เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๙
ธรรมกถึกออกมาพูด
(สำนักงานเขตบางแค โดยฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม ทำหนังสือกราบขออนุญาตหลวงตาถ่ายภาพสวนแสงธรรม เพื่อจัดทำหนังสือพัฒนาวัด-พัฒนาใจ ของเขตบางแค ในวันอาทิตย์ที่ ๕ พฤศจิกายน เวลา ๐๙.๐๐ น. ถึง ๑๖.๐๐ น.) พัฒนาวัดก็ดังพระพุทธเจ้าเหมือนกับว่าขับเข้าไปอยู่ในป่า มันไม่อยากเข้าป่าต้องถูกขับไป พระพุทธเจ้าก็พาพัฒนาแล้วในป่า รุกฺขมูลเสนาสนํ เคยพูดอยู่เสมอ นี่ละที่อยู่ของพระผู้มุ่งต่อมรรคผลนิพพาน
พอบวชแล้วก็ รุกฺขมูลเสนาสนํ นิสฺสาย ปพฺพชฺชา ตตฺถ เต ยาวชีวํ อุสฺสาโห กรณีโย บรรพชาอุปสมบทแล้วให้ท่านทั้งหลายไปอยู่ตามรุกขมูลร่มไม้ ในป่าในเขาตามถ้ำเงื้อมผา ป่าช้าป่ารกชัฏ ที่แจ้งลอมฟาง อันเป็นสถานที่เหมาะสมแก่การบำเพ็ญเพียร เพื่อชำระกิเลสตัวยุ่งเหยิงวุ่นวายไม่เลิกไม่แล้วนี้ให้สิ้นซากไปจากใจ และให้ท่านทั้งหลายจงไปอยู่และบำเพ็ญในสถานที่เช่นนั้นตลอดชีวิตเถิด
อนุศาสน์ข้อนี้พระทุกองค์ต้องได้รับ อนุศาสน์เด็ดขาด ลบล้างไม่ได้ พระพุทธเจ้าเห็นความจำเป็นในการอยู่ในป่าบำเพ็ญธรรมเพื่อชำระกิเลส ตัวยุ่งเหยิงวุ่นวาย ตัวสกปรกมากที่สุดก็คือกิเลส แต่กิเลสมันก็ยอตัวของมันว่าสะอาดมากที่สุด เป็นอย่างนี้ละมันขัดกันระหว่างกิเลสกับธรรม ใครเดินตามกิเลสจมไปด้วยกันๆ ใครเดินตามธรรมเจริญรุ่งเรืองไปเรื่อยๆ ธรรมเป็นสมบัติของพระพุทธเจ้า กิเลสเป็นสมบัติของวัฏจักร มันแข่งขันกันอยู่อย่างนี้
พัฒนาอะไรตะกี้นี้ (พัฒนาวัด-พัฒนาใจครับ) พัฒนาวัดก็ดังพระพุทธเจ้าสอนนั้น อย่าไปเหยียบหัวพระพุทธเจ้าก็แล้วกัน ดังธรรมกถึกเอกเสียด้วยนะมันเทศน์ออกทั่วประเทศไทย แต่ธรรมกถึกเอกคือเอกมีนัยน์ตาข้างเดียว ถ้าตาข้างเดียวนี้บอดแล้วก็หมด ธรรมกถึกตาบอด มันพูดว่าพระที่อยู่ในป่าในเขาเป็นพระวิกลจริต มีอย่างเหรอ มันเหยียบหัวพระพุทธเจ้าไป
พระพุทธเจ้า รุกฺขมูลเสนาสนํ สอนพระทั้งหลายให้ไปอยู่ในป่าในเขาดังที่ว่านี่ ทุกองค์ ไม่สอนไม่ได้ เพราะพระโอวาทนี่ถือเป็นสำคัญมากที่สุดประจำสดๆ ร้อนๆ ตลอดมาเลย มันยังกล้าหาญไปเหยียบหัวพระพุทธเจ้าผู้สั่งสอน หรือส่งเสียพระให้ไปอยู่ในป่านั้นว่า พระที่อยู่ในป่าเป็นพระวิกลจริต นี่มันพูดออกมาจากความเคียดแค้น ความโมโหโทโส ความไม่ได้อย่างใจตัวเอง อยากให้ได้อย่างใจตัวเอง พูดดันออกมาด้วยอำนาจของกิเลส แต่อำนาจของธรรมไม่ได้เป็นอย่างนั้น
พระพุทธเจ้าไล่พระเข้าอยู่ในป่าในเขา อันนี้อำนาจของกิเลสมันออกมาจากความโมโหโทโส มันว่าพระที่อยู่ป่าเป็นพระวิกลจริต นี่พูดตรงๆ ได้ฟัดกันแล้วกับเรา เพราะมันขวางเอาเหลือประมาณ เกินกว่าที่จะทนอยู่ได้ พระพุทธเจ้าแท้ๆ เป็นผู้แสดงธรรมบทนี้ออกมา เป็นความเด็ดขาดเฉียบขาดสดๆ ร้อนๆ ตลอดมาจนกระทั่งทุกวันนี้ มันเอาความดิบความดีมาจากไหนมาพูดอวดว่าพระอยู่ในป่าเป็นพระวิกลจริต ฟังซิน่ะ
มันฟังได้ไหม อีตานี้มันเป็นธรรมกถึกเอก มันลืมตัวมันว่าเทศน์ทั่วประเทศไทย เหมือนว่าเป็นธรรมกถึกเอก เอกก็เอกตาข้างเดียวนั่นแหละ ถ้ามันบอดอันนี้แล้วบอดเลย ไม่ใช่เอกอย่างไม่มีคู่แข่งนะ เอกตาข้างเดียว มันพูดได้นี่ นี่ละอำนาจของกิเลสมันกดดันออกมาให้พูดเหยียบหัวพระพุทธเจ้าไปมันก็ไม่สนใจ ขอให้ได้พูดก็พอ ว่าพระที่อยู่ในป่าเป็นพระวิกลจริต มันฟังได้เมื่อไรว่าพระที่อยู่ในป่าเป็นพระวิจริตนี่น่ะ มันฟังได้เมื่อไร
กับคำที่ว่า รุกฺขมูลเสนาสนํ บรรพชาอุปสมบทแล้วให้ท่านทั้งหลายไปอยู่ในรุกขมูลร่มไม้ ในป่าในเขา ตามถ้ำเงื้อมผา ฟังซิน่ะ ป่าช้าป่ารกชัฏ อันเป็นสถานที่เหมาะสมในการประกอบความพากเพียรปราศจากสิ่งรบกวน และจงอุตส่าห์พยายามอยู่และบำเพ็ญในสถานที่เช่นนั้นตลอดชีวิตเถิด นี่พระโอวาทของพระพุทธเจ้า แล้วเหตุใดมันเก่งมาจากไหน ก็บวชมาจากศาสดาก็เหยียบหัวศาสดาได้ลงคอ ว่าพระที่อยู่ในป่าเป็นพระวิกลจริต ฟังซิน่ะมันฟังได้ไหม ใครฟังไม่ได้ ถ้าไม่ใช่คนบ้าเหมือนคนที่มันพูดออกมาว่าพระอยู่ในป่าเป็นพระวิกลจริต นี้มันเลยบ้าไปแล้วพระองค์นี้น่ะ ถ้าไม่เลยบ้ามันต้องมีสติยับยั้งตัวเอง ว่ามันขัดต่อธรรมและสายหูสายตาของโลกมากมายขนาดไหน มันดิบดีมาจากไหนที่เหยียบหัวพระพุทธเจ้าไปอย่างนั้นน่ะ
ก็มันได้ยินชัดๆ นี่น่ะ เพราะฉะนั้นจึงตอบกันอย่างชัดๆ ไม่มีใครตอบ หลวงตานี้ตอบได้ตลอด สามแดนโลกธาตุมาว่างั้นเลยเรา โบกมือให้มา ถ้าขัดกับธรรมแล้วซัดเลยเทียว ถ้าเป็นไปตามธรรมเราเกาะตามอยู่แล้วธรรม อันนี้มันเรื่องเทวทัตเลยเทวทัต เทวทัตยังรู้โทษของตัวเอง อันนี้ไม่ยอมรู้โทษของตัวเอง ยังหาเรื่องว่าพระอยู่ในป่าเป็นพระวิกลจริต ฟังซิน่ะมันฟังได้เมื่อไร โอ๊ย เราสลดสังเวชนะ เป็นธรรมกถึกเสียด้วย ไปหาเทศน์สะแตกเงินเขามาสักเท่าไรๆ แล้ว ยังไม่เห็นคุณค่าของพระพุทธเจ้าว่าการเทศน์นี้เอาธรรมพระพุทธเจ้าไปเทศน์ ได้เงินมาเลี้ยงชีพมันแล้วมันยังมาโอ้อวดเหยียบหัวพระพุทธเจ้าต่อหน้าต่อตา และพระสงฆ์ทั้งหลายที่อยู่ในป่าๆ มาโดยลำดับตลอดจนกระทั่งทุกวันนี้ ว่าพระอยู่ในป่าเป็นพระวิกลจริต
มันอยู่ในส้วมในถานนั้นมันเป็นอย่างไร ไม่อยู่ในป่าก็อยู่ในส้วมในถานนั่นแหละจะว่าไง มันทำตัวเป็นมูตรเป็นคูถ อยู่ในวัดวัดก็กลายเป็นส้วมเป็นถานมันยังไม่รู้ตัวอยู่เหรอ ถึงได้มาพูดอย่างนั้นได้ลงคอ พระประเภทนี้หนักศาสนานะ มันทำลายศาสนาอย่างชัดๆ เหยียบหัวพระพุทธเจ้าไป ว่าพระที่อยู่ในป่าเป็นพระวิกลจริต มันฟังไม่ได้เลยเชียวกับคำที่ว่า รุกฺขมูลเสนาสนํ พระพุทธเจ้ารับสั่งให้พระบวชแล้วให้ท่านทั้งหลายไปอยู่ในรุกขมูลร่มไม้ นั่นฟังซิ ในป่าในเขาตามถ้ำเงื้อมผา อันเป็นสถานที่อันสงบสงัดประกอบความเพียรได้โดยสะดวก นั่น มันขัดกันขนาดไหนมันยังมาพูดได้
นี่ละอำนาจของกิเลส พูดด้วยอำนาจแห่งความโมโหโทโส ความเคียดความแค้น มันพูดออกไปอย่างขัดธรรมซึ่งธรรมฟังไม่ได้เลยมันก็พูดได้จะว่าไง มันเลวไหมพระประเภทนี้ ผู้รักษารักษาแทบล้มแทบตายมันยังมาเหยียบหัวผู้รักษา เหยียบหัวพระพุทธเจ้าผู้สั่งสอนในการรักษาตัวให้เป็นคนดีเพื่อมรรคเพื่อผลได้ลงคอ มันน่าทุเรศไหม นี่ถึงวาระที่จะพูดมันมาสัมผัสเอาละ นี้ไม่เคยกลัวไม่เคยกล้ากับสิ่งใดสามแดนโลกธาตุนี้ พูดให้ชัดเจน หลวงตาบัวนี้พูดจริงๆ เลย ไม่มีคำว่ากล้ากับสิ่งใด กลัวกับสิ่งใดในสามแดนโลกธาตุนี้ มีแต่ธรรมล้วนๆ เต็มหัวใจ ขัดธรรมตรงไหนซัดกันตรงนั้นเลย
เพราะธรรมโลกเทิดทูนมาตลอดเวลา กิเลสใครเทิดทูนมัน นอกจากวิ่งไปตามมันเพราะความลุ่มหลงกลของมันเท่านั้นเอง มันทุเรศนะ บวชเข้ามาแทนที่จะส่งเสริมศาสนา กลับมาทำลายเหยียบหัวพระพุทธเจ้าไปต่อหน้าต่อตา ฟังได้ไหมทุกวันนี้ โห บวชเข้าไปไปทำลายพระพุทธเจ้าทำลายศาสนา ทำวัดนั้นให้เป็นส้วมเป็นถาน ทำตัวเองให้เป็นมูตรเป็นคูถอยู่ในส้วมในถานคือวัดนั้นๆ พระประเภทนี้ ประเภทที่ดีเราไม่ว่าเราเทิดทูนเสมอ ประเภทที่เลวร้ายที่สุดนี้ละมันทำลายโลกด้วยความเลวร้ายของมัน มันว่าเป็นความดี
นี้เอาจริงๆ ใครที่จะมาทำลายธรรมนี้ ผ่านเข้ามาก็ซัดเลยนี่ ให้ถอยไม่มีถอย ให้กล้าไม่มีกล้า ให้กลัวไม่มีกลัว ธรรมมีอยู่ตรงไหนจะเดินตามธรรมล้วนๆ เลย ตัวโมกโขโลกนะเห็นแก่หน้าแก่ตาไม่มี นั่นเป็นเรื่องของกิเลสความประจบประแจงเลียแข้งเลียขาต่างหาก ธรรมนี้เป็นภาษาธรรมพูดตรงไปตรงมาไปเลย ภาษาพระพุทธเจ้าเรียกว่าภาษาธรรม ดีบอกว่าดี ชั่วบอกว่าชั่วอย่างนี้ตลอดมา อันใดที่เป็นภัยก็บอกว่าเป็นภัย อะไรที่เป็นคุณบอกว่าเป็นคุณ บาปมีบุญมี นรกมี สวรรค์มี พรหมโลกนิพพานมี ท่านสอนอย่างนี้สอนตามหลักความจริง ให้หลีกเว้นอะไรที่ไม่ดี อะไรที่ดีแล้วให้ขยับตัวเข้าไปหนุนเข้าไปถึงถูกต้อง พากันเข้าใจเอานะวันนี้ จะว่าเทศน์หรือไม่เทศน์ก็ไม่รู้ละ จนจบลงไปแล้ว มันคันฟัน ฟันเราก็มีสองสามซี่เท่านั้น แต่มันก็คันซี่มันยังอยู่ ที่มันหลุดออกไปแล้วมันไม่คัน มันคันตรงที่มันกำลังอยู่นี้ อยากงับหัวคนตัวมันเก่งๆ เข้าใจไหม พูดเหมือนจะกัดจะฉีก
วันที่ ๓ วันศุกร์นี้ก็จะได้ไปบ้านแพง จะไปค้างนั้นคืนหนึ่ง อย่างนั้นละลากไปโน้นลากไปนี้ เฒ่าแก่เท่าไรยิ่งลากดี ลากไปถลอกปอกเปิกจนไม่มีขนเลย มีแต่หนัง เข้าใจไหม ถูกเขาลากไปถลอกปอกเปิก ไม่มีขนเลยมีแต่หนัง เทศน์อย่างนี้ก็ออกทั่วประเทศไทยนะนี่ ทุกเช้าๆ ที่เทศน์ วันนี้ดีอยู่ พอดีเด็ดเผ็ดร้อนบ้างกับตัวหน้าด้าน เข้ากันได้ละวันนี้ หน้าด้านต้องสับแรงๆ ซิ พระที่อยู่ในป่าเป็นพระวิกลจริต มันเหยียบหัวพระพุทธเจ้า เหยียบหัวสาวกทั้งหลาย เหยียบหมดพุทธศาสนาจนไม่มีเหลือเลย คำพูดคำนี้เป็นภัยมากทีเดียว
นี่ธรรมกถึกนะออกมาพูด พูดด้วยความโมโหโทโสเคียดแค้นให้วงกรรมฐาน ถ้าทำอะไรไม่ถูกต้องกรรมฐาน ก็คือนี้ละสำคัญ ไม่ถูกต้องตรงไหน ทางนี้เข้าไปเลยมันเคียด เข้าใจไหม มันก็ยกเอาวงกรรมฐานตั้งแต่พระพุทธเจ้าลงมา ว่าพระที่อยู่ในป่าคือพระวิกลจริต ฟังซิน่ะ มันเลยวิกลจริตไปอยู่ใต้ส้วมใต้ถานบักห่านี่เราว่างั้น เข้าใจไหมบักห่านี่ มันพูดได้ทุกแบบนี่..เป็นอะไรไป อันนี้พูดด้วยความเคียดแค้น ที่พูดมาอย่างนี้ด้วยความเคียดแค้น จะว่าอะไรมันก็ว่าไม่ได้ คือเหตุผลหลักเกณฑ์สู้เราไม่ได้ มันก็เห่าว้อๆ พระอยู่ในป่าเป็นพระวิกลจริตมันว่างั้น โคตรพ่อโคตรแม่มึงเคยอยู่ในส้วมในถานเหรอ ก็จะตอบไปอย่างนั้นทางนี้ เข้าใจไหมล่ะ
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร
FM 103.25 MHz |