เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๑๓ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๙
อยู่ที่ไหนให้เล็งธรรมเป็นใหญ่
ก่อนจังหัน
พระให้เร่งความเพียร อย่าเห็นสิ่งใดยิ่งกว่าธรรมไปนะ ธรรมนี้เลิศเลอสุดยอดแล้ว ที่ฉุดลากสัตว์โลกจากกองทุกข์ทั้งหลายนี้ก็คือธรรม ให้ไปหาความสุขเรื่อยๆ จนบรมสุข มีแต่ความดีงาม มีแต่บุญแต่กุศล มีแต่ธรรมทั้งนั้น เรื่องกิเลสโลกกำลังเป็นบ้าหนาแน่นเวลานี้ คลื่นกิเลสเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองไทยเราจนจะดูไม่ได้ มันพิลึกกึกกือเหลือเกิน เมืองไทยเราไม่ใช่คนตาบอด ทำไมความประพฤติทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นคนตาบอดตามกิเลสไปหมด กิเลสตาดี พวกเราทั้งหลายตาบอด มองไปที่ไหนๆ ต่างคนต่างดีดต่างดิ้น ดิ้นหวังจะเอาความสุขความเจริญ มีแต่ความผิดหวังๆ ไม่ดูจุดนี้ซิ ทุกอย่างเลื่อนลอยๆ
การทำมาหาเลี้ยงชีพหาอยู่หากิน เสาะแสวงหารายได้ มีแต่เรื่องเลื่อนลอยๆ สุกเอาเผากินๆ หาหลักหาเกณฑ์เป็นเครื่องยืนยันรับรองตนไม่ได้ เพราะไม่มีธรรม ถ้ามีธรรมต้องมีเหตุมีผลบังคับตนเอง สิ่งใดที่ไม่ควรอยากเท่าไรก็ไม่ทำ นั่นเรียกว่าธรรม แล้วผ่านได้ อะไรที่ทำตามความอยากๆ มีแต่จมทั้งนั้น จำให้ดี ใครอย่าเห็นอะไรว่าเลิศเลอยิ่งกว่าศาสดาองค์เอก โลกทั้งหลายจมกันทั้งนั้น ศาสดาองค์เอกถึงบรมสุข นำธรรมมาสอนโลกไม่ใช่ธรรมเล็กน้อย เราอย่าเห็นเป็นของเล่น เวลานี้เรามันหมดค่าหมดราคาไปตามกิเลส แล้วเสกกิเลสขึ้นให้เป็นของมีราค่ำราคาเหยียบธรรมที่เป็นของมีราคาเลิศเลอนี้ลงไปโดยลำดับ
มองดูที่ไหนๆ มีตั้งแต่เรื่องหาสาระไม่ได้ เจ้าของยังภูมิใจ โหย ภูมิใจจริงๆ น่าทุเรศเสียด้วย ให้พากันพิจารณาบ้าง มาวัดมาวาให้มาหาคติธรรมเป็นเครื่องสอนตน อย่ามาเห็นแก่ปากแก่ท้องมาอยู่มากินในวัดเฉยๆ มาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องตะกละตะกลาม หาความละอายบาปไม่ได้ มีเยอะนะคนที่มาวัดน่ะ มันไม่ได้ละอายบาป ยิ่งหนาแน่นขึ้นทุกวันมาวัดมาวา มาเท่าไรยิ่งหนาแน่นขึ้นทุกวัน แทนที่จะรู้จักบุญจักบาปมันไม่รู้นะ นี่ละเรื่องกิเลสมาแล้วมันออกหน้าๆ เข้ามาในวัดแทนที่จะเป็นศีลเป็นธรรม กลับกลายเป็นกิเลส เป็นความตะกละตะกลามไปหมดเลย
จำให้ดีนะพวกนี้ ด้านตะวันตกนี่มันสำคัญมากนะ พวกหน้าด้านอยู่ทางด้านตะวันตกนี้ มันอายบาปเมื่อไร มันไม่ได้อายบาปนะ คำว่าตะวันตกเราไม่ได้ว่าทุกคน ว่าตัวหน้าด้านตัวสำคัญๆ นั่นน่ะ ผู้ดีมีอยู่เยอะในนั้น ไอ้ตัวหน้าด้านมันก็แทรกอยู่นั้นมันละอายเมื่อไร มันเห็นแก่ลิ้นแก่ปาก วันๆ ตะกละตะกลามหาแต่ที่จะเอาไปกินเฉพาะตัวเองเท่านั้น คนอื่นจะเป็นอย่างไรก็ช่าง มาวัดมันมาหากินนะไม่ได้หาบุญหากุศลนะพวกนี้ เข้าใจหรือยัง ว่าหลวงตาตาบอดหรือ ดูมาตลอดไม่เคยพูด เพราะเหล่านี้เราก็เมตตา แต่ให้สม่ำเสมอกันเท่านั้น มีแต่จะกินจะกลืนคนเดียวๆ มันขวางตาก็ว่าเอาบ้างซิ คนอื่นเขามีหัวใจ เขามีปากมีท้องเหมือนกัน ไม่ได้มีแต่ตัวคนเดียว ทั้งๆ ที่ของนี้เสียสละเพื่อประโยชน์แก่โลกให้สม่ำเสมอกัน แต่มันมาตะกละตะกลามกินคนเดียว เอาคนเดียวได้คนเดียวนี่มันดูไม่ได้นะ มันขวางตา จำให้ดีนะพวกตะวันตกน่ะ
ธรรมะต้องสอนให้ตรงไปตรงมา เพราะกิเลสมันหยาบธรรมะต้องเอาให้หนัก ไม่หนักไม่ได้ไม่ทันกัน พวกนี้พวกเลว จะไปละอายอย่างนั้นละอายอย่างนี้ นั่นละเปิดทางให้กิเลสกลืนไปหมด อายอะไรกิเลส อายกองมูตรกองคูถหาอะไร ปัดมันลงทะเลดูซิ เอาละให้พร
หลังจังหัน
เมื่อวานนี้ตอนบ่ายๆ ก็ไม่คาดไม่ฝันว่าอำเภอวังสามหมอเอาทองคำมาถวายแท่งหนึ่ง ๑ กิโล เราไม่คาดไม่ฝันนะมาเมื่อวานนี้ ได้ทองคำ ๑ กิโลกับสองบาทหรือไง ไม่คาดไม่ฝันนะ วังสามหมอเราเป็นอำเภอธรรมดา
เมื่อวานนี้เอาของไปส่งโรงพยาบาลเกษตรสมบูรณ์ เขตจังหวัดชัยภูมิ อยู่ตะวันตกอำเภอภูเขียว ไปตะวันตก ๒๒ กิโล จากภูเขียวไปชุมแพ ๒๐ กิโล ซอกแซกเห็นหมดละเรา เฉพาะโรงพยาบาลที่ไหนเห็นหมด ซอกแซกๆ เอาของไปส่งให้ เมื่อวานนี้พอดีไปถึงคณะนายตำรวจกับลูกน้องมารออยู่ที่นั่นแล้ว อยู่ที่โรงพยาบาล มาติดต่อขอสิ่งที่ขัดข้องที่ปฏิบัติอยู่ พวกคอมพิวเตอร์พิวแต้อะไร รวมแล้วก็ไม่มากนัก ๖๗,๐๐๐ บาท คอมพิวเตอร์ที่สถานีตำรวจอำเภอใช้อยู่ เราก็มอบเงินสดให้เลย ให้ทางโน้นสั่งเอง
(ตำรวจที่อำเภอศิลาลาด จ.ศรีสะเกษ น้ำประปาเขาไม่สะอาดเป็นสีดำๆ เลยขอเมตตามาแล้วแต่หลวงตาจะพิจารณา ๕ หมื่นบาทไปปรับปรุงน้ำประปาให้สะอาด) อย่างนั้นแล้วขอมาทุกแง่ทุกมุมทุกด้านทุกทาง เงินนี้ไหลออกรอบด้านนะสำหรับเงินวัดป่าบ้านตาด กระจายออกรอบวัดเลย กระจายออกกว้างขวางมาก ก็อย่างนี้ละศรีสะเกษ ความหมายเรา ปัจจัยที่มอบให้โรงพยาบาลแต่ละโรงๆ เป็นประจำนั้นสองหมื่น เดี๋ยวนี้มอบให้โรงละสองหมื่นๆ เพราะไปดูสภาพ บางแห่งเราเข้าไปในครัวเลย เหมือนแม่ครัวนั่นแหละ ไปดูเหตุการณ์ละซิ นำเหตุการณ์นั้นละมาปฏิบัติก็ถูกต้อง
ขัดข้องขาดเขินอะไรๆ วันหนึ่งๆ มีคนมาเกี่ยวข้องมากน้อยเพียงไร คนไข้ใน คนไข้นอกถามละเอียดลออ บางทีเข้าไปดูในโรงครัวเขาเลย แล้วถามเดือนหนึ่งจ่ายหมดประมาณเท่าไรๆ เขาก็ชี้แจงให้ทราบ อันนั้นละที่เราได้มาปฏิบัติอยู่ทุกวันนี้ ผ่านทางตรงกลาง ขาดบ้างเหลือบ้างมี คือบางโรงค่าอาหารคนไข้เดือนละหมื่นกว่าบ้าง ขาดหมื่นอยู่บ้างอะไรอย่างนี้ สี่พันห้าพันบ้าง บางแห่งสามหมื่นก็มี เราก็เลยเฉลี่ยผ่านศูนย์กลาง ให้โรงละสองหมื่น อย่างนั้นละ ถามซอกแซกออกมาแล้วก็มาปฏิบัติ ปฏิบัติต่อโลกอย่างนั้นแหละ
นี่ละพี่น้องทั้งหลายให้ดูเอา ธรรมนำโลกนำเพื่อความชุ่มเย็น ไปที่ไหนยิ้มแย้มแจ่มใส มีธรรมในใจมีความเสียสละด้วยวัตถุสิ่งของอะไรต่างๆ เฉลี่ยเผื่อแผ่กันไป มนุษย์เราอยู่ด้วยกันสนิทนะ แต่ความเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้แก่เอา มีแต่คอยจะรีดจะไถนี้มันเหมือนเปรตเหมือนผีอยู่ด้วยกัน มากน้อยเพียงไรหาความไว้วางใจกันไม่ได้ นั่นละต่างกันอย่างนี้ กิเลสกับธรรม ธรรมนี้ไปที่ไหนกว้างขวางเบิกบานยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นอย่างนั้นละ เพราะฉะนั้นจึงให้สั่งสมธรรมเข้าสู่ใจ ให้เห็นใจซึ่งกันและกันตั้งแต่สัตว์ขึ้นมา ธรรมเป็นอย่างนั้น
ธรรมเป็นความเสียสละ ออกจากเมตตา อ่อนนิ่มไปหมดธรรม เราพูดให้ชัดเจนดังที่วอกๆ อยู่ทุกวันนี้ เราไม่มีกิเลสแม้เม็ดหินเม็ดทรายแทรกออกไปตามคำดุด่าว่ากล่าว มีแต่ธรรมล้วนๆ ออก จึงตรงไปตรงมา ว่าอย่างไรเป็นอย่างนั้นเลย ไม่มีคำว่าสูงว่าต่ำ โมกโขโลกนะ เห็นแก่หน้าแก่ตาไม่ใช่ธรรม เอียงหน้าเอียงหลังไม่ใช่ธรรม ต้องตรงไปตรงมา ผู้ปฏิบัติจะหยิบยกเอาข้อไหนก็ได้เพราะถูกต้องหมด เป็นอย่างนั้น
สำหรับการแนะนำสั่งสอนไม่ว่าจะธรรมะประเภทใดสอนโลก จะเป็นคุณทั้งนั้นๆ ไม่มีโทษ ไม่มีพิษภัยเจือปนเลย คำพูดจะนิ่มนวลอ่อนหวานก็เป็นประเภทหนึ่งของธรรม จะดุด่าว่ากล่าวหรือเฉียบขาดนี้ก็เป็นแต่ละประเภทๆ ของธรรม เพื่อกำจัดสิ่งชั่วช้าลามกทั้งหลายออกทั้งนั้น เรียกว่าชะล้างสิ่งสกปรกมากน้อยออกไปๆ ไม่เป็นพิษเป็นภัยสำหรับธรรมไปที่ไหน การพูดการจาแนะนำสั่งสอนตรงไปตรงมาเลย จึงเรียกว่าธรรม ตายใจได้ ยึดได้ทีเดียว
นี่เราก็ได้พยายามที่สุด ในจิตดวงนี้เราก็ไม่เคยคาดเคยฝันว่ามันจะเป็นขึ้นมาอย่างนี้ ก็ได้เล่าให้พี่น้องทั้งหลายฟัง นี่ก็เพราะความตะเกียกตะกายอุตส่าห์พยายามบำเพ็ญความดีตั้งแต่วันบวชมา นั่นละตั้งแต่วันบวชมา ชีวิตจิตใจความประพฤติเคลื่อนไหวไปมา จะอยู่กับหลักธรรมหลักวินัยไม่ให้เคลื่อนคลาดออกไปจากนั้น ชีวิตจิตใจทุกอย่างมอบไว้กับธรรมกับวินัยคือองค์ศาสดา ธรรมก็ดีวินัยก็ดีคือศาสดาของเธอทั้งหลายแทนเราตถาคตเมื่อเราล่วงไปแล้ว ท่านรับสั่งอย่างนั้น ถ้าเธอทั้งหลายมีความเคารพในเราให้เคารพในธรรมในวินัย อย่าให้พรากจากธรรมจากวินัย ท่านทั้งหลายจะมีศาสดาติดตัวไปตลอด แล้วจะมีความสงบร่มเย็นไปเรื่อยๆ
นี่พระโอวาทคำสอนของพระพุทธเจ้า อย่าเห็นว่าตถาคตนิพพานไปแล้วทุกสิ่งทุกอย่างจะจืดชืดไปหมด ไม่ได้จืดชืด ธรรมไม่เคยสูญหายจากโลก เช่นเดียวกับกิเลสไม่เคยสูญหายจากโลก แล้วแต่ผู้ที่จะนำมาปฏิบัติได้มากน้อยเพียงไรในส่วนใด ส่วนกิเลสก็เป็นกิเลสขึ้นมา เป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาเผาโลกดินแดน ถ้าเป็นอรรถเป็นธรรมไปที่ไหนชุ่มเย็นไปเรื่อยๆ นี่เรียกว่าธรรม มีน้อยมีมากเข้ากันได้สนิทเรื่องความเป็นธรรมต่อกันนี้
คนเราไม่ได้ว่าสนิทกัน เพราะเป็นญาติเป็นวงศ์เป็นโคตรเป็นแซ่เดียวกันเท่านั้น อันนี้ไม่ได้เป็นของสำคัญยิ่งกว่าความสนิทโดยธรรม ความสนิทโดยธรรมนี้กว้างขวางครอบโลกธาตุ สนิทได้หมด ธรรมเป็นอย่างนั้น มีอำนาจมากยิ่งกว่าความสนิทธรรมดาของโลกทั่วๆ ไปที่มีกิเลสอยู่ในหัวใจทุกคน ต้องมีเขามีเราโคตรนั้นแซ่นี้ไปอะไร อันนี้ยกไว้เป็นโคตรเป็นแซ่ตามขนบประเพณีที่เป็นมาดั้งเดิม แต่ธรรมควรจะครอบไปหมด ไม่ว่าจะโคตรใดแซ่ใดต้องมีธรรมแทรกเข้าไปๆ แล้วชุ่มเย็นไปตามๆ กัน นี่ละธรรมไปไหนเป็นอย่างนั้น
ความเสียสละเป็นของสำคัญ เห็นใจเขาใจเรา อย่าเห็นแต่ใจเราคนเดียว มันเป็นโลกคับแคบ ถ้าเห็นใจเขาใจเราเฉลี่ยเผื่อแผ่ถึงกันแล้วไปที่ไหนสนิทกันคนเรา ไม่มีชาติชั้นวรรณะฐานะสูงต่ำประการใด หัวใจมีเสมอกันหมด หวังพึ่งซึ่งกันและกัน ผิดถูกดีชั่วหัวใจดวงนี้จะรับทราบทุกสิ่งทุกอย่างนั่นแหละ เพราะฉะนั้นจึงระบายสิ่งที่ดีงามออกต่อกันนี้เป็นอรรถเป็นธรรม อย่านำกิเลสเป็นฟืนเป็นไฟออกต้อนรับกัน ยิ่งอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มเป็นก้อนแล้วยิ่งให้เป็นเหมือนอวัยวะเดียวกัน อย่าไปคอยติฉินนินทาคนนั้นไม่ดีอย่างนี้ คนนี้ไม่ดีอย่างนั้น นำแต่เรื่องติฉินนินทามากระจายในวัดในวา มันเป็นโรงบ่มบ้าไปเลยอย่างนั้นนะ โรงหมากัดกัน
ถ้าโรงอรรถโรงธรรมแล้ว ไม่ว่าใครที่มาอยู่นี้พึ่งอรรถพึ่งธรรมด้วยกัน ให้คอยฟังเสียงธรรม คำพูดใดออกมาก็ตามให้ฟังเสียงว่าเป็นธรรมมากน้อยเพียงไร หรือไม่เป็นธรรมให้ทราบ แล้วปฏิบัติแก้ไขตนเองตามอรรถตามธรรมที่แสดงออกต่อกัน อย่าเห็นแก่เขาแก่เรา เห็นแก่พวกนั้นคณะนี้ ครั้นมานั่งกันปั๊บลงไปแล้วมีแต่ความติฉินนินทากัน นี้ไม่ใช่ผู้มาปฏิบัติธรรม ให้พากันจำเอาไว้ ใครก็มีผิดพลาดด้วยกันมนุษย์เราสัตว์เรา ในโลกนี้ไม่ผิดพลาดไม่มี มีเหมือนกัน เมื่ออยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มเป็นก้อนนี้ด้วยแล้วก็ให้เฉลี่ยต่อกันให้ฟังเสียงกัน อะไรเป็นธรรมยึดเข้ามาปฏิบัติแล้วโลกก็ร่มเย็น เช่นอยู่ในวัดในวาก็ร่มเย็น
พระเณรไม่ว่าประชาชนที่อยู่ร่วมกันให้ถือธรรมเป็นหลักใหญ่ในหัวใจ อย่าเอากิเลสตัณหาซึ่งมีอยู่ในหัวใจทุกคนออกมาคละเคล้าเผากัน อย่างนี้ไม่ใช่ธรรม ให้พากันตั้งอกตั้งใจปฏิบัติ อยู่ที่ไหนให้เล็งธรรมเป็นใหญ่เสมอ ถ้าเอากิเลสเป็นใหญ่กัดกันทันทีๆ พอนั่งปั๊บลงนี้เอาแล้วนะ ยับๆๆ ใส่กัน ดูมือ ยับๆ คนนั้นเป็นอย่างนั้นคนนี้เป็นอย่างนี้ คนนั้นไม่ดีอย่างนั้นคนนี้ไม่ดีอย่างนี้ นี่พวกปากสกปรก ไม่ใช่ปากอรรถปากธรรม ใจสกปรกใจจะเสาะแสวงหาดูตั้งแต่โทษของคนอื่น โทษของตัวเองมีเท่าภูเขาไม่ดู คนคนนี้ไปที่ไหนเอาไฟไปพร้อม เผาไปเรื่อยๆ คนที่มีอรรถมีธรรมไปด้วยกันสนิทสนมกันทันทีทันใด นั่นเรียกว่าธรรมให้พากันปฏิบัติ
ยกตัวอย่างเราอยู่วัดป่าบ้านตาด เราปกครองวัดป่าบ้านตาด บรรดาพระที่มานี้มาจากชาติชั้นวรรณะใด เมืองไทยทั่วประเทศมาเกี่ยวข้องกับวัดนี้หมด แล้วประเทศอื่นๆ มานี้เยอะ มาแล้วกลมกลืนเป็นอันเดียวกันหมด คือถือหลักธรรมวินัยเป็นเครื่องร้อยกรองให้ดี อยู่ด้วยกันโดยธรรมโดยวินัย อยู่ที่ไหนก็สนิทกันหมด ประหนึ่งว่าอวัยวะเดียวกัน พระท่านไม่มีละไปหาติฉินนินทาองค์นั้นองค์นี้ สำหรับพระวัดป่าบ้านตาดมีไม่ได้ว่างั้นเลย พอเราทราบแล้วไล่หนีทันทีเลย เพราะนี้ไม่ใช่ธรรม มาอบรมธรรมทำไมจึงเอาอันนี้มาออกตลาด ใช้ไม่ได้ จะเสียหายทั้งวัด ให้ออก
อย่างน้อยเตือนก่อนๆ จากนั้นหนักกว่านั้น อันดับที่สามไล่ออกเลย อีกประการหนึ่งที่ควรจะเด็ดไล่ออกทันทีเลย เมื่อทราบชัดเจนว่าเป็นอย่างนั้นๆ แน่นอนแล้วไม่ต้องวินิจฉัยไล่ไปเลย เนื้อร้ายเอาไว้ไม่ได้เสีย ของดีทั้งวัดจะเสียไปหมด เพราะเนื้อร้ายเพียงชิ้นเดียว พระไม่ดีเพียงองค์เดียวเท่านั้น จะทำวัดทำพระผู้ดีทั้งหลายให้กระทบกระเทือนเดือดร้อนไปตามๆ กันหมด จึงต้องนำออก ระบายออก ขับออก เพื่อผู้ที่ดีทั้งหลายจะอยู่ด้วยกันเป็นผาสุกร่มเย็น สมกับเป็นผู้ปฏิบัติธรรมด้วยกัน ท่านทั้งหลายให้จำเอานะเรื่องอย่างนี้
เราปฏิบัติอย่างนี้มาดั้งเดิม ในวัดนี้ถือหลักธรรมหลักวินัยเป็นกฎเป็นเกณฑ์ไม่ให้เคลื่อนคลาดไปเลย ใครมาปฏิบัติต้องให้เป็นไปตามหลักธรรมหลักวินัย เคลื่อนคลาดตรงไหนเตือนกันทันที แล้วยอมรับกันทันที ไม่ใช่จะมาถือทิฐิมานะ ใครถือทิฐิมานะอยู่กับหมู่เพื่อนไม่ได้ถูกขับ นั่นละหลักพระวินัย ที่ว่าพระแตกออกเป็นนิกายนั้นนิกายนี้ก็คือ การประพฤติปฏิบัติหลักพระวินัยเป็นสำคัญ ยิ่งหย่อนกว่ากันรังเกียจกัน คนหนึ่งสะอาดคนหนึ่งสกปรกมอมแมมมาเข้ากันได้ยังไง อย่างน้อยต้องชะล้างกัน คือแนะนำสั่งสอนกัน ถ้าไม่ยอมชำระตัวเองแล้วคนนั้นต้องออก ไม่งั้นสกปรกทั้งวัดเลย นี่พระท่านอยู่ร่วมกันเป็นอย่างนี้ท่านปฏิบัติ
เราปฏิบัติเราที่อยู่เป็นหมู่เป็นเพื่อน หรือว่าเป็นหัวหน้าหมู่เพื่อนนี้ เราไม่ถือว่าเรามีอำนาจมากกว่าเพื่อนนะ เราไม่มีอย่างนั้น เอาธรรมครอบไว้เลย ผิดถูกดีชั่วจะพิจารณาตามธรรมๆ เราไม่เอาอำนาจบาตรหลวงป่าๆ เถื่อนๆ มาบีบบังคับเพื่อนฝูง สำหรับเราเองไม่เคยมี ยกตัวอย่าง นี่ก็เคยพูด พอเป็นคติแก่พี่น้องทั้งหลายบ้างจึงได้นำเอามาพูด คือเราเซ่อเอง เราขนาบพระเณรทั้งวัด เราเซ่อคนเดียว ดูเหมือนจะเขียนหนังสืออยู่ในกระต๊อบเล็กๆ ไม่ใช่กุฏิหลังนี้ กระต๊อบเพียงแค่นี้ แล้วก็มีเฉลียง ดูจะเป็นเขียนหนังสืออยู่ แล้วก็มีนาฬิกาอยู่ข้างๆ นั้น พอเขียนหนังสือไป ดูนาฬิกา ทีนี้ดูนาฬิกาผิดละซิ
ปรกติบ่ายสี่โมงปัดกวาดทราบทั่วกันทั้งวัด ไม่ต้องมีระฆัง เพราะต่างคนต่างมีนาฬิกาอยู่แล้ว พอถึงเวลาต่างองค์ต่างลงปัดกวาดเช็ดถู ด้วยความพร้อมเพรียงสามัคคีกันเป็นประจำ สำหรับวัดนี้ไม่ต้องบอกกัน วันนั้นเราดูนาฬิกาเราดูผิดพลาดไป ปุ๊บปั๊บเลยนะ เพราะข้อวัตรปฏิบัติเรากับหมู่กับเพื่อน แต่ก่อนดีไม่ดีสู้เราไม่ได้ เพราะนำหมู่เพื่อน เราจะต้องออกก่อนหมู่ก่อนเพื่อน ข้อวัตรปฏิบัติทุกอย่างเหมือนพระเณรทั้งหลาย ไม่ได้อืดอาดเนือยนายนะ ทีนี้มองดูนาฬิกา อ้าว ตาย นี่มันเลยเวลาไปแล้ว โดดลงไปก็คว้าไม้ตาด กวาดตั้งแต่ข้างในออกมา
ใครก็กวาดจากกุฏิของใครออกมาๆ แล้วก็มาส่วนรวม เราก็กวาดตั้งแต่กุฏิของเราออกมา ออกมาถึงหน้าศาลานี้ ไม่เห็นพระเณรปัดกวาด ตามธรรมดาพอออกมาข้างนอกจะเห็นพระเณรเต็มอยู่หมดแล้ว ต่างองค์ต่างกวาดบริเวณกุฏิของตนแล้วก็ออกๆ มาส่วนรวม วันนั้นไม่เห็นพระเณรสักองค์เดียว แล้วมีเณรหนึ่ง เณรก็เณรจรวดนั่นละ เดี๋ยวนี้มันเป็นทิดจรวด มันเป็นลูกพระตั้งแต่เป็นเด็กมานี่ เป็นเณรอยู่นี้ เดี๋ยวนี้มันสึกออกไปแล้วมีครอบครัวเหย้าเรือน มันก็เป็นลูกพระอยู่งั้นแหละไอ้นี่ ชื่อมันชื่อทิดจรวด จรวดคือมันรวดเร็วดี ใช้คล่องดี เรียกว่าเณรจรวด มันเฝ้าศาลาอยู่นี้
เราก็กวาดออกมา ทางนี้ก็ขึ้นเลย เณรๆ พระวัดนี้มันตายกันหมดแล้วเหรอขึ้นเลยนะ ถึงเวลาปัดกวาดทำไมไม่ปัดกวาดมันเป็นยังไง นี้จะไม่แล้วนะนี่กลางคืนจะประชุมกันนะ ควรขนาบจากวัดไล่หนีจากวัดหมดเลย เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นของหยาบๆ ทำไมจึงต้องให้บอกกัน หัวหน้ากวาดมานี้ไม่เห็นพระเณรสักองค์เดียว มีแต่เรากวาดอยู่นั้น เรียกเณรมา เณรเป็นยังไง คือแกคงจะรำคาญ แกเห็นเราปัดกวาดคนเดียวร่ายบ้าออกมาศาลา แกคงจะรำคาญตา ก็เลยไปเอาไม้กวาดออกไปปัดแคร็กๆ เณรเป็นยังไงพระวัดนี้มันตายกันหมดแล้วเหรอ ใครจะไปกุสลาใครล่ะ ถึงเวลาแล้วทำไมไม่เห็นปัดกวาดวันนี้
ตอนค่ำมันจะเอานะนั่นไม่ใช่เล่นนะ ดีไม่ดีไล่หนีจากวัดหมด เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นของหยาบๆ ทำไมจึงได้มาเป็นอย่างนี้ให้เห็นต่อหน้าต่อตา ถามเณร เณรก็บอกมันพึ่งได้บ่าย ๓ โมง ๒๐ นาที คือบอกธรรมดา ๔ โมงเย็นปัดกวาด ทีนี้เราดูนาฬิกาผิด มาก็มาขู่หมู่เพื่อนอีก พอว่ามันพึ่งได้บ่าย ๓ โมง ๒๐ นาที หือ ไหนว่าอีกทีน่ะ นาฬิกาพึ่งบ่าย ๓ โมง ๒๐ นาที หือ อย่างนั้นหรือ ถ้าอย่างนั้นให้รีบหยุด บอกให้พระหยุดทั้งวัดเลย เราจะไปชำระบ้าเราคนเดียว กลับเลย
นั่นเห็นไหมธรรมเป็นอย่างนั้นนะ ฟ่อๆ เหมือนจะกัดฉีกทั้งวัดเลย พอผิดมาผิดตัวคนเดียวเป็นคนผิด บอกว่าให้หยุดเดี๋ยวมันจะเป็นบ้ากันทั้งวัดนะ เราจะไปชำระบ้า เราก็เดินปุ๊บๆ กลับไปเลย เณรคงจะหัวเราะ ทีแรกเสียงแผดเผานี้เหมือนจะเผากันทั้งวัดว่างั้นเถอะ พอเจ้าของผิดแล้วจะไปชำระบ้าคนเดียว ไม่ให้พระมายุ่ง นี่คือธรรมเข้าใจไหม ขณะก่อนเป็นไฟออกมา ขณะนี้เป็นไฟเผาเจ้าของ นี่เรียกว่าธรรม นี่การปฏิบัติต่อกันท่านทำอย่างนั้น เราไม่ได้มีเรื่องทิฐิมานะว่าเราเป็นผู้ใหญ่ ผิดไม่ยอมรับไม่ได้ สำหรับเราเองไม่มี เสมอกันหมด ใครผิดว่าตามเรื่องตามราว อยู่ด้วยกันเป็นผาสุก ตายใจกันได้เลย นี่ล่ะธรรมวินัยปกครองเป็นอย่างนี้
ถ้ากิเลสปกครองไม่ยอมรับกัน หลีกๆ เลี่ยงๆ ดังที่เขาฟ้องร้องหรือเขาจับมาใส่คุกใส่ตะราง ของกลางมีอยู่มันก็แก้ไปเรื่อยๆ ของมันอย่างนั้นมันไม่ยอมรับตามความจริง ไม่เหมือนธรรม ธรรมยอมรับทันทีๆ เลย ทีนี้เราก็ต้องดูเราอีก เราจะมีเล่ห์เหลี่ยมในหัวใจของเรา หัวใจของเราเล่ห์เหลี่ยมหลายสันพันคมมากนะ เล่ห์เหลี่ยมคืออะไร เล่ห์เหลี่ยมของกิเลสหาอุบายแก้ตัวๆ ทางธรรมก้าวไม่ออกๆ คนนั้นเสียไปวันละเล็กละน้อย เสียไปจนไร้สาระเลย นี่เอากิเลสไปเป็นกลมายานำ หลีกเลี่ยงความดีงาม สั่งสมความไม่ดีขึ้นไป หรือแก้ตัวไปเรื่อยๆ ใช้ไม่ได้นะ ตรงไหนผิดแก้ทันทีๆ ถึงจะถูก ให้พากันตั้งอกตั้งใจปฏิบัติ
วัดนี้เราปกครองพระเรียกว่าปกครองโดยธรรม ไม่เคยมีข้อขัดข้องอะไรที่ว่าการปกครองหมู่เพื่อนผิดไป เราไม่เคยมี หมู่เพื่อนก็อยู่ด้วยความเรียบร้อยทุกอย่างๆ ใครผิดใครถูกว่ากันตามขนบประเพณีของธรรมของวินัย นี่เป็นประเพณีอันดีงาม ถ้าผิดตรงไหนก็บอกเตือนกัน ผู้รับฟังต้องแก้ไขทันทีเมื่อยอมรับว่าถูกต้องแล้วตามหลักธรรมหลักวินัย จะมาฝืนอยู่ไม่ได้ ฝืนก็อยู่กับหมู่เพื่อนไม่ได้ถูกขับเลย พากันจำเอา นี่ละการประพฤติตัวเพื่อความเป็นคนดี ไม่เสียดายความชั่วช้าลามก ไม่แก้ตัวเพื่อความชั่วช้าลามก แก้ตัวเพื่อความดี ชะล้างเพื่อความดีทั้งหลายถึงถูกต้องดีงาม พากันจำเอา
ในวงราชการของเรานี้ควรที่จะมีผู้นำๆ วงราชการให้เป็นผู้หนักในธรรมเหมาะนะ อย่าไปหนักในกิเลสตัณหามานะทิฐิอำนาจบาตรหลวงป่าๆ เถื่อนๆ อย่าเอามาใช้ในวงประชาชนทั้งหลายซึ่งเป็นคนด้วยกัน เสียหาย นำอำนาจตามกฎข้อบังคับมาใช้ๆ แล้วมีศีลธรรมแทรกอยู่ในนั้นๆ บ้านเมืองก็ร่มเย็น ถึงวันที่จะมีว่างบ้างเพื่อเสาะแสวงหาอรรถหาธรรม ก็นำลูกน้องนำบริษัทบริวารไปฟังศีลฟังธรรม ประพฤติปฏิบัติอรรถธรรมทั้งหลาย เป็นประจำนิสัยของเราซึ่งเป็นลูกชาวพุทธ อย่างนี้บ้านเมืองจะมีความสงบร่มเย็นทั่วหน้ากัน นี้แหวกไปหาตั้งแต่นรกอเวจี ศีลธรรมไม่มองดูเลยใช้ไม่ได้นะ ใหญ่เท่าไหร่ยิ่งใหญ่เรื่องความชั่วช้าลามก เลวมากนะ
ใหญ่เท่าไรให้มีศีลธรรมใหญ่ไปด้วยๆ ถึงถูกต้อง คำว่าใหญ่ ใหญ่โดยธรรมชุ่มเย็น ถ้าใหญ่ด้วยอำนาจบาตรหลวงป่าๆ เถื่อนๆ นี้เป็นฟืนเป็นไฟเผาไหม้ได้ทั้งนั้นละ ให้พากันปฏิบัติตัวให้เป็นคนดีทุกคนๆ ต่างคนต่างรักษาตัว วันหนึ่งๆ ให้มีขอบเขตในตัวของเรา การอยู่การกินการใช้สอยก็ให้มีกฎมีเกณฑ์บังคับเจ้าของ อย่ากินแบบสุรุ่ยสุร่าย ใช้แบบสุรุ่ยสุร่ายไม่มีสถานีจอดแวะ คนนี้ล่มจม คนนี้หลักลอย การปฏิบัติตัวหาหลักหาเกณฑ์ไม่ได้ หลักลอย เดี๋ยวจม ถ้ามีข้อบังคับตัวเพื่อความเป็นคนดี เพื่อความเป็นผู้มีหลักแหล่งต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ แล้วจะค่อยดีวันดีคืนไปเรื่อยๆ คนเรา ถ้าไม่มีกฎเกณฑ์ข้อบังคับกลายเป็นคนหลักลอยไปหมด โลกนี้เป็นโลกหลักลอยหาที่ยึดต่อกันไม่ได้ จำให้ดีคำนี้ เอาละพอ พูดเท่านั้นแหละ
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร
FM 103.25 MHz |