ทำไมถึงหยาบเอานักหนาจิต
วันที่ 2 กันยายน 2549 เวลา 8:20 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๙

ทำไมถึงหยาบเอานักหนาจิต

ก่อนจังหัน

         พระเท่าไร (๓๑ ครับผม) พระท่านมาฉันเหล่านี้เพียงมาฉันเล็กน้อยเท่านั้น ท่านไม่ได้ฉันให้อิ่มอะไร สองสามคำไปแล้วๆ บางองค์ก็มาทำให้เสียเวลาฉันสองสามคำไปแล้ว ไม่ฉันเลยไม่ต้องเสียเวลา ทำความเพียร แล้วเราให้โอกาสตลอด องค์ไหนที่อดอาหาร งานการอะไรไม่ให้ยุ่งกับใคร ให้ทำงานของเจ้าของโดยเฉพาะ กิจวัตรความพร้อมเพรียงอะไรนี้ตัดออกหมด ไม่ว่าองค์ไหนอดอาหารไม่ให้ยุ่งทั้งนั้นแหละ ให้สมเจตนาของตนที่เสียสละลงไปแล้วทุ่มกันเลยๆ

โห การฝึกตัวให้เป็นคนดีเป็นของเล่นเมื่อไร โลกจึงไม่อยากฝึกกัน มันไปตั้งแต่ทางเลอะๆ เทอะๆ ลงส้วมลงถานๆ ไปอย่างนั้นนะ จะขึ้นสวรรค์นิพพานไม่ไป สู้ส้วมสู้ถานไม่ได้ เข้าใจหรือ สมัยทุกวันนี้สวรรค์นิพพานสู้ส้วมสู้ถานไม่ได้ พูดสวรรค์นิพพานไม่มีใครเชื่อ ถ้าว่าส้วมว่าถาน ความโลภความได้ไม่พอ นั่นละส้วมถาน อันนั้นพอใจ มีเท่าไรเอามาเอาหมดเลย นี่พวกส้วมพวกถานลูกศิษย์หลวงตาบัวนี้ตัวสำคัญ พวกส้วมพวกถาน ได้เท่าไรไม่พอกินเท่าไรไม่พอ อรรถธรรมไม่สนใจ

การฝึกตนเป็นของเล่นเมื่อไร พระพุทธเจ้าสลบสามหน เขียนไว้ทำไม ถ้าไม่ไว้เป็นคติแก่พวกเรา จากสลบสามหนแล้วเป็นศาสดาเอกสอนโลก นั่นผลเป็นอย่างนั้น เรามีแต่กอนแล้วนินกินแล้วนอนสับปนกันไป หมอนกับเสื่อพันกันไป ไม่เห็นได้เรื่องได้ราวอะไร ไปที่ไหนมองไปมันจะไม่ค่อยเห็นคน ไปข้างหน้าก็เป็นเสื่อ ข้างหลังเป็นหมอนเสีย มันขี้เกียจขี้คร้านประกอบความพากเพียร มีแต่เสื่อแต่หมอนเต็มตัวๆ มีไหมพวกนี้น่ะ เอาเสื่อหมอนมัดติดหลังมาไหม ไปเพื่อความสะดวกๆ สะดวกเพื่อเสื่อเพื่อหมอนนะ สะดวกเพื่อมรรคผลนิพพานมันไม่ไป

         พระท่านอุตส่าห์พยายามมา ฉันจิ๊บๆ แจ๊บๆ หายเงียบ ท่านฝึกท่านทรมานท่าน คือกิเลสมันอยู่ในจิต กิเลสมันดื้อด้านมากจิตจึงเป็นจิตที่ดื้อ ต้องเอาธรรมะเข้าไป ธรรมะมากน้อยกิเลสอ่อนลงๆ ธรรมะมากเท่าไรกิเลสยิ่งพังลงๆ ฟาดขาดสะบั้นไม่มีในหัวใจเลย หมดทุกข์โดยประการทั้งปวง ในสามแดนโลกธาตุนี้ไม่มีในจิตของพระพุทธเจ้า จิตพระอรหันต์ไม่มีทุกข์ตั้งแต่ขณะตรัสรู้ธรรมขึ้นมา ที่เป็นทุกข์ก็คือกิเลส ยอดสมมุติก็คือกิเลส ความโลภ ความโกรธ ราคะตัณหาตัวใหญ่ๆ นี้ละ ตัวมันฟัดพวกสัตว์ทั้งหลายให้จมๆ ไม่เห็นอะไรดียิ่งกว่าสามตัวนี้นะ นี่ละโลกจึงได้พากันจมๆ

พูดแล้วเราสลดสังเวชนะ พระพุทธเจ้าเป็นศาสดาองค์เอกมีตนมีตัวมีแบบมีฉบับทุกอย่าง ไม่มีใครเกินพุทธศาสนา ไม่มีใครเกินพระพุทธเจ้าที่ว่า สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม สรุปแล้วว่าสวากขาตธรรม ตรัสไว้ชอบแล้ว ไม่มีใครที่จะพูดให้ถูกต้องแม่นยำยิ่งกว่าศาสดาองค์เอก สอนโลกนี้ถูกต้องแม่นยำไปตลอดแต่โลกมันไม่ยอมฟังเสียง จึงพากันจมเอาๆ ทั้งๆ ที่ศาสดามีอยู่ต่อหน้าต่อตา มันไม่ฟังเสียงนะ โดดลงหลุมลงบ่อไปเสียทั้งนั้น จึงไม่ได้เรื่องได้ราว

นี่เห็นบรรดาพี่น้องลูกหลานเข้ามาเกี่ยวข้องกับวัดเราก็พอใจๆ บุญเป็นบุญ บาปเป็นบาป นรกเป็นนรก สวรรค์เป็นสวรรค์ พรหมโลกนิพพานเป็นพรหมโลกนิพพาน นี่สดๆ ร้อนๆ นะ ใครเป็นคนสอนไว้ พระพุทธเจ้านะสอน ศาสดาองค์เอกมาหลอกลวงโลกมีเหรอ ให้จำเอานะ ให้นำไปปฏิบัติต่อตัวเอง ไม่อย่างนั้นมันจะไม่ได้เรื่องได้ราวอะไรเลย เขาเหมือนเรา เราเหมือนเขา แล้วจะเอาความดีจากใครไปพึ่งไปพิงใครก็ไม่ได้ มีแต่จะพังด้วยกันแล้วจะพึ่งพิงกันได้อย่างไร ถ้าเขาเอนให้เราตรง อย่างนั้นถึงถูก พึ่งกันได้อย่างนั้น อันนี้มีแต่พวกเอนเพื่อจะล้มๆ ล้มลงเสื่อลงหมอน ถ้าจะไปความดีมันไม่ยอมไปนะ

พอพูดอย่างนี้แล้วทำให้เราระลึกได้มีโยมคนหนึ่งเป็นคติได้เป็นอย่างดี แกพูดในขณะนั้นลักษณะขึงขังตึงตัง แกโมโหให้กิเลสของแก คือเวลาแกไม่สนใจกับอรรถกับธรรม ยังหนุ่มน้อย แกว่าอย่างนั้นนะ อยู่จันท์ ยังหนุ่มน้อยอยู่ เขาเดินผ่านมา เขาจะไปวัด ทีนี้เขาก็ชวนไปวัด ไปไปวัดด้วยกันเถอะ อู๊ย เคียดแค้นให้เขา นู่นฟังซิน่ะ เคียดแค้นเอาจริงๆ ถ้าเป็นอย่างอื่นตามฆ่าเลย แกว่าอย่างนั้น นี่เขาก็ชวนไปวัด แล้วเคียดแค้นให้เขาหาอะไร ลักษณะท่าทางของแกเคียดแค้นให้กิเลสของแกตัวนี้ เวลาแกเห็นโทษแล้ว

อย่างนี้มันก็เป็นนะกิเลส อยู่ใจดวงเดียวนี้แหละ แกว่าอย่างนั้น เวลามันเคียดแค้นให้เขาในทางฝ่ายชั่ว เขาชวนไปวัด แกว่าอย่างนั้น แกออกเรื่อยนะ เขาชวนไปวัด เขาไม่ได้ชวนไปฆ่าไปแกงที่ไหน อย่างนั้นก็ไปโมโหโทโสให้เขา ถ้าชวนไปอย่างอื่นฆ่าเลยแกว่าอย่างนั้น นี่เวลามันหยาบใจดวงนี้ แกว่าอย่างนั้น แกพูดลักษณะขึงขังตึงตังจริงๆ ลักษณะโกรธแค้นให้กิเลสตัวนี้ เวลาเราไปจันท์ เราไปสถานีทดลอง พอทราบว่าเราไปนี้เขาจะไปส่งข่าวให้แก แกจะปุ๊บมาเลย สูอย่าห่วงกูนะ กูจะไปอยู่กับท่านอาจารย์ ท่านอาจารย์กลับเมื่อไรกูถึงจะมา สูอย่าเป็นห่วงกู เท่านั้นมาเลย มาภาวนาของเล่นเมื่อไร ดูจิตคนก็รู้

พอพูดอย่างนี้เราก็ย้อนไปหาท่านสิงห์ทอง พระขี้ดื้อ คุยกันอยู่สองคนนี่ละ แกมาเล่าถึงเรื่องจิตสง่างาม มองดูจิตใครมันรู้หมด แกว่าอย่างนั้น มองดูใจคนอื่นมันก็รู้หมด ใจใครเศร้าหมองผ่องใสอย่างไรรู้หมด ท่านสิงห์ทองพระขี้ดื้อ แล้วใจของอาตมาเป็นอย่างไร ท่านสิงห์ทองนั่งอยู่ด้วยกัน แกก็พูดอย่างตรงๆ ไม่ยิ้มนะ ใจของอาตมาเป็นอย่างไร ใจท่านผ่องใสแต่ยังไม่บริสุทธิ์เหมือนใจท่านอาจารย์ ขึ้นอย่างนี้เลย ทางนั้นแฮ่ๆ ท่านสิงห์ทองขี้ดื้อ ให้ดูใจท่านสิงห์ทอง บอกว่าของท่านยังไม่พ้นแต่ผ่องใสดีอยู่ ไม่เหมือนจิตท่านอาจารย์ แกพูดเฉยนะ นั่นแกดูแกรู้ขนาดนั้น

ถ้าเราอยู่ที่นั่นกี่วันแกไม่กลับบ้าน แกเคียดแค้นให้แกเอง ว่าเขาชวนไปวัดๆ แหม ทำไมถึงหยาบเอานักหนาจิต ให้เอาไปเทียบนะท่านทั้งหลาย จิตชนิดนี้มันเป็นไหมในหัวใจของเราเวลานี้ นี่ผู้เขาเห็นโทษของมันในตัวของเขาเอง เวลายกมันเป็นคุณมันจะตามฆ่าเขาที่เขาชวนไปวัด ทีนี้แกก็มาเห็นโทษของแก มันเป็นได้นะจิตดวงนี้ แกว่าอย่างนั้น โถ กิเลสนี้หลอกคนเก่ง มันเห็นชั่วเป็นดีไปหมดเลย แกว่าอย่างนั้น เอาละพูดเท่านั้นละ จะให้พร

มันหิวข้าวเดี๋ยวฆ่าคนต้มยำอีก ไอ้หยองไอ้ขอดไอ้อะไรถูกฆ่าต้มยำอยู่เรื่อย วันนี้จะต้มยำคนแข่งหมา นี่ออกหมดนะ(ออกวิทยุ) ก็เราไม่มีอะไรกับใคร พูดนี้ไปหมดเลย พูดปั๊บหายเงียบๆ ไม่มีอะไร สมมุติไม่มี ออกเป็นกิริยาสมมุติปั๊บๆ เสร็จพร้อมไปเลย นั่นละจิตเมื่อไม่มีอะไรเข้าไปผ่าน สมมุติไม่มีแล้วกระจ่างอยู่ตลอดเวลา ให้ปฏิบัตินะ เวลามันหมอบมันหมอบนะจิต เอาให้มันมีกำลังวังชา ตีกิเลสขาดสะบั้นลงไปแล้วจ้าครอบโลกธาตุ

พูดอะไรๆ เหมือนจะกัดจะฉีกๆ พลังของธรรมออก ไม่ใช่พลังของกิเลสออก ถ้ากิเลสออกกัดเลย พลังของธรรมไม่มีกัด กัดก็กัดกิเลสต่างหาก ผึงๆ พ่อแม่ครูจารย์มั่นเราก็ไม่อยากวัดรอยนะ ก็เห็นท่านมาแล้ว ถ้าท่านเอะอะขึ้น ใครอยู่ที่ไหนวิ่งมาละ เอาแล้วๆ ที่นี่เอาแล้ว จะได้ฟังยอดธรรม เสียงเปรี้ยงๆ นั่นละยอดธรรมออก มีเท่าไรออกหมดเลย พอได้ยินเสียงเอะอะเท่านั้นใครอยู่ที่ไหนวิ่งเข้าไปละ จะได้ฟังยอดธรรม พลังของธรรมออกจากใจ เพราะกิเลสไม่มี จะทำอะไรก็ไม่มี มีแต่ธรรมล้วนๆ ออกพุ่งๆ เลย

หลังจังหัน

         เรามีโอกาสเราก็ยังจะไปแจกสิ่งของแก่ท่านผู้จำเป็นๆ ต้องการความช่วยเหลือกันทั่วโลก โลกเรานี้ต้องการความช่วยเหลืออย่าว่าแต่มนุษย์ สัตว์ก็ต้องการความช่วยเหลือเหมือนกัน เมื่อพอมีพอเป็นพอไปพอช่วยเหลือได้เราก็ทำอย่างนั้น ดังพระพุทธเจ้าท่านประกาศองค์ศาสดาว่า มหาการุณิโก นาโถ หิตาย สพฺพปาณินํ พระพุทธเจ้าทรงมีพระเมตตากรุณามหาคุณแก่โลก ทำประโยชน์หาประมาณไม่ได้เลย นี่พระนามของศาสดาครอบโลกธาตุด้วยความเมตตากรุณา เป็นอย่างนั้น เรามีน้อยเราก็ให้น้อย มีมากกว่านั้นเราจะทุ่มเลยเชียว

การสงเคราะห์กันเสียหายที่ตรงไหน พิจารณาซิ การเสียสละให้กันไม่มีอะไรเสียหาย มีแต่ความเป็นมงคลมหามงคลต่อกัน จิตใจจะสมานเข้าเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน พึ่งเป็นพึ่งตายเชื่อถือกันได้เลย เพราะอำนาจแห่งความเสียสละ ถ้าความเห็นแก่ตัวแม้ในครอบครัวก็แตกกันจะว่าอะไร ความเห็นแก่ตัวคือความตระหนี่ถี่เหนียว ความเสียสละนี้เป็นสำคัญมาก

(ทูตไทยประจำเวียงจันทน์มากราบ) เครื่องมือตาที่เวียงจันทน์เป็นยังไง เราไปติดต่อเรียบร้อยแล้วก็ลืม ไม่ทราบว่าได้สั่งอะไรๆ วันนั้นหมออ้วนเรานี้ก็ไปด้วย เฉพาะอย่างยิ่งเครื่องมือตาไม่มีเลยจะทำไง ไปถามดูไม่มี ถามอะไรไม่มี โห ทำไงนี่ ก็เวียงจันทน์เป็นเมืองหลวงของประเทศลาว ความจำเป็นมารวมอยู่ที่นั่นหมด เฉพาะอย่างยิ่งตาตื่นขึ้นมาให้ได้เห็นซิ คนตาบอดเต็มศาลามีความหมายอะไร ถ้าคนตาดีง่อยเปลี้ยเสียแข้งเสียขาตาดีมันเห็นไปหมด มีความหมาย ข้ามประเทศเขตแดนไปไหนก็ไปได้คนตาดี คนตาบอดไปไม่ได้นะ นี่ละเราเห็นสำคัญตรงนี้

เวลาถามดูทางเวียงจันทน์ ไม่มี มันยังไงกัน นั่นละเริ่มต้นไปทีแรกก็ขึ้นตาเลย เราถือตาเป็นสำคัญมาก ไม่มีแล้วทำไง เอารายการมาดู ๑๖ ล้าน ให้ปุ๊บเดียวเลย เอา ให้พิจารณาไว้อีกแล้วจะกลับมาอีกเราบอกงั้น ไปเที่ยวที่สองนี้เขาเขียนรายการเรียบร้อยแล้ว ๑๔ ล้าน นี่ก็ตูมเลย ตกลงสองครั้งนี้เรียกว่า ๓๐ ล้านบาทเฉพาะตานะ อย่างอื่นเราไม่มองเราดูตาเสียก่อน นี่ไป ๓๐ ล้านแล้ว ก็ยังติดต่อกับหมอไว้ถ้ามีความจำเป็นอะไรให้ติดต่อมาได้เลย (ตอนนี้เขาขอฝึกหมอก่อนครับ แล้วขาดเหลือค่อยว่าอีกที ให้หมอคุ้นเคยกับเครื่องมือก่อนใช้ให้เป็นก่อน) คือเอาหมอจากทางเวียงจันทน์มาอบรมทางโรงพยาบาลศูนย์อุดรก่อน เครื่องมือมีแต่เครื่องสำคัญทั้งนั้น อย่างดีทั้งนั้น ชุ่ยๆ เราไม่เอา เราขี้ริ้วขี้เหร่ก็ตามเราเห็นสาวสวยๆ เราชอบ ไม่ได้คำนึงว่าเราขี้ริ้วขี้เหร่ เห็นสาวสวยๆ มันยังชอบสบาย ไม่ได้คิดว่าเจ้าของขี้ริ้วขี้เหร่เลย อันนี้ก็เหมือนกันเอาให้ได้แหละ

อย่างไรก็จะพยายามให้ได้เฉพาะที่เวียงจันทน์เสียก่อน คือให้ครบเลย เครื่องมือตาเราจะพยายามให้ครบที่เวียงจันทน์ จากนั้นก็ค่อยกระจายออกไปไม่เป็นไรแหละ ขอให้ได้จุดกลางก็แล้วกัน (ให้ขาดที่จำเป็นจริงๆ แล้วค่อยมากราบครับ) มาเถอะๆ บอกงั้น เราก็ดึงใส่ทางโน้นดึงใส่ทางนี้ ประเทศไทยก็ทั่วประเทศ ดึงไปทางโน้นดึงไปทางนี้ แล้วก็ดึงไปทางเวียงจันทน์ จึงไม่ได้มากนัก บางคนก็ยังว่ามากอยู่นะ ว่าเราไปให้ทางเวียงจันทน์มาก อย่างนั้นมันก็ว่า มันไม่ได้ดูว่าเราช่วยเมืองไทยขนาดไหน พิจารณาซิ ให้เวียงจันทน์เพียงเท่านั้นก็ว่าให้มาก

ใครถามมาวันนั้น คำพูดนี้สกปรกมาก เป็นภัยต่อส่วนรวมเอามากมาย เราสะดุดใจกึ๊กเลย เหล่านี้เราพิจารณาหมดแล้วเราไม่พูด เรื่องสกปรกมันจะมาอย่างนั้นๆ เราคิด แล้วก็แย็บออกมา เข้ากันได้ปุ๊บเลย เห็นไหมความสกปรกของคน มันมีน้อยไป มีมาว่างั้นเลยเรา ทุ่มลงๆ เลยอำนาจแห่งความเมตตา โลกนี่โลกพึ่งกัน มีชาติชั้นวรรณะที่ไหน ความหวังพึ่งกันมีทั่วโลก ครอบโลกธาตุ หวังพึ่งกัน แล้วการให้ความพึ่งพิงซึ่งกันและกันนี้เป็นความเสียหายยังไง นอกจากเป็นมหามงคล ผูกมิตรต่อจิตใจของกันและกัน จนกระทั่งวันตายไม่ลืมกันนะ ไม่ลืม อำนาจแห่งความเสียสละแห่งความช่วยเหลือกัน ความคับแคบตีบตันไปที่ไหนไม่มีใครอยากคบนะ แต่ความกว้างขวางไปไหนไปเถอะว่างั้นเลย ไม่อดไม่จน

มีธุระอะไรบ้างที่มานี่ (มากราบหลวงตาทำบุญ แล้วลูกสาวจะไปเรียนต่อที่อังกฤษเลยพามากราบหลวงตาเจ้าค่ะ) (เขาขอบารมีหลวงตาช่วยคุ้มครองลูกสาวให้ด้วย) บารมีก็คืออย่าขี้เกียจขี้คร้าน นี่บารมีข้อหนึ่ง ข้อหนึ่งอย่าเตร็ดเตร่เร่ร่อน ข้อที่สาม โครงการไปเรียนหนังสือเป็นโครงการอันใหญ่โตของเรา จิตใจของพ่อของแม่มารวมอยู่โครงการนี้ ให้เอาจริงเอาจังตามคำสั่งเสียของพ่อแม่ เก็บรักษาไว้ให้ดี

เดี๋ยวนี้กำลังสั่งเครื่องตา โอ๋ย มากนะ บุรีรัมย์ ๖ ล้าน เพชรบูรณ์ ๔ ล้าน พิษณุโลก ๙ ล้าน ๕ หมื่น นี่กำลังสั่ง อุตรดิตถ์ ๕ ล้าน ๘ แสน กำลังสั่งเวลานี้ เชียงใหม่ ๘ ล้าน ๑ แสน นี้มีแต่ตานะที่ว่านี่ มีแต่ตาทั้งนั้น ตานี่เราสนใจมากทีเดียว ง่อยเปลี้ยเสียแข้งเสียขา เสียอวัยวะส่วนใดก็ตามเมื่อตายังดีแล้วมันไปได้รอบโลกคนเรา ตาดีอยู่ไปได้รอบโลก อวัยวะใดไม่สำคัญยิ่งกว่าตา ตื่นขึ้นมาขอให้ได้เห็น ตาบอดเสียเป็นท่าเป็นทางอะไร เงินกองเท่าภูเขาก็ไม่มีความหมายสำหรับเจ้าของที่ตาบอด เพราะฉะนั้นเราจึงสนใจในตา พยายามช่วยเต็มที่

เงินสำหรับวัดนี้เป็นเงินเพื่อโลกดังที่เขาเขียนไว้ มีเท่าไรออกหมดเพื่อประโยชน์ เพราะผู้จำเป็นๆ รออยู่ตลอดเวลา พอได้มาปั๊บก็ใส่ปุ๊บๆ ที่ไหนบกพร่องเทปั๊วะลงไป อย่างนั้นละ (เพชรบูรณ์เรื่องตา หมอเขาพามาเข้าคิวรอ หกล้านแปดแสน สามรายการ แต่บอกให้รอก่อน อย่าไปแซงเขาไม่ยุติธรรม) เออ แซงคิวมาไม่ยุติธรรม ให้ระงับไว้ก่อน เอาละเป็นธรรมถูกต้อง มันจะได้ทั่วไปละ เราจะพยายามให้ทั่ว คือเราตั้งเป็นจุดๆ จุดนี้ๆ เฉลี่ย กะไว้ระยะนั้นๆ วางนี้จุดหนึ่ง วางนั้นจุดหนึ่ง แล้วจะทั่วไปประเทศไทย ถ้าเรายังไม่ตายยังพอเป็นพอไปอยู่ทั่วประเทศไทย ตอนนี้กำลังขยายออกไป มีเท่าไรก็ทุ่มๆ

มันทุ่มหลายทางด้วยนะ ถ้ามีแต่ตานี่ก็จะกว้างขวางอย่างรวดเร็ว แต่นี้ทางอื่นมันมากกว่าตาอีกที่ช่วย ส่วนมากโรงพยาบาลเป็นอันดับหนึ่ง ที่เราช่วยโลกมานี้โรงพยาบาลเป็นอันดับหนึ่งได้ช่วยมากที่สุด จนกระทั่งถึงพวกโรงพยาบาลต่างๆ เห็นเราไปนี่ โอ๋ย เหมือนกับเขาได้พบพ่อพบแม่รุมกันมาเลย คนนั้นถือบัญชี คนนี้ถือบัญชี บัญชีอะไรฟาดเข้าป่า เราว่าอย่างนั้นเลย คือรู้แล้วมันจะมาขอ สมุดอะไรนั่นปาเข้าป่านู่น เราว่าอย่างนั้น เขาถือสมุดมาเขาจะมาขอ คนนั้นขาดนั้น คนนี้ขาดนี้ แต่ครั้นแล้วก็ได้จริงๆ นะ มันน่าให้เขาถือมาเขาก็ถือ ทางปากหนึ่งว่าปาเข้าป่า ปากหนึ่งอะไรๆ เท่าไร เอาละ เอาไปกินเกือบหมดหรือหมด เป็นอย่างนั้นละ

จึงไม่มีเงินสำหรับวัดนี้เราบอก ไม่มี คือเราไม่มีคำว่าเงินเพื่อเรา บอกได้ชัดเจนว่าเราไม่มี เพราะจิตใจมันครอบโลกธาตุ พอตื่นนอนจิตมันซ่านไปหมดแล้ว วันนี้ไปอย่างไรๆ วันนี้ เกี่ยวข้องกับทางไหนๆบ้าง มันจะคิดของมัน เพราะฉะนั้นวันหนึ่งๆ จึงไม่ค่อยอยู่ ไปที่นั่นไปที่นี่ ช่วยที่นั่นที่นี่ไปเรื่อย วันราชการส่วนมากไปโรงพยาบาล ถ้าวันเสาร์-อาทิตย์มักจะไปตามวัด นี่ก็ช่วยวัดเหมือนกัน ถ้าวันราชการก็ไปตามโรงพยาบาล เมื่อวานนี้ไปโรงพยาบาลไหน (ศรีวิไลครับ) ไกลอยู่นะศรีวิไลใกล้กับบึงกาฬ นี่ก็เอาของไปเทให้ แล้วก็มาเลย ไม่ลงรถนะ ไปโรงพยาบาลไหนไม่ลง นั่งอยู่ข้างบนรถ ไม่ลง โรงพยาบาลสู้รถเราไม่ได้ เราบอกอย่างนั้น คือไม่ต้องปีนขึ้นปีนลงนั่งอยู่นี้สบาย ถ้าจะลงไปโรงพยาบาลต้อง ลงไปนั่ง เดี๋ยวปีนขึ้นเดี๋ยวปีนลงมันจะตาย เอาตรงนั้นแต่ไม่บอก บอกว่าโรงพยาบาลสู้รถเราไม่ได้ ให้เขาไปแปลเอง เราคิดเรียบร้อยแล้ว

เดี๋ยวนี้ให้โรงละสองหมื่นๆ ทุกข์จนขนาดไหนต้องให้ได้โรงละสองหมื่น ที่เราไปเองนะ ที่เขามารับเมือวานซืนนี้ ๗ โรง สูงสุด ๙ โรง ตั้งแต่ที่เขามาติดต่อจากโรงพยาบาลต่างๆ  ที่สูงสุด ๙ โรง ยังไม่ถึง ๑๐ โรง ๙ ๘ ๗ ลงมา เมื่อวานซืนนี้ ๗ โรง ดูซิโรงหนึ่งเต็มรถ ๆ เราจัดให้พอเหมาะพอดีด้วยกัน คือมันมีอยู่สองพัก พักที่ห่างไกล เช่น อุบล โคราช อุตรดิตถ์ ไปทางย้อนหลังให้พิเศษเหล่านี้นะ ไกลออกไปก็ให้พิเศษเหมือนกันไปเลย ถ้าจากนั้นเข้ามานี้ให้ธรรมดา ธรรมดาก็เสมอกันหมด ให้พิเศษ พิเศษให้อย่างไรบ้างก็เสมอกันหมดเหมือนกัน แต่เวลาออกไปก็ให้เติมน้ำมัน  ปั๊มของเรามี เติมน้ำมันรถทุกคัน

อย่างนั้นละเราสงเคราะห์โลก สงเคราะห์จริงๆ จะพูดว่าหาวัดไหนมาแข่งก็ให้มา เราโบกมือใส่เลยให้มา มาแข่งการเสียสละของเรารอบตัวเลย ไม่มีอันไหนที่จะไม่เสียสละ รอบด้านๆ อยู่อย่างนี้ตลอดมา ก็เพราะความเมตตาสงสารโลกนั้นเอง จึงไม่มีอะไรติดเนื้อติดตัว นี่ก็กำลังขึ้นทางภูเขียวอีก หลังหนึ่งสองชั้นตึก ดูเหมือนเก้าล้านกว่า เก้าล้านเศษหลังนี้กำลังขึ้นแล้ว พอพิบูลย์รักษ์-ศรีเชียงใหม่สองหลังขึ้นพร้อมกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทีนี้ก็ไปขึ้นทางภูเขียว นี่กำลังขึ้นทางภูเขียว ตึก ส่วนเครื่องมือแพทย์มาเรื่อย ให้ไปเรื่อย จะเอาอะไรมาเหลือ ก็ไม่มีเหลือ

การพูดทั้งนี้ให้พี่น้องทั้งหลายพิจารณา เฉลี่ยหัวใจต่อกันนะ มีความจำเป็นทุกหัวใจ ใครมีอะไรๆ จะช่วยเหลือกันให้ช่วยกัน อย่าเห็นแก่ความตระหนี่ถี่เหนียว ไม่เกิดประโยชน์อะไร เงินสักกี่ล้านกองเท่าภูเขาคนตระหนี่ถี่เหนียวตายแล้วกองกระดูกก็ไม่ได้นะ เงินก็ไม่ได้ ไม่เกิดประโยชน์ แต่ผู้ที่มีความเสียสละ เสียสละไปเท่าไรเป็นประโยชน์ทั้งนั้นๆ นั่นมันต่างกันตรงนั้น เอาละทีนี้จะให้พร

(มีข่าวดีสำหรับลูกศิษย์ที่รับฟังสถานีวิทยุเสียงธรรมของหลวงตา “ขณะนี้ ทางวัดป่าบ้านตาดได้ทดลองออกอากาศ ส่งสัญญาณแพร่ภาพผ่านดาวเทียมไทยคม 2 ผู้ที่สนใจจะรับชมภาพดังกล่าว รับสัญญาณที่ดาวเทียมไทยคม 2 ความถี่ 3,806 เมกกะเฮิซ (ย่าน C แบนด์) หากสงสัยประการใด กรุณาติดต่อสอบถามได้ที่ สถานีวิทยุเสียงธรรมฯ บ้านตาด หมายเลข 042-292267” คนที่ฟังเสียงธรรมเพื่อประชาชนต่อไปก็จะเห็นภาพหลวงตาด้วยครับ) เห็นไม่เห็นก็เถอะ นู่นน่ะภาพหลวงตามันเต็มอยู่นู่น ไว้หาสะแตกอะไรไม่รู้ เราเบื่อจะตายไปไหนเห็นแต่ภาพหลวงตาๆ เราไม่เป็นบ้าอย่างนั้น เพราะฉะนั้นเลยขวางตาเจ้าของเอง ให้พร

 

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก