เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๐
หาความสุขความสงบไม่ได้ถ้าไม่มีธรรม
ทองคำประเภทน้ำไหลซึมค่อยไหลซึมเข้ามาเรื่อย เดี๋ยวนี้ทองคำที่ได้ดูเหมือน ๑๑ ตัน กับ ๔๐๐ กิโล มันก็จะได้เรื่อยๆ เพราะเราเป็นห่วงชาติไทยของเรา ให้มีเนื้อมีหนังเต็มเนื้อเต็มตัวซิ บ้านอื่นเมืองอื่นเขาก็มีหน้ามีตา เมืองไทยเราก็มีหน้ามีตาจะว่าอะไร เราก็ต้องแต่งหน้าแต่งตาให้สวยงามน่าดูบ้างซิ หาทุกทางที่จะให้เป็นเนื้อเป็นหนังแห่งชาติไทยของเรา เราคิดเราอ่านเต็มกำลังเหมือนกัน ไม่ใช่อยู่ๆ ก็ฉุดกันไปลากกันไป เราคิดเรียบร้อย จะออกช่องไหนๆ พิจารณาเสียก่อนเรียบร้อยๆ ออกๆ ก็ไม่เห็นผิดพลาดนะ เท่าที่ดำเนินมาโดยลำพังตนเองก็ดี พาพี่น้องทั้งหลายดำเนินก็ดีก็ไม่เห็นผิดพลาด
การดำเนินโดยลำพังตนเองเพื่อแก้กิเลสก็ไม่เห็นผิดพลาด ถ้าหากว่าเป็นความผิดพลาดกิเลสจะม้วนเสื่อได้ยังไง นี่ฟาดเอาจนกิเลสม้วนเสื่อแล้วก็พูดป้างๆ เราไม่อาย หาของดีได้ของดีมาพูดให้ใครฟังเป็นความเสียหายแล้วเหรอ คนทำความชั่วเต็มอยู่ในเรือนจำนั้นเป็นยังไง เป็นมงคลเหรอ ถ้าเป็นมงคลก็พากันไปกราบพวกนักโทษในเรือนจำ พูดความดีให้ฟังไม่อยากฟัง หูนี่มันหูกีดหูขวางหูไม่เป็นมงคล ไม่อยากฟังของดี อยากฟังแต่ของชั่วๆ ช้าๆ
เราพิจารณาทุกอย่างที่พาพี่น้องทั้งหลายดำเนิน พิจารณาเต็มกำลังแล้วก็ออกๆ ก็ไม่เคยเห็นผิดพลาด คิดดูอย่างที่ว่า เอา จะนำพี่น้องทั้งหลายปี ๒๕๔๐ มันสะเทือนใจมากทีเดียว พ่อแม่ปู่ย่าตายายพาถ่อพาพายมามีความสงบร่มเย็นสมบูรณ์พูนผลมาเรื่อยๆ มาถึงรุ่นของลูกๆ หลานๆ นี้จะพาบ้านเมืองให้ล่มจมมันเป็นไปได้เหรอนั่นซิ ไม่อายโลกเขาเหรอ พ่อแม่ปู่ย่าตายายพาถ่อพาพายมาอย่างสง่าผ่าเผย ด้วยความสงบร่มเย็น แต่เวลารุ่นลูกรุ่นหลานมาสังหารชาติของตนมันดูได้เหรอนั่นซิ มันกระเทือนใจมากนะ เพราะฉะนั้นจึงว่า เอ้า จะนำพาไปเรื่อยจนกระทั่งทองคำน้ำไหลซึม
ทองคำที่เราหาได้ตั้ง ๑๑,๔๑๐ กิโล ถ้าพวกเราทั้งหลายไม่ก้าวเดินนี้ทองคำเหล่านี้จะมีที่ไหน ไม่มีนะ นี่ก็ไปกองอยู่ในคลังหลวงของเราแล้ว ที่มอบไปแล้ว ๑๑,๐๓๗ กิโลครึ่ง ที่ยังไม่มอบก็จะมอบ รอเวลา เราทำนี้เราทำเป็นธรรมล้วนๆ นะ จึงบริสุทธิ์ตลอดเวลา ใครมาแตะไม่ได้เลย เด็ดขาดเรา ที่ว่านำนำอย่างนี้ละนำพี่น้องทั้งหลาย เจ้าของก็บริสุทธิ์เต็มส่วน ทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีรั่วไหลแตกซึมพอจะให้มัวหมองภายในใจเรา เปิดอยู่ตลอดเวลาต่อพี่น้องทั้งหลาย ด้วยความเป็นห่วงใยนั้นเองจึงได้อุตส่าห์พยายาม เอ้า จะนำจะพาเดิน ก็ได้อย่างว่าจริงๆ ทองคำก็ได้ตั้ง ๑๑,๔๑๐ กิโล ถ้าต่างคนต่างหมอบอยู่ทองคำจะได้สักสตางค์เมื่อไร ไม่ได้นะ
นี่เห็นไหม การตื่นเนื้อตื่นตัวฟื้นทางจิตใจ จิตใจดีแล้วทุกสิ่งทุกอย่างมีขอบเขต การอยู่การกินใช้สอยทุกอย่างมีประมาณ มีขอบมีเขต จะจับจะจ่ายไปทางไหนๆ ให้มีเหตุมีผล จ่ายมากจ่ายน้อยไม่มีที่ต้องติเพราะมีเหตุผลจับทุกอย่างๆ ถ้าแบบสุรุ่ยสุร่าย อะไรมาคว้ามับๆ นั่นลิง ประเทศไทยเราไม่ใช่ประเทศลิง ยิ่งเป็นประเทศพุทธศาสนาด้วยซ้ำ ควรที่จะมีขอบเขตเหตุผลหลักเกณฑ์ในการประพฤติตัว ตลอดการอยู่การกินใช้สอยทุกอย่าง อย่าคว้าเอาๆ อะไรก็คว้าเอาๆ ใช้ไม่ได้นะ เมืองไทยเราเป็นเมืองคว้า เราเกิดอยู่ในท่ามกลางเมืองไทย เมืองไทยเราไม่ดีตรงไหนก็ตำหนิ ตำหนิเพื่อจะยกขึ้นนั่นเอง ไม่ได้ตำหนิเพื่อทำลาย
เราก็ไม่เคยได้คิดได้อ่านเรื่องที่จะได้นำพี่น้องทั้งหลายมาตลอดนะ บวชแล้วเรียนหนังสือก็ตั้งใจเรียนจริงๆ เรียนแล้วจะออกปฏิบัติ จิตใจมุ่งมั่นอย่างนั้น พอจบตามความมุ่งหมาย คือความมุ่งหมายของเราว่าให้ได้เปรียญ ๓ ประโยคเท่านั้น ไม่เอามากกว่านั้น เป็นมหาแล้วนี้ช่องทางของการเดิน เรียกว่าแบบแปลนแผนผังสมบูรณ์แล้ว ทีนี้จะก้าวเดิน ก็หมายความว่าจะออกปฏิบัติ ทีนี้เวลาออกปฏิบัติก็เอาจริงเอาจังทีเดียว เราจะตายอยู่ในป่าเขาตีเกราะประชุมเห็นไหมล่ะ ไปที่อื่นเราก็ทำอย่างเดียวกัน แต่ที่ไหนเขาไม่ตีเกราะประชุมเราก็ไม่พูด
เขาประชุมกัน เป็นยังไงพระองค์นี้มาอยู่กับพวกเรา ไม่ทราบว่ากี่วันเห็นด้อมๆ มาบิณฑบาตเสียหนหนึ่งแล้วหายเงียบๆ อยู่อย่างนี้ ท่านไม่ตายแล้วเหรอ ไปดูซิ ถ้าท่านไม่ตายท่านยังโมโหโทโสอยู่เหรอ พากันไปดู ท่านไม่ใช่พระธรรมดา ว่างั้น เป็นมหาเสียด้วยถึงทำได้อย่างนี้ เวลาไประวังท่านจะเขกกบาลเอานะ ผู้ใหญ่บ้านบอกว่าเราไม่ไป ไปดูซิพระองค์นี้ตายหรือยัง นั่นเห็นไหมล่ะอยู่ในป่าในเขา เราทำอย่างนั้นของเราเรื่อยไป แต่ที่ไหนเขาไม่ตีเกราะประชุมกันเราก็ไม่ว่า ที่เขาตีเกราะประชุมก็ได้ยกขึ้นมาพูดนี่ละ เอาความจริงมาพูดไม่ได้หลอกลวง เวลาเราปฏิบัติก็เอาอย่างนั้นจริงๆ จนเขาตีเกราะประชุมแตกบ้านมาดู กี่วันถึงจะฉันๆ ซัดกันอยู่นั้นตลอดจนกระทั่งท้องเสียนะเรา ท้องเสียเพราะอดอาหาร
อดอาหารภาวนาดีๆ เราจะเอาธรรม เรื่องกำลังวังชาทางร่างกายมันไม่ยากอะไร เวลามายอบแยบ เดินมาบิณฑบาตในบ้านเขาจนได้พักกลางทาง แต่เวลาฉันแล้วดีดผึงม้าแข่งสู้ไม่ได้ กำลังมันมารวดเร็วทางร่างกาย แต่ทางด้านจิตใจมันฉุดยากซิ จึงต้องได้บึกบึน สุดท้ายก็ท้องเสีย จนกระทั่งพ.ศ.เท่าไรที่จะนำบ้านเมืองก็ได้ฉันยาหมอเติ้ง โรคอันนี้คิดว่าจะตายชนพรรษา ถ้าไม่มีอะไรรักษาเราจะตายในระยะนี้ พอกินยานี้แล้วดีดผึงเลย ผึงก็นำพี่น้องทั้งหลายตลอดเลยจนกระทั่งทุกวันนี้ นู่นละเวลาทำตัวเจ้าของก็ทำอย่างนั้น จนเขาตีเกราะประชุมไปดู ดูซิน่ะ นิสัยนี้มันเข้ากันได้ไหม พิจารณาซิ ดูกิริยาท่าทางเป็นได้ไม่สงสัย เพราะเราทำมาแล้วนี่ มาพูดนี้ไม่ใช่โกหกนี่นะ เอาความจริงมาพูด นี่ละเวลาดัดสันดานกิเลสตัวเองเอาให้มันม้วนเสื่อก็เอาจริงๆ มันก็ม้วนจริงๆ ด้วย
นี่ละม้วนเสื่อ กิเลสม้วนเสื่อมาตั้งแต่วันที่ ๑๕ พฤษภา ๒๔๙๓ พังทลายเหมือนฟ้าดินถล่ม นี่ละอำนาจแห่งความจริงจัง เอา เป็นก็เป็น ตายก็ตาย จนเขาตีเกราะประชุมไปดู บางแห่งเขาตีก็บอกว่าเขาตี ที่อื่นเราก็ทำอย่างเดียวกัน แต่เขาไม่ตีเราก็บอกว่าไม่ตี นี่ละฝึกเจ้าของ พิจารณาซิ ดูซีดูกิริยาท่าทางมันน่าจะเป็นอย่างนั้นได้ไหม เอ้าพิจารณาดูซิ เราดูเรามันรู้แล้วแหละ พวกนี้มันตาบอดหรือ มันไม่ดูเหรอเวลาเราทำความเพียร เราจะตายไม่รู้ แต่เวลาออกมาเทศน์ป้างๆ จึงมาดูผลซิ เหตุที่ทำมามันเดนตายมานี่นะ การทำความดีงามอย่างนี้ได้ผลมาให้เห็นเป็นลำดับ จนกระทั่งถึงว่าเปิดเผยหมดเลย โลกธาตุนี้เปิดหมดโดยสิ้นเชิงไม่มีอะไรเหลือในหัวใจ โลกสมมุติเปิดออกหมดไม่มีเหลือ เหลือแต่ธรรมวิมุตติหรือธรรมธาตุเต็มหัวใจเท่านั้นเอง นี่ละความดีงาม
ศาสนาสอนตรงเป๋ง ไม่มีศาสนาใดที่จะเหมือนพุทธศาสนา นี่เป็นศาสนาแท้ๆ เรียกว่าศาสนธรรม ธรรมเป็นเครื่องพร่ำสอนโลกให้ร่มเย็นเป็นสุขจนกระทั่งถึงความพ้นทุกข์ได้ คือศาสนาของพระพุทธเจ้า พุทธศาสนาเป็นศาสนาที่เลิศเลอสุดยอดแล้ว เวลาเรามาปฏิบัติก็ปฏิบัติอย่างนั้น เอาจริงเอาจังมากทีเดียว ก็ไม่ได้เคยคิดพิจารณาช่วยบ้านช่วยเมืองดังที่เป็นมานี้นะ เวลามันจนตรอกจนมุมจริงๆ ก็เราอยู่ในท่ามกลางแห่งชาติไทยเรา เป็นหัวใจของชาติคนหนึ่งๆ ก็ได้ เมื่อเป็นเช่นนั้นก็ต้องดีดละซิ เอา จะนำ ก็ซัดตั้งแต่นั้นมาละ
ผลก็ได้มาเป็นลำดับ เช่นอย่างทองคำก็ได้ตั้งดังที่ว่านี่ละ ดอลลาร์ดูเหมือนได้ ๑๐,๒๑๔,๖๐๐ ที่เข้านี้หมายถึงว่าเข้าสู่คลังหลวงแล้ว ทองคำก็เข้าแล้วสู่คลังหลวงแล้ว ทีนี้ดอลลาร์จากนั้นเราก็พูดอะไรจริงอย่างนั้นไม่มีผิดพลาด เช่นอย่างดอลลาร์นี้ต่อไปนี้ดอลลาร์จะไม่ได้เข้า นั่นเราบอกแล้ว คือเงินไทยเรานี้ยอบแยบๆ เนื่องจากความทุกข์ความจนของโลกละหมุนเข้ามาหา เราก็ได้ช่วยโลกๆ ได้มาเท่าไร เฉพาะเงินไทยจากการหยุดเทศนาว่าการช่วยชาติแล้วเงินก็ร่อยหรอลงไปจนจะไม่มี แต่ความจนของคนไม่ได้ร่อยหรอ ยิ่งมากขึ้นๆ วิ่งมา สุดท้ายก็ต้องไปลากเอาเงินดอลลาร์ ทีนี้ไม่ให้เข้า เข้าเฉพาะที่เข้าแล้ว คือ ๑๐ ล้าน ๒ แสนดอลล์ จากนั้นเงินดอลลาร์ก็หมุนออกมาช่วยเงินไทย ทุกวันนี้เป็นอย่างนั้น เงินดอลลาร์ออกมาช่วยเงินไทยเพื่อช่วยโลกละไม่ได้ช่วยใคร ทำมาเป็นลำดับลำดาอย่างนี้
เราก็ไม่เคยคิดแต่ก่อนว่าจะได้ช่วยโลกแบบไหนๆ มันก็มาเป็นขึ้นต่อหน้าต่อตาซิ จึงได้ดีดผึงเลย นี่ละจึงว่าผิดคาดผิดหมาย เราบวชมาทีแรกไม่สนใจกับอะไร ครั้นต่อมามีความจำเป็นรอบด้าน คนเราอยู่ด้วยกันมันเกี่ยวโยงกันทั่วแผ่นดินไทยเรา เมื่อกระเทือนเราอยู่มันก็กระเทือนไปหมดทั่วประเทศจะว่าไง ก็ต้องได้ช่วยกันเต็มเม็ดเต็มหน่วย ผลก็ปรากฏดังที่ท่านทั้งหลายเห็นนั่นแหละ วัตถุเงินทองก็ได้เข้าไป แต่สำคัญที่ศีลธรรมซิ นี่เราก็บอกว่าคราวนี้ละคราวศีลธรรมจะได้ออก ก็ไม่ผิดเห็นไหมล่ะ วัตถุที่ช่วยชาติ บรรดาประชาชนทั้งหลายเขาต้องคิดว่าต้องเงินทองข้าวของละถ้ามาช่วยชาติ เขาไม่คิดเรื่องอรรถเรื่องธรรม แต่เราเอาเรื่องธรรมเป็นเรื่องใหญ่ เอานี้ออกหน้าเท่านั้น เรื่องธรรมจะเดินหน้าละ ทีนี้ต่อไปธรรมจะเข้าสู่หัวใจคน
ก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เทศนาว่าการตั้งแต่นั้นมาจนกระทั่งบัดนี้ไม่หยุดไม่ถอย ออกทางวิทยุกี่วิทยุแล้วเดี๋ยวนี้ ตั้งเท่าไรเป็นร้อยแล้วเหรอสถานีวิทยุ ตั้งวิทยุเสียงธรรมๆ ออกสู่หัวใจคน นี่ก็ตรงกับความคิดไว้เรียบร้อยแล้ว สมบัติเงินทองข้าวของมีเพียงเล็กน้อย แต่ธรรมะนี้จะกระจายเข้าสู่หัวใจคนก็คือคราวนี้เอง ก็เข้าจริงๆ ตั้งเท่าไรกี่สถานี (ได้ ๙๘ ครับ) ก็ ๙๘ สถานีแล้ว มันก็เป็นไปเองอย่างนี้ละ เทศนาว่าการก็เทศน์ไปเรื่อยๆ วิทยุก็กระจายออกไปๆ เวลานี้ถึง ๙๘ สถานีวิทยุแล้ว ออกไปเรียกว่าทั่วประเทศนั้นแหละ ออกไปทุกแห่งทุกหน นี่ละธรรมะกระจายเข้าสู่จิตใจคน
เมื่อเสียงอรรถเสียงธรรมเข้าสู่ใจ จิตใจแม้จะเป็นไฟ ธรรมะนี้เป็นน้ำดับไฟ ค่อยสงบลงๆ ดังพระพุทธเจ้าท่านแสดงไว้ในตำรา พวกโจรตั้งห้าร้อยโจรไม่ใช่น้อยๆ นะ หาปล้นหาฆ่าหาฟันรันแทงเอาตับเอาปอดคนมากินๆ พวกโจรห้าร้อยคนก่อความวุ่นวายความฉิบหายให้แก่ประชาชนจำนวนไม่น้อยในโจรห้าร้อยคน พอไปฟังธรรมของพระพุทธเจ้าเท่านั้น โจรห้าร้อยคนนี้กลับตัวพรึบหมดพร้อมกันเลย สำเร็จเป็นอรหัตอรหันต์ไม่น้อยนะ พวกโจรห้าร้อยคนนี้ไม่ใช่เล่น ท่านแสดงไว้ในตำรา กลับใจเท่านั้นละ กลับใจเป็นคนดี ผู้ที่ไม่ได้รับมรรคผลนิพพานก็กลับตัวเป็นคนดีๆ ผู้ที่รับก็รับไปเรื่อยๆ ท่านแสดงไว้ในตำราว่าอย่างนั้น นั่นละธรรมะเข้าสู่ใจเป็นอย่างนั้น
ต่างกันกับกิเลส กิเลสเข้าสู่ใจเป็นฟืนเป็นไฟเผาไหม้กันทั่วโลกดินแดนเห็นไหม นี่กิเลสเข้าสู่ใจของโลก ธรรมไม่ได้มีเลย เดี๋ยวนี้ไม่มีใครปรารภถึงเรื่องอรรถเรื่องธรรมที่จะนำเข้าสู่โลกวุ่นวายนี้ พอเป็นน้ำดับไฟให้สงบลงบ้าง ใครก็อวดทิฐิมานะอึ่งอ่างพองตัวๆ แล้วฆ่ากันฉิบหายไปหมด เห็นไหมล่ะทุกวันนี้ นี่ละอำนาจของอึ่งอ่างคือกิเลส มันไม่ยอมตัวง่ายๆ จนกระทั่งตายฉิบหายไปสักเท่าไรๆ ที่ไหนมีแต่ข้าศึกสงครามก่อความไม่สงบ ล้วนแล้วแต่กิเลสพาให้เป็น ถ้าธรรมะเข้าตรงไหนจุดนั้นจะสงบๆๆ เพราะฉะนั้นธรรมะจึงควรที่เราทั้งหลายจะได้ยินได้ฟัง
ที่เราเทศนาว่าการตั้งแต่นำชาติมาก็รู้สึกว่า ธรรมะนี้กระจายออกไปวิทยุเกือบร้อยสถานีแล้ว ออกธรรมทั้งนั้น ธรรมเราก็มีทุกประเภทด้วย ไม่ได้มีที่ต้องติว่าธรรมเราบกพร่องตรงไหนที่มาเทศน์สอนโลกนี้ ตั้งแต่ธรรมพื้นๆ ไปกระทั่งถึงที่สุดวิมุตติพระนิพพานถอดออกจากหัวใจมาสอนทั้งนั้น พูดแล้ว สาธุ คัมภีร์ก็อ่านมาพอเป็นปากเป็นทาง แต่การที่จะให้เป็นเนื้อเป็นหนังเป็นของตัวแล้วทำประโยชน์แก่ส่วนรวมได้ขึ้นจากภาคปฏิบัติ ภาคปฏิบัติรู้ตรงไหนเป็นสมบัติของตนเองๆ ไม่เหมือนความจำ ความจำจำเฉยๆ ไม่ได้เป็นสมบัติของตัวเอง จำแล้วก็หลงลืมไปๆ แต่ภาคปฏิบัติทั้งรู้ทั้งเห็นทั้งเป็นสมบัติของตัวด้วยตลอด จนกระทั่งเป็นสมบัติของตัวเต็มหัวใจดังพระพุทธเจ้าและสาวกทั้งหลาย นั่น ท่านนำมาสู่โลกให้ได้รับความร่มเย็นเพราะภาคปฏิบัติ เราก็ให้นำไปประพฤติปฏิบัติบ้างซิ
ถ้ามีแต่โลกล้วนๆ เราอย่าไปหวังนะว่าโลกนี้จะเจริญ มันจะเจริญด้วยฟืนด้วยไฟหนักเข้าๆ จนเป็นเถ้าเป็นถ่านทั่วโลกดินแดน ถ้าไม่มีธรรมเป็นน้ำดับไฟโลกหาความสงบไม่ได้ ต้องให้หมุนเข้าสู่อรรถสู่ธรรม ไม่เช่นนั้นไม่ได้ ฉิบหายหมด เราทุกคนหัวใจทุกคนนี้มันเป็นไฟอยู่ในหัวใจนั่นดู ไฟที่เขากองไว้ทุกแห่งทุกหนทุกหมู่บ้านทุกครัวเรือนนั้น ไม่ได้ร้อนเหมือนใจเป็นไฟนะ ใจเป็นไฟนี้ร้อนมากเอาความฉิบหายใส่โลกได้โดยไม่สงสัย ไฟร้อนไม่เป็นไร แต่หัวใจร้อนพิลึกมาก ฉิบหายได้ เพราะฉะนั้นจึงเอาธรรมเป็นน้ำดับไฟเข้าสู่ใจใจจะสงบร่มเย็น
ยกตัวอย่างเช่น โจรห้าร้อยคนกลับตัวหมดเลยเชียว พอได้ฟังธรรมของพระพุทธเจ้า จนกระทั่งสำเร็จมรรคผลนิพพานจำนวนไม่น้อยในโจรห้าร้อยคน ผู้ที่ไม่ได้สำเร็จก็เป็นกัลยาณชน เป็นคนดีประพฤติปฏิบัติแก้ไขดัดแปลงตนเองเป็นคนดีต่อไป แล้วเป็นสิริมงคลแก่โลกในอันดับต่อมา นี่ก็เหมือนกันธรรมพระพุทธเจ้าอันเดียวกัน กิเลสประเภทเดียวกัน ธรรมะประเภทเดียวกัน แก้กิเลสได้ประเภทเดียวกันถ้านำมาแก้ ถ้าจะนอนกอดคัมภีร์เฉยๆ เป็นหนอนแทะกระดาษไม่สนใจปฏิบัติตามธรรม แต่วิ่งตามกับกิเลส พวกนี้พวกฉิบหาย จำได้เท่าไรก็ไม่เกิดประโยชน์ เป็นหนอนแทะกระดาษไปเท่านั้น ถ้านำธรรมจากกระดาษคือหนังสือที่ท่านสอนไว้นั้นมาปฏิบัติตัวเอง มันก็เป็นน้ำดับไฟในหัวใจของทุกคนๆ นั่นละ ให้พากันจำเอา
โลกไม่ได้ร้อนที่ไหน ไม่ได้เย็นที่ไหน ไม่ได้ทุกข์มหันตทุกข์ที่ไหน ไม่ได้เป็นสุขเป็นบรมสุขที่ไหน เป็นที่หัวใจแห่งเดียว ขอให้ใจได้รับการอบรมในทางที่ถูกที่ดีจะเป็นน้ำดับไฟในหัวใจเจ้าของโดยลำดับ แล้วโลกนี้จะเป็นโลกที่ร่มเย็นเป็นสุขถ้าหันหน้าเข้าสู่ธรรม ถ้าหันหน้าวิ่งตามกิเลสแล้วตายทั้งเขาทั้งเรา เจริญมีแต่เจริญลมปาก หัวใจคนและความเคลื่อนไหวของมนุษย์มีแต่เอาไฟเผากันๆ หาความสุขความสงบไม่ได้ถ้าไม่มีธรรม
ถ้ามีธรรมแล้วอยู่ที่ไหนสบายหมดนั่นละ ใหญ่เท่าไรยิ่งให้ความร่มเย็นเป็นสุขแก่ผู้น้อยๆ เหมือนพ่อกับแม่เลี้ยงดูลูก ลูกขนาดไหนมีกี่คนเลี้ยงดูโตกันไปหมดๆ เพราะความรักความเมตตาสงสาร อันนี้โลกเมื่อเห็นใจซึ่งกันและกันแล้วโลกก็สงบได้ นี่จะเอาแต่ใจเราอย่างเดียวๆ ใจเรามันเป็นไฟเผาโลกไม่รู้ตัว ต่างคนต่างเผากันมันก็แหลกได้ละซิ พากันจำเอา เอาละพอ
(วันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๕๐ นิมนต์หลวงตาไปรับผ้าป่าที่วัดศรีจำปาทอง อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร บ่าย ๒ โมง เป็นวันว่างอยู่ครับ) เป็นวันว่างอยู่เหรอ ถ้าว่างก็ได้ คืองานเรามันมากต่อมาก เวลารับแล้วก็ต้องสั่งให้พระเป็นผู้พิจารณา ถึงวันเวลาก็บอกเราๆ ลำพังเราจำไม่ได้ พูดไปๆ หายเงียบๆ จำไม่ได้ เวลาพูดเข้าใจ พอพูดจบแล้วหายเงียบเลยมันจำไม่ได้ (ทองคำเช้าวันนี้ได้ ๕ บาท ๘๗ สตางค์ครับ) แน่ะเห็นไหมล่ะน้ำไหลซึม มันซึมเข้ามาอย่างนี้ละเรื่อยๆ ก็ได้เรื่อยๆ ทองคำประเภทน้ำไหลซึม
เราอยากให้ทองคำเราหมุนเข้าคลังหลวงเป็นรากแก้ว ถ้าเป็นต้นไม้ก็เป็นรากแก้ว ถ้าเป็นลำต้นก็เป็นแก่นอยู่ภายใน มีรากแก้วแล้วลำต้นก็เป็นไม้เนื้อแข็งด้วย ขึ้นเลย มันหนาวอะไรไม่รู้ เมฆเต็มฟ้าแต่หนาว หนาวเหมือนฝนจะตก ฝนตกหน้านี้ไม่ใช่เล่นนะ หนาวจริงๆ ฝนตกหน้านี้ เราเคยโดนตั้งแต่เที่ยวกรรมฐาน ดูแทบทุกปี พอเดือนพฤศจิกาแล้วออกเที่ยวละ ตอนระยะนี้ละ ฟ้าใหม่ฝนเก่า เวลามันตกนี้แหมไม่ใช่เล่นๆ นะหนาว หนาวมาก เสร็จเรียบร้อยแล้ว จะให้พร
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz |