เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๐ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๙
ถูกต้มเรื่อย
ก่อนจังหัน
ทุกข์ในโลกนี้เอาอะไรมาดับ ดับไม่ลงดับไม่ได้นะ ต้องเอาธรรมเข้าดับ ทุกข์ในโลกดับได้ด้วยธรรม ไฟดับด้วยน้ำ อันนี้โลกมันเป็นไฟอยู่ในหัวใจของสัตว์โลก ต้องดับด้วยธรรม นำธรรมเข้าไปปฏิบัติ ถ้าไม่มีธรรมแล้วตายจมไปเลย พากันจำ โลกกำลังเป็นบ้ากันไปกับกิเลสตัณหาไม่มีเมืองพอ กิเลสใครเคยเห็นไหมมันมีเมืองพอมีฝั่งมีแดนที่ไหนกิเลส ไม่มี แม่น้ำมหาสมุทรทะเลหลวงมีฝั่ง มีขอบมีเขต แต่ นตฺถิ ตณฺหาสมา นที แม่น้ำเสมอด้วยตัณหานี้ไม่เคยมี เรื่องขอบเขตหรือฝั่งฝาไม่มี มันอยู่ในหัวใจสัตว์นั้นนะ มันท่วมหัวใจสัตว์ตลอดเวลา เอาน้ำที่ไหนมาดับไม่ลง ต้องเอาธรรมเข้าดับ ให้พากันจำเอา
ศาสดาองค์เอกมาตรัสรู้ ไม่มีกิเลสภายในพระทัย สอนโลกได้อย่างถูกต้องแม่นยำเห็นผลทันตาถ้านำไปปฏิบัติ ไม่มีใครสอนได้ถูกต้องแม่นยำยิ่งกว่าองค์ศาสดา มีพระองค์เดียวสิ้นกิเลสสอนโลก ให้นำธรรมของท่านผู้สิ้นกิเลสสอนโลกนี้ไปสอนเรา ปฏิบัติตัวของเราให้ดี อย่าดีดอย่าดิ้นเกินเหตุเกินผล ดิ้นไปไหนก็มีแต่จะเข้าฟืนเข้าไฟทั้งนั้น ถ้าดิ้นไปตามธรรมดับได้ๆ สงบร่มเย็น พูดย่อๆ เพียงเท่านี้สำหรับธรรมทั่วๆ ไป
ทีนี้ย่นเข้ามาหาพระ พระก็ต้องเอาน้ำดับไฟเน้นหนักเข้าไปอีก ความพากเพียรมีสติติดแนบอยู่กับตัวอย่าให้เผลอ กิเลสจะหนาแน่นขนาดไหนก็ตาม สติเป็นฝั่งครอบกิเลสได้เป็นอย่างดี ถ้าลงสติดีแล้วกิเลสจะเกิดไม่ได้ จะหนาแน่นขนาดไหนก็หนาแน่นเถอะ ไม่เหนืออำนาจของสติไปได้ จากสติธรรมแล้วก็ปัญญาธรรมกระจายออกไป ทุกองค์ปฏิบัติให้ดีพระในวัดนี้ ไม่ได้มีการมีงานอะไร ให้มีแต่การเดินจงกรมนั่งสมาธิภาวนาด้วยสติติดแนบกับตน ปัญญาแฝงข้างกันไป นี่คือผู้หาอรรถหาธรรม
เดี๋ยวนี้พระเรามันมีแต่ผ้าเหลือง ดูท่านดูเราดูให้สม่ำเสมอ มีแต่ผ้าเหลืองครองตัวอยู่ เรื่องอรรถเรื่องธรรมที่จะมีหิริโอตตัปปะ สะดุ้งกลัวต่อบาปต่อกรรมนี้แทบจะไม่มี มองไปในวัด โลกเขามองไปเห็นเป็นวัด แต่ธรรมมองเข้าไปเห็นเป็นส้วมเป็นถาน โลกเขามองพระว่าเป็นพระน่ากราบไหว้บูชา เป็นที่ลงใจ แต่ธรรมดูพระแล้วคือมูตรคือคูถ อยู่ในวัดนั่นคือส้วมคือถาน เดี๋ยวนี้อยู่ในภาวะอันนี้เอง ปัจจุบันนี้พระเณรอยู่ในวัดในวา คือมูตรคูถอยู่ในส้วมในถาน เพราะไม่มีหิริโอตตัปปะ อาศัยผ้าเหลืองกินไปๆ อวดอำนาจบาตรหลวงว่าตนเป็นพระไม่มีใครแตะต้อง เพราะเขากลัวบาป แต่ตัวเองไม่กลัวบาปนี่ซิ พวกจมไปพวกนี้น่ะ ดูให้ดีคิดให้ดีนะพระเรา มันเลอะเทอะขนาดนั้นละพระสมัยปัจจุบัน ดูให้ทั่วถึง ดูทั้งเขาทั้งเรา เป็นแบบเดียวกัน ให้รีบแก้ ศาสดาองค์เอกสอนโลกสอนเพื่อความพ้นทุกข์ นี้เราหัวถลำเข้าทุกข์ด้วยกันทุกคนๆ เพราะความทำผิดพลาดตลอดอาการทุกอย่างที่เคลื่อนไหวไปจากกายวาจาใจ ให้พากันระมัดระวังให้ดี ให้พร
หลังจังหัน
ที่วัดถ้ำภูวัว ท่านอุทัยเป็นเจ้าอาวาส พอดีเขาถวายที่ที่กลางดง เขาใหญ่ แล้วไม่มีใครที่จะรับสถานที่นั่นได้เรามองไม่เห็น เลยตกลงปรึกษาท่านอุทัย ขอให้ท่านอุทัยรับและไปอยู่วัดที่ว่านี่ เขาใหญ่ ทางภูวัว ใครรองลงมาก็ไม่ทราบ แต่ก็ต้องปฏิบัติแบบเดียวกัน นี่เราก็ส่งอาหารตามเดิมทางภูวัว แต่แยกท่านอุทัยให้ไปอยู่ที่เขาใหญ่ เราไปดูแล้วที่เขาใหญ่ ย่านนั้นไม่ค่อยมีพระกรรมฐาน เราเลยให้ท่านอุทัยไปอยู่ ส่วนภูวัวผู้รองลงไปคงจะอยู่แทน ท่านอุทัยคงจะกำชับกำชาแนะนำบอกกัน เราแยกท่านอุทัยไปนู้นแล้ว
แต่การส่งอาหารการกินส่งตามเดิม ภูวัว ถึงเวลาแล้วไปส่งตามเดิม ส่วนเขาใหญ่ไม่ไปส่ง ท่านมีปัญญาให้หากินเอง ตั้งแต่หมูมันยังมีปัญญาขุดหญ้าแห้วหมูกิน ท่านอาจารย์มั่นเดินบิณฑบาตท่านมองเห็นหมู มันกำลังขุดหญ้าแห้วหมูกิน ตัวกำลังน่ารัก นี่เห็นไหมท่านว่า หมูไม่มีจอบมีเสียมเขาก็ขุดดินได้ มันน่าขบขันเราเลยเอาเท้าแหย่เข้าไป โดดตูมตกหงายท้องขึ้นฟ้า อ้าว มันเป็นอะไร เป็นอะไรก็ไม่ทราบ ตอบได้ภายในใจ ท่านว่าหมูเขาช่วยตัวเองเขา เขาไม่มีจอบมีเสียมเขาเอาจมูกขุดหญ้าแห้วหมูกิน นี่เขาช่วยตัวเองเขาได้
ท่านพูดของท่านเป็นธรรมนะ พูดไม่ยิ้มไม่แย้ม พูดเป็นอรรถเป็นธรรม แต่เรามันนิสัยจะว่าคะนองหรือตลกก็ได้ มันจะช่วยตัวเองได้จริงๆ เหรอ ให้มันช่วยตัวเองสักหน่อย เราเอาเท้าแหย่ เขากำลังขุดอยู่นี้เขาไม่กลัวพระนี่นะ ตัวกำลังน่ารักเท่ากระโถน พอเราเอาเท้าแหย่ โดดนี้ตกลงคลองหงายท้องไม่เป็นท่า อ้าว มันเป็นอะไรเสียงร้องกี้กๆ เราตอบในใจว่าเขาช่วยตัวเอง ช่วยไม่ได้หงายท้องขึ้นฟ้าไม่เป็นท่าเลยหมู เรายังไม่ลืมนะ เราตอบอยู่ภายในใจ มันช่วยตัวเองเก่งขนาดไหน เวลาแหย่นี้โดดตูมไปหงายท้องขึ้นฟ้า ไม่เห็นช่วยตัวเองได้
นิสัยของท่านไปมองเห็นนี้ นำนี้เทศน์ไปเรื่อยๆ เราจึงได้บอกพระถ้าเราไม่อยู่ พระองค์ติดตามท่านให้ระวังให้ดี ท่านพูดเหล่านี้ท่านไม่ได้พูดกับเรา แต่เป็นอุบายสอนเราข้างหลัง เจอหมูพูดเรื่องหมู เจอวัวเจออะไรพูดเรื่องนั้นเป็นธรรมเรื่อยๆ ไป บางทีท่านถามมา ถามฉากๆ มานี้จะไปตอบง่ายๆ ไม่ได้นะ หากท่านต้องการจริงๆ ท่านจะซ้ำ เหอ หันหน้ามา แล้วให้ตอบเสียนิดหนึ่ง แต่ธรรมดาอย่าตอบนะเราบอกอย่างนั้น พ่อแม่ครูจารย์มั่นจอมปราชญ์กับจอมโง่ เข้าใจไหมล่ะ ขบขันดีที่ว่าเขาช่วยตัวเองเขาขุดดิน บทเวลาเท้าแหย่ไปนี้ตกลงมาหงายท้องขึ้นฟ้า ไม่เห็นช่วยตัวเองได้ ขบขันดี
(รพ.สวนดอก ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มาขอเมตตาเครื่องมือแพทย์ มีห้องแล้วแต่ไม่มีเครื่องมือ) แล้วไปทำได้ยังไงไม่มีเครื่องมือ อุตริทำหาอะไรไม่มีเครื่องมือ แม้แต่กั้นห้องนอนก็ยังมีคนนอน นี่กั้นห้องแพทย์แต่ไม่มีเครื่องมือมันยังไงกัน แล้วมีอะไรเอ้าว่าไป (เครื่องมือไม่พอก็เลยอยากกราบขอความเมตตาครับผม) นั่นแล้วมันข้ามแดนมาทำไม เรากำลังให้เขตนี้แดนนี้แล้วข้ามมาทำไมเชียงใหม่ แล้วต้องการเครื่องอะไรบ้างว่ามา (มี ๑.เครื่องมือผ่าตัดน้ำวุ้นลูกตา ๒.กล้องผ่าตัดตา ๓.เครื่องเลเซอร์รักษาโรคจอประสาทตา รวม ๓ รายการ) เครื่องหนึ่งเท่าไร เราขายวัดป่าบ้านตาดเพื่อซื้อนี้จะพอไหม เครื่องมือแต่ละเครื่องของเล่นเมื่อไร เพราะฉะนั้นจึงต้องยกวัดทุ่มใส่กันเลย (รวม ๓ รายการ ๘,๑๐๐,๐๐๐ ครับ) เออ ให้ทั้งสามนี่ละ
ไปกรุงเทพคราวนี้คนตาบอดคนหนึ่งก็มาหาเรา วันพรุ่งนี้เราจะกลับ วันนี้มาหาเรา เอ๊ มันยังไงกันเหมือนมีเล่ห์เหลี่ยม นี่ถูกต้มที่สุดนะ เปื่อยแหลกตลอด คือเราเป็นธรรมล้วนๆ เขาไม่เป็นธรรมหลอกต้มเรา ว่าอะไรเราก็ให้ๆ น่ะซี ทีนี้ให้ไปที่ไหนได้ต้มเราจนเหลือแต่กระดูก สมมุติวันพรุ่งนี้เราจะกลับมาอุดร แล้ววันนี้โผล่เข้ามาเรื่องตา อยากได้เงินเท่านั้นไปรักษาตา สรุปลงเลย ทีนี้เราเคยถูกต้มมาแล้วตั้งแต่เชียงใหม่ ลำปางมา ไม่ใช่น้อยๆ นะ อันนั้น ๘ หมื่น เราก็ให้เลยที่เขาขออย่างนี้ละ พอเอาไปหายเงียบ ให้คนติดตามทางนู้น ตามไปแล้วหายเงียบไปเลย
แล้วมากลางทางก็ให้อีกๆ เรื่อยมาจนถึงวันที่เราจะมาจากสวนแสงธรรม อันนี้เราบอกไม่ให้ เอ้า ถ้าเหตุผลกลไกถูกต้องดีงามมาด้วยความสะอาดแล้ว มากกว่านี้เราก็เคยให้เราบอก อันนี้เราไม่แน่ใจเราไม่ให้ แล้วไม่ให้จริงๆ นะ พอถึงวันนี้ก็มา เขามาขอเมื่อวาน เหมือนว่าหัวเลี้ยวหัวต่อที่จะจับสดๆ เอาไปกินเลย ก็เขาเคยได้กับเรา ทีนี้เราไม่ให้
คือคนหนึ่งเป็นธรรม ว่ายังไงก็เป็นไปตามนั้นๆ แต่เขามีเล่ห์เหลี่ยม โอ๊ย ทุเรศนะ ลูกศิษย์ลูกหาเราผู้สำคัญๆ เหมือนหนึ่งว่าไว้เนื้อเชื่อใจได้อย่างเต็มที่ ถูกแทงข้างหลังก็มี อู๊ย เราสลดสังเวชนะ ทำไมกิเลสเป็นอย่างนั้น มาแทงข้างหลังได้กิเลสไม่ไว้หน้าใคร พอมีช่องมีโอกาสเอาเลย นี่ละถ้าพูดถึงเรื่องความเสียท่าเราเป็นฝ่ายเสียท่าอยู่ตลอดๆ เสียท่าที่เขาต้มเราไม่ใช่อะไร ให้เรื่อยต้มเรื่อย ทีนี้หลายครั้งหลายหนมันก็เข็ดละซี อย่างที่เขามาสวนแสงธรรม เราจะออกเดินทางวันพรุ่งนี้ วันนี้เขามาแล้ว ไม่ให้เราบอก ถ้าหากว่าไปติดต่ออะไรเรียบร้อยแล้ว ตกลงกับหมอเป็นที่เข้าใจกันเรียบร้อยแล้วเราให้เราก็บอก มากกว่านี้เราก็เคยให้ แต่จะมาแบบอย่างนี้ไม่เอา
ทุกแห่งแหละหลวงตาไปที่ไหนช่วยตลอด หมาก็ช่วย เวลานี้หมาดูเหมือนเดือนละสองแสนสองหมื่น เป็นประจำมาหลายปีนะ ที่ปากเกร็ด ๑ แสน อีกรายเขาย้ายไปที่อื่นก็ต้องให้ตามเดิมอันนี้ ๖ หมื่น ที่อำเภอบ้านนานั่นก็ ๖ หมื่น เรียกว่าเราให้เป็นประจำ ๒๒๐,๐๐๐ ปากเกร็ดน้อยเมื่อไร ซื้อที่ให้เราไปดูเอง พอไปเห็นหมาเป็นร้อยๆ โอ๊ย สงสาร หมาในบ้านเรามันก็อาศัยเจ้าของกิน อันนี้ก็ต้องอาศัยนี้เป็นเจ้าของไม่งั้นก็ตายหมด หมาเป็นร้อยๆ พอได้ยินเขาเล่าให้ฟัง เขาออกทางทีวีด้วยเราก็เลยไปดู
พอไปดูแล้วแหม ดูตรงไหนมีแต่สิ่งที่ปลงไม่ตก ต้องปลงด้วยความช่วยเหลือ ไปดูที่ข้างบนก็คับแคบ ข้างบนที่ว่าตึกนั้นเราให้นะ สร้างตึก ๖ ล้าน นี่เฉพาะตึก แล้วที่เหล่านี้เป็นยังไง ลงมาเอาละ ที่ว่างๆ นี้เขาไม่ขายบ้างเหรอ ถ้าขายก็ซื้อเอา ว่าเขาจัดล็อคจะขายอยู่แล้ว เออ ถ้างั้นดีแล้ว เอ้าเราเอาอีกที่ ๑ ไร่ อันเดิม ๑ ไร่เป็น ๒ ไร่ๆ หนึ่ง ๔,๒๐๐,๐๐๐ สมัยนั้นราคาของยังไม่แพงเท่าไรนัก อย่างทุกวันนี้ไม่ได้นะ ๔ ล้าน ๒ เราก็เอาเลย
แล้วก็มีคนหนึ่งอีก เป็นอย่างนั้นละ แทงข้างหลังหากไม่เจ็บคนนี้นะ มีคนหนึ่งเขาสมัครมาขอแบ่งครึ่ง ที่ดินเขาจะขาย ๔ ล้าน ๒ แสน เขาจะเอา ๒ ล้าน ๑ แสนช่วยเรา เอ้า ช่วยก็ช่วยไปแต่เราจะจ่ายให้หมดเลยทันที เราบอกงั้น จ่ายให้เขาเสร็จเรียบร้อย จนกระทั่งป่านนี้ไม่มาถามเลย ๒ ล้าน ๑ แสน นี่มันเป็นแต่อย่างนั้น อะไรเราต้องจ่ายไปก่อนๆ พูดตามเรื่องของคนไม่ได้เรื่องนะ ไม่แน่ใจ มันพูดมันหลบได้เรื่องโลก เรื่องธรรมไม่เป็นอย่างนั้น ตรงเป๋งๆ เพราะฉะนั้นเราจึงถูกต้มบ่อยๆ พวกกิเลสต้มธรรม นี่ธรรม ไอ้พวกต้มเราพวกกิเลส ต้มเรื่อย เฉย ใครต้มก็ต้มไป
สำหรับวัดนี้เขาเขียนติดไว้นั้นก็มีบางวันนะ ใครจะคะนองมืออะไรมาเขียนไว้ สมบัติของวัดป่าบ้านตาดเป็นสมบัติเพื่อโลกเขาเขียนไว้นั้น เขาก็พึ่งเขียน แต่เราเพื่อโลกมานานตั้งแต่เขายังไม่เกิดละท่า เราเห็นเขาเขียนไว้ เงินหรืออะไรของวัดป่าบ้านตาด เป็นเงินหรือเป็นปัจจัยสมบัติเพื่อโลกเขาว่างั้น เรามันเพื่อมาแล้ว จนคนอื่นเขาทราบว่างั้นเถอะ เราเปิดตลอดให้ตลอด ไปไหนมีแต่ให้ๆ เอามาก็เพื่อให้ ไม่ใช่เอามาเพื่อกำ เอามาเพื่อให้ๆ อย่างนั้นตลอด ได้ทำประโยชน์ให้โลกเราเป็นที่พอใจ เราไม่เอาอะไร ไปไหนบกพร่องขาดเขินตรงไหนๆ ไม่มีใกล้มีไกล ความจำเป็นมีเหมือนกันหมดเราให้ๆ
นี่ตากำลังมา สั่งไปแล้ว บุรีรัมย์ ๕ ล้าน เพชรบูรณ์ ๔ ล้าน พิษณุโลก ๙ ล้าน ๕ หมื่น อุตรดิตถ์ ๕ ล้าน ๘ แสน อยู่ในจำนวนที่กำลังสั่งเดี๋ยวนี้ สั่งหมดเลยเพราะฉะนั้นมันถึงตกมาในระยะต่างๆ กัน คือสั่งไม่ได้สั่งพร้อมกัน สั่งนั้นแล้วสั่งนั้น ใครมาขอแล้วตกลงอันนี้แล้วให้สั่งนั้น เดี๋ยวคนนี้มาขอ นี่ละมันไม่มาพร้อมกัน ทีนี้เวลาอนุญาตให้ก็ให้แบบนี้ละ สั่งเรื่อยๆ แล้วก็ตกมาเรื่อยๆ จ่าย เมื่อวานนี้ก็จ่าย ดูว่า ๓ ล้านกว่า ตา เป็นอย่างนั้น
เราจึงได้พูดให้พี่น้องทั้งหลายทราบว่า เวลาหลวงตาบัวตายเงินจะมีในบัญชีอยู่นะเราบอก บอกไว้ให้ทราบเสียว่าเวลาเราตาย เงินจะยังเหลืออยู่ในบัญชีนั้นบัญชีนี้มีหลายบัญชีนะยังเหลือ แล้วให้พี่น้องทั้งหลายทราบว่า เงินจำนวนสักเท่าไรอยู่ในบัญชีอะไรก็ตาม เงินเหล่านี้จะเป็นเงินช่วยโลกทั้งนั้น ไม่ได้ช่วยเรา เหมือนดังเราปฏิบัติมานี้เป็นอย่างนั้น ตายแล้วก็เป็นอย่างนั้น เงินจำนวนที่เหลืออย่าเข้าใจว่าหลวงตาบัวช่วยโลก บทเวลาตายแล้วมีเงินตั้งหลายๆ ล้านอย่างนี้เขาจะมาโจมตี พี่น้องทั้งหลายลูกศิษย์ลูกหาจะเสียใจ เข้าใจไหม เราจึงบอกให้ทราบไว้เสีย
อย่างท่านอาจารย์ฝั้น ตอนนั้นท่านมีเงินอยู่ ๑ ล้าน ๕ แสน ท่านสั่งไว้หมดแล้ว คือเขาไม่รู้ หรือเขาจะแกล้งท่านก็ไม่รู้ละ ให้ที่นั่น ๕ แสน ให้ที่นี่ ๕ แสน ให้ที่นี่ ๕ แสน เงินล้านห้าแสนก็หมดพอดี นี่เขาโจมตีท่านว่าท่านมีเงินอยู่ ๑ ล้าน ๕ แสน จนสมเด็จวัดนรนาถฯวิ่งมาหาเรา มาเจอกันกลางทาง เราออกไปนี้ท่านก็มา ท่านเปิดไฟพ้าบ เราก็แอบไว้ อ้าว จะไปไหนล่ะ ไปไหนก็ไปแล้วไม่ใช่คนตายเราว่า ท่านเป็นสมเด็จฯนะ ไปไหนล่ะ ไปไหนก็ไปแล้วไม่ใช่คนตาย คือคุ้นกันมาก ท่านแก่พรรษากว่าเรา ๖ พรรษา คุ้นกันมาแต่ไหนแต่ไร
ท่านมาเล่าถึงเรื่องที่เขาโจมตีท่านอาจารย์ฝั้น เงิน ๑ ล้าน ๕ แสน เราก็กราบเรียนท่านเลยเดี๋ยวนั้น ผมทราบเรื่องราวละเอียดลออ กราบเรียนท่านเสร็จแล้ว เอ้อ ถ้าอย่างนี้ก็หมดปัญหา กลับไปนี้จะไปแก้ข่าวท่านว่า พอท่านไปแก้ข่าวเลยเงียบเลย นี่หลวงตาบัวตายแล้วนี้ แล้วเขาจะโจมตีหลวงตาบัว แล้วใครจะไปแก้ข่าว หลวงตาบัวต้องแก้ข่าวไว้ก่อน เข้าใจไหม แก้ข่าวไว้ตั้งแต่บัดนี้ ตายแล้วจะหมดปัญหาทันที เพราะเงินเหล่านี้จะเป็นเงินช่วยชาติตลอด
มันมีอยู่หลายบัญชี เช่นอย่างเราไปกรุงเทพ เขาถวายเช็คที่นั่นๆ ในกรุงเทพ เอาเช็คนั้นเข้าธนาคารทางกรุงเทพไว้ อย่างนั้นนะ เพราะฉะนั้นจึงมีอยู่ทั่วๆ ไปบัญชีฝากเงินหลวงตาบัว อย่างอุดรก็มีทางโน้นก็มี บทเวลาตายแล้วที่ไหนก็มีแต่เงินหลวงตาบัวหมดละ เขาไม่รู้เรื่องนะว่าเงินนี้เป็นเงินอะไร ก็เงินอย่างนั้นละ เขาถวายแล้วก็เอาเข้าทางนู้นเสีย มาแต่ไหนก็เข้าทางนู้นเสีย เวลาจำเป็นจะสั่งทางไหนก็สั่งได้ช่วยโลก เขาจะโจมตีเราก็ให้บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายทราบเอาไว้ เงินจะมากจะน้อยก็ตาม เป็นเงินเพื่อพี่น้องชาวไทยเราทั้งนั้นแหละไม่ได้เพื่อใคร
เราตายแล้วเราจะเผาด้วยไฟ เราจะไม่เผาด้วยเงิน เงินนี้ยังเป็นประโยชน์ จะใช้กับผู้มีชีวิตอยู่ สำหรับเราตายแล้วเผาด้วยไฟพอ แม้ที่สุดเวลาตายแล้วเขาจะนำเงินมาบริจาคในงานเผาศพเรา มีมากมีน้อยเราตั้งกรรมการ นี่เราเขียนพินัยกรรมแล้ว เราตั้งกรรมการขึ้นให้เก็บรักษาเงินจำนวนนี้ ได้จำนวนเท่าไรให้เอาเงินจำนวนนี้ไปซื้อทองคำเข้าสู่คลังหลวงหมดเลย นี่เราสั่งไว้แล้ว พินัยกรรมมีแล้ว เราไม่เอาอะไร นี่ก็เป็นไปตามนั้น ตายก็ต้องเป็นไปตามนั้น จะเอาพินัยกรรมมากางเลย ก็จะต้องปฏิบัติตามนั้น เราไม่เอาอะไร เราพอทุกอย่างแล้ว พอในหัวใจไม่เอาอะไร สามโลกธาตุปล่อยหมดโดยสิ้นเชิงไม่มีอะไรเหลือ ไปที่ไหนจึงมีแต่ความเมตตาล้วนๆ ไปเลย เอาละวันนี้ จะให้พร
นั่นเห็นไหมล่ะ พัดยศหลวงตา สองพัด พัดราชกับพัดธรรม ข้ามขั้นนะ ทีแรกตั้งพระครูให้เรา เราไม่เอาปัดคืนหมด ตั้งครั้งที่สองขึ้นราชเลย ไม่ใช่สามัญ ขึ้นราช ครั้งที่สามเทพไม่อยู่ขึ้นธรรมเลย เดี๋ยวนี้อยู่ที่ธรรม เราจึงได้ขู่คนในพระราชวัง บอกว่าให้อยู่เพียงเท่านี้นะ อย่าทำต่อไปอีกเราบอกตรงๆ เลย คราวนี้เอาเด็ดอยู่นะ กับสำนักพระราชวัง นี่เราเห็นแก่ทั้งสองพระองค์ต่างหากนะที่เรารับนี่ เราว่าแค่นี้ละ นี่ถ้าขึ้นจากธรรมแล้วมันจะไม่อยู่ละรองสมเด็จ มันจะขึ้นสมเด็จเลย
ตั้งแต่เพียงชั้นราชชั้นธรรมนี้ ก็ถูกไล่เข้าไปในพิธีพระราชวัง ไม่ไปสักทีเลย ไม่ไปจริงๆ ดื้อ เฉย ถ้าว่าชั้นราชก็ราชด้วยกันไปซิ อดอยากเมื่อไรพระชั้นราช พอขึ้นชั้นธรรมก็จะเอาไปฉันพระราชวังพิธี บอกชั้นธรรมมีเยอะด้วยกันไป ธรรมนี้จะกลับ ไม่ไป ไม่ไปจริงๆ นี่ขึ้นสมเด็จจะว่าไง เข้าใจ กลัวจะขึ้น ขึ้นธรรมดาค่อยยังชั่ว ให้ไปยุ่งป้วนเปี้ยนในสำนักพระราชวังเราไม่ต้องการ อยู่ลำพังของเราเราสบายแล้ว ไปอยู่ที่ไหนสบายๆ ไม่ยุ่ง สบาย นี่ละยศแห่งธรรมเป็นอย่างนั้น ยศแห่งธรรมอยู่ที่ไหนสบายๆ อยู่ในหัวใจนี้ละ
ผู้ที่ไปขอพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เราจึงออกทางวิทยุเลย เราขอเดินบิณฑบาตผ่านพระราชวัง ว่าอย่าพระราชทานสมณศักดิ์ให้พระเหล่านี้ ว่างั้นแหละเรา มีใครพูดอย่างนี้ ไม่มี มันมาหาอะไร มาหาสมณศักดิ์สมณแส็ก ธรรมที่เป็นของเลิศเลอ พระพุทธเจ้าให้หามาตั้งแต่วันบวชทำไมไม่สนใจ เพราะฉะนั้นจึงอย่าให้เราบอก ให้หาเอง หาธรรมเข้าใจไหม สมณศักดิ์อยู่กับธรรม สมณศักดิ์ก็คือว่า ศักดิ์ศรีของผู้มีความสงบ จนเข้าถึงขั้นสงบราบคาบ ศักดิ์ คือศักดิ์ศรี สมณะ คือความสงบ ตั้งแต่พื้นๆ จนกระทั่งสงบอย่างราบคาบสิ้นกิเลส
อะไรจะเลิศยิ่งกว่าสมณศักดิ์ที่พระพุทธเจ้าประทานแล้ว ทำไมไม่ไปหา มายุ่งอะไรลมๆ แล้งๆ อย่าพระราชทาน เราประกาศผ่านหน้าพระราชวัง เห็นเงียบไปนะ ก็มีเราองค์เดียวขวางอยู่ มันลืมเนื้อลืมตัวเกินไปพระเรา บวชมาเพื่ออรรถเพื่อธรรมมันไม่ได้สนใจในอรรถในธรรม สนใจแต่บ้าๆ บอๆ อย่างนั้น ถ้าสนใจในธรรมนี้ อยู่ที่ไหนพอหมด สมณศักดิ์ของพระคือธรรมที่พระพุทธเจ้าประทานไว้แล้ว ตั้งแต่ศีล สมาธิ ปัญญา วิชชา วิมุตติหลุดพ้น ยอดอยู่ตรงนี้ เอาละเลิก
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร
FM 103.25 MHz