เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๙ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๙
คนมีบุญมีกุศลไปไหนไม่จนตรอกจนมุม
ในครั้งพุทธกาลท่านให้พรองค์เดียวนะ มาสมัยนี้เห็นให้พรกันทั้งวัดๆ ในครั้งพุทธกาลให้พรองค์เดียว องค์เป็นหัวหน้าหนึ่ง องค์หัวหน้าจะสั่งใครให้พรองค์เดียวก็ได้ ตามตำราบอกอย่างนั้น
ผู้กำกับ เขาลืมกระเป๋าสตางค์ไว้ตั้งแต่เมื่อวานนี้ครับ
หลวงตา ใครลืมกระเป๋าสตางค์ไว้ตั้งแต่เช้าวานนี้ถึงวันนี้ คิดดอกไม่แพง แค่สามร้อยบาท กระเป๋าสตางค์เป็นห่อผ้านะใครลืมไว้เมื่อวานนี้ หลักพระวินัยมี ตามธรรมดาห้ามพระจับต้องเงินทองอะไรๆ แต่ถ้ามาตกอยู่ในที่กรรมสิทธิ์ที่พระรับผิดชอบอยู่นั้นต้องเก็บไว้ ไม่เก็บไม่ได้อีกแหละ แล้วโฆษณาหาเจ้าของ ถ้าเป็นเงินก็ไม่บอกจำนวน โหย ท่านละเอียดมากพระวินัย โฆษณาหาเจ้าของเป็นเวลาพอสมควรแล้ว เห็นว่าไม่มีใครมารับแล้ว ให้เอาของที่เขามาลืมไว้นี้ไปทำประโยชน์สาธารณะในวัดหรือนอกวัดก็ตาม แต่เป็นประโยชน์สาธารณะ เวลาเขามาถามก็ให้ชี้บอก เอ้อ ของนั้นโฆษณาหาเจ้าของไม่พบ เป็นเวลาพอสมควรแล้ว ได้เอาสมบัติจำนวนนี้ไปสร้างอันนั้นๆ บอกเขา นี่พระวินัย
ผู้กำกับ ข่าวจาก นสพ.ผู้จัดการรายวัน ฉบับวันที่ 27 ต.ค.49 หัวข้อเรื่อง เสนอแก้กฎหมายคณะสงฆ์ ถวายคืนพระราชอำนาจ
วันนี้ (27 ต.ค.) นายไพศาล พืชมงคล สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พร้อมคณะรวม 33 คน ได้ร่วมกันยื่นร่างพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่
) พ.ศ.
ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ นับเป็นการเสนอร่างกฎหมายฉบับแรกของสภาชุดนี้
ทั้งนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายคณะสงฆ์ 4 ประการ คือ
1.แก้ไขหลักอาวุโสของสมเด็จพระราชาคณะ ให้กลับไปเป็นถืออาวุโสโดยพรรษาตามพระธรรมวินัยตามเดิม แทนที่จะกำหนดอาวุโสตามสมณศักดิ์
2.เพิ่มเติมพระราชอำนาจพระมหากษัตริย์ ให้ครอบคลุมการปฏิบัติในปัจจุบัน ในเรื่องการแต่งตั้ง สถาปนา และถอดถอนสมณศักดิ์ ของคณะสงฆ์อื่น ตลอดจนพระสงฆ์ที่ปฏิบัติภารกิจนอกราชอาณาจักรด้วย
3.ถวายพระราชอำนาจในการสถาปนาสมเด็จพระราชาคณะ ขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช ให้เป็นไปตามพระราชศรัทธาและพระราชอัธยาศัย ตามที่เป็นอยู่ก่อนการแก้ไขในสมัย รสช.
4.แก้ไขเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช สำหรับกรณีที่ไม่มีสมเด็จพระสังฆราช และการปฏิบัติหน้าที่แทนสำหรับกรณีที่มีสมเด็จพระสังฆราช แต่ไม่อาจทรงปฏิบัติหน้าที่ได้ โดยให้สมเด็จพระราชาคณะที่มีอาวุโสสูงสุดโดยพรรษาปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่แทนแล้วแต่กรณี
สำหรับผู้ร่วมคณะในการเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวนี้ ที่สำคัญเช่น พลเอก ไพศาล กตัญญู รองผู้บัญชาการทหารบก, พลเรือโท พะจุณณ์ ตามประทีป ทส.ประธานองคมนตรี, นายโสภณ สุภาพงษ์, พลเรือเอก บรรณวิทย์ เก่งเรียน, นายคำนูณ สิทธิสมาน, นายณรงค์ โชควัฒนา, พลเรือเอก ประเจตน์ ศิริเดช, พลเอก สุรินทร์ พิกุลทอง, นายพินิจ จารุสมบัติ, พลเอก ปรีชา โรจนเสน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตว่า คณะผู้ร่วมเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้ มีหลากหลายจากทุกกลุ่ม มีทั้งกลุ่มที่เคยสนับสนุนและคัดค้าน นายมีชัย ฤชุพันธุ์ และมีทั้งกลุ่มที่เคยสนับสนุนและคัดค้าน น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ด้วย จึงเป็นร่างกฎหมายที่มีลักษณะสมานฉันท์
คุณสนธิ ลิ้มทองกุล เจ้าของ นสพ.ผู้จัดการ ได้กล่าวในรายการเมืองไทยรายสัปดาห์เมื่อคืนที่ผ่านมาว่า พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นลูกศิษย์ของพระอาจารย์ทุย ที่จังหวัดหนองคาย ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน คุณสนธิกล่าวว่า ตนเคยไปกราบหลวงตามหาบัว ท่านบอกว่า ดีแล้วที่นายกฯคนนี้เป็นลูกศิษย์ท่านอาจารย์ทุย ก็เหมือนเป็นลูกศิษย์ของเรา คุณสนธิกล่าวต่อไปว่า พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี.เป็นคนประหยัด พอเพียง เพื่อประเทศชาติ ต่างจากอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ซึ่งฟุ่มเฟือย สุรุ่ยสุร่ายเพื่อตัวเอง ดังนั้นถ้าพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ทำงานให้ประเทศชาติดีแล้วและเจออุปสรรค พวกเราต้องให้กำลังใจ พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี
หลวงตา ถูกต้องแล้ว ไม่มีขัดแย้งตรงไหน เป็นธรรมแล้ว อะไรถ้าขวางธรรมแล้วมันขวางหัวใจโลกผู้มีใจเป็นธรรม ธรรมนี้เหมาะสมกับทุกหัวใจ แม้แต่สัตว์ที่มีธรรมก็น่ารัก อย่าเข้าใจว่ามีธรรมแต่มนุษย์ สัตว์เขาก็มีตามธรรมชาติของเขาเอง ถ้าขัดกับธรรมก็ขัดกับหัวใจโลก ธรรมไม่เคยทำความกีดขวางผู้ใด แม้รายเดียวไม่มี ธรรมเป็นธรรมชาติที่ราบรื่น เพราะฉะนั้นโลกถึงได้กราบธรรม ว่าธรรมเท่านั้นลงเลย ยอมเลย เพราะธรรมนี้เป็นธรรมชาติที่ให้ความร่มเย็นแก่โลกมานานแสนนาน เป็นคู่กันกับกิเลสซึ่งเป็นภัยต่อธรรม และเป็นภัยต่อโลกด้วย
วันเสาร์วันอาทิตย์ วันว่างการงานที่หมุนเพื่อธาตุเพื่อขันธ์มาตลอด ก็มีว่างวันเสาร์อาทิตย์หรือวันพระวันโกน เข้าสู่ศีลสู่ธรรม ขวนขวายหาความดีเข้าใส่ใจ แล้วใจจะแผ่พลังอันดีงามและเป็นมงคลออกทั่วโลกถ้าใจมีธรรม ใจไม่มีธรรมหาความสงบร่มเย็นไม่ได้ ใหญ่เท่าไรยิ่งอำนาจใหญ่ อำนาจป่าๆ เถื่อนๆ ไม่ใช่อำนาจเป็นธรรม ถ้าอำนาจเป็นธรรมแล้วเย็นไปหมด จะดุจะด่าจะพูดนิ่มนวลอ่อนหวานเด็ดขาดอะไรเป็นธรรมล้วนๆ ที่จะนำมาใช้ในจังหวะต่างๆ หรือเหตุการณ์ต่างๆ ที่ควรเด็ดเด็ด เด็ดเป็นธรรมไม่มีอะไรเสียหาย ที่ควรธรรมดาเป็นธรรมดา ถ้าควรเด็ดเด็ด
อย่างพระวินัยพระพุทธเจ้าเห็นไหมล่ะ ตั้งแต่ปาราชิก ๔ สังฆาทิเสส ๑๓ ลงมา เด็ดๆ มาเป็นลำดับๆ ที่ว่า ๒๒๗ ที่เข้ามาสวดในท่ามกลางปาฏิโมกข์ ปาราชิก ๔ สังฆาทิเสส ๑๓ นิสสัคคีย์ปาจิตตีย์ ๓๐ ฯลฯ รวมแล้วเป็น ๒๒๗ เรียกว่ากฎข้อบังคับพระ ท่านเรียกว่าศีล ผู้ปฏิบัติตามนี้เรียกว่าเป็นผู้มีศีล งามตางามใจ งามในเพื่อนฝูงอันเดียวกัน ไม่รังเกียจกัน พระที่รังเกียจกันก็คือหลักพระวินัยเป็นสำคัญมาก ถ้าหากพระวินัยยิ่งหย่อนกว่ากันแล้วพระจะเข้ากันไม่สนิท สุดท้ายแตกกัน
ส่วนธรรมมียิ่งหย่อนต่างกัน ไม่มีอะไร เพราะไม่มีการกระทบกระเทือนกันเหมือนพระวินัย ถ้าพระวินัยผิดตรงไหนกระเทือนตรงนั้น ผิดมากผิดน้อยกระเทือน มีกฎข้อบังคับเป็นลำดับลำดา ศาสนาพระพุทธเจ้าสอนให้เป็นคนดีพระดีนั่นเอง ไม่ได้สอนเพื่ออะไร ให้ไปตามแถวตามแนวที่สอนไว้นี้จะราบรื่นดีงาม อยู่กันด้วยความสงบร่มเย็นเป็นสุข เพราะการปฏิบัติความรู้ความเห็นเป็นอันเดียวกัน คือเป็นธรรมเป็นวินัยด้วยกัน อยู่ด้วยกันเป็นผาสุก ยกตัวอย่างแคบๆ อย่างวัดป่าบ้านตาดนี้ ทั่วประเทศมาเกี่ยวข้องกัน แล้วก็นอกประเทศอีกมาเยอะ พระพวกฝรั่งมังค่า ก็คือหัวใจเป็นธรรมด้วยกัน เข้ากันได้สนิท ไม่ว่าชาติชั้นวรรณะใดไม่สำคัญ สำคัญที่เอาหลักธรรมเข้าไปจับปั๊บแล้วน่าดูเลย ถ้าไม่มีธรรมไม่น่าดู ธรรมจึงเป็นของงดงามมาก
สำหรับวัดเรานี้เราพูดตรงๆ ไม่ว่าจะพูดธรรมดาดุด่าว่ากล่าวเด็ดเดี่ยวเฉียบขาด เป็นธรรมเป็นวินัยทั้งนั้น ไม่ให้เคลื่อนจากนั้นเลย เคลื่อนไม่ได้ ผู้ปฏิบัติก็ถือว่าเป็นครูเป็นอาจารย์ที่ถูกต้องดีงามจึงมาอาศัย การแนะนำสั่งสอนใครผิดใครถูกต้องบอกตรงไปตรงมา ให้ความเสมอภาคแก่เพื่อนฝูงผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบได้อยู่เป็นสุขๆ อย่าได้ระแคะระคายกีดขวาง เป็นก้างขวางคอกัน ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วเตือนๆ เตือนหนักเข้าขับ ถ้าไม่ฟังเสียงขับออกจากหมู่เพื่อน เพราะเป็นเนื้อร้ายเอาไว้ทำลายส่วนใหญ่ให้เสียหมด คนที่มีธรรมแล้วจึงมาอยู่ด้วยกันเป็นความสนิทตายใจ
ในศาสนาพระพุทธเจ้าไม่มีชาติชั้นวรรณะ เอาธรรมครอบเข้าไว้แล้วงามตาไปหมด อะไรก็ไม่เหนือธรรม คือธรรมนี้เหนือทุกอย่าง ถ้าเอาธรรมเข้าไปประดับแล้วสวยงาม ชาติชั้นวรรณะเสริม เสริมขึ้นให้ดีขึ้นโดยลำดับ ท่านไม่ได้มองดูชาติชั้นวรรณะยิ่งกว่าหลักธรรมหลักวินัยของศาสดาที่สอนไว้ ถือนี้เป็นแบบเป็นฉบับ กษัตริย์จะมาจากสกุลใด เป็นกษัตริย์แล้วมาลงสภาพเดียวกันหมดเลย ไม่มีว่าสูงว่าต่ำว่าข้าเป็นกษัตริย์อย่างนั้นไม่มี เพราะพระพุทธเจ้าก็เป็นกษัตริย์อยู่แล้วและเป็นศาสดาเอกของโลก เลิศทุกอย่างแล้วอยู่ในนั้นหมด ก็เคารพตรงนั้นถูกต้องดีงาม
เพราะฉะนั้นจึงให้พากันเอาธรรมไปปฏิบัติตน ดูเขาแล้วก็ดูเราพร้อมนะ อย่าไปดูแต่คนอื่นไม่ดูตัวเอง ความบกพร่องจะอยู่กับคนดูแต่คนอื่นไม่ดูตัวเอง ดูเขาด้วย ดูเราด้วย ควรแนะนำตักเตือนกันก็ตักเตือน ผู้รับคำตักเตือนก็ต้องเป็นธรรม ยอมรับความจริงที่ผู้นั้นตักเตือน อยู่กันได้เป็นผาสุก ถ้าขืนไม่ได้นะ เพราะธรรมละเอียดมาก
เมื่อวานนี้เพลียมากจริงๆ เพลียเสียจน.. วันนี้ไม่พูดอะไรมาก จะให้พร (ลูกลากลับวันนี้เจ้าค่ะ) ได้สร้างบุญเต็มหัวอกแล้วเอาละเย็นทั้งโลกนี้โลกหน้า เย็นทั้งปัจจุบัน เย็นทั้งอนาคต คนมีบุญมีกุศลไปไหนไปเถอะ ไม่จนตรอกจนมุม หากมีความจำเป็นบุญจะมาสนองทันที พอพูดอย่างนี้เราอดคิดไม่ได้เหมือนกันนะ คือพิจารณาย้อนหลัง ออกจากบ้านนามนจากพ่อแม่ครูจารย์มั่นไปด้วยกันสามองค์ก่อน ยังไม่ได้แยกกัน ไปวันนั้นไปในเขาไปหลงในภูเขา ค่ำมืดก็ยังหลงกันอยู่ ไปไม่ได้เลยนอน เวลานอน เอา วันนี้ลองตั้งสัจจอธิษฐานลองดูซิว่าบ้านอยู่ทางไหน คือมันหลงสนิทอยู่ในกลางภูเขา ลองอธิษฐานดู จะออกทางความฝันก็ได้ ออกทางภาวนาก็ได้ เอา ทดลองดู ไปด้วยกันสามองค์
พอตื่นเช้าก็มาหากัน ว่าไงบ้านอยู่ทางไหน ชี้ไปทางทิศใต้นะ อยู่ทางนี้ แล้วองค์นี้ล่ะ บ้านอยู่ทางนี้ แต่เราจะพบผู้หญิงก่อน มาอยู่ในกลางเขานี้จะพบผู้หญิงได้อย่างไร มันหากจะเป็น เพราะเมื่อคืนนี้ปรากฏมีแต่ผู้หญิงยั้วเยี้ยกับเด็กเล็กเด็กน้อยยั้วเยี้ยๆ มานี้ ใครไปก็ผ่านไปนี้ๆ บ้านอยู่ทางนี้ แล้วท่านล่ะ เราก็ฝันเหมือนกัน แต่ไม่ใช่บ้านนะ เป็นทับอยู่ทางนี้ โยมแม่กับน้องชายมา มาก็มาถากถางบริเวณที่เราพักอยู่นั้น ความฝัน โยมแม่มาจากไหนจึงมาอยู่ในป่าในเขา แม่มาอยู่นี้ ทับอยู่นี้ นั่นไฟเห็นอยู่ มองไปเห็นไฟ ไฟในความฝัน
พอเสร็จแล้วแม่ก็ไปทางนี้ บอกหมู่เพื่อนว่าทางนี้เป็นทับนะ ไม่ใช่บ้าน ลองไปดู ก็ไปตรงนั้นละ อยู่ในกลางภูเขา ไม่ได้คิดได้คาดได้ฝันว่าจะมีบ้านคน ไปก็ไปเจอทาง เห็นรอยคน อ้าว รอยคนยังไงมากันนี้ เลยตามไป เห็นเขาอยู่นั้นสามครอบครัว เขาไปทำไร่ทำสวนอยู่ในนั้น พวกนั้นเขาก็ตื่นเต้นกัน โอ๊ย เมื่อคืนนี้ก็ฝันกันว่าพระท่านมานี้สามองค์ ท่านมาเยี่ยม พูดกันกับพวกผู้ชายเขาพึ่งไปทำงานกัน ว่างั้น พูดกับผู้ชายพ่อบ้านเขาละ เขาก็งงเหมือนกันว่าท่านหลงมาได้อย่างไร ถ้าไม่พบพวกผมพวกท่านตาย ว่างั้นเลยนะ เขาบอกตาย ไม่มีทางไปเลย ต้องย้อนกลับหลังนู้นถึงจะไปได้ นี่ละก็ไปเจอบ้านได้กินข้าว
มันหากจำเป็นไปเจอเอาทางเป็นลักษณะ อ้าว นี่มีรอยคนนะ อยู่ในกลางเขามีรอยคน เอ้า ตามลงไปดู เขาอยู่ข้างล่างนู่น เขาทำไร่ทำสวนสามสี่หลังคาเรือน อาศัยกินกับเขา ความฝันเราบอกว่าจะมีคนตามส่ง คือมีเด็กที่ตามโยมแม่มา มาขนเอาบริขารของเราไป แล้วจะมีคนตามส่ง ตามส่งอย่างไรอยู่ในป่า หากจะมี เอา คอยสังเกตดูก็แล้วกัน ไปก็ไปเจอจริงๆ เขาก็ร้องโก้กเก้กขึ้นมา เสร็จแล้วเขาต้องไปส่งเอง ปล่อยให้ท่านไปลำพังไม่ได้..ตาย เขาว่าอย่างนั้น พวกผมต้องไปส่ง ส่งย้อนหลังกลับไปนู่นจนค่ำ จึงได้วกไปเจอหมู่บ้าน เขาว่าเป็นหมู่บ้าน เขาอยู่หมู่บ้านนั้นแหละ เขาก็ไปทำไร่ อย่างนั้นละเวลามันจำเป็นมันหากมีของมันนะ แปลกอยู่ เอาละ
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร
FM 103.25 MHz |