มาฆบูชาวันสร้างอรรถธรรม
วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2544 เวลา 8:00 น. ความยาว 45.56 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)

ค้นหา :
 

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๔๔

มาฆบูชาวันสร้างอรรถธรรม

          เมื่อวานนี้ทองคำได้ ๑ บาท ดอลลาร์ ๕๐๓ ดอลล์ มีสูงมีต่ำเป็นธรรมดา ค่อยเดินค่อยไปเรื่อย ๆ ค่อยเป็นค่อยไปค่อยช่วยชาติไทยของเราให้หนุนขึ้นไปเรื่อย ๆ อย่างไรขอพี่น้องทั้งหลายอย่าลืมศาสนานะ ให้เชื่อศาสนาฟังเสียงศาสนา คือศาสนาพุทธนะ อันนี้สำคัญมาก จะค่อยเป็นค่อยไปค่อยหนุนขึ้นเรื่อย ๆ ขอให้ฟังเสียงหัวหน้าด้วยนะ หัวหน้าคือว่าฟังเสียงธรรมเสียงพุทธ หัวหน้านำออกมา ให้พี่น้องทั้งหลายได้พยายามปฏิบัติดำเนินตามนั้น ๆ แล้วจะค่อยราบรื่นดีงามไปเรื่อย ๆ อันนี้เรามีวิตกอยู่อันหนึ่ง มีแย็บ ๆ เพราะฉะนั้นถึงได้เตือนพี่น้องทั้งหลายไว้ คือนิสัยเมืองไทยเราใจร้อนหน่อย อยากได้อย่างใจเรียกว่าสุกเอาเผากิน นี้ทำให้เสียนะ เสียส่วนใหญ่เสียได้เลยนะ เพราะฉะนั้นให้ระวังอันนี้ให้ดี

อย่าตำหนิกันอย่างง่ายดาย อันนี้เสีย  ถ้าหากว่ามันขัดตรงไหนว่าจะเป็นไปเพื่อความเสีย ให้เข้าไปเตือนกัน เตือนเพื่อพยุง ไม่ใช่เตือนเพื่อเหยียบย่ำทำลาย ให้ระวังตอนนี้ให้ดี นี่เราได้เตือนเสมอนะ (ลูกหลานซอยจินตคามถวายทองคำ ๑ บาทค่ะ) เออ ทองคำเป็นแหวนหนัก ๑ บาท เอาละพอใจ

(ทองคำ ๑ บาทครับ) เออ มาอีกแล้วเป็น ๒ บาทแล้ว เมื่อวานนี้ได้ ๑ บาทวันนี้ฟาดตั้ง ๒ บาทลบ ๑ บาทหายไป ๒ บาทเหยียบไปเลย เอาเรื่อย ๆ ค่อยได้เรื่อย ๆ ก็ดังที่เคยเรียนให้พี่น้องทั้งหลายทราบ เราไม่เคยคิดเลยว่าจะตำหนิพี่น้องชาวไทยเราตรงไหน ๆ เกี่ยวกับการบริจาคอะไรเหล่านี้นะ ดังที่เคยพูดแล้ว ขาหนึ่งจะก้าว ขาหนึ่งถูกฉุดไว้ ขาหนึ่งจะก้าว ขาหนึ่งถูกฉุดไว้ มันก็ก้าวไม่ออก ความสงสัยอุปสรรคเหล่านี้เป็นเรื่องใหญ่โตมาก เราจึงยังไม่ว่าอะไร หยุด ๆ หย่อน ๆ คือเหตุการณ์บังคับ ถ้าหากว่าราบรื่นไปแล้ว โถ ป่านนี้จะได้มากอยู่นะเมืองไทยเรา สมบัติเข้าสู่คลังหลวงปึ๋งถูกตามจุดมุ่งหมายของคนทั้งชาติ ออกมานี้ไหลเข้าอีกพุ่ง ๆ เลย ทีนี้พอเข้าปึ๋งหงายมานี่ โฮ้ มันทุเรศนะเรา

ความสกปรก คนสกปรก เราไม่คิดว่าจะมีในเมืองไทยเรา มีขนาดนี้นะ โห เราสลดสังเวชจริง ๆ นะ เราพูดจัง ๆ ด้วยหัวใจนี้ด้วย แทนที่เราจะวิตกอะไรกับเหล่านี้ วิตกไอ้พวกนี้มันจะไปจมในนรกไม่มีวันฟื้นขึ้นง่าย ๆ ซิ เราวิตก เพราะความเมตตาจะเสมอภาคไปเลย ผิดบอกว่าผิด ถูกบอกว่าถูก นี่ที่น่าคิดมากนะ พวกนี้จะหอบเอาตั้งแต่บาปแต่กรรมด้วยอำนาจบาตรหลวงป่า ๆ เถื่อน ๆ เข้ามากีดขวางทำลาย ทำลายคือทำลายตัวเอง สำคัญมากนะ โห อดคิดไม่ได้นะ คิดจริง ๆ

พี่น้องชาวไทยเราให้แสดงน้ำใจความรักชาติด้วยความสามัคคี นี้สำคัญมากนะ ความรักชาติความสามัคคี แล้วทางศาสนา ชาติไทยของเรานี้เป็นชาติแห่งชาวพุทธ ให้ฟังเสียงพุทธ ซึ่งไม่เคยพาสัตว์ตัวใดให้ล่มจมเลยนะ พุทธศาสนาไม่เคยทำสัตวโลกแม้รายเดียวให้ล่มจม แต่เรื่องของกิเลสมีเท่าไรจมทั้งนั้น ลากลง ๆ ให้จำคำนี้ให้ดี นี้คือข้าศึกของธรรมของศาสนา ที่กำลังเป็นข้าศึกต่อชาติไทยเราอยู่เวลานี้คืออันนี้เอง ธรรมไม่มีศาสนาไม่มี มีแต่พยุง

กิเลสตัวเห็นแก่ได้เห็นแก่ร่ำแก่รวย ตัวไม่มองบาปมองบุญอะไรเลย ป่า ๆ เถื่อน ๆ อำนาจก็อำนาจป่า ๆ เถื่อน ๆ กฎหมายก็เป็นกฎหมอยไปเอามาเหยียบย่ำทำลายชาติไทย โดยถือกฎหมายเป็นโล่บังหน้า กฎหมอยตามหลังไปกินตับกินปอดชาวบ้านชาวเมืองจนชาติไทยของเราจะจม นี้คือกฎหมอยเข้าใจไหม ตั้งอำนาจขึ้นมาสง่าผ่าเผยด้วยกฎหมาย ฉากหลังมันอยู่นี้มันเอาตรงนี้นะ หลบ ๆ หลีก ๆ เลี่ยง ๆ มีแต่พวกกฎหมอย ๆ ทั้งนั้น ฟังเอานะ พี่น้องทั้งหลายให้ฟัง นี่ละเสียงธรรมออกตรงอย่างนี้เลย จะไม่เป็นอย่างอื่นเสียงธรรม เป็นอย่างอื่นจากความจริงไปแล้วไม่ใช่เสียงธรรม เสียงธรรมตายใจได้ ๆ ให้จำกันไว้ให้ดี ความพร้อมเพรียงกันเป็นปึกแผ่นมั่นคง ถือพุทธศาสนาเป็นหัวใจ จุดที่รวมแห่งความพร้อมเพรียงกัน จุดนี้สำคัญมาก

เรื่องความเสียสละมันเป็นไปเองไม่ต้องบอก หัวใจมีทุกคน ดีชั่วรู้ทุกคน เมื่อถึงเวลาที่มันจะออกแล้วเรื่องความเสียสละนี้ไม่ต้องบอก ผางเลยเทียว มีแต่โดนถูกกีด ๆ ขวาง ๆ ทุกอย่างได้เห็นด้วยกันทั่วประเทศไทย แล้วใครจะมีกำลังเต็มเม็ดเต็มหน่วย เอาไปก็เหมือนเอาไปเทลงทะเลเสีย แล้วจะไปทางไหน จะลงทะเลหรือจะไปไหน สุดท้ายมันก็ถอย หัวใจเรามีเป็นอยู่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นจึงได้นำอันนี้ออกพิจารณา ออกกระจายให้พี่น้องทั้งหลายได้ทราบ หัวใจมนุษย์พวกเรานี้เหมือนกันนั่นแหละ ดีชั่วรู้ด้วยกันทุกคน ควรเบาก็เบา ควรหยุดก็หยุด ควรพุ่ง-พุ่ง มันเป็นไปตามเหตุการณ์

วันนี้จะพูดถึงเรื่องมาฆบูชา วันไหนพูดตั้งแต่เรื่องสกปรกโสมม เรื่องส้วมเรื่องถานเต็มประเทศไทยของเรา วันนี้พูดอรรถพูดธรรมเป็นเรื่องโดยเฉพาะ ให้ตรงกับว่าวันมาฆบูชา คือวันนี้เป็นวันเดือนสามเพ็ญ เหตุผลที่เรียกเป็นวันมาฆบูชาก็คือว่า วันนี้ตรงกับวันที่พระอรหันต์ ๑,๒๕๐ องค์ที่พระพุทธเจ้าทรงอุปสมบท คือทรงบวชด้วยเอหิภิกขุอุปสัมปทาล้วน ๆ เป็นพระอรหันต์ที่พระพุทธเจ้าทรงอุปสมบทหรือทรงบวชเอง ด้วยเอหิภิกขุอุปสัมปทา สำเร็จเป็นพระอรหันต์ขึ้นมา ๑,๒๕๐ องค์ตรงกับวันนี้ ตอนบ่ายท่านประชุมรวม พระสงฆ์เหล่านี้มาเอง ไม่ได้อาราธนานิมนต์ และมีเพียงหนเดียวเท่านั้นในพุทธศาสนาของเรา ที่พระสงฆ์องค์อรหันต์ล้วน ๆ ๑,๒๕๐ องค์ที่พระพุทธเจ้าทรงบวชให้เองแล้วมารวมกันโดยไม่ต้องนิมนต์ท่านมา ประชุมตอนบ่าย ตามตำราบอกไว้

ทรงแสดงหัวใจของพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์แก่บรรดาพระอรหันต์ ๑,๒๕๐ องค์ วันนี้หลวงตาจะเป็นมหานะ คอยฟังมหาจะขึ้นวันนี้ พระพุทธเจ้าที่ประทานพระโอวาทปาฏิโมกข์วันนั้นแก่พระสงฆ์ นี้เป็นหัวใจหรือพระทัยของพระพุทธเจ้าที่ประทานพระโอวาทไว้แบบเดียวกันหมด คืออะไร เป็นสองพัก

พักแรก สพฺพปาปสฺส อกรณํ ความชั่วช้าลามกเป็นสิ่งที่นักปราชญ์ทั้งหลายหรือพระพุทธเจ้าทั้งหลายหวาดกลัวกันมาก เวลารวมลงแล้วว่า การไม่ทำบาปโดยประการทั้งปวงหนึ่ง ที่ว่า สพฺพปาปสฺส อกรณํ คือการไม่ทำบาปความชั่วช้าลามกโดยประการทั้งปวงหนึ่ง

กุสลสฺสูปสมฺปทา การยังกุศลคือคุณงามความดีให้ถึงพร้อมหนึ่ง

สจิตฺตปริโยทปนํ การอบรมจิตใจของตนให้ถึงความผ่องใส จนกระทั่งถึงความบริสุทธิ์หนึ่ง

เอตํ พุทฺธาน สาสนํ นี่เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย รวมไปหมดเลย นี่เป็นพักหนึ่ง นี่ก็เป็นหัวใจพระพุทธเจ้าขึ้นเป็นพักหนึ่ง ที่ท่านแยกแขนงอันใหญ่นี้ออกไปเป็นพักที่สองว่า

อนูปวาโท อย่ากล่าวร้ายทำลายป้ายสีคนอื่นคนใดซึ่งเป็นความเสียหาย นี้ข้อหนึ่ง อย่ากล่าวหาเรื่องหาราวใส่เขาซึ่งเป็นคนดีด้วยความอิจฉาพยาบาท หรืออาฆาตจองเวรอะไรก็แล้วแต่ ไม่สมควรอย่างยิ่ง พระโอวาทคำนี้จึงสอนไว้อย่างนั้น คือไม่ให้กล่าวว่าร้ายคนอื่นคนใด

อนูปฆาโต อย่าทำร้ายผู้อื่นผู้ใดจนกระทั่งถึงสัตว์ทั่ว ๆ ไปหนึ่ง

ปาฏิโมกฺเข จ สํวโร ให้สำรวมอยู่ในพระปาฏิโมกข์ คือพระวินัยเครื่องกำจัดความชั่วช้าลามก วินัย ๆ แปลว่าเครื่องกำจัด กำจัดความชั่ว ที่ว่า ปาฏิโมกฺเข จ สํวโร ให้สำรวมในปาฏิโมกข์คือในวินัย

มตฺตญฺญุตา จ ภตฺตสฺมึ ให้รู้จักประมาณในอาหารการอยู่การกินทั้งหลาย อย่าฟุ้งเฟ้อ อย่าฟุ่มเฟือยเกินเนื้อเกินตัว ให้รู้จักประมาณในการกิน คำว่ากินนี้กว้างขวางมาก   พวกเรานี่มักจะลามปาม ๆ พระพุทธเจ้าสั่งสอนไว้ให้รู้จักประมาณ เรียกว่า มตฺตญฺญุตา ให้รู้จักประมาณในการกิน

ปนฺตญฺจ สยนาสนํ อันนี้ท่านเทศน์สอนพระเป็นหลักใหญ่นะ เราไม่ใช่พระเราก็เป็นลูกของพระ หวังความสุขความเจริญด้วยกัน จึงควรเดินตามรอยท่านตามแต่สติกำลังของเราจะได้แค่ไหน นี่เรียกว่าเดินตามรอยท่าน ปนฺตญฺจ สยนาสนํ ให้เสาะแสวงหาที่นอนที่นั่งอันสงบสงัด เพื่อกำจัดกิเลสซึ่งเป็นตัวภัยออกจากจิตใจตลอดเวลา

อธิจิตฺเต จ อาโยโค ให้ประกอบบำเพ็ญจิตใจของตนให้มีความผ่องใสจนกระทั่งถึงขั้นเลิศเลอ อธิจิตฺเต คือจิตขั้นเลิศเลอ

เอตํ พุทฺธาน สาสนํ นี่ก็เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลายทุก ๆ พระองค์ท่านสอนอย่างนี้ นี่ได้นำมาแปลให้พี่น้องทั้งหลายฟัง ตรงกับวันนี้เป็นวันมาฆบูชา

เราเคยได้ยินไหมว่าพระอรหันต์ตั้ง ๑,๒๕๐ องค์มาประชุมกัน ล้วนแล้วตั้งแต่ผู้บริสุทธิ์ ธรรมทั้งแท่ง ๆ ๑,๒๕๐ แท่ง สมมุติว่ามาตั้งอยู่วัดป่าบ้านตาดนี้ โถ จะแผ่กระจายทั่วไปหมดนั่นแหละ สว่างกระจ่างแจ้งเลย เพียงจิตดวงเดียวของพระอรหันต์เท่านั้นก็ครอบโลกธาตุแล้ว นี้คือหลักความจริงไม่เป็นอื่น จิตเพียงดวงเดียวของพระอรหันต์ที่สิ้นกิเลสแล้ว สว่างจ้าครอบโลกธาตุ คือไม่มีอะไรมาปิดบังลี้ลับ คำว่าสิ่งปิดบังลี้ลับได้แก่กิเลสนั้นเอง กิเลสสิ้นซากไปหมดแล้วมีแต่ความสง่างามจ้าครอบโลกธาตุ นี่เพียงจิตของพระอรหันต์องค์เดียวเท่านั้นก็ขนาดนั้นแล้ว นี้ ๑,๒๕๐ ดวงของพระอรหันต์ซึ่งเป็นจิตประเภทเดียวกัน รวมกันเป็นธรรมธาตุก้อนหนึ่ง ๑,๒๕๐ รวมเป็นธรรมแท่งเดียวเรียกว่าเป็นธรรมธาตุ สว่างจ้าขนาดไหน นี่ละท่านถึงได้นำมาประกาศสอนพี่น้องทั้งหลาย

อันเรื่องกิเลสตัณหานั้นมีอยู่ทุกแห่งทุกหนทุกผู้ทุกคนทุกสัตว์ ไปที่ไหนคำว่าสว่างจ้าของกิเลสยังไม่เคยมีไม่เคยเห็น มีแต่ความมืดตื้อ ไปที่ไหนมีแต่ความรกรุงรังด้วยความทุกข์ความทรมานเต็มบ้านเต็มเมืองเต็มสัตว์เต็มบุคคล กิเลสไปที่ไหนเป็นไฟเผาไหม้ไป ๆ ทั่วโลกดินแดน นี่คือผลของกิเลสที่แสดงให้โลกได้รับกัน เดือดร้อนวุ่นวายอยู่ทุกวันนี้คือผลของกิเลสความมืดตื้อ กิเลสมาปิดหูปิดตาไม่ให้เชื่อบุญเชื่อบาป เชื่อคุณงามความดีทั้งหลาย ให้เชื่อแต่ความอยากความทะเยอทะยาน ความดีดความดิ้น ความได้ไม่พอ ความไม่มีป่าช้า คนหนึ่ง ๆ ตายด้วยกันไม่มีใครยิ่งหย่อนกว่ากัน แต่ก็ลบล้างป่าช้าของตนเอง ประหนึ่งว่าไม่ตาย ความดีดความดิ้นมันท่วมท้นไปหมดลืมความตายของตัวเอง พุทโธระลึกไม่ได้เลย

มรณานุสสติ คือเราจะตายหนา เราจะตายอยู่ด้วยกันหนา มันก็ระลึกไม่ได้ นี่ความเพลิดเพลินความทะเยอทะยาน มีแต่อยากร่ำอยากรวย อยากสวยอยากงาม อยากดีอยากเด่น ชิงหน้าชิงหลัง ชิงไปเท่าไรก็มีแต่ชิงเพื่อเอาไฟเผาตัวเอง ๆ สุดท้ายโลกจึงมีแต่ความร้อนเพราะความผิดหวัง กิเลสต้องหลอกให้ผิดหวังตลอดไป กิเลสไม่เคยทำผู้ใดให้มีความสมหวังเหมือนธรรมเลย ถ้าธรรมนี้มีมากน้อยสมหวังไปมากน้อย ๆ ทีเดียว ถ้ากิเลสมีมากน้อยเพียงไร หมดหวัง ๆ ไปเรื่อย ๆ นี่กิเลสออกตีตลาดบีบบี้สีไฟโลกสงสาร จึงมีตั้งแต่เปลวไฟแห่งหัวใจที่เดือดร้อน แล้วแสดงออกไปทางกิริยามารยาทการดิ้นรนกระวนกระวายซึ่งเป็นส่วนร่างกาย กิริยาท่าทางแสดงเป็นเรื่องลุกลี้ลุกลน เป็นความทุกข์เผาออกมาจากใจที่มันผลักดันออกมานี้ ตัวจริง ๆ นั้นคือหัวใจ

ใจนี่ร้อนที่สุดเลยนะ กิริยาภายนอกมองกันไม่ออก เพราะกิเลสมองกิเลสมันยังไม่ให้มองด้วยซ้ำ ให้ประดับประดาตกแต่งให้สดสวยงดงามน่าอยู่น่ากินน่าชมน่าไปน่ามาน่าท่องเที่ยว ไปที่ไหนมีแต่น่า ๆ น่าทั้งนั้น กิเลสต้องหลอกไปอย่างนั้นให้ลืมความทุกข์ ทีนี้ความทุกข์มันก็เผาไปตามหลัง พอหยุดกึ๊กเท่านั้นความทุกข์เผาไปเลย เวลาเราหยุดชะงักสักครู่ไม่แสดงตัวด้วยความเพลิดเพลินที่กิเลสหลอกแบบนั้นว่างั้นเถอะนะ ย้อนเข้ามาสงบนี้เป็นไฟขึ้นมาภายในหัวใจ เพราะฉะนั้นหัวใจของสัตวโลกที่ไม่มีอรรถมีธรรมจึงร้อนมากทีเดียว ดูได้ด้วยสายตาของธรรม ให้กิเลสดูกิเลสไม่สนใจจะดู จะว่ากิเลสดูไม่ออกไม่มีแหละ มันดูออกจนกระทั่งคนจะตายนู่นจะว่าไง มันฉลาดยิ่งกว่าคน

ในฝั่งของสมมุตินี้เป็นฝั่งของกิเลส ฝั่งมืดมนอนธการ ฝั่งของธรรมเป็นฝั่งที่สว่างไสว ถ้าเป็นแม่น้ำก็คนละฝั่ง ฝั่งนี้ฝั่งของธรรมฝั่งสว่างไสว ฝั่งนี้ฝั่งของกิเลสตัณหาพามืดตื้อ ให้ได้รับความทุกข์ความทรมานเป็นฟืนเป็นไฟเผาไหม้อยู่ฝั่งกิเลสนี้ ส่วนความสง่าราศีความเลิศเลอนี้อยู่ฝั่งแห่งธรรม ทีนี้ถ้าเป็นฝั่งกิเลสร้อนเหมือนกันหมด แต่ประดับประดาตกแต่งหลอกเอาไว้ตลอดเวลาไม่ให้โลกมองเห็นโทษของมัน เพราะฉะนั้นโลกเราจึงชอบในเรื่องการประดับประดาตกแต่งนี้ โหย ตกแต่งจริง ๆ นะพิลึกพิลั่น คือของสกปรกมันอยู่ข้างใน ต้องเอาของสะอาดมาประดับประดาตกแต่งหน้าร้านเอาไว้ให้พอดูได้ นี่คือกิเลสหลอกสัตวโลก หลอกมาตลอดนะ

แต่ธรรมไม่ต้องหาอะไรมาประดับประดา ขอให้บำเพ็ญตนเป็นคนดี จะดีขึ้นมาภายในจิตใจ ไม่จำเป็นต้องหาอะไรมาประดับประดาก็ได้ สงบร่มเย็นไปตลอด วันนี้ได้พูดถึงพระอรหันต์ ๑,๒๕๐ องค์ นี่ละดวงธรรมอันเลิศเลอได้แสดงขึ้นแล้วในที่ประชุมสงฆ์วันนั้น เรียกว่ามาฆบูชา เวลาบ่าย ท่านแสดงไว้อย่างนั้น มีเพียงหนเดียวนะ ท่านก็บอกว่ามีเพียงหนเดียว จะไม่มีอีกแล้ว นี่ละธรรมเป็นอย่างนั้นละ เลิศอย่างนั้น เลิศเลอ อยู่ที่ไหนเลิศเลอ

พวกเราทั้งหลายให้พากันระลึกถึงท่าน ระลึกถึงท่านก็คือระลึกถึงเรานั้นแหละ ท่านไม่ได้มาแบ่งสันปันส่วนเอาอะไรจากพวกเรา ที่เรายึดเราถือเราเกาะเราบูชาท่าน เพื่อความดีสำหรับเราทั้งนั้น ท่านไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรจากเรา เรียกว่าท่านพอทุกอย่างแล้ว ตั้งแต่ขณะบรรลุอรหันต์ปึ๋งขึ้นมาเมืองพอพร้อมทันที เป็นไปโดยสมบูรณ์ตลอดอนันตกาล ท่านจึงเรียกว่านิพพานเที่ยง คือจิตดวงที่หลุดพ้นจากสมมุติ ที่อยู่ในกฎ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา นี้ไปแล้วเท่านั้น นิพพานไม่ต้องบอก เที่ยงคือนั้นละ อันนั้นเที่ยง กฎ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา เข้าไม่ถึง นั้นคือความเที่ยง ท่านเรียกว่านิพพาน ความเที่ยงของจิต

เมื่อได้บำเพ็ญตัวเต็มกำลังความสามารถแล้วจิตของคนเราทุกดวง มีสิทธิที่จะเข้าถึงนิพพานเที่ยงด้วยกัน แล้วในขณะเดียวกันก็มีสิทธิด้วยกันตามอำนาจแห่งการกระทำของตน อย่างทำความชั่วก็มีสิทธิที่จะจมลงในนรก นรกไม่ลำเอียง ใครจะลบล้างนรกให้เป็นอย่างไรเป็นไปไม่ได้ ไม่เอียงไม่เอนคือความจริงประเภทหนึ่ง มีมาตั้งกัปตั้งกัลป์ คือ บุญ บาป นรก สวรรค์ พรหมโลก นิพพาน มีเสมอกันอย่างนี้ตลอดมา ถ้าใครตั้งใจปฏิบัติในทางที่ดีมีสิทธิเต็มภูมิที่จะเข้าถึงพระนิพพานเช่นเดียวกับพระพุทธเจ้าพระอรหันต์ทั้งหลาย ไม่มีการตัดสิทธิกันเลย เพราะความดีเป็นผู้เปิดทางให้มากน้อยสำหรับผู้บำเพ็ญ เมื่อบำเพ็ญเต็มภูมิแล้วถึงนิพพานได้ด้วยกัน

เอา ผู้ทำความชั่วก็เหมือนกัน สร้างตั้งแต่ความชั่ว เหมือนฝนตกทีละหยดละหยาดทำให้น้ำเต็มท้องฟ้ามหาสมุทรไปหมดเลย อันนี้ความชั่วมันก็เต็มหัวใจเราก็พาให้จมลงในนรก นี่ก็คือสิทธิของบาปมันมีอำนาจเต็มที่ของมันที่จะให้ผลแก่ผู้ทำชั่ว ให้พากันระมัดระวัง เวลานี้เรามีลมหายใจอยู่ ลมหายใจของมนุษย์กับลมหายใจของสัตว์ผิดแปลกต่างกันนะ ลมหายใจของสัตว์ไม่รู้บาปรู้บุญ ทำไปตามภาษีภาษาทั้ง ๆ ที่บาปบุญก็มีเหมือนกันได้เหมือนกันกับมนุษย์ แต่มนุษย์รู้ดีรู้ชั่ว มีทางที่จะตักตวงเอาความดีให้ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยเต็มกำลังความสามารถของตนก็ได้ ถ้าผู้ใดมีความดื้อด้านแล้วก็ทำความชั่วได้อย่างหน้าด้าน ตกนรกอย่างหน้าด้านเหมือนกัน

นรกไม่ได้เลือกใคร คนหน้าด้านหน้าไม่ด้านตกทั้งนั้นถ้าทำชั่วนะ มันมีสิทธิได้ด้วยกัน จึงว่าฝ่ายธรรมกับฝ่ายกิเลสนี้มีเสมอภาคกันหมดในการให้ผล แล้วก็เปิด จะว่าเปิดหรือว่าปิดก็แล้วแต่ผู้อยากทำ ผู้ทำดีทำลงไปก็เป็นดี ถึงไม่อยากทำทำลงไปก็เป็นดี ผู้อยากทำชั่ว ทำชั่วลงไปก็เป็นชั่ว ไม่อยากทำทำลงไปก็เป็นชั่ว ผลจึงมีเสมอกัน ไม่มีอะไรยิ่งหย่อนกว่ากันตลอดไป เป็นแต่ผู้มาแนะนำสั่งสอนอรรถธรรมนี้มีเป็นชั่วระยะกาล ๆ ส่วนกิเลสมันมีเป็นพื้นของมัน

ถ้าสมัยใดมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ เรียกว่า นำธรรมหรือน้ำมาดับไฟ ระยะนั้นไฟของกิเลสที่เผาโลกสงสารก็อ่อนตัวลง ๆ เพราะมีน้ำดับไฟ ได้แก่ธรรมของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ ๆ เวลาพระพุทธเจ้าท่านผ่านไปไฟมันก็แสดงเปลวขึ้นมาอีก ๆ เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าจึงมีเป็นระยะ ๆ เป็นน้ำดับไฟ ๆ นี่ละถึงว่าผลมีสูงต่ำต่างกันที่ว่า ธรรมนี้มีผู้นำมาเป็นระยะกาล ส่วนกิเลสไม่มี เป็นกิเลสอยู่ตลอด เป็นแต่เพียงว่าเมื่อมีน้ำดับไฟ คือธรรมมาดับกิเลส กิเลสก็สงบลงไปชั่วระยะกาลเหมือนกัน

เวลานี้เราเกิดในท่ามกลางแห่งพุทธศาสนา ในท่ามกลางแห่งคำว่าบุญว่าบาปซึ่งเกิดกับการกระทำของเราทั้งสองอย่างนี้ ให้เราพยายามเลือกเฟ้นเสียตั้งแต่บัดนี้ เวลาตายแล้วจะหมดหวัง ๆ เวลานี้ไม่หมดหวัง ทุกคนที่จะพลิกตัวของเราไปสู่ทางที่ดีงามได้ทั้งนั้น นอกจากจะยอมจมไปเลย ไม่เห็นอะไรดียิ่งกว่านรกอเวจีแล้ว อันนั้นก็ช่วยไม่ได้ กรรมของสัตว์ วันนี้พูดถึงเรื่องมาฆบูชาย่อ ๆ ให้พี่น้องทั้งหลายได้ทราบทั่วถึงกัน วันนี้ระลึกพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์องค์อรหันต์ ๑,๒๕๐ องค์เข้าสู่ดวงใจของเรา เรือนใจวันนี้สร้างขึ้นเพื่อพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ และพระอรหันต์ ๑,๒๕๐ องค์ ให้ท่านได้ประทับหรือสถิตอยู่ในหัวใจของชาวพุทธเราแต่ละคน ๆ บ้างนะวันนี้

วันนี้สร้างเรือนใจสร้างธรรมให้พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ และองค์อรหันต์ ๑,๒๕๐ องค์ที่หัวใจของเรา โดยการภาวนาระลึกถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ หรือภาวนาประเภทใดก็ตาม เป็นการเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์องค์อรหันต์ ๑,๒๕๐ องค์ด้วยกัน วันนี้ให้พากันระลึกนะ วันนี้เป็นวันมงคล สร้างหอปราสาทขึ้นที่ใจของเรา ให้พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ได้สถิต นอกจากนั้นมีแต่กิเลส มันไม่ว่าสถิตนะ กิเลสมันขึ้นไปมันขี้รดเอาเลย ขี้รดหัวใจพวกเรา วันนี้ให้ธรรมได้โปรดหรือเรียกว่าชะล้างจิตใจของเราที่สกปรกซึ่งกิเลสมันขี้รดนั้นออกบ้างนะ หัวเราจะมีธรรมแทรกบ้าง จะไม่มีแต่ขี้แต่ส้วมแต่ถานอย่างเดียว

วันนี้พูดถึงเรื่องธรรมะเป็นที่ระลึกในวันนี้ ให้พี่น้องทั้งหลายไปคิดนะ ให้เอาไประลึกภาวนาวันนี้ สร้างบ้านขึ้นเพื่ออรรถเพื่อธรรมวันนี้ มาฆบูชาเป็นวันสร้างบ้านอรรถบ้านธรรมขึ้นที่ใจ วันนอกนั้นสร้างนรกอเวจีขึ้นเผาหัวมันทุกคนแหละ เอาละเทศน์เพียงเท่านั้น

สำหรับวัดนี้ไม่ได้พาทำมาฆบูชานะ หลวงปู่มั่นก็เหมือนกัน ที่พาทำบ้างนั้นคือพวกญาติโยมเขามาขอร้องหลายแห่งหลายหน ท่านก็พาทำเสียเป็นบางครั้ง ถ้าธรรมดาแล้วท่านไม่ทำ คือวันเช่นนี้ท่านจะเปิดทางให้เป็นความสงบสำหรับพระบำเพ็ญสมณธรรม ส่วนมากพระในคืนวันเช่นนั้นท่านจะไม่นอนนะ ท่านทำเงียบ ๆ เช่น วิสาขบูชา มาฆบูชา ท่านไม่ได้ทำเป็นพิธี คือทำเป็นพิธีนี้พาประชาชนเขาทำ เรื่องของพระล้วน ๆ แล้วท่านทำของท่านเองอย่างเงียบด้วยความตั้งอกตั้งใจจริง ๆ

เช่น วันนี้เป็นวันมาฆบูชา ส่วนมากพระท่านจะไม่นอนกลางคืน เดินจงกรมนั่งสมาธิภาวนา บูชาพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ตลอดเลย นี้เป็นปกติของวัดป่าทั้งหลายที่ท่านทำกันเงียบ ๆ อย่างนี้ ส่วนที่ว่ามาฆบูชา ดังที่หลวงปู่มั่นถามถึงวันมาฆบูชา นั่นหมายถึงว่าเป็นเอกเทศหรือเป็นบางปีท่านพาทำ ถ้าเหตุผลควรจะพาทำนั้นท่านก็พาทำ ถ้าธรรมดาแล้วท่านไม่พาทำ วันเช่นนั้นท่านสงวนมากเรื่องความสงบสงัดเพื่อการประกอบความเพียร จึงไม่ให้ใครมายุ่งเลย กรุณาทราบตามนี้ บางคนจะไม่เข้าใจ

นี่ก็เคยได้เผดียงพี่น้องเรา กลัวว่าจะขาดเงินของโครงการช่วยชาติที่มักจะเอาออกช่วยชาติอยู่เสมอเวลาจำเป็น เวลานี้เงินที่พี่น้องชาวไทยได้โอนหนุนเข้ามานั้นรู้สึกว่าร่อยหรอลงมากทีเดียว แทบจะไม่ปรากฏ เราจึงได้เตือนพี่น้องทั้งหลายได้ทราบ หากว่ามีพอเป็นพอไปบ้าง ก็ควรจะได้แบ่งโอนเข้ามาในบัญชีโครงการช่วยชาติของเราจะธนาคารใดก็ได้ เพื่อเงินเวลาจำเป็นจะได้แยกออกไปช่วยชาติของเรา สำหรับเงินที่ฝากไว้ ๘๐๐ ล้านนั้นเราก็ยังไม่ได้แยกบัญชี เป็นแต่เพียงบอกจำนวนไว้เท่านั้น ส่วนมากจะมีอยู่บัญชีประจำ ส่วนบัญชีออมทรัพย์ไม่ค่อยมีมาก นี่ละที่ว่าขาด ๆ ส่วนมากขาดออมทรัพย์ที่เราจ่ายได้ง่าย ทุกกาลเวลาก็ได้นะ แต่อะไรเข้ามาก็ตามเถอะ เราจะแยกของเราเองเมื่อเข้ามาแล้วนะ ขออย่าให้ขาดก็แล้วกัน

เราเป็นห่วง เพราะชาติไทยของเราที่ช่วยตัวเองช่วยหลายแบบหลายฉบับ ก็อาศัยเหล่านี้ แยกออกไปช่วยด้านนั้นด้านนี้ที่เห็นว่าจำเป็น ๆ คำว่าจำเป็นหลวงตาจะเป็นผู้พิจารณาเองทุกอย่างไม่ใช่จะทำสุ่มสี่สุ่มห้า เราทำอย่างนั้นไม่ได้นะ สมควรที่จะแยกเราถึงจะแยกให้ ถ้าไม่สมควรเราไม่แยก แต่เวลานี้มีระยะที่สมควร ๆ ที่จะแยกอยู่ตลอดมา จึงได้เผดียงพี่น้องทั้งหลายได้ทราบทั่วกัน ถ้าพวกเราไม่ขาดเขินจนเกินไปแล้วก็ควรจะได้โอนเข้าสู่โครงการช่วยชาติบ้างเพื่อไม่ให้ขาดวรรคขาดตอน สมกับว่าเวลานี้เรากำลังช่วยชาติ รู้สึกว่าเบามากแทบจะไม่มีมา เราจึงได้เตือนให้พี่น้องทั้งหลายทราบ ให้พร….

แย้เราน่าสงสารนะ แต่ก่อนนี้แย้เรายั้วเยี้ย ๆ อยู่ที่กุฏิ ปีนี้ไม่เห็นแย้เลย มีแย้ตัวเดียว มันจะตายด้วยวีธีใดหรือว่ามันแก่ตายหรือเหยี่ยวมาโฉบก็ไม่ทราบนะ คือเหยี่ยวนี้เร็วมากนะกับแย้นี้ แย้มีที่ไหนเหยี่ยวจะไปดักอยู่ข้างบน พอออกหากินฉวยมับไปเลย นี่กุฏิเราเวลานี้มีแย้ตัวเดียว ทุกปีนี้มันยั้วเยี้ย ๆ เต็ม ปีนี้ไม่เห็นเลย เห็นแย้ตัวเดียว (แย้ขึ้นต้นไม้เจ้าค่ะ) มันใช่เหรอแย้ขึ้นต้นไม้ มันฟังไม่ออกนะแย้ขึ้นต้นไม้ อันนั้นตะกวด โอ๊ย อันนั้นมันตะกวด มันวิ่งขึ้นต้นไม้ มันกินหมดนั่นแหละ พวกนี้ระวังให้ดีกำลังนอนเซ่อ ๆ มันงับคอแล้วเอาไปเลย เราไม่ช่วยจะบอกนะ ไอ้พวกเซ่อ ๆ มันนอนหลับครอก ๆ อยู่ มันกำลังหิวมันงับเอานี้ไปเลย เราไม่ช่วยนะจะว่าไม่บอก

แย้ก็ไม่รู้ตะกวดก็ไม่รู้ โห ยังไงกัน มันมีแอบอยู่ตามนี้แหละ เราก็ไม่รู้จะทำไง ออกจากนี้ไปมันก็ตาย ก็เลยปล่อยให้มันอยู่งั้นแหละ แล้วพวกนี้ถือสัตว์เป็นอาหารนะ พวกไข่เหล่านี้มีเท่าไรกินหมดเลย ไข่ไก่กินหมด พวกลูกไก่พวกหนูพวกอะไรก็ตามมันควรได้มันกินทั้งนั้นพวกตะกวดนะ ตะกวดนี้กินสัตว์ แต่ก่อนมีเยอะ เอาไปปล่อยทางวัดถ้ำกลองเพลบ้างอะไรบ้าง ยังเหลืออยู่นี่ไม่มากนัก เราก็ปล่อยให้มันอยู่งั้นไม่รู้ทำไง ถ้าไปที่อื่นเราก็ไม่แน่ใจในชีวิตของมัน ก็เลยให้มันอยู่นี้ตามเรื่องของมันเถอะจะว่าไง ไม่มากละแต่มันก็มีของมันอยู่ แต่สำหรับกระรอกนั่นมาก กระรอกกับไก่เป็นที่หนึ่งในวัดนี้ ไก่เป็นที่หนึ่งกระรอกเป็นที่สอง แล้วพวกนกเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ก็เต็มวัดเหมือนกันนะ นกมันก็อาศัยอยู่นี้ แล้วพวกนึงมันอยู่ข้างนอก พวกไก่วัดเรานี่น่ะมันอยู่ข้างนอกนะ

นี่เราก็ได้ประกาศบอกไว้คือไก่ที่อยู่นอกวัดนั่นคือไก่วัดนะ มันออกไปข้างนอก แต่ก่อนยังไม่ได้ทำอะไรนี้ มันก็ติดต่อกันออกไป เข้าไปออกมาเข้าไปเรื่อย ๆ พอทำกำแพงแล้วตัวไม่เข้าก็มีอยู่ข้างนอก เวลานี้อยู่นั้นยั้วเยี้ย ๆ พวกนั้นเขาทราบกันหมดแล้วแหละ พวกทำงานเราบอกหมดแล้วนะ มันก็อยู่กับคนงานนั่นแหละมันไม่ได้กลัว มันมีลูกเยอะนะยั้วเยี้ย ๆ ทางนี้มันมีป่ากล้วย พอเห็นคนมันวิ่งหลบเข้าไปป่ากล้วย พวกลูก ๆ มันกลัว ตัวใหญ่มันไม่กลัวเฉย ๆ แต่ลูกมันวิ่งเข้าป่า ๆ ไปนี้ทุกเช้าเห็นอยู่งั้น อันนี้ก็เป็นไก่วัด เป็นแต่เพียงว่ามันอยู่นอกเขตกำแพง ใครเขาก็ไม่ทำลายมัน เขาก็รู้แล้วไม่ให้ทำลาย

วัดต่าง ๆ เขาก็ถือกันเป็นเรื่องใหญ่โต มีประชาชนไปแห่เทียนอะไร ๆ แต่สำหรับวัดป่าเราไม่ค่อยมีและไม่มี วัดป่าเป็นอย่างงั้นมาดั้งเดิม อย่างสมัยท่านอาจารย์มั่นไม่มี ที่มีก็อย่างว่านั่นละ นาน ๆ เวลาจำเป็นท่านก็พาทำเสียทีนึง หายเงียบเลย ปกติไม่เอาไม่ทำ แต่วันเช่นนั้นเป็นวันที่ทำความเพียรของพระ ส่วนมากท่านไม่นอนเงียบ เดินจงกรมนั่งสมาธิภาวนาตลอดรุ่ง ๆ

พอพูดถึงเรื่องวิสาขบูชานี้ก็ระลึกถึงท่านสิงห์ทองพระขี้ดื้อ วันนั้นพอดีพวกขายน้ำย้อมน้ำสีอะไร เขาก็มีลิงตัวหนึ่งขี่บนคอเขาไป มี ๓-๔ คนเขาไปขายพวกน้ำย้อมน้ำสีอะไร ๆ แล้วเขาก็ไปรับประทานข้าวที่ศาลาวัดอุดมสมพร ทีนี้ที่ศาลานั้นก็มีแมวใหญ่ตัวหนึ่ง แมวท่านอาจารย์ฝั้นท่านเลี้ยงไว้ ใหญ่นะ น่ารักด้วย ทีนี้พอดีไปนั้นแมวมันก็หมอบอยู่ที่หน้าศาลา ทีนี้พวกขายของเขาไปที่นั่น ลิงเขาก็มาด้วย เขาก็ปล่อยลิง พอปล่อยลิงแมวตัวนั้นมันก็อยู่ของมันนั้นแหละ เขาปล่อยลิงแล้วก็ขึ้นไปกินข้าวกินอะไรกัน ไอ้ลิงมันเห็นแมวตัวนั้น ก็นิสัยลิงอย่างว่า แอบไปทางนู้น แอบไปทางนี้ ดูลาดเลาลวดลายของแมวตัวนี้มันจะทำอะไร ๆ  คงเป็นอย่างงั้นแหละลิงตัวนั้นนะ มันก็เดินฉากทางโน้นแล้วเดินฉากทางนี้ ไอ้แมวตัวนี้ก็หมอบเฉยอยู่ ทางนั้นก็รอบมาทางนั้นรอบมาทางนี้ ใกล้เข้ามา ๆ เห็นทางนี้เขาหมอบเฉยอยู่เข้ามาใกล้ ๆ เขา แมวตัวนี้พอใกล้ ๆ เข้ามาเห็นว่าทางนี้ไม่ทำอะไรก็ใกล้เข้ามา ๆ จนจะมาถึงตัวเหมือนไอ้หมีกำลังจะถูกไม้เรียว พอดีมาใกล้ ๆ เขาก็เฉยนะแมวตัวนี้ เฉย ก็มาลูบนั้นลูบนี้ ลูบเบา ๆ เสียก่อนนะ มันทะลึ่งอย่างนั้นนะไอ้ลิงน่ะ

ท่านสิงห์ทองท่านดูอยู่ พอมาลูบนั้นลูบนี้ แมวตัวนี้มันก็ตบหน้าปั๊บเลย ทางนั้นฟังเสียงก้อก ๆ ไอ้นี้พอตบหน้าลิงแล้วก็วิ่งหนีเลย ไอ้ลิงตัวนั้นก็ผูกโกรธผูกแค้นวิ่งขึ้นไปต้นไม้เสียงก้อก ๆ แมวตบมันก็มีเล็บใช่ไหมล่ะ มันฟาดหน้าลิงล่ะซิ ทางนั้นก็ก้อก ๆ วิ่งขึ้นบนต้นไม้ พอวิ่งขึ้นบนต้นไม้คงผูกโกรธผูกแค้นท่า แมวตัวนี้ก็วิ่งหนีไปทางนู้นเสีย เขาคงจะติดตามดูอยู่ท่านะ พอได้โอกาสลิงตัวนั้นก็ลงมาอีก ค่อยด้อมไปที่ นั่นเห็นไหมเขาผูกโกรธผูกแค้นกันนะ พอลงมาคราวนี้ไม่มีลวดลายยังไงนะ แมวตัวนั้นก็หมอบเฉยอยู่ ไอ้ลิงตัวนี้ก็ด้อมไปข้างหลังไปจับหางกระตุก แมวก็แม้ว ลิงก็โดดขึ้นต้นไม้ฟังเสียงก้อก ๆ คือว่าสมใจกูแล้วคงว่างั้น

ท่านสิงห์ทองมาเล่าให้ฟัง เอ๊ ลิงก็แปลกนะ มันผูกอาฆาตเหมือนกันท่านว่างั้นนะ เวลาถูกตบหน้าขึ้นไปร้องก้อก ๆ  อยู่ข้างบนหาโอกาส พอทางนี้เผลอตามมาอีก ด้อมไปข้างหลังจับหางกระตุก แมวก็แม้วทีเดียว ทางนี้ก็เปิดทางนั้นก็เปิด ขบขันดีจบแล้ว ไป พากันกลับ ท่านสิงห์ทองท่านเป็นนิสัยชอบพูดเล่น ถ้าเป็นเรื่องพูดเล่น โอ๋ย จำได้แม่นยำนะ ถ้าอย่างอื่นไม่ทราบจำได้ไม่ได้นะ แต่นิสัยท่านก็จำดีอยู่ แต่พูดถึงเรื่องเล่นนี่จำได้หมดเลย ไม่มีอะไรตกฟากไปได้เลย จำได้หมดทีเดียวท่านสิงห์ทอง ความจำกับเรื่องเล่นนี่เก่งมาก ไปละที่นี่

 

เปิดดูข้อมูล วันต่อวัน ทันต่อเหตุการณ์ หลวงตาเทศน์ถึงเรื่องอะไร

www.luangta.com


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก