ปกครองโดยธรรม
วันที่ 13 สิงหาคม 2549 เวลา 8:15 น. ความยาว 36.05 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๑๓ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๔๙

ปกครองโดยธรรม

         ทองคำประเภทน้ำไหลซึมถึงวันที่ ๑๒ เมื่อวานนี้ ทองคำที่หลอมแล้ว ๓๐๐ กิโล ๒๔ แท่ง ทองคำที่ยังไม่หลอม ๑๕ กิโล ๓๙ บาท ๕๕ สตางค์ รวมทองคำที่หลอมแล้วและยังไม่ได้หลอมเป็นจำนวน ๓๑๕ กิโล ๓๙ บาท ๕๕ สตางค์

(ถวายสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน ที่ อ.ปากช่อง จ. นครราชสีมา นายเดวิด โรเจอร์ เป็นผู้ดำเนินการจัดตั้งให้เป็นสถานีวิทยุลูกข่ายของสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชนวัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี รับสัญญาณการถ่ายทอดร้อยเปอร์เซ็นต์ แด่องค์หลวงตาให้เป็นสมบัติของสงฆ์) เดวิด มันพวกฝรั่ง เขามีศรัทธาทางพุทธศาสนา พุทธศาสนาเป็นศาสนาที่บริสุทธิ์ คำว่าเป็นศาสนาที่บริสุทธิ์ คือท่านผู้เป็นเจ้าของศาสนาเป็นผู้สิ้นกิเลส มีศาสนาเดียวที่เจ้าของศาสนาเป็นผู้สิ้นกิเลส สอนอย่างเปิดเผยแจ่มแจ้งชัดเจน โลกวิทู กระจ่างไปหมด คือศาสนาของผู้สิ้นกิเลสเครื่องปิดบัง สิ้นกิเลสสิ้นเครื่องปิดบัง เปิดจ้าเลย

สถานีวิทยุเราออก ๙๕ สถานีแล้ว ที่เราพูดว่าเราจะช่วยชาติ โลกจะมองดูด้านวัตถุเกือบจะว่าทั่วหน้ากัน คือด้านวัตถุช่วยการเงินการทองเศรษฐกิจต่างๆ ที่เป็นด้านวัตถุฟื้นฟูขึ้นมา ยกชาติไทยขึ้นด้วยด้านวัตถุ โลกเฉพาะเมืองไทยเราจะคิดอย่างนี้มากต่อมาก อย่างน้อยถึง ๙๕%  ผู้ที่จะคิดแยกออกเป็นนามธรรมซึ่งเป็นธรรมสอนโลก คือสอนจิตใจ ฟื้นฟูจิตใจนี้มีประมาณสัก ๕% แต่เราคิดไว้หมดแล้ว คราวนี้ธรรมจะได้ออกสู่โลก วัตถุเป็นเพียงนำหน้าเล็กน้อยเท่านั้น ธรรมได้ออกสู่โลกคือเข้าสู่จิตใจ เมื่อธรรมเข้าสู่จิตใจ จิตใจจะรู้เนื้อรู้ตัวฟื้นตัวเองขึ้นมา เป็นจิตใจที่สงบร่มเย็น เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน บ้านเมืองจะสงบร่มเย็นได้ด้วยธรรมเข้าสู่ใจ ไม่ใช่ด้วยวัตถุ ด้วยธรรมต่างหาก

โลกทุกวันนี้ที่ร้อนอยู่นี้ เพราะเห็นแก่ด้านวัตถุ เอาวัตถุมาเหยียบย่ำทำลายทั้งตนและผู้อื่น หารู้ไม่ว่าตนถูกทำลายด้วย คือด้านวัตถุได้แก่ความโลภของตัวเองในสิ่งนั้นสิ่งนี้นั้นแล ด้านธรรมะนี้กระจายออก เฉลี่ยเผื่อแผ่ทั่วถึงกันหมด มีหัวใจทุกคน แม้แต่สัตว์ก็มีหัวใจ หัวใจนี่เป็นเรื่องใหญ่โตมากของโลก ถ้าใจได้รับการอบรมแล้ว ใจจะพาให้โลกทั้งหลายมีความสงบร่มเย็น ธรรมจึงออกช่องนี้ เราคิดว่าคราวนี้คราวธรรมจะได้ออกสู่โลก ตรงไหมล่ะ เราคิดเรียบร้อยแล้วนะที่ออกช่วยชาติคราวนี้ ด้านวัตถุเพียงนำหน้าเล็กน้อยที่โลกทั้งหลายสนใจกันมากและเข้าใจกัน ส่วนด้านธรรมะเข้าสู่ใจโลกไม่ค่อยได้คิด เพราะเขาไม่เคยปฏิบัติ นี่เราปฏิบัติมาทุกอย่าง จึงได้นำสิ่งที่ปฏิบัตินี้ออกสอนโลกเรื่อยมาจนกระทั่งทุกวันนี้ได้ถึง ๙๕ สถานีแล้ว

ขอให้ธรรมเข้าสู่ใจเถอะ โลกนี้จะสงบร่มเย็น เข้าสู่ใจดวงใดๆ ใจดวงนั้นจะสงบร่มเย็นสง่าผ่าเผยขึ้นทันทีๆ ทีเดียว อำนาจของธรรมจึงเรียกว่าครอบโลกธาตุ ส่วนอย่างอื่นครอบไม่ได้ ธรรมนี่ครอบโลกธาตุ กิเลสก็อยู่ในโลกธาตุ ธรรมนี้เหนือโลกธาตุครอบได้หมด ธรรมจึงควรได้รับการอบรมเข้าสู่ใจให้มีความสงบร่มเย็น

เราได้ช่วยทุกวิถีทางแล้วช่วยชาติบ้านเมืองคราวนี้ ทีแรกก็ช่วยตัวเองดังที่เคยพูดให้ฟังนั่นแหละ เอาเป็นเอาตายเข้าว่า นี่ก็ได้ประกาศให้ทราบไม่ใช่โอ้อวด เอาความบึกบึนของเจ้าของเพื่อเจ้าของก่อนอื่น เพื่อเจ้าของก่อนอื่นก็คือเพื่อมรรคผลนิพพาน เพื่อความเป็นพระอรหันต์เท่านั้น บอกเท่านั้นเลย พอได้ทราบอรรถธรรมจากพ่อแม่ครูจารย์มั่นแล้วเปิดจ้าเลยทีเดียวมรรคผลนิพพาน ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้นะ หากเปิดจ้าในหัวใจที่รับกัน จากนั้นมาก็ทุ่มเลย จึงได้ผลตามเหตุตามผลแห่งความพยายามหนักเบามากน้อยเรื่อยมาๆ จนเป็นที่พอใจ

เราสอนโลกนี้เราสอนด้วยความพอใจ ความพอทุกอย่างแล้วในหัวใจของเรา เราพูดอย่างตรงไปตรงมาเหนือโลก ธรรมนี้เหนือโลกแล้วใครจะมาเห่านั้นเห่านี้ฟ้อๆ แฟ้ๆ ก็เป็นปากอมขี้ไปไม่ใช่ปากอมธรรม ปากพระพุทธเจ้าเป็นปากอมธรรม ปากสาวกอรหัตอรหันต์เป็นปากอมธรรม กระจายออกไปที่ไหนหอมหวนชวนชมน่ากราบไหว้บูชา จิตใจก็สงบร่มเย็นไปตามๆ กัน เพราะอำนาจแห่งธรรมเข้าชโลมจิตใจ เพราะฉะนั้นขอให้พี่น้องทั้งหลายได้หนักแน่นภายในจิตใจจะมีความสงบร่มเย็น

เฉพาะอย่างยิ่งในครอบครัวเหย้าเรือน สามีภรรยา ลูกเล็กเด็กแดงทะเลาะเบาะแว้งกันนั้น คือโรงหมัดโรงมวยของกิเลสมันออกสนาม เหล่านี้จะสงบลง ทุกอย่างจะสงบลง ยอมรับกันโดยเหตุโดยผล ไม่มีใครเป็นใหญ่เป็นน้อย ถือความถูกต้องดีงาม คือธรรมเป็นความถูกต้องดีงามเป็นใหญ่ในหัวใจ อยู่ด้วยกันเป็นความสงบผาสุก นี่ละถ้าธรรมเข้าที่ตรงไหนสงบผาสุกร่มเย็น ที่เรามาพูดให้ท่านทั้งหลายฟังพูดแล้วพูดเล่า พูดด้วยความถึงใจเรื่องของธรรมภายในใจเรา เรามีธรรมเท่านั้นที่เป็นใหญ่ในหัวใจ และปกครองบรรดาผู้มาเกี่ยวข้องเราด้วยความเป็นธรรมทั้งหมด เราไม่มีอำนาจบาตรหลวงป่าๆ เถื่อนๆ เข้ามาปกครองพระเณรในวัด ผู้อยู่ในวัดเราปกครองด้วยธรรม

เมื่อเราผิดเราก็บอกว่าเราผิด เรายอมรับธรรมทันทีเลย ดังที่เคยพูดให้ฟังว่า เราเขียนหนังสือหรืออะไรอยู่กระต๊อบเล็กๆ นั่นแหละ ที่เห็นอยู่นั้นน่ะ กระต๊อบเล็กๆ ดูนาฬิกาผิดไป มองดูนาฬิกา โอ้ ตายแล้วเลยเวลาปัดกวาดแล้ว เพราะแต่ก่อนการทำข้อวัตรปฏิบัติพระเณรยังสู้เราไม่ได้ ความรวดเร็วทุกอย่างๆ เราจะนำหน้าตลอด เวลานี้มีแต่ล้มลุกคลุกคลานนำหน้าเดี๋ยวนี้ แต่ก่อนนี้คล่องตัว พระเณรมองเห็นเหมือนเห็นเสือโคร่งนั่นละเห็นเราในวัด แต่ไม่ยอมหนีไปไหน อยู่นั้นละ หากกลัวหากไม่ยอมหนี เราโผล่มาแต่โน้น อยู่ที่ศาลากำลังฉันน้ำร้อนนี้แตกฮือเลย ไม่ทราบเป็นบ้าอะไร เราโผล่ออกมานั่นน่ะ นี้แตกฮือเลย

เราลงไปดูน้ำบ่อดูนั้นดูนี้ พอกลับมาก็มาที่ครัวไฟ เห็นแต่แก้วน้ำกระจัดกระจายเกลื่อนอยู่ตามนั้น แล้วทำไมทั้งกินทั้งเทอย่างนี้มันเป็นยังไง พระเณรกลัวท่านอาจารย์แตกหนีหมด ดูซิน่ะ เห็นประจักษ์ตาเอามาพูดนี่.แล้วทำไมจึงต้องทำอย่างนี้ กลัวอย่างนี้ใช้ไม่ได้ กลัวต้องกลัวโดยเหตุโดยผลโดยอรรถโดยธรรม กลัวแบบนี้ใช้ไม่ได้ เราไม่ได้ชมเชยกลัวแบบนี้เราบอกงั้น นั่นละได้เห็น กลัว ท่านกลัวๆ แต่ไม่ยอมหนีไปไหนหากกลัว ทีนี้ก็มาถึงวาระของเรา พอออกมาปัดกวาด เพราะปัดกวาดนี้เรารวดเร็วนำหน้าตลอดทุกอย่างเลย

พอปัดกวาดออกมาถึงหน้าวัด ทิดหรวดมันลูกพระอยู่ในนี้ มันเป็นเณรแต่ก่อนมันเฝ้าศาลา เราก็กวาดออกมา ของเรากวาดเรียบร้อยแล้วออกมาหน้าวัด ธรรมดาจะเห็นพระเณรเต็มไปหมดกวาดหน้าวัด วันนั้นเงียบไม่เห็นใครเลย ทางนี้ก็ขึ้นละแผดเสียง เณร พระวัดนี้มันตายกันหมดแล้วหรือ ใครจะกุสลาใครนี่ ถึงเวลาปัดกวาดแล้วทำไมไม่เห็นปัดกวาด วันนี้เป็นยังไง นี่จะไม่แล้วนะกลางคืนจะประชุมกัน จะเอากันใหญ่นะนั่น เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องหนักมากทีเดียว เพราะพระเณรผิดกันทั้งวัด

ตอนนั้นยังไม่รู้ตัวว่าเราผิด แล้วก็ขู่พระเณรฟ่อๆ เณรมันคงรำคาญก็เลยเอาไม้ตาดออกไปกวาดข้างนอก เห็นเรากวาดออกมานั้น ก็จี้เณรละ เณรเป็นยังไง ไม่รู้เหรอ เวล่ำเวลาเคยปัดกวาดกันมายังไง วันนี้พระเณรมันตายกันไหนหมด ใครจะไปกสุลาใครล่ะ มันเป็นยังไง เณรเลยบอกว่า นาฬิกาพึ่งได้ ๓ โมง ๒๐ นาที คือธรรมดา ๔ โมงปัดกวาด นี่พึ่งได้ ๓ โมง ๒๐ นาที เราดูนาฬิกาผิด พอว่าเท่านั้นละ เหอ ขึ้นอีก ซ้ำอีกครั้งหนึ่ง เณรก็บอกอีกว่า นาฬิาพึ่งได้บ่าย ๓ โมง ๒๐ นาที หือ อย่างนั้นเหรอ เอ้า หยุดๆ ทันทีเลย หยุดมันจะมาเป็นบ้ากันทั้งวัด เราจะไปแก้บ้าเรา ก็เดินกึ๊กๆ กลับเลย

นั่นละเป็นอย่างนั้น เป็นไฟเผาเลย เข้าใจว่าเจ้าของถูก พระเณรทั้งวัดนี้ผิดหมด กลางคืนวันนั้นจะต้องประชุมกัน เอากันใหญ่เลย ทีนี้พอเราผิดก็บอกให้หยุดทั้งวัดมันจะมาเป็นบ้ากันทั้งวัด เราจะไปแก้บ้าเรา ก็เดินกึ๊กๆ กลับกุฏิ นั่นเห็นไหมธรรมเป็นอย่างนั้น เหมือนจะแผดจะเผากันทั้งวัด พอรู้ว่าผิดเท่านั้นแก้ทันทีเลย นี่คือธรรม เราไม่ได้เอาอำนาจบาตรหลวงมาปกครองวัด เราเอาธรรมทั้งนั้น ใครผิดใครถูกยอมรับตามธรรมอยู่กันได้ด้วยความผาสุกร่มเย็น เราไม่ได้ปกครองอย่างอื่นนอกจากธรรม ใครจะว่าเรารักคนนั้นชังคนนี้ไม่ได้ทั้งนั้น ควรจะวางหนักวางเบาต่อผู้ใดๆ เป็นเรื่องของเราพิจารณาเอง พิจารณาแล้ววางลงเป็นระยะๆ เป็นรายบุคคลหรือรายพรรครายพวกก็แล้วแต่ เราพิจารณาเรียบร้อยแล้ว

เราไม่ได้เอาแบบโมกโขโลกนะป่าๆ เถื่อนๆ มาใช้ในวัดนี้ เราใช้กับพระกับเณรเราใช้อย่างนี้ตลอดเวลา ต้องเป็นธรรม เอาความเป็นธรรมปกครองกัน จะเอาอำนาจป่าๆ เถื่อนๆ อย่างนั้นไม่ได้ ผิด ปฏิบัติอย่างนี้ตลอดมา จนกระทั่งทุกวันนี้ ส่วนกิจการข้อวัตรอะไรเราทำอะไรไม่ได้แล้ว เดี๋ยวนี้มีแต่พระเณรทำ แต่ก่อนออกหน้า ในวัดนี้เราต้องเป็นหัวหน้า ข้อวัตรปฏิบัติทุกสิ่งทุกอย่างจะสอดแทรกดูหมดทุกอย่างเรียบร้อยเลย เดี๋ยวนี้ไม่ได้แล้ว ประคองตัวเองเท่านั้นก็ล้มลุกคลุกคลานไปไม่ไหวแล้ว พยุงอย่างนี้ละ มีแต่เห่าฟ้อๆ อยู่เท่านั้นเอง

การปกครองพระเณรเราปกครองโดยธรรม พระเณรนี้กลัวมาก ฟังซิว่า โผล่มานู้นพระเณรแตกฮือนี้ เตะแก้วอะไรสาดกระจายเต็ม เวลาเราไปน้ำบ่อกลับขึ้นมานี้เห็นแต่แก้วน้ำสาดกระจัดกระจาย แล้วเป็นอะไรจึงเป็นอย่างนี้ พระเณรเห็นท่านอาจารย์กลัวพากันเปิดหนีหมด เตะแก้วก็มีไปเลย นั่นละกลัว แต่ไม่ยอมหนีไปไหน มันหากกลัวแบบนั้น นั่นละเป็นธรรม ความกลัวนี้เป็นธรรม ไม่ใช่กลัวผิดๆ พลาดๆ กลัวเป็นธรรม เคารพครูบาอาจารย์ทั้งหลายนี้กลัวเป็นธรรม เห็นว่าการฉันน้ำร้อนมั่วสุ่มกันอยู่นี้ ดูจะไม่น่าดูสำหรับตาท่าน

ตาท่านกับตาเราจะผิดกันมาก พอมองเห็นโน้นทางนี้แตกฮือเลย เตะแก้วน้ำขวดกระจัดกระจายเต็มหมด พวกนี้มั่วสุมกันกินน้ำร้อนน้ำชานี้มันเป็นยังไงๆ กับตาท่านที่มองมานี้เป็นยังไง ระวังตานั้นน่ะมากกว่าตานี้ เรื่องราวเป็นอย่างนั้น ท่านเคารพ กลัวด้วยความเคารพเป็นอย่างนั้น เราเอามาพูดให้ฟังเฉยๆ แต่ไล่หนีไปไหนก็ไม่หนี อยู่นั้นละหากกลัว เป็นอย่างนั้น นี่คือการปกครองโดยธรรม เราผิดตรงไหนยอมรับทันที เราไม่ยิ่งใหญ่กว่าใครทั้งนั้น ให้เหนือธรรมไปไม่มี ต้องให้ตรงไปตรงมา นี่ละการปกครองตนเองก็ให้ทำอย่างนั้น ถ้าเหตุผลลงแล้วควรจะปฏิบัติยังไง เอาเหตุผลเข้าใส่บังคับตัวเองในหน้าที่การงานอันนั้น จะขี้เกียจขี้คร้านไสเข้าไป นั่นเรียกว่าธรรม ถูกต้อง

ถ้าเอาความขี้เกียจขี้คร้านเข้าไปแล้วเลอะเทอะหมดใช้ไม่ได้ ต้องเอาธรรมปกครองกัน เราได้เห็นโลกนี้มันเลอะเทอะมากที่สุดเวลานี้ เอาธรรมจับ เราไม่ยกโทษใคร ใจนี้เป็นใจที่บริสุทธิ์พูดง่ายๆ ดูอะไรดูด้วยความบริสุทธิ์ไม่เอียงหน้าเอียงหลัง ผิดบอกว่าผิดถูกบอกว่าถูกตรงไปตรงมาแน่ว เวลาพูดออกมาก็พูดตามหลักความจริง ใครไม่ดียังไงก็ตำหนิไปตามนั้น ถ้าใครปฏิบัติตนตามที่สอนก็ดีขึ้นไปเรื่อยๆ นี่เรียกว่าธรรม ธรรมปกครองโลกปกครองอย่างนั้น ไม่ได้เหมือนกิเลสอำนาจบาตรหลวงป่าๆ เถื่อนๆ บีบนู้นบังคับนี้ ผู้น้อยร้อนจนเป็นฟืนเป็นไฟจะตาย ผู้ใหญ่โอ่อ่าฟู่ฟ่าเป็นบ้ายศบ้าอำนาจอยู่นั้น ใช้ไม่ได้นะอย่างนั้น

นี่เราพูดเรื่องอะไรมันถึงไปกันอย่างนี้ ตั้งแต่วิทยุมานะ วิทยุนี้ก็เพื่อเข้าสู่จิตใจ ธรรมะจะออกสู่จิตใจโลกคราวนี้แหละถูกต้องแล้ว ด้านวัตถุจะออกหน้าก็จริงแต่เพียงเล็กน้อย แต่ธรรมะนี้จะออกตามหลังเรื่อยๆ กระจาย เดี๋ยวนี้ตั้ง ๙๕ สถานี นี่คือธรรมที่เราสอนโลกเราสอนด้วยความแน่ใจไม่มีผิดมีพลาดปฏิบัติมา ถ้าผิดพลาดนำธรรมเหล่านี้มาสอนไม่ได้ ถูกต้องแม่นยำทุกอย่างหาที่ต้องติไม่ได้ สอนออกก็เป็นธรรมที่ว่าพระพุทธเจ้าท่านสอนไว้เรียบร้อยแล้ว ธรรมนี้ก็เรียบร้อยแล้ว สอนไปถูกต้องเรียบร้อยทุกอย่าง ให้นำไปปฏิบัติ

พวกที่มาอยู่ในครัวก็เหมือนกัน พวกในครัวพวกอาหารการกินมันเห็นแก่ปากแก่ท้องนะ พวกอยู่ในครัวด้านตะวันตกนั่นละ พวกท้องป่องมันเห็นแก่ปากแก่ท้อง เวลาไปดูเราดูทุกอย่างนะ พอเย็นๆ สี่โมงห้าโมงเราจะออกมาแล้วไปเที่ยวดูนั้นดูนี้ ดูรอยล้างถ้วยล้างจานเลอะๆ เทอะๆ เมื่อวานนี้ก็ได้มาขู่เอา ล้างถ้วยล้างจานไม่สะอาด ทิ้งเกลื่อนอยู่ตามนั้น หมดเวลาแล้วคนหมดไปแล้ว แสดงว่าทิ้งเกลื่อนอย่างนี้แล้วจะถึงวันพรุ่งนี้เช้า เราดูทุกวันนั่นละเราไป ดูไปหมด เมื่อวานนี้ก็ได้เอาละ นี่เห็นไหมล้างถ้วยล้างจาน เกลื่อนอยู่นี้ดูได้เมื่อไร มันเห็นแก่ปากแก่ท้องไม่เห็นแก่ถ้วยแก่จาน เห็นแก่ความสะอาดสะอ้าน ซึ่งเป็นภาชนะสำหรับใส่ให้เป็นของดิบของดีบ้างเลย เป็นยังไง

เรามาดูทุกวันนะบอกตรงๆ เลย เลอะเทอะอย่างนี้เรื่อยมา มันเห็นแก่ปากแก่ท้อง มันมาเพื่ออยู่เพื่อกินไม่ได้มาเพื่ออรรถเพื่อธรรมอะไรพวกนี้ นี้ดูทุกอย่างดูเป็นอรรถเป็นธรรม ได้เตือนเสมอ เลอะเทอะ เอาละวันนี้พูดเพียงเท่านั้น

 

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก