เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๔
หนุนผู้นำคนดีเท่ากับหนุนชาติ
ลูกศิษย์ กฤษฎีกาเขาชี้ว่าเงินหลวงตาเอาคืนไม่ได้ เขายึดหลักจดหมายฉบับแรกที่หลวงตาเซ็นไปที่มอบให้เขา เขาว่าสมบูรณ์แล้ว เอาคืนไม่ได้
หลวงตา นั่นแล้วเล่ห์เหลี่ยมของมหาโจรเข้าใจไหม เราจึงได้เห็นความเลวร้ายของวงราชการ ที่ว่าเลวร้ายที่สุด สกปรกมากที่สุดในคราวนี้เราไปดู ธรรมจับเข้าไปถึงรู้ มาประจัญบานอยู่กับเราซิ มันถึงได้เห็นอย่างชัดเจน พูดออกได้อย่างเต็มปาก ที่ว่าจดหมายของเราสมบูรณ์แล้ว สมบูรณ์ในการถูกต้ม มันก็สมบูรณ์อย่างนั้นใช่ไหมล่ะ ไม่ได้สมบูรณ์ตามความมุ่งหมายที่มอบนี่นะ ที่เขามาบังคับเราว่า คณะรัฐมนตรีได้ประชุมตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่า หลวงตาต้องปฏิบัติตามลายเซ็น คือไม่เอาเงินเข้าในคลังหลวง ให้อยู่ตามเดิมที่เขาแอบไปซ่อนไว้ตรงไหน ให้อยู่ตรงนั้น ความหมายว่างั้นนะ คือให้ปฏิบัติตามลายเซ็น ลายเซ็นก็คือว่าเป็นความยอมรับที่เงินอยู่ข้างถุง สมบัติอยู่ข้างถุง
ทีนี้เราไม่รู้ซิตอนนั้น ไม่รู้ว่าเขาเอาไปแอบไว้ข้างถุง เขาก็มาหลอกต้มเราว่าได้เข้าสู่คลังหลวงเรียบร้อยแล้ว นั่นซิเรื่องราวมัน เขาเอาเงินเราไว้ข้างคลังหลวง พอเราสืบทราบนั่นซิ การสืบทราบก็ไม่ใช่อะไร เขานั่นเองเปิดตับเขาเองให้เราดู เอะอะก็เงินหลวงตาไม่แตะ ๆ มันก็จับเข้าไป เงินหลวงตาอยู่ที่ไหนจึงไม่แตะ เงินที่แตะที่กินที่งาบนั้นมันอยู่ที่ไหนก็ตามกันเข้าไป ก็ไปโดนเอาตรงนั้นปั๊บ พอเรารู้เรื่องเราก็ประกาศป้างขึ้นมา นั่นละที่นี่จดหมายลายเซ็นเรานี้ก็เป็นโมฆะทันทีใช่ไหมล่ะ เมื่อเราทราบว่าเราถูกต้มก็เป็นโมฆะทันทีลายเซ็นของเรานี่
ทีนี้เขาก็มาบังคับเรา เขาว่าคณะรัฐมนตรีตกลงเรียบร้อยแล้วว่า หลวงตาต้องปฏิบัติตามลายเซ็น คือไม่เอาเงินเข้าถุงคือคลังหลวง ทางนี้ก็ตอบไปทันทีเลย อย่าว่าแต่คณะรัฐมนตรีมาประชุมตกลงกันเลย ให้เอาโคตรรัฐมนตรีมาประชุมตกลงก็เป็นโมฆะไปหมด เพราะลายเซ็นของเราเป็นโมฆะ หลังจากที่เราได้ทราบแล้วว่าเราถูกธนาคารหรือทางรัฐบาลต้มเรา แล้วก็ซัดย้อนหลังเปิดเข้าไปอีกสองหมัดสามหมัดเข้าไป นั่นละที่ว่าลายเซ็นนี่สมบูรณ์แล้ว สมบูรณ์แล้วในการถูกต้ม มันก็เข้าตรงนั้นใช่ไหมล่ะ
นี่จึงว่ามันพลิกมันแพลง มหาโจรต้องเป็นอย่างนี้ อุบายวิธีการของมหาโจร มันจะยอมรับไม่มีแหละ ไปดูซิไปถามซิในเรือนจำรายไหนก็รายนั้น มีแต่ถูกเขาหาว่า ๆ เท่านั้นแหละ มันยอมรับว่ามันเป็นผู้ร้ายเมื่อไร ก็อย่างนั้นแล้ว นี่ผู้ร้ายในวงราชการก็อย่างเห็นกันอยู่นี้จะว่าไง มาหลอกกันได้ยังไงไม่ใช่เด็กนี่วะ มันก็แก้ไปอย่างนั้นแล้ว เห็นสด ๆ ร้อน ๆ อยู่นี้ แก้ไปต้มไปอย่างนี้ แก้ไปต้มไปเห็นกันอยู่อย่างนี้จะว่าไง เขาว่าไปตามเรื่องของเขาแหละ เรื่องของเราเราก็ทราบอย่างชัดเจนแล้ว เรื่องบ้านเมืองจะปฏิบัติต่อกันยังไงนั้นก็เป็นเรื่องของบ้านของเมือง เราไม่ไปยุ่ง แต่เรื่องของเราของธรรมนี้เราพุ่งตลอดเลย เขาพูดไปตามเรื่องของเขาแหละ เราก็ฟังไปเราไม่สนใจ
จึงได้เห็นเรื่องการบ้านการเมืองที่เขาว่า ได้เห็นชัดเจนตอนที่เราเข้ามาเกี่ยวข้องซิ แหม เลอะเทอะเป็นที่สุดจนดูไม่ได้เลยนะ แล้วก็อย่างนี้แหละมาต้มกันสด ๆ ร้อน ๆ กฤษฎีกาไม่ให้เอาคืน เอาคืนมันจะเอาอะไรมาให้เรา มันเอาไปต้มที่ไหนก็ไม่รู้จะเอาอะไรมาคืน มันเอากฤษฎีกามาบังไว้ กฤษฎีกาไม่ให้คืน พูดแย็บมันรู้ทันทีเลย เราขี้เกียจพูด พูดกับของสกปรกนี้จริง ๆ นะ ทีนี้มันก็มาเกี่ยวข้องก็จำได้พูดอยู่อย่างนี้แหละ มันสกปรกเลยประมาณที่เราจะไปมองดูให้มันเสียสายตา
เราได้คิดถึงเรื่องชาติไทยของเรา คือชาตาของศาสนา ชาตาของชาติไทยเรามันเกี่ยวโยงกัน แล้วก็รวมเข้ามาหาหลวงตาบัว กระจายออกไปหาพี่น้องชาวไทยเรา มันเข้าในจุดนี้เวลานี้ มันเกี่ยวโยงอย่างนี้ อย่างที่ว่ามันสกปรก ๆ มันก็ได้พูดมันก็ได้ทำ มันก็ได้คุ้ยได้เขี่ยได้ดมอยู่อย่างนี้จะว่าไง มันก็รู้อยู่ ก็ได้คุ้ยเขี่ยแล้วก็ดมอยู่นี้จะว่าไง จึงว่านี่มันดวงชาตาน้า เราได้พิจารณาย้อนหลังไป มันรู้เฉพาะเจ้าของ ๆ
คือธรรมรู้นี้ไม่ได้เหมือนโลกนะ คือธรรมรู้อะไรไม่มีกดมีดัน รู้เหมือนไม่รู้ เห็นเหมือนไม่เห็น แล้วแต่เหตุการณ์ที่ควรจะออกหนักเบามากน้อย จะแย็บออกอะไร ๆ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม ธรรมเหมือนไม่รู้ เพราะไม่หนัก พอดีตลอดเวลา รู้เหมือนไม่รู้ เห็นเหมือนไม่เห็น แต่เหตุการณ์ที่ควรจะแย็บออกมาหรือพูดออกมาให้เป็นประโยชน์มากน้อยเพียงไรนี้ จะออกมาตามความพอดี ๆ นี้เรียกว่าธรรม อันนี้ก็เป็นอย่างนั้นจะว่าไง
อย่างเราช่วยโลกนี้เราเองเราไม่มีอะไรเลยฟังซิน่ะ กับโลก เราไม่มีอะไรเลย เหตุไรจึงต้องมาคลุกมาเคล้ามาขยี้ขยำกับโลกที่มันเลยถังขยะไป โลกแบบนี้มันเลยถังขยะไปแล้ว กระเทือนทั่วประเทศไทยถังขยะอันนี้ ถังขยะธรรมดาไม่กระเทือน ถังขยะอันนี้กระเทือนมาก มันก็ได้มาขยี้ขยำมาดมจะว่าไง เราอดคิดไม่ได้ พิจารณาย้อนหน้าย้อนหลังดู
ก็คิดดูซิการประชุมเทศน์สอนพระนี้นะ เราหยุดมาตั้งแต่พออายุก้าวเข้า ๘๐ เราก็หยุดเลย ปล่อยภาระอะไร ๆ เกี่ยวกับพระเจ้าพระสงฆ์ เพราะได้สอนเต็มเหนี่ยวแล้ว เรื่องอรรถเรื่องธรรมเราไม่สงสัย ทุกขั้นทุกตอนทุกแง่ทุกมุมของธรรมเปิดออก สำหรับพระนี้เรียกว่าเปิดสุดยอด ๆ ตลอดมาเลย เทศน์สอนพระนี้เป็นเทศน์เราพูดอย่างเปิดหัวอกเลย เทศน์ธรรมะขั้นสุดยอด ๆ เลยนะ เราก็เทศน์เต็มภูมิของเรามาตลอด
ทีนี้เวลาจะเป็นขึ้นมามันก็อย่างนี้แล้วเราก็ทราบ ประมวลมาเรื่อย ๆ พิจารณาเรื่องใครพูดยังไงบ้าง บ้านเมืองเดือดร้อนอย่างนั้นอย่างนี้ เราประมวลเข้ามา พิจารณาเข้ามา ๆ แล้วก็มารวมตัวเป็นกำลังให้กระเทือนหัวใจล่ะซิ รวมเข้า ๆ อันไหนมีแต่เรื่องจะเอนจะเอียงจะล่มจะจม จะล่มจะจมอยู่ตลอด หนักเข้ามาใกล้เข้ามา ๆ ก็จนกระทั่งถึงได้ร้องโก้กล่ะซี นั่น โห บ้านเมืองเราอยู่ได้ยังไงถ้าเป็นอย่างนี้แล้ว ก็เพียงแต่ลมหายใจแขม่ว ๆ เท่านั้น จะมีอะไรเป็นสาระ นั่นซีเรื่องราวมันนะ ถึงปุบปับขึ้นมา อย่างที่พูดเมื่อวานนี้ใช่ไหมล่ะ
มีดอลลาร์ ๒,๕๐๐ ดอลล์ กำลังขึ้นแล้วนะนี่เตรียมที่ เหมือนจะหาทางพาพี่น้องทั้งหลายออกแล้ว แล้วอยู่ ๆ เงินดอลลาร์ ๒,๕๐๐ ดอลล์ คุณสันติก็มามอบให้ต่อหน้านี้เลย ก็ยกอันนี้เป็นธงขึ้นเลยที่นี่ นั่นละเรื่องราวเป็นอย่างนั้น จากนั้นมาก็เรื่อยจนกระทั่งป่านนี้ เราคิดเมื่อไรว่าเราจะได้ช่วยโลก เราไม่คิด แต่แล้วมันก็เป็นมา ๆ ครั้นเวลาออก เมื่อได้ขึ้นเวทีแล้วก็ต้องต่อยล่ะซี ฟัดล่ะซี มาตรงไหนมา ๆ สุดท้ายโบกมือให้มานี่ว่าไง ของเล่นเมื่อไรวะ
นี่ก็เหมือนกัน จึงบอกว่าไอ้สามกษัตริย์นี่มันตัวสำคัญนะ ป.ป.ช. ไปหาตีหน้าคนนั้น หาตีหน้าเจ้าของไม่มี หาตีคนนั้นหาตีคนนี้ เพราะฉะนั้นจึงเอาสามอันนี้แหย่เข้าไปบ้างซี ป.ป.ช.มันเป็นทั้งกำแพงเป็นทั้งอาวุธเที่ยวตีคนดีทั้งหลายนะ คนชั่วมันไม่ตีแหละ ถ้าจำเป็นจริง ๆ มันก็เอา ป.ป.ช. กฤษฎีกา เอาศาลรัฐธรรมนูญมากั้นเอาไว้เพื่อหลบไปหลีกไป นี้กฤษฎีกาไม่ให้คืน คือหลบเอาไว้กั้นเอาไว้จะหาทางหลีก นี่เราก็แหย่แล้วนี่ ไม่มีใครแหย่ละเราคนแหย่ แหย่ตรงนั้นแหย่ตรงนี้ไปเรื่อย
เรื่องการบ้านเมืองเป็นเรื่องของเขาเราไม่ยุ่ง เปิดออกตามเรื่องความผิดถูกชั่วดีโดยอรรถโดยธรรมล้วน ๆ เท่านั้น เราพูดอย่างนั้น อย่างที่ว่านี้ก็ไปโดนชาติบ้านเมืองเขาใช่ไหมล่ะ ไม่ใช่เรื่องของเรา เรื่องของเราก็รับทราบกันมาโดยตลอด แม้เขามาแจ้งเรา ก็คือแจ้งชาติบ้านเมืองเรานั่นเองจะไปแจ้งที่ไหน เราก็ฟังไปอย่างนั้น เรื่องดำเนินของเขาเขาก็ดำเนินของเขาเองเราไม่ไปยุ่ง มันคนละแผนก ธรรมกับโลก ศาสนากับโลก พระกับโยม มันก็ต่างกัน เราทำอะไรไปเราพิจารณาของเราไปพร้อม อันไหนที่ควรจะเข้าไปประสานกันก็เข้าเอง อันไหนที่ควรแยกมันก็แยกของมันเอง ๆ ไปเรื่อย ๆ อย่างนั้น
นี่ละขอให้พี่น้องทั้งหลายได้พากันได้เริ่มตั้งอกตั้งใจตั้งแต่บัดนี้ต่อไป นี่เราได้ผู้นำใหม่นี้ก็เรียกว่าเหมือนกับตั้งรากตั้งฐานบ้านเมืองของเรา ที่มันเอนเอียงมันจะหกจะล้มอยู่แล้วนั่น ให้พยายามพยุงกัน นี่เราก็เพียงเริ่มเตือนนะ ทุกอย่างของเราที่ช่วยชาติคราวนี้มันจะเริ่มของมันขึ้นอีกเมื่อเป็นที่แน่ใจแล้ว ทางนี้ก็จะเริ่มเข้า ๆ ขนเงินขนสมบัติเราเข้าสู่คลังหลวง ๆ เรื่อย เพียงบ้านเมืองเฉย ๆ เหมือนมีแขนเดียว กำลังไม่พอ ต้องเอาศาสนาเข้าอีกแขนหนึ่งช่วยกันสองแขน แขนซ้ายแขนขวา ทางบ้านเมืองก็ดำเนินทางบ้านเมืองไป ตามหน้าที่ของเขาไป ทางศาสนาเราก็ดำเนินทางของเราเพื่อหนุนเข้าไปเรื่อย ๆ
พี่น้องที่บริจาคมามากน้อยก็จะค่อยไหลเข้าเรื่อย ๆ ไม่ว่าทองคำ ไม่ว่าดอลลาร์ ไม่ว่าเงินสด จะไหลเข้าสู่ความแน่นหนามั่นคงแห่งชาติไทยของเราทั้งนั้น เหล่านี้ไม่ไปไหนแหละถ้าชาติไทยยังไม่จม หลวงตายังไม่ตาย เงินจำนวนที่เข้าไปนี้ ที่ว่ากี่ตันเหล่านี้ไม่ต้องพูดว่างั้นเลย เพราะฉะนั้นเราจึงไม่อยากพูด อันนี้มันกำหมัดอยู่แล้วนี่เข้าใจไหม มีแต่คอยจะฟันจะไปถอยอะไร เป็นอย่างนั้นแหละ ทีนี้เราก็เริ่มแหละ เมื่อได้ผู้นำขึ้นมาเต็มที่เต็มอัตราแล้ว ที่นี่บุกละเอาใหญ่เลย เรื่องขนสมบัติของเราที่มีอยู่ทั่วประเทศไทย
เมืองไทยเราไม่ได้จนแหละ อย่างที่การบริจาคนี้เราเห็นใจพี่น้องชาวไทยนะ เราคิดหมดแล้วไม่ใช่เราไม่คิดนะ ที่ย่อ ๆ หย่อน ๆ ขยักขย่อนอะไรอยู่นี้ก็คือความไม่แน่ใจนั่นเองมันกีดขวางเอาไว้ จะทำอะไรลงไปส่วนได้ส่วนเสียมันก็มาตามกัน ถ้าว่าจะให้นี้ส่วนเสียมันคิดขึ้นมาแล้วมันขวางเสียก็ถอย ให้ไปแล้วจะไปยังไงน้า แน่ะ เพียงเท่านั้นมันก็ถอยแล้ว ๆ ถ้าทราบอย่างชัดเจนแล้วมีเท่าไรมันก็เป็นของมันเองหัวใจคน อะไรจะฉลาดยิ่งกว่าหัวใจคน แล้วอะไรจะรักชาติของตนยิ่งกว่าชาติของเราแต่ละชาติ ๆ ต้องรักทุกคนนั่นแหละ แต่เหตุการณ์มันยังไม่สมควรที่จะปฏิบัติออกได้มากน้อยเพียงไร มันก็ต้องพินิจพิจารณาด้วยกันทุกคน
เพราะฉะนั้นเราจึงไม่ได้มีที่ว่าจะตำหนิอะไรก็ดี จะตำหนิพี่น้องชาวไทยเราเราก็ไม่ตำหนิ เราผู้นำเองเราก็ไม่ได้ตำหนิ แต่เรายังมีจังหวะ ๆ เหมือนกันกับพี่น้องชาวไทยเรา ทั้ง ๆ ที่พาเป็นหัวหน้าดำเนินแล้ว อันใดที่ควรยังไงเราก็พิจารณาของเรา ควรเบาก็เบา ควรหนักก็หนัก ควรช้าก็ช้า ควรเร็วก็เร็ว ในจังหวะของเราเอง ทีนี้พี่น้องชาวไทยของเราก็มีหัวใจอย่างเดียวกัน มันก็มีจังหวะอย่างเดียวกันนั่นแหละ
เมื่อเราได้ผู้นำที่ดีเป็นที่แน่ใจแล้ว ผู้นำกับเราพูดตรง ๆ จะกลมกลืนไปพร้อม ๆ กันเลย ต่างคนต่างหนุน ทางนั้นหนุนทางนั้น เราก็จะหนุนทางนี้เข้าเรื่อย ๆ ไปอย่างนี้ แล้วมันจะค่อยเป็นไป เรื่องชาติไทยของเราจะค่อยเป็นไปเมื่อไม่มีผู้มาทำลายอย่างที่เห็น ๆ กันอยู่นี้แล้ว มีแต่การบำรุง ได้มากได้น้อยก็เข้าเรื่อย ๆ แล้วความเป็นผู้นำให้พี่น้องทั้งหลายทราบทั่วหน้ากันนะ เรียกว่าแบกภาระทั่วประเทศไทยของเรา หนักมากนะผู้นำ ถึงจะช้าจะเร็วบ้าง อย่าไปคิดยกโทษโกรธเคืองให้ง่าย ๆ นะ ผิดนะ ให้พิจารณาดูว่า ผู้นำคนหนึ่งนั้นก็เป็นหัวใจของคนทั้งประเทศ ภาระจะต้องแบกทั้งประเทศเลย ต้องหมุนทางนั้น หมุนแง่นี้ หมุนแง่นั้นแง่นี้ ก็มีการชักช้าเป็นธรรมดา เพราะของหนักยกยาก ยกหนัก
อย่าไปด่วนตำหนิติเตียนกัน อย่าไปใจร้อน เข้าใจไหมล่ะ ให้มีเหตุมีผล ทางนู้นดำเนินไปยังไง มันปิดไม่อยู่แหละเรื่องความผิดความถูกของผู้พาก้าวเดิน ดังที่ก้าวมาแล้วนี้เป็นยังไง ก้าวขึ้นหรือก้าวลงเราก็เห็นแล้วนี่ ทีนี้จะก้าวยังไง เราก็มอบความไว้วางใจให้ผู้นำ ผู้ไหนจะมาเป็นผู้นำของเรา เราก็มอบความไว้วางใจ แล้วก็คอยสอดส่องดูแลอยู่ตามหลักธรรมชาติของมัน หากรู้เองหูมีตามี ควรติตรงไหนก็ให้ติกันได้ แต่ติเพื่อแก้เพื่อไขเพื่อพยุงนะ ไม่ใช่ติเพื่อทำลาย ตำหนิว่าไม่ดีตรงไหนแล้วก็บอกช่องทางให้ ควรจะเป็นอย่างนั้น ๆ ให้ผู้นั้นเอาไปพิจารณา นี่ถูกต้องในการตำหนิ
การชมผู้นั้นก็จะได้มีกำลังใจว่าถูกต้องแล้ว ก็หมุนไปเรื่อย นั่นถ้าชมก็เป็นการเพิ่มกำลังใจ การตำหนินี้เพื่อการวินิจฉัย ถ้าธรรมดายังไม่เสียกำลังใจ ยังวินิจฉัยเสียก่อน ตำหนิเพราะเหตุผลกลไกอะไร เมื่อตำหนิออกมาเป็นอย่างนั้น ๆ ควรจะทำอย่างนั้น ๆ ทีนี้ก็มีกำลังใจที่จะก้าวหมุนไปตามความเห็นของคนหมู่มาก ก็เป็นอย่างนั้น เพราะฉะนั้นมันถึงมีการชักช้าบ้างเป็นธรรมดา ชักช้าเพื่อได้ไม่เป็นไร เรื่องเสียนี้พริบตาเดียวเท่านั้นหมดเลยก็ได้ ความเร็วอย่างนั้นอย่าให้มาเร็วในชาติไทยของเรา ความช้าที่เราต่างคนต่างหนุนกันนี้ให้พยายาม ให้เห็นอกเห็นใจกัน อย่าใจร้อน อย่าตำหนิติเตียนว่า ผู้นำคนนี้ไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ เอาตามใจเจ้าของใช้ไม่ได้นะ ผิด
ให้พยายามพยุงกัน รักษากันให้เต็มเหนี่ยวทุกคน พี่น้องชาวไทยมีหน้าที่ที่จะรักษาหัวใจของตนคือผู้นำเป็นสำคัญมากทีเดียว นี่หลักใหญ่ แล้วค่อยพยุงกันไป สมมุติว่าผู้นำคนนี้ได้พาดำเนินด้วยความถูกต้องดีงามไปเรียบร้อยแล้วอย่างนี้ หากว่าหมดสมัย เอ้า ผู้นำคนนี้หมดสมัยไปแล้ว ทีนี้จะต้องเปลี่ยนผู้นำใหม่ตามกฎข้อบังคับของกฎหมายบ้านเมือง ผู้นำผู้นี้เป็นคนเช่นไรจับไว้ตลอดในหัวใจ เอ้า หากว่าได้ตั้งผู้นำคนนี้คราวนี้หมดสมัยแล้ว เอาผู้นำคนนี้มาตั้งสมัยใหม่ขึ้นมาด้วยคนไทยเป็นผู้ไว้วางใจเอง ยกขึ้นอีกเท่าเดิมเข้าใจไหม ทุ่มลงไป ดีไม่ดีทุ่มลงไปนั้นหมดเลย เอาคนนี้เท่านั้นเป็นผู้นำ เราไม่ต้องการใครมาเป็นผู้นำแล้ว
เราได้ผู้นำมามากต่อมาก ชาติไทยของเราจะล่มจมอยู่แล้ว ได้ผู้นำคนนี้เป็นผู้สมควรที่เราจะเทิดแล้ว เราจะช่วยแล้ว เอายกกันหมดทั้งประเทศ ฟาดลงในจุดเดียวเลย มีเท่าไรทุ่มลงไป มีบัตรหย่อนลงเต็มเหนี่ยว ๆ ผู้เดียวได้พอแล้วพุ่งเลย ไม่ต้องหาปรึกษาปรารภจากคณะใดพรรคใดพวกใดอีก เพราะผู้นี้พอตัวแล้วพุ่งเลย พอตัวด้วยความถูกต้องแล้ว ให้พิจารณาอย่างนั้นพี่น้องทั้งหลาย ถ้าสมมุติว่าผู้นำคนนี้ หลวงตาบัวตายไปแล้วก็ตาม คำสอนเพื่อความถูกต้องนี้จะไม่ตายเมื่อนำไปปฏิบัติ
อย่างพระพุทธเจ้าสอนโลกนั่นแหละ พระองค์ก็นิพพานไป ๒,๕๐๐ กว่าปีแล้วเป็นยังไง สวากขาตธรรม ตรัสไว้ชอบตลอดเวลา เหมือนแบบแปลนแผนผัง ใครยกมาปลูกบ้านสร้างเรือนตามนี้แล้ว เป็นขึ้นมาโดยสมบูรณ์เช่นเดียวกัน นี่ก็เหมือนกัน ถ้าสมมุติว่าเราตายไปแล้ว คำที่สอนหรือที่บอกไว้แล้วกับพี่น้องทั้งหลายด้วยความถูกต้องแล้ว จะถูกต้องตลอดไป ถ้าผิดจากนี้จะผิดตลอดไป แม้เรามีชีวิตอยู่ก็ผิด จมได้เมืองไทยของเรา แล้วฟื้นได้ถ้าทำถูก ให้จับเอาตรงนี้นะ
สมมุติว่าผู้นำคนนี้หมดสมัยแล้ว เอายกขึ้นใหม่ยกคนนี้ละให้ชาติบ้านเมืองเรา ยิ่งเขาจะเดินต่อไปเลย เขาไม่ต้องไปคิดเรื่องราวให้เสียเวล่ำเวลาอะไรอีกต่อไปนะ พอมาก็สานต่อไปเลยพุ่งเลย ๆ ก็ยิ่งเร็ว ทีนี้ก็เข้ามาเรื่อย ๆ เมืองไทยของเราจะค่อยเปลื้องหนี้เปลื้องสินทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปโดยลำดับลำดา ช้าก็ตามเถอะ เรื่องช้าไม่เป็นไร ช้าเพื่อได้เพื่อแน่นหนามั่นคงไม่เป็นไร เพราะของหนักก็ต้องช้า เงินเราที่ล่มจมไปนี้มันมากขนาดไหน ก็ดังที่ประกาศให้พี่น้องทั้งหลายฟังนั่นซิ ถ้าพูดธรรมดาแล้วอ่อนใจไม่มีใครจะหันหน้ามาดูกองหนี้ที่ทับหัวประเทศไทยแหละ
แต่นี้ก็เป็นบาปเป็นกรรมของเราอันหนึ่งที่เราจะต้องได้แบกได้หาม จึงต้องช่วยกันพินิจพิจารณาทุกคน ช่วยเหลือกันทุกคน เอ้า คนนั้นได้หนึ่ง คนนี้ได้สอง บวกเข้าเป็นสามเป็นสี่เข้าไป หนุนเข้าไป ๆ แล้วจะค่อยขึ้นเรื่อย ๆ เอ้า มานี้หนุนอีก ผู้นำคนนี้เป็นคนดีอยู่แล้ว เอ้าหนุนเข้าอีก หนุนอีก หนุนผู้นำก็เท่ากับหนุนชาติของเราให้สืบต่อกันไปเรื่อย ๆ สานต่อไปเรื่อย ๆ ต่อไปก็พ้นไปได้ จำให้ดีนะคำพูดคำนี้ อันนี้เป็นทางที่ถูกต้องดีงาม ช้าไม่เป็นไร ช้าเพื่อความฟื้นฟู เพื่อความแน่นหนามั่นคง เป็นมงคลทั้งนั้นแหละ ไอ้เร็วเพื่อความฉิบหายอย่าเอามาพูดเลยนะ ให้จำไว้ให้ดีพี่น้องทั้งหลาย
คราวนี้เราก็ขอชมเชยพี่น้องทั้งหลาย ที่หย่อนบัตรถูกต้องตามความรักชาติของชาติไทยเรา ก็เรียกว่าถูกต้องดี นี่ใครก็มุ่งหมายให้คุณทักษิณเป็นนายก เห็นว่าภูมิเดิมของเธอ ความเป็นมาก็สืบทราบอยู่เรื่อย ๆ มา เพราะฉะนั้นเราถึงได้หนุนว่า ผู้นี้แหละพอที่จะยกชาติไทยของเราไปได้ เราก็หนุนทันทีเลย นอกจากนั้นก็กระจายออกไปนอกหมด ช่วยเต็มกำลัง ก็รู้สึกว่าฟื้นขึ้นมาอย่างนี้แหละ ให้เห็นนี่แหละ ถ้าได้เป็นผู้นำเต็มเม็ดเต็มหน่วยตามกฎกติกากฎหมายบ้านเมืองเรียบร้อยแล้ว เราก็ต่างคนต่างพยุงกันไปเรื่อย ๆ รักษาด้วย พยุงด้วย ไม่ใช่ให้เป็นแล้วก็สักแต่ว่าแล้ว ต้องรักษาด้วย ใครมาแตะต้องเพียงไร นายกเป็นหัวใจของเราทุกคน ๆ อันนี้จับให้ดีคำนี้ก็ดี
หลวงตาก็แก่แล้วนะ แต่ธรรมะสด ๆ ร้อน ๆ สอนพี่น้องทั้งหลาย ให้จับให้ดี ขอให้ฟังให้เชื่อศาสนา ให้เชื่อธรรมพระพุทธเจ้า ธรรมพระพุทธเจ้าไม่เคยทำสัตว์ตัวใดผู้ใดให้ล่มจมนะ นี่เอามานำพี่น้องชาวไทยนี้เราก็คุ้ยเขี่ยขุดค้นเต็มสติกำลังเอามานำ ก็รู้สึกว่าเราไม่มีข้อต้องติเราที่นำพี่น้องทั้งหลายว่าผิดไป ที่ผ่านมาแล้วก็ดี ปัจจุบันนี้ก็ดี และอนาคต แล้วก็พุ่ง พิจารณาตามเดิมที่เราพิจารณาแล้ว
ถ้าศาสนาพาขึ้นไม่ได้คราวนี้จะไม่มีทางนะ จำให้ดี ข้อนี้ก็จำให้ดี ศาสนาก็ออกมาอย่างเต็มเหนี่ยวแล้วคราวนี้ ออกมาช่วยพี่น้องทั้งหลายทุกด้านทุกทาง รอบด้านแหละเรา ช่วยเต็มกำลังความสามารถก็คือศาสนา อาราธนาพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์มา เราเป็นผู้อาราธนามา มาทำหน้าที่ต่อพี่น้องชาวไทยด้วยความเมตตาแห่งธรรมล้วน ๆ ฉะนั้นให้ฟังเสียงหัวหน้า อย่าก้าวอย่าก่าย อย่ากีดอย่าขวาง ซึ่งเป็นเรื่องทำลายทั้งนั้น ๆ ธรรมไม่เคยทำลายผู้ใดเลย ให้จับข้อนี้เอาไว้ ผู้นำจะพาพี่น้องทั้งหลายล่มจมก็ให้เห็นเสีย พระพุทธเจ้าไม่เคยทำ สาวกทั้งหลายไม่เคยทำให้ผู้ใดล่มจม
เราอาราธนาธรรมพระพุทธเจ้ามาช่วยพี่น้องชาวไทยนี้ เราก็แน่ใจว่าไม่ล่มจม เรื่องช้าเรื่องเร็วขึ้นอยู่กับกำลังวังชาเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เราจะหมุนไปเท่านั้นเอง แต่ยังไงก็จะค่อยเป็นไปด้วยความชอบธรรมของเรานั่นแหละ พากันจำเอานะ วันนี้พูดเพียงเท่านี้ก่อน เพื่อเตือนพี่น้องทั้งหลายให้ทราบ ทั้งปัจจุบันทั้งอนาคตที่จะปฏิบัติต่อชาติบ้านเมืองของเรา ด้วยความเข้มงวดกวดขันทุกคน การบริจาคทั้งหลายจะค่อยเป็นมาเอง เวลานี้จะพาพี่น้องทั้งหลายขนสมบัติเข้าสู่คลังหลวงให้แน่นหนามั่นคง เข้าใจไหม แล้วตีข้างนอก ๆ ไม่ให้เข้ามายุ่ง ๆ เราจะพยายามช่วย ทั้งทางโลกเขาก็ช่วยทางนั้น เราก็ช่วยทางนี้ หนุนกันไปเพื่อชาติไทยของเรา
(ลูกศิษย์) อ่านแผ่นปลิวให้ฟังว่า ธรรมะต่าง ๆ ที่หลวงตาให้มาทุกวัน ๆ เป็นเหตุให้ชาติพ้นภัย เริ่มแต่โครงการช่วยชาติ มีในหลวง สมเด็จพระราชินี ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ ทรงสนับสนุนโดยการบริจาคทองคำ ดอลลาร์เข้าในโครงการ
ใช่แล้ว นี่ละกระเทือนใจพี่น้องชาวไทยเรามากไหม ตั้งแต่วงศ์กษัตริย์ลงมา สมบัตินี้เพื่อเข้าสู่คลังหลวง อันเป็นของคู่ควรกันอย่างยิ่งกับสมบัติเหล่านี้ ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่วงศ์กษัตริย์มาเลย จะเข้าสู่คลังหลวง พิจารณาซิ โจรมารตัวใดที่มันกล้ามันอาจหาญชาญชัย ก็เท่ากับลบล้างชาติทั้งชาติ ศาสนาทั้งหมดไปตาม ๆ กัน ถ้าพูดเรื่องอรรถเรื่องธรรมเราไม่อยากพูดนะ คือมันสะเทือนใจขนาดไม่อยากพูดถึงเลย ที่พวกที่ก่อการร้ายเลวที่สุดที่จะลงไปจมนี่ว่างั้นเลยนะ นี่เราก็เอาเฉพาะที่เราพอเป็นวิสัยของเราที่จะช่วยกันได้ ที่ปัดที่เป่าข้างบนข้างนอกนี้นะเข้าใจไหม ข้างหลังมอบให้ยมบาลไปเลยเราไม่ยุ่งเข้าใจไหม ให้จำให้ดีนะเราจึงไม่เอามายุ่ง ทางโน้นไม่เอียงแล้ว โลกนี้มันแสนปลิ้นปล้อนหลอกลวงจึงมาแก้ไขตรงนี้ ธรรมชาตินั้นไม่ต้องไปแก้ไขแหละ ดีเป็นดี ชั่วเป็นชั่ว นรกเป็นนรก สวรรค์เป็นสวรรค์ตลอด ไม่มีการด่างพร้อยตลอดมานะ
สรุปวันที่ ๙ ทองคำได้ ๒๕ บาท ๔๔ สตางค์ ดอลลาร์ได้ ๔๓๓ ดอลล์ ทองคำที่ต้องการมอบเข้าคลังหลวงคราวนี้ ๔ พันกิโล มอบและฝากเข้าคลังหลวงแล้วเวลานี้ ๒,๐๖๒ กิโลครึ่ง ทองคำที่ได้หลังจากการฝากและมอบแล้วนั้น เวลานี้ได้ ๒๓๔ กิโล ๑๕ บาท ๑๑ สตางค์ อันนี้ยังไม่ได้หลอมนะ ต่อไปนี้จะหลอมจำนวนนี้เมื่อครบ ๔๐๐ กิโลแล้วก็จะหลอมทีนึง เวลานี้ได้ ๒๓๔ กิโลกับ ๑๕ บาท.ทองคำทั้งหมดที่ได้ในคราวนี้ทั้งหมดเลยเป็น ๒,๒๙๖ กิโลครึ่ง ยังขาดอยู่อีก ๑,๗๐๓ กิโลครึ่งจะครบจำนวน ๔ พันกิโล กรุณาทราบตามนี้ พอไปละที่นี่
บุญข้าวเปลือกเราเขาจะขอเป็นวันนู้น เราก็ไม่ว่าอะไร เพราะคราวนี้เราบอกไม่ให้รบกวนใคร รบกวนชาติก็รบกวนมามากต่อมากแล้ว คราวนี้ให้เป็นอัธยาศัยของชาวบ้าน ซึ่งเขาทำบุญประทายข้าวเปลือกนี้นะ ประจำปีของเขา ตั้งแต่เขาสร้างบ้านตาดมา เขาก็ไม่ให้ขาดเลยนะ อันนี้ให้เป็นเรื่องของเขาเอง ไม่เกี่ยวกับชาติบ้านเมือง นี่เขาก็กำหนดเอาว่าบ้านศาลา อำเภอหนองหาน วันที่ ๑๐ แล้วทีนี้บ้านตาดจะกลายเป็นวันที่ ๑๑ ต่อกันไปเลย คือวันที่ ๑๐ เราก็ออกไปเทศน์ที่บ้านศาลาแล้วกลับมา ทางนี้เขาก็เตรียมพร้อมขนข้าวมาวันเราไปนั้นแหละ คือวันรวมเขา วันรวมทางนี้เป็นวันสำเร็จทางนู้นทางบ้านศาลา เราก็จะไปวันที่ ๑๐ พอฉันเสร็จเรียบร้อยแล้ว สาย ๆ หน่อยเราก็จะไปที่บ้านศาลา พวกนี้เขาก็จะมารวมศรัทธาข้าวเปลือกในวันที่ ๑๐ นั่นแหละวันเราไป พอไปตอนเย็นเราก็กลับมา วันที่ ๑๑ ก็เป็นงานของข้าวเปลือกบ้านนี้ละ ติดกันไปทั้งสองวันนี้ กรุณาทราบตามนี้
อันนี้เราไม่รบกวนพี่น้องชาวไทยเราเพราะรบกวนมามากต่อมาก เราเองก็ อู๊ย รำคาญเหมือนกันนะ ทนเอา พอว่างานวัดป่าบ้านตาดเพื่อชาติ เพื่อชาติ ๆ แล้ว แต่ก่อนเราไม่เคยให้มีนี่งาน วัดนี้มีเมื่อไรมีไม่ได้ว่างั้นเลย อันนี้เอะอะก็งานวัดป่าบ้านตาด เพื่อชาติเข้าไปเราก็หมอบ ถ้าว่าเพื่อชาติเราหมอบ อย่างนั้นแหละเรื่องมัน คราวนี้จึงไม่รบกวน ให้เป็นตามอัธยาศัยของเขา นี่ยังไม่แล้วนะ พอวันที่ ๒๙ นี้ก็จะไปสกลนครอีกแหละ เดือนนี้นะ วันที่ ๒๙ มีงานระลึกครบรอบของหลวงปู่มั่นเรา เขามีงานสามวันสามคืน แต่เราจะไปให้เฉพาะวันที่ ๒๙ ไปถึงนั้นตอนบ่าย ๓ โมงก็เทศน์ ตอนค่ำอาจเทศน์พระก็ได้ วันที่ ๒๙ วันที่ ๓๐ พอฉันเสร็จแล้วเราก็กลับมา วันที่ ๓๑ ก็ไปสุรินทร์ติดกันไปเรื่อย ๆ นะ ระยะนี้จะไม่ค่อยว่างแหละ ไปละ
เปิดดูข้อมูล วันต่อวัน ทันต่อเหตุการณ์ หลวงตาเทศน์ถึงเรื่องอะไร
www.luangta.com |