อะไรเป็นอุปสรรคเวลานี้
วันที่ 16 สิงหาคม 2549 เวลา 8:10 น. ความยาว 34.52 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๑๖ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๔๙

อะไรเป็นอุปสรรคเวลานี้

         เมื่อวานนี้ไปภูเขียว ไปถามดูตึกดูอะไรต่ออะไร ก่อนหน้านี้เขามาติดต่อที่นี่ เมื่อวานเลยไป ก็ยังไม่ได้แน่ใจนัก ดูว่าเขาเอาแปลนมาที่นี่แล้ว เราจะดูแปลนตามหลัง ทีหลังว่างั้นเถอะ มีอะไรจะค่อยติดต่อกัน บอกเขาอย่างน้น เมื่อวานดูว่าสั่งจ่ายมากอยู่นะ หลายล้านหลายแห่ง เราให้ๆ พอพูดขาดคำลงก็ให้ๆ คือพูดออกมาเข้าใจๆ เหตุผลพร้อมๆ ที่ควรจะให้ให้เลย ที่จะต้องมาวินิจฉัยก่อนก็ยังไม่ให้ ถ้าเข้าใจเรียบร้อยแล้วเป็นที่แน่ใจ ควรให้ก็ให้เลยๆ ภูเขียวหมอตั้งสิบคน อำเภอภูเขียว จ.ชัยภูมิ หมอตั้งสิบคน

พอเห็นเราไป โอ๋ย อยู่ที่ไหนรุมมาหมดนะ ไปทีแรกว่างๆ อยู่ พอเปิดประตูเท่านั้น โอ๋ย ไม่ทราบมาจากไหน แตกฮือๆ มา ทั้งหมอทั้งพยาบาลแล้วพวกนั้นก็รุมมาด้วยกัน เราก็เลยตั้งปัญหาขึ้น อย่างนั้นละเวลาจะทำ เขารุมเข้ามาๆ บางคนถือเงินยื่นเข้ามาก็มี เออๆ เอามาๆ พอดีแหละกำลังหิวโหย ตั้งแต่เช้ามาจนกระทั่งป่านนี้ยังไม่ได้เงินสักบาทติดมือเลย เอามาๆ บทจะเอา เขาเอาถาดมา ก็ว่าเอามาๆ กำลังหิวเงิน บทเวลาจะเป็นเป็นอย่างนั้น โอ๋ รุมใหญ่เลยเมื่อวานนี้ คนนั้นยื่นมาคนนี้ยื่นมา เอาถาดอะไรมา เออ เอามาๆ กำลังหิวมากเวลานี้ ตั้งแต่ตื่นเช้ามานี้ยังไม่ได้เงินสักบาทเลย มันควรจะได้วันนี้ เขาก็รุมกันเลย ขบขันดี

เขาเอาถาดมาใส่เต็ม เราพูดเหมือนจะเอาจริงเอาจัง หิวเงิน ตั้งแต่เช้ามาจนกระทั่งป่านนี้ไม่ได้เงินติดมือสักบาทเลย จะตายแล้วนะ ว่างั้น คนนั้นมาคนนี้มา พอมามากๆ แล้วเงินเราก็ออกด้วยกัน พอเสร็จเรียบร้อยแล้วเงินเราที่เคยให้ประจำโรงพยาบาลสองหมื่นก็วางทับถาดเลย ถาดที่เขาเอาเงินมาบริจาค เอาเงินสองหมื่นเราวางทับเลย เอาๆ ไป เอาไปหมดไม่ต้องนับ ไปนับกันเอง เราหิวเรากินอิ่มแล้วเราจะกลับ คือเขาบริจาคเรากินอิ่มแล้ว ให้โรงพยาบาลไป เราอิ่มแล้วจะกลับแล้ว อย่างนั้นนะ

เวลาหิวก็พิลึกพิลั่น สักเดี๋ยวอิ่มแล้ว ได้หลายพันอยู่เมื่อวานนี้ เพราะเราทำท่าจริงๆ นี่นะ กำลังหิวเงิน มา ตั้งแต่ตื่นนอนมานี้ยังไม่ได้เงินสักบาทเลย เอามาๆ มันก็รุมใหญ่ละซิ เขาเข้าใจจริงๆ กับคำตลกของเรา จะว่าโกหกก็ไม่โกหก ตั้งแต่ตื่นนอนมานี้ยังไม่ได้เงินสักบาท ก็ไม่ได้จริงๆ กำลังหิว เอามาๆ  มันก็รุมใหญ่เลย พอเงินเต็มถาดแล้วก็เอาเงินของเราลงทับปุ๊บเลย เอา พยาบาลเอาไปนับเอง เราก็เปิดเลย

เราพอใจทำอะไรเพราะอำนาจความเมตตา ชื่นใจนะ หมดยังไม่สนใจ ถ้าไปสนใจเรื่องหมดเรื่องยังนี้ทำไม่ได้ นี้มีแต่จะให้ๆ จึงทำได้ ไม่ได้คำนึงว่าหมดว่ายังอะไรเลย มันหากเป็นของมันเอง ไปทุกวันๆ ช่วยโลกเราช่วยทุกวันๆ

เรื่องธรรมะนี้รู้สึกจะออกกว้างขวางมากนะ ทั่วประเทศไทยเรานี้ ๙๐ กว่าแห่งวิทยุ เวลานี้ดูเหมือน ๙๐ กว่าแห่งแล้ววิทยุ มีขึ้นมาเรื่อยๆ ตั้งขึ้นมาเรื่อยๆ โห ตั้งแต่เกิดมาไม่มีอรรถมีธรรมเข้าสู่หูสู่ใจเลยนี้อาภัพมากนะมนุษย์เรา ตั้งแต่เกิดมาไม่มีอรรถมีธรรมเข้าสู่หูสู่ใจเลย มีแต่กิเลสตัณหาอันเป็นฟืนเป็นไฟเผาไหม้ทุกหัวใจเลย น้ำดับไฟคือศีลคือธรรมไม่มีแล้วอยู่ได้ยังไง พิจารณาซิ ก็เหมือนกับสัตว์ที่เขาขังเอาไว้ รอวันเขาจะลากออกไปฆ่า เป็นอย่างนั้นละคนไม่มีความดีงามทั้งหลายก็เหมือนสัตว์ถูกขังเอาไว้ พอตายปุ๊บยมบาลก็เอาไปเลย

ยมบาลๆ ไม่ใช่อะไร กรรมของเจ้าของแสดงตัวเป็นยมบาลมาทำลายเจ้าของเอง เราอย่าไปเข้าใจว่ายมบาลมาจากที่ไหนๆ เกิดจากเจ้าของ ความชั่วของเจ้าของกลายมาเป็นยมบาลสังหารเจ้าของ ให้พากันเข้าใจ พระพุทธเจ้าพูดคำไหน อย่าว่ารับสั่งเถอะ ว่าพูดคำไหนมันถึงถึงใจดีใช่ไหมล่ะ ไม่มีผิดมีพลาด พวกเราถ้าลงเชื่อศาสดาไม่ได้แล้วหมดนะ หมดวาสนาจริงๆ ใครอย่าโอ้อย่าอวดว่ามีอำนาจวาสนาบารมีมาจากไหน ถ้าลงไม่เชื่อพระพุทธเจ้าแล้วอาภัพสุดยอดเลย ในโลกทั้งสามนี้เขากราบพระพุทธเจ้าพระองค์เดียวเป็นที่หนึ่ง นอกนั้นเขาไม่ได้กราบกัน และเป็นผู้พ้นสมชื่อสมนามที่เขากราบเสียด้วย เป็นพระวาจาที่ศักดิ์สิทธิ์ออกมาจากพระทัยที่บริสุทธิ์ด้วยธรรมอันเลิศเลอล้วนๆ อยู่ภายในใจนี้

พวกเราได้มาฝึกทรมานนี้อย่าเอาบ้านเอาเรือน เอาสมบัติเงินทองข้าวของ ความเหลือเฟือในบ้านในเรือนมาอวดผู้ปฏิบัติธรรมในวัด มาอวดวัดมาอวดธรรมนะจะจม จะทำให้เจ้าของอ่อนแอ มาอยู่ที่นั่นก็ขาดเขินที่นี่ขาดเขิน อยู่ในบ้านเราไม่เห็นมีอะไรขาดเขิน เหลือเฟือ นึกอะไรได้อันนั้นๆ อันนี้มีแต่ขาดๆ เขินๆ กิเลสจะมาแหย่เข้าตรงนี้แล้วใจอ่อน โอ๊ย กลับบ้านเสียดีกว่า แล้วปฏิบัติธรรมไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ให้เอาพระพุทธเจ้าขึ้นมาเป็นครูเอกทันทีเลย

พระพุทธเจ้าเสด็จออกจากพระราชวังดูซิน่ะ ตำรามี บอกได้อย่างชัดเจน เวลาจะไปพระบารมีนี้ก็สมมักสมหมาย พร้อมทุกอย่างเลย ธรรมดาจะเป็นอย่างนั้นไม่ได้ วันนั้นพวกสนมทั้งหลายในพระราชวังเต็ม ทุกวันขับกล่อมบำรุงบำเราให้พระองค์มีความสำราญบานพระทัย  บรรทมสะดวกสบาย แต่วันนั้นมองดูนี้เป็นป่าช้าผีดิบไปหมด ใครอยู่ที่ไหนทั้งร้องทั้งครางก้อกๆ แก้กๆ ทั้งกรนทั้งครวญทั้งครางทิ้งเนื้อทิ้งตัวเหมือนป่าช้าผีดิบ มองที่ไหนไม่น่าดูเลย ท่านเตรียมจะออกแล้วพระบารมีพร้อม เสด็จออกเงียบเลย นั่นเห็นไหม ท่านตัดพระทัยเหมือนว่าขั้วหัวใจจะขาด

พระชายาพระนางพิมพา พระราหุลก็อยู่กับอกแม่ จะไปชมลูก ลูกก็เกิดวันนั้นเสียด้วย จะไปชมลูก ลูกก็ติดอกแม่ ถ้าไปชมลูกแล้วแม่มันคว้าใส่คอแล้วตายเข้าใจไหม เลยไม่ไป ตัดสละความเสียดายความห่วงใยออกหมด เสด็จออกไปกลางคืน มีฉันนอำมาตย์ติดตามกับม้าไปเท่านั้น แล้วประตูเปิดอ้าๆ มันบันดลบันดาล นี่ละเรื่องธรรมเราอย่าเอาเรื่องกิเลสตัณหามาคาดมาวัดมาตวง มาเทียบมาเคียงไม่ได้ เรื่องธรรมเรื่องกรรมสุดวิสัยที่จะคิดทั้งนั้น จึงว่าธรรมเหนือโลก ธรรมเหนือโลก กรรมก็เหนือโลก กรรมกับธรรมไปด้วยกัน ให้ระมัดระวังให้ดี

พระพุทธเจ้าเสด็จออกทรงผนวช ก็ทรงเป็นกษัตริย์ เสวยทุกอย่างอะไรๆ สะดวกสบายทั้งนั้น แล้วเสด็จออกทรงผนวชนี้ไปหาขอทานเขากินตามสถานที่ต่างๆ ที่เขามีการให้ทาน ในเวลานั้นยังไม่มีพุทธศาสนาด้วย เขาก็ให้ทานตามประเพณีของเขา ได้มาจะเสวยก็จะเสวยไม่ลง เพราะของในพระราชวังกับของที่เขาให้ทานมามันเข้ากันไม่ได้ ท่านพูดในตำราว่า ลำส้งลำไส้ขดโขไปหมดจะรับไม่ได้ พระองค์ก็เอานั้นละจี้เข้าไปเลย ในลำไส้เรานี้มีอะไรสกปรกยิ่งกว่านั้น เหล่านั้นจะว่าสกปรกได้ยังไง อันนี้สกปรกยิ่งกว่านั้น นั่นเห็นไหมท่านสอนเจ้าของ ทำไมจะรับไม่ได้ รับลงไปนี้มีกำลังวังชา

นั่นละท่านทนทรมานเอา จะเสวยไม่ได้ก็ฝืนเอา เอาความสกปรกภายในร่างกายนี้เทียบกับสิ่งเหล่านี้ สิ่งเหล่านี้ดีกว่าของภายในร่างกายของเรา ทำไมจะรับไม่ได้ นั่นเห็นไหมล่ะท่านสอน นั่นละศาสดาองค์เอก สอนตั้งแต่ที่จะฉุดจะลากตัวออก ไม่ได้สอนที่จะลากเข้าไป อันนี้ออกมาจากบ้านจากเรือนแล้ว มีเงินมีทองมีข้าวมีของสมบัตินั้นนี้เหลือเฟือที่จะใช้ ออกมานี้มีแต่ขาดๆ เขินๆ ทำใจให้อ่อนแอแล้วนั่น กิเลสตามกล่อมแล้วมันก็ลากคอกลับไปบ้าน ไปตายกองกันเหมือนโลกทั่วๆ ไป ไม่มีความดีติดเนื้อติดตัวเลย เลว นั่นเห็นไหมล่ะกิเลสหลอกไปลงความเลว

พระพุทธเจ้าว่าเป็นยังไง นั่นละเอาธรรมเข้าไปกล่อม พระพุทธเจ้าเสด็จออกทรงผนวชเหมือนเทวดาตกจากสวรรค์ลงแดนนรกนั่นเอง แล้วเป็นศาสดาของโลก ก็นี่เราจะตามศาสดามันจะเลวไปที่ไหน พระองค์มีความทุกข์ยากลำบากขนาดไหนยิ่งกว่าเราพระองค์ยังผ่านไปได้ เราจะมางอแงอยู่ได้ยังไงให้กิเลสกล่อมใจได้หรือ เอาซิศาสดาเดินยังไงเราเดินอย่างนั้น เอ้า ทุกข์ก็ทุกข์ ทุกฺขสฺสานนฺตรํ สุขํ ทุกข์เสียก่อนแล้วค่อยเป็นสุขทีหลังนี้เลิศเลอ เอาความสุขเสียก่อนแล้วความทุกข์ตามมาทีหลังนี้จม นั่นมันต่างกัน พระองค์ก็ออกได้

เพราะฉะนั้นเวลาเรามาเราเอาปัจจุบันธรรม เอาความดีงามมาจ้าอยู่ข้างหน้า อย่าเอากิเลสมันหลอกมาไว้ข้างหน้ามันจะลากย้อนหลัง ทำอะไรก็อ่อนแอท้อแท้เหลวไหล นี่จะอ่อนลงๆ สักเดี๋ยวไม่เป็นท่า ต้องบืน พระพุทธเจ้าบืนหน้าเรื่อย สาวกทั้งหลายบืนหน้าเรื่อยไป บรรดาสาวกที่ได้เป็น สรณํ คจฺฉามิ ของพวกเราเป็นสรณะของพวกเรานี้เป็นพระเจ้าแผ่นดินน้อยเมื่อไรเสด็จออกทรงผนวชเข้าป่า เข้าป่ามีอะไรก็แบบเดียวกับศาสดานั่นแหละ เสด็จออกบวชแล้วก็เป็นคนขอทานไปด้วยกันหมด ไม่สนใจไยดีกับสิ่งใด เวลานี้เราสละสิ่งนั้นมาแล้ว เราเคยอยู่เคยเสวยมาแล้ววิเศษวิโสอะไร ธรรมต่างหากวิเศษวิโส เรามาหาธรรมทำไมจะเห็นว่าสิ่งเหล่านั้นวิเศษวิโสยิ่งกว่าธรรมจะจมนะนั่น พลิกเข้าไปได้เลย

บรรดาพระมหากษัตริย์ที่เสด็จออกทรงผนวชเป็นสรณะของพวกเรา มีน้อยเมื่อไร เพราะท่านตัดขาดสะบั้นไปเลย ออกมาจากความเป็นกษัตริย์แล้วเป็นคนขอทานมุ่งต่ออรรถต่อธรรม ธรรมเลิศเลอยิ่งกว่าอะไรในโลกนี้ มุ่งต่อธรรมแล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็เบาบางไปหมดไม่มาเป็นอุปสรรคได้ ถ้าเราเอาสมบัติเงินทองข้าวของยศถาบรรดาศักดิ์เข้ามาขวางแล้วไปไม่ได้จม ถ้าเอาธรรม ธรรมเลิศกว่าสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดเข้ามาให้ใจได้ชมแล้วบืนเลยที่นี่ บืนได้ ไปได้ ผ่านได้ นั่นให้คิดอย่างนั้น อย่าคิดทางอ่อนแอ ถ้าคิดทางอ่อนแอจมทั้งนั้น

เรามาฝึกตัวของเรา อะไรเป็นอุปสรรคเวลานี้ อุปสรรคต่อความดีงามของเราคืออะไรปัดออกๆ อันใดที่จะเป็นความดีงามก็คือธรรม ธรรมนี้เลิศเลอไม่มีอะไรเสมอแล้วคว้าใส่นั้นเลย เอ้า เป็นกับตายคว้าใส่ธรรมๆ นั่นไปได้ ให้พากันจำเอา ต้องฝึกหัดอย่างนั้นฝึกตนเอง จะเอาอย่างอื่นอย่างใดที่ไม่เป็นท่าเป็นทาง เป็นแต่กิเลสหลอกลวงเอามาอวดเป็นของดิบของดีแล้วหลงไปกับเขาแล้วจมนะ ต้องดีดต้องดิ้นเสมอ

พระพุทธเจ้าทรงเป็นตัวอย่างทุกแบบทุกฉบับ ตั้งแต่เสด็จออกทรงผนวชก็ใครทำได้เห็นไหมล่ะ พระองค์ยังทำได้ ทุกอย่างทำได้ เวลาจะไปก็พระบารมีสูงส่งสุดขีดแล้วเปิดทางอ้าให้เลย ในพระราชวังเครื่องขับกล่อมบำรุงบำเรอกลายเป็นป่าช้าผีดิบไปหมด ร้องครวญคราง อือๆ อาๆ อยู่ทุกแห่งทุกหน มองไปแล้วดูไม่ได้ฟังไม่ได้ ทุกวันไม่เป็นอย่างนี้แล้ววันนี้ทำไมจึงเป็นอย่างนี้ ยิ่งเพิ่มความสลดสังเวช แล้วดีดผึงเลย นั่นเป็นอย่างนั้น ประตูพระนครใครรักษาไว้ประตูมีกี่คน วันนั้นมันสลบไหลไปหมดอำนาจบารมีกล่อมมันให้หลับไปหมด เสด็จออกทรงผนวช เป็นอย่างนั้นละพระพุทธเจ้า จนได้ตรัสรู้ขึ้นมา

ทรงพระบำเพ็ญอยู่แทบเป็นแทบตายเป็นเวลา ๖ ปีจึงได้ตรัสรู้ นี่ละที่เป็นศาสดาของโลก พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ ที่ปรากฏมาจนกระทั่งทุกวันนี้ออกจากความตะเกียกตะกายของศาสดาองค์เอกนั้นแหละ ไม่ใช่ออกไปด้วยความรื่นเริงบันเทิงอะไร ให้ถือมาเป็นคติตัวอย่าง อย่าเอาสิ่งต่ำเข้ามาเทียบเข้ามาเป็นตัวอย่าง ให้เอาสิ่งที่สูงเข้ามาบืนใส่ๆ นี่เราก็เคยพูดให้ฟัง ใจนี้สำคัญมาก ถ้าลงได้พลิกไปทางไหนแล้วมันเด็ดนะ ใจนี้เมื่อมีสิ่งที่เข้าไปแทรกซึมภายในใจซึ่งเป็นฝ่ายดีแล้วใจนี้จะดีไปทุกระยะๆ อุปสรรคอะไรๆ มากีดขวางไม่ได้ปัดขาดสะบั้นไปเลย ใจจะพุ่งๆ เลย ต่อธรรมคือแดนพ้นทุกข์ที่เลิศเลอสุดยอดแล้ว จิตพุ่งๆ นั้น แล้วอะไรเข้ามาเป็นอุปสรรคไม่ได้ ทุกข์ยากลำบากยากเย็นเข็ญใจขนาดไหนไม่สนใจ มีแต่จะเอาธรรมให้ได้อย่างใจหวังๆ ผ่านได้

ให้พากันตั้งอกตั้งใจ อย่ามาอ่อนแอท้อแท้ มาวัดมาวานี้เลยกลายมาเป็นสั่งสมกิเลสไปเยอะนะ ไม่ได้มาบำรุงอรรถธรรมส่งเสริมธรรมเข้าสู่ใจมีเยอะ นี่ไม่พูดเฉยๆ ดูหมด เพราะกิริยานี้ออกมาจากกิเลส เราเคยมียังไงเป็นยังไงจับออกไปกางนี้มันก็เข้ากันได้หมด เท่านั้นละวันนี้ไม่พูดมาก พากันจำเอา

 

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก