เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๔
คนใจบุญหายาก
ชมรมผู้ค้ายาอุดรธานีถวายผ้าป่าเงินสดเป็นจำนวน ๑๒๘,๔๔๐ บาท ทองคำ ๕ บาท ๑ สลึง กรุณาอนุโมทนาทั่วกันนะ (สาธุ) นี่ละกองหนุน ๆ กองบุญหนุนชาติไทยของเรา หนุนเข้าทุกแบบเลยที่จะให้เจริญรุ่งเรืองแน่นหนามั่นคง ต้องหนุนทุกแบบ จากพี่น้องชาวไทยเราทั่วหน้ากัน นายทองดี ประนมศรี ถวายทองคำ ๒ บาท อุทิศกุศลแด่บุตรธิดาผู้ล่วงลับไปแล้ว เอาละเข้าใจ (เจ้านี้ ๖ สลึงครับผม) ๖ สลึงเหรอ ตะกี้นี้ ๕ บาทรวมอีก ๒ บาทเป็น ๗ บาท อันนี้อีก ๑ บาท ๒ สลึง รวมเป็น ๘ บาท ๓ สลึงแล้ว รวมเข้าเรื่อย ๆ แหละเรื่องทองคำ ดอลลาร์ เงินสด จะได้หนุนเข้าชาติไทยของเรา กำลังเริ่มแรก เหมือนว่าตั้งปฐมฤกษ์ขึ้นมาใหม่จากรัฐบาลชุดใหม่นี้ ซึ่งกำลังเริ่มตั้งขึ้นมา
เมื่อรัฐบาลเป็นที่แน่ใจของประชาชนแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะเป็นกำลังของชาติทุกอย่างนั่นแหละ ไม่ว่าการเสียสละ การช่วยกันทุกด้านทุกทาง ขึ้นมาจากการเชื่อถือกัน ถ้าเชื่อถือกันได้แล้วอะไรก็ถึงไหนถึงกัน ถ้าเชื่อถือกันไม่ได้ก็เป็นธรรมดา ทำอะไรก็ยับ ๆ ยั้ง ๆ อะไรไม่แน่ทั้งนั้นแหละ ทั้งจะให้ทั้งจะถอย นี่คือความไม่แน่ใจ ถ้าเป็นที่แน่ใจแล้วตูมเดียวเลย มีเท่าไรทุ่มเลย ๆ นี่คือความแน่ใจ
ร้าน ป.เภสัช บ้านผือ ถวายผ้าป่า ๒๒,๔๘๐ บาท กรุณาอนุโมทนาทั่วถึงกันนะ ใจบุญหายาก ควรอนุโมทนาอย่างยิ่ง ใจบาปไม่มีใครอนุโมทนาแหละ มีแต่สาปแต่แช่งอยากให้มันตายวันละ ๕ คน ถ้ามี ๕ คนอยากให้ตาย ๑๐ คน มีกี่คนอยากให้มันตายหมดทั้งโคตรมันเลย โคตรชั่วอย่าให้มันเหลือติดตัวอยู่ จะทำความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น นั่นละคนชั่วไปไหนทำความเดือดร้อนแก่ผู้อื่นทั่ว ๆ ไปนะ ถ้าคนดีไปไหนทำความร่มเย็นทั่วหน้ากันไปหมด มันต่างกันอย่างนี้นะ แต่โลกมันชอบตั้งแต่ทำความชั่วนะ เผาเจ้าของแล้วก็เผาคนอื่นไปด้วย อันนี้ก็ไม่ขึ้นจากไหนละ ขึ้นจากกิเลสนั่นแหละ โห มันกล่อมเอาจริง ๆ นะ เราพูดเรื่องของกิเลสนี้ แหม เราสลดสังเวชจริง ๆ นะ มันแหลมคมเอาจริง ๆ เพราะฉะนั้นมันถึงได้ครอบโลกธาตุล่ะซี
จิตเวลามันซัดกันนี้ โถ ฟ้าดินถล่ม เอาให้มันเต็มเหนี่ยวเลยว่า ตัวกามกิเลส ตัวนี้ตัวแผลงฤทธิ์มากที่สุดเลย กามกิเลส สัตวโลกนี้ถูกกามกิเลสดึงลงสู่กองทุกข์ ให้ได้รับความทุกข์ อันหนึ่งชอบมาก อันหนึ่งทุกข์มาก มันไปตามกัน กามกิเลสนี้สัตวโลกชอบมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง ในโลกธาตุนี้ไม่มีอะไรเหนืออันนี้เลย อันนี้เป็นเสนาใหญ่ทีเดียว กษัตริย์ได้แก่อวิชชาอยู่ในพระราชวัง ไม่ได้ทำงาน พวกนี้คือพวกเสนาใหญ่ทหารพาลทุกด้านว่างั้นเถอะ เราไม่อยากว่าผ่านศึกแหละ คือไม่มีอะไรจะไปเป็นข้าศึกกับมัน มันปราบเรียบวุธ ๆ เราเปิดให้พี่น้องทั้งหลายฟัง ตัวนี้ตัวรุนแรงมาก ขึ้นเวทีถึงรู้กันนะ โฮ้ พิลึกจริง ๆ นะ ฟ้าดินถล่ม สติปัญญาขั้นนี้เป็นขั้นฟ้าดินถล่ม ถ้าเป็นน้ำก็ไหลโจนลงจากภูเขานี้เสียงซ่า ๆ ๆ มันเป็นของมันเอง คือทางนั้นกำลังมาก ทางนี้ก็ต่างอันต่างกำลังมาก ฟัดกันนี้เหมือนกับว่าฟ้าดินถล่ม ๆ เลยเทียวนะ ขนาดนั้นละพูดให้มันชัดเจน
ตะกี้นี้พูดถึงคนใจบุญหายาก สุดท้ายก็มาถึงกิเลสตัวนี้แหละกล่อม ตัวไหนสำคัญที่สุดก็ขึ้นนี้เลย ตัวนี้สำคัญมากทีเดียวนะ โถ เวลาขึ้นเวทีถึงได้รู้มัน อยู่เฉย ๆ ไม่มีใครสู้ก็ไม่รู้ซี เวลาสู้มันถึงได้รู้ ฤทธิ์มากที่สุด นี่ละตัวออกสนาม ทำโลกธาตุให้หวั่นไหวทั่วหน้ากันหมดในโลกธาตุนี้ โลกก็ชอบมากเสียด้วย ชอบมาก พิษมันก็มากไปตาม ๆ กันเลยทีเดียว หนักมาก เวลาขึ้นเวทีถึงได้รู้กัน ไม่มีอะไรหนักมากยิ่งกว่านี้ บรรดากิเลสทั้งหลายที่ธรรมสังหารอยู่นี้ สังหารยากที่สุดคือตัวนี้ ร้อยสันพันคมอยู่นี้หมด จากนั้นมันก็หลบซ่อนตัว เห็นไหมกลอุบายของมัน ฟาดเสียจนเป็นพระอรหันต์น้อยองค์หนึ่งขึ้นมา เวลามันหลบซ่อนตัว หลบซ่อนไปไม่มีเลย กำหนดยังไงก็ไม่มี เหมือนหนึ่งว่าสามโลกธาตุไม่มีอะไรเหลือเลย เพราะกิเลสตัวนี้มันหมอบ มันไม่ได้หมดนะมันหมอบ
แต่เรื่องสติปัญญามันจะถอยเมื่อไร หมอบอยู่ตรงไหนขุดค้นลงไป ๆ ก็เจอ เจอก็ฟัดกันเรื่อย ๆ เอาจนกระทั่งตัวนี้ถล่มลงไปแล้วเหมือนว่าโลกนี้ดีดขึ้น โลกที่หนัก ๆ ด้วยกามกิเลสนี้ดีดผึงขึ้นเลยทีเดียว ไม่ถึงนิพพานก็ตาม ดีดผึงขึ้นสุทธาวาส ๕ ชั้นเลย อวิหา อตัปปา สุทัสสา สุทัสสี ระดับแรกดีดปึ๋งขึ้นถึงชั้นนี้แหละ ขั้นอวิหา ฟังให้ชัดนะ เปิดออกมาจากหัวใจเราด้วย เราเรียนปริยัติด้วยปฏิบัติด้วย เวลามันเข้าถึงกันมันถึงรับกันปั๊บ ๆ กับปริยัติ ที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้แล้วไม่มีผิดแม้กระเบียดเดียว ไม่มีเลยนะ เวลามันเข้าเจอกันแล้วถึงรู้ ยอมรับ ๆ ๆ พอตัวนี้เข้าเหล่านี้ขึ้น เรียกว่าถ้าสอนก็สอบได้แล้วนับแต่ ๕๐% ขึ้นไปแล้วนี่ เขากำหนดว่าให้สอบได้ขั้นกามกิเลสนี้ก็เรียกว่า ๕๐% นี้ ขนาดนั้นยังฟ้าดินถล่ม นี่ละตัวใหญ่มัน งัดมันออกลงตูมเลย ทีนี้ก็ยังกิ่งยังก้านยังดอกยังใบมัน มันก็ค่อยเหี่ยวแห้งลงไป ก็ชะตัวนั้นล้างตัวนี้ พออวิหา ขาดสะบั้นลงไปแล้ว นี่หมายถึงผู้ที่ไปตามลำดับนะ ผู้ที่เร็ว-เร็วกว่านี้อีกนะ ขาด ๆ เรื่อยไปเลยก็มี ไม่ใช่ว่าขาดทีเดียวไปเลยนะ ขาดพร้อมกันพวกอุคฆติตัญญู พวกขิปปาภิญญานี้ขาดไปพร้อมกันหมด ๕ ชั้น ไปพร้อมกันเลยถึงนิพพานปึ๋งเลย นี่ก็มี นี่เราแยกออกมาตามประเภทของผู้บำเพ็ญ
เรานี่พูดจริง ๆ มันไปทุกกระเบียดเลย ไป ๕ ชั้นนี้เลยว่างั้นนะ ไปทุกกระเบียด เพราะฉะนั้นมันถึงจับได้ตลอดเวลาเลย เราเรียนมาแล้วนี่ แปลนของท่านบอก อวิหา อตัปปา สุทัสสา สุทัสสี อกนิฏฐา นี้เป็นที่อยู่ของชั้นพระอนาคามีผู้สิ้นกามกิเลส คำว่าสิ้นกามกิเลสก็คือว่า ตั้งแต่อันดับแรกที่ฟ้าดินถล่มนี้เข้าอวิหา จากนั้นมันก็หมุนของมันไปเรื่อย ชำระเรื่อย คือมันยังมีมัว ๆ หมอง ๆ อยู่ตามนี้ อันใหญ่มันขาดลงไปแล้ว อันมัว ๆ หมอง ๆ มันยังติดอยู่ ชะล้างไป ๆ อวิหาแล้วอตัปปา ชะล้างไปแล้ว สุทัสสา สุทัสสี ล้างเข้าไป พอถึงขั้นอกนิฏฐา ขาดปึ๊บเลย ปุ๊บแล้วถึงนิพพานปึ๋งเลย เข้าใจไหมล่ะ นั่นละเป็นอย่างนั้น
นี่ละขั้นนี้ขั้นที่ลำบากมากที่สุด เอาจนกระทั่งถึงได้ทดลองกันเสียจน โถ มันไม่ใช่เล่น มันเล่ห์เหลี่ยมร้อยสันพันคม ฟัดกันอยู่นั้น เหมือนว่ามันตายหมดแล้วไม่มีอะไรเหลือ ไม่เอา ๆ อยู่งั้นนะ ต้องให้ตัดสินขึ้นมาอย่างชัดเจน ไม่ตัดสินขึ้นมาอย่างชัดเจนไม่เอา ธรรมไม่ยอม ทางนั้นมันบอกว่าหมด ๆ ทดลองทุกอย่าง น้ำตาร่วง พังลงไปเลยน้ำตามันยอม ไม่เอา นั่นฟังซิน่ะ น้ำตาร่วงก็ไม่เอา ถ้ากิเลสไม่ร่วงน้ำตามันยังจะออกอีก ออกอีกด้วยความทุกข์กับมัน นี้ออกด้วยเข้าใจว่าหมดแล้วจะให้ดีใจ เอามาทดลองอะไรมันก็ไม่ยอม มันยอม ๆ มันน้ำตาร่วง ไม่เอาน้ำตาร่วงแบบนี้ น้ำตาร่วงแบบนี้มันจะเป็นน้ำตาร่วงกองทุกข์ขึ้นมาทีหลังเมื่อไม่รอบคอบ ซัดกันอีกครั้ง งัดกันไปงัดกันมา เอาขึ้นเรื่อย ๆ นั่นเห็นไหมหาวิธี น้ำตาร่วงคราวนี้ใช่แล้ว นั่นเห็นไหมล่ะ เอาละหมดเสียทีหนึ่ง มันชัดอย่างนั้นซี แล้วไปถามใครวะ ไม่มีใครนั่นก็ตาม สามโลกธาตุไม่เคยหวั่นกับใครเลย รู้องค์เดียว พระพุทธเจ้าตรัสรู้องค์เดียวผางนี่ ทั่วแดนโลกธาตุกระจ่างแจ้งหมดเลย ถามใคร นอกนั้นมีแต่คนตาบอดไปถามหาใคร นั่นเห็นไหมล่ะ
ทีนี้เวลามันไปเต็มเหนี่ยวของมันแล้วถึงทราบได้ชัดนะว่า เรื่องโลกธาตุที่หนักมากนี้ตัวนี้ตัวกดตัวถ่วงลงที่สุดเลย พอตัวนี้ดีดผึงขึ้นเท่านี้โลกนี้มันว่างไปหมดเลย เหมือนบ้านร้างฟังซิน่ะ เหมือนบ้านร้างแต่ยังมีคนอยู่ บ้านร้างทำไมมีคนอยู่ เหมือนบ้านร้างคือว่า ตัวอันธพาลตัวนักเลงโตนี้มันพังลงไปหมดแล้ว คนชั่วในหมู่บ้านนั้นมันพังลงไป ถูกฆ่าพินาศฉิบหายหมดแล้ว ที่ว่าเหมือนกับบ้านร้างก็คือว่า พวกอันธพาลนี้มันพังลงหมดแล้ว ตายหมด แต่ยังมีคนอยู่ ทีนี้คนก็มีแต่คนดิบคนดี จิตใจประเภทนี้มีแต่จิตใจเป็นธรรมล้วน ๆ ที่จะขึ้นเหล่านี้ เรียกว่าเหมือนว่ามีคนอยู่ จิตใจนี่เป็นเรื่องของธรรมล้วน ๆ เรื่อยไปเลย ไม่มีตัวกดถ่วงนี้เข้าไปยัน เข้าใจไหมล่ะ ตัวนี้พังแล้วโลกธาตุนี้เหมือนดีดขึ้นอีกทีเดียว จากนั้นมันก็ว่างไปหมด เอ้า ว่างไปหมด ว่างตัวไหนก็ว่าง ว่างเข้าไป ๆ สุดท้ายมาว่างที่หัวใจเสียอย่างเดียวผาง ทีนี้หมดเลย ถามหาทำไมนิพพานว่างั้นเลย นั่นเห็นไหมล่ะ
พระพุทธเจ้าประกาศไว้แล้วว่า สนฺทิฏฺฐิโก ให้รู้ด้วยตนเองนั้นแหละเป็นที่แน่นอน เวลามันผางขึ้นมานี้ทูลถามพระพุทธเจ้าหาอะไร ถ้าทูลถามพระพุทธเจ้าว่าใช่ไหม ก็แสดงว่า สนฺทิฏฺฐิโก ที่ประกาศไว้นี้ไม่มีความหมายใช่ไหมล่ะ นี่คือความหมายอันใหญ่โต พอรู้ขึ้นมาแล้วมันกระจ่างไปหมดเลย ถามหาใครที่ไหนวะ นี่ตัวนี้ตัวหนักมาก โลกที่ทุกข์มากเพราะตัวนี้เอง มากที่สุด มันกดมันถ่วงมันผลักมันดันทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งความรื่นเริงบันเทิง ความหวังนี้ก็เอาไปตามกันเลยนะ ดึงไป ๆ ความหวังดึงไป ทีนี้กองทุกข์ก็หนุนไปเรื่อย ๆ นี่ละกองทุกข์มาก พออันนี้ขาดลงไปแล้วก็หมด
นี่เราพูดถึงเรื่องว่าเราเรียนปริยัติ มันถึงได้เทียบกันอย่างชัดเจนเลย เทียบกับภูมิจิตที่มันเป็นนี่ ๆ มันเข้านี้เวลาตายนี้ไปไหนมันบอกแล้วอยู่ในนั้นเสร็จ ๆ เป็นลำดับ ๆ พอถึงขั้นมันผึงแล้วก็หมดปัญหา สมมุติโดยประการทั้งปวงหมดเลย นิพพานว่าอะไรอีก นั่น นี่ละธรรมของพระพุทธเจ้าเลิศเลอ มีผู้ปฏิบัติตามเป็นอย่างนี้ ไม่ว่าบาปว่าบุญมีผลสมบูรณ์แบบตามเดิม ใครอย่าไปหลงกลอุบายของกิเลสนะ ให้ฟังเสียงธรรมของพระพุทธเจ้า เสียงของกิเลสสกปรกมอมแมม รีดไถกดขี่บังคับทุกอย่าง ร้อยสันพันคมอยู่กับกิเลสหมด ไม่มีอะไรเกินกิเลส ร้อยเล่ห์ร้อยเหลี่ยมร้อยสันพันคม เรื่องจริงจังไม่มีอะไรเกินธรรมพระพุทธเจ้า ตรงไปตรงมา ท่านสอนว่ายังไงเป็นอย่างนั้น ๆ
บาปมีบุญมีให้พากันระวัง ให้ระวังบาปนะ สร้างบาป กิเลสมันหลอกว่าบาปไม่มี นั่นหลงกลมันแล้วนะ ไปสร้างบาป-บาปขึ้นแล้ว ๆ สร้างบุญ-บุญขึ้นแล้ว เมื่อมากเข้า ๆ บาปก็พาจมลงในนรก ไม่เคยเห็นก็ตามเถอะนรก บาปพาไปเอง บุญไม่เคยเห็น สวรรค์ พรหมโลก นิพพานก็ตาม พาไปเองไม่ยากเลย กรรมพาไป กรรมพามา กรรมพาเกิด กรรมพาอยู่ กรรมพาสุข กรรมพาทุกข์ กรรมพาไปให้พ้นจากทุกข์คือกรรมดี พากันจำเอาทุกคน ๆ
นี่ได้เปิดธรรมะประเภทหนึ่งให้พี่น้องทั้งหลายฟัง เรื่องเกี่ยวกับนี้ ไม่มีใครมาพูดอย่างนี้ หรือไม่มีใครปฏิบัติ หรือไม่มีใครรู้ก็อาจเป็นได้ นี่ปฏิบัติ เรียนก็เรียนมาเสียจน โฮ้ สมองทื่อเรียนก็ดี ซัดเต็มเหนี่ยว ๆ ก็ว่าทุกข์แสนทุกข์ เวลามาฟัดกับกิเลสนี้ จึงไม่มีอะไรเกินในโลกนี้ เรื่องการฆ่ากิเลสเป็นงานที่หนักมากที่สุด เอาชีวิตเข้าแลกเลยเชียว กิเลสไม่ตายเราต้องตาย ถึงเรียกว่างานหนักมากที่สุด แล้วผลของงานที่หนักมากก็เลิศเลอที่สุดหาที่ตำหนิไม่ได้แล้ว พูดอย่างไม่สะทกสะท้านเลย มันเต็มอยู่ในหัวใจจะสะทกสะท้านที่ไหน ก็ธรรมเต็มหัวใจ ใจกับธรรมเป็นอันเดียวกันแล้ว ธรรมทั้งแท่งอยู่กับใจทั้งดวง แล้วอัดอั้นตันใจที่ไหน ติดอะไรว่างั้นเลยนะ
โลกอันนี้ติดกิเลสอย่างเดียวเท่านั้น เมื่อไม่ติดกิเลสไม่มีอะไรติด จะติดอะไรก็ตาม เจ้าของไม่ติดเจ้าของเสียอย่างเดียวผ่านได้หมดเลย นี่ธรรมเป็นอย่างนั้นนะ พี่น้องทั้งหลายพากันอุตส่าห์พยายามนะ สร้างบุญสร้างกุศล บุญกับบาปจะติดจิตไปนะ บุญกับบาปจะติดไปกับจิต ตัวนี้ไม่พรากจากกันกับจิต ส่วนวัตถุเงินทองข้าวของนี้ก็อยู่กับเรานี่แหละ ว่าเรามีอันนั้นเรามีอันนี้ เขาก็เป็นแร่ธาตุต่าง ๆ อยู่นี้แหละเห็นไหมนี่ อย่างศาลานี่หลวงตาบัวมีศาลาก็ว่าไป พอหลวงตาบัวตายเท่านั้นศาลาหมดความหมายเลย พอหลวงตาบัวหมดความหมาย ศาลาหมดความหมาย ไม่ติดตามเราได้นะสิ่งเหล่านี้ แต่บุญบาปนี้ติดปั๊บเลย
เช่นอย่างความบริสุทธิ์นี้ ตายเมื่อไรก็ตายเถอะ แน่ะ ก็มันบริสุทธิ์อยู่แล้วจะไปไหน ถ้ามีบาปมีบุญมากน้อยมันก็ติดอยู่แล้วในนั้นจะให้ไปไหน เพราะฉะนั้นจึงต้องให้ระวังทุกคน อย่าเชื่อง่าย ๆ นะเชื่อกิเลสตัณหา มันพาโลกให้ล่มจม ไปที่ไหนทุกหย่อมหญ้าหาความสุขไม่ได้นะ ไปถามใครก็ตาม เป็นยังไงสบายดีเหรอ มันสบายตายอะไรขึ้นมาทันทีเลย ก็ความทุกข์มันอัดอั้นตันใจอยู่ในหัวใจไม่ระบายออกมาเฉย ๆ มันไฟอยู่ในหัวใจนั่น ไฟกิเลสในโลกมนุษย์เรา ไฟกิเลสมันเผาอยู่ในหัวใจ พอโลกผี ร่างกายนี้ไปแล้วมีแต่ไฟของโลกผีล้วน ๆ เผาตลอดเลย ลงนรกอเวจี ไปได้หมด กรรมพาไป กรรมดีกรรมชั่วไปได้หมดนั่นแหละ วันนี้ก็พูดเพียงเท่านี้นะ ต่อไปนี้จะให้พรบรรดาพี่น้องทั้งหลายที่มาบริจาคทานวันนี้ เพื่อหนุนเข้าชาติไทยของเรา เอาละให้พรเสียก่อน
เปิดดูข้อมูล วันต่อวัน ทันต่อเหตุการณ์ หลวงตาเทศน์ถึงเรื่องอะไร
www.luangta.com |