เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๖ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๐
ไปที่ไหนทำประโยชน์ที่นั้น
สรุปทองคำน้ำไหลซึมถึงวันที่ ๕ มกรา ได้ทองคำ ๓๖๒ กิโลครึ่ง เท่ากับ ๒๙ แท่ง ทองคำที่ยังไม่หลอม ๙ กิโล ๑ บาท ๑ สตางค์ รวมทองคำที่หลอมแล้วและยังไม่ได้หลอมเป็นทองคำ ๓๗๑ กิโล ๓๓ บาท ๙๐ สตางค์ ถ้ารวมกับ ๓๗ กิโลครึ่งที่มอบแล้วเข้าด้วยกันก็เป็น ๔๐๙ กิโล ๑ บาท ๑ สตางค์ สรุปว่าทองคำที่เราได้คราวช่วยชาติคราวนี้นั้น ได้ทองคำ ๑๑ ตันกับ ๔๐๙ กิโล ๑ บาท ๑ สตางค์ กรุณาทราบตามนี้
(ถวายทอง ๕ บาทเจ้าค่ะ อยู่อำเภอด่านขุนทด) อำเภอด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เราไปหมดนั่นแหละที่ว่านี่ ว่าตรงไหนรู้หมดๆ ก็เกี่ยวกับการท่องเที่ยวหาสมบัติเงินทองข้าวของเข้าคลังหลวงแห่งประเทศไทยของเรานั้นแหละ ไปที่ไหนเห็นหมดรู้หมด แล้วเจ้าของไม่เอาสักสตางค์ พิจารณาซิ ดีดดิ้นไม่มีใครเกินหลวงตาบัว ไม่ได้อยู่ได้หยุดแหละ ก็เพื่อชาติบ้านเมืองของเรา เวลาได้มาแล้วเจ้าของเปิดไม่เอาเลย
หนองบัวลำภูนี่ก็ได้ช่วย พอเข้าไปปั๊บใต้ถุนตึกไปดูรถ นี่ไม่ได้ขอนะ ไปเดินดูๆ รถสี่ห้าคัน คันไหนๆ ล้อใต้ถุนของเรายังดีกว่า พอนั่งปั๊บลงไปให้เลย นั่นเห็นไหมล่ะ เอาคันเดียวก่อนเราก็จนเราว่างั้น เห็นรถเหล่านี้มันทนไม่ได้เรา ให้ทันที นอกจากนั้นก็อะไรต่ออะไร หนองบัวลำภูแต่ก่อนเป็นอำเภอ ทีนี้ที่นั้นเลยกลายเป็นสาธารณสุขไป แต่ก่อนเป็นโรงพยาบาลเราก็ช่วยแล้ว
อยุธยา อ่างทอง สุพรรณบุรี นครปฐม ที่น้ำท่วมคราวนี้ก็ได้ช่วยเต็มกำลังเหมือนกัน ตอนที่เราลงไปกรุงเทพคราวนี้ น้ำท่วมแถวนั้นก็ได้ไปช่วยกันเต็มเหนี่ยว ๔ จังหวัด กี่ครอบครัวๆ ให้ครบหมดเลย จนพี่น้องชาวอยุธยา ชาวอ่างทอง ไปขอบบุญขอบคุณที่สวนแสงธรรม ไม่ต้องขอบแหละเราพอใจก่อนแล้วเราว่า เราได้ช่วยพี่น้องทั้งหลายเราพอใจแล้ว นั่นก็ไม่น้อยนะ แห่งละกี่ร้อยกี่พันครอบครัว แจกให้ทั่วถึงหมดเลย อันนั้นเท่านั้นๆ ให้เสมอกันหมด จัดให้ลูกศิษย์ทางสวนแสงธรรมเป็นผู้ไปแจก เราเองไม่ไปแหละ ให้ลูกศิษย์ทางสวนแสงธรรมไปแจกเอง โห รถตั้ง ๑๙ คัน ๒๐ คัน ดูเหมือนไม่ได้ไปหนเดียว เพราะมีหลายจังหวัด ไปคราวนี้จังหวัดนี้ๆ ๔ จังหวัด อยุธยา อ่างทอง สุพรรณ นครปฐม ๔ จังหวัด
