กฎหมายกับศีลธรรม
วันที่ 9 มกราคม 2550 เวลา 8:45 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
  วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)   วิดีโอแบบ(Win High Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๙ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๐

กฎหมายกับศีลธรรม

         มีไข้ด้วยนะ เรียกไข้หวัดหรืออะไร เอาการอยู่เมื่อคืนนี้ นอนไม่เป็นหลับเป็นตื่น นอนตั้งแต่หัวค่ำจนกระทั่งเที่ยงคืนยังไม่ยอมหลับ ไปหลับเอายิบแย็บตอนตีสองตีสามนิดหน่อย คนแก่ไม่ได้เหมือนคนหนุ่ม คนแก่อะไรคอยแต่จะทรุด เป็นนิดก็คอยแต่จะทรุดๆ เวลายังหนุ่มยังน้อยมันไม่ได้สนใจละไอ้หวัดๆ แหวดๆ พูดไม่ออกมันก็ไม่เคยสนใจ เป็นหวัดจนขนาดพูดไม่ออกไม่มีเสียงเลยมันก็ไม่เคยสนใจ เดี๋ยวนี้พอเป็นขึ้นนิดมันอ่อนไปหมด กำลังมันไม่มี เหมือนลมพัดเส้นหญ้าแหละ เส้นหญ้านี้ต้นไม้อะไรๆ ก็ธรรมดาแต่หญ้าใบอ่อนๆ ไหว ถูกลมพัด นี่คนแก่ก็เหมือนเส้นหญ้า ไหวอยู่อย่างนั้น เริ่มตั้งแต่ ๑๐ โมงเช้าเมื่อวาน ตอนกลางคืนเอากันหนักเลย เมื่อวานทั้งวันทั้งจามทั้งไอ

เมื่อวานนี้ไปเกษตรสมบูรณ์ ไม่ได้ไปนาน เกษตรสมบูรณ์อยู่ที่อัตคัด อยู่ตีนภูเขา จากอำเภอภูเขียวเข้าไป ชุมแพไปหาภูเขียวดูเหมือน ๒๐ กิโล ภูเขียวเข้าไปหาเกษตรสมบูรณ์ เข้าไปตีนเขา ๒๒ กิโล เราไปโรงพยาบาลคนมืดแปดทิศแปดด้าน ตำรวจ ๑๑ คน ประชาชนเต็มไปหมด เอ๊ นี่มันเป็นอะไรคนมากมายก่ายกอง เราไปถึงไม่ทันเที่ยง ธรรมดาถ้าไปก่อนเที่ยงไม่ต้องโทรศัพท์บอกเขา นี่คงกลัวไม่ทันคนรถเขาคงโทรไปบอกทางโรงพยาบาล เลยคนมาเต็ม ที่ไหนได้มาคอยดูเรา โอ๊ย พวกบ้า ว่างั้นเราก็ดี

เราก็ตื่นของเราเหมือนกัน คนอะไรมามากมายก่ายกอง ตำรวจตั้งสิบกว่านาย เต็มไปหมด เห็นตำรวจคอยโบกมือให้สัญญาณ เข้าไปที่นั่นคนเต็ม มันมาอะไรมากมายนักหนา โอ๊ย ไม่เคยพบเคยเห็น อยากพบอยากเห็น ทางโรงพยาบาลหมอก็มา เต็มหมดจริงๆ เรานึกว่ามีอะไรคนถึงมากมายก่ายกอง ไปถึงเที่ยงกว่า ไปทางเขาสวนกวางเพื่อเอาไก่ที่เขาขาย ยกทัพเอาเลย มีเท่าไรเอาหมด อย่างนั้นละเราถ้าทำอะไรเป็นอย่างนั้น ทำเหยาะๆ แหยะๆ ไม่เป็น มันหากเป็นอยู่ในนิสัย ทำเหยาะๆ แหยะๆ ไม่นะ ถ้าลงได้ทำแล้วขาดสะบั้นไปเลยๆ อันไหนก็เหมือนกัน ถ้าว่าจะเอาอะไรนี้เอาจริงเอาจังมาก ฟาดหมดทั้งร้านเลย

พอพูดอย่างนี้เราก็คิดถึงพวกเขาอพยพมาจากทางฝั่งลาว เวียงจันทน์ ตอนคอมมิวนิสต์ไล่อะไรๆ มาตั้งทัพอยู่ที่หนองคาย ดูเหมือนเป็นหมื่นๆ คน เราก็เอาอาหารไปแจกดูเหมือน ๓ เที่ยวมั้ง เที่ยวแรกวันเดียว ไปเที่ยวที่สองแจกสองวันถึงหมด ไปเที่ยวที่สามแจกถึงสามวัน ฟังซิมากหรือไม่มาก แจก ๓ วันถึงหมด แจกให้เป็นธรรม สำรวจไปเสียก่อน ข้าวก็ยกเอาในโรงสีเลย ทีนี้อาหารก็เข้าไปดูสภาพของพวกอพยพเป็นยังไงๆ ไปเห็นคนเจ็บไข้ได้ป่วย พวกเด็กเล็กเด็กน้อยนี่ละต้นเหตุ พอออกมาก็ไปตีตลาดในหนองคายจนเขาร้องเวิ๊กว๊ากๆ จะเอาไปอะไรนักหนา เขาบอกว่าอาจารย์มหาบัว โอ๊ย ใช่แล้วถ้าเป็นอาจารย์มหาบัว ของอะไรๆ ขนใส่รถออกมาๆ มาแจกเลย มีเท่าไรเอาหมดๆ เข้าไปในตลาดพวกผลหมากรากไม้อะไรเหล่านี้เหมือนกัน คว่ำตลาดเลย ขนออกไปเอาไปแจกทาน เท่าไรๆ ให้เขาลงบัญชีเอาไว้ บอกให้เขาลงบัญชีแล้วเอามาๆ เลย พอเสร็จแล้วจ่ายทีหลัง

เขาเอามาไว้ขายธรรมดา ถ้าหากว่าได้รับทราบเรื่องราวของกันและกันเขาก็จะเอามาเตรียมพร้อมไว้ แต่นี้มันแบบฉุกละหุก ไปเจอเอาอย่างนั้น สั่งให้เขาเข้าตลาดเลย ตีตลาดหนองคายแหลกหมดเลย ในตลาดมีอะไรๆ เอาหมดเลย ผลหมากรากไม้อะไรขนขึ้นๆ รถออกมา เข้าร้านไหนๆ จะเอาอะไรเอาอย่างว่าแหละ จนเขาถามจะเอาอะไรนักหนาๆ พอว่าอาจารย์มหาบัว โอ๊ย ใช่แล้ว เท่านั้นละทีนี้เขาก็รีบวิ่งหาอะไรๆ เป็นอย่างนั้นละ บอกให้เขาลงบัญชีไว้ เอาอะไรเอา พอเสร็จแล้วก็จ่ายตามนั้นหมดเลย สงสารจะว่าไง

อำนาจความสงสารความเมตตานี่รุนแรงนะ ที่พระพุทธเจ้าในพระนามว่า มหาการุณิโก นาโถ หิตาย สพฺพปาณินํ แหม ครอบโลกธาตุเลย ทรงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ ทำประโยชน์แก่โลกหาประมาณไม่ได้ แปลออกแล้วนะ เราตัวเท่าหนูมันก็เป็น เป็นจริงๆ เป็นเต็มอยู่ในหัวใจ ไปที่ไหนมีแต่ความเมตตาๆ เช่นอย่างไฟเขียวไฟแดงก็เหมือนกัน บางทีรถเรามีรถนำ รถหวอนำ ไปเขาก็เปิดทางให้หมด ไม่มีไฟเขียวไฟแดงถ้าเรามีรถนำไป ทางนี้ก็สั่งไปบอกรถนำ ไปถึงไฟเขียวไฟแดงให้จอดก่อน แน่ะเราสั่ง พอไปถึงนั้นเขาก็จอด...รถนำ พวกแม่ค้าพวกอะไรเขามาขายดอกม้งดอกไม้อะไร จ่ายให้หมด รถนำเราไปจอดจริงๆ เสร็จเรียบร้อยแล้วค่อยไป เป็นอย่างนั้นละอำนาจความเมตตา ไม่ได้ถือสีถือสากับใครนะ ใครจะทำยังไงไม่สนใจ มีแต่ความเมตตาสงสารเรื่อยๆ ไปอย่างนั้น

วันนี้คงจะไม่ค่อยมีแรงนักละ ธรรมดามันสองวันรุนแรง หวัดถ้าเป็นถึงสามวันเต็มแล้ว จากนั้นก็เบาลง นี่เริ่มเมื่อวานนี้ แต่เมื่อคืนนี้มันก็รุนแรงพอแล้ว

(คนนี้เขาเป็นพิธีกรจะมาสัมภาษณ์หลวงตาครับ) สัมภาษณ์อะไร ทะเลาะกันหรือกับเมีย ให้เราตัดสินให้เหรอ เราตัดสินให้ไปเป็นหมากัดกันทะเลาะกับเมียว่างั้น นี่ละสัมภาษณ์ออกก่อนแล้วนะ ตอบก่อนแล้ว (ผมเป็นพิธีกรรายการ ที่นี่หมอชิต ครับ ผมยังไม่เคยทะเลาะกับเมียเลยครับ) ไม่ดุหมาเหรอ ไม่ได้ทะเลาะกับคนก็ไปดุหมา ไม่ได้ดุหมาก็ดุเป็ดดุไก่ ไล่จนได้ตัวมา (เป็นไปได้ครับ)

เขาดูหมอเขาดูอย่างนี้ หมอนี่ดูเก่งว่างั้น เขาชื่อนายคูณ ดูหมอจนร่ำลือ พวกคนเขาไปถามว่าดูหมอเก่งใช่ไหม ถามหาอะไร อย่างนั้นละหมอ จะถามอะไรล่ะ อยากให้ดูผมให้หน่อย ดูลายมือไม่ต้องดู ดูหลังมือก็ได้แกบอก ตั้งแต่เป็นเด็กแม่เฆี่ยนบ่อยใช่ไหม ไม่เฆี่ยน แล้วไม่ดุบ้างเหรอ ไล่จนกระทั่งแม่หน้าบึ้งใส่ เอาจนได้นายคูณถ้าลงได้ดู เข้าใจไหม ถ้าไม่ตีก็ดุ ไม่ดุก็หน้าบึ้งใส่ เอาจนได้ นั่นละตรงนั้นละ เข้าใจเหรอ แล้วมีอะไร อย่างนั้นละมาหาหลวงตาก็มีแบบนั้นละ มาแบบนี้ใช้แบบนี้ๆ

(อยากให้หลวงตาเทศน์สอน ปีนี้ผมฟังจากหลายคนเขาวิจารณ์ว่า ประเทศเราน่าจะมีสภาวะของความเดือดร้อนมากกว่าปีที่แล้ว ถ้าเช่นนั้นเราจะทำตัวอย่างไรดีครับ) อ๋อ ถ้าทะเลาะกันก็ให้สงบเสียอย่าทะเลาะกัน ฟังเหตุผลกัน เรื่องก็สงบไป ก็มีเท่านั้นไม่เห็นยากอะไร (ที่น่าจะยากคือเหมือนกับคนทั่วไปจะไม่ฟังกัน ไม่ฟังกันมาหลายปีแล้วด้วยซ้ำ เท่าที่ผมฟังจากเรื่องราว) ไม่ฟังกันเหรอ ตั้งแต่หมาอยู่ในวัดเรากัดกัน เอาไม้หวดมันแตกกัน ทำไมคนเลวกว่าหมาเหรอถ้าอย่างนั้นน่ะ (สงสัยจะอย่างนั้น) มันเป็นยังไงไม่ฟังกัน

มนุษย์เราไม่ฟังกันไม่มีอะไรในโลกมีความหมาย ความหมายในโลกนี้ถือมนุษย์เป็นที่หนึ่ง สัตว์สาราสิงในน้ำบนบกเต็มไปหมดเขาไม่มีเรื่องมีราว มนุษย์นี้มีเรื่องมีราว ต้องตั้งจนกระทั่งศาลต้น ศาลฎีกาออกมาใช่ไหมล่ะ ขึ้นไปชำระคดี อันนี้ก็เหมือนกันในครอบครัวก็ชำระกันด้วยอรรถด้วยธรรมแล้วสงบ ถ้าเอาอย่างอื่นมาระงับกันด้วยความโมโหโทโสแล้วไม่มีวันลงกันเลย ต้องเอาอรรถเอาธรรมซึ่งเป็นความถูกต้องดีงามนี้ไประงับกัน ไปทำอะไรมา นั่น

สมมุติว่าเมียดุผัว ไปอะไรเมื่อคืนหายหน้าไป ทางผัวก็แก้ตัวว่า ไปฟังเทศน์ ไปฟังเทศน์วัดไหน โอ๋ย ไม่บอก เดี๋ยวเขาจะให้เราเป็นกบเฝ้าบ้าน ว่าไปฟังเทศน์ความจริงมันลิงมันไม่ฟังเสียงกัน ถ้าไปด้วยความเป็นศีลเป็นธรรมจะถามกันหาอะไร ก็เท่านั้นเอง แล้วมีอะไรว่ามา

(หลวงตาครับถ้าสมมุติมีภาวะของความไม่เรียบร้อยเกิดขึ้นในบ้านในเมือง แล้วเราเอาตัวรอดเพียงตัวเราหรือครอบครัวเท่านั้น โดยไม่ได้ช่วยผู้อื่น เป็นบาปไหมครับ) เอาตัวเรารอดก่อน รอดแบบไหนล่ะ(รอดคนเดียวครับ) ดูเจ้าของซิเจ้าของเป็นคนทำเอง ดีกับชั่วอยู่กับเจ้าของ ถ้าจะเป็นบาปก็อย่าเอาตัวรอดซิ ก็ช่วยเขา ถ้าเห็นว่าเอาตัวรอดเป็นยอดบุญแล้วไปเลย ลูกเต้าหลานเหลนอยู่ในบ้านในเรือนเขาจะอดอยากขาดแคลนอะไรเราไปสะแตกเหล้าทั้งวันนี้ เราก็สะดวกแต่เราคนเดียวแล้วดีไหม เดือดร้อนไหม พิจารณาซิ

เอารอดแต่ตัวคนเดียว ไปสนุกสนานกินเหล้าเมายา ลูกเมียจะตายด้วยอดอยากขาดแคลน งอแงกันหมดทั้งบ้าน เอาตัวรอดไหมอย่างนั้น (ก็เหมือนจะรอด แต่จริงๆ ไม่รอด) ไม่รอดนั่นละมันผิด อะไรก็ต้องช่วยกันซิ ดูแลกันถึงถูก อวัยวะของเราเจ็บตรงนี้เราจะตัดทิ้งเสียก็ไปใหญ่ละ ไม่ได้เรื่องได้ราว ถ้าเป็นเนื้อร้ายอยู่ในนี้จะลุกลามเข้าไปหาส่วนใหญ่แล้วตัดออกได้ ไม่ตัดจะเสียหมดทั้งร่างกาย เราต้องรับผิดชอบ นิ้วไหนเสียตรงไหนหาหยูกหายามาใส่ให้หาย มันจะหายไปหมดทั้งตัว เข้าใจไหมล่ะ ถ้าไม่ทำอย่างนั้นไม่ได้ เราต้องมีเหตุผลซิ ควรรักษาแบบไหนก็รักษา หากจำเป็นจริงๆ นี่เป็นเนื้อร้ายแท้ๆ จะลุกลามเข้าไปหาส่วนใหญ่ จำเป็นต้องตัดอันนี้ออกก็ต้องตัด เพื่อรักษาส่วนใหญ่

(ที่ว่าคนมักจะเอาตัวรอดคนเดียว แล้วเราจะมีวิธีปลูกฝังอย่างไรให้คนเห็นความสำคัญของเพื่อนรอบๆ ข้างในสังคมค่ะ) ถ้าอยู่ในครอบครัวก็ช่วยกันซี จะเอาตัวรอดคนเดียวได้ยังไง คนทั้งบ้านเจ็บไข้ได้ป่วยงอแงอยู่ จะเอาตัวรอดไปหาสะแตกเหล้าอยู่คนเดียว หลับปุ๋ยๆ ไม่ได้ไม่ถูก (ถ้ามองเป็นระดับประเทศล่ะครับ ทำไมมีแต่ข่าวคนไทยทำร้ายกันเองครับ เราจะมีวิธียังไงให้คนไทยรักกัน) ท่านก็สอนไว้แล้ว พุทธศาสนาเท่านั้นสอนให้โลกมีความสงบร่มเย็นประสับประสานกันได้ คือหยูกยาและหมอ เจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมานี้ก็ต้องวิ่งหาหมอวิ่งหายา หมอจะต้องรีบจัดการ โรคนี้ถ้าไม่ใช่เป็นโรคเข้าห้องไอซียูแล้วก็หายไปได้ ถ้าโรคไอซียู โรคสุดวิสัย หมอก็รักษาเพียงมารยาทเท่านั้น รอแต่ลมหายใจ

อันนี้คนไทยเรา กฎหมายบ้านเมืองก็มี ศาสนาก็มี นำกฎหมายบ้านเมืองมาปฏิบัติต่อตัวเองทุกคนๆ ต่างคนต่างมีกฎหมาย มีกฎข้อบังคับบ้านเมืองและกฎข้อบังคับทางด้านศีลธรรมแล้วจะไม่ทะเลาะกัน เข้าใจเหรอ (คือกฎหมายถ้าคนฉลาดก็เอากฎหมายมาเปลี่ยนให้เป็นไปอย่างที่ตัวเองต้องการได้) นั่นทางธรรมท่านเรียกว่าคนโง่ที่สุด ทำลายคนอื่นทำลายส่วนรวม ทำลายกฎหมาย กฎหมายเป็นกฎหมายของชาติ กฎหมายของบ้านเมือง ทำลายทั้งชาติทั้งบ้านเมือง คนนั้นใช้ไม่ได้ ถูกไหมที่ว่านี่

(กฎหมายกับศีลธรรม อะไรควรจะสำคัญกว่ากันครับ) กฎหมายก็ออกมาจากศีลธรรม กฎหมายต้องวางตัวเป็นกลางแน่ว เอาจากศีลธรรม ถ้าเป็นกฎหมอยแล้วพลิกได้ทุกเหลี่ยม เข้าใจไหม กฎหมายก็มี กฎหมอยก็มี ถ้าเป็นกฎหมายแล้วปฏิบัติตามหน้าที่ของศีลของธรรม กฎหมายบ้านเมืองบอกไว้ ถ้าเป็นกฎหมอยแล้วพลิกปั๊บ ไปไหนมาเมื่อคืนนี้ ไปฟังเทศน์ มันหลอกเมียมัน นี่เขาเรียกกฎหมอย

(หลวงตาครับ ช่วงปีใหม่อย่างนี้เราจะใช้ธรรมะข้อไหนดีให้ชีวิตของคนไทยมีความสุข เพราะมีแต่ความทุกข์ทั่วไปหมดเลยครับ) แต่ก่อนเราเอาอะไรมาใช้ (ศีล ๕ ครับ) ถ้าต่างคนต่างใช้ศีล ๕ แล้วก็ไม่มีอะไรกัน แต่นี่มันไม่ใช่ศีล ๕ ซี มันฟาดศีลสิบศีลหลายเหลี่ยมหลายสันพันคม อย่างว่าตะกี้นี้ ไปเที่ยวผู้หญิงหรือไปสะแตกเหล้ากลับมา เมียเห็นผิดหูผิดตา ไปไหนมาเมื่อคืนนี้ ไปฟังเทศน์ มันแก้ไปอย่างนั้นมันจึงไม่สงบ มันไม่ลงตามความจริง แล้วมีอะไรอีก (ถ้ามีคนรู้สึกว่าทำความดีแล้วไม่ได้ดี แต่คนไม่ดีได้ดี ทำไมจึงเป็นเช่นนั้นครับ) ยกตัวอย่างนะ มีคนเต็มอยู่นี้ เราเอาดาบไปตัดคอคนเหล่านี้ แล้วใครจะมายกเราให้เป็นคนดีได้ไหม เราเป็นคนดีคนเดียวเพราะฆ่าคนหมดทั้งศาลานี้ แล้วยกให้เป็นคนดีได้ไหม (ไม่ได้ครับ) ไม่ได้ก็แสดงว่าทำชั่วได้ชั่ว ทำดีได้ดี จะพลิกไปไหนไม่ได้

(ถ้าคนที่ทำเช่นนั้นเป็นคนที่ไม่มีความดีหรือความชั่วอยู่ในหัวใจ เขาก็จะไม่สำนึกบาป เขาก็จะไม่รู้สึกผิด แล้วเขาก็จะไม่เป็นทุกข์ใช่ไหมครับ) อันนั้นเขาเรียกคนบ้า เราอยากเป็นบ้าเหรอ (ตามความรู้สึกของผมมีคนบ้าอยู่ในสังคมเยอะครับ) แล้วเราเป็นคนบ้าประเภทนั้นไหมล่ะ (ไม่เป็นครับ) ไม่เป็นก็เป็นคนดีทั้งหมดศาลานี่ ก็เท่านั้น (หลวงตาลองคิดดูซิครับ คนที่วางระเบิดในกรุงเทพเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา อย่างนั้นก็ต้องเป็นคนบ้าใช่ไหมครับ) เราไม่ไปวินิจฉัยเขา เราไม่ได้ไปวางระเบิดเราไม่ยุ่งละ เป็นเรื่องของใครของเราอย่างนั้น จะเป็นคนดีอะไร เดี๋ยวนี้มันได้กินได้นอนหรือเปล่าก็ไม่รู้ ไปวางระเบิดเขาแล้วกลัวเขาจะมัดคอมัน มันดีไหมล่ะอย่างนั้น โอ๊ย ขี้เกียจตอบ ถามอย่างอื่นน่าจะเป็นสาระซิ อันนี้ไม่น่าจะมีสาระอะไร

(ผมอยากทราบตั้งแต่เด็กๆ แล้วครับ สวรรค์กับนรกมีจริงไหมครับ) อย่าให้เราตอบ ตอบไม่ได้ มันมีด้วยกันทุกคนบ้าประเภทนี้ นรกมีจริงหรือไม่จริง สงสัยกันทั่วโลกทั่วสงสาร ถ้าเราตอบไปนี้เขาก็จะหาว่าเราบ้าคนเดียว เพราะมันขัดกับพวกบ้าทั้งหลาย เราจึงไม่ตอบเราจะไม่เป็นบ้า เข้าใจหรือเปล่า (ถ้าพวกนั้นเขาคิดอีกอย่าง ถ้าหลวงตาตอบเขาจะคิดว่าหลวงตาจะไม่เป็นพวกเขาอย่างนั้นหรือครับ) จะเป็นพวกไหนก็แล้วแต่ อันนี้จอมปราชญ์เป็นผู้แสดงเอาไว้ ธรรมดาคนตาดีจะไปในที่ปลอดภัย หลบหลีกปลีกตัวไปได้ เป็นหลุมเป็นบ่อหลีกไปๆ คนตาดีเข้าใจไหม ถ้าคนตาบอดแล้วโดนเลยลงเลยตูมเลยๆ อันนี้พวกประเภทตาบอด นรกไม่มี สวรรค์ไม่มี นี้ประเภทตาบอดทั้งนั้น

ผู้สอนนี้เป็นคนตาดีสอน เป็นคนตาดีนำ พระพุทธเจ้าเป็นคนตาดี รู้เหตุรู้ผลรู้ดีรู้ชั่วทุกอย่าง แล้วนำเหตุผลดีชั่วนั้นมาแสดงให้คนตาบอดฟัง ถ้าคนตาบอดเชื่อฟังก็เหมือนคนตาดีจูงคนตาบอด ไปแคล้วคลาดปลอดภัย ถ้าไม่ฟังเสียงคนตาดีแล้ว คนตาบอดที่อวดตัวเก่งๆ นั้นแหละจะเป็นอันตรายต่อมัน ลงหลุมลงบ่อ อวดว่าตัวดี อย่างนั้นละที่โลกเดือดร้อนอยู่นี้เพราะใครก็อวดว่าใครดี ไม่มีใครชั่วละ โลกมันก็ร้อนละซิ ถ้ายอมรับดีว่าดี ชั่วว่าชั่วแล้วไม่ทำคนเรา

อย่างพระท่านมาปฏิบัติศีลธรรมอยู่นี้ ท่านไม่ไปทำความชั่ว ท่านก็ไม่ถูกจับถูกจองถูกมัดเข้าคุกเข้าตะราง ท่านปฏิบัติตัวดีอยู่ นี่คือความปลอดภัยได้แก่ศีลธรรม คนตาดีจะไปตามแถวทางที่เป็นความปลอดภัย คนตาบอดจะไปแต่สถานที่ที่จะเป็นอันตราย เข้าใจไหมล่ะ ก็เท่านั้นแหละ แล้วมีอะไรอีกล่ะ (เวลาทำบุญเขาบอกว่าทำมากจะได้มาก ทำบุญน้อยจะได้น้อย เป็นอย่างนั้นจริงๆ ไหมครับ) คุณมาทำบุญหรือเปล่าวันนี้น่ะ ถ้าคุณทำบุญน้อยก็ได้น้อย ทำบุญมากก็ได้มาก ถามคุณเองอย่าไปถามคนอื่น ถ้าถามคนอื่นมันขัด ให้ถามเจ้าของเอง ถ้าเจ้าของตระหนี่ถี่เหนียวก็ให้เสียสละให้เพื่อนฝูงบ้าง

คนไหนเป็นคนตระหนี่ถี่เหนียวไปไหนคับแคบตีบตัน ไม่มีใครอยากคบค้าสมาคม คนใดมีจิตใจกว้างขวางและเฉลี่ยเผื่อแผ่ คนนั้นมีเพื่อนฝูงมาก เลือกเอา เข้าใจหรือเปล่าที่พูดนี่ อย่างนั้นละ ทำน้อยก็ได้น้อย ทำมากก็ได้มาก เป็นธรรมดาอยู่แล้ว โลกเขาทราบทั่วกัน ทำบุญมากได้น้อย หรือทำบุญมากไม่ได้ อันนั้นเป็นนิสัยอันธพาล นิสัยคนดีจะเป็นไปตามแถวแนวนี้แหละ เข้าใจเหรอ

(หมอดูเขาทำนายปี ๒๕๕๐ คนไทยจะแตกสามัคคี จะฆ่ากันภายในบ้านเมือง ขอหลวงตาเมตตาให้สติให้บ้านเมืองสงบครับ สอนเขา) สอนเขาถ้าเขาไม่ฟังเสียงเราล่ะ อ้าว สอนก็สอนมานานแล้ว เขาก็ทำกันอยู่อย่างนี้ แล้วเราจะเก่งกว่าพระพุทธเจ้ามาจากไหน เวลาบอกไม่ให้เขาทำเขาก็ทำของเขาอยู่อย่างนี้ เข้าใจ ก็มีเท่านั้นเองจะให้ว่าอะไรอีก (สอนทุกวันๆ จะต้องเข้าหูเขาบ้าง สอนบ่อยๆ แล้วออกทางวิทยุเขาคงได้ฟังบ้าง) สอนอะไรบ่อยๆ สอนทุกวัน เดี๋ยวนี้ก็สอนอยู่นี้ มันเอาหรือไม่เอาล่ะ ถามผู้ฟังบ้างซิ มีแต่ผู้สอนจะตายอยู่แล้วสอนคนเวลานี้น่ะ จนไปที่ไหนมองเห็นคนต้องหลบหลีก เบื่อคน ขี้เกียจสอน มันไม่ฟังเข้าใจหรือเปล่า

(พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปฏิบัติคุณธรรมพระมหาโพธิสัตว์ ใช่ไหมครับ) ให้ไปถามท่านเอง ดัดสันดาน ให้ไปถามท่านเองไม่ยอมไป กลัวหน้าผากแตก (เป็นคนดีคนชั่วนี่วัดกันด้วยอะไรครับ) โอ๋ ตั้งแต่หมาอยู่ในวัดเขายังรู้ ทำไมคนจะไม่รู้ ถ้าอย่างนั้นก็โง่กว่าหมาในวัดเรา อ้าว จริงๆ หมาในวัดเราพอแฮ่ วิ่งหนีเลย พอมันแฮ่มันรู้ว่ามันผิดมันวิ่งหนี ไม่วิ่งถูกไม้เรียว วัดกันยังไง หมาเขาวัดกันด้วยไม้เรียว คนจะวัดกันด้วยวิธีไหนก็แล้วแต่เถอะ เจ้าของพอมันแฮ่ใส่ตัวไหน ไม้เรียวปั๊วะเลย คราวหลังพอมันแฮ่วิ่งหนีเลย มันกลัวไม้เรียว อันนี้ไม่กลัวไม้เรียวยังไงกัน จะเทียบกันยังไง วัดกันด้วยวิธีไหน เอาตรงนี้ (ผมกลัวไม้เรียวอยู่ครับ) กลัวก็อย่าดื้อ คนแบบเมียเผลอไม่ได้ใช้ไม่ได้ เรียกว่าคนดื้อที่สุด เอาละพอ ให้พร

 

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก