เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๖ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๙
ขึ้นชื่อว่าความชั่วแล้วเหมือนขับรถชนภูเขา
(กราบเรียนหลวงตา กระผมอยากจะทราบตอนที่หลวงปู่มั่นท่านเทศน์สอนชาวบ้าน หรือเทศน์สอนลูกศิษย์ที่เป็นพระ ที่มีทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน หลวงปู่มั่นท่านใช้ภาษาภาคกลางหรือภาษาอีสานในการเทศน์สอนพระ) คำตอบเราว่า แกเป็นบ้าหรือ ว่างั้นพอ คำตอบนี้เหมาะที่สุด แกเป็นบ้าหรือ อยู่กับโลกเขามานานยังไม่รู้เรื่อง ตอบแล้วนะนั่น แกเป็นบ้าหรือ ตั้งแต่ไอ้ปุ๊กกี้กับไอ้หยองเขาไม่เห็นจะไปเรียนภาษาที่ไหน เขาไล่ฟัดกันอยู่นี่ เรามันจะโง่ขนาดนั้นเชียวหรือ ที่เราพูดอยู่เดี๋ยวนี้เราก็พูดเป็นภาษากลางๆ ทั่วๆ ไป จะพลิกแพลงอะไร เช่น ลูกบักห่านี้ก็ยังได้ พลิกอะไรก็ได้ อย่างว่าให้พวกที่เขาทำอะไรเสียเรื่องชาติบ้านเมือง พูดพลิกไปพลิกมา พอเป็นกลอนตลกปั๊บก็ว่า ลูกบักห่า เข้าใจไหมล่ะ แน่ะ ยากอะไร
เราจะเอาน้ำตาลสิบกระสอบไป อันนี้ไม่เกี่ยวกับทางกฎหมายบ้านเมืองนะ น้ำตาลเราจะเอาไปทาน ติดรถไปธรรมดาๆ ไม่ขัดทางกฎหมายบ้านเมือง ทางธรรมก็ไม่ขัด เราจะเอาน้ำตาลสิบถุงติดรถไปเวียงจันทน์วันพรุ่งนี้ เป็นวัตถุทานธรรมดา ไม่ได้เกี่ยวกับกฎหมายบ้านเมือง อันนั้นหมายถึงว่าส่งออกๆ ส่งออกมันยกเป็นขบวนๆ เลย อันนี้เราไม่ เป็นธรรมดา จะเอาน้ำตาลติดไปด้วย ไปที่ไหนมาน้ำตาลต้องติดๆ ทุกโรงพยาบาลในภาคอีสาน ภาคกลางภาคไหนมา เรียกว่าทุกภาค น้ำตาลต้องติดรถไปทุกคันๆ เลย อย่างเราไปส่งก็มีน้ำตาลติดไปด้วย อันนี้จะไปเวียงจันทน์น้ำตาลควรจะติดไปสักกระสอบสองกระสอบ ไปทำทานโรงพยาบาล เรามาพิจารณากฎหมายบ้านเมืองเขาว่ายังไงๆ เราจะต้องเอาธรรมเราตรวจอีกทีหนึ่งนะ คือธรรมนี่ละเอียดกว่ากฎหมาย กฎหมายออกไปจากธรรม
อย่าไปหาเรียนภาษาอะไรๆ มากนักนะ ให้เรียนภาษาใจกับธรรมเข้ากัน ถ้าธรรมกับใจเข้ากันแล้วเท่านั้นเข้าได้หมด ใครจะเรียนกี่ภาษามาก็ตาม ถ้าธรรมกับใจไม่ได้เข้าสัมผัสกันไม่มีความหมายทั้งนั้นแหละ ใช้แต่แบบโลกๆ แบบฟืนแบบไฟแบบกิเลสตัณหา ถ้าธรรมเข้าสู่ใจปั๊บ สัมผัสกันปั๊บ โลกอันนี้อยู่ได้ทั่วไปหมด ตายใจกันได้เลย นั่นเห็นไหมล่ะ นี่ละธรรมเป็นยังไง ธรรมมีภาษาเดียว คือใจมีภาษาเดียวกับธรรม เข้ากันปั๊บประสานได้หมดเลย
เรื่องความจริงเป็นธรรมชาติที่เลิศเลอสุดยอดแล้ว เราจึงวิตกวิจารณ์ เมืองไทยเราเป็นเมืองพุทธแท้ๆ ทำไมผู้ปกครองเป็นผู้ใหญ่ผู้โตจึงกลายเป็นเปรตเป็นผีเป็นยักษ์เป็นมาร ไม่ฟังเสียงอรรถเสียงธรรม ไม่สมกับว่าเราเป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้า พุทธบริษัท เมืองทั้งหลายนี้ดูว่าเมืองไทยเป็นอันดับหนึ่ง เราอยากว่าอย่างนั้นนะ ที่ว่าเป็นเมืองพุทธ พุทธแท้ๆ พุทธอย่างออกหน้าออกตาเต็มบ้านเต็มเมือง เราคิดว่าไม่ต่ำกว่า ๘๐% เฉลี่ยทั้งหมดเมืองไทยเรา ผู้ที่นับถือพุทธศาสนานี่ถึง ๘๐% แต่เวลาการแสดงออกมีแต่เปรตแต่ผีแต่ยักษ์แต่มาร ไม่มีธรรมแสดงออกเลย ดูแล้วมันขวางตาขวางใจทุกอย่าง ขวางธรรมนั้นละคือภัย เป็นภัยแล้วนั่น ธรรมไม่เป็นภัยกับผู้ใด เข้าที่ไหนสนิทได้หมดเลย ธรรมเป็นอย่างนั้น
เราจึงอยากให้พี่น้องทั้งหลายสนใจในธรรมมากๆ ศาสดาองค์เอกกระเทือนโลกทั้งสาม เรากระเทือนอะไรที่ไหน ไม่เห็นมีใครดีวิเศษวิโสที่ไหนพอจะมาอวดดีอวดเบ่งเก่งยิ่งกว่าพระพุทธเจ้ามีอย่างเหรอ มันจะเลวลงทุกวันนะเมืองไทยเรา อย่าเอากิเลสมาอวดธรรม กิเลสคือกองมูตรกองคูถทั้งกอง อย่าไปอวดทองคำทั้งแท่งคือธรรมนั้นเลย อย่าเด็ดขาดทีเดียว ไม่มีอะไรเหนือกรรม กรรมคือธรรมอยู่ในนั้นครอบหมดแล้ว เราจึงได้บอกว่า อย่าขับรถชนภูเขา อย่าเอามีดไปฟันหิน นี่เป็นเรื่องสำคัญมาก
หินและภูเขานั้นคือธรรม หลักธรรมชาติไม่มีเอนมีเอียง สม่ำเสมอตลอดมา อะไรไปโดนปุ๊บนี้ เป็นทางไม่ดีก็ขาดสะบั้นไปเลย รถก็ชนเข้าไปซิ เอามาจากห้างไหนร้านไหนบริษัทไหนเอามา แล้วเข้าไปชนภูเขาดูซิมันจะได้ของดิบของดีออกมาไหม ว่าภูเขานี่แพ้ รถนี่ชนะ พังหมดเลย เป็นยังไง นี่ละเราอย่าอวดนะอวดธรรม เรานี่เท่ากับรถคันหนึ่งๆ อย่าเอาไปชนภูเขาคือธรรม อย่าฝืนธรรม อย่าเหยียบย่ำทำลายธรรม เท่ากับทำลายตนเอง อย่าขับรถชนภูเขา พังทั้งคนทั้งรถนั่นแหละไม่มีชิ้นดีเลย ขึ้นชื่อว่าความชั่วแล้วเหมือนขับรถชนภูเขานั่นแหละ
อย่าเลยอย่าฝืนพระพุทธเจ้านะ ไม่มีผู้ใดที่จะให้ความสงบร่มเย็นโดยถูกต้องแม่นยำยิ่งกว่าศาสดาองค์เอก สอนโลกไม่มีผิดเลย ที่มันค้นเต็มเหนี่ยวก็คือเข้าจิตตภาวนา บทเวลามันกว้านนี้มันกว้านออกหมดเลย กระจายทั่วกันไปหมดเลย เราจึงกราบพระพุทธเจ้าทุกพระองค์เลย เป็นอันเดียวกันไปหมด ถูกต้องไม่มีที่ต้องติตรงไหนเลย ธรรมเป็นอย่างนั้นนะ
ขอให้พี่น้องทั้งหลายบังคับจิตใจที่เป็นกิเลสตัวภัยนั้นเข้าสู่ธรรมๆ อย่าให้มันเหนือธรรมนะ ถ้าเหนือธรรมเราจะไม่ได้อยู่ผาสุกเย็นใจ ไม่มีสบายละ ไปนั่งนอนอยู่บนภูเขา บนกองเงินกองทองเท่าภูเขา ก็ไปเป็นฟืนเป็นไฟเผาอยู่นั้นแหละ ถ้ามีแต่กิเลสแล้วเป็นอย่างนั้น ถ้ามีธรรมอยู่ไหนสบาย อยู่ร่มไม้ชายคา อย่างพระพุทธเจ้าสอนพระ รุกฺขมูลเสนาสนํ พอบวชแล้วไล่เข้าในป่าในเขา ไปเที่ยวหาบำเพ็ญในสถานที่สะดวกสบายปราศจากสิ่งรบกวน จะได้ชำระสิ่งที่เป็นข้าศึกอยู่ภายในจิตใจคือฟืนคือไฟนี้ด้วยน้ำคือความพากเพียรโดยธรรม จะมีความสงบเย็นใจ
พอออกมาองค์นั้นสำเร็จพระโสดา องค์นี้สำเร็จสกิทา องค์นั้นสำเร็จพระอนาคา องค์นี้สำเร็จอรหันต์ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ ของพวกเราคือท่านเหล่านี้แหละ ท่านไม่เข้าไปจุ้นจ้านนะในสถานที่ไหนที่เป็นภัยต่อธรรม ที่จะทำลายความสงบร่มเย็นต่อโลกแล้วท่านหลีกๆ ท่านเว้น อันใดที่จะเป็นภัยต่อจิตใจท่านหลีกทันทีๆ เลย ท่านจึงได้รับอารักขาตลอดเวลา มีแต่ความสงบร่มเย็น
จิตตภาวนาของพุทธศาสนาเป็นธรรมชาติที่เลิศ ขอให้ท่านทั้งหลายดูหัวใจของท่านบ้างนะ คืนวันหนึ่งไม่ต้องเอามาก เราขอบิณฑบาตเพียงว่า คืนหนึ่งเวลาจะหลับจะนอนขอให้ได้ ๕ นาที ให้จ่อสติลงไปดูหัวใจ แล้วเอาคำบริกรรมจะเป็นคำใดก็ได้ พุทโธ ธัมโม หรือสังโฆ คำใดก็ตาม ให้จิตนี้เกาะกับอันนั้น สติจับกับนี้ ห้ามไม่ให้คิดอารมณ์ใดที่เป็นข้าศึก แล้วจิตนี้จะสั่งสมพลังแห่งความดีขึ้นมาๆ เป็นความสงบ สงบแล้วก็เย็นใจ สบายแล้วก็โล่งออกๆ กระจายออกเรื่อยๆ
นี่ละการดูจิตใจของตนเอง จะได้เห็นความผิดถูกชั่วดีทุกอย่างอยู่ในหัวใจ ใจนี้เป็นมหาเหตุ ดูให้ชัดเจน พอดูอันนี้แตกกระจายไปหมดแล้วโลกนี้ว่างหมดเลย ไม่มีอะไรข้อง มีแต่กิเลสเท่านั้นเข้ามาขัดข้องภายในจิตใจ พอกิเลสพังลงไปแล้วหมด ท่านจึงว่า สุญฺญโต โลกํ อเวกฺขสฺสุ โมฆราช สทา สโต ดูก่อน โมฆราช เธอจงเป็นผู้มีสติทุกเมื่อ ฟังซิสติทุกเมื่อ พิจารณาโลกนี้ให้เป็นของสูญเปล่าว่างเปล่า ถอนอัตตานุทิฏฐิที่เป็นก้างขวางคอนั้นออกเสีย นั้นเป็นเรานี้เป็นของเรา นี้เป็นก้างขวางคอ ออกเสีย จะข้ามพ้นพญามัจจุราชเสียได้ พญามัจจุราชจะมองไม่เห็นผู้พิจารณาโลกเป็นของสูญเปล่าอยู่อย่างนี้ นี่ท่านแสดงไว้ยกพระโมฆราชขึ้นเป็นเอกเทศเพียงองค์เดียว จิตใจขอให้ดำเนินเข้าไปนั้นจะเป็นโมฆราชทั่วโลกธาตุเลย ขอให้ปฏิบัติตามนี้ ท่านยกพระโมฆราช องค์เดียวเท่านั้น ธรรมดาท่านผู้สิ้นกิเลสแล้วว่างเหมือนกันหมดเลย เป็นโมฆราชด้วยกันหมด
สิ่งที่ดีที่งามที่ท่านสอนมันไม่ยอมเข้าไปนะ กิเลสจับไสออกนอกลู่นอกทางไปเลย ถ้าเป็นทางของกิเลสแล้วไสเข้าไปๆ คอขาดขาดไปจะไม่มีอะไรเหลือติดเนื้อติดตัว คนทั้งคนตั้งแต่เกิดมาจนกระทั่งวันตาย ไม่มีสารประโยชน์ภายในจิตใจเลย เกิดประโยชน์อะไร พิจารณาซิ อย่าเอาวัตถุสิ่งของเงินทองมาอวดกันนะ ให้เอาธรรมภายในใจอวด อันนี้เลิศเลอ ถ้าลงมีธรรมในใจแล้วอะไรไม่มีความหมายทั้งนั้นในโลกอันนี้ เราจึงได้พูดยันๆ ยันกันอยู่นี้ หน้าวัดป่าบ้านตาดยังติดไว้เห็นไหมนั่น นั่นละธรรม
สถานที่นี่เป็นวัด เป็นสถานที่ภาวนาเพื่อความสงบใจ ไม่มีกิจธุระจำเป็นไม่ควรมาเที่ยวเพ่นพ่าน เราสั่งให้เขียนเองนะนั่น นั่นละธรรมอยู่ตรงนั้น ไม่มีอะไรเลิศกว่าธรรม อย่าเอาเข้ามาเพ่นพ่านๆ สิ่งของเหล่านี้ที่ได้มาเพื่อบูชาธรรม ไม่ใช่ได้มาเพื่อทำลายธรรม ถ้าใครเห็นวัตถุสิ่งของเหล่านั้นดีกว่าธรรมแล้วจม ถ้าธรรมยกให้เลิศตามศาสดาองค์เอกทุกพระองค์ที่ท่านครองไว้แล้วนั้นเจริญทุกคน ต้องยกธรรมขึ้นไปเสมอ เมื่อวานนี้ก็ดุคน ถ้าเราออกมาส่วนมากเราจะออกมาตอนเย็นๆ เวลาคนเลิกไปหมดแล้ว เพราะเป็นเวลาที่เราสั่งแล้ว
แต่ก่อนปล่อย ไม่ว่ากลางค่ำกลางคืนเวลาไหนจุ้นจ้านๆ ดูไม่ได้นะ เพราะไม่เคยปฏิบัติมาอย่างนั้น เข้มงวดกวดขันในข้อวัตรปฏิบัติในพระในเณร มีขอบมีเขตมีเหตุมีผลมีหลักมีเกณฑ์ตลอด การปฏิบัติธรรมท่านมีหลักมีเกณฑ์ของท่าน ทีนี้มานี้จุ้นจ้านๆ ในครัวกับนอกครัวนี้ไหลเข้าไหลออก ส่วนมากมันเข้าไปในครัวออกนอกครัว แล้วนอกจากนั้นก็จุ้นจ้านๆ ตามนี้ หมดเวล่ำเวลาแล้วมันก็มาอยู่อย่างนั้น จึงได้เขียนติดประกาศ ติดประกาศยังไม่พอ ถึงเวลาเย็นๆ พอหมดแขกหมดคน เป็นเวลาที่สงัดแล้วเราออกมาดู ออกมาดูมาเห็นจุ้นจ้านๆ นี้ไม่มีชาติชั้นวรรณะละเรา ฟาดเปรี้ยงเลย
ไม่มีอะไรเหนือธรรม เราเทิดทูนบนหัวใจตลอดเวลา ในโลกอันนี้ไม่มีอะไรเหนือธรรม สง่าจ้าครอบโลกธาตุ อย่าเอามาอวดธรรมนะ เก้งๆ ก้างๆ เหล่านี้น่ะ ไล่หนีเลยทันที เมื่อวานนี้ก็ไล่พวกหนึ่ง ไม่มีละชาติชั้นวรรณะถ้าเข้ามานี้ ผิดแล้วเอาทันทีเลย มันดูไม่ได้นี่นะ ผู้รักษารักษาอยู่แทบเป็นแทบตาย แล้วมาทำลายกันหาประโยชน์อะไร ไอ้จุ้นจ้านๆ นี้มันมีเต็มโลกเต็มสงสาร มันเอาความวิเศษวิโสเลิศเลอที่ไหนมาให้กันครอง พอที่จะมาโอ่อ่าฟู่ฟ่าอวดธรรมวะ นี่ละมันดูไม่ตรงนี้ เอาจริงเราไม่ได้เหมือนใคร
อย่าเอาวัตถุเงินทองข้าวของมาอวดธรรม ไล่ทันทีเลย เราไม่ได้บวชมาเพื่อสมบัติเงินทองข้าวของ บวชมาเพื่อธรรม เราบูชาธรรมสิ่งเหล่านั้นเราไม่บูชา เป็นเครื่องส่งเสริมธรรมไปเท่านั้น ถ้ามาไม่ดีปัดออกทันทีๆ เลย จะเป็นอันตรายต่อธรรม ปฏิบัติอย่างนี้ทุกวันนี้ เวลานี้ค่อยเข้มงวดกวดขันเข้ามา เพียงบ้างเท่านั้นนะไม่ได้มาก แต่ก่อนปล่อย เราก็หูหนวกตาบอด ยิ่งเลอะเทอะเข้าไปทุกวันๆ มามากมาน้อยเลอะเทอะๆ เข้าไป จึงได้ไล่เข้าไปนั่นซิ ไล่เข้าไปถึงเก้าอี้เก้าแอ้อยู่ในนู่น มันเอามาหลบมาซ่อนไว้นั้น เก้าอี้เก้าแอ้เอามาจากไหน เอามาครอบหัวมันไว้ซิ มันวิเศษวิโสอะไรเก้าอี้ หือ อยากถามว่างั้นนะ
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ด้วยเก้าอี้เหรอ ตรัสรู้ด้วยเตียงนอนหรูหราฟู่ฟ่าด้วยวัตถุสิ่งของเงินทองข้าวของฟู่ฟ่าๆ นี้เหรอพระพุทธเจ้าตรัสรู้น่ะ สิ่งเหล่านี้มันเป็นสิ่งพอกพูนหัวใจคนให้เป็นฟืนเป็นไฟเผาไหม้ กินไม่พอใช้ไม่พออยู่ไม่พออะไรไม่พอ พอกพูนร่างกายเหลือประมาณนะเวลานี้ มันไม่ได้มาพอกพูนจิตใจให้มีความสงบเย็นใจ ไปที่ไหนเอาเรื่องร่างกายเข้ามาเป็นเจ้าหน้าเจ้าตาละ จะให้ทางร่างกายมีความผาสุกเย็นใจนั่นละ อันนี้ออกหน้าเลย ดูแล้วมันขวาง ขวางจริงๆ แต่เฉย ถึงวาระที่จะพูดจึงพูดออกมานี้ให้ฟังเอา ท่านผู้ครองธรรมท่านไม่มาหรูหราฟู่ฟ่ากับสิ่งเหล่านี้ สิ่งเหล่านี้มันเหมือนมูตรเหมือนคูถ พากันเข้าใจหรือยัง ธรรมนี้จ้าอยู่ตลอดเวลาในหัวใจท่านผู้ครองธรรมยิ่งชัดเจนมาก กับดูสิ่งมูตรๆ คูถๆ ที่จุ้นจ้านๆ นี้มันดูกันได้เมื่อไร ให้พิจารณานะ มันเลวขนาดไหน กิเลสกับธรรมต่างกันขนาดไหนพิจารณาซิ
เรานี้พยายามที่สุด ท่านผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบท่านก็ไม่สะดวกสบาย หาภาวนาที่ไหนก็มีแต่มูตรแต่คูถจุ้นจ้านๆ เลอะๆ เทอะๆ ไปหมดมันดูไม่ได้ ทีนี้เราในฐานะเป็นหัวหน้าก็ช่วยแบ่งเบาบ้าง ดุด่าว่ากล่าวสั่งสอนให้อยู่ในความพอเหมาะพอดีบ้างพอประมาณ เมื่อวานนี้ก็ขนาบไล่ จุ้นจ้านๆ มานี้ ห้าโมงกว่าแล้ว ห้าโมงครึ่งเราออกมาเมื่อวาน ออกมามักจะเจอเสมอ ประตูวัดทาง ตชด.เขาก็เกรงใจจะว่าไง ไปก็ต้องหาเรื่องแก้ตัวมาละ นี่จะไปไหนๆ เขาจะต้องถาม ก็ต้องแก้ตัวอย่างนั้นอย่างนี้ก็เข้ามาเพ่นพ่าน พอเข้ามาข้างในนี้ ข้างในนี้ไม่ได้มีอะไรจะมาแก้ตัว ไล่ทันทีเลยไม่ให้มาแก้ตัว
มันเลอะเทอะขนาดนี้เวลานี้ ศาสนาจะไม่มีเหลือให้โลกครองเป็นความสวยงามสงบร่มเย็นบ้างเลยนะ มันเลอะเทอะขนาดนั้นนะ มันเหมือนกันหมด จะมาตำหนิใครก็ความสกปรกมันเต็มตัว เต็มกิริยาอาการเต็มการแสดงออกทุกอย่าง มีแต่ความสกปรกหมด ธรรมภายในใจความสะอาดไม่มี มันก็แสดงความเรียบร้อยสวยงามไม่ได้ซิ มันไม่มีจะมาแสดง ให้พากันพิจารณาบ้างนะ พุทธศาสนามันไม่มีเกาะใดดอนใดที่จะพอได้พูดว่านี้ศาสนา ถ้ามองเข้าไปในวัดมันก็เป็นส้วมเป็นถานเสีย ส้วมถานคืออะไร อะไรบรรจุในส้วมในถาน
พระเณรที่ปฏิบัติตัวเลอะๆ เทอะๆ เป็นมูตรเป็นคูถเต็มอยู่ในวัดนั้นน่ะ ในวัดนั้นเลยกลายเป็นส้วมเป็นถานไปเสีย วัดอยู่ที่ไหนล่ะ เกาะดอนของศาสนาอยู่ที่ไหน ดูพระดูเณรก็เป็นมูตรเป็นคูถด้วยความเลอะเทอะแห่งการปฏิบัติไปเสีย ในวัดในวาก็มีแต่สิ่งที่หรูหราฟู่ฟ่า แต่งอย่างสดสวยงดงามตั้งแต่ภายนอก หัวใจเป็นฟืนเป็นไฟมันไม่ดู มันแต่งตั้งแต่ภายนอกดูตั้งแต่ภายนอก มันไม่ดูภายในหัวใจตัวเป็นไฟนี้นะ โลกมันถึงได้ร้อน มันไม่ระงับดับลงที่ไฟเกิด ไฟเกิดเกิดที่หัวใจ น้ำฟาดลงที่หัวใจนั้นแล้วไฟเหล่านี้จะสงบลงใจจะเย็นสะดวกสบาย มันไม่ทำนะเดี๋ยวนี้น่ะ มันน่าทุเรศจริงๆ นี่นะ มองไปไหนจนจะดูไม่ได้จะให้ว่าไง มันเลอะเทอะขนาดนั้นนะ
พากันพิจารณาเอานะพวกที่มาอยู่ในวัดนี่ มาเก้งก้างๆ หมดเวล่ำเวลายังเข้ามาเพ่นพ่านๆ ถ้าได้ออกมาวันไหนแทบจะทุกวันนั่นละ ได้ไล่ละ ถ้าเราออกมาไม่มีละไอ้สูงต่ำดำขาวภูเขาทั้งลูกพังเลยเทียว ระเบิดนิวเคลียร์นิวตรอนคือธรรมนี้ฟาดขาดสะบั้นไปเลย อย่าเอามาอวดเท่านั้นพอ เรื่องเหล่านี้อย่าเอามาอวดว่างั้นเลย มันเกลื่อนในโลกหาค่าหาราคาไม่ได้แล้ว มีธรรมเท่านั้นเป็นสิ่งที่มีคุณค่าสูงส่งซึ่งควรจะเทิดทูน เราจึงเทิดทูนเราจึงรักษา ใครมายุ่งไม่ได้ไล่ขนาบเลย พากันจำเอานะ เอาละพอ
(ถวายสบู่ ยาสีฟันครับ) เออ เอามาเถอะ เราฟันมันไม่มีแล้วสักซี่ ไม่ทราบจะเอาอะไรมาถูฟันถูแฟ็น บวชมาไม่เคยสนใจกับยาสีฟัน เอาหลักธรรมชาติใช้เลยๆ ไม่เคยยุ่ง ของพอดิบพอดีมีอยู่ ของเหลือเฟือฟุ่มเฟือยหามายุ่งทำไม นั่น หลักธรรมเป็นหลักธรรมชาติ อยู่ด้วยธรรมชาติ ไม่ดีดไม่ดิ้นไม่เป็นทุกข์เดือดร้อน
เมื่อวานนี้ประคบยาซ้ำ ประคบยาดูมันสี่หนแล้วมัง ร่างกายตั้งแต่วันเหมือนถูกทุบถูกตีมานั้นน่ะ เลยต้องประคบกันใหญ่โต ประคบถึงสี่หน เมื่อวานนี้ซ้ำอีก เห็นว่าได้ผลดีเบาลงๆ คือมันเหมือนหอกเหมือนหลาวอยู่ในร่างกาย กระดูกกระเดี้ยวเหมือนถูกทุบถูกตีไปหมดเลย ตลอดกระดูกคอเป็นหมดเลย เราก็ไม่เคยเป็นมันเป็นอะไร ก็เลยมาประคบได้สี่วันมานี้ เมื่อวานนี้ประคบครั้งสุดท้าย เอาหนัก ร้อนก็ทนเอา แล้วค่อยเบาลงๆ ให้พร
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร
FM 103.25 MHz