ได้ไปหมดแหละหลวงตา อยากจะว่าทั่วประเทศไทย ไปไม่ใช่อะไรนะ ไปเพื่อช่วยชาติบ้านเมืองเรา เราไม่ได้ไปโดยลำพังเรา ไปด้วยความจำเป็นช่วยชาติบ้านเมือง ไปเทศนาว่าการต่างๆ ไปหมดแหละ การเทศน์ก็ดูจะไม่มีพระองค์ไหนในประเทศไทยที่เทศน์มากยิ่งกว่าหลวงตาบัว เท่าที่เราสังเกตดูก็ไม่เห็นมีองค์ไหนที่เทศน์ช่วยแบ่งหนักแบ่งเบากันบ้าง ไม่มี มีแต่เราแบกตลอด ไปเทศน์ที่นั่นที่นี่ทั่วประเทศไทย เวลาออกทางวิทยุก็ออก ครูบาอาจารย์ทั้งหลายก็มีบ้างเล็กน้อยฝ่ายกรรมฐาน จากนั้นก็มารวมอยู่ที่เราเป็นผู้ยืนบนเวทีเลยละ
เรานับว่าได้ทำประโยชน์ให้ชาติของตนมีพี่น้องชาวไทยทั้งชาติ เต็มกำลังความสามารถทุกด้านทุกทางที่เราจะช่วยได้ เรียกว่าช่วยจริงๆ คราวนี้ ช่วยแบบแบมือ ไม่เอาอะไรทั้งนั้น หากช่วยตลอด เรียกว่าช่วยมากที่สุด ไปที่ไหนไปๆ แบมือไป ไม่กำ แบตลอด ไปที่ไหนทำประโยชน์เรื่อยๆ ไปที่นั่นทำประโยชน์ที่นั่นๆ ไปอย่างนั้นเหมือนกันหมด ให้เราเอามาอย่างนี้ไม่เอา เช่นอย่างไปกรุงเทพกลับมาอุดรนี้ไม่ให้เอามา บอก วัตถุปัจจัยไทยทานที่เขามาถวายเท่าไรๆ มีความจำเป็นอยู่แถวไหนๆ ออกหมดๆ เลย ทางอุดรห้ามไม่ให้เอามา ถ้าได้ทางนี้ก็แจกทางนี้ เป็นอย่างนั้นแหละ
เราได้ช่วยเต็มกำลังความสามารถกับบรรดาพี่น้องชาวไทยเรา เรียกว่าทุกภาค ไม่มีภาคไหนที่เว้นว่าเราไม่ได้ช่วย ไม่มี หนักเบามากน้อย แม้ที่สุดภาคใต้ทุกจุดนั้นก็มี เครื่องมือตาหาดใหญ่ก็ฟาดไปตั้ง ๑๑ ล้าน เรียกว่าสุดละทางโน้น ยังตามไปช่วย ๑๑ ล้าน นอกนั้นเหมือนกันหมด ช่วยทางโน้นทางนี้ เฉพาะตานี้ ๑๒๔,๙๕๐,๐๐๐ บาท ช่วยทั่วประเทศไทยของเรา ก็ยังจะช่วยอีก เท่าที่ช่วยมาแล้ว ๑๒๔,๙๕๐,๐๐๐ บาท ๑๖ โรงพยาบาล เฉพาะตาที่ช่วยแล้วเวลานี้ ส่วนเครื่องมือต่างๆ มาก
การช่วยโลกนี่รู้สึกว่าทางโรงพยาบาลทั่วประเทศไทยเด่นมากกว่าเพื่อน ได้ช่วยมากที่สุดแล้วก็พิสดารด้วย โรงพยาบาลไม่เหมือนที่ทั้งหลายที่ช่วยตลอดมา โรงพยาบาลมันซอกแซกซิกแซ็กหลายแง่หลายมุม ทั้งเครื่องมือแพทย์ ทั้งตึก ทั้งรถทั้งรา ทั้งที่ดิน บางทีซื้อที่ดินขยายออกให้ๆ อย่างนั้นก็มี บางแห่งซื้อทั้งหมดเลย ซื้อที่ดินตั้งโรงพยาบาลใหม่เลย อย่างนั้นก็มี เป็นแต่เพียงเครื่องก่อสร้างโรงพยาบาลเราไม่ให้เราไม่มีเราบอก ทางโน้นรับรองจะขอทางรัฐบาลให้ได้มาสร้างใหม่ เอา เราซื้อให้เลยซื้อที่ แล้วเขาก็ทำตามนั้น เขาของบประมาณมาเป็นโรงพยาบาลใหม่ขึ้นมา โรงพยาบาลเก่ามันเหมือนอยู่ในครัว
เช่นอย่างอำเภอบ้านฝาง จังหวัดขอนแก่น อันนี้ซื้อให้ทั้งโรงเลย พื้นที่ทั้งหมดดูเหมือน ๒๓ ไร่หรือ ๒๕ ไร่เราลืม เอาหมดเลย แล้วยกโรงพยาบาลซึ่งอยู่ในครัวเรือนว่างั้นเถอะ ออกไปตั้งใหม่เลย อย่างนั้นก็มี ซื้อแบ่งครึ่งเขาก็มี คือขอเขาครึ่งหนึ่ง ขอซื้อเอามาเพิ่มโรงพยาบาล อย่างนี้ก็มี ถ้าที่เขาไม่ขายก็จนใจ มี เรารู้สึกไม่สบายใจตลอด จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นอยู่ เขาไม่ขายก็หมดปัญญา ที่มันแหว่งๆ เข้าไปหาโรงพยาบาล ถ้าซื้อแล้วตัดปึ๊บเอาหมดเลย โล่งใจ ซื้อที่ให้โรงพยาบาลน้อยเมื่อไร ไม่ได้น้อยนะ
เราช่วยพี่น้องหรือว่าช่วยโลกว่างั้นเถอะ เราช่วยด้วยน้ำใจจริงๆ น้ำใจเมตตาจริงๆ ตั้งใจอนุเคราะห์ๆ เมื่อสองวันมานี้จึงได้ว่าไปทางเวียงจันทน์นั่นซิ ให้ออกเสียหน่อยเถอะ ของเราจัดส่งไปแล้วนั้นให้มาเอามันยังติดธุระนั้นติดธุระนี้ มันจืดชืดอะไรนักหนาเวียงจันทน์นี่น่ะเราว่างั้นนะ เราให้ด้วยความตั้งอกตั้งใจให้ด้วยความเมตตา มันธุระมาจากไหนถึงได้ติดเอานักหนานี่น่ะว่างี้ จืดชืดมาก เอาละนะ ต่อไปนี้ตัดขาดสะบั้นเชียวนะ เอ้า จริงๆ เราไม่ได้เหมือนใคร เพราะช่วยจริงๆ จังๆ ตั้งหน้าตั้งตาช่วยจริงๆ ไม่ได้ทำเหลาะๆ แหละๆ นะทำอะไร ให้ทราบเสียหัวอกหลวงตาบัวจริงมากทีเดียว ว่าอะไรขาดสะบั้นลงไป เพราะฉะนั้นคำว่าเหลาะแหละจึงไม่มี ถ้าเวลาจริงจังจริงๆๆ แต่เวลาเล่นซัดกับหมาก็ไม่ใช่ของเล่นเหมือนกัน เวลาซัดกับหมานี้เอาจริงจัง.เราก็เป็นหมาไปด้วย เวลาเอาจริงเอาจังเป็นอย่างนั้น
นิสัยอันนี้ละมันติดอยู่ทุกวันนี้ คนทั้งหลายมองดูนี้เหมือนกับว่ามีความโมโหโทโส คึกคักขึงขังตึงตังอย่างนี้ เหมือนว่ามีความโมโหโทโสอยู่ในนี้หมด ความจริงไม่มี หมดโดยสิ้นเชิง เป็นแต่พลังของธรรมพลังของความเมตตาพุ่งออกแทนกันเท่านั้นเอง ให้ท่านทั้งหลายทราบเสีย เราบอกว่าเรื่องความโมโหโทโสใครจะมาฆ่ามาฟันเราก็ฟันไปๆ ที่จะให้เกิดโมโหโทโสบอกว่าไม่มีกิเลสตัวนี้ว่างั้น ตายก็ตายทิ้งเปล่าๆ แผดอยู่อย่างนี้ละหากไม่มี อะไรที่จะเป็นพิษเป็นภัยต่อผู้หนึ่งผู้ใดไม่มี เราจึงไม่เคยกล้าไม่เคยกลัวกับเรื่องความเป็นความตาย เราเรียนจบแล้วด้วยธรรม เอาธรรมเรียน เรียนธรรมจบหมด เราจึงไม่สงสัย
อย่างที่เราช่วยชาติบ้านเมือง ทั้งพวกที่ผูกอาฆาตมาดร้ายต่อหลวงตา การดำเนินของหลวงตามองดูธรรมแล้วตรงแน่วตามธรรมๆ เดินตามนี้เลย ไม่เคยกล้าไม่เคยกลัวกับใครทั้งนั้น ทำให้เป็นประโยชน์แก่โลก เขาอาฆาตมาดร้ายมีมาก จนกระจ่างแจ้งออกมาจะมาฆ่าหลวงตาบัว เอ้ามา นั่นน่ะเห็นไหมล่ะ จะมาฟ้องว่าหลวงตาบัวอวดอุตริมนุสธรรม เป็นสังฆา ปาราชิกจะมาฟ้อง ให้ยกโคตรมาเราว่างั้นเลย หลวงตาบัวก็มีโคตรจะยกโคตรใส่กันเลย เพราะเราพูดเป็นธรรมล้วนๆ ไม่มีคำว่าแง่งอน
ที่ว่าอวดอุตริ คำไหนที่ขัดแย้งต่อธรรมพระพุทธเจ้า อุตริออกมาพูดแหวกแนวเหยียบหัวพระพุทธเจ้าไป มีคำไหนพอที่จะมาฟ้องว่าเราอวดอุตริมนุสธรรม เหยียบหัวพระพุทธเจ้าไปตรงไหน เดินตามรอยตามเสด็จพระพุทธเจ้าทุกฝีก้าวโดยอรรถโดยธรรมทุกอย่าง แล้วอันไหนที่จะมาเป็นคำอวดอุตริน่ะ แล้วผู้ที่จะมาฟ้องร้องเราว่าอวดอุตริมนุสธรรม มันได้ธรรมนอกโลกมาจากไหน เลยศาสดามาจากไหน ถึงจะมาฟ้องเราว่าเราอวดอุตริ คำที่ว่าเราอวดเราอวดอะไร แล้วมันเอาความรู้มาจากไหนที่มาฟ้องเราน่ะ นั่นมันต้องจริงอย่างนั้นซิ
เพราะพูดออกมาคำไหนไม่มีคำว่าผิด เราพูดอย่างตรงไปตรงมาตามอรรถตามธรรม เพราะฉะนั้นจึงไม่เคยสะทกสะท้านกับสิ่งใดในโลกนี้ ความเป็นความตายไม่มีความหมายเราเรียนจบหมดแล้ว เราไม่มีคำว่ากล้าว่ากลัว แต่อะไรที่จะเป็นประโยชน์แก่โลก เราควรสละๆ เราไม่ได้ถอยเพื่อเป็นประโยชน์แก่โลก อย่างที่ว่าเป็นตายนี้เขามีทุกอย่าง ก็ตั้งแต่ครั้งไหนๆ มามันก็มีเราจะตำหนิได้ยังไง มันเคยมีมาดั้งเดิมดีกับชั่ว แข่งดีแข่งเด่นแข่งชั่วแข่งลามกมีมาตลอดเวลา แล้วมันก็มีมาตามสายของมันเราจะว่ายังไง มีแต่ตอบรับกันธรรมดาๆ ไปอย่างนั้น จะว่านี้เป็นของแปลกประหลาด ไม่แปลก มันมีมาดั้งเดิม แน่ะ
เราช่วยจริงเราช่วยโลกไม่ใช่ช่วยธรรมดา ทุกสิ่งทุกอย่างที่ดีดดิ้นอยู่ตลอดเวลานี้เราเอาอะไร บอกว่าเราไม่เอาอะไรเลย ช่วยโลกทั้งนั้น แม้ที่สุดเวลาเราตายเรายังเขียนพินัยกรรมเอาไว้ เวลาเราตายแล้วมีศรัทธาญาติโยมลูกศิษย์ลูกหาที่เขาเคารพเลื่อมใสในพุทธศาสนาในตัวของเรา เราตายเน่าเฟะแล้ว เขาจะเอาเงินมาบริจาคเผาศพเรานี้ เงินทั้งหมดนี้ตั้งกรรมการไว้ให้เก็บรักษาให้เรียบร้อยปลอดภัยทุกอย่าง แล้วยกเงินก้อนนี้ซื้อทองคำเข้าสู่คลังหลวง เราจะเผาด้วยไฟเท่านั้น ศพเน่าเฟะเอาสมบัติเหล่านั้นมาบูชามันหาอะไร ต้องเอาไฟซิใส่กัน นี่เขียนพินัยกรรมไว้แล้วนะ พินัยกรรมเขียนไว้แล้ว ต้องปฏิบัติอย่างนี้
เราไม่เอาอะไร สุดท้ายสมบัติเงินทองข้าวของมีมากน้อยยกมาซื้อทองคำเข้าสู่คลังหลวงหมด เราดีดผึงเลย ดีดอย่างหายห่วงไม่มีอะไร สมชื่อสมนามที่เทศน์สอนโลกมานี้กว้างขวางมากหลวงตาบัว รู้สึกจะไม่ค่อยมีครูบาอาจารย์องค์ใดเทศน์อย่างเรา เราเทศน์อย่างอาจหาญชาญชัยถ้าพูดถึงอาจหาญ แต่นี่มันเลยคำว่าอาจหาญคำว่ากล้าว่ากลัวไปหมดแล้ว เป็นธรรมล้วนๆ แล้วนำมาพูด เราจึงไม่มีคำว่ากล้าว่ากลัว พูดไปตามอรรถตามธรรม เอา ใครว่าไม่ถูกที่ไหน เอา ค้านมา นั่น คำว่าค้านมาคือธรรมที่บริสุทธิ์เต็มที่แล้วออกถูกต้องแม่นยำ จึงบอกว่าให้ค้านมาว่างั้นเลย
เราไม่มีคำว่าอุตริ แล้วมันจะไปหาเรื่องมาจากไหนมาว่าอุตริ อุตริข้อไหน นั่นไล่กันเข้าไปซิ นี้บอกให้ยกโคตรมา ว่าเราอุตริ อุตริข้อไหน เหยียบหัวพระพุทธเจ้าไปข้อไหน ปีนเกลียวพระพุทธเจ้า สอนไม่สอนแบบพระพุทธเจ้า เราสอนแบบไหนถึงว่าอวดอุตริ แล้วผู้ที่ว่าเราอวดอุตริมันเอาความรู้มาจากโลกไหน นั่นไล่กันเข้าไปซิ ก็เราทำจริงๆ ด้วยความบริสุทธิ์ใจต่อโลก มันมัวหมองที่ตรงไหน ผู้มัวหมองก็คือผู้มาหาเรื่องฟ้องร้องนั่นละ นั่นละตัวสกปรก เราไม่ได้สกปรก เราทำเต็มกำลังความสามารถของเรา
คิดดูซิของที่ดีดดิ้นอยู่เวลานี้เราเอาอะไร เราไม่เอา เราแบหมดแล้ว ปล่อยหมด ไปที่ไหนทำประโยชน์ที่นั้นๆๆ เราที่ว่ากำไม่มี มีแต่ให้ทั้งนั้น พาพี่น้องทั้งหลายช่วยชาติบ้านเมืองนี้ก็ได้ทองตั้ง ๑๑ ตันกับ ๔๐๙ กิโล เราเอาอะไร เข้าคลังหลวงนั้นหมด ดอลลาร์เหมือนกัน เงินสดที่ถวายเหล่านี้ออกช่วยพี่น้องชาวไทย เราไม่เอา แบตลอด จะหาที่ไหนหาพระน่ะ เราอยากถามจะว่าคุยหรือไม่คุย เราหาที่ไหนเอาที่ไหน เราไม่เคยเอา เราพอทุกอย่างแล้วหัวใจเรานี้พอด้วยความเลิศเลอไม่ใช่พอธรรมดา สิ่งที่จะมาส่งเสริมเพิ่มเติมเรานั้นมันเลิศเลอหรือไม่เลิศเลอ มันสู้อันนี้ได้ไหม อันนี้พอแล้วด้วยความเลิศเลอ อันที่เอามาส่งเสริมเรานั้นนะมันเลิศเลอไหม
คำสรรเสริญๆ ตำหนิติเตียนมันเลิศเลออะไร มันสู้ธรรมชาติที่พอแล้วด้วยความเลิศเลอในหัวใจนี้ได้ไหม เอากันอย่างนั้นซิ นี้เราพอแล้วด้วยความเลิศเลอทุกอย่าง เพราะฉะนั้นใครอย่ามาคิดเรื่องอะไรๆ กับเรา ถ้าไม่อยากก่อฟืนก่อไฟเผาหัวอกตัวเอง ว่าท่านรักคนนั้นท่านชังคนนี้ท่านเกลียดคนนั้น อย่ามาพูดกับเรา มันเหมือนแผ่นดินนี่ หนาแน่นมั่นคงขนาดไหน ถ้าว่าเมตตาก็ครอบโลกธาตุ จะไปหารักคนนั้นรักคนนี้มันก็เหมือนหมาบ้าละซิ ไม่พอใจคนไหนก็ไปกัดคนนั้นไปเห่าคนนั้น พอไม่พอใจกับคนนี้กัดคนนี้เห่าคนนี้ พอใจกับคนนั้นก็เลียแข้งเลียขาเขา มันมีอะไรอย่างนั้น เราไม่มีอย่างนั้น
ให้ท่านทั้งหลายทราบเสียที่เราช่วยโลกมา จิตนี้บริสุทธิ์เลยโลกเลยสงสารไปหมดทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว เหนือไปแล้วเหนือโลกสมมุตินี้ เราเอาแต่เรื่องธาตุเรื่องขันธ์ที่เป็นสมมุติด้วยกัน นำมาติดต่อสืบเนื่องกันเพื่อเป็นประโยชน์แก่โลกทั้งนั้น สำหรับเราเราพอแล้วเราไม่เอาอะไร สอนแทบเป็นแทบตาย ดีดดิ้นทางโน้นทางนี้ไปเพื่ออะไร เราไม่เพื่ออะไร มีแต่ความเมตตาต่อโลกต่อสงสาร ที่เราจะบกพร่องขาดเขินตรงไหนเราไม่มี
อย่างคนเข้ามาเกี่ยวข้องในวัดในวานี้ เราเคยพูดแล้วเมื่อวานหรือวานซืน มานี้เราไม่ได้มาเห็นแก่หน้าแก่ตาโมกโขโลกนะ เห็นแก่ความมั่งความมีดีเด่น เห็นแก่ยศแก่ลาภของใครเหนือธรรมไป ธรรมนี้เลิศเลอสุดยอดแล้ว ใครมาก็อาศัยธรรม เมตตาสงสารรับไว้ๆ สั่งสอนดุด่าว่ากล่าว ประเภทไหนที่มันเป็นเนื้อร้ายเอาไว้ไม่ได้ก็ต้องขับออกจากวัดจะทำส่วนใหญ่ให้เสีย ก็ปฏิบัติเป็นธรรมทั้งนั้น เราทำอย่างนั้นทำกับโลก ใครอย่ามาคิดอะไรๆ กับเรา ไม่มี ธรรมชาติอันนี้มันเหนือทุกอย่างแล้วเหนือโลก จึงเรียกว่าธรรมทั้งแท่ง เป็นธรรมธาตุเต็มหัวใจแล้วเวลานี้ จะให้พูดว่ายังไงอีก มันไม่มีอะไรก็มีแต่ธาตุแต่ขันธ์อยู่อย่างนี้
ธาตุขันธ์นี้เป็นยังไง เป็นสมมุติ เรื่องสมมุติเป็นยังไงก็ปฏิบัติต้อนรับกันธรรมดาของสมมุติเท่านั้น ส่วนจิตที่บริสุทธิ์สุดส่วนแล้วไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งเหล่านี้ให้ทราบเสีย เอาเท่านั้นละ วันนี้พูดเท่านั้นก่อน แล้วมีอะไรอีกไหมล่ะ (มีครับ ที่หลวงตาเมตตาส่งเครื่องอุปโภคบริโภคไปสงเคราะห์ที่ประเทศลาว เวียงจันทน์ครับ ๑. ข้าวเหนียว ถุงละ ๑๒ กิโลกรัม ๓๐๐ ถุง ๒. ข้าวเจ้าถุงละ ๑๒ กิโลกรัม ๒๐๐ ถุง ๓. ผ้าห่ม ๑,๐๐๐ ผืน ๔. มุ้ง ๒,๐๐๐ หลัง ๕. ผ้าขาว ๑๐๐ พับ ๖. หมอน ๑,๐๐๐ ใบ ใส่รถบรรทุกสิบล้อหนึ่งคันไปมอบให้เมื่อวานนี้เรียบร้อยแล้วครับ) น้อยเมื่อไรฟังซิที่ข้ามไปเวียงจันทน์ ก็อย่างนั้นแล้วช่วยโลกจะให้ว่าไงอีก มีเท่าไรทุ่มเลยๆ
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz |