เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๒ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๐
สัตว์ในวัด
วัดเรานี้สัตว์ที่จะมากขึ้นๆ ทุกวันคือ นกยูง กระจงหรือไก้ เดี๋ยวนี้จะไม่เข้าร้อยแล้วเหรอ กลางคืนมันไล่หยอกกันตุบตับๆ มากขึ้นทุกวัน ภาษาภาคอีสานเขาเรียกไก้ ภาคกลางเรียกกระจง เดี๋ยวนี้มากขึ้นทุกวันๆ แล้วชอบเที่ยวกลางคืนด้วย กลางวันเขาก็ไป แต่กลางคืนเที่ยวซอกเที่ยวแซก เต็มวัดเดี๋ยวนี้ อันนี้ละจะมากขึ้น นกยูง กระจง นอกนั้นก็ดูไม่เห็นอะไร
นกยูงวัดท่านจันทร์ เมืองกาญจน์นั้นไม่รบกวนคน ไม่อยู่กับคน พอตอนเช้าเขากินอาหารที่พระจัดให้ แจกอาหารให้พวกนกยูง พวกหมู ถึงเวลาเขาก็มา พอกินเสร็จแล้วเขาก็ขึ้นเขาเลย เขาไม่ยุ่งกับพระ แต่พวกนี้ยุ่ง พวกกระจงเดี๋ยวนี้มากขึ้น ไม่ใช่น้อยๆ นะเดี๋ยวนี้ เราอยากจะว่าร่วมร้อยแล้วมัง ดูมันมากขึ้นทุกวันๆ กระจงทางภาคอีสานเขาเรียกไก้ มากขึ้นทุกวันนะสัตว์อันนี้
กลางคืนเราเดินจงกรมอยู่ มันวิ่งปุบปับๆ มันชอบเที่ยวกลางคืนด้วย กลางวันมันก็ไป กลางคืนก็ไป แต่กลางคืนรู้สึกว่าดังลั่นนะ ไล่หยอกไล่อะไรกันก็ไม่รู้ เราก็เลยรำพึงในใจเหมือนกัน เออ พวกนี้มาอยู่กับวัดไม่ได้ระเวียงระวัง อยู่สะดวกสบาย สัตว์บางประเภทกินอาหารกับพระ อย่างพวกที่ว่านี้ก็กินกับพระ เอาอาหารให้กระรอกกระแต พวกนี้ไปกินอยู่ข้างล่างพวกข้าวพวกอะไร เราไปดูตามร้านเป็นประจำทุกวัน อาหารพระท่านเอาไปใส่ร้านๆ ทั่ววัด เราก็คอยไปตามดู ถ้าตรงไหนบกพร่องก็ไปเพิ่มให้ๆ เขากินอย่างนี้ละ เขาเที่ยวสนุกสนาน ไม่ได้ระวังภัยระวังเวร กลางคืนเขาเที่ยวพวกกระจงหรือไก้ ภาคอีสานเขาเรียกไก้ มีมากขึ้นทุกวัน นกยูงก็มากขึ้นทุกวัน
ไม่ได้เหมือนอย่างวัดท่านจันทร์ วัดท่านจันทร์ถึงเวลาเขามากิน ตอนเช้ามากินทั้งหมูทั้งนกยูง พอกินอิ่มแล้วเขาขึ้นเขาเลย เวลาตอนบ่ายค่อยลงมา บ่ายสามสี่โมงเย็นแล้วลงมาทำเลที่เคยให้อาหาร พอกินแล้วหายเงียบๆ แต่วัดเรามันไม่ไปไหน มันยุ่งอยู่ในนั้น อันนั้นเขาขึ้นเขา เราไม่มีเขาให้มันขึ้นมันก็เที่ยวอยู่ในวัด มากขึ้นทุกวันกระจงหรือไก้ แล้วเชื่องมากเสียด้วย ไม่สนใจกับคน
ที่วัดท่านทุยก็มีงูเหลือมอยู่นะ เราไปคราวที่แล้วท่านว่าระยะนี้ไม่เห็นเลย คืองูเหลือมกับสัตว์เหล่านี้กินเร็วที่สุด ลักษณะใบ้ๆ นะแต่เวลากินกินได้กระทั่งแมว แมวนี้สติดี รวดเร็ว แต่งูเหลือมก็กินได้ เรียกว่ามันมีวิชารวดเร็วยิ่งกว่าแมวอีก ไม่งั้นมันกินแมวไม่ได้แหละ ทางภูวัวเราก็ได้สั่ง ไปสั่งเลยละภูวัว คือพวกไก่พวกอะไรเต็มอยู่ต้นไม้ หมด มันขึ้นไปๆ กินหมดเลยไก่ กินตามต้องการของมันละ อิ่มแล้วก็ไป เช่นวันหนึ่งตัวหนึ่ง หรือกี่วันตัว ไก่เต็มอยู่ที่วัด..หมด งูเหลือม เลยสั่งท่านอุทัยให้จับไปปล่อยที่อื่น ภูเขาลูกไกลๆ จะมาปล่อยแถวนี้ใกล้ๆ ไม่ได้ ไปปล่อยแถวภูสิงห์ ภูลังกา จับได้ ๓ ตัว เวลานี้ค่อยเงียบไปว่างั้น อย่างนั้นละงูเหลือม
จะทำยังไง สงสารทุกประเภทสัตว์ที่มาอยู่ในวัด เลี้ยงกันแล้วมากินให้เห็นต่อหน้ามันดูไม่ได้นะเรา นี่ละที่จับไปปล่อย มันกินกันน่ะ จับไปปล่อยเรื่อย ในวัดเรานี้ตัวไหนมันเก่งๆ มันกินเขา เอาไปปล่อยวัดถ้ำกลองเพล ภูเขากว้างๆ เอาไปปล่อย บอกท่านเพ็งว่ามาปล่อยสัตว์ ท่านเพ็งท่านก็ไม่ว่าอะไรเพราะมันกว้างขวางแถวนั้น ที่นี้มันแคบ
สังเกตดู ๑๕ วันมาวันหนึ่งงูเหลือม กินหนูนี้มองไม่ทันนะ มันมีร้านอาหารอยู่ข้างบน หนูมากินอาหารกลางคืน เวลามันจะกินมันจะมาดักอยู่นั้นละงูเหลือมมาดักอยู่นั้น ปั๊บเดียวเลยๆ ได้ทุกตัวไม่เคลื่อน เร็วขนาดนั้นงูเหลือม เลยต้องจับงูเหลือมตัวนี้ไปปล่อย ๑๕ วันมาที กำหนดไว้ ๑๕ วันมาทีหนึ่ง กินอิ่มเต็มที่แล้วไป เพราะหนูมันเยอะ ขึ้นไปเดี๋ยวเดียวปั๊บเลยๆ เลยจับไปปล่อยพวกงูเหลือม ในวัดนี้ไม่มีละปรากฏว่าไม่มี เราสั่งเลยบอกว่าถ้าเป็นประเภทงูให้จับเลย เพราะคนมันสำส่อนไปมา แล้วบางทีไปหยอกไปเล่น ทีนี้มันผูกโกรธผูกแค้นคนไปเซ่อๆ ซ่าๆ เดี๋ยวมันฉกเอา เลยพวกงูเป็นพิษไม่มีพิษจับทั้งนั้นละ เอาไปปล่อย เดี๋ยวนี้ไม่ปรากฏมีงู
เดี๋ยวนี้พวกไก้พวกกระจงกำลังมากกลางคืน วิ่งเพ่นพ่านๆ พวกกระจง มันเที่ยวกลางคืน มากด้วยนะไม่ใช่น้อยๆ ชอบเที่ยวกลางคืน เราเดินจงกรมมันวิ่ง ก็มันอยู่กับคนมันจะไปกลัวอะไรเรา เราเดินจงกรมอยู่มันยังวิ่งตัดหน้าเราปุ๊บ มันไล่กัน มันวิ่งไล่กันตัดหน้าเราเดินจงกรมอยู่ เร็วเสียด้วยนะ ปุบปับๆ ไล่กันกลางคืน แล้วมากขึ้นทุกวัน เดี๋ยวนี้อย่างน้อยคงไม่ต่ำกว่า ๕๐ ละกระจง มากขึ้นทุกวันๆ ต่อไปนี้เต็มวัดละ ส่วนงูเราจับเลยละ สัตว์เหล่านี้ไม่จับ พวกนี้ไม่จับ ปล่อยตามธรรมดา ส่วนงูจับ สั่งพระทั้งหมด ใครเจอที่ไหนให้จับงู เพราะมันเป็นภัยต่อคนด้วย คนเข้ามาในวัดนี้ไม่มีกำหนดกฎเกณฑ์ อยากมาเมื่อไรก็มา ทีนี้งูมันเป็นพิษก็มีซิ เลยต้องได้จับเอาไปปล่อยนอกวัดๆ
ไล่หนูบางทีหลงทางมากุฏิไม่ถูก อยู่ร้านนี้แล้วอยู่ร้านนั้นนะหนู มันมากจริงๆ นะหนู กลางคืนถึงรู้ว่ามันมาก มันมากินอาหารที่ไว้นั้น มาร้านไหนๆ เต็มแต่หนูทั้งนั้น เราเห็นมันยั้วเยี้ยๆ มากนักก็ไล่แตกจากนี้ไป ไปร้านนั้นแตก ไล่ร้านนั้นแตก ไปร้านนั้น ไล่ไปไล่มาเจ้าของหลงทิศที่นี่ ไปทางกุฏิไม่ถูก คือออกจากร้านนี้ไปร้านนั้น ออกร้านนั้นไปร้านนั้น มันมีตั้งแต่หนูเต็ม ทีนี้ไล่ร้านนั้นไล่ร้านนี้ ไล่ไปไล่มากลับกุฏิไม่ถูก ขบขันดี มันมากพวกหนูมาก พวกภาวนาข้างในตั้งใจตั้งใจภาวนานะ อย่ามาเหยาะๆ แหยะๆ เล่นๆ นะ เราหนักใจมากนะเดี๋ยวนี้ มันมีพวกกาฝากเยอะ พระก็พระกาฝากขับไล่ไปเร็วๆ นี้ มันอยู่ข้างนอกวัดบ้างอะไรบ้างเป็นพระกาฝาก อยู่ข้างในนี้ก็จะมีพวกกาฝาก ทำให้หนักใจมากนะ
ให้ตั้งใจภาวนาทำใจให้สงบ อย่าคิดอย่าส่ายอย่าแส่ เรื่องใครก็ตามอย่าถือเป็นเรื่องสำคัญ ยิ่งกว่าเรื่องที่มันคิดมันปรุงขึ้นจากใจตัวเอง ตัวนี้ตัวเป็นภัย มันคิดเรื่องนั้นคิดเรื่องนี้ คิดไปไม่หยุดไม่ถอย นี่ละจิตตัวนี้ตัวอันธพาล บังคับอย่าให้มันคิดไป ดูหัวใจตัวเองตัวเป็นอันธพาล ตัวนี้เป็นอันธพาล มันไปคิดว่าคนนั้นไม่ดีคนนี้ไม่ดี ยกโทษคนนั้นยกโทษคนนี้ ตัวอันธพาลไม่ยกโทษมัน มันก็ยิ่งสนุกเพ่นพ่าน เป็นอย่างนั้นละ นักภาวนาดูตั้งแต่ภายนอกไม่ดูตัวเอง เสีย ผิด
ดูหัวใจ มันแป๊บออกมาคิดปั๊บ มีสติแล้วมันจะดับทันที ถ้ามีสติครอบตลอดคิดไม่ได้มันไม่คิด สติสำคัญมาก ใครภาวนาถ้าสติจับติดตลอดเวลาแล้วกิเลสจะไม่เกิด ถ้าเผลอเมื่อไรปั๊บออก นั่นละเวลามันออกกิเลสออกไปพร้อมกัน ไปเอาไฟมาเผาเรา ถ้าสติมีอยู่แล้วไม่ออก สงบ ต่อไปนานเข้าๆ ก็สงบๆ แน่นหนามั่นคงขึ้น เพราะสติควบคุม ถ้าภาวนาไม่มีสติไม่เป็นท่า พากันจำให้ดี สอนทุกแง่ทุกมุมละ มาภาวนาอย่าไปดูใคร ดูหัวใจเจ้าของ
หัวใจนี้เป็นอันธพาลทุกคน มันหากคิดส่ายแส่เรื่องนั้นเรื่องนี้ยุ่งไปหมด ให้ดูมันคิด สติมีอยู่นี้ตีปั๊บๆ แล้วมันจะไม่คิด อันธพาลจะไม่ออก เจ้าของก็จะสงบเย็น ความกระทบกระเทือนกันก็มีน้อย ที่กระทบกระเทือนกันจากเรื่องนี้ละอันธพาลภายใน คิดยกโทษยกกรณ์คนนั้นไม่ดีคนนี้ไม่ดี เจ้าของไม่ดีไม่ดู ถ้าดูตัวนี้แล้วมันจะไม่ยุ่ง จำให้ดี สตินี้สำคัญมาก ที่เล่ามาเหล่านี้เราทำหมดแล้ว ทำหมด เพราะฉะนั้นจึงเป็นแนวทางที่มาสอนคนอื่นอย่างแน่นอนแม่นยำ ไม่ผิด เราได้ปฏิบัติมาแล้ว สติจับติดตลอดอยู่กับใจแล้วความคิดความปรุงที่เป็นภัยมันจะปรุงไม่ได้คิดไม่ได้ ต่อไปก็เป็นความสงบเย็นขึ้นมาๆ เท่านั้น
วันนี้ก็ไม่พูดอะไรมากนัก ให้พากันตั้งใจภาวนา วัดนี้เป็นสถานที่ภาวนา ไม่ใช่สถานที่ก่อเหตุก่อภัยก่อเรื่องก่อราวในที่ต่างๆ ในบุคคลต่างๆ มีมากเท่าไรหาเรื่องใส่กันเรื่อยๆ พวกนี้พวกอันธพาล มาอยู่ภาวนาเพื่อให้สงบใจนี้มันกับส่งเสริมอันธพาลคือความคิดความปรุงให้ฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมมากขึ้นไป เลยเป็นไฟเผากัน เดี๋ยวทะเลาะกัน เราบอกตรงๆ นะ ถ้าทราบว่ารายไหนทะเลาะแล้วจะไม่วินิจฉัย ไล่ทันทีเรา นี้มันอยู่ภายในซิ สุมอยู่ภายในมันไม่ให้เรารู้ละซิ ถ้าเรารู้เราไม่ยากละ เราพูดจริงๆ เราไม่เหมือนใคร เด็ดขาดมากทีเดียว ว่าอะไรเป็นอันนั้นๆ เลย ถ้าลงได้เด็ดเด็ดจริงขาดจริง อย่าให้มีนะเรื่องเหล่านี้ ภาวนาให้ดูหัวใจ ตัวอันธพาลอยู่ที่หัวใจ สติตั้งไว้ตรงนั้น มันจะคิดเรื่องอะไรดูเจ้าของ แล้วต่อไปจิตจะสงบได้ วันนี้พูดเพียงเท่านี้ละเหนื่อย เอาละพอ
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz |