาอยู่ในวัดในวานี้ วัดนี้เป็นวัดเปิดเผยด้วยการบริจาคทานโดยความเมตตา ครั้นมาลับๆ ลอบๆ แบบที่ว่าเป็นโจรเป็นผู้ร้าย กระเทือนใจมากนะ อันนี้เป็นความสกปรกมากกับธรรมที่สะอาดสุดยอด มันเข้ากันไม่ได้ ให้เท่าไรให้ได้ วัดนี้เราเปิดอยู่ตลอดเวลาไม่ได้มีอะไรเสียดาย แต่ถ้ามาเอาแบบนั้นมันกระเทือนใจ นี่ละเรื่องกิเลสเข้าตรงไหนกระเทือนตรงนั้นแหละ ถ้าเรื่องธรรมถึงไหนถึงกัน เป็นก็เป็น ตายก็ตายด้วยกัน อาหารการกินได้มานี้ เอ้าแจกให้เสมอกันหมดเลย เราคอยดูแลตลอดปล่อยไม่ได้

พระท่านก็ทำเต็มกำลัง เห็นไหมเวลาท่านจัดอาหาร มือเป็นกงจักรไปเลยพระน่ะ ท่านฉันท่านก็ฉันนิดเดียวเท่านั้น ท่านไม่ได้ฉันมากนะ แต่ท่านจัดด้วยความเป็นธรรมให้สมำเสมอ แยกโน้นแยกนี้ๆ เรื่อย ก็ดูซิพระมือเป็นหวัดเลย เวลาฉันท่านฉันนิดเดียวไม่ได้ฉันมาก หากทำเพื่อส่วนรวมด้วยความเป็นธรรม ความสม่ำเสมอนี้อยู่กันเป็นผาสุก ไม่ระแวงแคลงใจซึ่งกันและกัน ความสม่ำเสมอคือความเป็นธรรม ถ้าลงเป็นธรรม มีมากมีน้อยเย็นไปหมด ถ้าไม่เป็นธรรมแล้วไม่ได้ ขวางทันทีเลย เราสอนเสมอเรื่องธรรม

เวลานี้โลกไม่มีธรรม เพราะฉะนั้นไปที่ไหนจึงมีแต่ความเดือดร้อน รบราฆ่าฟันแหลกเหลวกันไปหมด ผู้ใหญ่เท่าไรยิ่งเป็นยักษ์ใหญ่ กินกลืนไม่หยุดไม่ถอย นี่ละเรื่องของกิเลสออกหน้าออกตาทำโลกให้เดือดร้อนอย่างนี้ แล้วโลกไหนเจริญ เอ้าว่ามาซิ ไม่มีคำว่าเจริญ มีตั้งแต่ความเดือดร้อนวุ่นวาย รบราฆ่าฟันกันไม่หยุดไม่ถอย ถ้ามีธรรมเข้าไปตรงไหนพูดกันรู้เรื่อง ยิ่งประเทศใหญ่ก็ยิ่งเป็นพ่อเป็นแม่ของประเทศเล็กประเทศน้อยเขาได้อาศัย ถ้ามีธรรมเป็นอย่างนั้น เหมือนพ่อแม่กับลูกนั่นแหละ พ่อแม่กับลูกก็เป็นธรรมๆ อยู่ในนั้น รักแบบโลกก็เป็นธรรมอยู่ในนั้น

ลูกมีเท่าไรๆ เลี้ยงโตหมด พ่อแม่จะจนขนาดไหนก็เลี้ยงลูกจนโตๆ ด้วยกันทุกคน เพราะความเมตตา ความรัก ความสงสาร เป็นอย่างนั้นนะ มีมากมีน้อยเฉลี่ยเผื่อแผ่กันไป ถ้าเป็นธรรมโลกร่มเย็น ถ้าเป็นโลกแล้วเป็นกิเลสตัณหาไม่มีคำว่าพอ คนนั้นก็จะเอา คนนี้ก็จะเอา แย่งกันทุกทิศทุกทาง มาทุกแห่งทุกหน แล้วก็รบกัน พูดเท่านั้นละวันนี้ไม่พูดมาก เพราะเทศน์นี้ก็ออกทางวิทยุแล้ว ไม่ได้เทศน์มากก็ออกวิทยุเหมือนกัน ออกทั่วประเทศ พูดอย่างนี้ทุกวันๆ ก็ได้ฟังวิทยุจากเรานี้แหละ เราพูดให้โลกพากันมีธรรมบ้าง

ถ้าไม่มีธรรมเดือดร้อนมากนะโลก มีอะไรก็ตามถ้าไม่มีธรรมแฝงอยู่แล้วหาความสุขไม่ได้ ขอให้มีธรรมแฝงอยู่เถอะ คนทุกข์คนจนคนมั่งคนมีมีความสุขตามขั้นตามภูมิของตน ถ้าไม่มีธรรม เป็นเศรษฐีก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรนะคนไม่มีธรรม มีแต่จะกินจะกลืนจะเอาจะรีดจะไถทุกทิศทุกทางดิ้นรนกระวนกระวายอยู่งั้น ดีไม่ดีคนมียิ่งเป็นทุกข์กว่าคนจน คนที่ไม่มีธรรมนะ คนมีธรรมเสม่ำเสมอ

(กราบเรียนเกี่ยวกับสถานีวิทยุ และทีวีที่ลูกศิษย์ทั้งหลายรับชมรับฟังอยู่ครับ สื่อที่ให้รับชมรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตาได้มีดังต่อไปนี้

๑. รับฟังทางสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM ๑๐๓.๒๕ MHz ตลอด ๒๔ ชั่วโมง และทางสถานีในเครือข่ายทั่วประเทศ ๙๘ สถานี

๒. รับชมถ่ายทอดสดในเว็บไซต์ของหลวงตา และสามารถรับฟังรับชมและอ่านพระธรรมเทศนาของหลวงตาได้ย้อนหลัง โดยเลือก วัน เดือน ปี ที่หลวงตาแสดงธรรม สามารถกดรับชมรับฟังได้ และสามารถเก็บบันทึกไว้ได้อีกด้วย

๓. รับชมทางสถานีผ่านทางดาวเทียมไทยคม ๒ อันนี้มีทั้งเสียงทั้งภาพตลอด ๒๔ ชั่วโมงครับ สำหรับรายละเอียดการรับชมรับฟังพระธรรมเทศนาขององค์หลวงตา อ่านรายละเอียดทางเว็บไซต์ของ Luangta.com ครับ)

ธรรมก็ออกกว้างอยู่ธรรมเรา นี่ละที่ว่าเราช่วยชาติคราวนี้เอาเงินช่วยชาติ เราเล็งใส่ธรรมปั๊วะเลย คนทั้งหลายเขาจะเล็งถึงด้านวัตถุ ว่าเราช่วยชาติจะต้องเป็นเงินทองข้างของอะไรๆ เข้าสู่ส่วนรวม แต่เรานี้คราวนี้เป็นคราวที่ธรรมะจะได้เข้าสู่หัวใจคน แน่ะ ไม่ได้ไปเหมือนโลกนะ ก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เวลาช่วยชาติมาแล้วการเงินการทองอะไรเราก็หยุดไปแล้วเดี๋ยวนี้เราไม่เอา แต่ธรรมะเห็นไหมล่ะกระจายออกไปทั่วประเทศเขตแดน นี่ละธรรมะออก ออกไปที่ไหนคนที่มีจิตใจพอเป็นมนุษย์อยู่บ้างจะรับฟัง รับฟังคราวนี้รับฟังคราวนั้นจิตใจดูดดื่ม ต่อไปก็พุ่งไปได้

เหมือนอย่างนายกาละ ลูกอนาถบิณฑิกเศรษฐีซึ่งเป็นอุปัฏฐากของพระพุทธเจ้า ไม่สนใจในอรรถในธรรม พ่อชวนไปวัดไม่สนใจต้องได้จ้าง พ่อน่ะจ้างลูก เอ้า ไม่ไปไปนั่งอยู่ในบริเวณวัดก็เอา แล้วมาก็ให้รางวัล ในตำรามี ไอ้ลูกไปก็ไปอยู่นั้นละ อยากอยู่ที่ไหนก็อยู่ คือเสียงธรรมพระพุทธเจ้าจะกระจายออกไปมันจะได้ยินวันละเล็กละน้อย จ้างมาแล้วก็ไปเอาเงินค่าจ้างจากพ่อแล้วไป ทีนี้อยู่ไปอยู่มาหลายวันหลายคืนฟังเทศน์เข้าไปเรื่อยรู้สึกแปลกๆ ในจิตในใจ ฟังทีนี้ดูดดื่มละที่นี่ พอดูดดื่มจิตใจเชื่อธรรมจนเกิดความสลดสังเวชในการไปรับเงินรางวัลจากพ่อ พอกลับไปบ้านคราวหลัง พอฟังธรรมอย่างชัดเจนถึงใจแล้วกลับไปบ้านอายพ่อ เลยหนีไม่ได้รับเงิน พ่อเรียกมาเอารางวัล โอ๊ย ไม่เอาแล้ว ตั้งแต่เอามานี้ก็อายพอแล้ว อย่าให้เอาอีกเลย เป็นอย่างนั้นนะ

นี่ละพอธรรมเข้าสู่ใจแล้ว ความเห็นแก่ได้แก่เอาไปทางโลกทางสงสารนี้ปิดหมดเลย พ่อจะให้รางวัลนี้ไม่เอา ตั้งแต่เอามาแล้วก็อายจนพอ อย่าให้เอาอีกเลย นี่ละนายกาละ เขาเป็นลูกอนาถบิณฑิกเศรษฐี เป็นอุปัฏฐากของพระพุทธเจ้าเรา ได้จ้างลูกไปวัด ไปวันไหนมาแล้วก็เอาค่าจ้าง ให้ไปทุกวันๆ ฟังไปฟังมาเสียงธรรมพระพุทธเจ้ากระจายทั่ววัดเชตวัน ทีนี้พอฟังไปๆ เกิดความเคารพเลื่อมใส จากนั้นกลับไปบ้านไม่ให้พ่อเห็นหน้าเลย พ่อเรียกไปเอารางวัล อู๊ย อย่าให้เอาเลย อายพอแล้ว ตั้งแต่เอามาแล้วก็อายย้อนหลังพอแล้ว แต่นี้ต่อไปเอาไม่ได้แล้วที่นี่ นั่นเห็นไหมติดเลยเงินไม่เอา สู้ธรรมไม่ได้ นั่น เอาละที่นี่

(ผู้มีจิตศรัทธาร่วมสมทบบริจาคของต่างๆ ไปเวียงจันทน์ ประเทศลาวครับ มี ๑. ขนมตุ๊บตั๊บ ๕๐๐ กล่อง ๒. มุ้ง ๒,๐๐๐ หลัง ๓. ข้าวเหนียว ศรีไทยใหม่ ๓,๐๐๐ ถุง ๔. ข้าวเจ้า ศรีไทยใหม่ ๒,๖๐๐ ถุง ๕. ข้าวเหนียว สมหมายร้อยเอ็ด ๓,๐๐๐ ถุง ๖. มาม่า สมหมายร้อยเอ็ด ๖๐๐ กล่อง อันนี้สมทบร่วมกับหลวงตาไปเวียงจันทน์ ประเทศลาว) เอ้อ ไปเวียงจันทน์ วันที่ ๒๓ วันนั้นของเอาไปเต็มเหนี่ยวเลยละ ไปทั้งทีๆ ต้องให้เป็นที่ระลึก

 

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก