เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๙
ได้ค่าบุหรี่ซองหนึ่งก็เอา
ก่อนจังหัน
เราไม่ได้ไปภูวัวนานแล้ว กี่เดือนแล้วนา ก็ไม่ทราบจะไปทางไหนๆ บ้าง วันนี้ไปนั้น วันนั้นไปนั้นๆ อยู่ตลอด ภูวัวเลยไม่ได้ไป ตามธรรมดาถ้าไปภูวัวต้องจัดอาหารเสริมๆ ไป พระเหล่านั้นท่านตั้งใจปฏิบัติจริงๆ พระ ๓๖ ท่านไม่ได้มาฉันหมดนะ อยู่ในวัดจำนวน ๓๖ แต่เวลามาฉันก็แบบเดียวกันนี้ แล้วแต่องค์ไหนจะฉัน องค์ไหนไม่ฉันก็หยุดไปๆ ภาวนาเรื่อยไป สถานที่นั่นเหมาะสมมากทีเดียว นี่ก็ท่านอุทัยอยู่เป็นพื้นเพมาดั้งเดิม
ทีแรกท่านอาจารย์ฝั้นท่านเที่ยวผ่านมานั้น หลังจากนั้นมาก็ท่านอุทัยมาอยู่ทีละสองสามองค์มาอยู่ที่นั่น อยู่มากกว่านั้นไม่ได้ ประชาชนเขาไปตั้งบ้านตั้งเรือนอยู่ได้สองสามหลังคาเรือน ท่านไปพัก แต่ทีนี้เวลาท่านจะไปเขาไม่ยอมให้ไป ไม่ยอมให้ไปแล้วจะกินอะไร บอกว่าถ้าเขาไม่ตายท่านก็ไม่ตาย เขาไม่ยอมให้ไป เลยตกลงก็อยู่ที่นั่น โยมก็ทุกข์พระก็ทุกข์อยู่ด้วยกัน เรื่อยมาอย่างนี้ แต่ก่อนมีสองสามหลังคาอยู่นั้น ท่านไปท่านก็เกรงใจเขาอยู่ไม่ได้ ท่านจะไป แต่เขาไม่ยอมให้ไป อยู่นั้นเรื่อยมา
จนกระทั่งเราได้ไปดูเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่บัดนั้นมา โอ๋ย ๒๐ กว่าปีแล้วนะ ลืมพ.ศ.เสีย แต่แน่ใจ ๒๐ กว่าปีที่เรารับเลี้ยงตลอดมาเลย ๒๐ กว่าปี ไปแต่ละครั้งๆ เอารถไปสี่คัน เต็มเอี้ยดๆ เลย รถหกล้อก็มี สี่ล้อ ฟังว่ารถสี่คัน สี่ล้อสามคัน หกล้อหนึ่งคัน บองขึ้น ขึ้นสูงเต็มๆ ให้พอนะ มีหลายอย่าง พวกข้าวเป็นพื้นไว้เลย ข้าว น้ำตาลที่มากนะ น้ำตาลก็ได้ ๒๐ กว่ากระสอบ กระสอบละ ๑๐๐ กิโล เป็นประจำเลย น้ำตาล ข้าว จากนั้นก็อาหารยาว เอาให้เต็มที่ว่าอย่างนั้นเถอะ เป็นประจำๆ มาเลย
ถ้าหากว่าเราจะเทียบกับก่อนๆ นั้นก็เรียกว่าสมบูรณ์พูนผล ภาวนานี้ธรรมนี่สู้ก่อนๆ ครูบาอาจารย์ทั้งหลายไม่ได้นะ อันนั้นท่านอดอยากขาดแคลนยิ่งกว่านี้ อยู่ในป่าในเขาเป็นป่าเป็นเขาจริงๆ ไม่มีอะไรใครจะไปตามส่งตามเสียกันได้เลย อยู่ทนเอาอย่างนั้นละ คือพอยังมีชีวิตให้เป็นไปวันหนึ่ง แต่จิตนี่มุ่งต่อธรรมๆ เรื่องใจนี่สำคัญมาก จะอดอยากขาดแคลนอะไรๆ ก็ตาม ใจหนักทางไหนนั้นละอยู่ตรงนั้น นี่ใจท่านหนักในธรรม ฉันพอเป็นไปได้วันหนึ่งเอาเท่านั้นพอ ขอให้ได้บำเพ็ญธรรมด้วยความสะดวกๆ ท่านเป็นที่พอใจ
ครูบาอาจารย์ทั้งหลายท่านอยู่ในป่าในเขาท่านอยู่อย่างนั้นละ เรื่องความเป็นอยู่นี้อดอยากขาดแคลนตลอด แต่เรื่องอรรถเรื่องธรรมท่านชุ่มเย็น สง่างาม ต่างกันมากนะ เราอยู่ในสมัยนั้นก็พอดีทันกัน สมัยที่เราอยู่นั่นเพราะไม่มีรถมีรา ใครจะไปตามส่งตามเสียกันที่ไหน เดินด้วยเท้า สะพายบาตรขึ้นบนบ่าแล้วไปเลยเข้าป่าๆ ครั้นต่อมานี่รถราก็มากเข้าๆ ส่งเสียนั้นนี้ได้สะดวกสบายมากขึ้นๆ ธรรมจะเริ่มหมอบแล้วนั่น ธรรมหมอบนะ อาหารการกินฟื้นฟูธรรมหมอบ
ท่านปฏิบัติแต่ก่อนครูบาอาจารย์ที่ได้อรรถได้ธรรมมาสั่งสอนพวกเรา ท่านเอาเป็นเอาตายเข้าว่าทั้งนั้น ในสมัยปัจจุบันนี้ก็คือหลวงปู่มั่น หลวงปู่เสาร์ที่เป็นพื้นฐานมานานแสนนานละเรื่อยแห่งพระกรรมฐานทั้งหลาย เพราะฉะนั้นพระกรรมฐานจึงมีมากทางภาคอีสาน เพราะมีพื้นเพอยู่ทางนี้ก่อนแล้ว และครูบาอาจารย์ทั้งหลายองค์ใดที่มีชื่อเสียงโด่งดัง หรือประเภทเพชรน้ำหนึ่งมีตั้งแต่ลูกศิษย์หลวงปู่มั่น หลวงปู่เสาร์ทั้งนั้น แล้วไปอยู่ทุกภาคนะ ในประเทศไทยเรานี้มีทุกภาคบรรดาครูบาอาจาย์ที่มีชื่อเสียง ตลอดถึงเพชรน้ำหนึ่ง ออกจากครูบาอาจารย์สององค์นี้
ทางภาคอีสานนี้ถ้าหากว่าชุ่มเย็นก็คือธรรม นอกนั้นใช้ไม่ได้เลย วัตถุสิ่งของอะไร การปลูกการสร้างอะไรทางภาคอีสานเหือดแห้ง แห้งจริงๆ อดอยากขาดแคลน แต่ก็มีเครื่องพยุงกันพอให้อยู่ได้ ใจมีธรรม คือมีครูบาอาจารย์อยู่ทางภาคอีสานมาก พออยู่กันได้นะ นอกจากนั้นไม่เป็นท่า อดอยากขาดแคลนจริงๆ แต่พอชุ่มเย็นได้บ้างก็คือธรรม ไปที่ไหนภาคอีสานนี้ครูบาอาจารย์จะเยอะแหละ อยู่ในป่าในเขา ดูอย่างวัดผาแดง วัดภูสังโฆน้อยเมื่อไรนั่น แล้วเข้าไปตามนั้นๆ มีแต่พระกรรมฐานๆ ทั้งนั้น ท่านอยู่ภาวนา ชุ่มเย็น
ถ้าธรรมมีในใจชุ่มเย็น ถ้ากิเลสมีในใจมากน้อยนี้แห้งแล้วเป็นไฟๆ นะ อย่างโลกกำลังเป็นบ้าดิ้นกันอยู่ ใครก็อยากได้อยากมีอยากดีอยากเด่น อยากตั้งแต่เรื่องฟืนเรื่องไฟจะมาเผาไหม้หัวอกมันทั้งนั้นแหละ อยากมีอรรถมีธรรมแฝงเข้าไป แฝงเข้าไปนี่อยากดี เด่นก็เด่นเป็นธรรมๆ ถ้ามีแต่วัตถุล้วนๆ เป็นไฟทั้งนั้น ใครอย่าอวดเก่งนะ นี่เขาเศรษฐีนะ เศรษฐีขี้หมาอะไร คือกองไฟเผาหัวอก ได้เท่านี้แล้วอยากได้เท่านั้น อยากได้เท่านั้น อยากๆ จนตาย ตายลงไปแล้วก็มีแต่กองกระดูก แล้ววิเศษไหมล่ะกองกระดูก ไม่เห็นมีท่าอะไรเลย ถ้าไม่มีความดีงามภายในใจตายทิ้งเปล่าๆ ให้พากันจำเอา
ให้อดทน เข้าศีลเข้าธรรม กิเลสเอาไปถลุงเสียมากต่อมากแล้ว อยู่ที่ไหนเกาะใดดอนใดที่ว่ามีความสุขความเจริญเพราะกิเลสชุม กิเลสชุมที่ไหนๆ มีความชุ่มเย็นเป็นสุขที่นั่นๆ เคยมีที่ไหน มีแต่ศาสนาอยู่ที่ไหน วัดวาอาวาสอยู่ที่ไหน ครูบาอาจารย์มีอยู่ที่ไหนนั่นละชุ่มเย็นๆ กิเลสมีมากที่ไหนนั้นละคือไฟๆ เผาไหม้ไปหมด พากันจำ ในหัวใจถ้ามีแต่กิเลสก็มีแต่ไฟเผาไหม้อยู่นั่น อยู่ในกลางวัดก็ถูกกิเลสเผาไหม้หัวใจอยู่ในกลางวัดนั่นละ เรื่องธรรมกับกิเลสนี่สำคัญมาก มันไม่มีที่อยู่ อยู่ที่หัวใจของโลก จำเอานะ เอาละจะให้พร
หลังจังหัน
บุหรี่โบราณเรา คนโบราณเอาใบตองกล้วยมวนบุหรี่สูบ ทีนี้ก็มาถึงบทท่านสิงห์ทอง บ้าชอบหยอกเล่น มาจากอุบลด้วยรถยนต์จะมานครพนม มาถึงกลางดง เขาเรียกดงหมากอี่ แต่ก่อนเป็นดงหมด เดี๋ยวนี้มีแต่ชื่อ เป็นไร่เป็นสวนไปหมด แต่ก่อนเป็นดงจริงๆ ท่านสิงห์ทองตัวตลกนี้ก็นั่งรถมาด้วย นั่งรถมาเห็นผู้เฒ่าคนหนึ่งแกยืนอยู่นั่น ปีนั้นปีสงครามโลก สงครามโลกอดอยากขาดแคลน ไฟจะหาจุดบุหรี่สูบก็ไม่ได้ คือมันอดอยากขาดแคลน ไม้ขีดไฟก็ไม่มี ทีนี้พอรถวิ่งมา เห็นผู้เฒ่าคนหนึ่งอายุประมาณสักห้าหกสิบปีนี้แหละยืนโบกมือ ฟัง ผู้เฒ่ายืนโบกมือ ท่านสิงห์ทองก็นั่งมาด้วย พวกคนรถเขาพูดกัน โน่นเขาโบกมือแล้วจะรับเขาไหม คนเดียวนั่นจะรับเขาไหม เอ้า รับเสีย ได้ค่าบุหรี่ซองหนึ่งก็เอา ก็เลยปลงใจรับ พอไปถึงก็จอดรถ เอ้า ขึ้น..ลุง โอ๋ย พ่อไม่ขึ้นละ พ่อมาขอไฟจุดบุหรี่ต่างหาก หมดท่าเลย ตกลงก็เลยให้ผู้เฒ่าจุด
ทีนี้รถก็เป็นรถ เขาเรียกรถถ่าน ปีสงครามโลกเป็นรถถ่าน ทำยังไงก็ไม่ติด ผู้เฒ่าว่า โอ๋ย พ่อไม่ขึ้นละ พ่อมาขอจุดบุหรี่ต่างหาก โบกมือให้เขาเอาไฟมาจุดบุหรี่ จะทำยังไงเมื่อมันจนตรอกแล้วก็เลยให้จุด พอให้ผู้เฒ่าจุดบุหรี่สูบแล้วผู้เฒ่าก็ไปขุดสวนอยู่ข้างๆ ทาง ทางนี้ให้จุดบุหรี่แล้วมาติดเครื่องยังไงก็ไม่ติด เครื่องถ่าน เฒ่าห่านี่ละ มีแต่เฒ่าห่านี่ละ ว่าด้วยความขบขันไม่ได้เคียดให้เขาจริงๆ มันเป็นเพราะเฒ่าห่านี่ละ ติดยังไงก็ไม่ติด..รถ คือเป็นเครื่องถ่านไม่ใช่น้ำมัน พอรถเคลื่อนที่ออกไปแล้วก็ชี้มือ นี่ๆ เฒ่าห่านี่ หัวเราะกันลั่น ผู้เฒ่าก็ขุดสวนเฉย มันอดอยากสมัยสงครามโลก คนอื่นเล่าก็พอค่อยยังชั่ว ท่านสิงห์ทองละซี นิสัยชอบตลกชอบเล่น ไปเจอเรื่องนั้นเข้าเลยมาเล่าให้หมู่เพื่อนฟัง
(หมอโรงพยาบาลค่ายประจักษ์ มากราบขอบพระคุณที่ให้รถพยาบาลไปหนึ่งคัน) แล้วมีขัดข้องอะไรบ้างในโรงพยาบาลเกี่ยวกับเครื่องไม้เครื่องมือ (ต้องการเครื่องตรวจจอประสาทตา แล้วก็เครื่องรักษาจอประสาทตาเป็นเลเซอร์ ทั้งสองเครื่อง ๓ ล้านครับ) เอา ให้เลย ระยะนี้กำลังช่วยตา ตานี่เยอะนะ เวลานี้ตาเครื่องมือสำคัญมากมีแต่เครื่องมือดีๆ ของนอกทั้งนั้นๆ กำลังหนาแน่นตา..ช่วยเต็มที่ๆ
(คณะศิษย์จาก อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย ทำหนังสือขออนุญาตสร้างสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชนและถวายแด่หลวงตาเพื่อเป็นสมบัติของสงฆ์ไว้ ณ วัดสิริสมควรวนาราม อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย ประกอบด้วยเสาสูง ๖๐ เมตร เครื่องส่ง ๓๐๐ วัตต์ เบ ๘ รับสัญญาณทางดาวเทียมไทยคม ๒ และจะเป็นสาขาของสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชนจากวัดป่าบ้านตาด ๑๐๐%) มันกี่แห่งแล้ว (อันนี้ก็ ๙๙) ๙๙ แห่งแล้ววิทยุทั่วประเทศไทยกำลังได้ ๙๙ คนขอตั้งขึ้นเรื่อยๆ เพราะวิทยุออกนี้มันกระจายทั่วไปหมด (ทางเคเบิลทีวี อ.สังขละ จ.สุรินทร์ ขออนุญาตเอาเทศน์ของหลวงตาทั้งเสียงทั้งภาพ จากสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน ไปออกเคเบิลทีวีที่ อ.สังขละ จ.สุรินทร์ เพื่อให้ศรัทธาญาติโยมทั้งหลายได้ฟังธรรมะของหลวงตาครับ) เออ ให้
เราพูดจริงๆ นะ ธรรมะของเราที่แสดงให้พี่น้องทั้งหลายฟังนี้ เราแสดงด้วยความไม่สงสัย ด้วยความแจ่มแจ้งในหัวใจ ตามสิ่งที่มีที่เป็นอยู่ยังไง นำสิ่งเหล่านั้นมาพูด ไม่ได้วัดรอย หากเป็นแนวทางของศาสดาที่พาดำเนินมาแล้ว พระพุทธเจ้าแสดงว่าอย่างไร ธรรมของพระพุทธเจ้าที่แสดง นี่ก็แสดงไปตามแถวแนวเดียวกัน ความรู้ความเห็นของพระพุทธเจ้าคือองค์ศาสดา ท่านก็เป็นเต็มภูมิของศาสดา ความรู้ของหนู เราก็เป็นไปเต็มภูมิของหนู เพราะฉะนั้นการแสดงธรรมนี้จึงเป็นความรู้ของหนูตัวหนึ่ง แต่เป็นความรู้ที่ยืนยันตามหลักความจริงของศาสดาที่สอนไว้แล้วเช่นเดียวกัน เราจึงไม่เคยสะทกสะท้านในการแนะนำสั่งสอนโลก สอนได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยตามหลักความจริง ไม่ผิดไม่เพี้ยนไปไหนเลย เพราะฉะนั้นขอให้ผู้ฟังทั้งหลายได้นำไปพินิจพิจารณา
เพราะพวกเราทั้งหลายถูกกิเลสต้มตุ๋นมาเสียมากต่อมากแล้ว มีแต่คนตาบอดหูหนวกไปปิดนรกอเวจีปิดบาปปิดบุญไม่ให้มี ทั้งๆ ที่ศาสดาองค์เอกทุกพระองค์สอนไว้ตามความรู้แจ้งเห็นจริงที่เรียกว่า โลกวิทู รู้แจ้งโลก โลกนอกโลกในตลอดทั่วถึง นำมาสอนโลกตามความสัตย์ความจริง แต่พวกตาบอดกิเลสครอบหัวใจมันแล้ว มันก็บอกว่าสิ่งเหล่านี้ที่พระพุทธเจ้าแสดงไว้นี้ไม่มี ไม่มีๆ นี่ละที่ทำให้โลกหมุนลงทางต่ำตลอดไป เราก็มารื้อฟื้นตามหลักความจริงให้พี่น้องทั้งหลายฟัง ธรรมที่แสดงไปเหล่านี้ไม่ผิด บอกเลย ตรงแน่วต่อความสัตย์ความจริงเลย
ขอให้เชื่อพระพุทธเจ้าเถิด ท่านคือจอมศาสดา ว่าบาปมี บุญมี นรกมี สวรรค์มี ตลอดถึงนิพพาน จนกระทั่งถึงบรรดาเปรตผีประเภทต่างๆ ที่มีเกลื่อนโลกธาตุนี้มี ขอให้พากันระมัดระวัง ออกไปจากสัตว์จากบุคคลจากเราจากท่านที่ทำความดีความชั่วนี้แหละ ผู้ที่ไปสวรรค์พรหมโลกนิพพาน หรือเป็นมนุษย์มีสมบัติผู้ดีมีศีลมีธรรมในใจก็ไปจากพวกเราที่ทำดีนี้แหละ ไอ้พวกไปเป็นเปรตเป็นผีไปจมลงในนรก ก็ไปจากพวกเราที่ชอบทำแต่ความชั่วช้าลามก ไม่เชื่อองค์ศาสดา เชื่อแต่ความตาบอดของตนถ่ายเดียว แล้วก็จมลงๆ ก็พวกเราทั้งหลายนี้แหละ ไม่ใช่พวกไหน
ให้ดูตัวเราเลยทีเดียวที่มีจำนวนมากน้อยเพียงไรไม่ชัดเจน ให้มาดูตัวเรา เวลานี้ความรู้สึกของเราเป็นยังไง มันหมุนไปทางไหน หมุนไปตามทางพระพุทธเจ้าหรือหมุนไปทางนรกอเวจีของเทวทัต ถ้ามันหมุนไปทางนั้นให้รีบฉุดลากกลับมา ไม่เช่นนั้นจมได้ๆ ศาสดาองค์เอกพูดไม่มีคำสองนะ ตรงแน่วต่อความสัตย์ความจริงทุกอย่าง ไอ้เรื่องกิเลสนี้ปลิ้นปล้อนหลอกลวงมาแต่โคตรแต่แซ่ ลูกเต้าหลานเหลนของกิเลสเป็นสกุลต้มตุ๋นโลกทั้งนั้นแหละ ส่วนธรรมพระพุทธเจ้าเป็นสวากขาตธรรมตรัสไว้ชอบแล้วทุกๆ บท ทุกๆ บาท ให้พากันนำไปปฏิบัติ
การที่เรานำมาสอนโลกนี้เราก็สอนด้วยความสัตย์ความจริง เราไม่เคยมีสะทกสะท้าน ซึ่งแต่ก่อนธรรมประเภทเหล่านี้ก็ไม่มีไม่เคยไม่ปรากฏ ก็เนื่องจากการประพฤติปฏิบัติตามสายทาง ที่พระพุทธเจ้าเบิกทางออกไว้ด้วยสวากขาตธรรมตรัสไว้ชอบแล้ว ทางสายนี้ชอบแล้วๆ จะไปสู่จุดที่หมายจุดนั้นๆ ให้เดินตามทางสายนี้ เมื่อเดินไปก็เจอไปๆ เจอไปเรื่อยๆ อย่างนี้ ทางสายนรกก็เจอนรก ทางสายสวรรค์พรหมโลกนิพพานก็เจอ พระพุทธเจ้าท่านสอนไว้แล้วทุกอย่าง ให้เราคัดเลือกเฟ้นเอานะ ตั้งใจประพฤติปฏิบัติ อย่าพากันโลเลโลกเลกหลงไปตามกิเลสตัณหา
กำลังฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมเมืองไทยเราที่เป็นเมืองพุทธแท้ๆ นะเวลานี้ ศาสนาแทบไม่มีในหัวใจ มีแต่เปรตแต่ผีแต่โจรแต่มารแต่ฟืนแต่ไฟเต็มหัวใจ แล้วก็มาอวดตัวว่าเป็นลูกชาวพุทธ นั่นมันลูกชาวผีไม่ใช่ลูกชาวพุทธ ถ้าลูกชาวพุทธให้ฟังเสียงครูคือศาสดาองค์เอก นำไปปฏิบัติตามนั้น เราจะได้มีขื่อมีแปมีที่ยึดที่เกาะเป็นไปเพื่อความสุขความเจริญ ในชาตินี้ชาติหน้าต่อไป เพราะการเกิดตายนี้ไม่หยุด
จิตดวงนี้ละเกิดตายๆ ไม่มีวันหยุด ที่เรียกว่านักท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวคือใจดวงนี้ไม่มีคำว่าตาย ออกจากร่างนี้เข้าสู่ร่างนั้น ออกจากร่างนั้นเข้าสู่ร่างนั้นตามกรรมบาปบุญของตนเองที่มีมากน้อย ถ้ามีบาปมากก็ไปสู่ทางกรรมต่ำ เป็นสัตว์นรกอเวจีเป็นเปรตเป็นผีไป ถ้ามีกรรมดีติดตัวก็ไปสู่ภพสู่ชาติเทวบุตรเทวดาอินทร์พรหมไป นี่ละให้พากันจำเอา พระพุทธเจ้าสอนไว้นี้ตามหลักความจริง อย่าไปลบล้างศาสดาองค์เอกด้วยความตาบอดของเรา มันจะพากันจมกันทั้งโลก จำให้ดี เอาละพอ ที่นี่จะให้พร
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร
FM 103.25 MHz |